ไฟน์ไลน์

ไฟน์ไลน์ ตอกย้ำความสำเร็จผู้นำตลาดรีดผ้าเรียบ 12 ปีซ้อน Perfume Collection

Alternative Textaccount_circle
event
ไฟน์ไลน์
ไฟน์ไลน์

ไฟน์ไลน์ ตอกย้ำความสำเร็จผู้นำตลาดรีดผ้าเรียบ 12 ปีซ้อน ชวนพิสูจน์ความไว้วางใจระดับตำนาน ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค ส่ง 3 ผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบ Perfume Collection กลิ่น Sensy Purple, Organic Collection และ Happiness Collection Limited ปลุกกระแสคนรุ่นใหม่ให้สนุกกับการรีดผ้า พร้อมมอบลุคสุดเนี้ยบให้ชุดโปรด รีดลื่น เรียบเร็ว หอมนานด้วยกลิ่นน้ำหอมจากยุโรป

ร่วมฉลองความสำเร็จของกลุ่มผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ ที่ครองอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคชาวไทยต่อเนื่องยาวนาน 12 ปี ไฟน์ไลน์ (Fineline) ผู้นำผลิตภัณฑ์ดูแลผ้าครบทุกขั้นตอน หนึ่งในแบรนด์สินค้าคุณภาพในเครือนีโอ คอร์ปอเรท บริษัทสินค้าอุปโภคสัญชาติไทย ส่ง 3 ผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบสูตรใหม่ ที่ช่วยให้การรีดผ้าง่ายดายมากยิ่งขึ้น ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง ด้วย ผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ คอลเลคชั่นน้ำหอม กลิ่น Sensy Purple, ผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ คอลเลคชั่น ออร์แกนิค และผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ คอลเลคชั่น แฮปปี้เนส รุ่นลิมิเต็ด รองรับตลาดรีดผ้ากลับมาคึกคัก หลังผู้คนออกมาใช้ชีวิตกันมากขึ้น พร้อมการันตีการเป็นผู้นำตลาดรีดผ้าเรียบด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 60%

ตลอดระยะเวลากว่า 1 ทศวรรษ นอกจากผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ จะยืนหนึ่งเรื่องความเรียบ อยู่ทรง พร้อมความหอมที่คัดสรรเป็นพิเศษจากบริษัทน้ำหอมระดับโลก ที่ผ่านมายังมีการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เช่น กลุ่มรีดผ้าเรียบ Perfume Collection ที่คัดสรรแนวกลิ่นมาจากน้ำหอม ทั้งยังมีนวัตกรรมใหม่สำหรับเตารีดไอน้ำโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกของผู้บริโภค พร้อมผสานเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี Fx-Tech ลิขสิทธิ์เฉพาะของไฟน์ไลน์ ที่ช่วยขจัดกลิ่นอับชื้นบนผ้า เพิ่มความมั่นใจในการสวมใส่ตลอดวัน และเทคโนโลยีเฟบริค สมาร์ท สะกดชุดสวยให้เรียบนาน ตลอดการสวมใส่ เหมาะสำหรับผ้าทุกประเภทที่รีดยาก ทั้งเสื้อ กางเกง กระโปรง ผ้าลินิน ผ้ายืดสแปนเดกซ์ ผ้าคอตตอน หรือผ้าที่ต้องการถนอมเป็นพิเศษ เช่น ผ้าไหม ผ้าชีฟอง ผ้าฝ้าย และผ้าจากเส้นใยธรรมชาติ รวมทั้งปกป้องผ้าจากความร้อนของเตารีดผ้า ช่วยคงสีสันสดใสดังเดิมด้วยเฟบริค โพรเทคชั่น และเฟรนด์ลี่ เฟบริค ซอฟท์ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของน้ำยาปรับผ้านุ่ม รีดเรียบเร็วขึ้น ช่วยถนอมผ้าอย่างนุ่มนวล รวมทั้งไม่ทำให้เกิดรอยด่างบนเนื้อผ้า พร้อมความหอมยาวนานด้วยแนวกลิ่นน้ำหอมจากยุโรป

ในปี 2023 ได้ตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 ด้วย 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่

พร้อมเอาใจสาว ๆ สุดเนี้ยบที่ให้ความสำคัญกับกลิ่นหอม และมีรสนิยมในการแต่งตัว ด้วย ใหม่ ! ผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ คอลเลคชั่นน้ำหอม กลิ่น Sensy Purple ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกลิ่นน้ำหอมแบรนด์ดังจากประเทศฝรั่งเศส หอมหวานเย้ายวน ชวนหลงใหล แฝงความสดใสด้วยกลิ่นฟรุตตี้ ขนาดชนิดเติม 2 ขนาด แบบถุง 450 มล. ราคา 20 บาท, 700 มล. ราคา

ไฟน์ไลน์

ส่วนสายออร์แกนิคที่ชื่นชอบความอ่อนโยน พร้อมกลิ่นหอมละมุน แนะนำ ใหม่! ผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ ออร์แกนิค ไวท์ ที คอลเลคชั่น สัมผัสความหอมอ่อนโยนผสานกับกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของดอกแมคโนเลียที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เสมือนเดินอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ในกรุงปารีส เหมาะสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ที่ชื่นชอบกลิ่นหอมทันสมัย ขนาดชนิดเติม แบบถุง 500 มล. ราคา 20 บาท

ไฟน์ไลน์

เติมเต็มความสดใสให้เหล่าวัยทีนที่รักการแต่งตัวแบบสบาย ๆ และชื่นชอบการดูแลเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ต้องลอง ใหม่ ! ผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ คอลเลคชั่น แฮปปี้เนส รุ่นลิมิเต็ด คอลเลคชั่นสุดพิเศษ ที่มาพร้อมกลิ่นหอมสดชื่น เสริมความมั่นใจ กระปรี้กระเปร่า สดใสร่าเริง ตลอดวัน และช่วยบูสให้อารมณ์ดี ผ่านกลิ่นหอมสดชื่น ที่ช่วยสร้างความสุขระหว่างการรีดผ้า และระหว่างการสวมใส่เสื้อผ้าได้ตลอดวัน ขนาดชนิดเติม แบบถุง 450 มล. ราคา 20 บาท

ไฟน์ไลน์

มอบลุคสุดเนี้ยบให้ชุดโปรด เติมความหอมสดชื่น ด้วยผลิตภัณฑ์รีดผ้าเรียบไฟน์ไลน์ วางจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ และ ร้านค้าออนไลน์ ( Lazada : NeoDealDD , Shopee : Fineline Official) สามารถ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง FB :  FinelineThailand IG : @finelinethailand TikTok: @finelinethailand

โรงแรมคอนราด

ดิโพลแมท บาร์ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ เปิดตัวเซ็ตน้ำชายามบ่าย

Alternative Textaccount_circle
event
โรงแรมคอนราด
โรงแรมคอนราด

ดิโพลแมท บาร์ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ เปิดตัวเซ็ตน้ำชายามบ่ายแบบใหม่ ที่จะพาคุณท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมโลก คิดค้นโดยเชฟใหญ่ เชฟไรอัน ดาดูฟาลซ่า

ดิโพลแมท บาร์ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ เปิดตัวเซ็ตน้ำชายามบ่ายแบบใหม่ที่จะพาคุณท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมโลก ที่คิดค้นออกแบบขึ้นโดยหัวหน้าครัวเชฟใหญ่เชฟไรอัน ดาดูฟาลซ่า โดยชุดน้ำชาเซ็ตนี้ประกอบไปด้วยอาหารคาวและหวานมากมายหลายชนิด ที่ตอบโจทย์ความต้องการการออกเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกผ่านรสชาติอาหารที่เสิร์ฟมาในรูปทรงบอลลูนทูโทนสีขาวและน้ำตาล ซึ่งสะท้อนถึงการเดินทางท่องเที่ยวในสไตล์คลาสสิก ที่จะพาออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในฝัน

โรงแรมคอนราด

สำหรับเซ็ตน้ำชายามบ่ายนี้ จะเป็นเซ็ตสำหรับ 2 ท่านในราคา 1,400++ บาท รวมเครื่องดื่มชาให้เลือกพร้อมเสิร์ฟให้บริการทุกวัน ที่ดิโพลแมท บาร์ ชั้นล๊อบบี้ ตั้งแต่เวลา 12:00 น. – 17:30 น. นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่มม็อกเทลและค็อกเทลสูตรเฉพาะให้เลือกดื่มเพื่อเพิ่มความเพลิดเพลินโดยมีค่าบริการเพิ่มเติมอีกด้วย

พิเศษสำหรับท่านที่มารับประทานเซ็ตน้ำชาชุดนี้ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 จะได้รับส่วนลด 20% โดยสามารถสั่งซื้อบัตรกำนัลได้ผ่านทางลิ้งค์นี้ http://bitly.ws/RCdw

เซ็ตน้ำชาชุดนี้มาพร้อมกับอาหารคาวน่าทานมากมาย ประกอบด้วย ปลาแซลมอนและคาเวียร์ จากประเทศรัสเซีย เนื้อวากิวนิกิริกับหอยเม่น จากประเทศญี่ปุ่น แซนวิชแตงกวา จากประเทศอังกฤษ ดาฮี ปูรี จากประเทศอินเดีย ล็อบสเตอร์โรล จากสหรัฐอเมริกา และอาหารคาว จากประเทศสเปน

โรงแรมคอนราด

สำหรับพวกของหวาน มีทั้ง เค้กเสาวรสลามิงตัน จากประเทศออสเตรเลีย คุ๊กกี้ชูครีม จากประเทศฝรั่งเศส พัฟโลวามังคุด จากประเทศนิวซีแลนด์ ทีรามิสุ จากประเทศอิตาลี วาราบิโมจิสับปะรด จากประเทศญี่ปุ่น ของหวานนานาชนิด จากประเทศไทย และสโคนเสิรฟพร้อมแยมและครีม จากประเทศอังกฤษ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองโต๊ะ โทร. 02 690 9999 อีเมล [email protected]

Hinoya Curry

Hinoya Curry ข้าวแกงกะหรี่ดีกรีแชมป์ เปิดสาขาใหม่ บรรทัดทอง

Alternative Textaccount_circle
event
Hinoya Curry
Hinoya Curry

ปักหมุดความอร่อย “Hinoya Curry” ข้าวแกงกะหรี่ดีกรีแชมป์ เปิดสาขาใหม่ที่ “บรรทัดทอง” สัมผัสรสแบบญี่ปุ่นขนานแท้ เอาใจคนรักแกงกะหรี่

สาวกอาหารญี่ปุ่นปักหมุดไปฟิน! เมื่อ “Hinoya Curry” (ฮิโนยะ เคอรี) ร้านข้าวแกงกะหรี่ดีกรีแชมป์ การันตีความอร่อยด้วยรางวัลชนะเลิศ การแข่งขัน Kanda Curry Grand Prix 2013 สูตรต้นตำรับระดับพรีเมี่ยม จากประเทศญี่ปุ่น ได้มาเปิดสาขาใหม่ที่ “บรรทัดทอง” แล้ว! โดย บริษัท เถ้าแก่น้อย เรสเตอรองท์ แอนด์ แฟรนไชส์ จำกัด ได้ยกเอาความอร่อยตามแบบฉบับชาวอาทิตย์อุทัยขนานแท้ มาเสิร์ฟให้คนไทยได้ลิ้มลองรสชาติแบบจัดเต็ม รับประกันอร่อยเด็ดทุกจาน ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ และส่วนผสมกว่า 90 ชนิด มาพร้อมการปรุงอย่างพิถีพิถัน เพื่อคงเสน่ห์และรสชาติข้าวแกงกะหรี่ตามต้นตำรับญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไม่มีเปลี่ยน โดย ฮิอูระ มาซารุ เจ้าของร้านและเชฟชื่อดัง ที่สืบทอดสูตรข้าวแกงกะหรี่ต้นตำรับตั้งแต่สมัยโชวะ ที่ริเริ่มโดยคุณย่า ปรุงโดยคุณพ่อ และผ่านการทดลอง คิดค้นความอร่อยเป็นแรมปีในรุ่นลูก เพื่อสร้างสรรค์ทุกเมนูให้มีมิติ ถูกปากคนทุกชาติและทุกวัยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์รสชาติ 3 มิติ อย่างมีเอกลักษณ์ ตรงตามสโลแกน “คำแรกหวาน คำที่สองเผ็ดร้อน คำสุดท้ายหอมกรุ่นอยู่ในปาก” พร้อมเสิร์ฟท่ามกลางบรรยากาศที่เสมือนได้นั่งทานที่ประเทศญี่ปุ่นเป๊ะ! โดยเฉพาะการเสิร์ฟแบบสุดคุ้มที่เหล่าแกงกระหรี่เลิฟเวอร์โปรดปราน กับน้ำแกงเข้มข้นที่ใส่ให้แบบจุก ๆ ไม่มีหวงจนมิดข้าว เรียกว่าหากนึกถึงแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่อร่อยแบบสุดคุ้ม ต้องนึกถึง “Hinoya Curry” เท่านั้น

Hinoya Curry

สำหรับ 8 เมนูไฮไลท์จานเด็ดของ “Hinoya Curry” ที่เหล่านักชิมต้องไม่พลาด ได้แก่ “ข้าวแกงกะหรี่ไข่ดิบ” หนึ่งในสามเมนูยอดฮิตของ “Hinoya Curry” มาพร้อมรสชาติไข่สด คุณภาพดี ราดบนแกงกะหรี่เข้มข้นร้อน ๆ หอม ๆ เสิร์ฟให้ลองลิ้มชิมรสชาติ ที่อร่อยกลมกล่อม ถูกปากคนไทยสุด ๆ ต่อกันที่ “ข้าวแกงกะหรี่หมูทอดทงคัตสึ” อีกเมนูยอดนิยมอันดับหนึ่ง ที่ใครมาก็ต้องสั่งทาน เสิร์ฟพร้อมหมูสันนอกเนื้อนุ่ม คลุกเคล้าเกล็ดขนมปังทอดกรุบกรอบ อร่อยเกินบรรยาย ส่วนใครที่ชื่นชอบไก่ทอดคลุกเคล้าแกงกระหรี่ ต้องไม่พลาด “ข้าวแกงกะหรี่ ไก่ทอดซอสนัมบัง” อีกหนึ่งเมนูตัวท็อปของ “Hinoya Curry” ทุกสาขาในญี่ปุ่น ที่ได้ส่งตรงความอร่อยตามต้นฉบับมาให้คนไทยได้สัมผัสไก่ทอดกรอบนอกนุ่มใน ราดซอสนัมบังสูตรพิเศษ เสิร์ฟคู่กับซอสทาร์ทาร์ บอกเลยว่าต้องสั่ง! ต่อกันที่ “ข้าวแกงกะหรี่ สเปเชียล” เมนูเด็ดสำหรับคนรักพี่เสียดายน้อง ซึ่งจานนี้ได้รวมท็อปปิ้งยอดนิยมมาให้ถึง 3 อย่างแบบจุก ๆ ทั้ง หมูทอดทงคัตสึ ที่คัดเนื้อเน้น ๆ กุ้งตัวโตเต็มคำ และไส้กรอกหมูสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ สั่งจานเดียว อร่อยคุ้มค่าเกินราคา

Hinoya Curry

จากนั้นมาเอาใจนักชิมสายเส้นกันบ้าง กับเมนู “สปาเกตตี้นาโปลิตัน” มาสัมผัสนโปลิตันพาสต้า สัญชาติญี่ปุ่นขนานแท้ เมนูเลื่องชื่อของเมืองโยโกฮามะ โดดเด่นด้วยรสชาติของซอสมะเขือเทศสูตรพิเศษ คละเคล้ากลิ่นหอมของกระเทียม ก่อนโรยหน้าด้วยชีสย่าง เรียกว่ายกเอาความอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ มาเสิร์ฟเลยทีเดียว ต่อกันที่เมนู “ยากิอุด้ง (ฮิโรชิม่า อุด้ง)” ฟินไปกับเส้นอุด้งเหนียวนุ่มที่นำมาผัดกับซอสสูตรพิเศษของ ฮิโนยะ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่กับรสชาติยากิอุด้งสไตล์เมืองฮิโรชิม่า ที่เหล่าคนรักเส้นต้องไม่พลาด! นอกจากนี้ยังมีเมนู “ข้าวหน้าไก่เทอริยากิไข่ออนเซน” ถือเป็นอีกจานเด็ดที่อยากให้ชิม ทุกคนจะได้ลิ้มรสซอส เทอริยากิเข้มข้นสไตล์ญี่ปุ่น ที่ไม่เหมือนใคร ปิดท้ายที่ “ข้าวหน้าหมูผัดซอส ไข่ออนเซน” อีกหนึ่งเมนูอร่อยเด็ด ที่มาพร้อมหมูสไลด์นุ่ม ๆ ผัดเข้ากันกับซอสสูตรเฉพาะ ส่งกลิ่นหอมยั่วๆ ตั้งแต่ยกออกจากเตา พร้อมด้วยซอสฉ่ำ ๆ ลงตัวกับไข่ออนเซน เป็นอีกจานที่ต้องลอง

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เสิร์ฟเฉพาะที่ สาขาบรรทัดทอง สาขาน้องใหม่ล่าสุดเท่านั้น! กับ “KANDA SET” (คันดะ เซต) เซตอิ่มคุ้ม อร่อยโดนใจ ในราคาเพียง 99 บาท ที่จะพาเหล่านักชิมเดินทางย้อนเวลา ไปสัมผัสต้นกำเนิดความอร่อยในตำนานของน้ำแกงกะหรี่ดีกรีแชมป์ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หอมเครื่องเทศและอบอวนไปด้วยรสชาติของปลาคัตสึโอะ ซึ่งเป็นน้ำแกงกะหรี่ที่ได้รับไอเดียมาจากฝีมือปรุงรสน้ำแกงของคุณย่า จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่อยากจะถ่ายทอดความอร่อยและเรื่องราวสุดประทับใจนี้ผ่านข้าวแกงกะหรี่ กลายเป็นที่มาทำให้เกิดร้าน “Hinoya Curry” สาขาแรกใน ย่าน KANDA กรุงโตเกียว รวมถึงยังมี “Hinoya Curry Set” เซตพิเศษเอาใจคนรักแกงกะหรี่ และ “DONBURI SET” เซตสุดคุ้มเอาใจคนรักข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งนอกจาก สาขาบรรทัดทอง แล้ว “Hinoya Curry” ยังเสิร์ฟความอร่อยอีก 3 สาขา ได้แก่ สาขา เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 โซน B, สาขา เดอะพรอมานาด รามอินทรา ชั้น 2 โซน B และ Hinoya Curry Express สาขา The Mall Ngamwongwan ชั้น G โซน Gourmet Eat

Hinoya Curry

มาสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยกับรสชาติแกงกะหรี่ต้นตำหรับขนานแท้ ดีกรีแชมป์จากญี่ปุ่น! ที่จะทำ ให้ทุกคนรู้สึกเหมือนได้ไปทานที่ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ ที่ “Hinoya Curry” ทุกสาขา ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟสบุ๊ค Hinoya Curry Thai หรือ www.hinoyacurrythai.com

UNIQLO

UNIQLO ร่วมกับ Clare Waight Keller เปิดตัว UNIQLO : C

Alternative Textaccount_circle
event
UNIQLO
UNIQLO

UNIQLO ร่วมกับ Clare Waight Keller เปิดตัว UNIQLO : C คอลเลคชันแรก ประจำฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2023 กับไลฟ์แวร์ที่เปี่ยมด้วยความประณีตอย่างมีชั้นเชิง พร้อมวางจำหน่ายวันที่ 15 กันยายนนี้

ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก ประกาศการเริ่มต้นยุคใหม่ของไลน์เครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิง ด้วยการเปิดตัวคอลเลคชัน UNIQLO : C คอลเลคชันเสื้อผ้าผู้หญิงจาก Clare Waight Keller (แคลร์ เวท เคลเลอร์) แฟชั่นดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ ด้วยการออกแบบอันลื่นไหลของเธอ การเลือกใช้โทนสีที่ลงตัว และรูปทรงต่างๆ ที่ทันสมัย พร้อมนำเสนอมุมมองใหม่ๆ สู่ชีวิตของทุกคนผ่านยูนิโคล่ ไลฟ์แวร์ (LifeWear)

UNIQLO

ชื่อคอลเลคชัน “UNIQLO : C” สะท้อนถึงองค์ประกอบอันหลากหลายซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของคอลเลคชันนี้ ถูกแทนที่ด้วยอักษร “C” ซึ่งมาจาก ความอยากรู้ (Curiosity) บทสนทนา (Conversation) เมือง (City) ความชัดเจน (Clarity) ความเชื่อมโยง (Connection) และความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) รวมถึงชื่อของดีไซเนอร์ Clare คอลเลคชันนี้ได้ผสมผสานเทคนิคชั้นสูงและการออกแบบที่ประณีตซึ่งถูกรังสรรค์ผ่านประสบการณ์อันยาวนานของ Clare Waight Keller และยังคงไว้ทั้งความสบายและฟังก์ชันที่เหมาะกับชีวิตประจำวันของทุกคน เสื้อผ้าแต่ละชิ้นจากคอลเลคชันนี้มอบความรู้สึกพิเศษของการตัดเย็บเฉพาะบุคคล (Tailor made) และความสนุกของการแต่งตัวในแบบเรดี้ทูแวร์ (ready to wear) อันประณีต ผสมผสานกับความเรียบง่ายและความสบายได้อย่างไร้ที่ติ

UNIQLO

ยูกิฮิโระ คาซึตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด และหัวหน้าฝ่าย R&D ของยูนิโคล่ กล่าวว่า “UNIQLO : C เป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับไลน์เสื้อผ้าผู้หญิงของยูนิโคล่ ผมเชื่อว่าด้วยประสบการณ์อันล้ำค่าและการออกแบบของแคลร์ที่เปี่ยมด้วยการยกย่องผู้หญิงยุคใหม่ จะนำไปสู่มาตรฐานใหม่ของไลฟ์แวร์สำหรับผู้หญิง พวกเราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับแคลร์ต่อไปในอนาคต พร้อมร่วมกันสร้างสรรค์คอลเลคชันที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความรู้สึกที่ทำให้ผู้สวมใส่มีความสุข”

Clare Waight Keller กล่าวว่า “ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญให้ร่วมสร้างสรรค์นิยามใหม่ให้กับยูนิโคล่ ฉันชื่นชมปรัชญาการออกแบบไลฟ์แวร์ (LifeWear) ในเรื่องของเทคนิคด้านนวัตกรรมและต้นแบบของฟังก์ชัน ฉันชื่นชมความงดงามในแบบญี่ปุ่นมาโดยตลอด ทั้งในเรื่องของความละเอียด ความเรียบง่าย และการใส่ใจในเรื่องของความสมบูรณ์แบบ เมื่อได้รับโอกาสในการร่วมงานกับทีมยูนิโคล่เพื่อสร้างการรับรู้ใหม่สำหรับคอลเลคชันเสื้อผ้าผู้หญิงทั่วโลกด้วยตัวเอง จึงกลายเป็นโอกาสที่น่าตื่นเต้นมากๆ”

UNIQLO

คอลเลคชัน

เสื้อโค้ทตัวยาวคลาสสิกทำจากเนื้อผ้าทวิลล์กาบาร์ดีนสี่ฤดู เสื้อแจ็กเก็ตบลูซง PUFFTECH และเสื้อโค้ท ต่างมอบความอบอุ่นได้ดี แม้มีน้ำหนักเบา เสื้อไลท์ดาวน์ที่ได้รับการออกแบบพิเศษพร้อมเทคโนโลยีป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ กระโปรงตัวยาวทำจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม เงางาม ผ่านการอัดความร้อนเพื่อสร้างรอยจีบที่สวยงาม กางเกงมาในทรงแคชชวล แต่กระโปรงและชุดเดรสมาในลวดลายดอกไม้เล็กๆ ที่ละเอียดอ่อน และลายพิมพ์เพลสลีย์ (Paisley) ซึ่งสามารถจับคู่กับสเวตเตอร์ลำลอง เสื้อคาร์ดิแกนทรงหลวม และเสื้อแขนยาวมีซิปทรงบอยเฟรนด์ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าสะพายไหล่สุดฮิตของยูนิโคล่ มาในดีไซน์ที่เก๋ยิ่งขึ้นกับทรงโอเวอร์ไซส์ ที่สามารถจุของใช้ส่วนตัวได้มากขึ้น และยังมีรองเท้าหลากหลายแบบที่น่าสนใจและเหมาะสำหรับเสริมลุคการแต่งตัว

บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 - โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然-นักแสดงจีนวัยรุ่น-นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีนวัยรุ่น - ดาราจีน-ดาราชายจีน - ดาราชายจีนวัยรุ่น -พระเอกซีรี่ย์จีน-พระเอกจีนวัยรุ่น-ซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค -ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน -บันเทิงจีน

2 บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 ชวนสาวๆ ตกหลุมรักวนไปทั้งแนวย้อนยุคและปัจจุบัน!

Alternative Textaccount_circle
event
บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 - โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然-นักแสดงจีนวัยรุ่น-นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีนวัยรุ่น - ดาราจีน-ดาราชายจีน - ดาราชายจีนวัยรุ่น -พระเอกซีรี่ย์จีน-พระเอกจีนวัยรุ่น-ซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค -ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน -บันเทิงจีน
บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 - โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然-นักแสดงจีนวัยรุ่น-นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีนวัยรุ่น - ดาราจีน-ดาราชายจีน - ดาราชายจีนวัยรุ่น -พระเอกซีรี่ย์จีน-พระเอกจีนวัยรุ่น-ซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค -ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน -บันเทิงจีน

สุดฯ พาส่อง 2 บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 หลังปล่อย 2 ซีรี่ย์จีนลงจอรัวๆ ทั้งแนวปัจจุบันและย้อนยุค ชวนสาวๆ ตกหลุมรักวนไปแบบถอนตัวไม่ขึ้น!

หนุ่มฮอตจากวงการบันเทิงจีนปี 2023 นี้ สุดฯ บอกเลยว่า ขาดชื่อของโจวอี้หราน (Zhou Yiran) ไม่ได้จริงๆ ค่ะ สำหรับนักร้อง นักแสดงจีนวัย 22 ปี (เกิดวันที่ 22 พ.ย. 2000) คนนี้ ซึ่งในปีนี้ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรก 2023 โจวอี้หรานก็ส่งซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก/รักวัยเรียน When I Fly Towards You หรือชื่อไทย รักนำทางไปหาเธอ ลงจอเรียกความฟินจากแฟนๆ ซีรี่ย์จีนได้อย่างล้นหลาม

โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然

สำหรับซีรี่ย์จีน When I Fly Towards You รักนำทางไปหาเธอ บอกเล่าเรื่องราวของจางลู่ร่าง นักเรียนหัวกะทิห้องคิงที่นางเอก ซูไจ้ไจ้ ตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น เมื่อทั้งคู่ได้รู้จักและใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ความสดใสของซูไจ้ไจ้ก็ค่อยๆ รักษาบาดแผลในหัวใจของจางลู่ร่าง ในขณะที่ซูไจ้ไจ้เองก็ค่อยๆ มีความเป็นผู้ใหญ่ กล้าได้กล้าเสียมากขึ้น โดยพวกเขาทั้งคู่เติบโตขึ้นไปพร้อมๆ กัน และกลายเป็นคนที่ดีขึ้น เพราะความรักที่มีให้กัน เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวความรักที่บริสุทธิ์และสวยงามของวัยรุ่นในรั้วโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของมิตรภาพระหว่างเพื่อนด้วย ซึ่งในเรื่องนี้โจวอี้หรานรับบทนำคู่กับจางเหมี่ยวอี๋ (Zhang Miaoyi) ซึ่งเคมีคู่นี้บอกเลยว่า น่ารัก น่าเอ็นดูหนักมาก และบทจางลู่ร่างของโจวอี้หรานที่แม้ภายนอกดูพูดน้อย เงียบขรึม แต่บทรักๆ ก็คือคลั่งรักหนักมาก สำหรับใครที่อยากติดตามไปดู When I Fly Towards You รักนำทางไปหาเธอ ได้ที่ YOUKU

ล่าสุดก็มี 2 บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 ที่สุดฯ อยากพาทุกคนไปตามเก็บกันต่อค่ะ โดยเรื่องแรกคือ You Are Desire เธอคือฝันหวานละมุน ที่เริ่มออนแอร์ไปเมื่อต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังในชื่อเรื่องเดียวกันของชีเจี้ยน (Qi Jian) ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ หลินอวี่จิง ที่หลังจากพ่อแม่ของเธอแยกทางกัน เธอก็ตามพ่อไปยังอีกเมืองที่ไม่คุ้นเคย และไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นอวี่จิงก็ได้รับความรักที่จริงใจและการดูแลจากแม่เลี้ยงของเธอเป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากหลินอวี่จิงจะต้องเจอกับครอบครัวใหม่แล้ว เธอยังต้องเข้าโรงเรียนใหม่ ปรับตัวใหม่อีกครั้ง เดิมเธอคิดว่าจะเข้ากับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนได้ยาก แต่สิ่งที่ดีก็เกิดขึ้นเมื่อเธอไม่คาดฝันว่า จะได้เจอกับเพื่อนๆ ที่เฮฮาและเข้ากันได้เป็นอย่างดี

บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 - โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然- You Are Desire - เธอคือฝันหวานละมุน

การมาของหลินอวี่จิงสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับ เสิ่นเจวี้ยน เพื่อนร่วมโต๊ะของเธออย่างมาก หลังจากที่ทุกอย่างกำลังเข้าร่องเข้ารอย ทุกอย่างกลับต้องชะงักเมื่อแม่แท้ๆ ของหลินอวี่จิงบังคับให้หลินอวี่จิงกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับเธอ หลังจากนั้นหนึ่งปี หลินอวี่จิงกับเสิ่นเจวี้ยนก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งอวี่จิงได้รู้ว่าครอบครัวของเสิ่นเจวี้ยนประสบอุบัติเหตุ และเขายังคงจมอยู่กับบาดแผลจากการสูญเสียครั้งนั้น ด้วยความช่วยเหลือของหลินอวี่จิงและเพื่อนๆ คนอื่น เสิ่นเจวี้ยนจึงค่อยๆ ก้าวข้ามความเจ็บปวดนั้นมาได้ และเผชิญหน้ากับเส้นทางชีวิตของเขาต่อไป ส่วนหลินอวี่จิงก็หาเส้นทางชีวิตของตัวเองจนเจอ โดยในเรื่อง You Are Desire เธอคือฝันหวานละมุน โจวอี้หรานรับบทคู่กับจวงต๋าเฟย (Zhuang Dafei) จากเรื่อง Mountains And Ocean (2019), Eternal Love of Dream สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย (2020), CLOSER TO YOU (2020) ฯลฯ ใครพลาดไปสามารถไปตามเก็บซีรี่ย์จีน You Are Desire เธอคือฝันหวานละมุนแบบซับไทยได้ที่ TrueID นะคะ

บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 - โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然- You Are Desire - เธอคือฝันหวานละมุน
บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 - โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然- You Are Desire - เธอคือฝันหวานละมุน

ล่าสุดกับอีกหนึ่งซีรี่ย์จีนที่แม้ว่าจะโจวอี้หรานจะไม่ได้รับบทพระเอก แต่ก็รับบทหนึ่งในนักแสดงนำร่วมกับนักแสดงจีนรุ่นพี่หลายคนกับซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/ดราม่า The Legend of Zhuohua ขุนนางหญิงยอดเสน่หา ที่ออนแอร์วันที่ 19 ส.ค. 2023 โดยพระ-นางได้เฝิงเส้าเฟิง (Feng Shaofeng) เจ้าของผลงานสุดฮิตทั้ง Palace (2011), Prince of Lan Ling (2013), The Story of Ming Lan (2018) ฯลฯ ประกบคู่จิ่งเถียน (Jing Tian) นางเอกจาก The Glory of Tang Dynasty ศึกชิงบัลลังก์ราชวงศ์ถัง (2017), Rattan ครึ่งปีศาจซือเถิง (2021) เป็นต้น โดยบอกเล่าเรื่องราวการฝ่าฟันอุปสรรคของนางเอกที่แม้ว่าจะเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย เพียบพร้อม แต่เพราะเป็นลูกของอนุ ทำให้ไม่ได้รับความรัก เอาใจใส่จากพ่อและแม่ใหญ่ เธอจึงต้องใช้ความสามารถของตัวเองในการสอบเพื่อให้เข้าไปเป็นขุนนางในวังได้ ซึ่งในเรื่องนี้โจวอี้หรานจะรับบทเป็นใคร ไปตามดูกันได้เลยจ้าที่ซีรี่ย์จีน The Legend of Zhuohua ขุนนางหญิงยอดเสน่หา ทาง WeTV นะคะ

บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 - โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然-The Legend of Zhuohua - ขุนนางหญิงยอดเสน่หา
บทบาทของโจวอี้หรานในครึ่งปีหลัง2023 - โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然-The Legend of Zhuohua - ขุนนางหญิงยอดเสน่หา
โจวอี้หราน -Zhou Yiran-周翊然-The Legend of Zhuohua - ขุนนางหญิงยอดเสน่หา

รูปจาก : 灼灼风流官微/周翊然Tz/电视剧白日梦我

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

Hair Care Brand - ORIBE

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

account_circle
event
Hair Care Brand - ORIBE
Hair Care Brand - ORIBE

ต้องบอกว่าปีนี้เทรนด์ Hair Care ค่อนข้างมาในเมืองไทย มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดีๆ สำหรับเส้นผมออกมาเรื่อยๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเปิดตัวไลน์โปรดักส์ใหม่ของ ORIBE จากอเมริกา กับ Serene Scalp Oil Control Collection ไลน์นี้ว้าวอย่างไร สุดสัปดาห์จะพาไปหาคำตอบจากงานเปิดตัว พร้อมบทสัมภาษณ์ผู้บริหารที่มาเปิดมุมมองเกี่ยวกับแฮร์แคร์ที่มีดีเทลมากกว่า “แชมพู” งานนี้คนรักเส้นผมพลาดไม่ได้เลย!

ORIBE

สำหรับอีเวนต์เปิดตัว Serene Scalp Oil Control Collection นั้น จัดขึ้นที่ห้องอาหาร Lady L, Nai Lerd Park ในบรรยากาศเรียบหรูทว่าอบอุ่นท่ามกลางแสงเดย์ไลท์ธรรมชาติ ดีเทลและมู้ดแอนด์โทนของงานสะท้อนถึงแบรนด์ ORIBE แฮร์แคร์ระดับไฮเอนด์จากอเมริกาที่เน้นส่วนผสมดีๆ จากธรรมชาติเพื่อดูแลเส้นผมและหนังศีรษะที่แตกต่างของแต่ละบุคคลอย่างใส่ใจ

ORIBE

โดยกิมมิคหนึ่งที่น่าสนใจคือการสิร์ฟอาหารที่ปรุงจากส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัวของ Serene Scalp Oil Control Collection ซึ่งเมื่อพนักงานเสิร์ฟอาหารแต่ละคอร์ส Beng Lee – Senior education manager of Kao Salon Division จะออกมาพูดถึง Ingredients ในผลิตภัณฑ์และจานอาหารตรงหน้า เป็นการให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากๆ ช่วยให้เราทำความรู้จักสูตรและคุณสมบัติในผลิตภัณฑ์แต่ละตัวได้ง่ายและลึกซึ้งขึ้น

ORIBE

ที่สำคัญอาหารทุกจานสวยและอร่อยมาก …เหมือนกับโปรดักส์ของ ORIBE ที่แพ็คเกจสวยหรูชนะเลิศ หอม และใช้ดีเลยค่ะ

Hair Care Brand - ORIBE
ทีมผู้บริหาร ORIBE

Serene Scalp Oil Control Collection

ORIBE Serene Scalp Oil Control Collection
Serene Scalp Oil Control Collection มาในแพ็คเกจสีม่วงพาสเทลสวยหรู

สำหรับซีรีส์ Serene Scalp Oil Control Collection เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะใหม่จาก ORIBE ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อยืดเวลาการสระผมให้นานออกไปอีก โดยมีส่วนผสมที่ช่วยลดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะ ทำให้ผมดูสะอาดและเบาสบาย ได้นานกว่าที่เคย โดยคอลฯ นี้มี 3 ไอเท็ม คือ Shampoo, Treatment Mist และ Dry Shampoo Powder

Hair Care Q&A with Beng Lee

Hair Care Brand - ORIBE
Beng Lee – Senior education manager of Kao Salon Division

Q: เทรนด์การดูแลเส้นผมในปีนี้มีอะไรใหม่ๆ ไหมคะ

A: ในมุมมองของผมมันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหรือมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนขนาดนั้น จะเป็นการค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า แต่ช่วงหลังมานี้สิ่งที่เห็นได้ชัดคือผู้บริโภคตระหนักเรื่อง Sustainability มากขึ้น พวกเขาใส่ใจว่าผลิตภัณฑ์ใช้ส่งผลกระทบอะไรต่อสิ่งแวดล้อมบ้าง ซึ่งทาง ORIBE พยายามที่จะเติมเต็ม Brand Mission ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ที่ดีที่สุดแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยครับ

Q: ในฐานะที่แบรนด์มีต้นกำเนิดจากอเมริกา คุณบอกได้ไหมว่าการดูเส้นผมของคนอเมริกันกับเอเชียต่างกันหรือไม่ อย่างไร

A: ผมว่า Hair Care Routine ของชาวอเมริกันกับเอเชียโดยทั่วไปค่อนข้างข้างคล้ายกันนะครับ เพราะคุณมีแบรนด์อย่าง ORIBE ที่มีความเป็นสากล มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนที่มีลักษณะเส้นผมที่แตกต่างกัน มีความต้องการสิ่งที่ต่างกัน และตระหนักถึงการดูแลเส้นผมของชาวอเมริกัน ยุโรป รวมทั้งเอเชียที่บางครั้งก็เหมือนกัน อย่างเรื่องที่พวกเขาไม่ได้สระผมทุกวัน แต่จะสระทุกสองสามวัน เป็นสิ่งที่ผมพบว่าค่อนข้างคล้ายกับคนไทย ดังนั้นผลิตภัณฑ์ของเราก็เลยเหมาะกับคนที่นี่มากครับ  

คีย์สำคัญของผลิตภัณฑ์ของเราคือความอ่อนโยน หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของสินค้าเราคือทุกสูตรบางเบา ไม่ทำลายเส้นผม ดูแลเส้นผมให้สุขภาพดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ช่วยให้ผมเป็นอย่างที่คุณต้องการแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่สร้างปัญหาให้เส้นผม

Hair Care Brand - ORIBE

Q: เราอาจจะเคยได้ยินผู้เชี่ยวชาญบางคนแนะนำว่าไม่ควรสระผมทุกวันเพราะจะทำให้ผมแห้งเกินไป คุณคิดว่าอย่างไร

A: ผมคิดว่าต้องดูเป็นเคสบายเคส มันขึ้นกับสถานที่ที่คุณใช้ชีวิต สภาพอากาศ คุณภาพน้ำ ความชื้น รวมทั้งนิสัยส่วนตัวด้วย อย่างผมเองบางครั้งก็สระผมวันละสองครั้งเช้าเย็น สิ่งที่ตลกคือในสิงคโปร์คนส่วนใหญ่จะสระผมทุกวัน ในขณะที่คนอเมริกันและคนไทยสระผมทุกสองสามวัน สิ่งที่ดีของ ORIBE คือการคำนึงถึงดีเทลเล็กๆ เหล่านี้ อย่างแชมพูของเราก็อ่อนโยน ไม่ทำให้ผมและหนังศีรษะแห้ง มันโอเคเลยนะครับที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของ ORIBE แต่ละตัวในทุกวัน

สรุปว่าคีย์สำคัญคือผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ต้องเหมาะกับคุณและลัษณะนิสัยการดูแลเส้นผมของคุณครับ

Q: แฮร์แคร์ไอเท็มที่คุณคิดว่าดีมากและอยากบอกต่อคือ…

A: ผมคิดว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะมองหา “แชมพูที่ดีที่สุด” ประเด็นคือแชมพูเป็นแค่เคล็นเซอร์สำหรับทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะใช่ไหมครับ ดังนั้นเมนฟังก์ชั่นของมันคือ “ทำความสะอาด” แม้ว่าจะมีการใส่ส่วนผสมบำรุงต่างๆ ลงไปให้เหมาะกับเส้นผมและหนังศีรษะแต่ละแบบ แต่เมนฟังก์ชั่นก็ยังคงเป็นการทำความสะอาด

สิ่งที่คุณต้องการคือคอนดิชันเนอร์ที่ดี แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือ Leave-in Product ไม่ว่าจะเป็นครีมหรือเซรั่มที่สามารถทิ้งไว้บนเส้นผมได้ไปจนถึงการสระครั้งต่อไป เพื่อให้มันสามารถซึมซาบลงไปบำรุงเส้นผมในระหว่างวันที่คุณใช้ชีวิตหรือยามค่ำคืนที่คุณหลับ

Leave-on Treatment เป็นสิ่งที่สำคัญที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไป ผมจึงอยากแนะนำไอเท็มนี้ครับ โดยเลือกให้เหมาะกับสภาพเส้นผมและไลฟ์สไตล์ ยกตัวอย่างเช่นคุณ ผมดูแล้วคุณน่าจะเป่าผมบ่อยและทำสีก็ควรเลือกที่มีคุณสมบัติปกป้องผมจากความร้อนและรักษาประกายสี (ซึ่งถูกต้องเลยค่ะ สุดฯ เป่าผมและหนีบปลายผมเกือบทุกวัน และทำสีโทนธรรมชาติด้วย)

Q: ถ้าให้แนะนำผลิตภัณฑ์ของ ORIBE 1 ชิ้นสำหรับคนไทย คุณจะแนะนำไอเท็มไหน

A: แน่นอนว่าต้องเป็น Dry Texturizing Spray ของเรา ไอเท็มนี้เป็นผลิตภัณฑ์อันดับหนึ่งในอเมริกามา 15 ปีแล้ว มันขายได้ทุกๆ 60 วินาที มันเป็นแฮร์สเปรย์ที่เลิศมาก ทำงานเหมือนดรายแชมพู เหมือนแฮร์รีเฟรชเชอร์ ในวันที่สองหลังสระผมเมื่อคุณตื่นขึ้นมาและไม่อยากจะสระผมอีกแต่คุณอยากจะจัดแต่งทรง อยากให้ผมยังคงมีวอลุ่มเบาๆ พลิ้วไหวดูเซ็กซี่ วิธีง่ายๆ คือสเปรย์ตัวนี้จากโคนจรดปลายทั้งศีรษะมันจะช่วยดูดซับน้ำมัน ในขณะเดียวกันก็ให้เท็กซ์เจอร์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เป็นไอเท็มมัลติเพอร์เพิร์สที่ฮ็อตมาก ผมคิดว่าตัวนี้เป็นไอเท็มยอดนิยมของทุกที่ในโลกเลยครับ

ORIBE Dry Texturizing Spray
ORIBE Dry Texturizing Spray ที่ Beng Lee อยากแนะนำสำหรับคนไทย

3 ไอเท็มในซีรีส์ Serene Scalp Oil Control Collection

Serene Scalp Oil Control Shampoo แชมพูที่ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำให้หนังศรีษะแห้งหรือลอก มีส่วนผสมของสาหร่ายทะเลสีเขียวและ Sugar-Derived Prebiotic พรีไบโอติกที่ได้จากน้ำตาล

Serene Scalp Oil Control Treatment Mist สเปรย์ฉีดหนังศีรษะ scalp-mattifying mist ที่มีส่วนผสมของสาหร่ายทะเลสีเขียว และ Sugar-Derived Prebiotic พรีไบโอติกที่ได้จากน้ำตาล

การใช้ : ฉีดสเปรย์ลงบนหนังศีรษะโดยตรงในขณะที่ศีรษะสะอาดและเปียกหมาด จากนั้นนวดให้ทั่วถึงโคนผม

ORIBE Serene Scalp Oil Control Collection

Serene Scalp Oil Control Dry Shampoo Powder แชมพูแห้งแบบผงที่ซึมซาบไวเป็นพิเศษ ช่วยลดความมันส่วนเกินบนหนังศีรษะด้วยส่วนผสมของแป้งชนิดพิเศษและดินขาวที่ช่วยดูดซับความมัน สิ่งสกปรก และสารสะสมบนเส้นผมและหนังศรีษะ ในขณะที่สารสกัดจากใบมะม่วงจะช่วยสนับสนุนไมโครไบโอมของหนังศีรษะให้แข็งแรง พร้อมช่วยให้รู้สึกเบาสบายกว่าที่เคย

The Serene Scalp Oil Control Collection มีจำหน่ายที่ www.bffbangkok.com และ www.wouldyouloveitcosme.com

Text: Nicharee W. | SUDSAPDA Beauty & Lifestyle Editor

Images: ORIBE


#Sudsapda #BeautyTalk

ติดตามอ่านบทความด้านความงามและไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์ THREE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor Beauty

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

เปิดตัว R3 Life Wellness Center ศูนย์สุขภาพและเวชศาสตร์ชะลอวัย ใจกลางถนน

เข้าใจ เวชศาสตร์ชะลอวัย เทรนด์ล่ามาแรงของคนเจน X กับ พท.นพ.ธรณัส กระต่ายทอง

คิมโดฮุน, KIM DO HOON, 김도훈, นักแสดงเกาหลี, นักแสดงเกาหลีดาวรุ่ง, My Dog-Like Dating, Doctor John, My Absolute Boyfriend, Dark Hole, Today's Webtoon, The Law Cafe, หนังเกาหลี Gate, Daily FIFA, The Faceless Boss, Days of Wrath 2, The Faceless Boss: The Untold Story, The Hypnosis, Moving, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี

เปิดวาร์ป คิมโดฮุน นักแสดงเกาหลีรุ่นใหม่มาแรง เจ้าของบทหัวหน้าห้องในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Moving

Alternative Textaccount_circle
event
คิมโดฮุน, KIM DO HOON, 김도훈, นักแสดงเกาหลี, นักแสดงเกาหลีดาวรุ่ง, My Dog-Like Dating, Doctor John, My Absolute Boyfriend, Dark Hole, Today's Webtoon, The Law Cafe, หนังเกาหลี Gate, Daily FIFA, The Faceless Boss, Days of Wrath 2, The Faceless Boss: The Untold Story, The Hypnosis, Moving, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี
คิมโดฮุน, KIM DO HOON, 김도훈, นักแสดงเกาหลี, นักแสดงเกาหลีดาวรุ่ง, My Dog-Like Dating, Doctor John, My Absolute Boyfriend, Dark Hole, Today's Webtoon, The Law Cafe, หนังเกาหลี Gate, Daily FIFA, The Faceless Boss, Days of Wrath 2, The Faceless Boss: The Untold Story, The Hypnosis, Moving, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี

โดนนักแสดงเกาหลีตกกันอีกแล้วแม่ เข้าวงการซีรี่ย์เกาหลีแล้ว ก็จะโดนตกวนไป ล่าสุดก็โดน คิมโดฮุน เจ้าของบทบาทหัวหน้าห้องในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Moving ตกไปเต็มๆ เข้าไปอยู่ในลิสต์ชายหนุ่มในดวงใจเรียบร้อย ซึ่งไหนๆ ก็โดนตกกันแล้ว ก็ต้องไปทำรู้จักคิมโดฮุนให้มากขึ้นเนอะ ตามสุดฯ มาเลยค่า

คิมโดฮุน, KIM DO HOON, 김도훈, นักแสดงเกาหลี, นักแสดงเกาหลีดาวรุ่ง, My Dog-Like Dating, Doctor John, My Absolute Boyfriend, Dark Hole, Today's Webtoon, The Law Cafe, หนังเกาหลี Gate, Daily FIFA, The Faceless Boss, Days of Wrath 2, The Faceless Boss: The Untold Story, The Hypnosis, Moving, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก SEM Company

ส่องผลงานของ คิมโดฮุน ก่อนจะมาแจ้งเกิดเป็นพลุแตกจาก Moving

คิมโดฮุนเป็นนักแสดงเกาหลีรุ่นใหม่อีกคนที่น่าจับตามองจริงๆ โดยคิมโดฮุนเป็นนักแสดงในสังกัด SEM Company ต้นสังกัดเดียวกับนักแสดงระดับตัวพ่ออย่างฮวังจองมินและพัคจองมิน คิดว่าในสังกัดมีนักแสดงระดับฝีมือเทพอยู่ถึง 2 คน การเข้ามาเป็นนักแสดงในค่ายนี้ได้ต้องฝีมือการแสดงไม่ธรรมดาแน่นอน

สำหรับเส้นทางนักแสดงของคิมโดฮุนเริ่มขึ้นในปี 2017 ขณะที่กำลังอายุเพียงแค่ 19 ปี (คิมโดฮุนเกิดวันที่ 15 กันยายน 1998) ด้วยการเล่นละครเวที ก่อนที่ในปี 2018 คิมโดฮุนจะมาเล่นเว็บดราม่าเกาหลี 2 เรื่อง ได้แก่เรื่อง My Dog-Like Dating และ Your imagination becomes reality แถมยังกระโดดไปแสดงภาพยนตร์เกาหลีด้วยในเรื่อง Gate

KIM DO HOON, 김도훈, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก Studio dial และ CJ ENM

จากนั้นในปี 2019 คิมโดฮุนก็งานชุกมากแม่ มีงานแสดง 6 เรื่อง แล้วครบทุกแขนง ทั้งละครเวที เว็บดราม่า หนัง พร้อมกับได้กระโดไปชิมลางงานซีรี่ย์เกาหลีด้วย โดยในปี 2019 คิมโดฮุนมีผลงานการแสดงดังนี้ เว็บดราม่าเกาหลีเรื่อง Daily FIFA, หนังเกาหลีเรื่อง The Faceless Boss, หนังเกาหลีเรื่อง Days of Wrath 2 และซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง My Absolute Boyfriend และ Doctor John ซึ่งเป็นซีรี่ย์เกาหลีที่คนไทยคุ้นเคย ใครที่ได้ดูอาจจะพอคุ้นหน้าคุ้นตาคิมโดฮุนบ้าง แถมยังได้เล่นละครเวทีอีกหนึ่งเรื่อง

ต่อมาในปี 2020 คิมโดฮุนก็ไปเล่นภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง The Faceless Boss: The Untold Story ก่อนในปีถัดมาคิมโดฮุนจะแสดงทั้งภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง The Hypnosis, ซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Dark Hole และซีรี่ย์เกาหลีสั้นเรื่อง Here’s My Plan

KIM DO HOON, 김도훈, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก MBC

ถ้าพูดถึงผลงานที่ทำให้แฟนซีรี่ย์เกาหลีบางส่วนเริ่มคุ้นหน้าคุ้นตาของคิมโดฮุนมากขึ้น ก็ต้องยกให้ซีรี่ย์เกาหลี 2 เรื่องในปี 2022 อย่าง Today’s Webtoon กับบท “นักเขียนชินแดรยุก” และ The Law Cafe ในบท “แพจุน” พนักงานในร้านคาเฟ่ของนางเอก

KIM DO HOON, 김도훈, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก SBS

แต่ผลงานที่ทำให้ชื่อของคิมโดฮุนแจ้งเกิดเป็นพลุแตกแบบสุดๆ ก็คือซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Moving ออริจินัลซีรี่ย์เกาหลีจาก Disney Plus Hotstar กับบท “อีคังฮุน” หัวหน้าห้องหนุ่มแว่นที่คว้าหัวใจผู้ชมไปเต็มๆ ด้วยการแสดงและภาพลักษณ์ที่เข้ากับบทมากๆ แล้วตัดภาพไปนอกจอคิมโดฮุนก็ดีงามไม่ไหว

คิมโดฮุน, KIM DO HOON, 김도훈, นักแสดงเกาหลี, นักแสดงเกาหลีดาวรุ่ง, My Dog-Like Dating, Doctor John, My Absolute Boyfriend, Dark Hole, Today's Webtoon, The Law Cafe, หนังเกาหลี Gate, Daily FIFA, The Faceless Boss, Days of Wrath 2, The Faceless Boss: The Untold Story, The Hypnosis, Moving, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก Disney Plus Hotstar

เรียกว่า ณ จุดนี้ คิมโดฮุนกลายเป็นนักแสดงเกาหลีดาวรุ่งมาแรงประจำปี 2023 ไปเรียบร้อย เส้นทางในวงการบันเทิงมีแววไปได้ดีแบบสุดๆ มารอชมผลงานต่อไปของคิมโดฮุนไปด้วยกันนะคะ และสำหรับใครที่นอกจากอยากจะรอติดตามผลงานการแสดงของคิมโดฮุนแล้ว อยากจะตามไอจีด้วย ตามไปได้เลยที่ Instagram(@7imdohoon) ค่าาาา

คิมโดฮุน, KIM DO HOON, 김도훈, นักแสดงเกาหลี, นักแสดงเกาหลีดาวรุ่ง, My Dog-Like Dating, Doctor John, My Absolute Boyfriend, Dark Hole, Today's Webtoon, The Law Cafe, หนังเกาหลี Gate, Daily FIFA, The Faceless Boss, Days of Wrath 2, The Faceless Boss: The Untold Story, The Hypnosis, Moving, ประวัติคิมโดฮุน, ผลงานคิมโดฮุน, ดาราเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก SEM Company

.

.

TEXT : ImJinah

PHOTO : SEM Company, MBC, SBS, Studio dial, CJ ENM, Disney Plus Korea

SOURCE : SEM Company

.

.

.

อัพเดตข่าวบันเทิงเอเชีย ซีรี่ย์เอเชีย ดาราเอเชีย ไอดอลเอเชียได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

รู้จัก อีจองฮา นักแสดงเกาหลีเจ้าของรอยยิ้มสุดน่ารัก ผู้ทุ่มเทเพื่อการแสดง เพิ่มน้ำหนัก 30 โลก็ทำมาแล้ว!

Zoom In โกยุนจอง นักแสดงเกาหลีดาวรุ่งมาแรง การแสดงปัง สวยเป๊ะทุกมุม!

เปิดวาร์ป อีซึงฮยอบ – อีจองฮา ปรากฏตัวใน Nevertheless แป๊บเดียวแต่กระแทกตาหนักมาก!

มุนซังมิน หรือองค์ชายซองนัม นักแสดงหน้าใหม่ที่เริ่มต้นจากเว็บดราม่า สู่ไรซ์ซิ่งสตาร์มาแรงขวัญใจผู้ชม!

เปิดวาร์ป อีแชมิน นักแสดงเกาหลีรุ่นใหม่งานดี ที่น่าจับตามอง ออร่าแรงกระแทกตา!

เปิดวาร์ป อีจงวอน นักแสดงเกาหลีรุ่นใหม่งานดีที่น่าจับตามองมาก มีแววตัวท็อป!!!

ส่องประวัติ ชเวฮยอนอุค นักแสดงคนเดียวใน Twenty-Five, Twenty-One ที่ไม่ได้เกิดยุค 90s

เปิดวาร์ป บยอนอูซอก พระเอก 20th Century Girl งานดีทะลุจอ แถมหน้าเด็กมาก แสดงเรื่องดังมากมาย!

เปิดวาร์ป แชจงฮยอบ พ่อหนุ่มแสนอบอุ่นดั่งไมโครเวฟ จาก Nevertheless ผู้มาพร้อมรอยยิ้มทำลายล้าง

โอเยจู นักแสดงหน้าใหม่จากค่าย Rain เคยปรากฏในซีรี่ย์เกาหลีเรื่องดัง แย้มเบื้องหลังร่วมงานกับมุนซังมิน!

คิมจีอึน จากเคยคิดจะเลิกเป็นนักแสดง ชีวิตพลิกผันสู่นางเอกเกาหลีดาวรุ่งงานชุก!

รู้จัก คิมมินฮา นักแสดงดาวรุ่งที่ผ่านออดิชั่นได้แสดง Pachinko ผู้สร้างประทับใจแรกอย่างแรงให้อีมินโฮ!

อีแจอุค นักแสดงเกาหลีดาวรุ่งเจ้าเสน่ห์ ที่การแสดงฟาดมาตั้งแต่เดบิวต์ สะดุดตาสะดุดใจแรงมาก!

ยูอินซู นักแสดงเกาหลีรุ่นใหม่ฝีมือการแสดงปัง เปลี่ยนคาแร็กเตอร์สุดขั้ว จากทำคนเกลียดเปลี่ยนเป็นหลงรัก!

เปิดวาร์ป ฮวังมินฮยอน พระรองสุดเพอร์เฟ็กต์จาก Alchemy of Souls ผู้วิชวลจัดจ้านในย่านแดโฮ!

Zoom In ชินแจฮา ตัวร้ายเจ้าบทบาท ที่ผ่านบทสมทบเรื่องดังเพียบ ออกจากกรมปุ๊บ มีผลงานปังทันที!

ทำความรู้จัก พัคจีฮยอน ที่เจิดจรัสมากใน Reborn Rich นักแสดงสาวสวยการแสดงโดดเด่นกระแทกตา!

เปิดวาร์ป นาอินอู พระรองจาก Mr.Queen ที่กำลังทำให้ใจผู้ชมหวั่นไหวแรง!

ทำความรู้จัก แพฮยอนซอง – โจอีฮยอน คู่แฝดยุนบกฮงโดจาก Hospital Playlist

Zoom In ฮวังอินยอบ นักแสดงเกาหลีดาวรุ่งมาแรงแห่งปี 2020 ดีงามจนต้องวาร์ป!

ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越-ซีรี่ย์จีนน่าดู - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 -นักร้องหญิงจีน - ไอดอลหญิงจีน -ไอดอลจีน -นางเอกจีน -นางเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงจีน - นักแสดงหญิงจีน-ข่าวจีน -บันเทิงจีน

ตามเก็บ 6 ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ ในบทบาทนางเอก!

Alternative Textaccount_circle
event
ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越-ซีรี่ย์จีนน่าดู - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 -นักร้องหญิงจีน - ไอดอลหญิงจีน -ไอดอลจีน -นางเอกจีน -นางเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงจีน - นักแสดงหญิงจีน-ข่าวจีน -บันเทิงจีน
ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越-ซีรี่ย์จีนน่าดู - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 -นักร้องหญิงจีน - ไอดอลหญิงจีน -ไอดอลจีน -นางเอกจีน -นางเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงจีน - นักแสดงหญิงจีน-ข่าวจีน -บันเทิงจีน

สุดฯ ชวนตามเก็บ 6 ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ (Yang Chaoyue) นักร้อง นักแสดง อดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปจีน Rocket Girls 101 วัย 25 ปี (เกิดปี 1998) ในบทบาทนางเอก มาครบทั้งแนวปัจจุบัน ย้อนยุค มีเรื่องไหนประกบคู่ใครบ้างมาดูกันค่ะ

ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越
  • Project 17: Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ (2019)
Project 17: Side by Side - พี่น้องลูกขนไก่

เรื่องแรกเปิดด้วย Project 17: Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ ที่ต้นฉบับมาจากซีรี่ย์น้ำดีของค่าย GDH 555 และนาดาวบางกอกอย่าง Project S The Series ที่ของไทยออกอากาศเมื่อกลางปี 2017 ที่สร้างความประทับใจ และเรียกน้ำตาจากแฟนๆ ทั่วประเทศมาแล้วเพียบ แบ่งเป็น 4 ซีรี่ย์ย่อยผ่าน 4 ชนิดกีฬาคือ Spike (วอลเลย์บอล), Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ (แบดมินตัน), SOS Skate ซึม ซ่าส์ (สเกตบอร์ด), Shoot! I Love You ปิ้ว! ยิงปิ๊งเธอ (ธนู) โดยเวอร์ชั่นซีรี่ย์จีนได้คอร์เนอร์ เหลียง (Connor Leong หรือชื่อจริง เหลียงจิ้งคัง Liang Jingkang) มารับบทนำร่วมกับจู้จื่อเจี๋ย (Zhu Zijie หรือ Jackey) พร้อมด้วยหยางเชาเยว่ ซึ่งมีต่อ ธนภพ และสกาย วงศ์รวี ไปสร้างเซอร์ไพร์สเป็นนักแสดงรับเชิญในเรื่องด้วย

Project 17: Side by Side - พี่น้องลูกขนไก่
  • Dance of the Phoenix หงส์เริงระบำ (2020)
Dance of the Phoenix - หงส์เริงระบำ

Dance of the Phoenix หงส์เริงระบำ ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/ดราม่าเรื่องนี้ดัดแปลงบทมาจากนิยายจีนชื่อดังของซูเสี่ยวหน่วน (Su Xiaonuan) บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ถูกลอบทำร้าย จนทำให้เธอสูญเสียกำลังภายในไปทั้งหมด ในขณะที่เธอต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้พลังกลับคืนมา ก็ได้เจอกับพระเอก ทั้งคู่จะฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆ และนางเอกจะเอาพลังกลับคืนมาได้อย่างไร ใครที่ยังไม่ได้ดูสามารถไปตามเก็บกันได้ค่า ในเรื่อง Dance of The Phoenix หยางเชาเยว่ประกบคู่กับพระเอกจีนรุ่นพี่ สวีไคเฉิง (Xu Kaicheng) เจ้าของผลงานสุดฮิต I’m a Pet At Dali Temple ฉันเป็นสัตว์เลี้ยงที่วัดต้าหลี่ (2018), Well-Intended Love แต่งรักมัดใจบอส 1-2 (2019-2020) ฯลฯ

Dance of the Phoenix - หงส์เริงระบำ
  • Midsummer Is Full of Love รักวุ่นๆ ในฤดูร้อน (2020)
ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越 - Midsummer Is Full of Love- รักวุ่นๆ ในฤดูร้อน

Midsummer Is Full of Love รักวุ่นๆ ในฤดูร้อน ซีรี่ย์จีนที่รีเมคจากซีรี่ย์เกาหลี Full House สะดุดรักที่พักใจ (2004) ของเรน (Rain Bi)ซองฮเยเคียว (Song Hye Kyo) บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่บังเอิญถูกเพื่อนขายบ้านไปให้ซุปตาร์หนุ่มสุดฮอตโดยที่เธอไม่รู้ตัว ความสัมพันธ์วุ่นๆ จึงเริ่มก่อตัวขึ้น กระทั่งข่าวที่ทั้งคู่อยู่บ้านหลังเดียวกันถูกเผยแพร่ออกไป ทั้งสองคนจึงตัดสินใจทำสัญญาแต่งงานปลอมๆ กันขึ้น แต่งานนี้ไม่จบแค่การแต่งงานหลอกๆ เพราะพวกเขาเกิดตกหลุมรักกันจริง!! เรื่องราวจะเป็นยังไงไปติดตามชมเคมีความฟินของคู่พระ-นางที่รับบทโดยสวี่เว่ยโจว (Xu Weizhou/Timmy Xu) และหยางเชาเยว่กันแบบซับไทยได้ที่แอป WeTVth เลยค่า

ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越 - Midsummer Is Full of Love- รักวุ่นๆ ในฤดูร้อน

Heroes ดาบเสียดฟ้า (2022)

ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越-Heroes - ดาบเสียดฟ้า

Heroes ดาบเสียดฟ้า ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/กำลังภายในที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนกำลังภายในชื่อเรื่องเดียวกันของนักเขียนเวินรุ่ยอัน (Wen Ruian) ที่บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยของหวังเสี่ยวฉือที่ออกเดินทางท่องยุทธภพ จนกระทั่งเขาได้เจอกับเวินโหรว และ ป๋ายโฉวเฟย และกลายมาเป็นเพื่อนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมต่อสู้กับเหล่าวายร้ายไปด้วยกัน กลายเป็นมิตรภาพที่น่าประทับใจที่ชวนให้ติดตามเรื่องราวของพวกเขาไปพร้อมๆ กัน โดยในเรื่อง Heroes ดาบเสียดฟ้า นอกจากหยางเชาเยว่ ยังมีอีก 2 นักแสดงชาย เจิงชุ่นซี (Zeng Shunxi) หรือโจเซฟ เจิง (Joseph Zeng) และหลิวอวี่หนิง (Liu Yuning) ร่วมกันส่งต่อความปังด้วย

ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越-Heroes - ดาบเสียดฟ้า
  • The Journey of Chong Zi ฉงจื่อ ลิขิตหวนรัก (2023)
The Journey of Chong Zi - ฉงจื่อ ลิขิตหวนรัก

ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/เทพเซียน/โรแมนติก The Journey of Chong Zi ฉงจื่อ ลิขิตหวนรักที่ดัดแปลงเรื่องราวจากนิยายจีนชื่อดังของฉู่เค่อ (Shu Ke) บอกเล่าเรื่องราวของนางเอกที่เกิดมาพร้อมกับวิญญาณชั่วร้ายที่ครอบงำเธออยู่ และพระเอกผู้มีพลังวิเศษในการมองเห็นโลกและมีพละกำลังที่ไร้เทียมทาน โดยพระเอกของเรื่องได้สวีเจิ้งซี (Xu Zhengxi) พระเอกจากเรื่อง Novoland: The Castle in the Sky 2 จิ่วโจวเมืองสวรรค์ ภาค2 (2020) มารับบทคู่กับหยางเชาเยว่ ใครพลาดไปสามารถไปตามเก็บแบบซับไทยได้ที่ WeTV นะคะ

The Journey of Chong Zi - ฉงจื่อ ลิขิตหวนรัก
  • Love You Seven Times เจ็ดชาติภพ หนึ่งปรารถนา (2023)
ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越-Love You Seven Times - เจ็ดชาติภพ หนึ่งปรารถนา

ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ เรื่องล่าสุดที่เพิ่งออนแอร์ไปเมื่อต้นเดือนส.ค.2023 นั่นคือ Love You Seven Times เจ็ดชาติภพ หนึ่งปรารถนา ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังของนักเขียนเจ้าของนามปากกา จิ่วลู่เฟยเซียง (Jiu Lu Fei Xiang) โดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพันธะการแต่งงานเซียนน้อย เสียงอวิ๋น และเทพสงคราม ชูคง ที่ด้วยความบังเอิญทำให้พวกเขาเริ่มต้นพรหมลิขิตที่ผูกไว้ด้วยด้ายแดง กลายเป็นคู่รักเทพเซียนที่กล่าวขานกันที่ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติ ด้ายแดงแห่งรักก็ทำให้พวกเขากลับมาเจอกันและรักกันเสมอ โดยหยางเชาเยว่รับบทนางเอกประกบคู่กับติงอวี่ซี (Ding Yuxi) พระเอกจากเรื่อง Intense Love คุณหมอขา ซุปตาร์มาแล้ว (2020), The Romance of Tiger and Rose ข้านี่เเหละองค์หญิงสาม (2020) เป็นต้น

ซีรี่ย์จีนน่าดูของหยางเชาเยว่ - หยางเชาเยว่ - Yang Chaoyue- 杨超越-Love You Seven Times - เจ็ดชาติภพ หนึ่งปรารถนา

รูปจาก : 杨超越/姻缘阁祥云仙子工作台/重紫官微/七时吉祥官微/说英雄谁是英雄官博/仲夏满天心/且听凤鸣官微/网剧极限17

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

จางเสวี่ยอิ๋ง-ซินอวิ๋นหลาย - จางเสวี่ยอิ๋ง - Zhang Xueying - 张雪迎- ซินอวิ๋นหลาย - Xin Yunlai -辛云来- My Blue Summer - 暗恋•橘生淮南- ดาราจีน - คู่รักดาราจีน - ดาราจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีน - ดาราชายจีน - ดาราหญิงจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

คู่รักคู่ใหม่!?! จางเสวี่ยอิ๋ง-ซินอวิ๋นหลาย จากคู่จิ้นหนังโรแมนซ์สู่คู่ที่ถูกจับตาว่าคบหากันอยู่!

Alternative Textaccount_circle
event
จางเสวี่ยอิ๋ง-ซินอวิ๋นหลาย - จางเสวี่ยอิ๋ง - Zhang Xueying - 张雪迎- ซินอวิ๋นหลาย - Xin Yunlai -辛云来- My Blue Summer - 暗恋•橘生淮南- ดาราจีน - คู่รักดาราจีน - ดาราจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีน - ดาราชายจีน - ดาราหญิงจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
จางเสวี่ยอิ๋ง-ซินอวิ๋นหลาย - จางเสวี่ยอิ๋ง - Zhang Xueying - 张雪迎- ซินอวิ๋นหลาย - Xin Yunlai -辛云来- My Blue Summer - 暗恋•橘生淮南- ดาราจีน - คู่รักดาราจีน - ดาราจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีน - ดาราชายจีน - ดาราหญิงจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ อัพเดตข่าวความสัมพันธ์ของ จางเสวี่ยอิ๋ง-ซินอวิ๋นหลาย จากคู่จิ้นที่ร่วมงานกันในหนังจีน My Blue Summer สู่คู่ที่ถูกจับตาว่าคบหากันอยู่!?!

กลายเป็นข่าวฮอตประจำวันที่ 17 ส.ค. 2023 เลยละจ้า สำหรับข่าวของ 2 นักแสดงจีนวัยรุ่น จางเสวี่ยอิ๋ง-ซินอวิ๋นหลาย ที่มีมือดีแอบถ่ายภาพที่ทั้งคู่เดินเล่นอยู่ด้วยกันหลายครั้ง ไปร้านซักรีด ดูหนัง เดินชอปปิ้ง แถมมีโมเม้นท์สนิทสนม ทำให้หลายฝ่ายคาดกันว่า พวกเขาน่าจะกำลังคบหาดูใจกันอยู่ จนทำให้มีแฮชแท็ก #张雪迎辛云来同居# แปลเป็นไทยว่า จางเสวี่ยอิ๋งซินอวิ๋นหลายอยู่ด้วยกัน มียอดคนอ่านแฮชแท็กมากกว่า 300 ล้านครั้ง (ณ วันที่ 17 ส.ค. 2023 เวลา 20.08 น.)

จางเสวี่ยอิ๋ง-ซินอวิ๋นหลาย - จางเสวี่ยอิ๋ง  -  Zhang Xueying  -  张雪迎- ซินอวิ๋นหลาย  -  Xin Yunlai  -辛云来

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลังจากที่มีข่าวออกมาเป็นที่ฮือฮาตลอดทั้งวัน แต่ทั้งฝ่ายของจางเสวี่ยอิ๋งและซินอวิ๋นหลายก็ไม่ได้ออกมาโต้ตอบ ยอมรับหรือปฏิเสธข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด

สำหรับจางเสวี่ยอิ๋ง เป็นนักแสดงเด็กจีนที่เข้าวงการบันเทิงจีนมาตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ (เกิดปี 1997 เริ่มเข้าวงการปี 2003) หลังจากเข้าวงการจางเสวี่ยอิ๋งก็ร่วมแสดงในซีรี่ย์จีนหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/กำลังภายใน The Legend of the Condor Heroes มังกรหยก (2008), Beauty’s Rival in Palace จอมนางชิงบัลลังก์ (2010) เป็นต้น แต่หากพูดถึงปีที่จางเสวี่ยอิ๋งมีชื่อเสียงโด่งดังแบบก้าวกระโดดต้องยกให้ปี 2014 จากผลงานซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/กำลังภายใน The Romance of the Condor Heroes (2014-2015), ซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น Promise of Migratory Birds (2016) ที่จางเสวี่ยอิ๋งรับบทนางร้าย และมาเริ่มเปรี้ยงปังจากบทนางเอกจริงๆ ในปี 2017 จากซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น When We Were Young (2017) ที่รีเมคมาจากซีรี่ย์เกาหลี Who Are You: School 2015 ต่อด้วยอีกผลงานที่แจ้งเกิดให้จางเสวี่ยอิ๋งก็คือ ซีรี่ย์จีนรีเมคจากไต้หวัน Summer’s Desire (2018) ที่เวอร์ชั่นดั้งเดิมเป็นต้าเอส F4 (Da S) แสดงนำร่วมกับปีเตอร์ โฮ (Peter Ho) และหวงเสี่ยวหมิง (Huang Xiaoming) ออนแอร์เมื่อปี 2010

นอกจากนี้ จางเสวี่ยอิ๋งยังมี Princess Silver คำสาปรัก ชายาผมขาว (2019), Doule Love รักสองโลก (2022), Choice Husband ป่วนรักอลวน วิวาห์อลเวง (2023) ที่เพิ่งออนแอร์ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วย

จางเสวี่ยอิ๋ง  -  Zhang Xueying  -  张雪迎

ส่วนซินอวิ๋นหลายเป็นนักแสดงชายจีนจากค่าย Enlight Media ค่ายเดียวกับติงอวี่ซี (Ding Yuxi) ที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือการแสดงไว้แล้วในซีรี่ย์จีนชื่อดัง เช่น ซีรี่ย์จีนแนววัยรุ่น Waiting For You In The Future (2019) และซีรี่ย์จีนย้อนยุค/โรแมนติก Dreaming Back to the Qing Dynasty หรือชื่อไทย ฝันคืนสู่ต้าชิง (2019-2020) ที่สุดฯ เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยผ่านตากันมาบ้างแล้ว แม้ในเรื่องนี้ซินอวิ๋นหลายจะไม่ได้รับบทพระเอก แต่บทที่เขาแสดงก็ได้รับการจับตามองและเป็นที่พูดถึงของผู้ชมอย่างมาก โดยซินอวิ๋นหลายได้ก้าวมารับบทพระเอกเต็มตัวครั้งแรกในเรื่อง Mr. Honesty หรือชื่อไทย อุบายรักยัยขี้จุ๊ (2020) แท็กทีมนางเอกจีนชื่อดังเหลียงเจี๋ย (Liang Jie) มาส่งต่อเรื่องราวความรักระหว่างประธานหนุ่มสุดหล่อที่พูดโกหกไม่เป็นกับเลขาสาวที่เริ่มต้นความสัมพันัธ์จากการไม่กินเส้นกันจนได้รักกันในที่สุด

เมื่อเดือนเม.ย. 2023 ซินอวิ๋นหลายก็เพิ่งส่งผลงานใหม่ Desire Catcher ซีรี่ย์จีนแนวสืบสวน/อาชญากรรมที่เขารับบทนำร่วมกับเจิ้งเย่เฉิง (Zheng Yecheng) ลงจอไป และอีกเรื่องที่เขาร่วมแสดงด้วยอย่าง Grandma’s New World ลงจอไปเมื่อเดือนพ.ค.

ซินอวิ๋นหลาย  -  Xin Yunlai  -辛云来

สำหรับจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างจางเสวี่ยอิ๋งกับซินอวิ๋นหลายน่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาได้ร่วมงานกันในหนังจีนแนวโรแมนติก/แอบรัก My Blue Summer ดัดแปลงบทจากผลงานเขียนเรื่อง Unrequited Love ระยะแอบรัก ของนักเขียนหญิงเจ้าของนามปากกาปาเยว่ฉางอัน (Ba Yue Chang An) ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกนำมารีเมคแล้วหลายเวอร์ชั่น บอกเล่าเรื่องราวของนางเอก ลั่วจื่อ ที่แอบหลงรักพระเอก เซิ่งไหวหนาน มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ซึ่งแม้ว่าลั่วจื่อจะแอบชอบไหวหนานมากแค่ไหน เธอก็ไม่เคยพูดออกไป และเขียนความรู้สึกของเธอทั้งหมดลงสมุดไดอารี่เอาไว้ ขณะเดียวกันลั่วจื่อก็คอยสังเกตว่า ไหวหนานชอบอะไร ใช้ชีวิตแบบไหน กระทั่งวันหนึ่งในที่สุดเธอก็มีตัวตนในสายตาของไหวหนาน ผู้ชายที่เธอแอบชอบมานานเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี! ความน่าประทับใจของเรื่องนี้คือ กว่าทั้งคู่จะได้รู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายและรักกันก็ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวต่างๆ และฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันมากมาย ฟังเหมือนจะเหน็ดเหนื่อย แต่จริงๆ มีความอบอุ่น ละมุนใจมากๆ นั่นคือเหตุผลที่ระยะแอบรักติดอันดับนิยายในดวงใจของใครหลายๆ คน ซึ่งเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของจางเสวี่ยอิ๋งกับซินอวิ๋นหลายก็กวาดรายได้ตลอดการเข้าฉายไปกว่า 134 ล้านหยวน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 657 ล้านบาท)

Zhang Xueying - 张雪迎- Xin Yunlai -辛云来- My Blue Summer - 暗恋•橘生淮南
Zhang Xueying - 张雪迎- Xin Yunlai -辛云来- My Blue Summer - 暗恋•橘生淮南
Zhang Xueying  -  张雪迎- Xin Yunlai  -辛云来- My Blue Summer  -  暗恋•橘生淮南

รูปจาก : 张雪迎Sophie/辛云来/张雪迎Sophie工作室/电影暗恋橘生淮南/weibo.com

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho

อีมินกิ – ฮันจีมิน – ซูโฮ แอบแย้มความสนุกในซีรีส์เกาหลีเรื่อง Behind Your Touch ที่ต้องตามชมทุกตอน

Alternative Textaccount_circle
event
Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho
Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho

บอกเลยว่าใครที่ยังคงประทับใจกับซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง My Liberation Notes ต้องไม่พลาดชมซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง Behind Your Touch เพราะเป็นผลงานจากผู้กำกับคนเดียวกันที่ขอเปิดตัวสัปดาห์แรกเรื่องราวก็สนุกแล้ว แถมเรืองนี้ยังได้นักแสดงชื่อดังทั้ง ฮันจีมิน อีมินกิ และซูโฮ ยิ่งสุดสัปดาห์ได้ฟังนักแสดงให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวก็ยิ่งรู้สึกว่าตื่นเต้นพร้อมรอชมทุกตอนมากขึ้นไปอีก

Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho

Behind Your Touch ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องใหม่ของผู้กำกับ My Liberation Notes

ช่วยแนะนำผลงานซีรีส์เกาหลีเรื่องBehind Your Touchให้ฟังหน่อยได้ไหม

ผู้กำกับคิมซอกยุน : เรื่องนี้เป็นซีรีส์คอเมดี้แนวสืบสวนที่เล่าถึงบงเยบุน สัตวแพทย์สาวที่อาศัยอยู่แถบชานเมืองแห่งหนึ่ง และได้รับพลังวิเศษโดยบังเอิญ และจางยอล ตำรวจสายสืบไฟแรงที่ต้องการใช้ประโยชน์จากพลังจิตของเธอเพื่อที่จะได้ย้ายกลับไปทำงานที่กรุงโซล แม้พลังวิเศษของเยบุนจะเป็นพลังที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์แบบนักก็ตาม ถึงจะเป็นแนวคอเมดี้แต่ในขณะที่เนื้อเรื่องดำเนินไปช่วงหลังๆ จะมีคดีเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะคดีฆาตกรรมต่อเนื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อไขคดีเหล่านั้นครับ จะเรียกว่าเป็นซีรีส์แนวคอเมดี้ที่แฝงความระทึกขวัญก็ได้ครับ

ทราบมาว่าคุณฮันจีมินตัดสินใจรับบทในซีรีส์เรื่องนี้เพราะเชื่อมั่นในตัวผู้กำกับคิมซอกยุน อยากให้เล่าว่าอะไรในตัวผู้กำกับที่ทำให้คุณเชื่อใจ และคุณคิดว่าเสน่ห์ของซีรีส์เกาหลีเรื่อง Behind Your Touch คืออะไร

ฮันจีมิน : นอกจากความพิเศษของผลงาน (บทซีรีส์) แล้ว บางครั้งเสน่ห์ของตัวละครก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ฉันตัดสินใจในการเลือกผลงานด้วยค่ะ นักแสดงทุกคนที่เคยได้ร่วมทำงานในกองถ่ายกับผู้กำกับมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นการถ่ายทำที่สนุกและมีความสุขมากค่ะ ต่อให้ผู้กำกับชักชวนให้เล่นแนวอื่นที่ไม่ใช่คอเมดี้ ขอแค่เขาเอ่ยปากชวน ฉันก็พร้อมที่จะตอบตกลงอยู่แล้วค่ะ

ตอนแรกฉันคิดไว้ว่าเรื่องนี้คงเป็นแนวโรแมนติกคอเมดี้ แต่ปรากฏว่าเป็นแนวคอเมดี้ระทึกขวัญค่ะ ในฐานะนักแสดงฉันอยากลองเล่นแนวคอเมดี้ดูสักครั้ง แต่ฉันคิดว่าการที่จะเล่นแนวคอเมดี้ต้องใช้ความกล้าหาญมากค่ะ เพราะฉันคิดเสมอว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้ใครสักคนหัวเราะได้ แต่ภาพที่ผู้กำกับและผู้เขียนบทบรรยายให้ฉันเห็นทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของผลงานเรื่องนี้ บวกกับฉันเองก็อยากเล่นแนวโรแมนติกคอเมดี้อยู่แล้วด้วย และเมื่อมั่นใจว่าเชื่อใจในตัวผู้กำกับได้ จึงตัดสินใจรับบทค่ะ

ฮันจีมิน, Han Ji Min

ส่วนถ้าพูดถึงเสน่ห์เฉพาะตัวของซีรีส์Behind Your Touch ฉันคิดว่าการผสมผสานเอาพลังจิตที่มีความแฟนตาซีไว้ในตัวละครบงเยบุน ทำให้เนื้อเรื่องแปลกใหม่ ฉันว่ามันเป็นผลงานที่ผสมความเป็นคอเมดี้และความระทึกขวัญไว้ได้อย่างลงตัว เหมาะที่จะรับชมในหน้าร้อนแบบนี้ เพราะน่าจะช่วยคลายความร้อนและเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างดีค่ะ

คุณอีมินกิได้ร่วมแสดงในผลงานของผู้กำกับคิมซอกยุนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน My Liberation Notes: ปล่อยใจสู่เสรี ช่วยบอกถึงเหตุผลที่ตกลงรับบทในเรื่องนี้ และช่วยเล่าถึงความรู้สึกตอนได้อ่านบทครั้งแรกให้ฟังหน่อย

อีมินกิ : เหตุผลที่สำคัญที่สุดคือผู้กำกับเป็นคนชักชวนครับ ครั้งแรกที่ได้อ่านบทผมรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือการ์ตูนที่มีภาพเป็นตัวเดินเรื่อง ทั้งๆ ที่บทนั้นมีแต่ตัวหนังสือ พอได้อ่านแล้วสนุกและบันเทิงมาก เลยตอบตกลงด้วยความเต็มใจครับ

Lee Min Ki, อีมินกิ
ครั้งนี้เป็นการกลับมาแสดงซีรีส์อีกครั้ง ก่อนหน้านี้คุณซูโฮเคยให้สัมภาษณ์ว่าชอบผลงานของกับผู้กำกับคิมซอกยุนและอยากร่วมงานกับเขา อยากทราบเหตุผลที่เลือกรับบทในซีรีส์เรื่องนี้ และคุณคิดว่าเสน่ห์ของเรื่องนี้คืออะไร

ซูโฮ : ตอนนั้นผมดูซีรีส์ My Liberation Notes: ปล่อยใจสู่เสรี  ซึ่งเป็นผลงานในดวงใจของผมอย่างใจจดใจจ่อ แล้วผมก็ได้ทราบว่าผู้กำกับจะถ่ายทำผลงานเรื่องใหม่ และผมก็ได้รับบทมาด้วยความยินดีมากๆ เลยครับ สิ่งแรกที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนคือเสน่ห์ของตัวละครซอนอูครับ บทที่ผมได้มาในตอนแรกมีถึงแค่ประมาณกลางเรื่องเท่านั้น แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งทำให้ผมอยากรู้เกี่ยวกับตัวละครนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความสนใจในตัวละครนี้ผมจึงตัดสินใจเลือกที่จะรับบทในเรื่องนี้ครับ อันที่จริงต้องบอกว่าได้รับเลือกมากกว่า ขอบคุณมากครับที่เลือกผม (หัวเราะ)

ส่วนเสน่ห์ของซีรีส์ นอกจากตัวละครซอนอูแล้วยังมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายในเรื่องที่ทำให้เรื่องราวมีเสน่ห์ พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าสปอยล์ แต่มีหลายฉากที่ดูแล้วยิ่งตลกและอยากวนกลับไปดูซ้ำอีกหลายๆ รอบเลยครับ

ซูโฮ, Suho, EXO
มีอะไรที่คุณฮันจีมินต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการรับบทเป็น “บงเยบุน” บ้างไหม 

ฮันจีมิน : เยบุนเป็นคนโอบอ้อมอารีและชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น แม้ว่าการพบกันครั้งแรกระหว่างเยบุนและจางยอลจะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ แต่เยบุนก็เต็มใจที่จะช่วยเขาสืบสวนคดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัยที่แท้จริงของเธอ ถึงแม้ว่าเยบุนกับจางยอลจะถกเถียงกันตลอด แต่ก็เยบุนก็มีส่วนช่วยนำทางเขา ซึ่งฉันมองว่านั่นเป็นเสน่ห์ของเธอ ฉันจึงพยายามโฟกัสตรงจุดนั้นค่ะ ส่วนในมุมคอเมดี้ ฉันไม่ได้คิดว่าจะต้องเล่นให้ออกมาตลกเท่านั้น ด้วยตัวละครเยบุนเป็นคนที่จริงจังและจดจ่อกับตัวเองมากในทุกๆ สถานการณ์ ฉันจึงพยายามโฟกัสตามสถานการณ์ของตัวละครมากกว่าค่ะ

มีอะไรที่คุณอีมินกิต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการรับบทเป็น “มุนจางยอล” บ้างไหม

อีมินกิ : อย่างแรก เนื่องจากตัวละครเป็นตำรวจสายสืบที่กระตือรือร้น ผมคิดว่าน่าจะเขาต้องดูแข็งแกร่งนิดนึงเลยพยายามเพิ่มน้ำหนักครับ อีกอย่างคือมีบทที่ผมพูดว่า “ไม่มีใครปกติเลยสักคน” ในเรื่องผมต้องพัวพันกับคนแปลกๆ หลากหลายรูปแบบในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ผมจึงให้ความสำคัญกับประเด็นที่ว่าควรต้องถ่ายทอดตัวละครออกมาอย่างไรเพื่อให้เหมาะสมกับบริบทนั้นๆ ครับ

Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho
มีอะไรที่คุณซูโฮต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการรับบทเป็น “คิมซอนอู” บ้างไหม

ซูโฮ : ปกติแล้วผมเป็นคนพูดค่อนข้างเร็ว คิดอะไรก็พูดออกมาซื่อๆ แต่เพื่อแสดงเป็นคิมซอนอู ผมต้องฝึกพูดให้ช้าลง เดินให้ช้าลงครับ และเนื่องจากตัวละครเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านสะดวกซื้อ ผมจึงพยายามเดินสำรวจร้านสะดวกซื้อในละแวกบ้าน เพื่อสังเกตท่าทางและน้ำเสียงของพนักงานส่วนใหญ่ว่าเป็นอย่างไรครับ

รู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่อย่างฮันจีมินและอีมินกิ พวกเขาได้ให้คำแนะนำอะไรกับคุณบ้าง

ซูโฮ : รู้สึกตื่นเต้นมากครับที่ได้เจอตัวจริงของนักแสดงที่ผมชื่นชอบผลงานมาตั้งแต่ผมยังเด็ก ทุกครั้งที่ได้เข้าฉากร่วมกันผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก และได้เรียนรู้จากพวกเขาหลายอย่างเลยครับ นี่เป็นการกลับมาแสดงซีรีส์ในรอบหลายปีของผม อาจจะมีเขินๆ บ้าง แต่พี่ๆ คอยชวนคุยและหยอกล้อทำให้การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่นครับ

Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho
ช่วยยกตัวอย่างฉากสุดฮาจากซีรีส์และเล่าถึงฉากนั้น (โดยไม่สปอยล์) หรือเล่าถึงฉากที่คุณประทับใจให้เราฟังหน่อย

ฮันจีมิน : เราหัวเราะกันเยอะมาก อย่างที่บอกว่าฉันจริงจังมากจนไม่รู้ว่าภาพของตัวเองถูกถ่ายทอดออกมาแบบไหน แต่ตอนถ่ายทำทุกคนต่างพากันขำ ในตัวอย่างอย่างเป็นทางการของซีรีส์มีฉากที่ฉันจุ่มมือลงไปในอ่างทราย ตอนถ่ายทำ ทีมงานเอาทรายไปอังไฟเพื่อที่เวลาสัมผัสทรายจะได้อุ่นมือ แต่ฉันกลัวที่จะเข้าไปใกล้ๆ ไฟ พอยิ่งจับทราย ทรายก็ยิ่งร้อนขึ้น ฉันเลยแอ่นก้นไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว ฉันจริงจังกับการเอามือจุ่มทรายมาก แต่ท่าทางตอนนั้นคงตลกมาก ผู้กำกับเอาแต่หัวเราะจนลืมสั่งคัทเลยค่ะ

ถ้าคุณสามารถเลือกได้ คุณอยากมีพลังวิเศษแบบไหน

ซูโฮ: ผมเป็น EXO ผมเลยมีพลังที่สามารถควบคุมน้ำได้อยู่แล้วครับ (หัวเราะ)

อีมินกิ : ผมเปลี่ยนใจทุกๆ ครั้งที่โดนถามคำถามนี้เลยครับ ผมว่าจะเป็นพลังอะไรก็ได้ แต่ขอแค่สักอย่างเดียวก็ยังดีครับ

ฮันจีมิน : ตอนแรกฉันคิดว่าอยากหายตัวไปไหนมาไหนได้ค่ะ จะไปเที่ยวหรือไปไหนมาไหนก็สะดวก แต่พอมีคนถามว่าระหว่างหายตัวกับย้อนเวลาจะเลือกแบบไหน พอมาคิดอีกทีฉันว่าย้อนเวลากลับไปอดีตได้น่าจะดีกว่าค่ะ ได้กลับไปเจอครอบครัวหรือคนที่จากโลกไปก่อนด้วย

Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho
ถ้าต้องนิยามซีรีส์Behind Your Touchในหนึ่งประโยค คุณจะนิยามว่าอย่างไร

ผู้กำกับคิมซอกยุน : “ตลกแต่น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ” ครับ

ฮันจีมิน : “ซีรีส์ฮิปๆ (Hipster)” เหมือนชื่อเรื่อง (ภาษาเกาหลี) เลยค่ะ เป็นคาแรกเตอร์ผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครจริงๆ ค่ะ ทั้งที่เป็นตัวละครตัวเดียวกัน แต่ทุกฉากของแต่ละตอนที่ถ่ายทำมันช่างแปลกใหม่ ทำให้ฉันตื่นเต้นและสนุกกับการแสดงมากค่ะ

อีมินกิ : “จะฮิปฯ จริงหรือไม่?” ต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองในวันที่ 12 สิงหาคมที่จะถึงนี้นะครับ

ซูโฮ : “ซีรีส์ที่รวมเสน่ห์หลากหลาย” ครับ

Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho
สิ่งที่อยากให้ผู้ชมตั้งตารอชมในซีรีสเกาหลีเรื่อง์Behind Your Touchคืออะไร

ผู้กำกับคิมซอกยุน : นอกจากความตลกและความระทึกขวัญแล้ว ยังมีสัตว์นานาชนิดให้เห็นในเรื่อง ซึ่งสัตว์ส่วนใหญ่เป็นสัตว์เลี้ยงของเหล่าทีมงาน ผมคิดว่าน่าจะเป็นจุดสนใจที่ทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินมากขึ้นครับ

ฮันจีมิน : ซีรีส์ของเราเป็นแนวแฟนตาซี ขณะที่รับชมอาจจะจินตนาการไปด้วยก็ได้ว่า ถ้าเรามีพลังจิต
เหมือนเยบุนแล้วจะเป็นอย่างไร การคาดเดาว่าเยบุนจะใช้พลังวิเศษอย่างไรเพื่อช่วยไขคดีฆาตกรรมต่อเนื่องและลุ้นไปพร้อมๆ กันว่าใครคือผู้ร้าย ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจค่ะ

อีมินกิ : ในเมืองมูจินมีตัวละครหลากหลาย แต่ละตัวละครมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร อยากให้รอติดตามชมพวกเขาด้วยครับ

ซูโฮ : ในเรื่องมีคดีใหญ่เกิดขึ้นหลายคดีครับ อยากให้ร่วมลุ้นและตามสืบไปด้วยกันครับ

Behind Your Touch, อีมินกิ, ฮันจีมิน, ซูโฮ, Lee Min Ki, Han Ji Min, Suho

.

.

TEXT : ImJinah

PHOTO : Netflix, JTBC

.

.

.

อัพเดตข่าวบันเทิงเกาหลี ซีรี่ย์เกาหลี ดาราเกาหลี ไอดอลเกาหลีได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

ไลน์อัพหนัง-รายการ-ซีรี่ย์เกาหลี 2023 ใน Netflix แน่นตาแตก นักแสดงซุปตาร์เต็มจอ!

คิมอูบิน อัศวินสุดหล่อจาก Black Knight กับสัมภาษณ์สุดพิเศษสำหรับแฟนๆ สุดสัปดาห์!

เบื้องหลังกว่าจะมาเป็น The Glory และบทสัมภาษณ์พิเศษ นักแสดงเลือกบทบาทในเรื่องที่อยากลองเล่น!

สปอยล์เล็กๆ กับรีวิวThe Gloryแนวแก้แค้นแบบสับ และเหตุผลที่ทำให้ไม่ควรพลาดชมเรื่องนี้!

Sweet Home ประกาศสร้างต่ออีก 2 ซีซั่นไปเลยสิคะ พร้อมไลน์อัพนักแสดงแบบตาแตก ตัวท็อปแน่น!

จุนโฮ – ยุนอา จากไอดอลตัวท็อปเจน 2 ที่ร่วมสเตจกันจนเป็นไวรัล สู่พระนางใน King The Land !!!

รักวัยรุ่นใสๆ แน่นะวิ! รีวิวหนังเกาหลี 20th Century Girl จาก Netflix เรื่องราวรักแรกที่มูฟออนยาก!

พูดคุยกับปีเตอร์ – กรรณ นักแสดงจากหนังไทยของ Netflix เรื่อง “Hunger คนหิว เกมกระหาย”

ผู้บริหาร lululemon

พูดคุยถึงคุณภาพชีวิตที่ดี&นวัตกรรมล้ำๆ กับ Gareth Pope ผู้บริหาร lululemon

account_circle
event
ผู้บริหาร lululemon
ผู้บริหาร lululemon

ข่าวดีสุดๆ lululemon แบรนด์สปอร์ตแวร์ขวัญใจคนรักสุขภาพเข้ามาเปิดช็อปในไทยแล้ว! งานนี้สุดสัปดาห์ขอพาไปส่องอีเวนต์เปิดตัวที่มีคนดังรักขุภาพมาร่วมงานอย่างคึกคัก พร้อมพูดคุยกับ ผู้บริหาร lululemon และพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์ ถึงมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ที่ดีอย่างน่าสนใจ

ผู้บริหาร lululemon
ผู้บริหาร lululemon นำโดย นาธาน ชาง รองประธานฝ่ายการตลาดแบรนด์และชุมชนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, แกเร็ธ โป๊ป รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ ทิม แคมป์เบลล์-สกอตต์ ผู้อำนวยการประเทศประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับอีเวนต์ฉลองการเปิดช็อปในเมืองไทยที่ชั้น 1 โซน Central Court  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น ได้รับความสนใจจากคนดังในแวดวงสุขภาพมาร่วมงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของไทย ตัวแทนอินฟลูเอนเซอร์ และดารานักแสดงชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ภพ -ไตรภพ เหล่าอุดม ผู้ร่วมก่อตั้งไอรอนไฮฟ์ยิม และแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของไทย, อแมนด้า – ชาลิสา ออบดัม, พลอย-คุณามาศ พรประทานเวช นักวิ่งและเจ้าของกิจการร้านพอลลี่คาเฟ่ รวมถึงนักแสดงชื่อดัง ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร ดารานักแสดงชื่อดัง และต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง

ต่อ-ธนภพ และต้าเหนิง-กัญญาวีร์ ในวันงานฉลองเปิดช็อป

ก่อนอื่นขอพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักแบรนด์ lululemon สักเล็กน้อย แบรนด์นี้ก่อตั้งเมื่อปี 1998 ในเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา เป็นบริษัทเสื้อผ้ากีฬาสำหรับผู้หญิงและผู้ชายซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง เน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับโยคะ วิ่ง เทรนนิ่ง และกิจกรรมออกกำลังกายอื่นๆ ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 650 แห่งทั่วโลก

lululemon
อแมนด้า ออบดัม

ต้องบอกว่าแบรนด์ lululemon เป็นที่รู้จักและชื่นชอบในหมู่คนออกกำลังกายมานานแล้ว โดยเฉพาะสาวโยคะที่ต่างก็ชื่นชอบ คนรอบตัวของเราที่เล่นโยคะต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ชุดโยคะของแบรนด์นี้เริ่ดมาก คุณภาพดี ใช้ได้นาน ไม่ยืดย้วยง่าย พอแบรนด์มาเปิดช็อปในไทยก็เลยตื่นเต้นกันใหญ่ งานนี้นอกจากไปอัพเดเทชุดสวยๆ แล้วสุดสัปดาห์ก็เลยถือโอกาสพูดคุยกับ แกเร็ธ โป๊ป รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ lululemon athletica ที่บินมาร่วมงานนี้แบบเจาะลึกมาฝากกันค่ะ

Q&A with Gareth Pope: Quality Life Concepts

ผู้บริหาร lululemon
แกเร็ธ โป๊ป รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ lululemon athletica

Q: ในมุมมองของผู้บริหารแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับ คุณภาพชีวิตคุณคิดว่าการมีไลฟ์สไตล์ที่ดีควรจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และถ้าคนคนหนึ่งอยากจะเริ่มต้นปรับเปลี่ยนตัวเองไปสู่ไลฟ์สไตล์ที่ดี คุณมีข้อแนะนำอย่างไร

A: ผมขอแบ่งปันเรื่องราวของผม ผมมีลูกสาวสองคน ถ้าคุณบอกให้พวกเขาทำความสะอาดห้องนอนแต่ห้องนอนของคุณรก พวกเขาจะแย้งคุณว่า “ทำไมหนูต้องทำความสะอาดด้วย พ่อยังไม่ทำเลย” ผมจึงบอกกับพวกเราทุกคนที่ lululemon ว่าหากเราอยากให้ความสำคัญและนำเสนอชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เราก็ต้องใช้ชีวิตแบบเดียวกันด้วย

ดังนั้นความคิดนี้จึงเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทำ ออกกำลังกายให้ได้เหงื่อวันละครั้งเป็นหนึ่งในคำขวัญของบริษัทเรา  ลองหาเวลาในแต่ละวันของคุณเพื่อออกกำลังกายและดูแลตนเองในรูปแบบต่างๆ เช่น การทำสมาธิ ฝึกการเจริญสติ (mindfulness) ให้เวลากับตัวเอง และใช้เวลากับคนที่คุณรัก นั่นคือสิ่งที่เราพูดถึงตลอดเวลา เรามีคลาสเรียนมากมายในบริษัทของเรา เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตแบบนั้นได้

มี 3 องค์ประกอบสำหรับความเป็นอยู่ที่ดี ได้แก่ สุขภาวะทางกาย สุขภาวะทางจิต และสุขภาวะทางสังคม ซึ่งการศึกษาทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่าองค์ประกอบเหล่านี้เป็นองค์ประกอบหลักเพื่อให้คนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น

เราไม่เพียงแต่สนับสนุนความคิดนี้เท่านั้น แต่เราคาดหวังให้ทีมงานของเราเบลนด์แนวคิดนี้เข้าไปในการใช้ชีวิตของพวกเขาด้วย ถ้าให้เปรียบเทียบมันก็เหมือนกับเรื่องลูกของผม ผมคิดว่ามันสำคัญยิ่งขึ้นถ้าคุณเป็นผู้บริหารระดับระดับสูง เพราะทุกคนจะมองคุณและดูว่าคุณปฏิบัติอย่างไร ถ้าคุณออกไปทานอาหารกลางวันเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง คุณกลับบ้านเร็วเพื่อไปวิ่งหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ถ้าคุณใช้ชีวิตตามความคิดอย่างแท้จริงเช่นนั้น มันจะเปิดทางให้คนอื่นๆ ทำตามได้เช่นกัน

พลอย - คุณามาศ พรประทานเวช
พลอย – คุณามาศ พรประทานเวช นักวิ่งและเจ้าของกิจการร้านพอลลี่คาเฟ่

Q: เนื่องจาก lululemon เป็นแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดจากฝั่งตะวันตก ซึ่งมีความแตกต่างจากคนเอเชียทั้งในด้านของสรีระ รสนิยม ไลฟ์สไตล์ และวัฒนธรรม คุณมีการปรับสินค้าให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าโซนเอเชียหรือลูกค้าในประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร

A: เป็นคำถามที่ดีครับ และนี่เป็นหนึ่งในความท้าทาย ถ้าเรามองจากแบรนด์ขนาดเล็กภายในประเทศ เติบโตไปสู่แบรนด์ระดับโลกในหลายๆ ประเทศ ผมคิดว่าทางแบรนด์โชคดีที่มีจุดยืนและแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อยู่บนความคิดสากลที่ว่า ทุกคนต้องการมีสุขภาพดีและมีความสุขมากขึ้น ซึ่งเป็นคำพูดสามารถได้ยินจากทุกที่ทั่วโลก ผมคิดว่าไม่มีใครที่จะพูดว่า “ฉันอยากมีสุขภาพแย่ลง ฉันอยากมีความสุขน้อยลง” ความคิดเหล่านี้ที่เป็นจุดยืนของเราจึงมีความเป็นสากล

ส่วนความแตกต่างในเรื่องผลิตภัณฑ์นั้น ผลิตภัณฑ์ประมาณ 20% ของผลิตภัณฑ์ของเราเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะของเอเชียที่คำนึงถึงตั้งแต่ความพอดีสัดส่วนและไซส์ของร่างกายที่แตกต่างกันจากทั่วโลก ดังนั้น Asia Fit  จะมีความแตกต่างในด้านสัดส่วนและขนาดรวมถึงมีสไตล์เฉพาะตามสภาพอากาศเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เช่น สภาพอากาศร้อนในเอเชียหรือช่วงฤดูมรสุม ดังที่ผมได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่าประมาณ 20-25% ของผลิตภัณฑ์ของเรามีความเฉพาะเจาะจงสำหรับตลาดนั้น ๆ

สิ่งที่เราปรับตัวมีหลายอย่าง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ คอมมูนิตี้ ภาษา  แต่ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าเป็นความโชคดีสำหรับแบรนด์ที่มีการปรับตัวตามตลาดต่างๆที่ 20% เพราะอีก 80% ของธุรกิจของเรามีแนวความคิดเบื้องหลังและโครงสร้างที่เป็นสากล การเชื่อมต่อกับคอมมูนิตี้ในที่นี้ก็ไม่ต่างจากรูปแบบที่ทางแบรนด์ทำในสหราชอาณาจักร แคนาดา และ ออสเตรเลีย ซึ่งในแต่ละที่จะมีความแตกต่างเล็กน้อย นั่นคือสาเหตุที่เราให้ความสำคัญกับการมีทีมงานที่เป็นคนท้องถิ่นที่เข้าใจเกสต์ของเรา (guests of lululemon) และคอมมูนิตี้ในประเทศ

Q: ในฐานะแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรม คุณคิดว่าความสมดุลระหว่าง นวัตกรรมและ ความรู้สึกของมนุษย์คือตรงไหน

A: ผมไม่คิดว่ามันเป็นความสมดุล ผมคิดว่ามันเป็นทุกอย่าง สำหรับเรา เรามองผ่านเลนส์ของนวัตกรรม นวัตกรรมที่ออกแบบนั้นอาจจะทำให้ “ฉันอยากรู้สึกอย่างไรเมื่อใส่ผลิตภัณฑ์นี้”  อย่างนวัตกรรมมากมายที่อยู่เบื้องหลังกางเกง Align™ เช่น น้ำหนักเบาบางอย่างไร้ที่ติที่ทำให้รู้สึกเหมือนแทบไม่ได้ใส่เลย และมอบความรู้สึกที่เราเรียกว่า ความรู้สึกสบายเหมือนไม่ได้ใส่อะไร (Naked Sensation) ซึ่งเกือบจะเป็นความรู้สึกตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับประเภท Fast and Free ซึ่งเป็นกางเกงรัดรูปและเราเรียกว่าความรู้สึกกระชับ (Hugged Sensation) ความรู้สึกก็จะเหมือนคุณกำลังถูกกอดเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ถูกรองรับเวลาคุณวิ่งและออกกำลังกายอย่างหนัก ส่วนกางเกง Align™ ที่ให้ความรู้สึกสบายเหมือนไม่ได้ใส่อะไร ได้ผ่านนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญแก่ความรู้สึกที่คุณต้องการขณะสวมใส่ผลิตภัณฑ์ ดังนั้น นวัตกรรมจึงขับเคลื่อนความรู้สึก แต่นวัตกรรมยังสามารถขับเคลื่อนสิ่งอื่นๆ ได้ด้วย การดูดซับเหงื่อ หรือการกันน้ำของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ส่งผลต่อความรู้สึกเสมอไป แต่สำหรับพวกเราแล้ว นวัตกรรมคือจุดเริ่มต้นที่ส่งผลต่อการใช้งานและความรู้สึก

Q: ในโอกาสที่คุณเปิดตัวในเมืองไทย สินค้าชิ้นใดที่คุณจะแนะนำสำหรับชาวไทยเพื่อทำความรู้จักแบรนด์ lululemon

A: เริ่มต้นด้วยกางเกงได้เลย สำหรับผู้หญิง ต้องเริ่มด้วยกางเกง Align™ และหากเป็นผู้ชาย ต้องเริ่มด้วย กางเกง ABC โดยทั้งสองรุ่นนั้น lululemon คือเจ้าของสิทธิ์และหลายคนส่วนใหญ่เลือกซื้อเพื่อทำความรู้จักกับแบรนด์ ในเรื่องสัดส่วน การใช้งานได้จริงขณะที่เคลื่อนไหว ความรู้สึกเมื่อใส่ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะในช่วงเล่นโยคะหรือออกกำลังกายใดๆ หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน แล้วส่วนที่สองคือสภาวะความรู้สึกที่เราพูดถึง โดยปกติแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือบางคนใส่ผลิตภัณฑ์เป็นครั้งแรกจะพูดว่า ว้าว ฉันไม่เคยรู้สึกสบายขนาดนี้มาก่อน ฉันจะไม่ใส่อย่างอื่นเลย แล้วฉันจะเลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์นี้อีกและนั่นมักจะเป็นเสียงตอบรับจากการใส่กางเกงผู้หญิงและกางเกงผู้ชายของเรา

เปิดใจ lululemon’s first ambassador of Thailand

lululemon
ไตรภพ เหล่าอุดม ผู้ร่วมก่อตั้งไอรอนไฮฟ์ยิม และแบรนด์แอมบาสเดอร์ lululemon คนแรกของไทย

นอกจากได้พูดคุยกับ ผู้บริหาร lululemon แล้ว ในงานนี้เรายังได้พบกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ lululemon คนแรกของไทย “ไตรภพ เหล่าอุดม” ซึ่งเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านสุขภาพด้วย งานนี้ต้องขอคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับการรักและดูแลตัวเองสักหน่อย

ความรู้สึกที่ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ lululemon

ตอนแรกรู้สึกตกใจครับ เพราะคำว่า “แบรนด์แอมบาสเดอร์” ในมุมมองผมจะเป็นซูเปอร์สตาร์หรือดารา ไม่ได้คิดว่าว่าการที่เราเป็นคนธรรมดา ใช้ชีวิตแบบคนรักสุขภาพที่เป็นตัวของเราเองจะได้รับการเลือก เรียกว่าเป็นโอกาสที่ทำให้เห็นว่าการที่เราเป็นตัวเอง มั่นใจในตัวเอง เป็นเรื่องที่ดีมากๆ

ทัศนคติที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงตัวเองคืออะไร

ผมว่าทุกอย่างมันเริ่มจากตัวเรา ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างแบบไหน เป็นอย่างไร แค่เป็นตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง รักตัวเอง มันจะสะท้อนออกไปให้คนอื่นรับรู้ได้ด้วย อย่างตัวผมเองพยายามจะมีความสุขจากข้างในก่อนเพื่อที่จะถ่ายทอดให้กับคนรอบข้างผมได้

ไอเท็มที่คนจะเริ่มออกกำลังกายต้องมี

รองเท้า เป็นเบสิคที่ต้องมี

กระเป๋า ที่พกพามือถือ กุญแจ หรืออื่นๆ ติดตัวได้ง่าย

เฮดแบนด์ เพื่อซับเหงื่อ

ไอเท็มที่ชอบจากแบรนด์ lululemon

  1. ABC Pants ของผู้ชาย ผมก็เพิ่งเคยเห็นกางเกงที่ยืดได้ขนาดนี้ถึง 4 ทิศทาง เทคโนโลยีผ้าที่เขาใช้ทำให้ไม่เกิดการเสียดสี ค่อนข้างตอบโจทย์ของผมที่เล่นกีฬาและแอ๊คทีฟ
  2. ชุดออกกำลังรุ่น License to train และ Pace breaker ใส่สบาย แห้งเร็ว ด้วยนวัตกรรม Science of feel
  3. เสื้อ ของแบรนด์นี้ค่อนข้างแห้งไว เบา ไม่มีตะเข็บด้านข้างตัว สวมใส่สบาย
ช็อป lululemon แห่งแรกในเมืองไทยที่ชั้น 1 โซน Central Court  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

…ใครสนใจนวัตกรรมใหม่ๆ จาก lululemon ไปชมกันได้ที่ช็อป ณ ชั้น 1 โซน Central Court  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ค่า

Text: Nicharee W.

ขอบคุณภาพจาก lululemon

#Sudsapda #Interview

ติดตามอ่านบทความด้านความงามและไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์ THREE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor Beauty

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

CELEBRATING CHANTECAILLE 25 YEAR

realme

realme ฉลองครบรอบ 5 ปี สร้างปรากฏการณ์ติด Top 4 ในไทย!

Alternative Textaccount_circle
event
realme
realme

realme ฉลองครบรอบ 5 ปี สร้างปรากฏการณ์ติด Top 4 ในไทย! มาแรงแซงโค้งหลังโต 51% ใน Q2 ประกาศขึ้นแท่นมือถือที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทยจากยอดการขนส่งสินค้า ชวนแฟน ๆ ร่วมฉลองความสำเร็จไปด้วยกันครบรอบ 5 ปี ตลอดเดือนสิงหาคมนี้

realme (เรียลมี) แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ล่าสุดขึ้นแท่นแบรนด์มือถืออันดับ Top 4 ของประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตของยอดการจัดส่งสินค้า (Shipment Units) สูงเป็นอันดับ 1 ในไตรมาส 2 ของปี 2566 อยู่ที่ 51% จากรายงานฉบับล่าสุดของ Canalys บริษัทวิเคราะห์ตลาดอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี แซงหน้าแบรนด์เจ้าตลาดอื่น ๆ อย่างขาดลอย โดยทางแบรนด์ตั้งเป้าไต่ขึ้นสู่ Top 3 ในประเทศไทยในเร็วๆ นี้ นอกจากความสำเร็จในไทยแล้ว realme ยังครองอันดับ 5 ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ พร้อมประกาศความสำเร็จของแบรนด์ในฐานะผู้ส่งมอบนวัตกรรมทันสมัยในระดับราคาที่ผู้บริโภคจับต้องได้ สมดังวิสัยทัศน์ของแบรนด์ “Dare to Leap” อย่างแท้จริง นอกจากนี้ realme เตรียมจัดงานเฉลิมฉลองความสำเร็จครบรอบ 5 ปี เพื่อขอบคุณแฟนๆ ตลอดเดือนสิงหาคม

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ realme สร้างปรากฏการณ์การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีของตลาดสมาร์ตโฟน แต่ realme ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำความสำเร็จของทางแบรนด์ และเพื่อการเฉลิมฉลองความสำเร็จครบรอบ 5 ปี realme ประกาศความเป็นเลิศด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 มิติของแบรนด์ ได้แก่

realme
  • LEAP UP “Branding” – ภายในเวลาไม่ถึง 5 ปี realme สามารถขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยล่าสุด สามารถกระโดดข้ามคู่แข่งได้ถึง 29 อันดับในรายชื่อ “Top 50 Kantar BrandZ Chinese Global Brand Builders 2023” ซึ่งหลังเริ่มธุรกิจมาเพียง 3 ปี ในปี 2021 realme ก็สามารถจำหน่ายสมาร์ตโฟนทะลุ 100 ล้านเครื่องได้ภายในเวลาเพียง 37 เดือน (ข้อมูลจาก Strategy Analytics) และครองตำแหน่งแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 6 ของโลก เป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้ realme ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ “50 Most Innovative Companies” โดย Fast Company เมื่อปี 2020 และการยกย่องจากเวทีระดับโลกอีกมากมาย
realme
  • LEAP UP “Design” – แฟน ๆ สมาร์ตโฟนทั่วโลกต่างยอมรับว่าแฟชั่นสมาร์ตโฟนต้องยกให้ realme เพราะเป็นแบรนด์ที่มีสตูดิโอนักออกแบบแยกเป็นอิสระอย่าง realme Design Studio ทั้งยังได้ร่วมงานกับนักออกแบบชั้นนำระดับโลกอีกมากมาย ทั้ง Naoto Fukasawa ในการสร้างสรรค์ realme GT Master Edition และ realme GT2 Pro Master Edition รวมถึงการร่วมมือกับแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกอย่าง Coca-Cola® ในรุ่น realme 10 Pro 5G Coca-Cola Edition และรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดและสร้างกระแสฮือฮาอย่าง realme 11 Pro 5G series ซึ่งได้ทำงานร่วมกับอดีตนักออกแบบจากแบรนด์ Gucci ซึ่งยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำแฟชั่นในโลกสมาร์ตโฟนของ realme ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น
realme
  • LEAP UP “Technology” – ในช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างยุค 4G ไปสู่ 5G นั้น realme เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่นำเสนอสมาร์ตโฟน 5G ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้บนแนวคิด “All in 5G” จนสถาบัน Counterpoint Research ยกย่องให้ realme เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟน 5G ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกประจำไตรมาส 4 ของปี 2021 รวมถึงการนำเสนอโซลูชันการชาร์จเร็วในมือถือระดับกลางที่มีกำลังไฟสูงถึง 65W ไปจนถึง 125W -150W เป็นเจ้าแรก ๆ ของตลาด และวันนี้ realme สามารถนำเสนอระบบชาร์จไวสะท้านวงการที่ 240W เป็นผลสำเร็จ ซึ่งไม่เพียงระบบการเชื่อมต่อและชาร์จไฟเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟีเจอร์อื่น ๆ ที่แบรนด์มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อมอบสิ่งที่ดีกว่าแก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ตามแนวคิด “No Leap, No Lauch” กล่าวคือ ถ้าไม่มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ก็จะไม่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ นั่นเอง

สำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปี เพื่อขอบคุณแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุน realme เตรียมจัดกิจกรรม มากมายเพื่อเอาใจแฟน realme ในประเทศไทยผ่านกิจกรรมสุดพิเศษเพื่อมาเฉลิมฉลองความสำเร็จร่วมกันกับ realme ที่บอกเลยว่าพิเศษสุด ๆ ในรอบปี แฟน ๆ realme สามารถ ติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดเดือนสิงหาคมนี้ จาก realme Thailand ผ่านช่องทาง

เมอร์เซเดส เบนซ์

เมอร์เซเดส-เบนซ์์ เปิดตัว The new GLC ประเดิมส่ง GLC 350 e 4MATIC AMG

Alternative Textaccount_circle
event
เมอร์เซเดส เบนซ์
เมอร์เซเดส เบนซ์

เมอร์เซเดส-เบนซ์์ เปิดตัว “The new GLC” ประเดิมส่ง GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic เขย่าตลาดปลั๊กอินไฮบริดด้วยเอสยูวีระดับลักชั่วรี่ ขับขี่ไฟฟ้าได้ไกล 120 กิโลเมตร

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) โชว์ตัวเลขยอดขายและการเติบโตในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2023 พร้อมเดินหน้าบุกตลาดครึ่งปีหลัง เริ่มด้วยการเผยโฉม The new GLC เอสยูวียอดนิยมของแบรนด์ที่เดินทางมาถึงเจเนอเรชั่นที่ 3 เปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริด GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ขึ้นไลน์ผลิตทำตลาดในประเทศแบบ Local production นำเสนอคอนเซ็ปต์ “READY FOR IT” ชูภาพยนตรกรรมเหนือระดับที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล โดดเด่นด้วยขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้นทั้งในด้านของสมรรถนะและระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้า สามารถทำระยะทางได้มากถึง 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมากมาย เสริมฟังก์ชั่นความปลอดภัยต่อยอดจุดแข็งด้านการเป็นยนตรกรรมรูปแบบเอสยูวีที่เหมาะกับการใช้งานและการขับขี่ทั้งในรูปแบบ On-Road และ Off-Road ตอกย้ำความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 2.6 ล้านคัน นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดโลก

เมอร์เซเดส เบนซ์

มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำยอดขายรวมทั้งสิ้น 1,019,200 คันทั่วโลก มีอัตราการเติบโตที่ 5% โดยส่วนหนึ่งคือยอดขายในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำตัวเลขสูงถึง 102,600 คัน เติบโตกว่า 121% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และสำหรับยอดขายในประเทศไทย มีการเติบโตกว่า 6% ปิดยอดจดทะเบียนครึ่งปีแรกได้กว่า 7,700 คัน เป็นผลมาจากการนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ลงตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการเดินหน้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าด้วยการเติมเต็ม EV Portfolio ในประเทศไทย ต่อเนื่องจาก 2 รุ่นแรกอย่าง EQS และ EQB เรามีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมกัน 2 รุ่น ในอีก 6 สัปดาห์นับจากนี้ และในปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดให้เครือข่ายผู้จำหน่ายฯ สามารถจำหน่ายและให้บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ครอบคลุมมากกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ ยกระดับความสะดวกสบายให้ลูกค้าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของและเข้ารับบริการแบบครบวงจรได้ในทุกพื้นที่

นอกจากการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังให้ความสำคัญกับรถยนต์พลังงานทางเลือกในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปภายในมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โดยรถปลั๊กอินไฮบริดเจเนเรชั่นใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ทำตลาดในประเทศไทย สามารถมอบระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้มากกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนไทย และสำหรับผู้ที่ขับขี่ระยะทางไกลก็ยังสามารถขับขี่ต่อเนื่องได้ด้วยเครื่องยนต์สันดาปโดยไม่ต้องกังวลในเรื่องระยะทางและการหาจุดชาร์จไฟฟ้าระหว่างทาง เช่นเดียวกับ The new GLC ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้”

The new GLC เป็นอีกขั้นของยนตรกรรมเอสยูวีที่สืบทอดดีเอ็นเอมาจาก Mercedes-Benz GLK ที่เปิดตัวในปี 2008 ซึ่งถือเป็นเจเนอเรชั่นแรกของรถเอสยูวีขนาดกลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ก่อนที่จะต่อยอดมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ในปี 2015 ภายใต้ชื่อ Mercedes-Benz GLC เอสยูวีที่ถูกพัฒนาและปรับโฉมให้มีทั้งความหรูหรา ความสปอร์ตและดีไซน์ที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยที่ยังคงจุดแข็งในด้านของการเป็นรถเอสยูวีที่เหมาะกับการขับขี่ทั้งในรูปแบบ On-Road และ Off-Road ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย จนทำให้ GLC ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายรวมกว่า 2,600,000 คันทั่วโลก ขึ้นแท่นเป็นโมเดลที่ขายดีที่สุดตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และในปีนี้ The new GLC เจเนอเรชั่นที่ 3 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ด้วยขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริด โดยขึ้นไลน์ผลิตในชื่อรุ่น “GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic”

เมอร์เซเดส เบนซ์

มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The new GLC โมเดลปี 2023 เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ในตระกูลเอสยูวีขนาดกลางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “READY FOR IT” วางกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลที่มองหารถเอสยูวีระดับลักชัวรี่ พร้อมนำเสนอยนตรกรรมที่มีความเพียบพร้อมและสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวันหรือการขับขี่ระยะทางไกล ครอบคลุมทั้งรูปแบบ On-Road และ Off-Road โดยเปิดตัวในรุ่นปลั๊กอินไฮบริด GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ตามปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity ผสานความสปอร์ตและความหรูหราอย่างลงตัว ติดตั้งเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ยกระดับการทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้มีสมรรถนะที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้แบตเตอรี่แรงดันสูงที่มีความจุ 31.2 kWh ซึ่งสามารถมอบระยะทางการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้มากถึง 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP โดยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดเจเนเรชั่นล่าสุดจะรองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าทั้งแบบ DC Charge สูงสุด 60 kWh และ AC Charge สูงสุด 11 kWh นอกจากนี้ GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ยังเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยทั้งในด้านของฟังก์ชันอำนวยความสะดวก ระบบการเชื่อมต่อและการสื่อสารที่เหนือระดับ ระบบความปลอดภัยขั้นสูง ที่ถูกติดตั้งมาอย่างครบครัน พร้อมให้ทุกคนเป็นเจ้าของหนึ่งในยนตรกรรมเอสยูวีที่ดีที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ”

เมอร์เซเดส เบนซ์

GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic วางจำหน่ายในราคา 4,180,000 บาท

GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic เป็นหนึ่งในรุ่นที่เข้าร่วมโปรแกรมการขยายระยะเวลาการรับประกันคุณภาพของแบตเตอรี่แรงดันสูง (High Voltage Battery) ที่ติดตั้งในรถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยรับประกันคุณภาพเป็นระยะเวลา 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง (Unlimited mileage 10-year warranty for HV Battery)

GLC 350 e 4 MATIC AMG Dynamic มาพร้อมสีตัวถัง 6 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีน้ำเงิน (Nautic Blue) สีเทา (Graphite Grey) สีเงิน (Mojave Silver) สีเงิน (High-tech Silver) และสีดำ (Obsidian Black)

สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของหรือต้องการรับข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมของ The new GLC รุ่น GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic สามารถติดต่อผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือติดตามรายละเอียดและจองรถยนต์ทางออนไลน์ได้ที่เว็ปไซด์ https://www.mercedes-benz.co.th รวมถึงช่องทางโซเชี่ยลมีเดียของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ทุกช่องทาง

Be Mine SuperStar, พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, Be Mine SuperStar พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst

จา-เฟริสท์ แย้มเบื้องหลังกองถ่ายทำซีรี่ย์เรื่อง Be Mine SuperStar และการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

Alternative Textaccount_circle
event
Be Mine SuperStar, พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, Be Mine SuperStar พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
Be Mine SuperStar, พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, Be Mine SuperStar พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst

ถ้าพูดถึงซีรี่ย์ที่หยิบมาจากนิยายชื่อดังแล้วมีแฟนๆ รอคอยมากมาย หนึ่งในนั้นก็ต้องมีซีรี่ย์เรื่อง Be Mine SuperStar (พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง) ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 3 อยู่ทุกคืนวันจันทร์เวลา 22.45 น. ซึ่งพอนิยายถูกหยิบเอามาถ่ายทอดเป็นซีรี่ย์ก็ได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดีจากผู้ชมเลย ยิ่งได้สองนักแสดงนำที่เคยร่วมงานกันมาแล้วอย่างจา พชร และเฟริสท์ ฉลองรัฐ ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเคมีเคใจเลยจ้า

สุดสัปดาห์ก็แอบได้ไปพูดคุยกับจาและเฟริสท์ถึงการทำงานในซีรี่ย์เรื่องนี้ว่าเบื้องหลังการถ่ายทำเป็นยังไง รวมถึงเรื่องการกลับมาร่วมงานกัน แล้วยังได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่ชื่อดังอีกหลายคนด้วย

Be Mine SuperStar, พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, Be Mine SuperStar พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst

พูดคุยกับ จา-เฟริสท์ กับบทบาทใหม่ในซีรี่ย์เรื่อง Be Mine SuperStar

เริ่มด้วยเล่าให้ฟังหน่อยค่ะว่าซีรี่ย์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

จา : เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของนักศึกษาคนหนึ่งที่มีพี่พระเอกคนหนึ่งอยู่ในดวงใจตั้งแต่เด็กครับ จนวันหนึ่ง เขาได้มีโอกาสได้เข้าไปทำงานใกล้ชิดกับพี่พระเอก เขาเลยรู้สึกว่านี่แหละโอกาสของเขาที่จะทำให้พี่พระเอกรู้สึกประทับใจได้ ซึ่งจะบอกว่าแค่ฟังชื่อก็ต่างกันแล้วเนอะ เป็นพี่พระเอกกับนักศึกษาคนหนึ่ง ซึ่งเรารู้สึกว่าเขาอยู่ห่างไกลกับเรามาก ตัวละครที่เราเล่นจะฟีลเด็กหมา แล้วเขาเหมือนดาวที่อยู่บนโลก รู้สึกว่าห่างไกลกันเหลือเกิน อะไรอย่างนี้ครับ

ก็คือเหมือนฟีลสุภาษิตสำนวนไทยอะไรแบบนี้ใช่มั้ยคะ

จา : ใช่ครับ เป็นเหมือนคำเปรียบเทียบอะไรอย่างนี้ครับ เพราะว่าสุดท้ายแล้ว เด็กหมาจะสามารถพิชิตหัวใจพี่พระเอกได้หรือเปล่า ก็ต้องรอดูครับ

พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
แล้วคาแร็กเตอร์ที่แต่ละคนได้รับเป็นยังไง เป็นคนนิสัยแบบไหน

จา : คาแร็กเตอร์ที่ผมได้รับในเรื่อง Be Mine Superstar คือรับบทเป็นปัณณ์ครับ ปัณณ์จะเป็นเด็กหมา ในชื่อเรื่องครับ จะมีความยุกยิกๆ มีความเป็นเด็กครับ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น เขาจะมีความเหมือนโกลเด้นครับ ที่คอยอ้อนเจ้าของ อะไรอย่างนี้ครับ ซึ่งอย่างที่บอกครับเขามีพี่อชิต์เป็นไอดอลมาตั้งแต่เด็กๆ

เฟริสท์ : ตัวคาแร็กเตอร์ของเฟริสท์คืออชิต์ครับ อชิต์จะเป็นนักแสดงในวงการบันเทิง เขาเรียกว่าเป็นพระเอก และเป็นซูเปอร์สตาร์ครับ เขาก็จะมีคาแร็กเตอร์ที่นิ่งๆ ขรึมๆ ด้วยความที่เขาโต และด้วยอุปนิสัยของเขา เขาจะเป็นคนที่นิ่งๆ คิดก่อนค่อยทำ การสื่อสารของเขาส่วนใหญ่จะอยู่ทางสีหน้าและแววตามากกว่าที่จะพูดหรือว่าทำอะไรบางอย่างให้เห็นชัดมากๆ ครับ ตัวพี่พระเอกเขาจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ฉะนั้นมันจะต้องมีคนที่มาทำให้เขาเปลี่ยนไป ต้องรอดูว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน และเขาจะลงเอยกันได้เมื่อไรครับ

ถ้าดูตอนแรกๆ อาจจะเอ๊ะ! ดูไม่มีความเป็นไปได้ที่ตัวอชิต์จะเปลี่ยนไปใช่มั้ยคะ

เฟริสท์ : ใช่ เพราะเขาไม่สนใจเลย เพราะว่าด้วยความที่เขาโฟกัสแต่เรื่องงาน เรื่องงานคือที่หนึ่งสำหรับเขา เขาเลยไม่ได้โฟกัสเรื่องอื่นว่ามีคนชอบเขาหรือเปล่า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำครับ แต่ว่าหลังจากอีพี 3-4 เขาจะเริ่มรู้แล้ว เดี๋ยวเพื่อนรอบตัวเขาจะเริ่มมาบอก หรือว่าตัวปัณณ์จะเริ่มเข้าหาหนักๆ จนเราเริ่มเอ๊ะ! นิดหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่รู้ เดี๋ยวต้องรอดูต่อไปเรื่อยๆ ครับ

ถ้าพูดถึงบทที่เราได้รับในเรื่องนี้กับตัวเอง มีความเหมือนหรือแตกต่างอย่างไรบ้างคะ

จา : ถ้าพูดถึงความเหมือน ผมจะรู้สึกว่าเขาจะเหมือนผมเวลาอยู่กับเพื่อนที่แบบสนิทกันมากๆ ครับ จะมีความแบบกวนๆ กับเพื่อนของผมจะมีความเล่นแบบแหย่ๆ เล่นแบบปัณณ์ อะไรอย่างนี้ครับ ส่วนความต่างคือปัณณ์เขาจะมีความยุกยิกๆ ตลอดเวลา เขาจะมีความแบบคิดอะไรก็พูดแบบนั้น คิดหรือพูดคนเดียวบ้าง รู้สึกว่าเขาขยับตัวตลอดเวลาเลย ซึ่งผมรู้สึกว่าถ้าเป็นมุมมองในตัวเรา เราไม่ได้เป็นถึงขั้นแบบปัณณ์ครับ

เฟริสท์ : จริงๆ ผมว่าค่อนข้างจะแตกต่างจากตัวจริงของผม เพราะว่าผมเป็นคนที่ร่าเริง ผมรู้สึกว่าถ้าเกิดผมได้รับบทปัณณ์ จะดูง่ายสำหรับผมมาก แต่ว่าพอได้รับบทอชิต์ปุ๊บ มันค่อนข้างที่จะตรงกันข้ามกับเรามากๆ ผมไม่ใช่คนนิ่งๆ คิดเยอะ คิดก่อน แล้วก็ประมวลผลซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วก็เอาออกมาแค่นิดเดียว แต่ผมเป็นคนที่คิดแล้วก็ปล่อยมันออกมาเลย ค่อนข้างต่างกับตัวผมมาก

แต่ว่าพอเราได้ทำงานได้เวิร์กกับตัวอชิต์ไปเรื่อยๆ เรารู้สึกว่า เอ๊ย! ความนิ่งของอชิต์ก็คืออีกมุมหนึ่งของตัวเรา เลยกลายเป็นความเหมือนในตัวผมกับตัวอชิต์ ซึ่งความนิ่งตรงนี้ อชิต์เป็นคนให้คาแร็กเตอร์ความนิ่ง ความขรึม ความมีมาด เป็นสิ่งที่อชิต์ให้ผมมาหลังจากได้เล่นบทนี้ครับ ซึ่งช่วงหลังๆ เลยเหมือนเราคาแร็กเตอร์เหมือนกันครับ

พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
เหมือนเราได้เรียนรู้จากการแสดงจากบทบาทนี้

เฟริสท์ : ใช่ แล้วก็เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้นะครับ แบบสมมติว่าเราเจอผู้ใหญ่หรือคุยกับพี่แบบนี้ ก็เหมือนทำให้เราดูนิ่งขึ้น สุขุมขึ้นในแง่ของพาร์ทการทำงาน เหมือนกับว่าเราสามารถใช้มุมนี้ในการทำงานได้ รวมถึงในการเจอผู้ใหญ่ และการทำอะไรต่างๆ มากมายที่จะต้องมีเรียบร้อยและดูมีความสุภาพ อะไรอย่างนี้ครับ

อย่างที่จากับเฟริสท์บอกว่าคาแร็กเตอร์ที่ได้รับในเรื่องนี้มีความแตกต่างจากตัวเอง มีการทำการบ้านหรือไปเวิร์กยังไงบ้างเพื่อถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมา

จา : จริงๆ ด้วยตัวละครแตกต่างจากผมมาก ฉะนั้นเราก็ค่อนข้างที่จะเวิร์กกับมันค่อนข้างที่จะเยอะเหมือนกัน อย่างแรกเลยก็คือไปดูแบ็กกราวนด์ของตัวละครแหละครับ ว่าตัวละครเป็นมาอย่างไร ลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร โดยพื้นฐานก่อน แล้วก็มีเวิร์กช็อปกันเยอะมาก เวิร์กช็อปกับผู้กำกับ เพื่อหาว่าเรารู้จักปัณณ์อย่างไร แล้วเราจะถ่ายทอดความเป็นปัณณ์ออกมาจากตัวแสดงได้อย่างไร จากตัวเราให้คนรู้สึกว่า เออ นี่คือปัณณ์นะ เราก็เวิร์กช็อปหนักมากๆ แล้ว read through บท เยอะเหมือนกันครับ

เฟริสท์ : ของผมก็อย่างที่จาบอก คือเราสองคนพอเป็นตัวหลักในเรื่องนี้ครับ เราต้องเวิร์กหนักกับตัวละครมากๆ ด้วยความต่างมากๆ ของตัวละครกับตัวเรา ของผมจะมีการไปดูสัตว์อย่างม้าครับ เพราะม้าจะมีมาดแบบเราจะรู้สึกว่าม้าดูสง่าโดยธรรมชาติ ก็หยิบเอามาใช้กับตัวละครนี้ได้ เราก็ดูการเคลื่อนไหวของม้า การยืน การขยับตัว การวิ่ง ทำไมทุกอย่าง ทุกอิริยาบถถึงดูสง่าจัง อันนี้เราก็เอามาในหนึ่งพาร์ทของสัตว์ครับ

แล้วก็อีกหนึ่งพาร์ทคือเราก็ไปสังเกตคนครับว่าทำไมคนๆ หนึ่งที่อาจจะอายุเท่ากัน แต่ทำไมคนนี้ดูโตจังเลย เท่าที่ผมดูคือเขามีความนิ่ง กว่าเขาจะพูดออกมาได้คือเขาต้องคิดก่อน แล้วเขาไม่ได้อยากทำอะไรก็ทำเลย เขาจะมีความนิ่ง ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

หรือว่าอาจจะปรึกษาพี่ผู้กำกับ เขาจะให้คำแนะนำที่ค่อนข้างจะดีครับ อย่างเช่น เวลาเราเข้าไปในกอง พี่ผู้กำกับเขาจะย้ำเสมอกับผมว่าเป็นอชิต์ ทุกๆ การกระทำตั้งแต่ก้าวเข้ามาในกองเลย คือเขาจะไม่ให้ผมแบบ โอเค เราเป็นเฟริสท์อยู่ เราเข้าไปในกองแล้วเป็นตัวเฟริสท์นี่แหละ พอ 3 2 1 แอ็คชั่น ปุ๊บ ให้สวิตช์เป็นอชิต์ เขามองว่าไม่เอาแบบนี้ เพราะว่าเขารู้สึกว่าทำให้ตัวเฟริสท์เหนื่อย เดี๋ยวก็ต้องสลับเป็นเฟริสท์ เดี๋ยวก็ต้องสลับเป็นอชิต์ ฉะนั้นเราเป็นอชิต์ไปเลยตั้งแต่ก้าวขาเข้าไปในกอง แรกๆ อาจจะเหนื่อย แต่หลังๆ จะทำให้เราชิน แล้วเรารู้สึกว่า เอ๊ย! มันง่าย เราไม่จำเป็นต้องสวิตช์ทุกครั้งที่เข้าซีนอะไรอย่างนี้ครับ

แล้วเขาก็จะคอยมาเตือนทุกครั้งที่ผมหลุด แบบแอบเผลอคุยสนุกอะไรอย่างนี้ครับ ผมอยากจะบอกว่าจริงๆ ที่นี่ทำงานค่อนข้างเป็นระบบเป็นระเบียบ เขาจะวางไว้แล้วว่าฝึกอันนี้แล้วจะเหมาะสำหรับผม แล้วสิ่งนั้นก็ใช้ได้ในเรื่องของการทำงาน เขาก็เลยแบบ โอเค งั้นวางให้เฟริสท์เป็นอชิต์ตั้งแต่อยู่ในกองเลย มันจะได้ไม่ยาก แล้วก็ไม่หลุดออกจากตัวละครครับ

พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
เหมือนให้เราอินกับตัวละคร จะได้แบบแสดงออกมาเป็นธรรมชาติ

เฟริสท์ : ใช่ครับ จะได้ชิน อยู่ในกองก็คือเป็นตัวละครเลย เวลาคุยกับเพื่อน เขาก็จะขอให้แบบน้อยหน่อย คุยได้ แต่ถ้าอย่าคุยแล้วหลุด คือผมรู้สึกโอเคตรงที่เขาพูดตรงดีนะ เราจะได้รู้เลยว่าความต้องการของเขาคืออะไร แล้วผมก็โอเค รู้สึกว่าสิ่งนี้ถูกต้องเลยและรู้สึกว่าเป็นมืออาชีพดีครับ

มาถึงการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของจากับเฟริสท์บ้าง ทั้งสองคนเคยร่วมงานกันมาก่อน แล้วการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในเรื่องนี้เป็นอย่างไรบ้าง

จา : ก็รู้สึกสนุกครับ บทนี้เป็นในบทบาทใหม่ที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยเห็นเราในมุมมองหรือภาพในการแสดงแบบนี้เลย ซึ่งคาแร็กเตอร์เราก่อนนี้จะเป็นคาแร็กเตอร์นิ่งๆ แต่ว่าคาแร็กเตอร์นี้เป็นคาแร็กเตอร์ที่ค่อนข้างพลิกจากที่ทุกคนเคยเห็นเหมือนกัน ก็ถือว่าเป็นอะไรที่ตื่นเต้น แล้วเราก็ทำงานด้วยกันมาเยอะเหมือนกันครับ

เฟริสท์ : อย่างที่จาบอกครับ คือต้องพูดก่อนว่าเราห่างจากการแสดงร่วมกันแบบเป็นตัวหลักคู่กันมาน่าจะเป็นปีแล้ว พอกลับมาเป็นตัวหลักอีกครั้งหนึ่ง ตอนแรกนึกว่าจะยาก คือโอเคเราเข้ากันได้ดี มันง่ายมาก เพราะว่าเราทำงานด้วยกันมาค่อนข้างบ่อยแล้วก็ทำงานด้วยกันมานาน แต่ว่าสิ่งที่ยากคือเรื่องของบทและบทละคร ฉะนั้นผมเลยรู้สึกว่าเราไม่ได้กังวลเรื่องของการเข้ากันของเราสองคน แต่ผมกังวลเรื่องของบทละครมากกว่า มันเลยโอเคที่เรื่องของการทำงานด้วยกันไม่ได้ยากขนาดนั้น

ปกติทั้งคู่มีวิธีการปรับเคมีกันอย่างไรบ้าง

จา : ผมไม่ได้ปรับเลยครับ หมายถึงว่าเรื่องของเคมีไม่ได้ปรับ แต่ปรับเรื่องของคาแร็กเตอร์ตัวละครมากกว่า เหมือนในการเวิร์กช็อปก็จะปรับไปในตัวอยู่แล้ว ทั้งตัวเราทั้งตัวละคร ถ้าเกิดบอกว่าผมมีวิธีไหนที่จะปรับในเรื่องของเคมี ก็คือไม่มีครับ เพราะว่าเราไปเวิร์กช็อปกัน ก็เหมือนแบบเป็นการปรับอยู่แล้วครับ

พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst

เฟริสท์ : ใช่ ผมคิดแบบเดียวกับจา เราเข้ากันได้อยู่แล้วในพาร์ทของชีวิตจริง แต่ว่าในพาร์ทของการแสดง พอเราสองคนไปเวิร์กช็อป เรารู้หน้าที่ของตัวละครแต่ละตัวแล้ว เรามีหน้าที่แสดงความเป็นตัวละครตัวนั้นออกไป โดยที่เราไม่ต้องคิดว่าอีกฝ่ายเขาจะทำอะไร เพราะว่าในชีวิตจริงเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรใช่ไหมครับ เราก็แค่แสดงในหน้าที่แล้วก็บทบาทของเราอย่างเต็มที่ก็พอแล้ว แล้วก็จะเข้ากันได้ดีโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่าเราเวิร์กด้วยกันบ่อยครับ

แล้วถ้าย้อนกลับไปตอนที่เจอกันครั้งแรก ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง มีภาพจำอะไรต่อกันยังไง

จา : รู้สึกว่าเขาก็เป็นเฟริสท์เหมือนทุกวันนี้ครับ มีความน่ารัก แต่ตอนเจอครั้งแรกเขาก็เป็นคนนิ่งๆ อยู่นะ

เฟริสท์ : จาดูโตครับ ดูโตมาก อาจจะด้วยสรีระ แต่ผมว่าด้วยการแสดงออกบางอย่าง ก็ส่งเสริมทำให้ดูโตเหมือนกัน เพราะว่าเขาก็จะมีนิ่ง เขาเหมือนอชิต์มาก

เหมือนในซีรี่ย์สลับคาแร็กเตอร์กัน

เฟริสท์ : ใช่ เหมือนสลับคาแร็กเตอร์กัน ซึ่งผมก็ โอ้! ดูโตจัง ต้องได้แสดงกับรุ่นพี่แน่ๆ แต่จริงๆ เขาก็เป็นคนที่ขี้เล่นนะ ถ้าเขาอยู่กับเพื่อน เขาก็เป็นคนที่สนุกเลย ซึ่งตอนนี้ก็โตจากตอนนั้นมาก ความคิดก็โต เรื่องของการทำงานก็เติบโตขึ้น เหมือนเราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เอาจริงๆ เราอาจจะไม่ทันได้สังเกตว่าเราโตต่างจากเมื่อก่อนมากแค่ไหน แต่ผมว่าเราผ่านหลายอย่างมา เราโตจากวันแรกมาก ถ้าเราย้อนกลับไปดูวิดีโอวันแรก จะเห็นว่าปัจจุบันโตกว่าตอนนั้นเยอะเลยนะครับ

ถ้าลองนับๆ ดูรู้จักกันมากี่ปีแล้วคะ

เฟริสท์ : สามหรือสี่ปี ประมาณนั้นครับ

พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
ถือว่ารู้จักกันมาหลายปีแล้วเนอะ รีวิวอีกฝ่ายหน่อยว่าเป็นคนยังไง มีเรื่องอะไรที่คนไม่รู้ เม้าท์ให้ฟังหน่อยค่ะ

เฟริสท์ : ผมว่าเขาเป็นคนที่ปล่อยมุกเก่ง น่าทึ่งอย่างหนึ่งก็คือถ้าสมมติว่าเขาให้เล่นซีนๆ หนึ่ง มีไดอะล็อกมา แต่พอจบไดอะล็อกแล้วบางทีเขาให้เรา improvise ผมจะไม่ค่อยถนัดเท่าไร แต่ผมรู้สึกทึ่งจาตรงที่เขาจะมีมุกแบบน่ารักๆ ตลอด อย่างเช่น ไหนลองแกล้งให้เฟริสท์ยิ้มสิ ถ้าสมมติคนให้ผมทำให้จายิ้ม ผมจะนึกไม่ออก เพราะ improvise ยากมาก แต่เขาจะเป็นคนกล้าเล่นกล้าทำ หรือแบบกล้าหยอกในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรอย่างนี้ครับ

หรือเวลาที่เขาอยู่กับเพื่อน เขาก็จะเป็นหัวโจกในการทำอะไรสนุกๆ ค่อนข้างจะเป็นตัวเขาในอีกโหมดหนึ่ง ในพาร์ทการทำงานก็จริงจังมาก แล้วก็จะมีเรื่องการหาความรู้ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาสามปี ผมเห็นเขาอ่านหนังสือเยอะเหมือนกัน ในขณะที่ตัวผมสามปีที่รู้จักกัน ผมยังไม่เคยเปิดหนังสือดู หรือว่าเปิดหนังสืออ่านเลย ส่วนใหญ่ผมก็ไถโซเชียล และเล่นเกมครับ (หัวเราะ) ผมชอบ TikTok เพราะว่าดูเพื่อความบันเทิงด้วย แต่บางอย่างก็มีความรู้บ้าง ไม่มีบ้าง ของผมอาจจะสายชอบฟัง ชอบดู ถ้าเป็นสายอ่านผมอาจจะไม่ค่อยถนัดเท่าไร

จา : จริงๆ ผมก็ดูหมดนะครับ ทั้งอ่านหนังสือและดูพวกคลิป แต่เหมือนในหนังสือจะมีแบบอย่าง เช่น งานวิจัย อะไรอย่างนี้ มันสามารถวัดผลได้ ผมก็เลยอ่านหนังสือควบคู่ไปด้วย ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่หนังสือแบบจริงจังมาก บางทีเป็นหนังสือแบบอ่านทั่วๆ ไป ครับ แล้วแต่อารมณ์และความอยากรู้ ณ ตอนนั้นเลยว่าอยากรู้เรื่องอะไรครับ

ถึงคิวจา ให้จารีวิวเฟริสท์บ้าง

จา : เขาก็เหมือนวันแรกที่เจอกันครับ แต่ก็เห็นความเติบโตของเขาในแต่ละเรื่องที่ผ่านมาครับ ผมว่าเฟริสท์ก็เหมือนเดิม น่ารักเหมือนเดิมอย่างที่ทุกคนเห็นครับ

พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
มาพูดถึงการถ่ายทำในเรื่องนี้บ้าง ตอนเข้ากองนี้ครั้งแรก บรรยากาศเป็นอย่างไร

เฟริสท์ : ผมจำซีนแรกได้ ซีนแรกคือซีนที่ยากที่สุด เอ๊ะ! ไม่แน่ใจ แต่ว่าความทรงจำผมรู้สึกว่าซีนแรกคือซีนที่ยากที่สุด คือซีนที่เปิดตัวอชิต์แล้วก็โดนจ่อด้วยอาวุธ ซีนนี้เป็นซีนที่ยากมากครับ เพราะว่าเหมือนพี่ผู้กำกับเขาจะค่อนข้างสตริกต์กับซีนนี้มาก เพราะเป็นซีนเปิดตัวละครอชิต์แล้วก็ตัวเพื่อนๆ ครับ เขาก็จะซ้อมซีนนี้ในห้องซ้อมบ่อยมาก เป็นทั้งซีนอารมณ์ โดยในซีนจะทั้งหมดมีสามคนครับ สองคนเป็นแบบอารมณ์จ๋าๆ เลย ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นคอมเมดี้ ฉะนั้นต้องแบบทำให้ซีนออกมาลงตัวให้ได้ เขาก็จะซ้อมนี้ซ้อมหนักมาก เป็นสิบๆ รอบครับ แล้วซ้อมจริงตลอด

พอมาถึงวันแรก ตื่นเต้นมากครับ ผมเป็นคนที่ตื่นเต้นกับทุกอย่างครับ อะไรที่เริ่มหนึ่งใหม่ ผมจะตื่นเต้น ไม่ว่าจะผ่านงานมาเท่าไรแล้วก็ตาม ถ่ายซีรี่ย์เรื่องใหม่ก็ตื่นเต้น ถ่ายครั้งแรกก็ตื่นเต้น แต่ว่ามันเป็นข้อดีที่เราได้ซ้อมเยอะๆ ทำให้ถ่ายทำโฟล เราไม่ต้องคิดเยอะ ไปถึงเราใส่เป็นตัวละครไปเลย

จา : ผมจำซีนแรกไม่ได้นะ แต่จำความรู้สึกได้ว่าเป็นความตื่นเต้นมาก เพราะเป็นผลงานเรื่องใหม่ที่เป็นคาแร็กเตอร์ใหม่ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเราจะสามารถถ่ายทอดอย่างที่ผู้กำกับต้องการได้หรือเปล่า มันจะมีความประหม่า ความตื่นเต้น ความกลัวผิดกลัวถูก อะไรอย่างนี้ครับ

แต่เมื่อเราซ้อมมาแล้ว พอมาถึงวันจริง เราก็แสดงแบบที่เราได้เหมือนทำการบ้านมา ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผมจำได้ประมาณสามซีนแรกของวันถ่ายวันแรกว่ารู้สึกตื่นเต้น พอหลังจากนั้นก็รู้สึกว่าเราเริ่มโฟลแล้ว เราพอจับทางตัวปัณณ์ได้แล้วว่าจะไปในทิศทางไหน เขาจะรู้สึกอย่างไร แสดงออกมาอย่างไรครับ

Be Mine SuperStar, พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, Be Mine SuperStar พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
แล้วปกติบรรยากาศในกองเป็นอย่างไร สนุกสนานเฮฮาไหม

เฟริสท์ : เอาจริงๆ แล้วผมว่าบรรยากาศในกองสนุก สนุกอยู่แล้วด้วยตัวจา เพราะว่าจาก็สนุกกับเพื่อนๆ ได้ แต่ผมเป็นคนแบบไม่เชิงอมทุกข์ แต่ต้องคีปคาแร็กเตอร์ ตอนแรกเราก็รู้สึกอยากสนุกไปกับเพื่อน แต่ด้วยงาน ถ้าเราคีปคาแร็กเตอร์จะส่งผลดีกับงาน เราก็ทำจนชิน เราทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่า เอ๊ย! โอเคนะ อาจเพราะว่าผมเป็นคนสตริกต์กับงานมาก

ผมรู้สึกว่าการที่เราจะทำอะไรชิ้นหนึ่ง สิ่งนั้นก็เป็นโกลอีกหนึ่งอย่างของการเป็นนักแสดงที่ดี หรือว่าการเป็นมืออาชีพในการแสดง ซึ่งจุดนี้เป็นโกลในชีวิตผมเหมือนกัน ผมรู้สึกว่า ไหนๆ ก็ทำแล้ว ก็ไปให้สุดเลย หมายถึงเขาให้เราเป็นคาแร็กเตอร์ ก็เอาเลย คีปคาแร็กเตอร์ไปเลย อยากรู้เหมือนกันว่า การแสดงมีอะไรบ้าง จะไปสุดได้แค่ไหน

ผมเคยเห็นดาราต่างชาติที่เขาอินกับตัวละครมากๆ ผมเคยรู้สึกว่าเป็นไปได้เหรอ มันเกิดขึ้นได้อย่างไร คือผมไม่รู้หรอกว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ผมรู้สึกว่า ถ้าผมได้สัมผัสมัน ก็คงเป็นสีสันหนึ่งของการเป็นนักแสดง ซึ่งผมพร้อมที่จะทำ แล้วก็ ไม่มีคำถามต่อการทำงาน เพื่อนๆ สนุกไป ส่วนผมก็คีปคาแร็กเตอร์ไป

แล้วพอเราต้องคีปคาแร็กเตอร์ แต่คนอื่นเขาสนุกกันในกองได้เต็มที่มีอึดอัดไหม

เฟริสท์ : แรกๆ จะอึดอัดตรงที่เราจะเผลอไปเล่นกับเพื่อน หรือเผลอไปคุยกับทีมงานสวัสดิการที่เป็นทีมอาหาร ผมเป็นคนชอบทัก ชอบคุย เพราะรู้สึกว่าทำให้เราคลายความตื่นเต้นด้วย แต่ว่าในกองเรามักจะโดนสกัด พี่ผู้กำกับก็จะเลือกว่า “เฟริสท์” แค่นั้น เลยว่าต้องทำอย่างไร หลังจากนั้นเราต้องคอยเตือนตัวเองว่าอย่าลืมว่าเราทำอะไร หลังจากนั้นก็สบายครับ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำเพื่อต้องการให้งานออกมาดี ฉะนั้นผมรู้สึกว่าอึดอัดไม่เป็นไร เดี๋ยวออกไปข้างนอกก็ลัลล้าได้ครับ

จา : บรรยากาศในกองสำหรับผมต้องบอกว่าสนุกมากครับ ทั้งโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับทีมงานทุกๆ คนต่างเหมือนพี่น้องกันครับ เราคอยซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน จะมีการแลกเปลี่ยนกัน อะไรที่แนะนำได้ก็แนะนำกัน อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วยกัน มีความเป็นพี่น้องในกองถ่ายเรื่องนี้ ผมคิดว่าตรงนี้เลยทำให้เกิดความสนุก ทำการทำงานโฟล เหมือนเขาทำให้เราสามารถถ่ายทอดตัวละครปัณณ์อย่างที่ทุกคนเห็นออกมาได้ครับ

พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
แล้วเรื่องนี้ผู้อำนวยการสร้างคือพี่ไก่ วรายุฑ ตอนเจอครั้งแรกสั่นไหม

เฟริสท์ : ผมนอบน้อมสุดๆ ผมทำตัวไม่ถูก เพราะว่าเราก็พอรู้จัก เราอาจจะดูละครน้อย แต่เรารู้จักชื่อพี่ไก่ วรายุฑ ว่าเขาคือใคร พอเจอตัวจริงก็รู้สึกว่าทำตัวไม่ถูก เราไม่รู้ว่าเราจะสามารถพูดคุยกับเขาได้มากน้อยแค่ไหน กลัวว่าแบบทำอย่างนี้จะดูไม่ดีนะ แต่ว่าสุดท้ายแล้วพี่ไก่เป็นคนที่เฮฮา ตลก

ถึงกระนั้นเวลาทำงานคือฟิกซ์มากเลย แล้วผมว่าเป็นข้อดีมากๆ รู้สึกว่าในเรื่องงาน ถ้าทำแบบนี้ได้ทุกอย่างจะออกมาดี พี่ไก่จะมาคอยจัดชุดให้เลยครับว่า ชุดนี้ไม่ได้ ไม่เอา ลงมาทำเองทุกอย่างแบบจัดชุด ดูชุด ดูหน้าเซ็ต หลังๆ เขาก็ใจดีกับนักแสดงด้วย ผมว่าพี่ไก่ก็เป็นคนที่สนุกสนานเฮฮาอีกคนหนึ่งนะครับ ถ้าสมมติว่าใครได้สัมผัสตัวจริง พี่ไก่เป็นคนที่สนุกครับ

จา : อย่างแรกเลยต้องขอขอบคุณพี่ไก่ที่เลือกเราสองคนมาเล่นในเรื่อง Be Mine Superstar แล้วก็พี่ไก่เป็นคนสนุกสนานเฮฮาครับ พี่ไก่จะเหมือนอยากพูดคุยกับเด็กๆ เราก็พูดคุยเล่นกัน ตอนแรกเราคิดว่าพี่ไก่จะมีมาดแบบดูวางตัวเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า แต่จริงๆ เขาเปิดรับมากเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นเด็กก็ตาม เขาพร้อมที่จะแชร์ความคิดในสิ่งที่เขาผ่านมาก่อน เขาสามารถเข้ากับคนรุ่นใหม่ได้ แล้วพอผลงานออกมาดี เขาก็มาบอกกับเราว่าดีมาก รู้สึกว่าพี่ไก่เป็นคนที่ใส่ใจทั้งนักแสดง และทีมงานทุกคนเลยครับ อยากขอบคุณพี่ไก่ครับ

นอกจากได้ร่วมงานกับพี่ไก่แล้ว ยังได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่หลายคนเลย

เฟริสท์ : ใช่ครับ มีพี่ดุ๊ก พี่ดาด้า พี่ธงธง

จา : พี่ดาว แม่ตุ๊ก ดวงตา

เฟริสท์ : การร่วมงานกับพี่ๆ นักแสดงรุ่นใหญ่ก็จะคล้ายๆ กับพี่ไก่เลยครับ แรกๆ กดดัน กลัวทำเขาช้า กลัวเล่นไม่ได้ แต่พอถึงเวลาเข้าฉากด้วยกันจริงๆ แล้ว สุดยอดแห่งความสนุก เมื่อไรที่พี่ๆ เขาได้รวมกัน โห! ทำให้ผมเล่นยากขึ้น เพราะว่าผมกลั้นขำไม่หยุด แล้วผมเป็นคนกลั้นขำไม่ได้ สุดท้ายผมก็ปล่อยขำไปเลย เพราะเดี๋ยวพี่ผู้กำกับเขาไปตัดเอาผมออกเอง เขาเล่นกันสนุกและตลกมาก

หรือบทที่ต้องเป็นซีนฟาด เขาก็ฟาดกันแบบสุดๆ ผมต้องไปยืนดูเพราะสนุกจริงๆ ต้องขอบคุณพี่ๆ บางทีพี่เขาก็ช่วยสอนด้วย บอกว่าแบบนี้ดีนะ ลองแบบนี้ดูสิ ขอบคุณพี่ๆ เขามากๆ เลยครับ

พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst

จา : ของผมก็จะมีได้เข้าฉากกับพี่ดุ๊ก, พี่ดาว, แม่ตุ๊ก ดวงตา, พี่ธงธง เข้าด้วยกันเยอะมาก ผมรู้สึกว่าพวกนักแสดงรุ่นใหญ่ทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้นครับ เหมือนเขารับส่งอารมณ์กับเรา ผมรู้สึกเลยว่าเขาพูดสื่อความหมายจนเรารับรู้ได้ถึงสิ่งที่เขาจะสื่อ แล้วก็เราสามารถรีแอ็กกับสิ่งที่เขาบอกไปได้ เขาทำให้เรารู้สึกว่าผมเป็นปัณณ์ได้มากขึ้น ผมแสดงความรู้สึกได้มากขึ้น เพราะตัวพ่อแม่ผมที่เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่เหล่านี้จริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นแม่ตุ๊ก ดวงตา ที่เล่นเป็นคุณย่า หรือพี่ดุ๊ก ภาณุเดช ที่เล่นเป็นพ่อผม พี่ดาวที่เล่นเป็นแม่ผม ทุกคนต่างทำให้ผมรู้สึกว่าผมได้รับความอบอุ่นจากคำพูดหรือไดอะล็อกของเขาเพียงไม่กี่ประโยค ต้องขอบคุณมากๆ เลยครับ

เมื่อกี้เห็นบอกว่าพี่ๆ มีสอนด้วย ได้วิชาอะไรจากการร่วมงานกับพี่ๆ นักแสดงรุ่นใหญ่มาบ้างที่เราสามารถนำปรับใช้ในการเป็นนักแสดงได้

เฟริสท์ : อันหนึ่งที่ผมได้แน่ๆ คือผมถามเลยว่าทำไมพี่จำบทเร็วจัง พี่ๆ เขาจำบทเร็วมาก เร็วที่แปลว่าเร็วจริงๆ บทยาวเป็นตับอย่างนี้ แป๊บเดียวจำได้ทั้งหมดเลยครับ ผมว่าสิ่งนี้เป็นอีกสกิลหนึ่งที่นักแสดงควรมีนะครับ เขาบอกผมว่าเฟริสท์แค่ต้องทำความเข้าใจว่าซีนๆ นี้ คำพูดนี้เขาพูดถึงอะไรแค่นั้น ถ้าเข้าใจ เฟริสท์ก็จะพูดมันออกมาได้ เพราะว่าเราเข้าใจมันแล้ว ฉะนั้นลองไปทำดู เหมือนตอนสอบ วิชาประวัติศาสตร์อย่างนี้ ผมไม่เคยเข้าใจเลย ผมอ่านเพื่อสอบล้วนๆ คือรู้ว่าอะไรคืออะไร พอสอบเสร็จปุ๊บ มันหายหมดเลย แต่ถ้าเกิดเราเข้าใจ มันจะฝังอยู่ในหัวเรา อันไหนที่เราพูดไม่ติดปาก เขาบอกให้พูดวนสักสามครั้ง จะดีขึ้นครับ

จา : ส่วนใหญ่พี่ดุ๊ก พี่ดาว แม่ตุ๊ก ก็จะบอกว่าผ่อนคลายๆ ไม่ต้องกลัวเล่นกับแม่นะ ไม่ต้องกลัวเล่นกับพี่นะ ผ่อนคลายเลย น้องทำการบ้านมายังไง เล่นแบบนั้นเลย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการสอนให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ไม่ได้ตื่นเต้นกับเขามากกว่าครับ นี่คือสิ่งที่เขาสอนเรา

เรื่องนี้มีไปถ่ายที่ต่างประเทศด้วยใช่ไหมคะ ไปถ่ายที่ประเทศไหน แล้วเป็นอย่างไรบ้าง

เฟริสท์ : ไปถ่ายที่ประเทศญี่ปุ่นครับ

จา : หนาวมากครับ เพราะตอนไปถ่ายทำเป็นช่วงหน้าหนาวพอดี แล้วก็พายุเข้าพอดี น่าจะช่วงเดือนมกราคม อุณหภูมิ 14 องศาเลยครับ เราต้องเล่นกลางหิมะเลย ก็รู้สึกว่ามีซีนสวยๆ เยอะ เดี๋ยวให้ทุกคนรอดูดีกว่า ผมรู้สึกว่าเราถ่ายกันหลายรอบมากเลยครับ

Be Mine SuperStar, พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, Be Mine SuperStar พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst
แล้วตอนถ่ายตัวสั่นไหม ไปถ่ายช่วงหน้าหนาวพอดี

เฟริสท์ : ตัวสั่นแต่ปากแข็งเหมือนปลาถูกฟรีซไว้ครับ เราต้องคอยขยับปากตลอด ถ้าเกิดกล้องไม่จับเรา สมมติเราเล่นกันสามคน ถ้าเกิดเราหยุดพูดแล้ว เหมือนเป็นตาของจาต้องพูดกล้องก็จะไม่เห็นเราหมด เราสามารถขยับก่อนได้ เพราะว่าเดี๋ยวผู้กำกับเขาจะไปตัดเอง เราต้องคอยขยับตลอด เพราะแบบมันแข็งโป๊ก หนาวมาก แล้วจะบอกว่าหิมะตอนที่เริ่มซา สวยมากครับ

ด้วยความที่เรื่องนี้เป็นแนวโรแมนติกคอเมดี้ จะได้ถ่ายทอดออกมาในลักษณะไหนคะ

เฟริสท์ : ความสนุกและตลกอาจจะเกิดการตัวละครทางฝั่งเพื่อนที่อยู่โอบล้อมรอบตัวอชิต์ ก็จะมีทั้งปัณณ์ ทั้งเพื่อนอชิต์ เพราะว่าแก๊งเหล่านี้เขาก็จะเป็นพ่อสื่อแม่สื่อคอยช่วยให้เราสองคนได้สมหวังกัน หรืออาจจะมีมุกบางอย่างที่ทำให้ซีรี่ย์กลายเป็นคอมเมดี้ได้ เช่น พี่ดีเจดาด้ากับพี่ธงธง เขารับส่งกันแบบตลกมาก คือผมไม่รู้ว่าเขาแบบคิดได้อย่างไรผมเลยรู้สึกว่าอันนี้เป็นอีกกิมมิกหนึ่งที่ทำให้ซีรี่ย์มีความเป็นคอมเมดี้มากขึ้นครับ

ส่วนความโรแมนติกในบทก็จะใส่เต็มเหมือนกัน อย่างที่จาบอกบทคุณพ่อ บทคุณแม่ และบทคุณย่า เขาก็จะมีส่งความรู้สึกของความเป็นพ่อเป็นแม่จริงๆ เหมือนเขาเป็นพ่อแม่เราจริง มันส่งถึงกันจริงๆ หรืออาจจะเป็นเรื่องของตัวอชิต์และปัณณ์ กับความสัมพันธ์ของเราสองคน ทุกคนจะรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครว่าถ้าสมมติเรามีแฟนก็จะเป็นแบบนี้ เหมือนรักแรกของฉันเลย ในเรื่องจะทำให้คนดูรู้สึกรีเลทไปกับตัวซีรี่ย์ได้ด้วยครับ

นอกจากจากับเฟริสท์จะเป็นนักแสดงแล้ว ยังร้องเพลงประกอบซีรี่ย์เองด้วย เล่าถึงเบื้องหลังการทำเพลงหน่อยค่ะ

จา : เริ่มจากตอนอัดเลย บอกก่อนว่าพี่ไก่เป็นคนแต่งให้กับเรื่องนี้เลย เหมือนพี่ไก่ดูจากคาแร็กเตอร์ของปัณณ์กับอชิต์ แล้วก็เนื้อเรื่อง Be Mine Superstar พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง ดูว่าเนื้อเรื่องออกมาเป็นแนวอย่างไร เพลงสามารถแต่งได้อย่างไรบ้าง พี่ไก่เลยแต่งเพลง “First Love แอบรัก” ขึ้นมา ก็เป็นอารมณ์แบบน่ารักๆ เนอะ

ส่วนตอนถ่ายเอ็มวี จะมีต้องเต้นด้วย ซึ่งผมไม่ค่อยถนัดการเต้นเท่าไร ผมเลยมีความตื่นเต้น มีความเขินอาย เขาก็ยังส่งเราไปเรียนเต้น เพื่อที่จะเอามาเต้นในเอ็มวีโดยเฉพาะ บางทีก็จะมีความเขินอายจากคนที่ไม่เคยเต้นอะไรอย่างนี้เนอะ แต่ว่าสุดท้ายเอ็มวีก็ออกมาน่ารักดีครับ แล้วพอทุกคนชอบก็รู้สึกดีครับ

สุดท้ายนี้ฝากผลงานซีรี่ย์เรื่องนี้หน่อยให้แฟนๆ สุดสัปดาห์ได้ติดตามรับชมกันหน่อยค่ะ

จา : ทั้งเราสองคน นักแสดงทุกคน รวมถึงทีมงานทุกคนก็อยากขอบคุณที่คอยติดตามตั้งแต่อีพีแรกนะครับ แล้วก็อยากฝากทุกคนคอยติดตามในอีพีต่อๆ ไปด้วยครับ เรื่องนี้นอกจากเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้แล้ว ยังมีการถ่ายละครซ้อนละคร การไปถ่ายต่างประเทศอีก อยากฝากให้ทุกคนติดตามเลยว่าภาพจะออกมาสวยแค่ไหน ฝากด้วยครับ

เฟริสท์ : อย่าลืมนะครับ ทุกวันจันทร์ เวลา 22.45 ทางช่อง 3 นะครับ และยังสามารถดูออนไลน์ผ่านทางแอป 3PLUS และดูย้อนหลังแบบ Uncut ได้ทาง iQIYI ด้วยครับ ขอฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ

Be Mine SuperStar, พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, Be Mine SuperStar พี่พระเอกกับเด็กหมาในกอง, จาเฟริสท์, จา พชร, เฟริสท์ ฉลองรัฐ, JaFirst

.

.

TEXT : ImJinah

PHOTO : นวพจน์ โพธิเกษม

แต่งหน้า : รมิดา จำรัสศรี

ทำผม : รัชนี รัศมี

ขอบคุณสถานที่ : ร้าน Black Canyon สาขา Search Studio

.

.

.

อัพเดตข่าวบันเทิงเอเชีย ซีรี่ย์เอเชีย ดาราเอเชีย ไอดอลเอเชียได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

ญดา-ภณ-มีน สามนักแสดงนำจากกรงดอกสร้อย สลัดชุดย้อนยุคขึ้น Sudsapda Digital Cover

พูดคุยกับ TRINITY กับการเติบโตจนได้ร่วมงานกับศิลปินต่างชาติ และมุมมองต่อวงการ T-POP

พูดคุยกับ SHAUN และเจฟ ซาเตอร์ กับการโคจรมาทำเพลงด้วยกัน เล่าความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ร่วมงาน

ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper

ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper จาก 3 หนุ่ม ชาร์ลี-นิค-เทา

Alternative Textaccount_circle
event
ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper

เอาใจแฟนคลับ ซีรีส์ เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น (Heartstopper) ซีรีส์ฝั่งอังกฤษผลงานการเขียนจาก Alice Oseman เรื่องดังของทางช่อง Netflix กับการสร้างบรรยากาศเก๋ๆให้ตัวห้อง ด้วยไอเดียไฟตกแต่งห้องนอน 3 รูปแบบ จากห้องของคาแร็คเตอร์หลัก ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มน้อยอินดนตรี ‘ชาร์ลี สปริง’ (นำแสดงโดย Joe Locke) , หนุ่มนักกีฬาอย่าง ‘นิค เนลสัน’ (นำแสดงโดย Kit Connor) หรือ หนุ่มคอหนังคอภาพยนตร์แบบ ‘เทา ซู’ (นำแสดงโดย William Gao) เอาเป็นว่าใครชอบเปลี่ยนบรรยากาศให้กับตัวห้องลองนำไอเดีย ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper ไปใช้ได้เพิ่มความสนุกได้นะ

ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
ตัวอย่าง ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper ของคาแร็คเตอร์สามหนุ่ม Nick Nelson, Charlie Spring และ Tao Xu ในเรื่อง
ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
รูปแบบไฟดัดรูปตัวอักษรในห้องนอนของคาแร็คเตอร์ Charlie Spring (ชาร์ลี สปริง) หนุ่มเนิร์ดรักดนตรี กับหลอดไฟดัดอักษรคำว่า ‘MUSIC’
‘Letter Lightings’ จากแบรนด์ Seretti
ส่วนในห้องของคาแร็คเตอร์แฟนหนุ่มอย่าง Nick Nelson (นิค เนลสัน) จะเลือกใช้ไฟแต่งห้องแบบสายห้อยระย้า สไตล์ไฟประดับเทศกาล ประดับตกแต่งบนตัวฝ้าเพดานห้องนอน
‘Garland Lightings’ จากแบรนด์ Seretti
บรรยากาศในห้องของคาแร็คเตอร์ Tao Xu (‘เทา ซู)
‘LED Lightings’ จากแบรนด์ Seretti
HEARTSTOPPER ซีรีส์ใสๆแนว coming-of-age ที่นำมาจากหนังสิอและ WebComic ผลงานเขียน-วาดเส้นของ Alice Oseman ซึ่งตอนนี้มีด้วยกันถึง 2 ซีซั่นแล้ว ทางช่อง Netflix
เรื่องราวของสองหนุ่มคู่รักวัยเรียน ระหว่าง Charlie Spring (คนซ้ายมือ) และ Nick Nelson (คนขวามือ) ใน Heartstoper Series
ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper

Charlie Spring’s Room ไฟแต่งห้องตัวอักษร (Letter Lighting Style)

ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
ห้องของคาแร็คเตอร์หนุ่ม Charlie Spring (ชาร์ลี สปริง) หนุ่มผู้ชอบฟังดนตรีและเล่นตีกลอง ภายในห้องมีการแต่งด้วยไฟดัดอักษรคำว่า ‘MUSIC’
ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
แนะนำไฟประดับห้อง ตัวอักษร ที่สามารถสร้างเป็นคำต่างๆได้ จาก Seretti
รูปแบบอื่นๆของไฟรูปตัวอักษร จะแบบหลอดไฟดัด หรือมาในรางโครงโลหะพร้อมหลอดไปกลม สไตล์ป้ายแนวฮอลลีวูด (Hollywood Sign)
ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
อีกหนึ่งสไตล์น่าสนใจ ในขนาดกะทัดรัด โคมไฟแต่งห้องทรงกล่องไม้พร้อมข้อความสนุกๆ จาก Seretti
โคมไฟข้อความจากแบรนด์ Seretti สามารถปรับเปลี่ยนแผ่นข้อความได้

Nick Nelson’s Room ไฟแต่งห้องแบบสายไฟห้อยระย้า (Garland Lighting Style)

คาแร็คเตอร์ Nick Nelson (นิค เนลสัน) หนุ่มนักกีฬาเรียบง่ายด้วยไฟประดับเพดานสไตล์ สายไฟห้อยระย้า
ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
ไฟประดับสไตล์สายห้อยดวงไฟระย้า Seretti
ตัวอย่างความหลากหลาย ของดวงหลอดไฟแต่ละดวง สามารถเลือกปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ จาก Seretti

Tao Xu’s Room ไฟแต่งห้องแบบไฟแอลอีดีสีสัน (Color LED Lighting Style)

ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
ห้องของคาแร๊คเตอร์ Tao Xu (เทา ซู) กับบรรยากาศสะท้อนไอเดียคนรักภาพยนตร์ ด้วยการติดใบปิดโปสเตอร์หนังที่ฝาผนัง พร้อมการเลือกใช้หลอดไฟยาว LED สีๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศลึกลับ
หลอดไฟยาวสไตล์ LED สีๆ จาก Seretti
ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper
อีกสไตล์น่าสนใจ สำหรับหนุ่มที่ชอบภาพยนตร์ กับโคมไฟแต่งห้องสนุกๆ รูปบ้านและถนน ชวนให้นึกถึงบรรยากาศฉากในภาพยนตร์สนุกๆ ของ Seretti
โคมไฟสนุกๆ บรรยากาศต่างๆ จาก Seretti

Text : Mmm

Photo : https://aliceoseman.com/

www.seletti.it

www.netflix.com/th-en/title/81059939

IG heartstoppertv, IG MOST, IG Heartstopper , IG netflixuk

เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ

ไอเท็มลายหน้ายิ้ม สำหรับหนุ่มปราณ แค่เพื่อนครับเพื่อน

เสื้อฮู้ดสีสด สไตล์โมโมจิ If You Kiss Me At That Time

Slipper Loafers สไตล์สองหนุ่ม The Devil Judge

แอบเข้าห้องน้ำมาเฟียหนุ่ม วินเชนโซ่ สืบไอเท็มเสริมหล่อ

ไอเท็มลายปลาวาฬ ดีไซน์น่ารักได้ใจ ทนายสาวอูยองอู

Denim Trucker Jackets สไตล์จางกียง Now, We Are Breaking Up !

Kim Dali Style รวมไอเท็มสร้างลุคลูกคุณ จาก Dali and Cocky Prince

แฟชั่นผ้ากันเปื้อน ยูนิฟอร์มใหม่ในชีวิตประจำวันของหนุ่มสายช่าง (แต่งตัว)

แฟชั่นชุดวอร์ม พร้อมไฝว้ แบบคู่หู The Great Shaman Ga Doo Shim !

แจ๊กเก็ตทหาร สไตล์โจซังกู Move to Heaven

นาฬิกาข้อมือCasio รุ่นใหม่แบบไหนได้ใจคุณ

เสื้อโชว์ไหล่ พิชิตใจจิ้งจอก My Roommate is a Gumiho !

รองเท้าส้นสูงมีดีไซน์ สไตล์ Seo Hee Soo ซีรี่ย์เกาหลี MINE !

เป้สะพายหลัง แบบอัยการคังฮานา Taxi Driver

เสื้อแขนกุดผู้ชาย หล่อบาดใจแบบนายนับสิบ

กระเป๋าของแท็กย็อน จากเรื่อง Vincenzo ทนายมาเฟีย

รองเท้าโอนิซึกะไทเกอร์ สีขาวสีดำ แนวหยินหยาง

You Are Desire - You Are My Desire - เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 - โจวอี้หราน - Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei - 庄达菲 - ซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - ดาราจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีนวัยรุ่น - พระเอกซีรี่ย์จีนวัยรุ่น - นางเอกซีรี่ย์จีนวัยรุ่น

ซีรี่ย์จีน You Are Desire กับเคมีคู่จิ้นวัยรุ่น โจวอี้หราน-จวงต๋าเฟย ที่ชวนให้ตกหลุมรัก!

Alternative Textaccount_circle
event
You Are Desire - You Are My Desire - เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 - โจวอี้หราน - Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei - 庄达菲 - ซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - ดาราจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีนวัยรุ่น - พระเอกซีรี่ย์จีนวัยรุ่น - นางเอกซีรี่ย์จีนวัยรุ่น
You Are Desire - You Are My Desire - เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 - โจวอี้หราน - Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei - 庄达菲 - ซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - ดาราจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีนวัยรุ่น - พระเอกซีรี่ย์จีนวัยรุ่น - นางเอกซีรี่ย์จีนวัยรุ่น

เอาใจคอซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่นกับอีกหนึ่งผลงานที่น่าจับตา You Are Desire เธอคือฝันหวานละมุน ของนักแสดงจีนวัยรุ่นดาวรุ่ง โจวอี้หราน-จวงต๋าเฟย ที่ชวนให้ตกหลุมรักวนไป!

You Are Desire - You Are My Desire  - เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 -  โจวอี้หราน  -  Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei -  庄达菲
เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 - โจวอี้หราน - Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei - 庄达菲

วันนี้สุดฯ ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักอีกหนึ่งซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก/รักวัยรุ่นที่ลงจอออนแอร์ในเดือนส.ค. 2023 นี้อย่าง You Are Desire (หรือ You Are My Desire) ชื่อไทย เธอคือฝันหวานละมุน ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังในชื่อเรื่องเดียวกันของชีเจี้ยน (Qi Jian) ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหลินอวี่จิง ที่กำลังศึกษาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย และในช่วงนั้นเองที่เธอได้เจอกับเสิ่นเจวี้ยน เพื่อนร่วมโต๊ะเรียนสมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ซึ่งอวี่จิงพบว่า เสิ่นเจวี้ยนยังคงจมอยู่กับบาดแผลในใจจากการสูญเสียคนในครอบครัวของเขาไป ด้วยความช่วยเหลือของภหลินอวี่จิงและเพื่อนๆ ทุกคน ทำให้ในที่สุดเสิ่นเจวี้ยนก็สามารถก้าวข้ามความเจ็บปวดนั้นมาได้ และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในเส้นทางชีวิตของเขาต่อไป

You Are Desire - You Are My Desire  - เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 -  โจวอี้หราน  -  Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei -  庄达菲

สำหรับเรื่องย่อซีรี่ย์จีนYou Are Desireเธอคือฝันหวานละมุน เริ่มต้นด้วยการถ่ายทอดชีวิตของอวี่จิงที่หลังจากพ่อแม่ของเธอแยกทางกัน เธอก็ตามพ่อไปยังอีกเมืองที่ไม่คุ้นเคย และไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวใหม่ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นอวี่จิงก็ได้รับความรักที่จริงใจและการดูแลจากแม่เลี้ยงของเธอเป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากหลินอวี่จิงจะต้องเจอกับครอบครัวใหม่แล้ว เธอยังต้องเข้าโรงเรียนใหม่ ปรับตัวใหม่อีกครั้ง เดิมเธอคิดว่าจะเข้ากับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนได้ยาก แต่สิ่งที่ดีก็เกิดขึ้นเมื่อเธอไม่คาดฝันว่า จะได้เจอกับเพื่อนๆ ที่เฮฮาและเข้ากันได้เป็นอย่างดี

You Are Desire - You Are My Desire  - เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 -  โจวอี้หราน  -  Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei -  庄达菲

การมาของหลินอวี่จิงสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับเสิ่นเจวี้ยน เพื่อนร่วมโต๊ะของเธออย่างมาก หลังจากที่ทุกอย่างกำลังเข้าร่องเข้ารอย ทุกอย่างกลับต้องชะงักเมื่อแม่แท้ๆ ของหลินอวี่จิงบังคับให้หลินอวี่จิงกลับไปใช้ชีวิตอยู่กับเธอ หลังจากนั้นหนึ่งปี หลินอวี่จิงกับเสิ่นเจวี้ยนก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งอวี่จิงได้รู้ว่าครอบครัวของเสิ่นเจวี้ยนประสบอุบัติเหตุ และเขายังคงจมอยู่กับบาดแผลจากการสูญเสียครั้งนั้น ด้วยความช่วยเหลือของหลินอวี่จิงและเพื่อนๆ คนอื่น เสิ่นเจวี้ยนจึงค่อยๆ ก้าวข้ามความเจ็บปวดนั้นมาได้ และเผชิญหน้ากับเส้นทางชีวิตของเขาต่อไป ส่วนหลินอวี่จิงก็หาเส้นทางชีวิตของตัวเองจนเจอ

เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 - โจวอี้หราน - Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei - 庄达菲

สำหรับนักแสดงนำของซีรี่ย์จีนYou Are Desireเธอคือฝันหวานละมุน นำทีมโดยโจวอี้หราน (Zhou Yiran) นักร้อง นักแสดงจีนวัย 22 ปี (เกิดเดือนพ.ย. 2000) นักร้อง นักแสดงวัยรุ่นที่เมื่อกลางปี 2023 เพิ่งจะประสบความสำเร็จอย่างมากจากซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก/รักวัยเรียน When I Fly Towards You รักนำทางไปหาเธอ ส่วนนางเอกได้จวงต๋าเฟย (Zhuang Dafei) วัย 22 ปี (เกิดเดือนก.พ. 2001) ที่เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีนหลายเรื่อง เช่น Mountains And Ocean (2019), Eternal Love of Dream สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย (2020), CLOSER TO YOU (2020) ฯลฯ มารับบทนำร่วมกัน

เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 -  โจวอี้หราน  -  Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei -  庄达菲
โจวอี้หราน  -  Zhou Yiran - 周翊然
จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei -  庄达菲
เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 - โจวอี้หราน - Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei - 庄达菲
เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 -  โจวอี้หราน  -  Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei -  庄达菲

นอกจากคู่ของพระ-นางอย่างโจวอี้หรานกับจวงต๋าเฟย ยังมีอีก 2 คู่รอง นั่นคือ เฉินตี้อี (Chen Diyi) ที่เคยร่วมแสดงในซีรี่ย์จีน You Are My Glory ดุจดวงดาวเกียรติยศ (2021), Till The End Of The Moon จันทราอัสดง (2023) ฯลฯ มารับบทเป็นฝู่หมิงซิว ลูกชายแม่เลี้ยงของหลินอวี่จิง ประกบคู่กับฟ่านชือหรัน (Fan Shiran) จากเรื่อง Psychologist (2021), Because of Love (2022) ฯลฯ รับบทเป็นกู้เซี่ย เพื่อนสาวคนสนิทของหลินอวี่จิง และอีกคู่คือ หวังชวน (Wang Chuan) ที่รับบทเป็นเหอซงหนาน ประกบคู่กับเลี่ยวอิ๋นเยว่ (Liao Yinyue) รับบทเป็นสวีหรูอี้ เรียกว่ามากันครบแบบจัดเต็มให้แฟนๆ ได้ติดตามกันตลอดทั้งเรื่อง

You Are My Desire  - เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我
เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องYou Are Desireเธอคือฝันหวานละมุน ยังมีเปียนเทียนหยาง (Bian Tianyang) ที่เคยรับบทเป็นเพื่อนสนิทของโจวอี้หรานในเรื่อง When I Fly Towards You รักนำทางไปหาเธอ มาร่วมงานกันอีกครั้งด้วย แฟนๆ ของพวกเขาห้ามพลาดนะคะ ไปตามเก็บซีรี่ย์จีนYou Are Desireเธอคือฝักันได้ที่ MangoTV เริ่มออนแอร์ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 2023

You Are Desire - You Are My Desire  - เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 -  โจวอี้หราน  -  Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei -  庄达菲
 เธอคือฝันหวานละมุน -白日梦我 - โจวอี้หราน - Zhou Yiran - 周翊然 - จวงต๋าเฟย - Zhuang Dafei - 庄达菲

รูปจาก : 电视剧白日梦我

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

แอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์

Oakley เปิดตัว 3 สาขาใหม่กลางกรุงเทพฯ ตอบโจทย์สาวกแอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์

account_circle
event
แอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์
แอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์

ไปอัพเดทกันหรือยัง Oakley เปิดตัว 3 สาขาใหม่กลางเมืองกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ แอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์ ด้วยคอลเล็คชันใหม่ของแว่นกันแดด เสื้อผ้า และอุปกรณ์เสริมครบวงจร

แอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์ - Oakley
จากซ้ายไปขวา: มารีญา พูนเลิศลาภ, อนันต์ อันวา, นันทพร คิม – EssilorLuxottica Commercial Head Frame, พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา – ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rev Edition จำกัด, เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์, Leia Melzer – Oakley Sales & Trade Marketing Manager, ธีรเดช ธีรเดช ศักดิสกุลบงการ – Oakley Sport Marketing & Training Manager, พรินทร ติยะวุฒิโรจน์ – รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rev Edition จำกัด

พร้อมเปิดตัวแคมเปญไลฟ์สไตล์ล่าสุดพร้อมแว่นกันแดดสุดเท่รุ่นไฮไลท์ BXTR และ HSTN ที่ได้รับการออกแบบโดยดีไซเนอร์ของ Oakley และ friends of the brand ร่วมกันพัฒนาสไตล์ที่ผสานกันระหว่างกีฬาและวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว

Oakley® แบรนด์ชั้นนำในการออกแบบผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีด้านกีฬา จับมือบริษัท เรฟ เอดิชั่น จำกัด ขยายมิติแบรนด์ Oakley ให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคสายแอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ทั้งหมด 3 สาขา เริ่มจาก Oakley สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เพิ่งเปิดให้บริการ ในขณะเดียวกันยังมีสาขาไอคอนสยาม และดิ เอ็มโพเรียม ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็ว ๆ นี้

เป้าหมายของการพัฒนานี้คือการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังเดินตามเป้าหมายการเล่นกีฬาและการใช้ชีวิตแบบแอ๊คทีฟและกำลังมองหาแบรนด์ที่สะท้อนสไตล์ของพวกเขา งานเปิดตัวในครั้งนี้จัดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยเชิญสื่อมวลชน ดารา นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์ และเหล่านักกีฬาชื่อดังเข้าชมร้าน Oakley และได้รับการเชิญเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองการเปิดสาขาใหม่ในครั้งนี้

Oakley

Oakley® ในฐานะหนึ่งในแบรนด์แว่นกีฬาชั้นนำและมีชื่อเสียงระดับโลก การเปิด 3 สาขาใหม่ของ Oakley®ใจกลางกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ นอกจากจะมีคอลเล็คชันแว่นกันแดดที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีสินค้าเพิ่มเติมในหมวดของเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์เสริม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่สนใจสายเพอร์ฟอร์แมนซ์ รวมไปถึงสายแอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์

“เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เฉลิมฉลองการเปิดตัวร้าน Oakley คอนเซ็ปต์ใหม่ทั้ง 3 สาขาซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ถือว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในกรุงเทพฯ เรายินดีที่ได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กันอีกครั้งกับ บริษัท เรฟ เอดิชั่น จำกัด เพื่อขยายเครือข่ายร้านค้าของเราอย่างเข้มแข็ง และยังมอบผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงประสบการณ์ที่พรีเมียมมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคของเราให้เปิดเผยตัวตนในแบบฉบับของตัวเอง หรือ #BeWhoYouAre ในบรรยากาศแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการเล่นกีฬา การดูแลสุขภาพ และการดำเนินชีวิตแบบ แอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์ ” นายทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีลอร์ลูซอตติกา โฮลเซล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

คุณพรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรฟ เอดิชั่น จำกัด กล่าวว่า “การมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าคือเป้าหมายของเราเสมอมา การเปิดสาขาเพิ่มขึ้นในศูนย์การค้าสำคัญทั่วกรุงเทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าของเราสามารถเข้าถึงสินค้าของเราได้ง่ายดาย สำหรับการร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เราได้ลงทุนทั้งในด้านงบประมาณและด้านทรัพยากรอย่างมีนัยยะสำคัญ เพื่อสร้างประสบการณ์หน้าร้านที่น่าตื่นเต้นให้แก่ลูกค้า พร้อม ๆ ไปกับการร่วมมือกับ Oakley เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นในอนาคต”

จากซ้ายไปขวา: คุณอนันต์ อันวา, คุณมารีญา พูนเลิศลาภ, คุณคุณเจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์
จากซ้ายไปขวา: อนันต์ อันวา, มารีญา พูนเลิศลาภ และเจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์

เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการเปิดตัวในครั้งนี้ Oakley มาพร้อมการเปิดตัวแคมเปญไลฟ์สไตล์ระดับโลกอย่าง “More Than Meets The Eye” พร้อมกับส่งแว่นกันแดด 2 คอลเล็คชันใหม่ซึ่งถือเป็นไฮไลท์สำคัญอย่างรุ่น BXTR และ HSTN ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์จากจินตนาการของนักออกแบบ Oakley และ friends of the brand ที่พร้อมทำงานร่วมกันและได้พัฒนาสไตล์ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างกีฬาและวัฒนธรรมอย่างลงตัว

แว่นตารุ่น BXTR เป็นแว่นตาทรงชิลด์ (Shield) ที่มาพร้อมขาแว่นแบบ Trigger Stem ที่ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Razor Blade ต้นฉบับดั้งเดิมของOakley ผสมผสานกับสไตล์ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์

Oakley

ในขณะที่แว่นตารุ่น HSTN เป็นการนำเอาแว่นกันแดดต้นฉบับที่ Oakley แนะนำให้เป็นที่รู้จักเป็นครั้งแรกในปี 2021 มาพัฒนาต่อยอด แต่ยังคงไว้ซึ่งดีไซน์ทันสมัยและมรดกจากต้นฉบับที่ยังคงเด่นชัด ซึ่งรวมถึงเลนส์แบบวงกลมรูปแบบใหม่ และขาแว่นแบบ Trigger Stem ฉบับปรับปรุง ทั้งสองรุ่นนี้ถูกสร้างมาจากจุดเริ่มต้นและมรดกของ Oakley ที่ผสานเอาวัฒนธรรมที่มีความสำคัญในช่วงเริ่มต้นของการสร้างสรรค์เพื่อเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเอกลักษณ์ ความหมาย และความเป็นต้นฉบับที่แท้จริง

Oakley

แคมเปญไลฟ์สไตล์ปี 2023 นี้ Oakley รวบรวมเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่สำคัญต่อนักกีฬาทั้งในและนอกสนามแข่ง วิดีโอซีรีส์ที่มีนักกีฬาคนดังของ Oakley อย่าง Kylian Mbappe, Damian Lillard และ Alexia Putellas บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละคน และพิสูจน์ให้เห็นว่ามีอีกหลายมุมมองที่เป็นมากกว่าที่ตาเห็นหรือ “More Than Meets The Eye” เสมอ

Oakley แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จไม่ได้จำกัดอยู่แค่ช่วงเวลาที่มีพลังการแข่งขันสูงในสนามแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่ผลักดันให้นักกีฬาเหล่านั้นเกิดพลังนอกสนามการแข่งขันนั้นด้วย

คุณทฤษฎี ตุลยอนุกิจกล่าวเสริมว่า “เราจะสานต่อความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเพื่อน ๆ ของ Oakley ซึ่งไม่ได้รวมถึงแค่เฉพาะนักกีฬาชั้นแนวหน้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนที่กำลังเติบโตของผู้คนที่มาจากหลากหลายภูมิหลัง และแบ่งปันความหลงใหลในการผจญภัย กีฬา และการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ เรายินดีต้อนรับทุกคนให้ก้าวเข้ามาในร้านค้าของเราเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม การออกแบบ และนวัตกรรมทั้งหมดที่ Oakley นำเสนอ”

แอ๊คทีฟไลฟ์สไตล์ Oakley
อ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ไปเที่ยวทะเลใต้กับ HYUNDAI STARGAZER ใช้เวลาน้อยแต่สนุกมาก!

ฮ่องกง 2023 เมืองของคนรักสีสัน อาหาร และสายมูฯ #สายถ่ายภาพก็ฟินนะ

Hotel MYS Khao Yai โรงแรมระดับ 5 ดาวแนวลักชูรีโคซี อบอุ่น สวยงาม อาหารเลิศ

12 เรื่องน่ารักๆ ที่แม่สื่อมืออาชีพอยากบอกคนโสด (ไม่โสดก็อ่านได้)

5 เหตุผลที่คนเก๋ๆ ต้องไปเช็คอินที่ Kimpton Kitalay Samui

รีวิว ออริกา เวลเนส & โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ..สุข สบาย ใจสงบ

Origins

ใหม่ล่าสุดจาก Origins กับ Mega Mushroom Emulsion

Alternative Textaccount_circle
event
Origins
Origins

ใหม่ล่าสุดจาก Origins กับ Mega Mushroom Emulsion ผลิตภัณฑ์อิมัลชั่นเนื้อสัมผัสบางเบา แต่มอบความชุ่มชื้นได้อย่างยาวนาน พร้อมปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า และต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการระคายเคือง และชะลอความอ่อนเยาว์

Mega Mushroom กลุ่มผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างต่อเนื่องจาก Origins ในเรื่องของการเสริมความแข็งแรงให้ผิว ปลอบประโลมผิว และลดการระคายเคือง ครั้งนี้กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ ที่ได้รับการพัฒนา คิดค้น เป็นผลิตภัณฑ์อิมัลชั่นสูตรใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มาพร้อมคุณสมบัติใหม่

  • กักเก็บความชุ่มชื้นแก่ผิวยาวนาน 48 ชั่วโมง
  • ต่อต้านอนุมูลอิสระ
  • เสริมสร้างชั้นผิว
  • ลดรอยแดงและการระคายเคืองได้อย่างรวดเร็ว
  • ปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า
Origins

เทคโนโลยี Planti-oxidant ที่เป็นการต่อต้านอนุมูลอิสระจากพืช พร้อมสารสกัด Sea Buckthorn Extract ออร์แกนิคที่ผ่านการรับรอง ด้วยพลังการต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านความเครียด รวมทั้งปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า และปกป้องปราการไขมันที่ทำหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้น

Molecular Mushroom Complex ด้วยสารสกัดจากเห็ดหลินจือและชากาหมัก ที่จะช่วยลดการระคายเคืองที่อาจเป็นสาเหตุให้ปราการผิวอ่อนแอลง อันเป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณแห่งวัย

Hyaluronic Acid ที่ได้จากธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นความสามารถตามธรรมชาติของผิวในการผลิตไฮยาลูรอนนิค ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ เนียนนุ่ม น่าสัมผัส

กลีเซอรีนที่ได้จากพืช ดึงดูดความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งกร้าน ดึกความชุ่มชื้นจากสภาพแวดล้อมมาเพิ่มความชุ่มชื้นได้ทันที

สควาเลนที่ได้จากธรรมชาติ และน้ำมันมะกอกออร์แกนิค ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นยาวนาน 48 ชั่วโมง

Origins

เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น แนะนำใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ Dr. Andrew Weil for Origins Mega-Mushroom Treatment Lotion เมื่อใช้ด้วยกันแล้ว Dr. Andrew Weil for Origins Mega-Mushroom Relief & Resilience Fortifying Emulsion สามารถทำงานได้ดีขึ้น 2.5 เท่า1

  • ผ่านการทดสอบทางการแพทย์
  • ไม่ก่อให้เกิดสิว

Dr. Andrew Weil for Origins Mega-Mushroom Relief & Resilience Fortifying Emulsion ขนาด 100ม.ล. ราคา 1,950

มีวางจำหน่ายที่เคาน์เตอร์ Origins ทุกสาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, Sephora, EVEANDBOY และออนไลน์ที่ Origins.co.th, Lazada, Central Online, The Mall Online, Sephora Online และ Eveandboy Online

Origins

ติดตามข้อมูลข่าวสารจาก Origins ได้ที่

  • Facebook : OriginsThailand
  • Instagram : OriginsThailand
  • Twitter : OriginsThailand

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณจิณห์นิภา เล็กเครือสุวรรณ โทร 094-3635455 หรือที่ [email protected]

keyboard_arrow_up