The Mall Lifestore

ขอเชิญร่วมงาน The Mall Lifestore Collectible Fest EP.2 รวมฮิตของนักสะสม

Alternative Textaccount_circle
event
The Mall Lifestore
The Mall Lifestore

เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ร่วมกับ กลุ่มนักสะสมรถคลาสสิค, บริษัท เทค ทอยส์ จำกัด, Kids’ Planet , Betrend เดอะมอลล์กรุ๊ป และ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จัดงาน “The Mall Lifestore Collectible Fest EP.2 รวมฮิตของนักสะสม” มหกรรมแสดงของสะสมสุดฮิตยิ่งใหญ่แห่งปี พบกับขบวนรถคลาสสิคที่หาชมยาก ครั้งแรกในประเทศไทยกับนิทรรศการตุ๊กตา Care Bears ครบทุกคอลเลกชั่น ชมผลงานการออกแบบ Art Toys จาก 50 Thai Toy Designers คนไทยชื่อดัง เพลิดเพลินกับ Art & Toys Market รวบรวมสินค้าของเล่น ของสะสมสุดฮิตในโซเชียล พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ เวิร์กชอปและกิจกรรมสร้างสีสันมากมาย งานจัดวันนี้ – 30 ก.ค.2566 ที่บริเวณ MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน

The Mall Lifestore

คุณวรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “เราต้องการให้ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ไม่ใช่แค่ที่ขายของหรือห้างสรรพสินค้า แต่เป็นสถานที่เชื่อมโยงความผูกพันระหว่างครอบครัว กลุ่มคนและชุมชนรอบพื้นที่ ที่ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่กัน โดยสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ ที่สร้างความสุขและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เราจึงจัดงาน The Mall Lifestore Collectible Fest EP.2 รวมฮิตของนักสะสม เป็นการรวมตัวของนักสะสมทั่วประเทศ ที่ชื่นชอบและมี passion เหมือนกัน ได้มาพบและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น นักสะสมรถยนต์คลาสสิคทั้งรถซูเปอร์คาร์ รถคลาสสิควินเทจ , กลุ่มคนที่รักตุ๊กตาหมี Care Bears และกลุ่มของคนรักงานศิลปะ งานอาร์ตทอยส์ งานนี้เป็นอีกหนึ่งอีเว้นท์ใหญ่ที่เปิดพื้นที่และ คอมมูนิตี้สำหรับนักสะสมทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกเจเนอเรชั่นไว้ในงานเดียว รวมทั้งสนับสนุนเหล่าศิลปินไทย ดีไซเนอร์อาร์ตทอยส์ได้มีพื้นที่แสดงผลงานต่างๆ เพื่อให้คนที่รัก ชื่นชอบงานศิลปะ ของสะสมได้มาเลือกชมและมีความสุขกับอาณาจักรของสะสมต่างๆ ในงานนี้”

The Mall Lifestore

สำหรับพิธีเปิดงาน ได้รับเกียรติจาก คุณวรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดงาน รวมทั้งได้เซเลบริตี้ นักสะสมรถคลาสสิค คุณวรท หงุ่ยตระกูล และ คุณแดน ศรมณี , คุณริน-ศิรินญา ปึงสุวรรณ “Poriin” ดีไซเนอร์ Art Toys ชื่อดัง มาร่วมพูดคุยถึงของสะสม ร่วมกับ แจม-รชตะ หัมพานนท์ ซึ่งงานนี้หนุ่มแจมได้นำ “กันดั้ม” ของสะสมที่ชื่นชอบมาจัดแสดงในงานและโชว์พิเศษให้แฟนคลับได้ฟิน โดยมีนักสะสมรถคลาสสิค คุณวิทวัส ชัยปาณี , ว่าที่ร้อยโทวัลลภ เกษมลักษณ์ , คุณชนัฐ ภัคเวโรจน์ , คุณมนัส สาธิตสมิตพงศ์ , คุณปฐม เฟื่องอารมย์ และนักสะสมอีกมากมาย นำรถคลาสสิคร่วมโชว์ในงานนี้

The Mall Lifestore

ไฮไลท์สุดพิเศษ อลังการกับ Classic Car Showcase โชว์ขบวนรถคลาสสิคที่หาชมยากมากกว่า 30 คัน ทั้งรถซูเปอร์คาร์ รถคลาสสิควินเทจ คอลเลคชั่นส่วนตัวของเซเลบริตี้ชื่อดัง และนักสะสมจากทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น รถ Porsche รุ่น 356 Speedster Replica รถสปอร์ตสุดคลาสสิคของคุณวรท หงุ่ยตระกูล ที่แฟน Porsche ทั้งหลายต้องการครอบครองมาจนถึงปัจจุบัน, รถ Jaguar E-Type ที่สุดของรถสปอร์ตสุดคลาสสิคของคุณมนัส สาธิตสมิตพงศ์ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่ได้รับการออกแบบสวยที่สุดตลอดกาล , รถ Jaguar XK 140 FHC ของคุณชณัฐ ภัคเวโรจน์ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเสือร้ายสุดคลาสสิค จากเกาะอังกฤษ, รถ Mercedes-Benz W111 Coupe ของคุณแดน ศรมณี รถยนต์ Mercedes-Benz ที่มีเอกลักษณ์การออกแบบครีบหางอย่าง โดดเด่น คลาสสิคสวยงาม , รถ Volkswagen Karmann Ghia ของ คุณสิทธิศักดิ์ อรัญยะถาวร รถคลาสสิคสุด หายากที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในการออกแบบยานยนต์ที่สวยงามที่สุดในสมัยก่อน, รถ Ferrari 328 GTSสปอร์ตที่มีสไตล์โดดเด่นจากประเทศอิตาลี , รถ Land Rover 1962 และรถ Land Rover Series 2 รถรุ่นเก่าสุดคลาสสิคที่หาชมยากของ คุณนนทิวัฒน์ วิเศษศิริ นักสะสมรถ Land Rover รวมถึงรถคัสตอมในตำนาน เช่น Cars No.95 Grey Lightning Mcqueen , Nissan Skyline R30 Bosozoku Style ของคุณเฮง การาจ และ Cars Lightning Mcqueen ของคุณโอ๋ PS-MODIFY เป็นต้น ซึ่งรถเหล่านี้จะมาจัดแสดงให้คนรักรถได้ชม และถ่ายรูปอย่างใกล้ชิด

The Mall Lifestore

สาวกตุ๊กตาน้องหมีแคร์แบร์สุดคิ้วท์ต้องไม่พลาด ครั้งแรกในประเทศไทยกับนิทรรศการตุ๊กตา Care Bears ครบทุกคอลเลกชั่น ตุ๊กตาหมีแคร์แบร์สัญชาติอเมริกัน หลากสีสุดน่ารักทั้งคอลเลกชั่นหาชมยากและเอ็กซ์คลูซีฟ สร้างสรรค์โดย American Greetings บริษัทผลิตการ์ดอวยพรในสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1981 แคร์แบร์แต่ละคาแรคเตอร์ มีสีสัน สัญลักษณ์เฉพาะที่หน้าท้อง หรือ “ป้ายท้อง” ที่บอกลักษณะนิสัย ความสามารถพิเศษและแทนข้อความแสดงความรู้สึกที่แตกต่างกัน เช่น Cheer Bear ตัวแทนของความสุข , Funshine Bear ตัวแทนของความสดใส มองโลกในแง่ดี , Good Luck Bear ตัวแทนแห่งความโชคดี และพบกับตุ๊กตาหมีแคร์แบร์ rare item สุดหายาก อาทิ Grams Bear, Care-a- Lot Bear, Trick-or-Sweet Bear และ Christmas Wishes Bear เป็นต้น

The Mall Lifestore

Art Toys Zone สำหรับสายสะสม ชมผลงานการออกแบบ Art Toys จาก 50 Thai Toy Designers อาทิ Poriin, A Little Monster, Warrrrrr Studio, LATTE LATTE ฯลฯ พร้อมชม Young Artist Showcase ผลงานศิลปะสุดอาร์ทของ 9 ศิลปินรุ่นใหม่จาก Galleria Benetti อาทิ Jaogon, Cheese Arnon และ Hype Sabart

เพลิดเพลินกับ Art & Toys Market ช้อปสินค้า Art Toys จากกว่า 50 ศิลปินไทยดีไซเนอร์ และรวบรวมสินค้าของเล่น ของสะสมสุดฮิตมากมาย จาก Kids’ Planet , Betrend เดอะมอลล์ กรุ๊ป อาทิ Hot Wheels, Barbie, Majorette, Bandai, Toylaxy และ Nida Group

The Mall Lifestore

สนุกกับกิจกรรมเอาใจเหล่าคอลเลกเตอร์ ทั้งกิจกรรม Designer & Collector Talk และเวิร์กชอปกับศิลปิน Art Toys คนไทย อาทิ คุณริน-ศิรินญา ปึงสุวรรณ “Poriin” ดีไซเนอร์ Art Toys ชื่อดัง ผลงานคาแรกเตอร์สุนัขจิ้งจอก Fenni ที่นักสะสมชาวไทย และต่างชาติอยากได้มาครอบครอง, คุณภริมโรจน์ ภิญโญ “PRJ” หนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ผู้สร้างสรรค์ “เจ้าก้อน” คาแรกเตอร์อ้วนกลมสีชมพู , คุณจีน-อรชพร วราศิริกุล เจ้าของผลงาน “LATTE LATTE” (ลาเต้ลาเต้) หนูแกสบี้ที่มีแรงบันดาลใจมาจากสัตว์เลี้ยงที่เธอรัก, เสือ-ภูชิต เสือสกุล จากนักสะสมที่ชอบของเล่นสู่นักสร้างสรรค์ผลงาน Art Toys “A Little Monster Story”, Warrrrrr Studio กับคาแรกเตอร์เด็กชายมนตรี ตัวแทนความเป็นเด็กของทุกคน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเพ้นท์สีสนุกๆ กับศิลปิน Art Toys ฟรี!! ตื่นตากับขบวน คอสเพลย์หลากหลายคาแรกเตอร์ทุกวันศุกร์ – อาทิตย์

The Mall Lifestore

จัดเต็มกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ BANDAI พบกับสินค้าของเล่นของสะสม หุ่นยนต์กันดั้มราคาพิเศษลดสูงสุด 30% และวันเสาร์-อาทิตย์ร่วมสนุกกับกิจกรรมต่อโมเดลคิท Plannosaurus ฟรี!! , BARBIE พบกับ Barbie Showcase คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดจากภาพยนตร์ Barbie The Movie สินค้าราคาพิเศษ ลดสูงสุด 30% และสนุกกับกิจกรรมเวิร์กชอปสุดพิเศษสำหรับคนรัก BARBIE , นักสะสมโมเดลรถ พบสินค้าราคาพิเศษจาก HOTWHEELS และ MAJORETTE พร้อมสนุกสุดมันส์กับกิจกรรมการแข่งขันรถรางยาวจาก MAJORETTE ภายในงาน พิเศษ สมาชิก M Card แลก 99 M Point รับสิทธิ์ หมุนกาชาปอง ฟรี จำนวน 1 ครั้ง กด

The Mall Lifestore

รับสิทธิ์ที่ M Card โมบายแอปพลิเคชัน และพิเศษสุดๆ กับกิจกรรม แชะ-เช็ค-แชร์ รับฟรี คูปองแลกซื้อเครื่องดื่มโค้ก, แฟนต้า, สไปรท์ มูลค่า 25 บาท เพียงถ่ายภาพคู่กับของสะสมภายในงาน THE MALL LIFESTORE COLLECTIBLE FEST EP.2 พร้อมใส่ #CokeTH #CokeTHxCOLLECTIBLEFEST2023

ห้ามพลาดกับงาน “The Mall Lifestore Collectible Fest EP.2 รวมฮิตของนักสะสม” มหกรรมแสดงของสะสมสุดฮิตยิ่งใหญ่แห่งปี สามารถเข้าชมงานนี้ได้ฟรี! งานจัดตั้งแต่วันนี้ – 30 ก.ค. 2566 ที่ MCC HALL ชั้น 4 เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook The Mall Thailand และ MCC HALL

The Mall Lifestore
โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

ค่ำคืนพิเศษกับ KiSara Sake Dinner ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

Alternative Textaccount_circle
event
โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ
โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

คิซาระ ห้องอาหารญี่ปุ่นในสไตล์โมเดิร์นพร้อมกับรสชาติญี่ปุ่นแท้ต้นตำรับพร้อมคุณภาพพรีเมี่ยม โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ขอเสนอค่ำคืนพิเศษกับ KiSara Sake Dinner ที่ได้นำ 7 เมนูพิเศษนำมาจับคู่กับสาเกญี่ปุ่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยมีผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณนาโอโกะมารับหน้าที่ดูแลเรื่องสาเกในงานนี้โดยเฉพาะ งานจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 18:00 น. เป็นต้นไป ในราคา 3,500++ บาทต่อท่าน

โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

พิเศษรับส่วนลด 15% หากจองทานล่วงหน้าภายในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 สามารถซื้อผ่านลิ้งค์ http://bitly.ws/x48q สำหรับแขกที่เข้าร่วมงานนี้จะได้รับส่วนลดพิเศษอีก 25% สำหรับอาหารและเครื่องดื่มหากสำรองที่นั่งมารับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมฯภายในวันที่ 30 กันยายน 2566

โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

เซ็ทเมนูพิเศษพร้อมสาเกนี้มีดังนี้

  • หอยนางรมย่างซอสมิโสะ จับคู่กับ สาเกมาสุมิ ยามาฮาอิ จุนไม กินโจ อากะ เรด
  • ทูน่าโทโร่ กุ้งโบตั๋น ปลาซีเบรม หอยเชลล์ จับคู่กับ สาเกดาไซ จุนไม ไดกินโจ 39
  • “คิทสึเนะอุด้ง” ยูซุขนาดเล็ก
  • ล็อบสเตอร์ผัดมายองเนสวาซาบิ ไข่เทมปุระ จับคู่กับ สาเกซากุโนะฮานะ คาราคุจิ กินโจ
  • สเต็กเนื้อสันในวากิว A4 จับคู่กับ สาเกโคมาริ ซากิ จุนไม
  • ทูน่าซูชิโรล แซลมอนฟุกุสะกับอิคุระ, ซุปมิโซะสไตล์ฮอกไกโด “อิชิการิ” ซุปมิโซะ จับคู่กับ สาเกทาคิซาว่า โทคุโจ
  • เชอร์รี่มะเขือเทศเชอร์เบท สาเกเยลลี่ มิ้นท์ จับคู่กับ สาเกโคซาเอมอน จุนไม คาโบสุ
โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. +66 (0) 2690 9999 หรืออีเมล [email protected]

LUXX

LUXX เปิดตัวในเอเชียแปซิฟิกอย่างเป็นทางการในไทย

account_circle
event
LUXX
LUXX

งมาก! LUXX ผู้นำนวัตกรรมความงามและเส้นผมจากอเมริกา เปิดตัวในเอเชียแปซิฟิกอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัวหัวลบไลเนอร์ครั้งแรกในประเทศไทย

กว่า 3 ปีที่LUXX ได้กลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามจากประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้แนวคิด BEAUTY INNOVATION FOR WOMAN, BY WOMAN กับดีเทลนวัตกรรมอัจฉริยะที่เป็นเอกลักษณ์ ของทุกผลิตภัณฑ์ เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 3 ปี แห่งความสำเร็จทั่วโลก  เปิดตัวLUXX Liner Pro อายไลเนอร์แสตมป์ 4 in 1 นวัตกรรมหัวลบไลเนอร์ที่จดสิทธิบัตรแบรนด์แรกของโลก ช่วยให้การเขียนไลเนอร์ที่เพอร์เฟคเป็นเรื่องง่ายทำให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงทั่วโลกในเรื่องครบจบในหนึ่งเดียวภายใน 1 นาที พร้อมเปิดตัวโกลบอลแคมเปญ End Violence Against Women สมทบทุนองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรี ในวันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม 2566 ณ ห้องบอลรูม ชั้น 5 โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท

ภายในงาน LUXX เปิดตัว 3 ไลน์อัพผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมสุดล้ำ ที่ช่วยครีเอททุกลุคอย่างมืออาชีพแบบ All in One พร้อมผสานกับดีไซน์ความเป็นผู้หญิงรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด กับผลิตภัณฑ์LUXX Liner Pro อายไลเนอร์แสตมป์ 4 in 1 นวัตกรรมหัวลบไลเนอร์จดสิทธิบัตรแบรนด์แรกของโลก ที่ช่วยให้การเขียนไลเนอร์ คมกริบเป็นเรื่องง่ายครบจบในหนึ่งเดียวกับหัววิงแสตมป์, หัวไลเนอร์ และ Makeup Eraser (หัวลบเมคอัพ และอายไลเนอร์), LUXX Lashcara Pro Kit เซ็ทต่อขนตา นวัตกรรมเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาสวยที่ติดแน่นได้นานถึง 10 วัน นำกลับมาใช้ซ้ำได้ถึง 4 ครั้ง และ LUXX Air Pro™ 2 ไดร์เป่าผม และจัดแต่งทรงผมด้วยหัวจัดแต่งทรงผม มากถึง 5 หัวในเซ็ทเดียว เพื่อเติมเต็มทุกความต้องการของผู้หญิง และให้ทุกคนเปล่งประกายความเป็นตัวเองในเวอร์ชั่น ที่ดูดีขึ้นในทุกวัน

LUXX

เพีย ชัญญา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารLUXX ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เล่าถึงความสำเร็จตลอด 3 ปีที่ผ่านมาว่า LUXX เป็นแบรนด์ที่มีจุดเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกา จากนั้นขยายสู่ยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ โดยเติบโตอย่างก้าวกระโดดทุกๆ ปี เป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่นในด้านการคิดค้นพัฒนานวัตกรรมเพื่อผู้หญิงอย่างแท้จริง ทำให้ได้รับความนิยมเป็นหนึ่งในบิวตี้ไอเท็มที่อยู่ใน Wish list ของสาวๆ ทั่วโลก สำหรับในเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีแฟชั่นนิสต้าและบิวตี้เลิฟเวอร์มากมาย ที่พร้อมเปิดรับเทรนด์ความงามที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้

เพีย ชัญญา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร LUXX ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

LUXXจึงเป็นบิวตี้อินโนเวชั่นไอเท็มสำคัญที่ช่วยคอมพลีตลุคอันน่าประทับใจอย่างง่ายดาย ช่วยให้ประหยัดเวลา การแต่งหน้า และแต่งทรงผม เสริมความั่นใจง่ายๆ ได้ในทุกๆ วัน นอกจากนี้LUXX อยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ Empowering ผู้หญิงทุกคน ให้เผยเสน่ห์ความงามที่สะท้อนความเป็นตัวเองอย่างมั่นใจอีกด้วย

สำหรับไลน์ผลิตภัณฑ์เมคอัพลักชัวรีที่เป็นไฮไลท์LUXX Liner Pro อายไลเนอร์แสตมป์ 4 in 1 ให้ความคมชัด ทำให้ดวงตาคมกริบ กันน้ำ เหงื่อ และความชื้น ไม่เป็นคราบไหลเยิ้มระหว่างวัน ด้วยปลายขนแปรงเรียวและเท็กซ์เจอร์นุ่มทำให้บังคับทิศทางลายเส้นได้อย่างง่ายดาย สร้างมิติและเนรมิตเสน่ห์ให้ดวงตาสาวๆ รวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพียง 2 ขั้นตอนง่ายๆ ปั๊ม กรีด ด้วยความโดดเด่นในการคิดค้น ผลิตภัณฑ์ตามคอนเซ็ปต์ All in One จึงมาพร้อมวิงแสตมป์ 2 ข้าง, หัวไลเนอร์ และหัวลบไลเนอร์ที่จดสิทธิบัตรแบรนด์แรกของโลก และเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก หมดปัญหาการเขียนไลเนอร์เลอะ หรือไม่เท่ากัน ปลอดภัยกับดวงตาและปราศจากพาราเบน อ่อนโยนต่อดวงตา

LUXX Lashcara Pro Kit ชุดเซ็ทขนตาแบบช่อ เข้ากับรูปตาได้ทุกทรงช่วยครีเอท Natural Look พร้อมสไตล์ขนตา ให้เลือกได้หลายหลาย ติดง่ายสะดวกรวดเร็วเนียนสวยกลมกลืนไปกับดวงตาเสมือนขนตาจริง เบาสบายไม่หนักตา และอยู่ได้นานถึง 10 วัน ให้สาวๆ สนุกกับการครีเอทลุคเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาสวยทุกวัน มาพร้อมอุปกรณ์ครบครันในเซ็ทที่อ่อนโยนกับดวงตา ทั้งขนตาแบบช่อที่มีหลากหลายความยาวให้เลือกสำหรับ ทุกโอกาสสำคัญ และ Everyday look, น้ำยาติดขนตา, เจลล็อคขนตา, ออยล์ถอดขนตา และคีมหนีบขนตา อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้มากถึง 4 ครั้ง

ในโอกาสครบรอบ 3 ปีแห่งความสำเร็จของLUXX จึงได้เปิดตัวโกลบอลแคมเปญ End Violence Against Women โดยนำรายได้ 3% ของทุกยอดการสั่งซื้อ ตั้งแต่เดือน มี.ค. – ธ.ค. 2566 ร่วมสมทบทุน องค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรี และช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกทำร้ายและคุกคามทั้งทางเพศ ร่างกายและจิตใจ จากคนในครอบครัวและคนแปลกหน้า ซึ่งมีจำนวนมากขึ้น และเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบระยะยาวที่เกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก

LUXX

โปรโมชั่นพิเศษสุด ผลิตภัณฑ์LUXX ลด 30% ทุกชิ้น และเปิดให้พรีออเดอร์LUXX Air Pro™ 2 Secrecy Black Special Edition ครั้งแรกในประเทศไทย เฉพาะลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านไลน์ @Luxxstore ระหว่างวันที่ 24 ก.ค. – 8 ส.ค. 2566 เท่านั้น

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่และความอัจฉริยะในการสร้างลุคที่เปล่งประกายจากLUXX ผู้นำบิวตี้อินโนเวชั่น ได้ที่ www.luxxstore.com, Line OA : @luxxstore, Beauty Lab สยามดิสคัฟเวอรี่ ชั้น G, FIRSTER สาขาคิง เพาเวอร์ รางน้ำและสาขาสยามสแควร์ ซอย 7 หรือช็อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่Luxx Official Store บน LAZADAShopee, Line Shopping และ TikTok Shop

ติดตามอ่านบทความด้านความงามและไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

CELEBRATING CHANTECAILLE 25 YEAR

L’Oréal Professionnel จัดงานใหญ่เปิดตัวผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมสูตรใหม่ของ iNOA

KANEBO BRIGHT FUTURE BOX อายแชโดว์ใหม่ เปล่งประกายจับตา!

Dyson Airstrait เครื่องหนีบผมไร้แผ่นให้ความร้อน ล่าสุดจาก Dyson

ส่อง เทคนิคทำผมหน้าม้าซีทรู จาก Kim Sunwoo แฮร์สไตลิสต์ของเหล่าไอดอลเกาหลี 

แนะนำ 3 ลิปบาล์มใช้ดีมาก ปากนุ่ม ไม่ลอก ไม่เป็นคราบ ราคาเอื้อมถึง

ViMUT Healthy 50 Plus

รพ.วิมุต สร้างสุขภาพในฝันหลังวัย 50+ แคมเปญใหญ่ ViMUT Healthy 50 Plus

Alternative Textaccount_circle
event
ViMUT Healthy 50 Plus
ViMUT Healthy 50 Plus

รพ.วิมุต สร้างสุขภาพในฝันหลังวัย 50+ พร้อมปล่อยแคมเปญใหญ่ “ViMUT Healthy 50 Plus” รุกตลาดสูงวัยชูกลยุทธ์ปรับบริการเฮลท์แคร์รับมือสังคมผู้สูงอายุในไทยครบทุกมิติ

โรงพยาบาลวิมุต โรงพยาบาลเอกชนชั้นนำใจกลางกรุงเทพฯ ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้าน Trusted Healthcare Platform ของไทย เดินหน้าเปิดตัวแคมเปญใหญ่ “ViMUT Healthy 50 Plus สุขภาพในฝันหลัง 50+” หลังปรับแผนธุรกิจให้พร้อมรองรับการดูแลสุขภาพในยุคสังคมผู้สูงวัย สานต่อกลยุทธ์ Seamless and Comprehensive Care อย่างเข้มแข็งเพื่อเติมเต็มบริการสุขภาพในแบบองค์รวมตั้งแต่การป้องกันโรค การวินิจฉัยที่แม่นยำ การดูแลติดตามผล ตลอดจนการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่ายอดผู้เข้าใช้บริการของกลุ่มคนวัย 50+ จะสูงขึ้นเพิ่มอีก 30% หลังปล่อยแคมเปญ ภายใต้เป้าหมายในการช่วยเหลือสังคมไทยซึ่งเตรียมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ในปี 2574 (ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข) โรงพยาบาลวิมุต ประกาศพร้อมมอบบริการเฮลท์แคร์ที่เพียบพร้อมด้วยทีมแพทย์เฉพาะทางมากประสบการณ์และนวัตกรรมทางการแพทย์ภายใต้มาตรฐานสากล ทุกศูนย์เฉพาะทางของโรงพยาบาลวิมุต พร้อมรองรับสถานการณ์การเจ็บป่วยที่เพิ่มขึ้นจากโรคเรื้อรังและโรคยาก-ซับซ้อน นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังเร่งสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญในการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รู้เท่าทันโรคและรับการรักษาได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสีย ลดค่าใช้จ่าย ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของทั้งผู้สูงวัยและสมาชิกในครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ViMUT Healthy 50 Plus

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “โรงพยาบาลวิมุต เดินหน้าศึกษาแนวโน้มด้านสาธารณสุขของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาและเสริมแกร่งบริการเฮลท์แคร์แบบองค์รวมให้สอดรับกับบริบทและความต้องการของสังคมไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ดังที่เราทราบกันดีว่า ประเทศไทยได้ก้าวสู่การเป็นสังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ (Complete Aged Society) ในปี 2565 ที่ผ่านมา ทั้งยังเตรียมก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) ภายในปี 2574 ซึ่งหมายความว่าในอนาคตข้างหน้า ประชากรราว 1 ใน 3 ของประเทศจะมีอายุเกิน 60 ปี แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรครั้งใหญ่ย่อมก่อให้เกิดความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างอีโคซิสเต็มของบริการสาธารณสุขที่มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ข้อมูลศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี (TTB Analytics) ยังชี้ว่าธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในปี 2576 จะมีมูลค่าตลาดแตะ 2 หมื่นล้านบาท สอดรับกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของกลุ่ม Gen X นั่นเอง”

“ภายใต้แคมเปญ “ViMUT Healthy 50 Plus สุขภาพในฝันหลัง 50+” โรงพยาบาลวิมุต มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสุขภาพของคนทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ภายใต้สโลแกน ‘อีกระดับของการรักษา…ด้วยความใส่ใจ’ เราพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยได้อย่างมั่นคง เราจึงเดินหน้าปรับแผนระยะยาวในการให้บริการเพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของตลาด เร่งดูแลผู้สูงวัยและสมาชิกทุกคนในครอบครัว ตลอดจนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมทางการแพทย์ชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชีย” นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของ รพ. วิมุต

ViMUT Healthy 50 Plus

นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวถึงการสร้างอีโคซิสเต็มด้านสุขภาพของโรงพยาบาลวิมุต เพื่อการดูแลสุขภาพว่า “การเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทยถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันรับมือและเตรียมความพร้อม ปัจจุบันการดูแลรักษาผู้ป่วยไม่ได้จำกัดอยู่แต่ในโรงพยาบาล ในฐานะ Seamless and Comprehensive Care ชั้นนำของเมืองไทย แผนระยะยาวของโรงพยาบาลวิมุต คือการสร้างอีโคซิสเต็มด้านสุขภาพที่แข็งแกร่งและเข้าถึงคนจำนวนมาก อาทิ คลินิกสุขภาพ ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) ในโครงการพฤกษา เป็นต้น เพื่อสร้างชุมชนสุขภาพดีและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้รับบริการ นอกจากนี้ โรงพยาบาลวิมุต ยังร่วมมือกับโรงเรียนแพทย์ โรงพยาบาลพันธมิตร บริษัทประกัน ตลอดจนสถาบันองค์ความรู้ เพื่อร่วมสร้างความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพและขยายการให้บริการอย่างทั่วถึง ยิ่งไปกว่านั้น โรงพยาบาลวิมุต มีแพทย์เฉพาะทางหลากหลายสาขา รวมถึงแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ที่พร้อมดูแลรักษาโรคซับซ้อน โดยบริการที่ครอบคลุมของโรงพยาบาลวิมุต ประกอบด้วย การตรวจสุขภาพทั่วไปและการตรวจเฉพาะทางต่าง ๆ การวินิจฉัยและรักษาโรค ตลอดจนการฟื้นฟูดูแลสุขภาพหลังการรักษา โดยโรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ กลุ่มโรคในระบบกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อ เช่น กล้ามเนื้อฝ่อ กระดูกพรุน กลุ่มโรคภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง กลุ่มโรคที่เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาท โรคพาร์กินสัน ตลอดจนภาวะสมองเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากขึ้นพอ ๆ กับมะเร็งและโรคหัวใจ รวมถึงกลุ่มโรคอื่น ๆ เช่น ความผิดปกติของการมองเห็นและการได้ยิน ตลอดจนภาวะซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ด้วยความซับซ้อนและความท้าทายในการดูแลผู้สูงวัย การดูแลที่เหมาะสม ปลอดภัย และได้ผลดี คือการดูแลรักษาแบบองค์รวมตั้งแต่การป้องกันจนถึงการฟื้นฟูนั่นเอง”

ViMUT Healthy 50 Plus

แพทย์หญิงมนฑรัตน์ เจนทวีพรกุล แพทย์ผู้ชำนาญการเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลวิมุต อธิบายถึงโรคที่พบได้บ่อยในคนวัย 50 ปีขึ้นไปและเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพง่าย ๆ ว่า “โรคที่พบ่อย คือ โรคไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งเคล็ดลับการดูแลร่างกายให้ห่างไกลโรคเหล่านี้ประกอบด้วย 6 อ. ได้แก่ 1. อาหาร ต้องรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ 2. อากาศ ต้องอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศดี 3. ออกกำลังกาย ต้องหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ 4. อารมณ์ ต้องดูแลอารมณ์ของตนเองให้แจ่มใส 5. อย่าอดนอน ต้องนอนหลับพักผ่อนให้ครบ 8 ชั่วโมง และ 6. ออกไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพทุกปี สำหรับแคมเปญ “ViMUT Healthy 50Plus” ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้คนไทยอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพได้อย่างคุ้มค่าและสะดวกสบายผ่านแพ็กเกจการตรวจรักษาโรคโดยบุคลากรทางการแพทย์และผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการคัดกรองการเจ็บป่วยตั้งแต่เนิ่น ๆ ของคนวัยเก๋า เราเชื่อมั่นว่าแคมเปญนี้จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนวัย 50+ ได้อย่างแน่นอน”

ด้าน มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ดารา-นักร้องชื่อดังผู้เข้าสู่วัยเลข 5 เมื่อเร็ว ๆ นี้ เล่าถึงการดูแลสุขภาพว่า “พอเข้าสู่คนวัยเลข 5 ก็สังเกตเห็นเลยว่า ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งทางร่างกายและสภาพจิตใจ เช่น ผมไม่เคยคิดเลยว่ากระดูกเราจะเปราะได้ง่ายมากเมื่ออายุมากขึ้น หลาย ๆ คนในวัยเดียวกันกับผมก็มีความกังวลเรื่องสุขภาพ อยากสร้างรากฐานสุขภาพที่ดีและป้องกันโรคตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อลดความรุนแรงของโรคและใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจ คิดว่า ViMUT Healthy 50 Plus เป็นแคมเปญที่ดีมากสำหรับคนวัยเก๋า นอกจากจะมีการให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคในคนวัย 50+ แล้ว ยังมีแพ็กเกจสุขภาพที่คุ้มค่ามานำเสนออีกด้วย เหมาะสำหรับทั้งคนวัยเดียวกับผม และคนที่อายุมากกว่า หรือทุกคนในครอบครัว”

โรงพยาบาลวิมุต จัดงาน Healthy 50Plus Health Fair ขึ้นในวันที่ 21-23 ก.ค. 2566 ภายใต้แคมเปญ ViMUT Healthy 50Plus เพื่อนำเสนอกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ทั้งการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงวัย การจัดบูธบริการให้คำปรึกษาและตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ ตรวจวัดความดัน เจาะน้ำตาลปลายนิ้ว, ตรวจวัดลานสายตา, ตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูก, ตรวจสแกนเท้า และตรวจวัดมวลไขมันในร่างกายด้วยเครื่อง Inbody (จำกัด 100 สิทธิ์/วัน) สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ https://register.vimut.com/healthy-50-plus นอกจากนี้ยังมีการบรรยายสุขภาพในหัวข้อต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงวัยโดยแพทย์เฉพาะทางจากหลากหลายสาขา พร้อมกิจกรรมแจกของรางวัล และบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพมากมาย พบโปรโมชันแพ็กเกจ Healthy 50Plus Health Fair ได้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. – 31 ส.ค. 2566 โดยสามารถใช้บริการได้ตั้งแต่ 21 ก.ค. – 30 ก.ย. 2566

ติดตามข่าวสารจากโรงพยาบาลวิมุตได้ที่

คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง - หยางหยาง-Yang Yang - 杨洋- คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน -พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงจีน -นักแสดงชายจีน - นักแสดงหญิงจีน-ดาราจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเก่าๆ - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก -ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023

3 คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง ชวนฟิน จิ้น จิกหมอนขาด!

Alternative Textaccount_circle
event
คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง - หยางหยาง-Yang Yang - 杨洋- คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน -พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงจีน -นักแสดงชายจีน - นักแสดงหญิงจีน-ดาราจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเก่าๆ - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก -ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023
คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง - หยางหยาง-Yang Yang - 杨洋- คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน -พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงจีน -นักแสดงชายจีน - นักแสดงหญิงจีน-ดาราจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเก่าๆ - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก -ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งพระเอกจีน สามีขวัญใจมหาชน สำหรับหยางหยาง (Yang Yang) นักแสดงชายจีนวัย 31 ปี (เกิดเดือนก.ย. 1991) ที่ไม่ว่าจะส่งผลงานการแสดงลงจอกี่เรื่อง ก็สร้างปรากฏการณ์ความปังได้ทุกเรื่อง ซึ่งวันนี้สุดฯ ไม่รอช้า ขอพาทุกคนตามส่อง 3 คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง ชวนฟิน จิ้นไปให้สุด ไม่หยุดที่จิกหมอนขาด มีเรื่องไหน ประกบคู่ใครบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลยค่า!

  • LOVE O2O ยิ้มนี้โลกละลาย 微微一笑很倾城 (2016)
LOVE O2O - เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย - ยิ้มนี้โลกละลาย - 微微一笑很倾城

หากพูดถึงซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาลของวงการบันเทิงจีน หนึ่งในชื่อที่หลายๆ คนนึกถึงกันจะต้องมีชื่อของ LOVE O2O ยิ้มนี้โลกละลาย หรืออีกชื่อคือ เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย ที่ออกอากาศไปเมื่อปี 2016 รวมอยู่ด้วย โดยเป็นซีรี่ย์ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักสุดหวานน้ำตาลเรียกพี่ของพระ-นางที่เกิดขึ้นหลังจากได้เจอกันในโลกของเกมออนไลน์ รวมไปถึงมิตรภาพของเหล่าตัวละครอื่นๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมาแล้วนับไม่ถ้วน! การันตีความสำเร็จด้วยการครองบัลลังก์หนึ่งในซีรี่ย์จีนที่ทำยอดวิวออนไลน์ทะลุหลักหมื่นล้านวิว! ยิ่งไปกว่านั้น LOVE O2O ยิ้มนี้โลกละลายยังเป็นซีรี่ย์จีนที่มียอดวิวใน Youtube รวมสูงถึง 523 ล้านวิว ส่งให้พระเอกและนางเอกของเรื่องที่รับบทโดยหยางหยางและเจิ้งส่วง (Zheng Shuang) ขึ้นแท่นท็อป 3 นักแสดงชาย-หญิงจีนที่มียอดวิวใน Youtube สูงสุดในขณะนั้นอีกด้วย ซึ่งหลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากแล้ว LOVE O2O ยิ้มนี้โลกละลายก็ถูกนำมาสร้างเป็นเวอร์ชั่นหนังจีน โดยมีจิ่งป๋อหรัน (Jing Boran) และแองเจล่าเบบี้ (Angelababy หรือชื่อจริง หยางอิ่ง Yang Ying) มารับบทพระ-นาง

คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง - หยางหยาง-Yang Yang - 杨洋-LOVE O2O - เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย - ยิ้มนี้โลกละลาย - 微微一笑很倾城
  • You Are My Glory ดุจดวงดาวเกียรติยศ 你是我的荣耀 (2021)
คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง - หยางหยาง-Yang Yang - 杨洋- You Are My Glory - ดุจดวงดาวเกียรติยศ - 你是我的荣耀

คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ You Are My Glory ดุจดวงดาวเกียรติยศ ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังของนักเขียนมากฝีมือกู้ม่าน (Gu Man) บอกเล่าเรื่องราวความรักของเฉียวจิงจิงและอวี๋ถู ทั้งคู่เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยม วันหนึ่งเฉียวจิงจิงเป็นฝ่ายบอกชอบอวี๋ถูก่อน แต่กลับถูกฝ่ายชายปฏิเสธ จากนั้นทั้งคู่ก็แยกย้ายและกลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจาก 10 ปีผ่านไป โดยปัจจุบันเฉียวจิงจิงกลายเป็นซุปตาร์ชื่อดังที่กำลังจะนั่งแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์เกมออนไลน์ และด้วยเกมนี้เองที่ทำให้จิงจิงได้เจอกับอวี๋ถูที่ทำงานเป็นวิศวกรการบินอวกาศอีกครั้ง การโคจรกลับมาเจอกันครั้งนี้ ทำให้เฉียวจิงจิงกับอวี๋ถูได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น และกลายเป็นความรักสุดโรแมนติกที่ทั้งหวาน จิ้น ชวนฟินในที่สุด >< แต่ค่ะแต่… รักครั้งนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้อวี๋ถูรู้สึกว่าเขาและเฉียวจิงจิงไม่เหมาะกัน แต่เมื่อพวกเขาผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ ทีมคนดูอย่างเราก็เตรียมจิกหมอนกันได้เลยค่า เพราะสุดฯ บอกเลยว่า น้ำตาลที่ว่าหวาน ยังต้องหลีกทางให้กับความรักของจิงจิงและอวี๋ถู! ซึ่งหยางหยางประกบคู่กับตี๋ลี่เร่อปา (Dilireba) เจ้าของผลงาน Eternal Love of Dream สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย (2020) 

คู่จิ้นซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกของหยางหยาง - หยางหยาง-Yang Yang - 杨洋- You Are My Glory - ดุจดวงดาวเกียรติยศ - 你是我的荣耀
  • Fireworks of My Heart กู้ภัยรัก นักดับเพลิง 我的人间烟火 (2023)
Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง - 我的人间烟火

ต่อด้วยซีรี่ย์จีนเรื่องล่าสุดของหยางหยางอย่าง Fireworks of My Heart กู้ภัยรัก นักดับเพลิงที่เพิ่งจะออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2023 ที่ผ่านมา โดยซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกเรื่องนี้ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังเรื่อง Waiting For You In My City ของนักเขียน จิ่วเยว่ซี (Jiu Yuexi) บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับซ่งเยี่ยน หัวหน้าสถานีดับเพลิง และสวี่ชิ่น แพทย์หญิงแผนกฉุกเฉินที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังแยกจากกันไปนาน 10 ปี เมื่อครั้งที่พวกเขายังเป็นวัยรุ่น เนื่องด้วยโดนครอบครัวกีดกันและคัดค้าน ทำให้พวกเขาต้องแยกจากกันไป เมื่อได้กลับมาเจอกันอีก ซ่งเยี่ยนกับสวี่ชิ่นได้ผ่านเรื่องราวต่างๆ เติบโตขึ้น และเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ อย่าง… (อ่านเรื่องย่อซีรี่ย์เต็มๆ ได้ที่นี่ คลิกเลย) ซึ่งในเรื่อง Fireworks of My Heart กู้ภัยรัก นักดับเพลิง หยางหยางรับบทนำคู่กับหวังฉู่หรัน (Wang Churan) ที่เมื่อต้นปี 2023 เพิ่งจะส่งซีรี่ย์จีนสุดเปรี้ยงปังอย่าง Love Heals เสียงกระซิบบอกว่ารัก ลงจอไป ไปตามเก็บแบบซับไทยได้ที่ iQIYI นะคะ

Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง - 我的人间烟火

รูปจาก : 你是我的荣耀官微/电视剧我的人间烟火/电视剧微微一笑很倾城

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

SMYTH’S Ramintra

สิงห์ เอสเตท รุกตลาด Cluster Home ปักหมุดโครงการ SMYTH’S Ramintra

Alternative Textaccount_circle
event
SMYTH’S Ramintra
SMYTH’S Ramintra

สิงห์ เอสเตท รุกตลาด Cluster Home ปักหมุดโครงการ SMYTH’S Ramintra บนทำเลศักยภาพเปิดราคาเริ่มต้นยูนิตละ 120 ล้านบาท รองรับดีมานด์บ้านเดี่ยว Ultra Luxury กรุงเทพโซนตะวันออก

สิงห์ เอสเตท เดินหน้า Cluster Home โครงการที่ 2 ต่อจาก ลาซัวว์ เดอ เอส เปิดตัว แบรนด์ “SMYTH’S Ramintra” บ้านแนวราบระดับอัลตร้าลักชัวรี ทำเลกรุงเทพโซนตะวันออก โดยยังคงคอนเซปต์ ULTIMATE PRIVACY นำเสนอความเป็นส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพียง 4 ยูนิต ด้วยฟังก์ชันและดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษตามกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน ให้เหมาะสำหรับไลฟ์ไตล์ที่โดดเด่นอย่างแตกต่าง ดันรายได้รวมธุรกิจพักอาศัยแนวราบเติบโตขึ้นกว่า 70% จากปีก่อน

นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ SMYTH’S Ramintra (สมิทธ์ รามอินทรา) คือการต่อยอดสำคัญของการขยายธุรกิจแนวราบแบบใหม่ ในรูปแบบ Cluster Home (คลัสเตอร์ โฮม) หรือที่สิงห์ เอสเตท จะเรียกว่า บ้านแบบ Private Estate ซึ่งจะเป็นบ้านที่ดีไซน์มาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของลูกบ้านแต่ละหลัง เป็นการต่อยอดความสำเร็จในกลุ่มโครงการบ้านแนวราบระดับอัลตร้าลักชัวรี ที่บริษัทฯ มองเห็นโอกาสในการเติบโตและการขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเซกเมนท์นี้ จากความสำเร็จของโครงการที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าตลาดลักชัวรียังคงเติบโตและยังมีดีมานด์อยู่ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเปิดตัวโครงการบ้านแนวราบทั้ง 5 โครงการ ที่สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้าไว้ในปีนี้ ที่จะครอบคลุม เซกเมนท์ลักชัวรีที่หลากหลาย ตั้งแต่บ้านเดี่ยวระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป / 20 ล้านบาทขึ้นไป / 50 ล้านบาทขึ้นไป รวมถึงโครงการ Private Estate ที่เป็น Flagship อย่างลาซัวว์ เดอ เอส และล่าสุด SMYTH’S Ramintra เปิดขายที่ราคาเริ่มต้น 120 ล้านบาท โดยบริษัทฯ คาดว่าโครงการที่พักอาศัยแนวราบในปีนี้ จะมีรายได้ที่เติบโตขึ้นกว่า 70% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

“SMYTH’S Ramintra เป็น Private Estate โครงการที่ 2 บนทำเลศักยภาพย่านรามอินทรา ซึ่งเป็น Residential Hub ที่น่าอยู่เห็นได้จาก ระยะทางที่ใกล้เซ็นทรัล รามอินทรา เพียง 2.8 กม. และรายล้อมด้วยช้อปปิ้งมอลล์อื่นๆ สนามกอล์ฟ สถาบันการศึกษาชั้นนำ โรงพยาบาลชั้นนำ และสนามบิน รวมถึงเป็นทำเลที่เชื่อมต่อไปยังย่านอื่นๆ ได้สะดวกมาก ทำให้ทำเลนี้มีจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อกับศูนย์กลางธุรกิจได้อย่างง่ายดาย (Business Connectivity) เพียง 3.8 กม. ถึงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งสู่ใจกลางเมือง และสุขุมวิทได้สะดวก และเพียง 650 ม. ถึงรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีรามอินทรา 3 ซึ่งเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าอีก 2 สาย มั่นใจได้ว่าโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่ง Flagship ด้วยจุดเด่นโครงการที่เป็น ULTIMATE PRIVACY หรือ ความเป็นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ กับจำนวนบ้านเพียง 4 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ มูลค่าเริ่มต้นที่ 120 ล้านบาท ออกแบบภายใต้แนวคิดงานสถาปัตยกรรมแบบ Metropolitan Tropical Modern ที่มาในรูปแบบของบ้านสั่งสร้างที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตามความชอบและการใช้งานที่เหมาะสมของผู้อยู่อาศัย และยังคงไว้ซึ่งคุณภาพและแนวการพัฒนาโครงการแบบ “Best in Class” คงอัตลักษณ์ในแบบฉบับของสิงห์ เอสเตท ที่ถูกถ่ายทอดเป็น DNA ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ” นายณัฐวุฒิ กล่าว

สิงห์ เอสเตท ให้คำจำกัดความโครงการ SMYTH’S Ramintra ว่าเป็น “A Well-Crafted Architectural Masterpiece” ออกแบบบนพื้นฐานที่เน้นความเป็นส่วนตัว “Sanctuary of Seclusion” โดยวางแปลนให้แต่ละบ้านมี Private Court ซึ่งได้ถูกออกแบบให้เป็นจุดนำสายตาของทุกพื้นที่ในส่วนหลักๆ ของบ้าน สร้างความเป็นส่วนตัวสูง และตัวบ้านยังถูกออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกทุกคนภายในบ้าน (Flexible and customizable) เพื่อให้สอดรับกับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนตัวที่มี ความพิเศษ Hideaway Chamber ซึ่งเชื่อมต่อกับ Supercar Garage และเป็นห้องที่เพดานสูงแบบ Double Volume Space โดยมีความพิเศษที่แตกต่างคือทางเดินที่เชื่อมไปยังชั้น 2 ของตัวบ้านได้อีกด้วย หรือสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่นี้ให้เป็นห้องในฝันได้ตามความต้องการ ที่สำคัญภายในโครงการ ประกอบไปด้วย

  • ระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ
  • ระบบ Solar Cell ช่วยผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
  • Heat Exchanger อุปกรณ์ที่นำความร้อนจากคอยล์ร้อนของเครื่องปรับอากาศ แลกเปลี่ยนมาเก็บไว้ในถังน้ำร้อนเพื่อผลิตน้ำร้อน แทนหม้อต้มไฟฟ้า ช่วยประหยัดไฟฟ้าในการผลิตน้ำร้อนใช้ในบ้าน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
  • รวมถึงเตรียมระบบรองรับนวัตกรรมต่างๆ เช่น
    • EV Charger เพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
    • Power Wall แบตเตอรี่เก็บไฟฟ้าจาก Solar Cell
    • S-Air System ที่ทำให้อากาศภายในบ้านหมุนเวียน และนำอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกเข้าสู่ภายในบ้าน พร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 และปรับอุณหภูมิให้เย็นขึ้น

ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกๆ มิติ เพื่อให้บ้านเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนเพื่อความสุขของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดย SMYTH’S Ramintra นำเสนอแบบบ้าน 2 รูปแบบ รวมสระว่ายน้ำ บนที่ดินขนาด 180 – 189 ตารางวา ได้แก่

  • Residences I: พื้นที่ใช้สอย 1,023 ตารางเมตร
  • Residences II: พื้นที่ใช้สอย 1,014 ตารางเมตร

บ้านทั้ง 2 รูปแบบ ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 2 พื้นที่รับแขก 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 พื้นที่ทานอาหาร 2 พื้นที่ Pantry 1 ห้องครัวไทย สำหรับปรุงอาหารแบบเต็มรูปแบบ มีห้องซักรีด และแยกส่วนสำหรับห้องแม่บ้านไว้ 2 ห้องพร้อมห้องน้ำอย่างเป็นสัดส่วน รวมถึงจุดเด่นที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของการออกแบบพื้นที่ คือ ห้อง Hideaway Chamber และที่จอดรถได้สูงสุดถึง 10 คัน ประกอบด้วย ที่จอดรถในร่ม 4 คัน Supercar Garage 2 คัน และรองรับการจอดรถด้วย Parking Lift System ถึง 4 คัน โดยพื้นที่บ้านขนาดใหญ่แบบนี้ สามารถรองรับครอบครัวใหญ่ให้สมาชิกแต่ละคนในบ้านมีพื้นที่ส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ หรือตอบโจทย์เจ้าของบ้านที่ทำธุรกิจในที่พักอาศัย ซึ่งเป็นวิถีของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน สามารถทำงานจากที่บ้านได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิต ดังนั้นด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันบ้านได้เป็นสัดส่วน แยกส่วนพักอาศัยและชีวิตงานออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นส่วนทำงาน พื้นที่สังสรรค์ แยกออกจากพื้นที่อยู่อาศัยของครอบครัว

“เราเชื่อมั่นว่า SMYTH’S Ramintra จะเป็นหนึ่งในความสมบูรณ์แบบของบ้านเดี่ยวแบบ Private Estate ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่พิเศษของลูกค้าโครงการนี้อย่างแท้จริง ทั้งยังสะท้อนแนวคิด และวิสัยทัศน์ของ สิงห์ เอสเตท ในการสร้างความหลากหลายที่สมดุล เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ผ่านการพัฒนาโครงการที่ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด เพื่อสร้างความสมดุลในการใช้ชีวิต ให้ความสำคัญกับความเป็น Best in Class ในทุกๆ ขั้นตอนการก่อสร้าง และการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ อีกทั้งยังตอกย้ำถึงความเข้าใจ และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับ ลักชัวรีในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพเหนือระดับเพื่อส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้ลูกค้า ที่สามารถส่งต่อได้จากรุ่นสู่รุ่น” นายณัฐวุฒิ กล่าว

เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์

“เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ชวนคุณร่วมค้นหาบาลานซ์ที่ถูกใจ ณ สาขาเกษรวิลเลจ

Alternative Textaccount_circle
event
เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์
เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์

“เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ชวนคุณร่วมค้นหาบาลานซ์ที่ถูกใจเรียนรู้และดื่มด่ำไปกับประสบการณ์สุดพิเศษ ณ สาขาเกษรวิลเลจ

สัมผัสอีกหนึ่งความพิเศษจาก ร้าน “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” สเปเชี่ยลตี้คอฟฟี่ชั้นนำระดับโลก และหลากหลายเมนูเครื่องดื่มคุณภาพ ชวนคุณมาเปิดประสบการณ์การกินดื่มแบบไม่รู้จบ กับช่วงเวลาดีๆ ในกิจกรรม “ไวน์ เทสติ้ง อีเวนต์” ที่การันตีว่าคุณจะประทับใจไม่รู้ลืม อย่าพลาดโอกาสเป็นส่วนหนึ่งกับช่วงเวลาสุดพิเศษในวันที่ 4 และ 5 สิงหาคม นี้ ตั้งแต่เวลา 18.00 – 20.00 น. ณ ร้านเดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ สาขาเกษรวิลเลจ (ราคา 1,200 บาท ต่อท่าน / วัน) และเติมเต็มความพิเศษยิ่งขึ้น ด้วยโปรโมชั่นจอง 4 ท่าน รับราคาพิเศษทันที 4,400 บาท

ดื่มด่ำความพิเศษภายในงานดังกล่าว กับเครื่องดื่มแบรนด์ดัง กับรสชาติยอดนิยม ที่คุณสามารถเลือกชิมได้กว่า 30 ฉลาก เสิร์ฟพร้อมเมนูอาหารกินเล่น ฟรีตลอดงาน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับสิทธิ์ ส่วนลดทันที 10% เมื่อเลือกซื้อเครื่องดื่มภายในงานตั้งแต่ 2 ขวดขึ้นไป อย่าพลาดเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสุดพิเศษครั้งนี้ ที่ร้าน “เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” สาขาเกษรวิลเลจ เปิดให้จองบัตรล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้ – 5 สิงหาคม 2566 ที่ร้านเดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ สาขาเกษรวิลเลจ

เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง LINE Official: @TCA_thailand หรือสั่งเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN, GrabFood, foodpanda และ Robinhood รวมถึงติดตามโปรโมชันดีๆ ได้ที่ Facebook : TheCoffeeAcademicsTH และ Instagram: @TheCoffeeAcademicsTH

The Coffee Club

 “เดอะ คอฟฟี่ คลับ” เปิดความอร่อยลงตัวของ 7 เมนู Green – Licious ดีต่อสุขภาพ ตอบโจทย์ลูกค้าสายกรีน เพิ่มพลังกายใจกับโมเมนต์ดี ๆ ที่มีได้ทุกวัน

Alternative Textaccount_circle
event
The Coffee Club
The Coffee Club

กรุงเทพฯ 17 กรกฎาคม 2566 – เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) ร้านอาหารออลเดย์ไดนิ่ง สัญชาติออสเตรเลียที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ เปิดตัว 7 เมนู Green – Licious อาหารและเครื่องดื่มใหม่ล่าสุด ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพดี มีประโยชน์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ต้องการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพในทุกช่วงเวลา

เดอะ คอฟฟี่ คลับ

เริ่มต้นที่ 3 เมนูอาหาร ได้แก่ The Veggie Big Breakfast เมนูอาหารเช้าทางเลือกสำหรับสาย Veggie ต่อด้วย Kale Salad With Grilled Chicken & Avocado สลัดเคลสด เสิร์ฟพร้อมอกไก่ และ Smoked Salmon & Fresh Avocado Brekkie แซลมอนรมควัน เสิร์ฟบน Hash Brown Brown ท็อปด้วยอะโวคาโด ในขณะที่ด้านเครื่องดื่มมาพร้อม 4 เมนูแสนอร่อยแถมดีต่อสุขภาพ ประกอบด้วย Chunky Monkey นมโอ๊ตช็อกโกแลตปั่นพร้อมกล้วยหอม Green Goodness Smoothie เครื่องดื่มนมมะพร้าวแพลนต์เบส Coffee Protein Frappe กาแฟปั่นคู่กับนมแอลมอนด์และเวย์โปรตีน ปิดท้ายด้วย Mixed Berry Protein Frappe มิกซ์เบอร์รี่ปั่นนมโอ๊ตกล้วยหอม เมล็ดเชีย และเวย์โปรตีน โดยเมนูอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพกายและใจทั้งหมดนี้ พร้อมให้ทุกคนได้มาลิ้มลองที่ร้าน เดอะ คอฟฟี่ คลับ ทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เดอะ คอฟฟี่ คลับ

นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าเดอะคอฟฟี่คลับ ในฐานะร้านอาหารออลเดย์ไดนิ่งที่มีจุดเด่นอยู่ที่การให้บริการเมนูอาหารและเครื่องดื่มรสชาติดีมีความหลากหลายตลอดทั้งวัน พร้อมการให้บริการที่เป็นกันเองในบรรยากาศของร้านที่ดีเยี่ยม ล่าสุดรังสรรค์เมนูอาหารและเครื่องดื่มใหม่จากวัตถุดิบคุณภาพ สด สะอาด และปลอดภัย อัดแน่นไปด้วยประโยชน์มากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย ตลอดจนส่งมอบประสบการณ์ในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ทุกช่วงเวลาในทุกวัน และทุกโอกาส

โดย 7 เมนูอาหารและเครื่องดื่ม Green – Licious ใหม่ในครั้งนี้ มาพร้อมความพิเศษที่จะพาทุกคนไปสัมผัสกับความอร่อยของทุกจานอาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายจากการผสมผสานวัตถุดิบทั้งโปรตีนจากเนื้อสัตว์และธัญพืช วิตามินจากพืชผักใบเขียว รวมถึงวัตถุดิบในกลุ่มแพลนต์เบส มารวมกันเป็นเมนูให้เลือกได้หลากหลายที่ใครทานก็ต้องถูกใจ เริ่มต้นกันที่ไลน์อาหาร 3 เมนู ประกอบด้วย

เดอะ คอฟฟี่ คลับ

The Veggie Big Breakfast – เมนูอาหารเช้าทางเลือกสำหรับสาย Veggie ขนมปัง Sour Dough พร้อม Hash Brown และผักนานาชนิด อาทิ มะเขือเทศ ผักโขมผัดด้วยเห็ดที่มอบรสชาติสุดลงตัว รวมถึงยังมีมะเขือเทศเชอร์รี่ ไข่ Cage Free และอะโวคาโดสด เสิร์ฟพร้อมซอสทรัฟเฟิลทานคู่กับอะไรก็อร่อย จานเดียวอิ่มท้องแถมยังดีต่อสุขภาพ เสิร์ฟให้ลิ้มลองความอร่อยในราคา 300 บาท

Kale Salad With Grilled Chicken & Avocado – ประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเคลสด อะโวคาโด และหอมแดงคลุกน้ำสลัด Balsamic เสิร์ฟพร้อมอกไก่ ชีส โรยด้วยธัญพืชทั้งลูกเกด และเมล็ดฟักทอง ในราคาจานละ 320 บาท

เดอะ คอฟฟี่ คลับ

Smoked Salmon & Fresh Avocado Brekkie – อร่อยแบบฟิน ๆ กับ แซลมอนรมควัน เสิร์ฟบน Hash Brown Brown ท็อปปิ้งด้วยอะโวคาโด ไม่พอยังราดซอสมาโย & พริกไทย ที่พร้อมเสิร์ฟอร่อยสุดจัดเต็มในราคาจานละ 350 บาท

ในขณะที่เมนูเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเรียกว่าจัดเต็ม เอาใจทั้งคอกาแฟ ช็อกโกแลต ตลอดจนผลไม้ ซึ่งทุกเมนูลูกค้าสามารถเพิ่มเติมท็อปปิ้งที่ต้องการได้ โดย 4 เมนูเครื่องดื่ม ได้แก่ 

Chunky Monkey นมโอ๊ตรสช็อกโกแลตปั่นกับกล้วยหอม รสชาติดี ท็อปปิ้งด้วย กล้วยตาก และ กราโนลา เพิ่มความกรุบ หอม หวาน อร่อยแน่น ๆ ในราคาแก้วละ 165 บาท

Green Goodness Smoothie เครื่องดื่มนมมะพร้าวสำหรับสาย Plant Based ปั่นกับผักและผลไม้ คุณประโยชน์สูง อาทิ อะโวคาโด กล้วยหอม ผักโขม เมล็ดเชีย ท็อปปิ้งด้วย สตรอว์เบอร์รีอบแห้ง และกราโนลา พร้อมเสิร์ฟราคาแก้วละ 165 บาท

Coffee Protein Frappe เอาใจคอกาแฟด้วย กาแฟซิกเนเจอร์ปั่นคู่กับนมแอลมอนด์และ เวย์โปรตีน มอบสัมผัสกาแฟเนื้อเนียน รสชาติเข้มข้น ท็อปปิ้งด้วยกราโนลาเพิ่มความฟิน ในราคาแก้วละ 175 บาท

Mixed Berry Protein Frappe สายผลไม้ต้องลอง มิกซ์เบอร์รี่ปั่นนมโอ๊ต กล้วยหอม เมล็ดเชีย เวย์โปรตีน ท็อปปิ้งด้วยกราโนลา และสตรอว์เบอร์รีอบแห้ง มอบรสชาติเปรี้ยวหวาน ดื่มง่ายสุด ๆ ในราคาแก้วละ 175 บาท

ทั้งนี้ เดอะ คอฟฟี่ คลับ มอบโปรโมชันพิเศษสำหรับสมาชิกระดับ Gold และ Sliver รับฟรี! เครื่องดื่มเมนู Green-Licious จำนวน 1 แก้ว รวมถึงรับส่วนลดเมนูอาหาร Green-Licious 100 บาท ในขณะที่สมาชิกระดับ Bronze รับส่วนลดมูลค่า 50 บาท สำหรับเมนูอาหาร Green-Licious รวมถึงรับฟรีเครื่องดื่ม Green-Licious จำนวน 1 แก้ว เมื่อสั่งอาหารและเครื่องดื่มรวมมูลค่า 400 บาทขึ้นไป โดยเมนูและเครื่องดื่มใหม่ล่าสุดนี้ พร้อมให้ทุกคนได้มาลิ้มลองรสชาติความอร่อยได้ตลอดทั้งวันในบรรยากาศดี ๆ หลากหลายตามสไตล์ที่ลูกค้าต้องการ ทั้งแบบนั่งรับประทานที่ร้าน แบบเดลิเวอรี หรือสั่งกลับบ้าน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ร้าน เดอะ คอฟฟี่ คลับ ทั่วประเทศ นางนงชนก กล่าวทิ้งท้าย

OPPO Reno10 Series 5G

4 ไอเดียถ่ายพอร์ตเทรตสวยแบบโปร ด้วย OPPO Reno10 Series 5G

Alternative Textaccount_circle
event
OPPO Reno10 Series 5G
OPPO Reno10 Series 5G

เปลี่ยนรูปโปรไฟล์แบบตัวแม่ 4 ไอเดียถ่ายพอร์ตเทรตสวยแบบโปร ด้วย OPPO Reno10 Series 5G ใครที่อยากมีรูปโปรสวยๆ ต้องมามุงทางนี้!

เล่นโซเชียลทุกวัน พอมองไปเห็นรูปโปรตัวเองในลุคเดิมๆ ก็เริ่มแอบเบื่อ อยากได้รูปโปรปังๆ บอกถึงความเป็นตัวเองได้ดีบ้างแต่ก็ไม่รู้จะใช้รูปอะไรดี ใครที่อยากมีรูปโปรสวยๆ อัปเดตเรียกยอดไลก์รัวๆ ต้องมามุงทางนี้! ช่วงนี้กระแสถ่ายพอร์ตเทรตกำลังมาแรง แค่ใช้สมาร์ตโฟนดีๆ เครื่องเดียวก็สามารถถ่ายภาพโปรไฟล์เก๋ๆ ออกมาได้อย่างกับช่างภาพมือโปรถ่าย ด้วยสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดอย่าง OPPO Reno10 Series 5G ที่ยกขบวนมากันถึง 3 รุ่น ทั้ง OPPO Reno10 5G , OPPO Reno10 Pro 5G และ OPPO Reno10 Pro+ 5G มาพร้อมกับกล้อง Telephoto Portrait Camera พอร์ตเทรตซูมได้ครั้งแรกในสมาร์ตโฟนราคาระดับกลาง พร้อมถ่ายทุกพอร์ตเทรตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น จะมีไอเดียโพสต์เก๋ๆ อะไรให้เอาไปลองถ่ายตามกันบ้าง มาดูกันเลย!

OPPO Reno10 Series 5G

ถ่ายกับวิวสวยๆ ยิ่งใกล้ยิ่งโดดเด่น

ช่วงนี้ใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหนอย่าลืมแวะเช็คอินถ่ายรูปสักหน่อย ยืนโพสต์ท่าแบบตัวแม่ มีวิวธรรมชาติรายล้อมด้านหลังให้ฟีลนางเอกสุด จะลุคไหนก็ปัง ด้วย OPPO Reno10 Series 5G มาพร้อมกล้องพอร์ตเทรตซูมได้ มอบการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ใกล้กว่า โดดเด่นกว่า ด้วยกล้องความละเอียดสูงสุด 64MP Telephoto Portrait Camera เป็นครั้งแรกในสมาร์ตโฟนราคาระดับกลาง ให้ภาพพอร์ตเทรตของเราใกล้ชิดกับวิวมากขึ้น ตัวแบบโดดเด่นขึ้น ได้ภาพโปรไฟล์สวยเด่นแบบปังๆ

ถ่ายกับพร็อพเพิ่มความสดใส

ยืนถ่ายคนเดียวก็กลัวจะเขิน สำหรับใครที่อยากเพิ่มความสดใสให้ภาพถ่าย ลองหาพร็อพน่ารักๆ มาถือถ่ายรูปกันดู นอกจากจะทำให้เราผ่อนคลายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ภาพถ่ายของเราดูมีเรื่องราวมากขึ้นด้วย อาจจะลองหาตุ๊กตาน่ารักๆ หรือว่าดอกไม้สวยๆ มาถือให้ฟีลสาวหวาน

OPPO Reno10 Series 5G

ถ่ายแบบเผลอ สวยชิลๆ ฟีลนางเอกซีรีส์

สำหรับสาวขี้อายไม่รู้จะโพสต์ท่ายังไงดี จะวางมือตรงนั้น จะมองกล้องตรงนี้ก็แอบเขินจนเกร็งไปหมด ลองโพสต์ท่าแบบเผลอๆ ให้ร่างกายเป็นธรรมชาติแล้วกดชัตเตอร์รัวๆ แบบไม่ต้องตั้งใจโพสต์ รับรองว่าได้ภาพออกมาดูเป็นธรรมชาติฟีลนางเอกซีรีส์แน่นอน จะเผลอแค่ไหนภาพก็ไม่มีเบลอ คมชัดทุกรายละเอียดด้วย OPPO Reno10 Series 5G ที่มาพร้อมระบบกล้องอันทรงพลัง Ultra-Clear Portrait Camera อย่างกล้องหลักความละเอียดสูงสุด 64MP Ultra-Clear Main Camera ได้รูปโปรไฟล์คมชัด ใครเห็นก็ว้าว

OPPO Reno10 Series 5G

พาน้องสัตว์เลี้ยงเข้าเฟรมเรียกยอดไลก์รัวๆ

ใครมีน้องสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองรีบพามาเข้าเฟรมด่วน! ไม่ว่าจะน้องหมาหรือน้องแมวแค่นั่งมองก็ใจละลาย พาน้องมาอวดโฉมโชว์เพื่อนๆ ในโลกโซเชียลรับรองยอดไลก์กระจาย จะลองอุ้มน้องแบบมองกล้อง กอดกันแบบน่ารักๆ หรือยื่นหน้ามาชิดกับน้องเป็นครอบครัวสุขสันต์ก็ดี จะถ่ายพอร์ตเทรตใกล้แค่ไหนก็ดูดี เพราะ OPPO Reno10 Series 5G ที่มาพร้อมกล้อง Telephoto Portrait Camera จะทำให้ใบหน้าของเราดูเป็นธรรมชาติและสมจริง พร้อมอวดความน่ารักของเราและน้อง ให้โลกรู้!

OPPO Reno10 Series 5G สมาร์ตโฟน The Portrait Expert ครั้งแรกกับกล้อง Telephoto Portrait Camera กล้องพอร์ตเทรตซูมได้ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ RGBW IMX709 ขนาดใหญ่ และความละเอียดสูงสุด เท่าที่เคยมีมาในสมาร์ตโฟนกลุ่มราคานี้ และซูมแบบออปติคอลได้ถึง 2 เท่า ทำให้ทุกภาพพอร์ตเทรตใกล้กว่า โดดเด่นกว่า มาพร้อมดีไซน์ใหม่ พรีเมียม 3D Dual – Curved บางเบา วางจำหน่ายใน 3 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno10 5G มาใน 2 สีให้เลือกได้แก่ สีฟ้า Ice Blue และสีเทา Silvery Grey , OPPO Reno10 Pro 5G และ OPPO Reno10 Pro+ 5G มาใน 2 สี ได้แก่ สีม่วง Golssy Purple และสีเทา Silvery Grey

สามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno10 Series 5G ได้แล้ววันนี้ทั้ง 3 รุ่นได้แก่ OPPO Reno10 5G ราคา 13,990 บาท , OPPO Reno10 Pro 5G ราคา 17,990 บาท และ OPPO Reno10 Pro+ 5G ราคา 27,990 บาท สามารถพรีออเดอร์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง – 26 กรกฎาคม 2566

ติดตามรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/44vThCW

บทบาทของเว่ยต้าซวิน - เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง - 我的人间烟火- ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ดาราชายจีน

ส่อง บทบาทของเว่ยต้าซวิน ใน Fireworks of My Heart​ ที่ว่ากันว่าดึงดูดแฟนๆ หลงหนักมาก!

Alternative Textaccount_circle
event
บทบาทของเว่ยต้าซวิน - เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง - 我的人间烟火- ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ดาราชายจีน
บทบาทของเว่ยต้าซวิน - เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง - 我的人间烟火- ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ดาราชายจีน

สุดฯ พาส่อง บทบาทของเว่ยต้าซวิน ใน Fireworks of My Heart​ ที่ว่ากันว่า ดึงดูดแฟนคลับตกหลุมรักอีกครั้ง หลังจากเฉิดฉายในวงการวาไรตี้มานาน!

หากพูดถึงซีรี่ย์จีนที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ หนึ่งในนั้นจะขาดชื่อของ Fireworks of My Heart หรือชื่อไทย กู้ภัยรัก นักดับเพลิง ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกของหยางหยาง (Yang Yang) กับหวังฉู่หรัน (Wang Churan) ไปไม่ได้ ซึ่งในเรื่องนี้นอกจากคู่พระ-นางยังมีอีกหนึ่งนักแสดงชายจีนของเรื่องที่เป็นกระแสที่พูดถึงอย่างมากในหมู่ผู้ชม นั่นคือ เว่ยต้าซวิน (Wei Daxun) นักแสดง นักร้อง พิธีกรวัย 34 ปี (เกิดเดือนเม.ย. 1989) ผู้รับบทเมิ่งเยี่ยนเฉิน ทายาทตระกูลยักษ์ใหญ่ที่เตรียมสืบทอดกิจการ ซึ่งเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลนางเอกด้วยความอบอุ่น แม้ว่าเขาจะเกิดคิดกับเธอมากกว่าพี่ชายน้องสาวก็ตาม ซึ่งความอบอุ่นและคอยเป็นห่วงเป็นใยของเขา ทำให้แฟนๆ ที่ติดตามซีรี่ย์จีนเรื่อง Fireworks of My Heart กู้ภัยรัก นักดับเพลิง ตกหลุมรักออร่าหลัวของเว่ยต้าซวินกันอีกครั้ง หลังจากที่เห็นเว่ยต้าซวินในรายการวาไรตี้มาแล้วหลายครั้ง วันนี้สุดฯ จึงขอพาทุกคนมาย้อนดูผลงานก่อนหน้านี้ของเว่ยต้าซวินกันค่า

บทบาทของเว่ยต้าซวิน - เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง -   我的人间烟火
บทบาทของเว่ยต้าซวิน - เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง -   我的人间烟火

หลังเรียนจบสาขาการแสดงจาก The Central Academy Of Drama 1 ใน 3 วิทยาลัยด้านการแสดงที่ดีที่สุดของจีน เว่ยต้าซวินเริ่มเส้นทางในวงการบันเทิงจีนในปี 2008 จากซีรี่ย์จีน Sufei’s Daliy หลังจากนั้นเว่ยต้าซวินก็มีซีรี่ย์จีน หนังจีนออกมาหลายเรื่อง เช่น Xin Hai Ge Ming (2011), One and a Half Summer (2014), The Queen’s Party (2014), Breaking The Waves (2014), The Love of Happiness (2016) ฯลฯ ซึ่งระหว่างนี้เว่ยต้าซวินก็สลับรับบทที่หลากหลาย แต่ผลงานส่วนใหญ่เขารับบทเป็นนักแสดงสมทบมากกว่า ทำให้ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงของผู้ชมเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ในปี 2014 เว่ยต้าซวินก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของค่ายต้นสังกัดสัญชาติเกาหลียักษ์ใหญ่อย่าง JYP Entertainment ด้วย (แต่สัญญาสิ้นสุดลงในปี 2017)

เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋

ต่อมาในปี 2016 เว่ยต้าซวินก็ได้แจ้งเกิดในวงการอย่างเป็นทางการจากการรับบทพระเอก 2 บทบาทในเรื่องเดียวอย่าง Shuttle Love Millennium (2016) ซึ่งเป็นซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก/แฟนตาซีชุดเดียวกับเรื่อง Love Through a Millennium (2015) โดยในเรื่องนี้เว่ยต้าซวินประกบคู่กับ 2 นางเอกจากฝั่งฮ่องกงและไต้หวันสุดฮ็อตอย่างเจนิส ม่าน หรือชื่อจริง เหวินหย่งซาน (Janice Man/Wen Yongshan) และกัวเสวี่ยฝู (Guo Xuefu) ด้วยการแสดงที่เข้าถึงบทบาทและเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม มีทั้งความโรแมนติก คอเมดี้ แฟนตาซี ลึกลับชวนค้นหา ทำให้ซีรี่ย์จีนเรื่อง Shuttle Love Millennium ทำเรตติ้งสูงสุดท็อป 3 ตลอดการออกอากาศ ในปีเดียวกันนี้ เว่ยต้าซวินยังได้เข้าร่วมรายการเรียลลิตี้จีน We Are In Love ซีซั่น 2 (2016) หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันดีในชื่อรายการ We Got Married เวอร์ชั่นจีน โดยเว่ยต้าซวินคู่กับนักแสดงหญิงจีนชื่อดัง หลี่ชิ่น (Li Qin) พากันสาดความหวาน น่ารัก จนกลายเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ได้รับความรักจากผู้ชมอย่างล้นหลามด้วย

 เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋

อย่างไรก็ตาม ด้วยอารมณ์ขันและความตลกเฮฮาของเว่ยต้าซวินทำให้เขาได้แจ้งเกิดในวงการรายการวาไรตี้จีน เรียลลิตี้จีนด้วย โดยเว่ยต้าซวินเป็นทั้งพิธีกรและสมาชิกหลักของรายการจีนดังๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Twenty Four Hours (2018), Viva La Romance (2018-2019), Great Escape (2019), Qing Chun Huan You Ji (2019) รวมไปถึงได้เข้าร่วมรายการวาไรตี้ เรียลลิตี้จีนอยู่เป็นระยะด้วย จนทำให้หลายคนติดภาพความตลก เฮฮาของเว่ยต้าซวิน พอได้เห็น บทบาทของเว่ยต้าซวิน ในบทเมิ่งเยี่ยนเฉินในซีรี่ย์จีน Fireworks of My Heart กู้ภัยรัก นักดับเพลิง ที่มาในลุคชุดสูท ใส่แว่น ดูหรู หล่อ แพง จนอดใจสั่นไม่ได้! ใครพลาดไปสามารถไปตามเก็บกันได้ที่ iQIYI หรือ Viu นะคะ

บทบาทของเว่ยต้าซวิน - เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง -   我的人间烟火
บทบาทของเว่ยต้าซวิน - เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง -   我的人间烟火
เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง - 我的人间烟火
เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง - 我的人间烟火
เว่ยต้าซวิน - Wei Daxun-魏大勋- Fireworks of My Heart - กู้ภัยรัก นักดับเพลิง - 我的人间烟火

สำหรับใครที่อยากติดตามผลงานก่อนหน้านี้ของเว่ยต้าซวิน สามารถไปตามเก็บหลายเรื่องได้ อาทิ The Brightest Star in the Sky (2019), The Ordinary Glory (2020), Brilliant Girl เพราะรักจึงเป็นฉันเอง (2021), Dr. Tang ดอกเตอร์ถัง ยอดหมอพิชิตหัวใจ (2022) ที่เว่ยต้าซวินรับบทพระเอกคู่กับนางเอกจีนรุ่นพี่ ฉินหลัน (Qin Lan) เป็นต้น

รูปจาก : 魏大勋/魏大勋de工作室/电视剧我的人间烟火

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023

Alternative Textaccount_circle
event

สยามพารากอน จัดงาน “SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023” ตอกย้ำ WORLD CLASS SHOPPING DESTINATION มหกรรมงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี พร้อมข้อเสนอพิเศษ ระหว่างวันที่ 19 ก.ค.66 – 8 ส.ค. 66

สยามพารากอน ร่วมกับ วอทช์ แกลเลอเรีย พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ตอกย้ำความเป็น WORLD CLASS SHOPPING DESTINATION จัดงาน “SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023” (สยามพารากอน วอทช์ แอนด์ จิวเวลรี่ เอ็กซ์โป 2023) มหกรรมงานแสดงนาฬิกา และเครื่องประดับครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE ENCHANTING MASTERPIECE” ชวนสัมผัสประดิษฐกรรมแห่งเรือนเวลาและเครื่องประดับชิ้นมาสเตอร์พีซ ผ่านนวัตกรรมชั้นเลิศอันทรงคุณค่า จากแบรนด์นาฬิกาและเครื่องประดับชั้นนำระดับโลก กว่า 100 แบรนด์ พร้อมมอบข้อเสนอสุดคุ้มค่าที่สุดแห่งปี ระหว่างวันที่ 19 ก.ค. 66 – 8 ส.ค. 66 ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, แผนกนาฬิกา วอทช์ แกลเลอเรีย ชั้น M, แฟชั่น ฮอลล์, แฟชั่น แกลลอรี่ ชั้น 1 และแผนกนาฬิกา วอทช์ แกลเลอเรียชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

SIAM PARAGON

จักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ห้างสรรพสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่ วอทซ์ แกลเลอเรีย (WATCH GALLERIA) เดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่เป็นหนึ่งเดสติเนชั่นของคนรักนาฬิกา (NO.1 OF WATCH DESTINATION) จึงได้ร่วมกับสยามพารากอน จัดมหกรรมงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับอัญมณีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี “SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023” พร้อมมอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส กับนวัตกรรมเลอค่าอันน่าหลงใหล จากแบรนด์นาฬิกา และเครื่องประดับชั้นนำระดับโลก โดยรวบรวมนาฬิกาหรูส่งตรงจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นหายาก รวมถึงการเผยโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดปี 2023 ที่นำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย อีกทั้งยังมีนาฬิกากลุ่มลักซ์ชัวรี่, นาฬิกากลุ่มเทรนด์ ที่รวบรวมไว้ภายในงานแบบครบครัน ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่เหล่าวอทช์เลิฟเวอร์จะได้ร่วมสัมผัสนวัตกรรมเรือนเวลาหรูและเครื่องประดับอันทรงคุณค่า พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษในรอบปี ที่มั่นใจว่าจะสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรักนาฬิกาอย่างแท้จริง

ธณพร ตันติยานนท์ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ สยามพารากอน กล่าวว่า “งาน SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023 ในครั้งนี้ถือเป็นความมุ่งมั่นในเจตนารมณ์ที่จะเป็นเวทีในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทั้งกลุ่มลักซ์ชัวรี่แบรนด์ และผู้ประกอบการไทยสามารถนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย และแสดงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ออกสู่สายตาผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก

เพื่อให้บรรดานักสะสม หรือนักลงทุนผู้หลงใหลในความงดงามของประดิษฐกรรมแห่งเรือนเวลาและเครื่องประดับชิ้นมาสเตอร์พีซ ได้สัมผัสกับนวัตกรรมชั้นเลิศอันทรงคุณค่า จากแบรนด์นาฬิกาและเครื่องประดับชั้นนำระดับโลก กว่า 100 แบรนด์ ที่ผ่านการรังสรรค์ และเจียระไนจากช่างฝีมือชั้นสูง รวมไปถึงคอลเลคชั่นใหม่

SIAM PARAGON

ล่าสุด และรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นที่ส่งตรงมาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยและมีจำหน่ายเฉพาะที่สยามพารากอนเท่านั้น ตอกย้ำการเป็น Luxury Lifestyle Destination ของสยามพารากอน พร้อมกับข้อเสนอพิเศษสุดคุ้มค่า

ที่หาได้จากงานนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีจิวเวลรี่แบรนด์ชั้นนำ อาทิ Blue River, Der Mond, Trez Jewelry และ Karat มาร่วมถ่ายทอดความงดงามอันทรงคุณค่าที่รังสรรค์ผ่านฝีมืออันประณีตบรรจงของช่างฝีมือชั้นสูงมาไว้ในงานนี้อีกด้วย”

ทั้งนี้ภายในงานได้คัดสรรที่สุดของเรือนเวลา ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดสร้างสรรค์ และความพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ได้แก่ กลุ่ม Luxury อาทิ Grand Seiko เปิดตัวผลงานชิ้นเอกอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของนาฬิกาสปริงไดรฟ์ Grand Seiko รุ่น SBGD213 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความสวยงามของแผงคอสิงโต สัญลักษณ์แห่งความปรารถนาการก้าวสู่การเป็น King of watch ของ Grand Seiko ตัวเรือนขนาด 44.5 มม. หน้าปัดประดับเพชร 5.62 กะรัต และแซฟไฟร์สีน้ำเงิน 1.25 กะรัต มีจำนวนจำกัดเพียง 8 เรือนทั่วโลก และนำเข้ามาในประเทศไทย 1 เรือนเท่านั้น

Breitling เปิดตัวนาฬิการุ่น Breitling Premier B09 Pendulum Limited Edition นำเสนอตัวเรือนเรดโกลด์ 18K หน้าปัดสีน้ำเงิน และสายอัลลิเกเตอร์สีน้ำตาล การผสมผสานกันของหน้าปัดน้ำเงินซึ่งเป็นสีที่สื่อถึงทั้งไบร์ทลิ่งและเพนดูลัม จับคู่กับเรดโกลด์ดูสง่างามและประณีต นาฬิกาพรีเมียร์ เฮอริเทจ โครโนกราฟ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. เป็นแบบไขลานด้วยมือ โดยทุกเรือนจะมีการแกะสลักข้อความ “One of 30” ตอกย้ำความเอ็กซ์คลูซีฟของแต่ละเรือน ทั้งยังได้รับการรับรองคุณภาพ COSC และมีประสิทธิภาพกันน้ำได้ถึง 100 เมตร ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 30 เรือนในประเทศไทยเท่านั้น

SIAM PARAGON

FREDERIQUE CONSTANT รุ่น Highlife Worldtimer Manufacture ผลิตเพียง 35 เรือน เอ็กซ์คลูซีฟเข้าประเทศไทยเพียง 1 เรือนเท่านั้น ด้วยฟังก์ชั่นแสดงเวลาแบบเข็มชั่วโมง นาที วินาที, เข็มแสดงวันที่, แสดงเวลารอบโลก, ประเภทเครื่อง FC-718 caliber, ระบบออโตเมติก ทุกฟังก์ชั่นสามารถปรับเปลี่ยนด้วยเม็ดมะยมเพียงเม็ดเดียว ตกแต่งลวดลายแกะสลักเพอร์ลาจ (Perlage) และลายวงกลมวน โคตส เดอ เฌแนฟ (Côtes de Genève) โดดเด่นด้วยตัวเรือนขัดเงา ทองคำ 18K สีโรสโกลด์ ขนาดหน้าปัด 41 มม. กระจกคริสตัลแซฟไฟร์นูนป้องกันรอยขีดข่วน ฝาหลังซีทรู หน้าปัดสีน้ำเงินตกแต่งด้วยลาย Sunray และลวดลายลูกโลกนูนตรงกลาง

ORIS รุ่น Divers Sixty-Five Cotton Candy ต้อนรับการกลับมาของสีสันแห่งเวลาใหม่ล่าสุด ที่จะสร้างรอยยิ้มที่สดใสด้วยนาฬิกาสไตล์ Modern Vintage หนึ่งในคอลเลคชั่นฮอตจาก ORIS ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ด้วยเสน่ห์แห่งตัวเรือนบรอนซ์เต็มรูปแบบ ที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ patina ที่ไม่ซ้ำใคร สานต่อความสำเร็จในปี 2023 ด้วยดีไซน์ใหม่ในเวอร์ชั่นตัวเรือนสเตนเลสสตีล บอกเล่าเรื่องราวของนาฬิกาด้วยพาเลตต์สีสดใสบนหน้าปัดที่มีให้เลือก 3 สี สีฟ้า Sky Blue, สีเขียว Wild Green และสีชมพู Lipstick Pink โดดเด่นด้วยเข็มวินาทีแบบ ‘lollipop’ ที่จะนำความสดใส สนุกสนาน เปี่ยมด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์มาสู่โปรไฟล์การออกแบบย้อนยุคของ Divers Sixty-Five ที่มาพร้อมสายสเตนเลสสตีลแบบสามลิ้งก์ และสาย Perlon จากวัสดุรีไซเคิล สีเดียวกับหน้าปัด

MAURICE LACROIX รุ่น AIKON Automatic Limited Summer Edition มีให้เลือกสามขนาดเคส โดยแต่ละขนาดมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง ตัวเลือก ตัวเรือน

ขนาด 35 มม. มาพร้อมกับหน้าปัด Ballerina Pink ซึ่งเป็นสีที่คล้ายกับรูปลักษณ์ของท้องฟ้ายามค่ำคืนก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้า หรือผู้สวมใส่สามารถเลือกใช้หน้าปัดที่แต่งกายด้วย Tanager Turquoise ซึ่งเป็นสีที่ชวนให้นึกถึงน้ำทะเลตื้น ทั้งสองรุ่นมี index เพชรเพื่อแสดงชั่วโมง ลิมิเต็ดซัมเมอร์เอดิชั่น

ขนาด 39 มม. เหมาะกับข้อมือทั้งชายและหญิง โดยมาในสี Ballerina Pink และTanager Turquoise ให้ความดึงดูดมีเสน่ห์และความมีชีวิตชีวาที่อ่อนเยาว์ สาวก Maurice Lacroix จะรับรู้ภาษาการออกแบบที่น่าดึงดูดของ AIKON

SIAM PARAGON

ปิดท้ายด้วยชุดลิมิเต็ดซัมเมอร์เอดิชั่นขนาด 42 มม. อีกครั้งที่หน้าปัด Tanager Turquoise ปรากฏตัว แต่คราวนี้มาพร้อมกับตัวเลือกหน้าปัดโซดาสีส้มที่มีจิตวิญญาณสูง เฉดสีหลังนี้สะท้อนโทนของดวงอาทิตย์เที่ยงวันและแสดงลักษณะที่กระฉับกระเฉงซึ่งยังคงไม่แบ่งแยกแม้ในขณะที่เมฆปรากฏขึ้น หน้าปัด Orange Soda ที่สอดคล้องกับรุ่น Limited Summer Edition ทุกรุ่นระบุชั่วโมง นาที วินาที และวันที่ แต่เน้นสีเงินในโทนสีดํา ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ละเอียดอ่อน นอกจากนี้ยังมีนาฬิกากลุ่ม TREND อาทิ SEKIO เปิดตัว Astron GPS Solar รุ่น Limited Edition

ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,500 เรือนทั่วโลก นำเข้าประเทศไทยเพียง 29 เรือน ซึ่งมีความโดดเด่นไม่เหมือนใครและแตกต่างออกไปด้วยลายแถบแนวนอนขวางอยู่บนหน้าปัด มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยว ขณะเดียวกันบนตัวเรือนด้านข้างมีการขัดเงาอย่างสวยงาม ขับเคลื่อนด้วยกลไก GPS Solar รุ่นใหม่ ที่มีรหัส 3X62 ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้สามารถรับสัญญาณดาวเทียมได้ดีขึ้น

CASIO เผยโฉม G-SHOCK รุ่น Aurora Oval MTG-B3000PRB-1ADR Limited Edition เพียง 100 เรือนเฉพาะในงานเท่านั้น เรือนเวลาที่เปล่งประกายด้วยการออกแบบโลหะรูปแบบใหม่ เป็นการผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมตั้งแต่การคัดสรรวัสดุ การทำสี รวมถึงการตกแต่งชิ้นงานให้สมบูรณ์แบบ โดยการออกแบบนี้ี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันของแสงออโรรา บอเรลลีส (หรือที่รู้จักกันในชื่อ แสงเหนือ) โดดเด่นบนขอบตัวเรือน

SIAM PARAGON

สเตนเลสสตีล ที่ผ่านกระบวนการ Recrystallisation และ Deep-layer hardening เพื่อเพิ่มลวดลาย และความคงทน อีกทั้งเทคนิค rainbow ion-plated (IP) เพื่อให้ได้ขอบตัวเรือนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นการนำเสนอรูปแบบความงามที่น่าประทับใจผ่านคอลเลคชั่น MTG-B3000 Aurora Oval เรือนนี้ พร้อมทั้งเปิดตัว

ครั้งแรกในไทยกับ G-SHOCK Metal face ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ GM-5600CL-3DR, GM-2100CL-5ADR และ GM-110CL-6ADR (เพียงรุ่นละ 10 เรือน) นาฬิกาซีรีส์ใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์หรูหราแบบออฟโรด

โดยกรอบโลหะมีการเคลือบสีด้วยเทคนิคไอออน Ion-plated (IP) ไล่ระดับการขัดพื้นผิวโลหะเพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่หรูหราบนตัวเรือน ผสมผสานกับสายสีกึ่งโปร่งแสงแบบด้าน นอกจากนี้ภายในงานยังมีนาฬิกาไฮไลท์อื่นๆ อีกมากมาย

งาน SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023 ยังได้มอบความคุ้มค่ากับ 10 ข้อเสนอสุดพิเศษ พร้อมโปรโมชั่นและของสมนาคุณมากมาย อาทิ รับส่วนลดเคาน์เตอร์ปกติ 10-20%, สินค้า SPECIAL DEAL ลดสูงสุด 60%, สมาชิกบัตร M Card รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 5% และลดเพิ่มสูงสุด 12.5% เมื่อใช้คะแนน M Point แลก แต่ไม่เกินยอดซื้อ นอกจากนี้สมาชิกบัตร M Card ใช้ 1,000 M Point แลก รับส่วนลดเพิ่มอีก 1,000 บาท (เมื่อช้อปครบ 20,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ) โดยกดรับสิทธิ์ผ่าน M Card Application และใช้ 2,000 M Point แลก (จากปกติ 4,000 M Point) รับส่วนลดเพิ่มอีก 500 บาท (เมื่อช้อปครบ 4,000 บาทขึ้นไป/ใบเสร็จ) โดยกดรับสิทธิ์ผ่าน M Card Application, พิเศษ! รับ M Cash Coupon สูงสุด 30,000 บาท และบัตรจอดรถสยามพารากอน (เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข) พิเศษ สำหรับบัตรเครดิต ยูโอบี TMRW และผู้ถือบัตรฯ ซิตี้ เมื่อใช้จ่ายตั้งแต่ 26,000 ขึ้นไป รับฟรี M Cash คูปองสูงสุด 30,000 บาท (เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข), นักช้อป TOP SPENDERS รับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 690,000 บาท เมื่อช้อปครบ 300,000 บาทขึ้นไป ของรางวัลได้แก่ นาฬิกา GARMIN รุ่น Epix Sapphire, บัตรกำนัลห้องพักจาก CROSS PATTAYA OCEANPHERE, บัตรกำนัลห้องพักจาก CHATRIUM GRAND BANGKOK, บัตรกำนัลห้องพักและ AFTERNOON TEA จาก SIAM KEMPINSKI HOTEL BANGKOK ตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่ม ณ จุดขาย, พิเศษ! เฉพาะสมาชิก M Card 5 TOP SPENDERS รับเพิ่ม บัตรกำนัลห้องพักจากโรงแรม VERANDA PATTAYA / VERSO HUA HIN สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตชั้นนำที่ร่วมรายการพร้อมรับสิทธิพิเศษ บัตรกำนัล/ เครดิตเงินคืน/ ลดเพิ่ม รวมสูงสุด 142,000 บาท และสามารถแบ่งชำระ 0% ทุกชิ้น นานสูงสุด 10 เดือน

ร่วมสัมผัสนวัตกรรมชั้นเลิศอันทรงคุณค่า ในงาน SIAM PARAGON WATCH & JEWELRY EXPO 2023 มหกรรมงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับสุดยิ่งใหญ่แห่งปี 2023 ระหว่างวันที่ 19 ก.ค. 66 – 8 ส.ค. 66 ณ ฮอลล์ ออฟ เฟม, แผนกนาฬิกา วอทช์ แกลเลอเรีย ชั้น M และแฟชั่น ฮอลล์, แฟชั่น แกลลอรี่ ชั้น 1 และแผนกนาฬิกา วอทช์ แกลเลอเรีย ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน หรือสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่าน Call & Shop บริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิก VIZ Card และ Platinum M Card เพียงโทร. 063-205-7989 หรือ 063-205-7974 หรือ Line @CallandShop สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-610-8000 และนอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่านบริการ M CHAT & SHOP แชทมา ช้อปให้ จัดส่งถึงที่ เพียง ADD LINE @monlineTH หรือคลิก https://tmg.click/MChatNShop , CALL TO ORDER บริการสั่งสินค้าทางโทรศัพท์ สาขาพารากอน โทร. 02-690-1000 รวมถึงช่องทางออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ Monline.com หรือ คลิก https://monline.com/en/watches

“The Best of Australia”

“The Best of Australia” ลิ้มลองอาหารสุดพิเศษโดยเชฟรับเชิญ โฮเซ่ โซล็อก พร้อมสัมผัสเนื้อพรีเมียมและเห็ดทรัฟเฟิลดำส่งตรงจากออสเตรเลีย ที่ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์

Alternative Textaccount_circle
event
“The Best of Australia”
“The Best of Australia”

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 – โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค นำเสนอประสบการณ์ความอร่อยของเนื้อวัวชั้นเลิศที่เลี้ยงตามธรรมชาติและเห็ดทรัฟเฟิลดำส่งตรงจากประเทศออสเตรเลีย โดยได้รับเกียรติจากเชฟชั้นนำจากร้านอาหารชื่อดังในเมืองซิดนีย์ มารังสรรค์เมนูอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “The Best of Australia” ที่ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ปลายเดือนกรกฎาคมนี้

The Best of Australia

ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ จับมือร่วมกับ เวอร์ดูโน ไทยแลนด์ (Verduno Thailand)ผู้นำเข้าวัตถุดิบระดับพรีเมียมจากประเทศออสเตรเลีย และเชฟรับเชิญ โฮเซ่ โซล็อก (José Saulog) เอ็กซ์เซ็กคิวทีฟเชฟของกลุ่มร้านอาหารเครือฟรังก้าในซิดนีย์ ประกอบด้วยร้านฟรังก้า บราสเซอรี่ (Franca Brasserie)  ร้านพาร์ลา (Parlar) และร้านเปิดใหม่ล่าสุด ร้านอาโมริก้า (Armorica) ซึ่งได้รับรางวัลการันตีมากมาย มาร่วมกันสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร

The Best of Australia

ตั้งแต่วันที่ 21-30 กรกฎาคม ทุกท่านจะได้พบกับเชฟรับเชิญ โฮเซ่ โซล็อก (José Saulog) ที่ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ โกจิ คิทเช่น + บาร์ โดยเชฟจะประจำอยู่ที่ไลฟ์สเตชั่น และรังสรรค์หลากหลายเมนูเนื้อนำเข้าพิเศษจากออสเตรเลีย เริ่มต้นด้วยสเตชั่นพาริลลา กริลล์ ที่ใช้เนื้อ Southern ranges ที่มีมาร์บลิงหรือไขมันแทรกเนื้อในระดับเกรด 4+ มาทำเป็นเมนูอย่าง สเต็กเนื้อริบอายชั้นเลิศที่ผ่านการดรายเอจ ถึง 28 วัน เนื้อนิวยอร์กสตริปลอยด์ สเต็กเนื้อส่วนพื้นท้องบาเวต แฟลงค์ ปรุงอย่างพิถีพิถันเสิร์ฟพร้อมไขกระดูกย่างและน้ำซอสซัลซ่าเวิร์ดสูตรพิเศษของฟรังก้าโดยเฉพาะ อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับสเต็กทีโบนชิ้นโตที่มีเสิร์ฟเฉพาะมื้อซันเดย์บรันช์เท่านั้น!

The Best of Australia
The Best of Australia

เนื้อออสเตรเลียระดับพรีเมียมยังมีเสิร์ฟเพิ่มเติมที่ สเตชั่นสลัดและโคลด์คัท เลือกอิ่มอร่อยไปกับซิกเนเจอร์สเต็กทาทาร์จากร้านอาโมริก้าที่มาพร้อมขนมปังปิ้ง เสริมทัพด้วยสเตชั่นของเชฟโฮเซ่ที่นำเสนอแก้มเนื้อตุ๋นนุ่มละมุนลิ้นเสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกกินดิลล่า และซอสไวน์เปโดร ชิเมเนส แบล็ควินเทอร์ทรัฟเฟิลริซอตโต้จากทรัฟเฟิลฮิลส์ ปรุงในวงล้อพาเมซาน สำหรับสเตชั่นไทยพบกับเนื้อซี่โครงย่างชอร์ตริบอาซาโด้ กับเครื่องเทศโวดูวาล ต่อด้วยสเตชั่นซีฟู้ดเสิร์ฟ กุ้งลังกู้สตีนจากออสเตรเลียพร้อมคาเวียร์ไข่ปลาแฮริ่ง น้ำมันมะเขือเทศและส้มรมควัน เพื่อปิดท้ายความอร่อยของมื้อพิเศษนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกท่านยังสามารดื่มด่ำไปกับเจลาโต้นมสดเนื้อเนียมนุ่ม โรยด้วยน้ำมันมะกอกอัลโตเข้มข้น เกลือทะเลไทย และขูดโรยหน้าด้วยแบล็ควินเทอร์ทรัฟเฟิล

มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ความอร่อยเหนือระดับของ “The Best of Australia” เนื้อวัวพรีเมี่ยม และเห็ดทรัฟเฟิลดำนำเข้าจากออสเตรเลีย และอีกหลากหลายอาหารนานาชาติรสเลิศได้ที่ ห้องอาหารโกจิ คิทเช่น + บาร์ ตั้งแต่วันที่ 21-30 กรกฎาคม

  • บุฟเฟ่ต์มื้อเย็นวันจันทร์-วันพฤหัสบดี   เวลา 17:30 – 22.00 น.      ราคา 1,698++ บาทต่อท่าน
  • บุฟเฟ่ต์มื้อเย็นวันศุกร์-วันอาทิตย์        เวลา 17:30 – 22.00 น.      ราคา 2,299++ บาทต่อท่าน
  • บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันวันเสาร์                 เวลา 12:00 – 14.30 น.      ราคา 2,299++ บาทต่อท่าน
  • บุฟเฟ่ต์บรั้นช์วันอาทิตย์                   เวลา 12:00 – 14.30 น.      ราคา 2,600++ บาทต่อท่าน

สมาชิกแมริออท บอนวอยและคลับแมริออทรับส่วนลดตามหน้าบัตร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งโทร.+66 (0) 2 059 5999 อีเมล์ [email protected] หรือจองผ่าน http://sevn.ly/xyrWRQxx

อ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

Opera Italian Restaurant หมุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของประสบการณ์การทานอาหารอิตาเลียนรสเลิศในบรรยากาศเก๋ไก๋และหรูหรา

ไปเที่ยวทะเลใต้กับ HYUNDAI STARGAZER ใช้เวลาน้อยแต่สนุกมาก!

ฮ่องกง 2023 เมืองของคนรักสีสัน อาหาร และสายมูฯ #สายถ่ายภาพก็ฟินนะ

Hotel MYS Khao Yai โรงแรมระดับ 5 ดาวแนวลักชูรีโคซี อบอุ่น สวยงาม อาหารเลิศ

12 เรื่องน่ารักๆ ที่แม่สื่อมืออาชีพอยากบอกคนโสด (ไม่โสดก็อ่านได้)

5 เหตุผลที่คนเก๋ๆ ต้องไปเช็คอินที่ Kimpton Kitalay Samui

รีวิว ออริกา เวลเนส & โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ..สุข สบาย ใจสงบ

Kamalaya Koh Samui รีสอร์ทที่จะทำให้คุณรู้สึกเต็มอิ่มทั้งกายใจ จนไม่อยากออกไปไหนเลย!

Haus of Jewelry

Haus of Jewelry เปิดตัว “EVER” ณ ย่าน โซโห นิวยอร์ก

Alternative Textaccount_circle
event
Haus of Jewelry
Haus of Jewelry

พบกับ Haus of Jewelry Pop-up ครั้งแรกใน SoHo นครนิวยอร์ก จัดขึ้นโดยศูนย์การค้าไทยในนครนิวยอร์ก เปิดตัว “EVER” ณ ย่าน โซโห นิวยอร์ก

พบกับ Haus of Jewelry Pop-up ครั้งแรกใน SoHo นครนิวยอร์ก จัดขึ้นโดยศูนย์การค้าไทยในนครนิวยอร์ก, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) และ Future Treasure เป็นโครงการพิเศษที่มุ่งเป้าหมายที่จะขจัดขีดจำกัดของแฟชั่น และยินดีต้อนรับสไตล์ที่แตกต่างของนักออกแบบไทยสู่ตลาดสากล งานตั้งแต่วันที่ 18 – 31 กรกฎาคม 2566 นี้ ที่อยู่ 21 ถนนสปริง, นครนิวยอร์ก, รัฐนิวยอร์ก ชั่วโมงเปิดทำการ 10:00-20:00 วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ งานเปิดตัวจะจัดขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 เวลา 19:00 เป็นต้นไป

Haus of Jewelry

EVER โดยเฮาส์ ออฟ จิวเวลรี่ เป็นการเฉลิมฉลองการแสดงออกด้วยตนเองที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยชิ้นงานที่สามารถออกแบบตามความต้องการของคุณในการมิกซ์แอนด์แมทช์ตามสไตล์ที่เป็นคุณ ในชีวิตที่เต็มไปด้วยขีดจำกัด เราสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตไร้ขีดจำกัด เพราะทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สวยงาม และ แตกต่าง Haus of Jewelry อยากสนับสนุนให้ทุกคนกล้าที่จะแสดงความเป็นตัวคุณ รักตัวเอง และกล้าฉีกกฎสังคมที่รั้งคุณไว้ เพื่อให้ได้เจอความเป็นตัวคุณที่แท้จริง

นอกจากนี้ยังมีคอลเลกชนั ที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับเปิดตัว EVER ตวั อกั ษร A-Z ใหม่ในรูปแบบที่เป็นเอกลักษ์เฉพาะของ Haus of Jewelry ที่สามารถกลับด้านเป็นตัวเลข จี้เห็ด(Mushroom/Four), จี้ผีเสื้อ Butterfly forever) และ จี้หัวใจ(Amore Heart Clip) ที่สามารถเอามาใส่เป็นโชคเกอร์ได้กับทุกริบบิ้น

Haus of Jewelry

ทุกชิ้นสามารถใส่ได้กับทุกคน ทุกเพศ และทุกวัยในคอลเลกชั่นนี้ ประกอบไปด้วยสร้อยคอ 4 แบบ สร้อยข้อมือ 2 แบบ และต่างหู 3 แบบ พร้อมทั้งสีให้เลือกถึง 5 เฉดสีที่ตรงกับสไตล์ของคุณ ให้คุณสามารถเลือกแมชท์กับจี้ทั้งหมด และยังสามารถใส่กับคอลเลคชั่นในอนาคตของเราอีกด้วย เรียกได้ว่าทุกชิ้น Timeless สามารถใส่ได้ตลอดกาล ไม่มีวันตกยุคสมัย

ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของคอลเลกชันใหม่ล่าสุด “EVER” ร้านเฮาส์ ออฟ จิวเวลรี่ ณ เอ็มโพเรียม ชั้น 1

เป๊ปซี่

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย จัดค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ ภายใต้โครงการมิซุอิกุ ปีที่ 5

Alternative Textaccount_circle
event
เป๊ปซี่
เป๊ปซี่

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เดินหน้าจัด “ค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ” ภายใต้โครงการมิซุอิกุ ปีที่ 5 ส่งเสริมเด็กไทย ใส่ใจอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม

บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย เดินหน้าจัด “ค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ” ภายใต้โครงการ “มิซุอิกุ” ประจำปี 2566 โดยมีแกนนำนักเรียนและตัวแทนคุณครูของโรงเรียนในจังหวัดเป้าหมาย ได้แก่ จังหวัดสระบุรีและจังหวัดระยอง รวมทั้งบุตรหลานของพนักงาน ร่วมกิจกรรมสันทนาการสอดแทรกความรู้เรื่องทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน รวมถึงได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆ ต่างโรงเรียน ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน กิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องทรัพยากรน้ำ ตลอดจนปลูกฝังให้น้องๆ เยาวชนอนุรักษ์น้ำและร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของแกนนำนักเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมขยายผล “ค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ” สู่โรงเรียนของน้องๆ ผ่านการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

เป๊ปซี่

นางสาววิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้ค่านิยมองค์กร ‘Growing for Good’ หรือ ‘การเติบโตอย่างยั่งยืน’ กล่าวคือ การดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ทรัพยากรน้ำ’ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของทุกคน และถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของเรา บริษัทฯ จึงดำเนินโครงการ ‘มิซุอิกุ’ อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้และส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายหลักคือเยาวชน และชุนชนในพื้นที่ต้นน้ำอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น หลังจากที่บริษัทฯ ประกาศเปิดตัวโครงการ ‘มิซุอิกุ’ ประจำปี 2566 ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เราจึงเริ่มต้นคิกออฟกิจกรรมแรกคือ ‘สอนน้องรักษ์น้ำ’ โดยจัด ‘ค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ’ ขึ้น ในจังหวัดสระบุรีและระยอง นำแกนนำนักเรียนและตัวแทนคุณครูของโรงเรียนที่ผ่านการคัดเลือกในแต่ละจังหวัด ตลอดจนบุตรหลานของพนักงาน มาร่วมทำกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียน มุ่งสร้างนักอนุรักษ์น้ำและสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ ทั้งนี้ บริษัทฯ ร่วมมือกับพันธมิตรของโครงการฯ ออกแบบฐานกิจกรรม เกมสันทนาการ และสถานีเรียนรู้ต่างๆ เพื่อให้น้องๆ ได้สัมผัสประสบการณ์และลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง ซึ่งพวกเขาจะได้ซึมซับความสำคัญของทรัพยากรน้ำและเรียนรู้ปัญหาด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่ของตน ทำให้เกิดความหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติ เข้าใจถึงแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นแกนนำนักเรียนและตัวแทนคุณครู ยังมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันพร้อมทั้งได้รับคำแนะนำจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาเป็น ‘โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ’ ตามบริบทของแต่ละโรงเรียน ซึ่งสามารถบูรณาการการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ด้านนโยบาย ด้านการมีส่วนร่วมของบุคลากร ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และด้านการมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยรอบ

เป๊ปซี่
นางสาววิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์
บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด

ในโอกาสนี้ บริษัทฯ ขอขอบคุณพันธมิตรจากหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมทรัพยากรน้ำ และกรมควบคุมมลพิษ ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่กรุณาส่งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการอนุรักษ์น้ำและทรัพยากรธรรมชาติแก่น้องๆ นักเรียน ผ่านสถานีการเรียนรู้ต่างๆ ภายในค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ รวมถึงขอขอบคุณสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในพื้นที่เป้าหมายจังหวัดสระบุรีและระยอง สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกลุ่มกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ‘กล่องวิเศษ’ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการประสานงานจัดค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ เพื่อปูแนวทางพัฒนาสู่การประกวดเป็น ‘โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ’ ต่อไป”

เป๊ปซี่

“ค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ” จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ที่ค่ายลูกเสือมวกเหล็กแค้มป์ปิ้ง อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี และค่ายลูกเสือกัญจณัช อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้นกว่า 300 คน ประกอบด้วยแกนนำนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 และตัวแทนคุณครูจาก 10 โรงเรียนในแต่ละจังหวัดเป้าหมาย รวมทั้งพนักงาน ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย และบุตรหลาน โดยในค่ายฯ มีกิจกรรมกลุ่มและเกมต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การสำรวจธรรมชาติและการตรวจสอบคุณภาพน้ำ การเล่นซุ้มเกมงานวัดไทยในกิจกรรม “มิซุแลนด์ ดินแดนรักษ์โลก” กิจกรรมแม่น้ำกรด กิจกรรมสถานีเรียนรู้ โดยกรมทรัพยากรน้ำและกรมควบคุมมลพิษ กิจกรรมรอบกองไฟ และกิจกรรมเจาะลึกการเป็น “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ” เป็นต้น ซึ่งทุกๆ กิจกรรมได้รับการออกแบบให้สอดแทรกองค์ความรู้เรื่องน้ำและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายแง่มุม เพื่อให้แกนนำนักเรียนที่เข้าค่ายได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรน้ำ เกิดแรงบันดาลใจในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์น้ำและดูแลสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ สามารถกลับไปถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เพื่อนๆ นักเรียนในโรงเรียนของตนเองต่อไป

หลังจากเสร็จสิ้น “ค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ” แกนนำนักเรียนและตัวแทนคุณครูของโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะนำเงินทุนสนับสนุนที่ได้รับจาก ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ไปจัดกิจกรรม “ค่ายเยาวชนรักษ์น้ำ” ในรูปแบบที่เหมาะสมของแต่ละโรงเรียนต่อไป เพื่อส่งต่อความรู้เรื่องความสำคัญของทรัพยากรน้ำและปลูกฝังการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้แก่นักเรียนในโรงเรียนของตน พร้อมทั้งเข้าร่วมประกวด “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ” โดยดำเนินโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำภายในโรงเรียนให้ครอบคลุมทั้ง 4 ด้านตามหลักการที่โครงการกำหนดฯ ซึ่งท้ายที่สุด บริษัทฯ และพันธมิตรจากภาครัฐจะร่วมกันคัดเลือก 1 โรงเรียน ในแต่ละจังหวัดเป้าหมายที่ดำเนินโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน และเห็นผลเป็นรูปธรรมที่สุด ให้เป็น “โรงเรียนต้นแบบรักษ์น้ำ มิซุอิกุ” โดยจะมีการพิจารณาตัดสินและมอบรางวัลภายในสิ้นปีนี้

SK-II

SK-II เผยการค้นพบครั้งสำคัญที่เกี่ยวกับผิวร่วงโรยก่อนวัย

Alternative Textaccount_circle
event
SK-II
SK-II

SK-II เผยการค้นพบครั้งสำคัญที่เกี่ยวกับผิวร่วงโรยก่อนวัย ณ การประชุมโลกด้านผิวหนัง THE WORLD CONGRESS OF DERMATOLOGY 2023 และเปิดตัวคณะผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์ PITERA™

ครั้งแรกกับการเปิดตัวคณะผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์ PITERA™ ณ การประชุมโลกด้านผิวหนัง THE WORLD CONGRESS OF DERMATOLOGY [เรียงลำดับจากซ้าย: ดร. Gaku Tsuji, ดร. Xiang Lei Hong, ดร. Wu Yan, ดร. Kenji Kabashima]

ก้าวเข้าสู่อีกขั้นของวิทยาศาสตร์และการคิดค้นนวัตกรรมด้านผิวพรรณ SK-II แบรนด์สกินแคร์พรีเมียมระดับโลกเปิดตัวการค้นพบครั้งสำคัญที่เกี่ยวกับผิวร่วงโรยก่อนวัย รวมทั้งเปิดตัวคณะผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์ PITERA™ (PITERA™ Science Expert Panel) ครั้งแรกร่วมกับแพทย์ผิวหนังชั้นนำของโลก

SK-II

ณ การประชุมโลกด้านผิวหนัง World Congress of Dermatology 2023 ที่ประเทศสิงคโปร์ ศาสตราจารย์ดร. Alexa Kimball ประธาน ซีอีโอและแพทย์ประจำคณะแพทย์ฮาร์วาร์ดแห่ง Beth Israel Deaconess Medical Center ควบตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านผิวหนัง ที่ Harvard Medical School ได้นำเสนอการค้นพบครั้งสำคัญจากบทความวิจัยร่วมกัน1 กับนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยชั้นนำระดับโลก

SK-II ค้นพบตัวเร่งปฏิกิริยาผิวร่วงโรยก่อนวัย2 (Aging Trigger Factor) หรือ AT-02 ที่เป็นตัวเร่งสัญญาณแห่งวัยผ่านปฏิกิริยาลูกโซ่ ทำให้ผิวร่วงโรยเร็วขึ้นแม้จะอยู่ในช่วงอายุตั้งแต่ 20 ปีเป็นต้นไป​ หากไม่ได้รับการรักษา ผิวอาจจะถูกเร่งอายุให้ร่วงโรยก่อนวัย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ความชราที่รุนแรง​งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่าการลด “AT-0”2 และป้องกันปฏิกิริยาลูกโซ่ด้วย PITERA™ ซึ่งเป็นสารสกัดธรรมชาติที่ได้มาจากกระบวนการหมักบ่มยีสต์สายพันธุ์พิเศษของ SK-II จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์

SK-II
พิธีเปิดร่วมกับ Markus Strobel ประธาน Global Skin and Personal Care ของบริษัท P&G

หลังจากการประชุม World Congress of Dermatology 2023 SK-II ได้เปิดตัวคณะผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์ PITERA™ เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการยกย่องแพทย์ผิวหนังชั้นแนวหน้าของโลกที่ร่วมมือกับ SK-II ในการพัฒนานวัตกรรมศาสตร์แห่งการชะลอวัยนี้

  • ดร. Kenji Kabashima ศาสตราจารย์และประธานภาควิชาตจวิทยา มหาวิทยาลัยเกียวโต บัณฑิตวิทยาลัยแพทยศาสตร์
  • ดร. Gaku Tsuji รองศาสตราจารย์ภาควิชาตจวิทยา บัณฑิตวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยคิวชู
  • ดร. Masutaka Furue อดีตประธานและศาสตราจารย์ภาควิชาตจวิทยา บัณฑิตวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยคิวชู
  • ดร. Xiang Lei Hong ศาสตราจารย์และรองหัวหน้าภาควิชาตจวิทยา โรงพยาบาลหัวซาน วิทยาลัยการแพทย์เซี่ยงไฮ้ และมหาวิทยาลัยฟูตัน
  • ดร. Wu Yan ศาสตราจารย์ภาควิชาตจวิทยา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยปักกิ่งแห่งแรก

นอกเหนือจากนี้ SK-II ยังเปิดตัวครีมลดริ้วรอยใหม่ SKINPOWER Advanced Cream ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากศาสตร์การชะลอวัยและการค้นพบผิวร่วงโรยก่อนวัย รวมทั้งฉลองการเปิดตัวคณะผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์ PITERA™

SK-II จะยังคงร่วมมือกับคณะผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์ PITERA™ เพื่อการวิจัยเชิงลึกและข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ เกี่ยวกับผิวหนัง

หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever - ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ - Lost You Forever - 长相思- หยางจื่อ – Yang Zi – 杨紫- จางหว่านอี้ - Zhang Wanyi - 张晚意 – เติ้งเว่ย – Deng Wei -邓为 – หวังหงอี้ - Wang Hongyi - 王弘毅 – ถานเจี้ยนซื่อ – Tan Jianci - 檀健次 - นักแสดงชายจีน - นักแสดงจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

ส่อง 4 หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever รับบทนำร่วมกับหยางจื่อ!

Alternative Textaccount_circle
event
หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever - ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ - Lost You Forever - 长相思- หยางจื่อ – Yang Zi – 杨紫- จางหว่านอี้ - Zhang Wanyi - 张晚意 – เติ้งเว่ย – Deng Wei -邓为 – หวังหงอี้ - Wang Hongyi - 王弘毅 – ถานเจี้ยนซื่อ – Tan Jianci - 檀健次 - นักแสดงชายจีน - นักแสดงจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever - ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ - Lost You Forever - 长相思- หยางจื่อ – Yang Zi – 杨紫- จางหว่านอี้ - Zhang Wanyi - 张晚意 – เติ้งเว่ย – Deng Wei -邓为 – หวังหงอี้ - Wang Hongyi - 王弘毅 – ถานเจี้ยนซื่อ – Tan Jianci - 檀健次 - นักแสดงชายจีน - นักแสดงจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ พาส่อง 4 หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever รับบทนำร่วมกับหยางจื่อ เตรียมส่งต่อเรื่องราวความรักลงจอวันที่ 24 ก.ค. 2023 นี้!

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ลงจอแล้วจ้า สำหรับ Lost You Forever หรือชื่อไทย ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/ดราม่าที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์ที่หลายคนเฝ้ารอกันมาอย่างใจจดใจจ่อ โดยเป็นซีรี่ย์ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังในชื่อเรื่องเดียวกันของถงหัว (Tong Hua) โดยเป็นเรื่องราวความรักที่มีทั้งความโรแมนติก ความเศร้าเคล้าน้ำตาที่เกิดในสมัยโบราณที่เหล่ามนุษย์ เทพ ปีศาจอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยมีสามอาณาจักรคือ เสินหนง ซวนหยวน และเกาซิน เจ้าชายชิงเสวียน ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวเยาที่เดินทางไปทั่วทุกสารทิศ เพื่อตามหาเสี่ยวเยาที่พลัดพรากจากไป และจำตัวตนของตัวเองไม่ได้ และเธอเดินทางมาถึงเมืองชิงสุ่ย โดยใช้ชื่อว่า เหวินเสี่ยวลิ่ว

เหวินเสี่ยวลิ่วได้บังเอิญช่วยชีวิตของถูซานจิ่ง องค์ชายแห่งชิงชิวเอาไว้ และค่อยๆ ก่อเกิดเป็นความรักระหว่างพวกเขาขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเหวินเสี่ยวลิ่วและถูซานจิ่งดำเนินไปเรื่อยๆ เหวินเสี่ยวลิ่วก็ได้เจอกับชิงเสวียนที่แม้จะพบกัน แต่พวกเขาก็จำกันไม่ได้ กระทั่งเวลาผ่านไป และได้รู้จักกันมากขึ้น ต่างฝ่ายต่างก็จำกันและกันได้ และเสี่ยวเยาก็ได้ตัวตนของเธอกลับคืน

หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever  - ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์  -  Lost You Forever  -  长相思- หยางจื่อ – Yang Zi – 杨紫- จางหว่านอี้ - Zhang Wanyi - 张晚意 – เติ้งเว่ย – Deng Wei -邓为 – หวังหงอี้ - Wang Hongyi -  王弘毅 – ถานเจี้ยนซื่อ – Tan Jianci - 檀健次

ในเรื่อง Lost You Forever ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ นางเอกได้หยางจื่อ (Yang Zi) นักแสดงเจ้าบทบาทเจ้าของผลงานเรื่อง Ashes of Love มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง (2018), Go Go Squid! นายเย็นชากับยัยปลาหมึก (2019), The Oath of Love คุณคือคำปฏิญาณแห่งรัก (2022) ฯลฯ มารับบทนำร่วมกับอีก 4 หนุ่มนักแสดงชายจีนที่บอกเลยว่า คนหล่อละลานตามากค่าาา วันนี้สุดฯ ไม่รอช้า ขอพาทุกคนมาตามส่อง 4 หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ ที่เตรียมออนแอร์ 24 ก.ค. 2023 กันค่ะ

หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever - ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์ - Lost You Forever - 长相思- หยางจื่อ – Yang Zi – 杨紫- จางหว่านอี้ - Zhang Wanyi - 张晚意 – เติ้งเว่ย – Deng Wei -邓为 – หวังหงอี้ - Wang Hongyi - 王弘毅 – ถานเจี้ยนซื่อ – Tan Jianci - 檀健次
 ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์  -  Lost You Forever  -  长相思- หยางจื่อ – Yang Zi – 杨紫
  • จางหว่านอี้ (Zhang Wanyi) รับบทเป็น ชิงเสวียน

จางหว่านอี้ นักแสดงชายจีนวัย 29 ปี (เกิดเดือนเม.ย. 1994) ที่เริ่มเข้าวงการบันเทิงจีนในปี 2016 ซึ่งก่อนหน้านี้จางหว่านอี้เคยรับบทในซีรี่ย์จีนแนวครอบครัว The Bond (2021) จนคว้ารางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จ ต่อมาในปี 2022 เขาก็ได้รับบทนำเป็นครั้งแรกในซีรี่ย์จีน PLA Air Force (2022) ล่าสุดจางหว่านอี้ยังมีซีรี่ย์จีนที่รอออกอากาศอยู่คือ Wo Zhi Dao Wo Ai Ni ประกบคู่ซุนอี๋ (Sun Yi), Long Life Long Street รับบทนำคู่เริ่นหมิ่น (Ren Min)

หนุ่มจากซีรี่ย์จีน Lost You Forever  - ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์  -  Lost You Forever  -  长相思- จางหว่านอี้ - Zhang Wanyi - 张晚意

  • เติ้งเว่ย (Deng Wei) รับบทเป็น ถูซานจิ่ง

เติ้งเว่ย นักแสดงชายจีนที่เคยร่วมแสดงในซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก Miss the Dragon รักนิรันดร์ ราชันมังกร (2021) ซึ่งถือเป็นผลงานเรื่องแรกที่เดบิวต์เติ้งเว่ยเข้าสู่วงการบันเทิงจีน ต่อด้วยซีรี่ย์จีน The Journey of Chong Zi (2023), Till The End Of The Moon จันทราอัสดง (2023) เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีซีรี่ย์เรื่อง My Centenarian Sweet Heart และ Beautiful Girl With Light Make-up ที่รอออกอากาศอยู่ด้วย

ห้วงคำนึงดวงใจนิรันดร์  -  Lost You Forever  -  长相思- เติ้งเว่ย – Deng Wei -邓为

  • หวังหงอี้ (Wang Hongyi) รับบทเป็น ชื่อสุ่ยเฟิงหลง

หวังหงอี้ นักแสดงชายจีนน้องใหม่วัย 24 ปี (เกิดเดือนมี.ค. 1999) ที่เพิ่งเข้าวงการมาเมื่อปี 2021 จากซีรี่ย์จีนเรื่อง Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์ (2021) และหวังหงอี้ยังได้ร่วมแสดงในซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคอย่าง Who Rules The World เทียบท้าปฐพี (2022) และอีกเรื่องที่เพิ่งออนแอร์ไปเมื่อต้นปี 2023 อย่าง Fairyland Romance ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคที่หวังหงอี้รับบทพระเอกของเรื่องด้วย แฟนๆ ไปตามเก็บกันได้ค่า

หวังหงอี้ - Wang Hongyi -  王弘毅

  • ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci) รับบทเป็น เซียงหลิ่ว

ปิดท้ายด้วยถานเจี้ยนซื่อ นักร้อง นักแสดงชายจีน และสมาชิกไอดอลวง MIC ที่เริ่มเดบิวต์ในฐานะนักร้องเมื่อปี 2010 แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็เริ่มมีงานแสดงบ้างแล้วตั้งแต่ปี 2007 ส่วนผลงานแสดงก่อนหน้านี้ เช่น Court Lady ลำนำรักแห่งฉางอัน (2021), Under The Skin คู่มือนักล่า (2022) เป็นต้น

ถานเจี้ยนซื่อ – Tan Jianci - 檀健次

รูปจาก : 电视剧长相思

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

OPPO Reno10 Series 5G

ยิ่งใกล้ยิ่งปัง! “OPPO Reno10 Series 5G” รุ่นใหม่ ถ่ายภาพพอร์ตเทรตใกล้กว่า โดดเด่นกว่า

Alternative Textaccount_circle
event
OPPO Reno10 Series 5G
OPPO Reno10 Series 5G

ยิ่งใกล้ยิ่งปัง! “OPPO Reno10 Series 5G” รุ่นใหม่ ถ่ายภาพพอร์ตเทรตใกล้กว่า โดดเด่นกว่า ด้วยกล้อง Telephoto Portrait Camera ครั้งแรก พร้อมจัดงานใหญ่ขนทัพดาราฉลอง 15 ปี ออปโป้ประเทศไทย

ออปโป้ ไทยแลนด์ เปิดตัว “OPPO Reno10 Series 5G” รุ่นใหม่ล่าสุด ต่อยอดพลังแห่ง “The Portrait Expert” กับครั้งแรกของสมาร์ตโฟนระดับกลางที่มาพร้อมกล้อง Telephoto Portrait Camera ความละเอียดสูงถึง 64MP และซูมแบบออปติคอลได้ถึง 3 เท่า ทำให้ทุกภาพพอร์ตเทรตใกล้กว่า โดดเด่นกว่า มาพร้อมดีไซน์สดใสให้เลือกสรร เปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่น ร่วมกับหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ OPPO Enco Air3 Pro พร้อมจัดงาน ใหญ่สุดอลังฉลอง 15 ปีออปโป้ประเทศไทย ปูพรมเชิญเหล่าศิลปินและคนดังแถวหน้าหลายวงการร่วมเซอร์ไพรส์ ครั้งยิ่งใหญ่ นำโดย The Portrait Expert ‘เบลล่า ราณี’ ร่วมด้วย ‘ต่อ ธนภพ’ ‘โบว์ เมลดา’ ‘กลัฟ คณาวุฒิ’ และอีกมากมาย

OPPO Reno10 Series 5G

จากโทรศัพท์เซลฟี่ที่หลายคนคุ้นเคย จนวันนี้ต้องยอมรับว่าออปโป้ได้พัฒนาสมาร์ตโฟนตระกูล Reno Series จนกลายเป็น “The Portrait Expert” ยืนหนึ่งสมาร์ตโฟนเพื่อการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่เป็นที่นิยมทั่วประเทศและทั่วภูมิภาค สำหรับเทคนิคการถ่ายภาพ พอร์ตเทรตจากผู้เชี่ยวชาญเขาบอกว่า “ยิ่งใกล้ ยิ่งปัง” นั่นหมายถึงการถ่ายภาพใกล้ตัวแบบในระยะโคลสอัป จะทำให้ระยะชัดตื้นขึ้น พื้นหลังเบลอและเกิดเอฟเฟกต์โบเก้ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จนทำให้บุคคลในภาพปังโดดเด้งขึ้นมากว่าเดิม เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงการถ่าย ภาพพอร์ตเทรตแบบมือโปรได้ง่ายขึ้น ออปโป้จึงได้ส่ง OPPO Reno10 Series 5G รุ่นใหม่ สานต่อพลังแห่ง “The Portrait Expert” ที่ถือเป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นแรกที่มาพร้อมกล้อง Telephoto Portrait Camera กล้องพอร์ตเทรตซูมได้ ทำให้ทุกภาพ พอร์ตเทรตใกล้กว่า โดดเด่นกว่า พร้อมดีไซน์ใหม่ และอัดแน่นด้วยฟีเจอร์และความสามารถรอบด้าน ตอบโจทย์การใช้งานของ คนรุ่นใหม่อย่างเหนือระดับ เปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่นให้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์

OPPO Reno10 Series 5G

สำหรับงานเปิดตัว OPPO Reno10 Series 5G ถูกจัดขึ้นพร้อมกันในโอกาสเฉลิมฉลอง 15 ปีออปโป้ประเทศไทย ออปโป้จึงได้ เนรมิตงานใหญ่สุดอลัง ปูพรมต้อนรับเหล่าศิลปินคนดังจากหลากหลายวงการที่จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผมและโชว์พิเศษเพื่อ เฉลิมฉลองให้กับออปโป้และตอบแทนผู้บริโภคชาวไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของออปโป้ตลอด 15 ปี งานนี้ต้องคว้าตัว เบลล่า-ราณี แคมเปน ในฐานะตัวแม่ The Portrait Expert มาเล่าความประทับใจแรกสัมผัส “ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ ออปโป้ในโอกาสครบรอบ 15 ปีในประเทศไทย ตลอดระยะเวลาที่เบลได้ร่วมงานกับออปโป้ เบลสัมผัสได้ถึงความทุ่มเท ในการสร้างนวัตกรรมเพื่อเข้าถึงคนไทยทุกคน อย่าง OPPO Reno10 5G รุ่นเล็กสุดในซีรีส์นี้คือตัวอย่างที่ออปโป้ได้ใส่เทคโนโลยี กล้องขั้นสุดในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสมาร์ตโฟนในกลุ่มราคานี้ที่มาพร้อมกล้อง Telephoto Portrait Camera ทำให้ถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบซูมออปติคอลได้ถึง 2 เท่า ถ่ายภาพพอร์ตได้ใกล้กว่า โดดเด่นกว่า สามารถเก็บรายละเอียดครบ ภาพไม่แตกเพราะทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ ถูกใจสายพอร์ตเทรตอย่างเบลมากๆ เพราะได้ภาพสวยคมชัด มีมิติ เห็นทั้งสีหน้า เส้นผม เมคอัพแบบชัดเจน ในขนาดที่พื้นหลังเบลอฟุ้งแบบเป็นธรรมชาติ”

OPPO Reno10 Series 5G

ด้านดีไซน์ของ OPPO Reno10 5G มอบสัมผัสและความรู้สึกระดับพรีเมียมแบบ 3D Dual – Curved ด้วยหน้าจอ AMOLED 3D Curved ขนาด 6.7 นิ้ว ขอบจอโค้งบนตัวเครื่องที่บางเฉียบรับการจับถือได้อย่างสบายมือ เสพคอนเทนต์ได้อย่างเต็มอิ่มและลื่นไหล มาใน 2 สีใหม่สะดุดตาที่ ไม่ว่าจะเป็น สีฟ้า Ice Blue ที่ หรือสีเทา Silvery Grey รองรับการใช้งานได้ยาวนานกว่าที่เคยเป็นมาด้วย แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh ที่มาพร้อมระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOCTM สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ภายใน 47 นาที ใช้งานได้อย่างสบายใจตลอดทั้งวัน โดย OPPO Reno10 5G จะวางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท

เพื่อประสบการณ์การใช้งานระดับโปร OPPO Reno10 Series 5G ยังนำเสนอสมาร์ตโฟนอีก 2 รุ่นที่อัปเกรดฟีเจอร์ให้ล้ำยิ่งขึ้น ได้แก่ OPPO Reno10 Pro 5G ที่ได้นำเทคโนโลยีชาร์จไว 80W SUPERVOOCTM ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 28 นาที พร้อมชิปการจัดการพลังงานกรรมสิทธิ์ของบริษัท SUPERVOOC S ที่ใช้ในสมาร์ตโฟนตระกูล Reno Series เป็นครั้งแรก และ OPPO Reno10 Pro+ 5G ที่มาพร้อมกล้อง 64MP Telephoto Portrait Camera ระดับโปรที่สามารถซูม ออปติคอลสูงสุดถึง 3 เท่า พร้อมด้วยกล้อง Periscope Telephoto สเปคสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ชาร์จไวระดับแฟลกชิปเร็วที่สุดใน Reno Series ด้วย 100W SUPERVOOCTM สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 1% ถึง 50% ได้ภายใน 9.30 นาที และยังมีชิปการจัดการ พลังงานของ SUPERVOOC S เช่นเดียวกัน ในสีใหม่มีเสน่ห์ระดับไฮเอนด์ ได้แก่ สีม่วง Glossy Purple และสีเทา Silvery Grey โดย OPPO Reno10 Pro 5G ราคา 17,990 บาท และ OPPO Reno10 Pro+ 5G ราคา 27,990 บาท

OPPO Reno10 Series 5G

นอกจากนี้ออปโป้ยังเปิดตัว OPPO Enco Air3 Pro หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการอัปเกรดเทคโนโลยีเพื่อการฟังเสียง ความละเอียดสูงได้อย่างสมจริง ที่ถูกยกฐานะให้เป็นหูฟังไร้สายตัวแรกของโลกที่มาพร้อมเทคโนโลยีไดอะแฟรมใยไผ่ธรรมชาติ ทำให้เข้าถึงย่านเสียงความถี่สูงกว่า 40KHz ได้อย่างง่ายดาย มอบเสียงที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ มีระบบลดเสียงรบกวนโดย อัตโนมัติและมอบเสียงที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันและฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย โดยมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ ต่อเนื่องยาวนานถึง 30 ชั่วโมงเมื่อใช้กับเคสชาร์จตอบโจทย์ทุกการฟังในชีวิตประจำวัน โดย OPPO Enco Air3 Pro มีให้เลือก 2 สีสุดเรียบหรู ได้แก่ สีขาว และสีเขียว วางจำหน่ายในราคา 2,999 บาท

งานเฉลิมฉลอง 15 ปีออปโป้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ จัดเต็มเซอร์ไพรส์สุดพิเศษ ขนทัพเหล่าศิลปินคนดังจากหลายวงการ นำโดย The Portrait Expert ‘เบลล่า ราณี’ ‘ต่อ ธนภพ’ ‘โบว์ เมลดา’ ‘กลัฟ คณาวุฒิ’ ‘บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์’ ‘ว่าน ธนกฤต’ ‘ศิลปินบอยกรุ๊ป PROXIE’ ‘คิน ธนชัย’ ‘นักกีฬาเทควันโด เทนนิส พาณิภัค’ และ ‘เหล่าไอดอลฝึกหัด 789 TRAINEE’ มามอบความสุขในโอกาสพิเศษเพื่อตอบ แทนการสนับสนุนของผู้บริโภคชาวไทยที่มีให้ออปโป้มาอย่างยาวนาน

สัมผัสกับ OPPO Reno10 Series 5G สมาร์ตโฟน 5G กับพลังแห่ง “The Portrait Expert” ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno10 5G ในราคา 13,990 บาท OPPO Reno10 Pro 5G ในราคา 17,990 บาท และ OPPO Reno 10 Pro+ 5G ในราคา 27,990 บาท รวมถึงหูฟังไร้สาย OPPO Enco Air3 Pro ในราคา 2,999 บาท ได้แล้ววันนี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พิเศษสุด! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ OPPO Reno10 Series 5G ล่วงหน้าระหว่างวันนี้ – 26 กรกฎาคม 2566 รับฟรีทันทีของสมนาคุณรวมมูลค่าทั้งสิ้น 12,698 บาท ประกอบไปด้วย

  • Camping Chair มูลค่า 1,499 บาท
  • OPPO E-VIP Card มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท
  • OPPO Band มูลค่า 1,199 บาท

และเป็นเจ้าของ OPPO Reno10 Series 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่ายรับส่วนลดสูงสุด 8,100 บาท โดย OPPO Reno10 Series 5G จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกันวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/oppothai/

Jim Thompson

สลัดภาพแบรนด์ผ้าไหม! Jim Thompson x GOH M เปิดคอลเลกชันสุดเซอร์ไพรส์

Alternative Textaccount_circle
event
Jim Thompson
Jim Thompson

สลัดภาพแบรนด์ผ้าไหม! Jim Thompson x GOH M เปิดคอลเลกชันสุดเซอร์ไพรส์ ผลงานคอลแลบ “โก๋เอ็ม” ครีเอตลวดลายสุดยูนีคที่ผสานโลกแห่งป๊อปอาร์ต สตรีทอาร์ต และกราฟฟิตี้ เข้ากับแบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ได้อย่างน่าตื่นเต้น สนุกสนานไปกับไอเทมสไตล์สตรีทและพาเลตสีอันโดดเด่นจากคอลเลกชันสุดท้ายของแคมเปญ ARTISTS IN RESIDENCE จากจิม ทอมป์สัน

จิม ทอมป์สัน แบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ระดับโลกของเมืองไทย เดินหน้าสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้วงการแฟชั่นอีกครั้งกับการเปิดตัว JIM THOMPSON x GOH M คอลเลกชันสุดพิเศษลำดับสุดท้ายของแคมเปญ ARTISTS IN RESIDENCE สุดสร้างสรรค์ที่ดึง 3 ศิลปินไทยมากความสามารถมาร่วมนำเสนอเอกลักษณ์และถ่ายทอดศิลปะของตนผ่านคอลเลกชันสุดยูนีคในปี 2566

Jim Thompson

คอลเลกชัน JIM THOMPSON x GOH M รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่สายแฟชั่นด้วยการเบลนด์ป๊อปอาร์ต สตรีทอาร์ต กราฟฟิตี้ เข้ากับความสวยงามประณีตในทุกดีเทลของผลิตภัณฑ์จาก จิม ทอมป์สัน การคอลแลบกับอาร์ติสต์กราฟฟิตี้ชื่อดังอย่าง “โก๋เอ็ม” ถือเป็นการรังสรรค์โลกแฟชั่นใบใหม่ที่แปลกตาด้วยพาเลตสีที่สดใสจัดจ้าน พร้อมลวดลายสุดไอคอนิกที่มีเอลิเมนต์แห่งความสนุกสนาน อย่างเต็มเปี่ยม

จิม ทอมป์สัน ริเริ่มโปรเจ็กต์ ARTISTS IN RESIDENCE ด้วยเป้าหมายในการปลุกพลังความคิดสร้างสรรค์ที่สดใหม่มาสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ด้วยการดึง 3 ศิลปินไทยมากพรสวรรค์ที่เชี่ยวชาญศิลปะในสาขาแตกต่างกันมาร่วมครีเอตเอ็กซ์คลูซีฟคอลเลกชัน เพื่อเติมแต่งสีสันและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้แก่โลกแฟชั่น นอกจากนี้ ยังถือเป็นการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าสายอาร์ตและคนรุ่นใหม่ ผ่านสไตล์ที่ฉีกออกจากภาพจำ แบบเดิม ๆ

นันท์นภัส เวโรจนวัฒน์ ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาด จิม ทอมป์สัน กล่าวว่า “ARTISTS IN RESIDENCE เป็นโปรเจ็กต์ที่ได้การตอบรับอย่างอบอุ่น ต้องขอบคุณศิลปินไทยทั้งสามคนที่นำไอเดียใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นมาร่วมสร้างคอลเลกชันแสนพิเศษกับเราในปีนี้ สำหรับคอลเลกชัน JIM THOMPSON x GOH M เราอยากชวนสายแฟชั่นมาเปิดประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและแปลกใหม่กับไอเทมที่เติมความสนุกให้ทุกลุค”

Jim Thompson

ด้าน โก๋เอ็ม – กิตติพงษ์ คำศาสตร์ กล่าวถึงผลงานการสร้างสรรค์ของเขาว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาคอลแลบกับจิม ทอมป์สันในการสร้างคอลเลกชันสุดพิเศษในครั้งนี้ ดีใจที่สไตล์ศิลปะร่วมสมัยของผมสามารถเบลนด์เข้ากับกลิ่นอายความเป็นจิม ทอมป์สัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ งานของผมกับแบรนด์จิม ทอมป์สันเหมือนจะเป็นโลกสองใบที่แตกต่างกัน แต่เราดึงจุดเด่นของกันและกันออกมาได้อย่างสนุกสนานและกลมกล่อมลงตัว”

ลายเซ็นของ โก๋เอ็ม ได้รับการถ่ายทอดผ่านคอลเลกชัน JIM THOMPSON x GOH M โดดเด่นด้วยลายปรินต์ที่อินสไปร์มาจากป๊อปอาร์ต ผสมผสานเอลิเมนต์ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่างดอกไม้ ผลไม้ และช้าง คอลเลกชันนี้หยิบเอาแรงบันดาลใจจากผลไม้ไทยอย่างมังคุดและส้ม อีกทั้งยังมีช้างที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยมาเป็นอีกหนึ่งลวดลายหลัก รังสรรค์เป็นพาเลตสีม่วง สีส้ม และสีเขียวที่แมตช์กันอย่างลงตัว สร้างแพทเทิร์นที่สวยสะดุดตาและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

Jim Thompson

คอลเลกชันนี้ยังนำเสนอลายปรินต์และลายเส้นแบบกราฟฟิตี้อันโดดเด่นของ โก๋เอ็ม ที่ผสมผสานระหว่าง ป๊อปอาร์ต สตรีทอาร์ต กราฟฟิตี้ และความเป็นจิม ทอมป์สัน เน้นการใช้ลายเส้นและเฉดสีพาสเทลสดใสที่สร้างความแปลกใหม่ พร้อมด้วยลวดลายไทย ๆ อย่างส้ม มังคุด และช้าง เสริมให้คอลเลกชันนี้มีเอกลักษณ์และสวยงามน่าหลงใหล ทุกไอเทมเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น คอตตอน ผ้าไหม และลินิน พร้อมไอเทมหลากหลายสไตล์สำหรับทั้งชายและหญิง สำหรับผู้หญิง อาจเลือกเป็นเดรสโอเวอร์ไซส์ เสื้อผ้าไหมแขนกุด เสื้อยืดคอตตอน และกางเกงฟิชเชอร์แมนผ้าไหม ส่วนผู้ชายสามารถเลือกสวมใส่ไอเทม Must-have เช่น เสื้อฮาวายผ้าไหม เสื้อยืดคอตตอนโอเวอร์ไซส์ รวมถึงกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดผ้าลินิน

Jim Thompson

ร่วมเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นไปกับผลงานคอลแลบสุดเซอร์ไพรส์ระหว่างจิม ทอมป์สัน และโก๋เอ็ม ที่ซึ่งโลกของป็อปอาร์ต สตรีทอาร์ต กราฟฟิตี้ และแบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ มาบรรจบกันอย่างลงตัว ช้อปคอลเลกชัน JIM THOMPSON x GOH M ได้ที่สโตร์ จิม ทอมป์สัน ทุกสาขา

keyboard_arrow_up