account_circle ศรินญา มหาดำรงค์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทศรีทองพาณิชย์ เปิดตัว นาฬิกา Luminox Mil-spec รุ่น 3350 คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์นาฬิกาสุดแกร่ง มาพร้อมมาตรฐานการยอมรับจากกระทรวงกลาโหมประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมจำหน่ายแล้วอย่างเป็นทางการ ที่ช็อปสยามพารากอน พร้อมจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ พร้อมพบสิทธิพิเศษมากมายในงาน Siam Paragon Watch & Jewelry Expo 2023 ระหว่างวันที่ 19 กรกฎาคม – 6 สิงหาคมนี้ ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน
account_circle ยูนิโคล่ นำเสนอฤดูกาล Fall/Winter 2023 ในธีม “Modern Layering” ผ่านสไตล์ สีสัน และฟังก์ชันที่เป็นคุณ สร้างเลเยอร์ในการแต่งตัว พร้อมเปิดพื้นที่จัดแสดง ระหว่างวันที่ 12 – 16 กรกฎาคมนี้ ที่ไอคอนสยาม
ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก เปิดซีซันส์ Fall/Winter 2023 ภายใต้ธีม “Modern Layering” ให้สนุกไปกับการสร้างสรรค์ลุคใหม่ๆ ด้วยการแต่งตัวแบบมีเลเยอร์ ผ่านการจัดสไตล์ การเพิ่มสีสันหรือเสื้อผ้ารวมทั้งไอเดียการแต่งตัวด้วยฟังก์ชันที่หลากหลายจากไอเทม LifeWear (ไลฟ์แวร์) ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาเพื่อเติมเต็มชีวิตประจำวันของผู้สวมใส่ พร้อมจัดแสดงคอลเลคชัน Fall/ Winter 2023 ภายใต้ธีม “Modern Layering” ชวนทุกคนสนุกไปกับการแต่งแต้มสีสัน เติมแต่งผิวสัมผัส สร้างอิสระในการแต่งตัว ระหว่างวันที่ 12 – 16 กรกฎาคม 2566 ณ ลานเจริญนคร ชั้น M ไอคอนสยาม
Modern Layering เปรียบเสมือนการแต่งแต้มสีสันแต่ละสีลงบนผืนผ้าใบ ผสมผสานดีไซน์ใหม่และสไตล์เรียบง่าย สร้างอิสระของแฟชันที่ไร้ขอบเขต มาพร้อมเสื้อเชิ้ตและเสื้อถักสีสันและแพทเทิร์นที่หลากหลาย หรือ การผสมผสานระหว่างเส้นใยธรรมชาติและไอเทมแนวสปอร์ตตี้ที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี เกิดเป็นเสื้อผ้าสไตล์ Urban Outdoor ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและความอบอุ่น ช่วยเติมเต็มตู้เสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวของคุณ ในซีซันส์ Fall/Winter 2023 Modern นี้ Layering จะนำเสนอผ่านเลเยอร์ที่อยากให้ทดลองมิกซ์แอนด์แมตช์ความเป็นตัวตนของคุณผ่าน Modern Layering of Style, Modern Layering of Color & Texture และ Modern Layering of Texture
Modern Layering of Style คลาสสิกแต่ทันสมัย แคชชวลแต่ดูเก๋ เติมเต็มตู้เสื้อผ้า เพิ่มความเป็นตัวเองและลูกเล่นใหม่ๆ สำหรับฤดูใบไม้ร่วงด้วยไอเทมผ้าถักเนื้อเงา กางเกงสไตล์ยูทิลิตี้ (Utility) และเสื้อเชิ้ตตัวนอกที่เหมาะกับช่วงต้นฤดูไบไม้ร่วง ความมีสไตล์ที่ยังคงความเบาสบายสไตล์แคชชวล
ไฮไลต์ไอเทมผู้หญิง
กางเกงยีนส์เอวต่ำ ทรงแบคกี้ (สีเทาเข้ม/สีเนเชอรัล/สีฟ้าอ่อน/น้ำเงิน) ทำจากผ้าคอตตอนเดนิม 100% กางเกงยีนส์เอวต่ำ ทรงหลวมที่เน้นช่วงสะโพก มาพร้อมดีไซน์กระเป๋ากางเกง 5 จุด สร้างสไตล์การแต่งตัวเก๋ๆ ด้วยขากางเกงทรงกว้าง
เสื้อคอกลมแขนยาวผ้าเจอร์ซี่โปร่ง (สีออฟไวท์/สีเทาอ่อน/สีเทา/สีดำ/สีเขียว)
เนื้อผ้าโปร่งกำลังพอดี ไม่ว่าจะแต่งตัวสไตล์ไหนก็เข้าได้กับทุกลุค ด้วยเนื้อผ้าโพลีเรยอนลายนูนเข้าทรง และคุณสมบัติของเรยอนทำให้ทิ้งตัวสวย สร้างสัมผัสนุ่ม ยืดหยุ่น สบายแนบไปกับผิว
กางเกงคาร์โก้ ทรงกว้าง ขาตรง (สีเทาเข้ม/สีเนเชอรัล/สีเขียว)
กางเกงทรงกว้าง ขาตรง ทำมาจากคอตตอน 100% ขอบเอวยางยืด กางเกงคาร์โก้แต่งรายละเอียดสไตล์กางเกงเวิร์คแพนท์ มีกระเป๋าด้านข้างทั้งสองข้าง และกระเป๋าด้านหลังที่พับปิดได้
ไฮไลต์ไอเทมสำหรับผู้ชาย
เสื้อเชิ้ตผ้าบรัชทวิลล์ (สีเทา/สีดำ/สีน้ำตาล)
เส้นใยขนนุ่มมอบสัมผัสนิ่ม และผิวสัมผัสด้านนอกเสื้อที่มีคุณภาพสูง แต่งกระดุมเสื้อเม็ดใหญ่ให้ความรู้สึกแบบเสื้อเชิ้ตตัวนอก มาในทรงบ๊อกซี่หลวมๆ การตัดเย็บแบบมินิมอล เหมาะกับการจับคู่กับกางเกงที่ทำมาจากเนื้อผ้าแบบเดียวกัน
กางเกงคาร์โก้จ็อกเกอร์ (สีดำ/สีน้ำตาล/สีเขียวมะกอก)
กางเกงคาร์โก้จ็อกเกอร์ที่ได้แรงบันดาลมาจากกางเกงสไตล์มิลิทารี่ (Military) ทรงเนี้ยบเข้ารูป ช่วงขาสอบ รอยตะเข็บแบบยืดหยุ่น พร้อมกับขอบเอวยางยืดสวมใส่สบาย
Modern Layering of Color & Texture
ด้วยความหลากหลายของผ้าวูล ผ้าถัก รวมถึงเนื้อผ้าอื่นๆ ที่มอบความอบอุ่นสำหรับฤดูหนาว มาในสีสันแบบไล่เฉดแบบ Tone-on-Tone อย่างสีเทา สีเบอร์รี่ และสีออฟไวท์ การเล่นเลเยอร์ที่ทันสมัยและเรียบง่ายผ่านการสร้างสรรค์จากเนื้อผ้าและชุดสีที่ช่วยเสริมความเป็นตัวเองให้มากขึ้น
ไฮไลต์ไอเทมสำหรับผู้หญิง
เสื้อสเวตเตอร์คอกลมผ้าตาข่ายทอแบบไร้ตะเข็บ (สีออฟไวท์/สีเทาอ่อน/สีดำ/สีน้ำตาล/สีเขียว)
เสื้อสเวตเตอร์แบบแคชชวลที่มอบสัมผัสเรียบลื่น ปราศจากสัมผัสหยาบและกระด้าง แม้ทอขึ้นจากเส้นใยผ้าถักแบบตาข่ายที่ไม่เท่ากัน ลักษณะเสื้อแบบโปร่งเหมาะกับการจับคู่กับเสื้อสายเดี่ยวหรือบราท็อป
เสื้อคาร์ดิแกนโปโลผ้าเอ็กซ์ตร้าไฟน์เมอริโน ลายนูน (สีออฟไวท์/สีดำ/สีแดง/สีเบจ)
เสื้อคาร์ดิแกนทำจากผ้าวูลเมอร์ริโนเนื้อละเอียดสูง 100% (ขนาดของเส้นใยอยู่ที่ประมาณ 19.5 ไมครอน) มอบความมันเงาสวย และสัมผัสนุ่มเรียบ เนื้อผ้าลายนูนเสริมลุคแบบทางการโดยไม่เน้นรูปร่างมากเกินไป เสื้อคาร์ดิแกนโปโลรุ่นใหม่ของปีนี้กลายเป็นเสื้อสเวตเตอร์อีกชิ้นที่ควรมีติดตู้
กระเป๋าสะพายไหล่ผ้าลูกฝูก (สีออฟไวท์/สีดำ/สีน้ำตาล)
กระเป๋าผ้าสะพายไหล่โฉมใหม่ที่มาในเนื้อผ้าลูกฟูก เข้ากันกับสไตล์ของฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวได้อย่างยอดเยี่ยม รูปทรงสามเหลี่ยมช่วยเพิ่มขนาดพื้นที่การจัดเก็บในกระเป๋าใบนี้ให้มากขึ้น ด้วยขนาดกะทัดรัดที่สามารถเก็บได้ทั้งสมาร์ทโฟนและกระเป๋าสตางค์ใบยาว ด้านในมีช่องเพิ่มความสะดวกสำหรับใส่กุญแจและของจุกจิก รูปทรงกระเป๋าเหมาะกับสไตล์แอคทีฟ ตัวกระเป๋ากุ๊นขอบเพื่อให้คงรูปทรงได้ดีแม้มีของเยอะ กลายเป็นอีกไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
กางเกงผ้าถักลายนูน แบบซักได้ (สีเทา/สีเทาเข้ม/สีเนเชอรัล/สีกากี)
กางเกงผ้าถักทำจากเนื้อผ้าถักรุ่นใหม่ที่สบายกว่า ดูแลรักษาได้ง่าย ขอบเอวที่กว้างขึ้นช่วยเสริมลุคเนี้ยบให้กับบริเวณเอว เสริมทรงสวย และสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร
ไฮไลต์ไอเทมสำหรับผู้ชาย
เสื้อสเวตเตอร์คอตั้งผ้าซูเฟลทอแบบไร้ตะเข็บ (สีขาว/สีดำ/สีแดง/สีน้ำตาล/สีน้ำเงิน)
เนื้อผ้าคอตตอนผสมเส้นใยซูเฟลมอบความนุ่มและเบา ลดการระคายเคือง เทคนิคการบรัชเส้นใยให้เป็นไรขนนุ่มฟู สร้างสัมผัสแบบเรียบลื่น มีน้ำหนักเบา และสบาย ด้วยทรงคอตั้งที่มอบลุคเนี้ยบเหมาะกับสไตล์แบบคลีน
เสื้อสเวตเตอร์คอกลมผ้าซูเฟล (สีออฟไวท์/สีเทาอ่อน/สีเบจ/สีเหลือง/สีเขียว/สีกรมท่า)
เสื้อสเวตเตอร์ทำจากเส้นใยซูเฟลที่มีความนุ่มและเบา ลดการระคายเคือง ด้วยเทคนิคการบรัชเส้นใยเป็นไรขน มอบความอบอุ่น สบาย และมีน้ำหนักเบา
เสื้อคาร์ดิแกนคอตั้งผ้าซูเฟล (สีออฟไวท์/สีน้ำตาล/สีกรมท่า)
เสื้อคาร์ดิแกนทำจากเส้นใยซูเฟลที่มีความนุ่ม ลดการระคายเคือง ด้วยเทคนิคการบรัชเส้นใยเป็นไรขน มอบความอบอุ่น สบาย และมีน้ำหนักเบา เสื้อคาร์ดิแกนอรรถประโยชน์ที่ทอแบบ single-side ช่วยเพิ่มความหนาให้กับตัวเสื้อ บริเวณคอสามารถปลดกระดุมและพับลงมาให้เหมือนกับปกเสื้อเชิ้ต
Modern Layering of Function
เสื้อตัวนอกที่ผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด และเทคโนโลยีฮีทเทคที่ครบรอบ 20 ปี ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เสื้อผ้าผสานฟังก์ชันจากยูนิโคล่พร้อมปกป้องคุณจากฤดูหนาว มอบความอบอุ่นและเบาสบายอย่างมีเอกลักษณ์นอกจากนั้นยังมีเสื้อผ้าที่เพิ่มความอบอุ่นในทุกๆ วัน พร้อมเริ่มต้นกิจกรรมใหม่ๆ ที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ
ไฮไลต์ไอเทมสำหรับผู้หญิง
เสื้อแจ็กเก็ตดาวน์ขนเป็ด Powder Soft (สีออฟไวท์/สีเทา/สีดำ/สีเหลือง)
ตัวเสื้อดีไซน์ซิปแบบซ่อน ให้ความรู้สึกที่เรียบหรู มีขอบยางยืดพร้อมตัวล็อคบริเวณชายเสื้อ เมื่อรูดชายเสื้อแล้วช่วยปรับทรงแจ็กเก็ตให้พองกลมมากขึ้น
ไฮไลต์ไอเทมสำหรับผู้ชาย
เสื้อแจ็กเก็ตดาวน์ขนเป็ด Powder Soft (สีดำ/สีเนเชอรัล/สีน้ำตาลเข้ม)
เสื้อแจ็กเก็ตเนื้อมันเงา สัมผัสนุ่ม เมื่อสวมใส่แล้วสัมผัสได้ถึงความพองของดาวน์ขนเป็ด ฮู้ดสามารถถอดออกได้ ทำให้สามารถสวมเสื้อแจ็กเก็ตในสไตล์คอตั้งได้เช่นกัน พร้อมกับความยาวเสื้อแบบพอดีๆ คลุมบริเวณสะโพก
เสื้อพาร์กาพัพพ์เทค (PUFFTECH) (สีออฟไวท์/สีเทาเข้ม/สีดำ/สีเขียวมะกอก)
ดีไซน์สามมิติช่วยเพิ่มมิติของการเคลื่อนไหว ทำให้ขยับแขนได้สะดวกยิ่งขึ้น มาในทรงพอดีตัวเสริมลุคเนี้ยบ เสื้อตัวนอกภายในบุด้วยคอตตอนแพดเปี่ยมประสิทธิภาพที่ร่วมพัฒนากับโทเรย์ (Toray) มอบความอบอุ่นและคุณสมบัติในการกักเก็บความร้อนที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้เสื้อแจ็กเก็ตตัวนี้ยังเหมาะกับทุกสถานการณ์ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยเปื้อนต่างๆ เพราะผิวผ้าด้านนอกผ่านการเคลือบเพื่อคงคุณสมบัติการสะท้อนหยดน้ำที่ยาวนานยิ่งขึ้น และสามารถซักด้วยมือได้ ดีไซน์เสื้อแจ็กเก็ตที่แฟชันมากขึ้นด้วยการเดินด้ายแบบพิเศษผสานกับการบุคอตตอนด้านใน เสื้อรุ่นนี้ไม่มีรอยเข็ม ด้วยการใช้วัสดุแบบ bag double weaving ทำให้ฝนและลมไม่สามารถผ่านเข้ามาได้ และตัวบุคอตตอนยังอยู่ด้านในเช่นเดิม การสร้างสรรค์เสื้อตัวนอกรุ่นใหม่เกิดขึ้นได้ ด้วยอิสระด้านดีไซน์ที่ยกระดับยิ่งขึ้น
ฮีทเทค (HEATTECH)
ครบรอบ 20 ปีของฮีทเทค อินเนอร์แวร์เนื้อบางที่มีฟังก์ชันเพิ่มความอบอุ่น ด้วยเทคโนโลยีที่สร้างความร้อนจากการเปลี่ยนสถานะของไอน้ำที่ร่างกายปล่อยออกมา และนี่เป็นเพียงตัวแทนหนึ่งจากไอเทมไลฟ์แวร์ (LifeWear) ฮีทเทค (HEATTECH) สร้างมิติใหม่ของแฟชันฤดูหนาวทั่วโลก ในโซนนี้จะนำเสนอการพัฒนาฮีทเทคที่มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในปี 2003 ควบคู่ไปกับเรื่องราวของแฟชันและยูนิโคล่
ไฮไลต์ไอเทมสำหรับผู้หญิง
เสื้อฮีทเทคคอเต่า อัลตร้าไลท์ (สีออฟไวท์/สีเทา/สีเทาเข้ม/สีดำ/สีส้ม/สีเขียว/สีม่วง)
เส้นใยฮีทเทครุ่นใหม่เกิดจากการรวมกันของผ้าถักและเส้นใยอัลตร้าไฟน์เนื้อนุ่มเข้าด้วยกัน มอบทั้งความเรียบลื่นที่ยอดเยี่ยมและความนุ่ม บางแต่อบอุ่น ด้วยเนื้อผ้าที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม มาพร้อมคุณสมบัติในการดูดซับและกักเก็บความร้อน ในขณะเดียวกันยังลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่น เนื้อผ้าแห้งไว คืนรูป และมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น เนื้อผ้ายืดพิเศษทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวกแม้จะแต่งตัวแบบเลเยอร์ นอกจากนี้ยังพิมพ์ขั้นตอนการดูแลรักษาลงบนเนื้อผ้าแทนการติดป้ายแบบเดิม
เสื้อยืดฮีทเทคเอ็กซ์ตร้าวอร์มคอเต่า ไร้ตะเข็บลายนูน (สีออฟไวท์/สีเทา/สีดำ/สีชมพู/สีเหลือง/สีน้ำเงิน)
การถักทอเส้นใยแบบบวงกลมด้วยเครื่องทอผ้าแบบพิเศษช่วยสร้างชั้นของอากาศ เส้นใยที่ได้เป็นทรงกลม มอบสัมผัสนุ่มและอบอุ่น รูปทรงแบบไร้ตะเข็บทำให้เสื้อบางและเบา ได้ความรู้สึกสบายแนบไปกับผิว ปีนี้มีการปรับปรุงเรื่องของการทอเส้นใยเพื่อลดการเกิดขุยผ้า
ไฮไลต์ไอเทมสำหรับผู้ชาย
เสื้อยืดฮีทเทคเอ็กซ์ตร้าวอร์มคอกลม ผ้าคอตตอนวาฟเฟิล (สีออฟไวท์/สีดำ/สีไวน์/สีเบจ/สีเขียวมะกอก/สีเทาเข้ม)
เนื้อผ้าวาฟเฟิลเน้นลุคแบบแคชชวล ทำจากผ้าคอตตอน 100% ทำให้สัมผัสด้านในของเสื้อสบายมากยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์พิเศษ ทำให้ไม่เห็นแขนเสื้อแม้จะสวมเป็นเสื้อตัวใน นอกจากนี้ยังสามารถใส่เป็นเสื้อตัวนอกเดี่ยวๆ ได้เช่นกัน การแต่งตัวแบบเล่นเลเยอร์กับเสื้อเชิ้ตช่วยเพิ่มลูกเล่นสีสันบริเวณคอเสื้อ ในปีนี้จึงเพิ่มสีสันใหม่ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสไตล์มิลิทารี่ (Military) อย่างสีเบจ สีกากี และสีไวน์ เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับการจับคู่เสื้อผ้าของผู้ชายมากขึ้น
ร่วมแต่งแต้มความเป็นตัวตนของคุณด้วย Modern Layering ที่พื้นที่จัดแสดง ณ ลานเจริญนคร ชั้น M ไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 12 – 16 กรกฎาคมนี้ และพิเศษสุดๆ กับเวิร์คช้อป “แต่งตัวเล่นเลเยอร์” และแขกสุดพิเศษที่จะชวนคุณค้นหาการแต่งตัวเล่นเลเยอร์รับหน้าหนาวนี้ ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 และ 16 กรกฎาคม 2566
กิจกรรมพิเศษในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.00 น. – 17.00 น.พบกับ วอร์-วนรัตน์ #WARatUNIQLO23FW
กิจกรรมพิเศษในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.00 น. – 17.00 น. พบกับ เบคกี้-รีเบคก้า #BeckyatUNIQLO23FW
เปิดลงทะเบียนหน้างานในวันเวิร์คช้อป เวลา 11.00 น. พร้อมรับ Styling Book จำกัดที่นั่งภายในงานจำนวน 80 ท่านแรกเท่านั้น ค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.uniqlo.com/th/th/spl/season-preview
account_circle บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ผู้นำในอุตสาหกรรมนมพาสเจอร์ไรส์ของประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ “ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น” เชิญชวนประชาชนส่งแกลลอนนมเมจิ ซึ่งเป็นพลาสติกแบบขุ่น (HPDE) และเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายมากที่สุดของซีพี-เมจิ เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ตั้งเป้าเก็บ 15,000 แกลลอน แปรรูปเป็นเม็ดพลาสติกเพื่อนำมาผลิตเป็น “ถังขยะ เพื่อแยกขยะ” จำนวน 500 ถัง มอบให้จังหวัดสระบุรี ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566
ซีพี-เมจิ มีเจตนารมณ์ขององค์กรและนโยบายการพัฒนาความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “เพิ่มคุณค่าชีวิต – Enriching Life” และหนึ่งในประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน คือการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะพลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกประเภท HDPE (High Density Polyethylene) หรือพลาสติกแบบขุ่นซึ่งเป็นพลาสติกที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์นมเมจิ จึงเปิดตัวโครงการ “ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น” เพื่อรณรงค์ให้คนไทยร่วมกันส่งแกลลอนนมที่ใช้แล้ว เข้าสู่กระบวนการจัดการที่ถูกต้อง และเพิ่มคุณค่าด้วยการรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีประโยชน์ต่อชุมชน
นางสาวชาลินี พูนลาภมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด กล่าวว่า “โครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ และเป็นก้าวแรกของซีพี-เมจิ ในการดำเนินการด้านขยะพลาสติก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศและระดับโลก
“พลาสติก HDPE นั้นสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ แต่ยังไม่ได้มีการทำอย่างแพร่หลายนัก เนื่องจากซีพี-เมจิ มีการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภท HPDE เป็นจำนวนมาก เราจึงริเริ่มโครงการนี้ขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ และสร้างความร่วมมือกับลูกค้าและผู้บริโภคของเราในการแยกขยะพลาสติก โดยเฟสแรกนี้ เราตั้งเป้าในการเก็บแกลลอนพลาสติกจำนวน 15,000 แกลลอน นำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และแปรรูปเป็นถังขยะสีเหลืองสำหรับขยะรีไซเคิล จำนวน 500 ถัง ส่งมอบให้กับจังหวัดสระบุรี เพื่อกระจายไปยังพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สาธารณะทั่วจังหวัด ควบคู่ไปกับการให้ความรู้ด้านการจัดการขยะอย่างถูกต้องให้กับทุกภาคส่วนต่อไป
ทางด้านนายทศพล ศุภเมธีกูลวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร CirPlas ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการจัดการขยะพลาสติก กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยมีขยะพลาสติกมากถึง 2 ล้านตัน โดยขยะมากกว่า 75% ไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งมักจะถูกนำไปฝังกลบ หรือเผาทำลาย ส่งผลให้เกิดการหลุดรอด และตกค้างในสิ่งแวดล้อม ส่วนพลาสติกที่ถูกนำกลับมารีไซเคิลสูงที่สุดคือพลาสติกประเภท PET อยู่ที่ 70% รองลงมาคือ PP 25% และ บรรจุภัณฑ์ประเภท HDPE อยู่ที่ 20% ซึ่งต้องขอขอบคุณโครงการซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ที่จะทำตัวเลขตรงนี้มีการเปลี่ยนแปลงให้สูงขึ้นเรื่อยๆ ไปในทางที่ดีขึ้น โดยทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ ด้วยการแยกขยะอย่างถูกต้อง เพียงแค่นำแกลลอนพลาสติกไปทิ้ง ณ จุดรับทิ้งของ CirPlas กว่า 60 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล บริษัทฯ จะทำการเก็บและนำไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติกใหม่ ซึ่งจะถูกนำไปผลิตเป็นถังขยะต่อไป โดยลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลของจุดรับทิ้งได้ที่ เฟสบุค CirPlas หรือ Line Official (@cirplas) และลูกค้าสามารถสังเกตเครื่องหมายแคมเปญ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่นได้ทุกจุดรับทิ้งแกลลอน”
account_circle ทีมเมียกรี๊ดหนักมาก! สุดฯ พาตามเก็บ 2 ซีรี่ย์จีนของเฉินเจ๋อหย่วนในปี2023 ออนแอร์ต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งปีแรก จนครึ่งปีหลัง ประกาศศักดิ์ดาความเป็นหลัวแบบนันสต็อป แฟนๆ จะหนีไปไหนพ้น!?! มีเรื่องไหน คู่กับใครบ้าง ตามสุดฯ มาดูกันเลยค่ะ
หากพูดถึงนักแสดงชายจีนที่เปรี้ยงปัง มีกระแสที่พูดถึงตลอดในช่วงปี 2023 นี้ จะขาดชื่อของเฉินเจ๋อหย่วน (Chen Zheyuan) นักแสดง นักร้องชายจีนวัย 26 ปี (เกิดเดือนต.ค. 1996) ไปไม่ได้ จากเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงจีนเมื่อปี 2015 จากการเข้าร่วมแข่งขันในรายการเซอร์ไวเวิลจีน King of POP ที่ท้ายที่สุดเฉินเจ๋อหย่วนก็เข้าสู่รอบท้าย และเป็นหนึ่งในผู้ชนะของรายการที่ได้เดบิวต์ในนามสมาชิกบอยแบนด์จีน Mr.BIO จนกระทั่งค่อยๆ ได้มาแตะงานแสดงแบบเต็มตัว และมีผลงานก่อนหน้านี้มาแล้วหลายเรื่อง อาทิ All About Secrets (2017), The Legend of S ซีซั่น 2 (2018), ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/กำลังภายใน Handsome Siblings ที่ดัดแปลงบทมาจากนิยายแนวย้อนยุคกำลังภายในชื่อดังในตำนานของกู่หลง (Gu Long), Mr. BAD ตัวร้ายที่รัก (2022) เป็นต้น ซึ่งในปี 2023 นี้ เฉินเจ๋อหย่วนก็มีซีรี่ย์จีนทยอยลงจอถึง 2 เรื่อง ซึ่งวันนี้สุดฯ ไม่รอช้า ขอพาทุกคนมาตามเก็บไปพร้อมกันเลยจ้า
ซีรี่ย์จีนของเฉินเจ๋อหย่วนในปี2023 เรื่องแรกสุดฯ ขอเริ่มด้วย Hidden Love แอบรักให้เธอรู้ ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก/แอบรักที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังของนักเขียนเจ้าของนามปากกาจู๋อี่ (Zhu Yi) โดยเป็นซีรี่ย์ที่บอกเล่าเรื่องราวของซางจื้อ เด็กสาวนักเรียนมัธยมที่มักจะถูกคุณครูเรียกพบผู้ปกครองบ่อยๆ ทำให้เธอตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากต้วนเจียสวี่ ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับซางเหยียน พี่ชายแท้ๆ ของเธอให้มาจัดการเรื่องนี้ให้ แต่กลับกลายเป็นว่า ต้วนเจียสวี่ดูแลเธออย่างเต็มที่เหมือนกับน้องสาวแท้ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ต้วนเจียสวี่กับซางจื้อก็ผูกพันกันมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากต้วยเจียสวี่เรียนจบมหาวิทยาลัย ทั้งสองคนก็เริ่มห่างหายกันไป หนำซ้ำยังมีเรื่องเข้าใจผิดทำให้พวกเขาไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย กระทั่งหลายปีผ่านไป ซางจื้อกับต้วนเจียสวี่ก็ได้เจอกันอีกครั้ง โดยซางจื้อรู้ตัวว่าเธอแอบชอบต้วนเจียสวี่ และไม่เคยคิดกับเขาเป็นแค่พี่ชาย ในขณะที่เจียสวี่ยังมองซางจื้อเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป แล้วท้ายที่สุดแล้วเจียสวี่จะรู้ตัวว่า เขาชอบซางจื้อมากกว่าแค่น้องสาวหรือไม่ ไปตามดูซีรี่ย์จีน Hidden Love ได้ทาง YOUKU ค่ะ
ในเรื่อง Hidden Love แอบรักให้เธอรู้ เฉินเจ๋อหย่วนประกบคู่กับนางเอกคู่จิ้นที่เคมีดีงามและเข้ากันสุดๆ อย่างจ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi) จากเรื่อง The Romance of Tiger and Rose ข้านี่เเหละองค์หญิงสาม (2020), The Long Ballad สตรีหาญ ฉางเกอ (2021), Who Rules The World เทียบท้าปฐพี (2022), Love Like The Galaxy ดาราจักรรักลำนำใจ (2022) เป็นต้น พร้อมด้วยอีกหนึ่งนักแสดงนำที่ขาดไม่ได้อย่าง หม่าป๋อเชียน หรือ วิกเตอร์ หม่า (Ma Boqian/Victor Ma) นักร้อง แร็ปเปอร์ชื่อดังวัย 27 ปี (เกิดเดือนมี.ค. 1996) ที่มารับบทเป็นซางเหยียน พี่ชายของซางจื้อ
เรื่องที่ 2 ในปี 2023 ของเฉินเจ๋อหย่วนที่เตรียมออนแอร์วันที่ 20 ก.ค. 2023 นี้แล้ว นั่นคือ The Princess and the Werewolf หรือชื่อไทย ท่านหลางจวินและองค์หญิง ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/แฟนตาซี/โรแมนติก/คอเมดี้ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังของนักเขียนเจ้าของนามปากกา เซียนเฉิง (Xian Cheng) ที่บอกเล่าเรื่องราวขององค์หญิงฉีพาที่ด้วยพันธะสัญญาการแต่งงาน ทำให้เธอได้เจอกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธออย่างราชาหมาป่า ขุยมู่หลาง ที่มีสองหน้าระหว่างรูปโฉมที่หล่อเหลา งดงามราวกับภาพวาด กับโฉมหน้าหมาป่าที่แท้จริงของเขา ซึ่งการเจอกันครั้งนี้กลายเป็นการผจญภัยของความรักที่มีทั้งความฟิน ฮา แฟนตาซี! สำหรับนางเอกของเรื่องได้อู๋เซวียนอี๋ (Wu Xuanyi) อดีตสมาชิกวง Rocket Girls 101 มาประกบคู่กับเฉินเจ๋อหย่วน ใครไม่อยากพลาด ไปปักหมุดรอตามเก็บได้ที่ YOUKU เลยจ้า
เรื่องโดย : Lizhu
อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
account_circle มวลความสุขอบอวลไปทั้งฮอลล์ สำหรับแฟนคอนเสิร์ตครั้งแรกในบ้านเกิดตัวเอง ของศิลปินจีนสัญชาติไทยมากความสามารถที่ทุกคนรอคอย SUNNEE (ซันนี่-เกวลิน บุญศรัทธา) กับงาน “SUNNEE FIRST FAN CONCERT ‘SURPRISE ON THE ROAD’ IN BANGKOK 2023” ที่จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ เนรมิตงานสุดปังนี้โดยผู้จัด สุดสัปดาห์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ภายใต้ AMARIN MEDIA & EVENT ในเครืออมรินทร์กรุ๊ป
ภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสุดเซอร์ไพร์สสมกับชื่อ SURPRISE ON THE ROAD ที่ซันนี่เตรียมมาให้ Sun Star ชาวไทย (ซัน-สตาร์ ชื่อแฟนคลับของซันนี่) ไม่ว่าจะเป็นเพลงเพราะๆ แขกรับเชิญคนพิเศษ และกิจกรรมสุดพิเศษที่จะทำให้ชาวซันสตาร์ฟินแบบลืมไม่ลง!
เปิดประเดิมเวทีแฟนคอนครั้งนี้ ด้วยการปรากฏตัวแบบเท่ๆ ของ “ซันนี่” ที่มาพร้อมกับเพลง 计划外惊喜 (เซอร์ไพรส์แห่งรัก) เพลงจากอัลบั้มที่ 3 ที่นำมาร้องให้แฟนๆ ฟังสดๆที่นี่เป็นที่แรก! และเพลง Sunny ซิงเกิลแรกในชีวิตของเธอ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ จนดังกระหึ่มฮอลล์ และกรี๊ดดังโหมกระหน่ำขึ้นไปอีก เมื่อ “ซันนี่” เริ่มต้นทักทายชาวซันสตาร์ ถึง 3 ภาษา ไทย จีน อังกฤษ เพื่อต้อนรับแฟนๆ ทั้งชาวไทย จีน และนานาประเทศ ที่มารวมตัวเพื่องานวันนี้
“สวัสดี ซันสตาร์ทุกคนนะคะ ซันนี่ค่ะ ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่แฟนคอนเสิร์ตครั้งแรกของหนูที่ประเทศไทยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้นะคะ ไม่คิดว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนี้ ขอบคุณมากๆ นะคะ”
ทักทายกันไป รับเอเนอจี้ความสนุกแบบคูณร้อยกันไปแล้ว “ซันนี่” ยังมีอีกหนึ่งเพลงที่นำมาฝากแฟนๆ กับเพลง 与你漫步的星球 (ท่องอวกาศรักกับคุณ) ที่เพราะจนทำเอาเคลิ้ม จากนั้น “ก๊อตจิ-ทัชชกร บุญลัภยานันท์” พิธีกรของงานในวันนี้ ก็ขึ้นมารันความสนุกต่อทันที พร้อมพาชาวซันสตาร์ ไปสู่กิจกรรมทายใจ “ซันนี่” โดยมีลัคกี้แฟน 3 ท่าน ขึ้นมาเล่นเกมส์ทายใจให้ตรงใจกับซันนี่ ซึ่งผู้ชนะได้ของรางวัลเป็นรูปภาพที่ซันนี่วาดสดๆ ให้บนเวที เรียกว่าเป็นของขวัญเซอร์ไพร์สที่ทำใจสั่นไม่เบา
จบกิจกรรมแรกที่ทำให้บรรยากาศคึกคัก สนุกสนาน ตลก ตามสไตล์เอนเตอร์เทนเนอร์ตัวจริงแบบ “ซันนี่” จนแฟนๆ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกันจนไหล่สั่นไปแล้ว ซันนี่ก็เตรียมเพลงไทยสนุกๆ อย่างเพลง “ขาหมู” มาให้แฟนๆ ร้องนำและโยกตาม และทำให้แฟนๆ ฟินแบบตั้งตัวไม่อยู่ กับการเปิดตัวเดินไปรอบๆ ฮอลล์เพื่อทักทายแฟนๆ ฟังอย่างใกล้ชิด
ทั้งร้องและเล่นไปแล้ว ก็มาถึงการพาแฟนๆ ย้อนไปถึงบรรยากาศการเดินทางของ “ซันนี่” ที่กว่าจะมาถึงวันนี้ กับการประมวลภาพความประทับใจที่เริ่มจากการเดบิวต์ในฐานะนักแสดง ไปจนถึงการแข่งขันในรายการ Produce 101 China และช่วงเวลาในการเดบิวต์ในวง Girls Group ชื่อดังอย่าง Rocket Girls ซึ่งทุกภาพที่เปิดขึ้นมา ล้วนเป็นความทรงจำที่ทุกคนคิดถึง รวมถึงภาพสาวเสื้อเขียวผมสีทอง ที่ตกแฟนๆ ให้มาตกหลุมรักซันนี่ในวันนี้
จบความประทับใจ ภูมิใจกันแล้ว แต่กิจกรรมกระชับมิตรระหว่าง “ซันนี่” และ “ซันสตาร์” ยังไม่หมด! มาถึงเกมส์ที่แฟนๆ ต้องออกแรงกันซักนิด กับเกมส์ใบ้คำที่ต้องทำท่าทางตามซันนี่ให้ถูกต้อง เกมส์นี้ลัคกี้แฟน 10 ท่าน ใส่พลังกันเต็มที่ ใบ้กันเต็มกำลัง จนได้ผู้ชนะและได้รับโปสเตอร์พร้อมลายเซ็นจากซันนี่ไปครอบครอง
ถ้านี่นับเป็นความสนุกเลเวล 10 แต่ยังมีความสนุก ความสุขเลเวล 100 ที่ซันนี่เตรียมเอาไว้ กับอีกหนึ่งช่วงเวลาที่แฟนๆ รอคอยที่จะได้เจอกับแขกรับเชิญคนพิเศษแบบใส่ใจของ “ซันนี่” กับการเปิดตัว “ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร” ขึ้นมาร้องเพลง “ซูลูปาก้า ตาปาเฮ้” คู่กันเป็นครั้งแรก ซึ่งตลอดโชว์นอกจากชาวซันสตาร์จะเซอร์ไพร์สจนตาค้างไปกับความหล่อของ “พี่ต่อ” ซันนี่เองก็เขินสุดๆ ขอยกให้ช่วงนี้เป็นช่วง “แฟนเดย์ 10 นาที ต่อซันนี่” ก่อนทั้งคู่จะขอบคุณกันและกัน สำหรับมิตรภาพและภาพความประทับใจที่เกิดขึ้นในวันนี้
มาร่วมสร้างวันพิเศษนี้ไปด้วยกัน แฟนคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นการรวบรวมความกล้าตลอด 2 ปีที่ผ่านมาของซันนี่ เพื่อมาเจอและมอบความสุขให้กับคนที่รักเธอ ซึ่งสุดท้าย “ซันนี่” ก็ขอมอบบทเพลง “ฉันดีใจที่มีเธอ” เป็นการบอกความรู้สึกทั้งหมดในวันนี้ของเธอ
และเช่นกัน ตามธรรมเนียมที่แฟนๆ จะบอกความรู้สึก ความประทับใจ และให้กำลังใจซันนี่ผ่านคลิปวิดีโอ และแฟนโปรเจกต์ที่มีข้อความว่า “ได้เจอกันแล้วนะ” ทำให้ “ซันนี่บอกขอบคุณทุกคนอีกครั้ง ก่อนจะขึ้นมาร้องเพลงสุดท้ายอย่างเพลง By Your Side เวอร์ชั่น 2 ภาษา ไทยและจีน เป็นการส่งแฟนๆ ทุกคนกลับบ้านด้วยความอิ่มเอมใจ และประทับใจกับแฟนคอนที่แสนพิเศษวันนี้
เรียกว่าเป็นช่วงเวลา 2 ชั่วโมงที่เต็มไปด้วย รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และภาพความประทับใจ ความเป็นมืออาชีพ ในด้านการเป็นศิลปิน เอนเตอร์เทนเนอร์ ทำให้ “ซันนี่” เอาอยู่ในช่วงทุกของแฟนคอน รวมถึงความเป็นธรรมชาติ อารมณ์ดี การรู้จักรู้ใจกันแบบถึงแก่นระหว่างซันนี่และชาวซันสตาร์ ก็ทำให้บรรยากาศออกมาเป็นกันเอง และสนุกสนานกันเต็มที่ ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและอบอวลไปด้วยมวลแห่งความสุขที่แท้จริง
ซึ่งหลังจากนี้ “สุดสัปดาห์ เอนเตอร์เทนเมนต์” จะเนรมิตความสุข ความสนุก แบบนี้มาเพื่อแฟนๆ อีกแน่นอน โดยสามารถติดตามสุดสัปดาห์เพิ่มเติมได้ที่ WWW.SUDSAPDA.COM, Facebook: สุดสัปดาห์แฟนคลับ, Instagram: @sudsapda, Twitter: @sudsapda และ TikTok: sudsapda_official ได้เลย
.
.
สิ้นสุดการรอคอย SUNNEE – ซันนี่ เกวลิน เตรียมจัดแฟนคอนครั้งแรกในเมืองไทย 15 ก.ค. 2023
Exclusive Interview ซันนี่-เกวลิน เปิดใจเส้นทางศิลปินที่ถอยไม่ได้ มีแต่ต้องไปให้สุด!
รวม คนไทยที่โลดแล่นในวงการเพลงเกาหลี และวงการเพลงจีนแบบปังแบบสับ
ส่องคนไทยที่ไปได้ไกลในวงการเพลงต่างประเทศ ความสามารถระดับเกรด A!
ไท่กั๋วประกาศศักดาในจีน คนไทยทำสถิติได้เดบิวต์ 100% ในรายการตระกูล Chuang!
จากซันนี่ – มีมี่ – เนเน่ สู่ นาย – แพทริค ลงชิงชัยที่นั่งเดบิวต์ใน Chuang 2021!
คนไทยในรายการตระกูล Chuang ของจีน ความสามารถปังระดับเกรดไม่ต่ำกว่า B!
3 สาวไทยโชว์สกิลว่ายน้ำสุดปัง จนคนจีนสงสัยทำไมคนไทยถึงว่ายน้ำเก่ง!
account_circle ฟังเสียงอื่นทำไม ฟังเสียงใจเราก็พอ! มัดรวมไอเทมตัวตึงจากวาระช้อปแห่งชาติ “Central Midnight Sale” ในคอนเซ็ปต์ “Listen to No One Else #เซลของคนจะได้ของ” ลดทั้งห้างสูงสุด 70% คอลฯ ใหม่ลดสูงสุด 30% ช้อปฟินยาวๆ ตั้งแต่วันนี้ – 12 ก.ค. 2566 ที่ห้างเซ็นทรัล, Central App และทุกช่องทางช้อปของห้างฯ
ห้างเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ห้างสรรพสินค้าที่มุ่งสร้างแรงบันดาลใจในช่วงจังหวะชีวิต ชวนลูกค้ามาช้อปปิ้งตามเสียงหัวใจพร้อมอัปเดตเทรนด์ใหม่อีกครั้งในงาน “Central Midnight Sale” แคมเปญเซลระดับตำนานที่ครองใจลูกค้ามายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ ที่คราวนี้มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์กระแทกใจ “Listen to No One Else” เรียกรวมพลขาช้อปจากทั่วทุกสารทิศให้ออกช้อปแบบไม่ต้องฟังใครนอกจากหัวใจตัวเอง พร้อมติดแฮชแทกสนุกๆ บนโซเชียล #เซลของคนจะได้ของ” ช้อปจุใจตั้งแต่วันนี้ – 12 ก.ค. 66 ที่ห้างเซ็นทรัลทั่วประเทศ พร้อมช้อปมันส์ต่อเนื่อง 24 ชม. ที่ Central App และทุกช่องทางการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อฯ
และด้วยมนต์ขลังภ์แห่ง “Central Midnight Sale” สายช้อปตัวจริงรู้กันดีว่า นี่คือสุดยอดงานเซลที่โปรโมชันคุ้มและครบที่สุด! แถมเป็นงานเดียวที่คอลใหม่ก็ลด! มีครบหมดทุกหมวดหมู่ ทั้งบิวตี้ แฟชั่น กระเป๋า นาฬิกา แกดแจ็ต สินค้าเกี่ยวกับบ้าน เครื่องนอน ของใช้ในครัว และไอเทมน่าช้อปอีกเพียบ ครั้งนี้มีไอเทมเรียกน้ำย่อยอะไรร่วมแคมเปญบ้าง…ไปดูกัน!
เริ่มอุ่นเครื่องกันที่แผนกบิวตี้ ขนสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ครบครันทั้ง น้ำหอม สกินแคร์ และเมกอัป ให้ลูกค้าได้ช้อปตามเสียงเรียกร้องในใจ อาทิ Tory Burch Divine Moon 50ml น้ำหอมกลิ่นลูกคุณ แนวฟลอรัลนุ่มละมุน โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ ลดถึง 20% (จากราคา 3,450 บาท เหลือเพียง 2,760 บาท) ต่อด้วยแบรนด์สุดฮอตอย่าง YSL ที่จัดโปรฯ สุดพิเศษ มอบ Gift Set ชุดของขวัญ 5 ชิ้น สำหรับลูกค้าห้างเซ็นทรัลที่ช้อปสินค้า YSL ครบ 3,500 บาท และเมื่อตัวหอมแล้วหน้าก็ต้องเป๊ะด้วย!
ป้ายยากันต่อด้วยเบสปรับสภาพผิวในดวงใจของใครหลาย ๆ คน อย่าง Bobbi Brown Vitamin Enriched Face Base 50ml ช่วยให้ผิวหน้าเนียนนุ่มพร้อมลงเมกอัปต่อได้เลย จัดโปรฯ ลดสูงสุด 10% ใครอยากผิวสวยกริบนาทีนี้ต้องจัดเลย
ช้อปแมตช์แรกผ่านไป แต่เสียงหัวใจบอกไปต่อ! อัปลุคสวยแบบหัวจรดเท้ากันที่แผนกแฟชั่น กองทัพแบรนด์เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และแว่นตา อาทิ Sporty & Rich สตรีทแวร์จากอเมริกา มาพร้อมทั้งเสื้อผ้าและ Accessory ดีไซน์แบบสปอร์ต ช้อปครบ 3 ชิ้นลดสูงสุด 20% หรือจะจัดไอเทมเรียบหรูดูดีกับแบรนด์ Polo Ralph Lauren สินค้าเฉพาะรุ่นลดสูงสุด 30% ที่พาเหรดสินค้าร่วมโปรโมชันมากมาย และคอมพลีต Total Look ให้เป๊ะปังกว่าใครด้วยรองเท้าคู่สวยจาก Steve Madden กับส่วนลดสูงสุด 30% หรือแบรนด์รองเท้าสุดจี๊ด Villains SF จัดราคา One price เริ่มต้นเพียง 590 บาท คุ้มขนาดนี้ ช้อปไปก่อนเนอะ ค่อยหาอีเวนต์ใส่ทีหลัง!
ส่งท้ายวันกับสินค้าในหมวดหมู่ของใช้ในบ้าน ยกจักรวาลสินค้า Home และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จัดหนักกับโปรฯ สุดคุ้ม ทั้งเตารีด เครื่องปั่น ไมโครเวฟ เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องดูดฝุ่น เครื่องนอน หรือใครที่กำลังมองหาเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติไว้ที่บ้านหรือที่ทำงาน ขอแนะนำ “De’Longhi รุ่นECAM22110B” เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติคุณภาพสูงจากอิตาลี ช่วยรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มรสเยี่ยมได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ลดแรง 30% (เหลือเพียง 29,960 บาท จากราคาปกติ 42,800 บาท) ช้อปสนุกมาทั้งวัน แวะทุกแผนกขนาดนี้ คงจะนอนฝันดีถ้าได้หลับสบายอย่างถูกหลักสรีรศาสตร์กับหมอนเมโมรีโฟมจากแบรนด์ ESQUIRE รุ่น Charcoaled Bamboo Memory Foam ลดพีค 77% (จากราคาปกติ 2,990 บาท เหลือเพียง 699 บาทเท่านั้น) ได้นอนกอดของที่ช้อปมาแบบฟินๆ หลับสบายตลอดคืน ตื่นมาสดชื่น ไม่มีปวดหลังแน่นอน…ช้อปได้ในแคมเปญ Central Midnight Sale #เซลของคนจะได้ของ เท่านั้น!
ก่อนกลับบ้าน อย่าลืมแวะเช็คอินรับเครื่องดื่มที่ Midnight Café มุมนั่งชิลสบายๆ ที่ห้างเซ็นทรัลจัดไว้ให้ขาช้อปได้แวะแชะแอนด์แชร์ของที่ช้อปมา พร้อมป้ายยาเพื่อนลงโซเชียลมีเดียเก๋ๆ และอย่าลืมรับดีลคุ้มๆ อีกหลายเด้ง! เพียงร่วมสนุกกับเกม Midnight Pop กดดีลป๊อป ช้อปรัวๆ ยิ่งกดเยอะก็ยิ่งลุ้นรับบัตรของขวัญได้เยอะ สำหรับผู้ร่วมเล่นเกมที่ได้คะแนนสูงสุด 50 ท่านแรก และรับฟรี! คูปองส่วนลดมูลค่ารวม 200 บาทไปเลย! พบกันที่ห้างเซ็นทรัล 7 สาขา ได้แก่ ชิดลม, ลาดพร้าว, เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์, ปิ่นเกล้า, บางนา, เฟสติวัลเชียงใหม่, อุดรธานี และรับเครื่องดื่มฟรี! เมื่อช้อป 3,000 บาท ขึ้นไป
เตรียมรับเซอร์ไพรส์มากมายที่จะเปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งสุดมันส์ในแคมเปญ “Central Midnight Sale” ครั้งใหม่ในคอนเซ็ปต์ “Listen to No One Else” รวมตัวพร้อมกันที่ห้างเซ็นทรัลทุกสาขาและช้อปต่อเนื่อง 24/7 ทางช่องทางออนไลน์ผ่าน Central App และทุกช่องทางช้อปปิ้งสุดสะดวกของห้างฯ ทั้ง www.central.co.th ช้อปผ่านไลน์กับบริการ Central Chat & Shop หรือโทรช้อปกับ Central Personal Shopper On Demand โทร.1425 หรือช้อปผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซที่เฟซบุ๊กไลฟ์และอินบ็อกซ์ของห้าง คลิก https://www.facebook.com/CentralDepartmentStore พร้อมแชร์ไอเทมที่จับจองตามเสียงหัวใจตนเอง กับแฮชแท็ก #ListenToNoOneElse #เซลของคนจะได้ของ
account_circle มาเพลิดเพลินไปกับความบันเทิง อาหาร และความสนุกตลอดทั้งวันได้ที่ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้! แลนด์มาร์กสำหรับคนรักกีฬาและความบันเทิงแบบครบวงจร ที่ไม่ซ้ำใครในย่านบางนา ด้วยฮิตติ้งเบย์รวม 102 เบย์ บาร์และร้านอาหารรวม 5 ร้าน และพลาดไม่ได้กับ PATIO หนึ่งในร้านอาหารที่ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ที่มาพร้อมกับบรรยากาศสุดผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเลือกนั่งโซนกลางแจ้งหรือในร่ม พร้อมแวดล้อมด้วยความเขียวขจีของ The Puttyard สนามมินิกอล์ฟ 18 หลุมที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ!
PATIO ตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 ของ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ พร้อมแล้วที่จะให้คุณมาผ่อนคลาย พร้อมรับประทานอาหารรสเลิศในย่านบางนาได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า บรันช์ มื้อกลางวัน และมื้อเย็น ด้วยตัวเลือกเมนูที่หลากหลาย พร้อมด้วยชากาแฟชั้นเลิศ นอกจากนี้ PATIO ยังให้การสนับสนุนเกษตรกร ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ และเปี่ยมคุณประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น โยเกิร์ต ชีส ไข่ และข้าว ที่เป็นผลผลิตจากท้องถิ่น
ไม่ว่าคุณกำลังมองหาสถานที่เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ เพื่อพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ๆ และครอบครัว หรือต้องการเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแสนอร่อยในระหว่างการทำงาน PATIO คือที่ที่เหมาะอย่างยิ่ง! ไม่เพียงเท่านี้พนักงานทุกคนพร้อมให้บริการอย่างเป็นกันเอง ช่วยสร้างช่วงเวลาแห่งความสนุก และน่าตื่นเต้นที่ท็อปกอล์ฟ ให้พิเศษมากยิ่งขึ้น
PATIO ที่ท็อปกอล์ฟเมกาซิตี้ ได้รังสรรค์เมนูคอมฟอร์ตฟู้ดที่ทุกคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น เมนูสลัด, แซนวิชร้อน, ทาร์ทีน และพาสต้า โดยมีเมนูจานเด็ด อาทิ ท็อปกอล์ฟ เบเนดิกต์, โจ๊กแห้งหมู, แซลมอนรมควัน, กีวีแก้วมังกรโบลว์ และช็อกโกแลตลาวา นอกจากนี้ PATIO ยังเตรียมเมนู Young Players สำหรับเอาใจคุณหนู ๆ ทั้งก่อนและหลัง จากการเล่นที่สนามมินิกอล์ฟ หรือฮิตติ้งเบย์ด้วยอาหารจานโปรดตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็น โอนิกิริแก๊งค์ ท็อปกอล์ฟ ทาร์เก็ต พาสต้า ไก่คาราอาเกะ ไส้กรอกไข่ข้น และของหวานสำหรับเด็ก ๆ
แดเนียล บูเฮอร์ เอ็กเซกคลูทีฟเชฟ และผู้จัดการความยั่งยืนด้านอาหารของ ท็อปกอล์ฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “เป้าหมายของเราคือการรังสรรค์เมนูที่มีความหลากหลาย แวดล้อมด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ในย่านบางนา กับร้านอาหารที่เหมาะสำหรับการมารับประทานได้ตลอดทั้งวัน พร้อมด้วยเมนูที่ทุกคนต้องหลงรัก ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับคอมมิวนิตี้ที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกที่ท็อปกอล์ฟ ด้วยอาหารรสเลิศ และทิวทัศน์เขียวขจี ทำให้ PATIO เป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้เวลากับเพื่อน ๆ และครอบครัว
PATIO เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 น จนดึก สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://topgolfthailand.com/eat-drink/
PATIO เลือกใช้ไข่ไก่ออร์แกนิค จากแม่ไก่ที่มีความสุขและสุขภาพดี ของชาวเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งมั่นใจได้ว่าเป็นไข่ไก่ออร์แกนิคแท้ 100% ปราศจากยาฆ่าแมลง และไม่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรม อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารเต็มคุณค่า นอกจากนี้เมนูข้าวสวย และข้าวต้มที่ PATIO ยังเลือกใช้ข้าวคุณภาพสูงจากไร่ทองออร์แกนิกส์ และผลิตภัณฑ์นมระดับพรีเมียม จาก Homemade Cheese Co. ที่ผลิตในกรุงเทพฯ อย่างโยเกิร์ต และชีส ที่ไม่ใส่สารกันบูด หรือสารปรุงแต่ง เพื่อรสชาติที่สดใหม่และเป็นธรรมชาติ
เพลิดเพลินกับดีลพิเศษ ด้วยแพ็คเกจ 550++ ต่อเบย์ ต่อชั่วโมง โดยรองรับได้สูงสุด 6 คนต่อเบย์ ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี หรือสนุกกับการเล่นระหว่างเวลา 17:00 น. – 22:00 น. ตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ในราคาเพียง 950++ ต่อเบย์ ต่อชั่วโมง ที่ ท็อปกอล์ฟ เมกาซิตี้ ศูนย์รวมความบันเทิง อาหาร และความสนุก โดยมีบาร์และร้านอาหารรวม 5 ร้าน และยังมี Topgolf Academy และ The Puttyard ซึ่งเป็นสนามมินิกอล์ฟ 18 หลุมที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ติดกับศูนย์การค้าเมกาบางนา สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: www.topgolfthailand.com
account_circle ครึ่งปีหลังนี้แต่ละราศีจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนบ้าง มาเช็ค ดวงครึ่งปีหลัง 2566 กับ กับ อ.ศิริ พรหมญาณ แห่งบ้านคชานันท์ พรหมญาณ ด้วยศาสตร์ไพ่พรหมญาณกันค่า
การเงิน ช่วงครึ่งปีหลังราศีธนูเป็นสายพร้อมเปย์เพื่อความรักแบบไม่ยั้ง ทั้งการแต่งตัว การกินอยู่ การเที่ยวเตร่
การงาน มีการชั่งใจระหว่างการอยู่ต่อที่เดิม หรือจะเปลี่ยนไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ
ความรัก สาวๆ ที่มีคู่ ยังรู้สึกลังเล ไม่มั่นคงกับความรักสักเท่าไหร่ บางคู่อาจจะมีเกณฑ์ต่างคนต่างไป คนโสด มีคนเข้ามาคุยเป็นระยะแต่ก็เป็นลักษณะของการทำงานร่วมกันมากกว่าที่จะพัฒนาเป็นความรัก
สุขภาพ ระวังอุบัติเหตุจากการเดินทางตามหน้าที่ เพราะชีพจรลงเท้ามากกว่าคนอื่น และสำหรับสาวๆ ให้ระวังเรื่องการอั้นปัสสาวะ เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาระบบขับถ่ายตามมา
สีมงคลและการเสริมดวง สำหรับชาวราศีธนูที่อยากให้การงานเด่น ปัง เต็มสิบไม่หักในช่วงครึ่งปีหลัง การแต่งกายแนะนำให้เน้นโทนสีเหลือง สีส้ม และสีแสดเลยค่ะ ส่วนสายโสดที่ผิดหวังกับความรัก อยากให้ตัวเองเข้มแข็ง พร้อมมูฟออนสักที ต้องใส่สีเหลือง สีชมพู และสีม่วง จะเพิ่มความสตรองพร้อมมูฟออน
เครื่องประดับที่เสริมให้ราศีของคุณปัง ร่ำรวย มั่งคั่ง คือเครื่องประดับที่มีเทอร์คอยส์ หินสีเขียวน้ำทะเล และเพทายสีฟ้า ที่จะเติมด้านทรัพย์สินเงินทอง และเสริมสร้างสติปัญญาได้ด้วย ส่วนสายมูต้องเดินสายบูชาองค์พระศิวะเพื่อวาสนา อำนาจ และบารมี และขอทรัพย์สินเงินทอง ความมั่งคั่ง กับท้าวเวสสุวรรณค่ะ
การเงิน ในช่วงครึ่งปีหลัง การเงินจะผันผวนขึ้นๆ ลงๆ เข้าๆ ออกๆ สะพัดอย่างรวดเร็วควบคุมไม่ได้ ปกติจะมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำชูในด้านการเงินตลอดเวลา แต่ช่วงครึ่งปีหลัง ลักษณะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะต้องดิ้นรนด้วยตัวเองเป็นหลัก
การงาน ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ชาวราศีมังกรอาจจะตกที่นั่งลำบาก มีแรงกดดันจากหลายด้าน โดยเฉพาะสาวๆ ท่านใดที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงาม การขายของออนไลน์ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องของคู่แข่ง บริวาร หรือถ้าเป็นลูกจ้างก็จะถูกกดดัน ถูกจับจ้องจากหัวหน้างานเป็นพิเศษ
ความรัก ความสัมพันธ์จะมีการกระทบกระทั่งในเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ตลอดเวลา ในเรื่องที่คุณคาดว่ามันควรจะเป็นอย่างใจก็ไม่ได้อย่างใจ จึงทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุข ไม่มีความสมหวังในสิ่งที่อยากได้ หาเวลาไปสวดมนต์ – ทำบุญบ้างนะคะ
สุขภาพ ในช่วงครึ่งปีหลังให้ระวังเรื่องความเครียด วิตกกังวล คิดมาก ย้ำคิดย้ำทำ เก็บกด สุขภาพด้านอื่นๆ ไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล
สีมงคลและการเสริมดวง สำหรับชาวราศีมังกรที่ต้องการให้ด้านการเงินไหลมาเทมา การงานโดดเด่นปังปุริเย่ ช่วยให้มีพลัง เสริมโชคลาภ สุขภาพดีสุดๆ ให้เน้นเสื้อผ้าการแต่งกายโทนสีดำ สีม่วง สีน้ำตาล สีเขียว และสีส้ม ส่วนเครื่องประดับที่จะมาช่วยลดอาการวิตกกังวลความเครียดของชาวราศีมังกรต้องเป็นโกเมนหรือมาลาไคต์ สายมูแนะนำให้ไปขอพรต่อองค์พระศิวะ และพระแม่อุมาเทวีที่วัดแขก เพื่อให้มีเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยโอบอุ้มให้ผ่านพ้นไปด้วยดี
การเงิน สำหรับชาวราศีกุมภ์ในช่วงครึ่งปีหลัง การเงินมีเข้ามาแต่ก็มีรายจ่ายคอยดูดซับ เหมือนน้ำซึมบ่อทรายหายไป ไม่เหลือเก็บ
การงาน เป็นช่วง 6 เดือนหลังที่หนักหน่วงสำหรับชาวราศีนี้ เพราะมีงานที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะตัว แถมยังต้องมีคุณสมบัติ อึด ถึก และทนอย่างดีเยี่ยม จึงจะผ่านพ้นไปได้ ความเครียด ความวิตกกังวลเป็นสิ่งที่ต้องพบเจออย่างแน่นอนในครึ่งปีหลังสำหรับชาวราศีกุมภ์
ความรัก จากความเครียดเรื่องงาน ต้องไม่นำมารวมกับการใช้ชีวิตคู่ เพราะจะทำให้มีเรื่องถกเถียงกัน และทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนไป ทำให้มือที่ 3 แทรกเข้ามาได้ง่ายนะคะ
สุขภาพ ของชาวราศีกุมภ์ในช่วงครึ่งปีหลัง ต้องระวังเรื่องของระบบสืบพันธ์ เช่น ต่อมลูกหมาก รังไข่ มดลูก เป็นต้น และมีโอกาสต้องเข้ารับการผ่าตัด ช่วงนี้ต้องรักษาสุขภาพเป็นพิเศษนะคะ
สีมงคลและการเสริมดวง สำหรับเสื้อผ้าและการแต่งกายของชาวราศีกุมภ์ที่จะช่วยเสริมความเฮงตลอดปี การเงินดีแบบฉุดไม่อยู่ ต้องเน้นใช้สีดำ สีเทา และสีน้ำตาล ซึ่งเป็นสีมงคลที่มีคุณสมบัติช่วยทุกเรื่องของชาวราศีกุมภ์ แต่ถ้าอยากเน้นเรื่องงานโดยเฉพาะ ก็ให้ใช้โทนสีฟ้าอ่อน สีม่วง และสีขาว หรือถ้าใครอยากดวงดีเป็นพิเศษก็แนะนำให้ใช้โทนสีม่วง จะช่วยให้ชีวิตรุ่งเรืองก้าวหน้าแบบคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
เครื่องประดับที่แนะนำสำหรับชาวราศีนี้ได้แก่ อะเมทิสต์ สายมูแนะนำให้กราบขอพรองค์อัมรินทราธิราช เช่น ที่สี่แยกราชประสงค์ หรือที่วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร เป็นต้น เพื่อเพิ่มอำนาจ บารมี และการปกครองบริวาร
การเงิน อาจต้องหัวหมุนสักหน่อยสำหรับชาวราศีมีนในครึ่งปีหลังนี้ แม้จะออกไปทำงานทุกวัน ทำงานสารพัดทุกอย่าง แต่ค่าตอบแทนไม่ได้มากเท่าที่ตนเองคาดหวังไว้
การงาน มีแนวโน้มปรับเปลี่ยนงานใหม่ เช่น ตำแหน่งใหม่ หรือหน้าที่ใหม่ๆ ทำให้มีงานล้นมือ แต่ทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี มีความมั่นคงในหน้าที่การงานมากขึ้น
ความรัก มีมือที่ 3 เข้ามาแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของคนสองคนจากสิ่งที่ตนเองเคยทำเอาไว้ สำหรับคนโสดในครึ่งปีหลังไม่มีความคิดในเรื่องของการไขว่คว้าหาคู่ครองคนรักเลยค่ะ
สุขภาพ ให้ระวังเรื่องโรคความจำเสื่อม ขี้หลงขี้ลืม และอัลไซเมอร์ แนะนำให้หาอาหารเสริมมาช่วยบำรุงสมองด่วนจ้า
สีมงคล และการเสริมดวง สีของเสื้อผ้าและการแต่งกายของชาวราศีมีนถ้าต้องการเน้นให้ชีวิตราบรื่น การงานดีสุดๆ ชนิดฉุดไม่อยู่ ก็ต้องจัดสีมงคลเป็นสีเหลือง สีส้ม และสีชมพู แต่ถ้าอยากแก้ดวงที่อับเฉาให้ดีขึ้นแนะนำให้ใช้โทนสีฟ้าอ่อน เพื่อมาเสริมซึ่งจะช่วยในเรื่องของความโชคดี ชีวิตพบแต่สิ่งมงคล
ส่วนเครื่องประดับแนะนำให้ใช้ อะความารีนสีเขียวน้ำทะเล ไปจนถึงสีฟ้าเข้ม ซึ่งเป็นอัญมณีนำโชคให้กับชาวราศีนี้ สายมูแนะนำให้ไปไหว้ขอพรพระแม่อุมาเทวีในด้านความรัก หรือไปไหว้ไอ้ไข่วัดเจดีย์เพื่อขอโชคขอลาภก็ได้นะคะ
การเงิน ชาวราศีเมษในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะมีการใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวังมีแบบแผน และมักจะใช้ในการลงหลักปักฐาน ของครอบครัว
การงาน ในครึ่งปีหลังมีภาระงานที่หนักและยุ่งยาก มีแรงกดดันจากผู้บังคับบัญชา บางครั้งทำให้ชาวราศีเมษเป๋ไปมาได้ แต่สุดท้ายก็จะผ่านพ้นไปได้เพราะความมานะ อุตสาหะ และอดทนของชาวราศีเมษค่ะ
ความรัก คนมีคู่ การที่คนสองคนที่แตกต่างได้โคจรมาเจอกันและรักกัน ต้องรู้จักปรับตัวเข้าหากันให้มาก ส่วนคนโสดจะมีคนเข้ามา และมีความเป็นไปได้ว่าจะลงเอยด้วยการแต่งงานค่ะ
สุขภาพ ชาวราศีเมษในช่วงครึ่งปีหลัง ต้องระวังเรื่องของระบบหมุนเวียนโลหิต รังไข่ มดลูก และมีโอกาสต้องเข้ารับการผ่าตัด
สีมงคล และการเสริมดวง สีมงคลของชาวราศีเมษที่จะทำให้งานดีสุดจึ้ง เงินปังทะลุกระเป๋าคือโทนสีแดง นอกจากนี้ยังช่วยในการเสริมพลังและแรงบันดาลใจให้ชาวราศีเมษมีความคิดใหม่ๆ อยู่เสมอ และหากต้องการเสริมด้านโชคลาภ แนะนำให้ใช้สีขาว และสีเหลือง เครื่องประดับที่ควรสวมใส่สำหรับชาวราศีเมษ คือ เพชรและบลัดสโตน สายมูแนะนำให้ไปขอพรพระศิวะและพระนารายณ์ที่วัดวิษณุ เขตยานนาวา
การเงิน สำหรับชาวราศีนี้การเงินเด่นปังสุดๆ กว่าทุกราศีในช่วงครึ่งปีหลัง มีเงินเข้ามาอย่างง่ายดาย และทำให้ชาวราศีนี้สร้างหลักปักฐานได้อย่างมั่นคง
การงาน มีความมั่นคง มีผลงานโดดเด่นเข้าตากรรมการ ทุกอย่างราบรื่น มีความสุขและสมหวังที่สุดในรอบปี
ความรัก อย่างที่เขาว่าดวงความรักมักจะสวนทางกับดวงการงาน ชาวราศีพฤษภก็เช่นเดียวกัน คนราศีนี้มักจะมั่นคงในความรักแต่ ดวงคู่ครองมักจะมีมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวพันอยู่เสมอ ส่วนคนโสดก็ยังอยากใช้ชีวิตโสดต่อไป
สุขภาพ ให้ระวังการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ เพราะจะทำให้ชาวราศีนี้เจ็บป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ เป็นไข้หวัด ปอดชื้น และมีโรคเกี่ยวกับผิวหนัง
สีมงคลและการเสริมดวง สีมงคลของชาวราศีพฤษภ ถ้าต้องการให้เงินปังเน้นใช้ สีขาว สีชมพู และสีเขียว มาเหนี่ยวทรัพย์ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมเสน่ห์ให้กับผู้พบเห็น ส่วนใครที่ต้องทำงานโดยใช้ปากในการเจรจา โน้มน้าวใจผู้คน และอยากโชคดีในหน้าที่การงานให้เน้นโทน สีเขียวอ่อน รับรองว่างานจึ้งสุดๆ แถมสีเขียวอ่อนนี้ยังช่วยเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้สำหรับชาวราศีพฤษภ
ส่วนเครื่องประดับแนะนำให้ใช้ มรกต เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง สายมูแนะนำให้บูชาขอพรต่อองค์พระพิฆเนศ และท้าวเวสสุวรรณ
การเงิน หากคิดจะลงทุนทำอะไรใหม่ๆ สำหรับชาวราศีเมถุนขอให้คิดอ่านอย่างละเอียดและรอบคอบสักหน่อย อย่ารีบร้อนเพราะจะทำให้เกิดความผิดพลาดอย่างมากมายตามมา
การงาน ด้วยความที่คุณเป็นคนเก่ง แน่นอนย่อมมีคนแอบอิจฉาคุณอยู่ ดวงช่วงนี้ผู้ใหญ่สนับสนุนอาจมีการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง แต่ให้ระวังบริวารอาจจะนำความเดือดร้อนมาให้ ต้องระวังรอบคอบในเรื่องเอกสารต่างๆ ให้มากนะคะ
ความรัก สำหรับคนมีคู่ คู่ครองของคุณเป็นคนเก่ง มีภาวะการเป็นผู้นำสูงจนทำให้บ้างครั้งอาจมีการโต้เถียงกันบ้าง ในขณะที่คนโสดก็ยังคงรักษาสถานภาพโสดเอาไว้อย่างเหนียวแน่นค่ะ
สุขภาพ ให้ระวังอุบัติเหตุอย่างไม่คาดคิด มีโอกาสบาดเจ็บจากการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องระมัดระวัง
สีมงคลและการเสริมดวง ชาวราศีเมถุนหากอยากจะประสบความสำเร็จ มีความสุข ชีวิตเจริญในทุกด้านตลอดครึ่งปีหลัง งานดีจนเพื่ออิจฉาต้องเน้นสีเหลือง สีเขียวอ่อน และสีแดง แต่ถ้าอยากเสริมโชคลาภความเฮงเงินเข้าแบบแซ่บปังรวยสุดฉุดไม่อยู่ให้เสริมด้วยสีชมพู หรือสีขาวนะคะ
เครื่องประดับขอแนะนำให้ใช้ เจ้าสามสีหรือ Alexandrite Stone ซึ่งเป็นอัญมณีหลักของชาวราศีนี้ ส่วนสายมูต้องขอพรองค์อัมรินทร์ แนะนำวัดเทวราชกุญชร หรือที่สี่แยกราชประสงค์
การเงิน อยู่ในภาวะความเครียดด้านการเงิน เหมือนถูกกดดันทั้งจากคนรอบข้างและจากความเครียดของตนเองที่อะไรๆ ก็ไม่เป็นไปตามเป้า
การงาน อยู่ในภาวะที่อยากหางานเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง ซี่งตอนนี้ตัวคุณเองก็กำลังมองช่องทางการทำงานเสริมที่ทำอยู่กับบ้าน การขายของออนไลน์ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คุณคิดไว้เช่นกัน
ความรัก ช่วงนี้ชาวราศีกรกฎมักจะอารมณ์ขึ้นง่ายๆ มีเรื่องทะเลาะกับแฟนได้ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นเรื่อง แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะถึงจะทะเลาะกันก็ยังคงรักกันเหมือนเดิม สำหรับคนโสด ช่วงนี้รักเด็กเป็นพิเศษ เพราะทำให้หัวใจกระปรี้กระเปร่า
สุขภาพ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลยค่ะ นอกจากความวิตกจริตคิดมากจนกลายเป็นความเครียด
สีมงคล และการเสริมดวง สีนำโชคของชาวราศีกรกฎที่จะทำให้งานปัง! เงินดี! แนะนำสีขาวและสีเงิน เป็นสีมงคลของราศีกรกฎจะช่วยเสริมพลังพิเศษให้ชีวิต แต่ถ้าอยากได้โชคลาภโชคดีแบบฟลุ๊คๆ สีม่วงเริ่ดมากค่ะ ยิ่งถ้าใครต้องใช้คำพูดในการทำงาน เช่น แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ไลฟ์สดขายสินค้า พิธีกร นักขาย บอกเลยว่าสีนี้ปังสุดๆ ไปเลย!
สำหรับเครื่องประดับแนะนำให้ใช้ไข่มุก ส่วนสายมูแนะนำให้ขอพรองค์พระศิวะ และพระพิฆเนศ …จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากสี่แยกห้วยขวางเลยค่ะ มีครบทุกองค์
การเงิน ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีเงินเข้าออกสะพัด แต่เป็นการเข้าไว ออกไว จะหมดไปกับการเป็นสายเปย์ของคุณในเรื่องของความรักค่ะ
การงาน คุณเป็นคนเก่งจึงทำให้คุณไม่ค่อยปล่อยวางหรือไว้ใจใครให้ทำงาน ซึ่งนั่นจะทำให้คุณเหนื่อย ดังนั้นต้องลองไว้ใจคนอื่นบ้าง เพื่อให้เขาได้แสดงฝีมือออกมา ถึงเวลานั้นคุณก็จะมีโอกาสในการคัดสรรคนเก่งๆ ไว้ช่วยงานข้างๆ ตัว
ความรัก ช่วงนี้คู่ครองของคุณกำลังอยู่ในช่วงใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างเนื้อสร้างตัว จึงทำให้คุณรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้เหงาเปล่าเปลี่ยวไปบ้าง สำหรับคนโสด เริ่มมีความรู้สึกอยากจะสร้างรากฐาน สร้างครอบครัวกันแล้ว แต่ยังมีอะไรบางสิ่ง บางอย่างที่ทำให้ยังไม่พร้อมหรือหาจุดลงตัวกันไม่ได้
สุขภาพ จะมีโอกาสเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง อาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ เคล็ดขัดยอก และให้ระวังเรื่องความดันโลหิตเป็นพิเศษ
สีมงคล และการเสริมดวง สีมงคลของชาวราศีสิงห์สำหรับการเสริมเติมพลังตลอดครึ่งปีหลัง แนะนำให้ใช้สีทอง สีม่วง สีส้ม และสีแสด เพราะจะทำให้การงานพุ่ง การเงินมาแบบจุกๆ ส่วนชาวราศีสิงห์ที่เป็นสิงห์ขี้อายให้เสริมด้วยสีครีมจะช่วยเสริมความมั่นใจทำอะไรก็โดน ทำอะไรก็ปัง!! เครื่องประดับเน้นให้ใช้เพอริไดต์สีเขียวใส ส่วนใครจะมูก็แนะนำให้ขอพรพระแม่อุมาเทวีที่วัดแขก เลยค่ะ จะปังสุดๆ
การเงิน ชาวราศีนี้ที่คิดจะลงทุนอะไรในช่วงนี้ ขอให้งดไปก่อนนะคะ เพราะจะทำให้คุณถูกหลอก ถูกโกงได้ง่าย เพราะความเชื่อใจ ไว้ใจของคุณ และการลงทุนช่วงแรก อาจจะประสบกับภาวะความเครียดที่จะต้องหมุนเงิน
การงาน ความไม่รอบคอบในการทำงานจะทำให้คุณมีปัญหาที่จะต้องตามไปแก้ไข ขอให้คุณเพิ่มความระมัดระวังกันให้มากในช่วงนี้
ความรัก สำหรับคนมีคู่ ให้ระวังเรื่องมือที่ 3 เข้ามาแทรกกลาง หรือบางคู่ก็จะถูกเร่งรัดให้จัดงานวิวาห์จากผู้หลักผู้ใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม ส่วนคนโสด กำลังจะไม่โสดเพราะมีคนเข้ามาคุยแล้วจร้า
สุขภาพ ช่วงนี้ให้ระวังโรคที่เกี่ยวกับระบบการหมุนเวียนของเลือดเป็นพิเศษ จะทำให้อ่อนเพลีย หน้ามืด ตาลาย เวียนศรีษะได้
สีมงคล และการเสริมดวง สีมงคลของชาวราศีกันย์ที่จะทำให้การงานแฮปปี้ การเงินดี! แนะนำสีน้ำเงิน สีเทา สีเขียวเข้ม และสีเขียวอ่อน จะช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เหมาะกับงานที่ต้องใช้การเจรจา แต่ถ้าอยากเสริมด้านการเข้าสังคม สร้างความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง สีฟ้า สีเขียว สีเหลือง และสีขาว จะเป็นสีที่ช่วยเสริมพลังในเรื่องนี้ของคุณได้สุดจึ้งเลยค่ะ ส่วนเครื่องประดับก็ต้องไพลิน และสายมูแนะนำให้ไปขอพรพระศิวะ และพระแม่ลักษมี
การเงิน ช่วงนี้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องจากความรู้ความสามารถของตัวคุณเอง บางท่านมีเกณฑ์ที่จะได้รับมรดก เช่น อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน บ้าน หรือรถยนต์ เป็นต้น
การงาน ชาวราศีตุลย์ในช่วงนี้เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเหนือกับตัว มักจะทำงานพลาดอยู่บ่อยๆ และถูกกดดัน หรือจับตามองจากผู้บังคับชา คุณต้องใช้ความรู้ ความสามารถของคุณให้มากกว่าปกตินะคะ
ความรัก คนมีคู่อยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะอยู่หรือจะไป เพราะมีปัญหาถึงขั้นแยกทางกัน ส่วนคนโสด มีโอกาสพบเนื้อคู่
สุขภาพ มีโอกาสป่วยเป็นโรคเลือด ดีซ่าน ไวรัสตับอักเสบ ลูคิเมีย ต่อมน้ำเหลืองไม่ดี ช่วงครึ่งปีหลังนี้ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษนะคะ
สีมงคลและการเสริมดวง สีมงคลของชาวราศีตุลย์ที่ช่วยให้ชีวิตดีเด่นปั๊วะปังในครึ่งปีหลังแบบอะไรก็ฉุดไม่อยู่ การงานท็อปฟอร์มไม่หยุด การเงินสุดจึ้งมาก…แนะนำให้มีสีขาว สีฟ้า สีชมพู และสีฟ้าน้ำทะเล จะช่วยเสริมให้โชคดีตลอดปีไปเลยค่ะ ส่วนเครื่องประดับต้องยกให้โอปอลล์ ส่วนสายมูต้องไปขอพรพระนาราย์ และพระแม่ลักษมี
การเงิน ช่วงนี้คุณจะล่ำซำจากมรดกตกทอด
การงาน ชาวราศีพิจิกอาจจะเกิดข้อพิพาทในการทำงาน และระวังจะต้องไปรับผิดในเรื่องที่ตนเองไม่ได้ทำ
ความรัก คนมีคู่จะรู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตคู่มีปัญหาหนักหน่วงมาก มีเรื่องให้ทะเลาะกันได้ทุกวัน ส่วนคนโสด มีการพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน หรือเร่งรัด
สุขภาพ ให้ระวังอุบัติเหตุจากหน้าที่การงาน ระวังการดื่ม กิน เที่ยว จะทำให้มีโรคต่างๆ ตามมา
สีมงคลและการเสริมดวง สีมงคลที่แนะนำสำหรับชาวราศีพิจิกคือสีขาว สีแดง และสีน้ำตาล ที่จะเสริมในหลายๆ ด้านของชีวิต แต่ถ้าอยากจะให้มีความโชคดีเป็นพิเศษแนะนำให้ใช้สีเหลือง อาจมีโชคลาภวิ่งเข้าหาแบบฟลุ๊คๆ ได้ค่ะ สำหรับเครื่องประดับแนะนำทับทิมสีม่วงแดง เพชรสีชมพู หรือ พลอยสาแหรกสีแดง (Star Ruby) สายมูแนะนำให้ขอพรพระศิวะ
By อ.ศิริ พรหมญาณ
ไปเที่ยวทะเลใต้กับ HYUNDAI STARGAZER ใช้เวลาน้อยแต่สนุกมาก!
ฮ่องกง 2023 เมืองของคนรักสีสัน อาหาร และสายมูฯ #สายถ่ายภาพก็ฟินนะ
Hotel MYS Khao Yai โรงแรมระดับ 5 ดาวแนวลักชูรีโคซี อบอุ่น สวยงาม อาหารเลิศ
12 เรื่องน่ารักๆ ที่แม่สื่อมืออาชีพอยากบอกคนโสด (ไม่โสดก็อ่านได้)
5 เหตุผลที่คนเก๋ๆ ต้องไปเช็คอินที่ Kimpton Kitalay Samui
รีวิว ออริกา เวลเนส & โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ..สุข สบาย ใจสงบ
Kamalaya Koh Samui รีสอร์ทที่จะทำให้คุณรู้สึกเต็มอิ่มทั้งกายใจ จนไม่อยากออกไปไหนเลย!
account_circle นำเสนอฮ่องกงในฐานะเป้าหมายของธุรกิจระดับพรีเมียม และเป็นแพลทฟอร์มในการต่อยอดทางธุรกิจไทย-ฮ่องกง
13 กรกฎาคม 2566 (กรุงเทพฯ ประเทศไทย) – องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ได้จัดงานแสดงสินค้า Think Business, Think Hong Kong (TBTHK) ซึ่งเป็นหนึ่งในงานหลักขององค์การฯ รุกเผยศักยภาพของฮ่องกง ในการเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง และเปิดโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการจากทั้งไทยและทั่วโลก
โดยงานจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ โดยงานนี้ได้รวบรวมผู้ประกอบการธุรกิจฮ่องกงและไทย เพื่อค้นหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน ผ่านกิจกรรมในงานได้แก่ งานแสดงสินค้า งานเสวนา และกิจกรรมต่อยอดสร้างเครือข่าย
ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำในเอเชีย กรุงเทพฯและฮ่องกงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน ซึ่งเป็นผลจากบทบาทที่สำคัญของไทยในอาเซียนและความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกันนี้ นอกจากนี้ ฮ่องกงยังเป็นศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศที่โดดเด่นในภูมิภาค ที่มากไปด้วย ประสบการณ์ และเครือข่าย และยิ่งไปกว่านั้น ฮ่องกงยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นเวทีเชื่อมและส่งเสริมความร่วมมือแบบไตรภาคีระหว่างธุรกิจจากประเทศไทย จีนและฮ่องกง และส่งเสริมความร่วมมือในการค้าสินค้าและบริการ การระดมเงินทุน การค้า และการเปิดตลาดไปสู่สากล
แคมเปญ TBTHK ในกรุงเทพฯ ได้มุ่งเน้นในการแสดงจุดแข็งของฮ่องกง ด้วยโครงการพัฒนาล่าสุดของเมือง โดยเป็นการแสดงให้เห็นถึงบทบาทของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางธุรกิจระหว่างประเทศชั้นนำ ที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจไทยขยายตัวในอาเซียน จีน และประเทศอื่น ๆ
Mr. Algernon Yau รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง พร้อมด้วย Dr. Peter K N Lam ประธานองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ได้กล่าวเปิดงานในวันแรก และได้รับเกียรติจาก ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษ
งานครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยมองหาโอกาสทางธุรกิจจากผลิตภัณฑ์และบริการไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพ และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์จากผู้จัดแสดงสินค้าจากฮ่องกงจำนวน 120 ราย ที่งาน TBTHK Trade Expo โดยงานแสดงสินค้าครั้งนี้ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการจากหลากหลายภาคส่วนในด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี บ้านและที่อยู่อาศัย ของเล่นและแกดเจ็ต และโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งมากกว่า 80% กำลังจะเปิดตัวในตลาดประเทศไทย
บริษัทชั้นนำจากฮ่องกงที่ได้รับการคัดเลือกมาจัดแสดงภายในงานนี้ ได้มีการนำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยั่งยืนและล้ำสมัยมาเสนอ เช่น OmniFoods ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนแนวคิด plant based รายแรกที่ให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมุ่งไปสู่ความยั่งยืน และ Farm66 ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการเกษตรในการทำฟาร์มในร่ม โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์เชิงนิเวศคุณภาพสูงในโรงงานเกษตรกรรมที่ปรับขนาดได้
ในงานยังประกอบไปด้วยผู้ให้บริการโซลูชันเมืองอัจฉริยะ 7 ราย โดย Smart City Consortium รวมถึงบริษัทฮ่องกง 13 แห่ง ที่นำโดย สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าฮ่องกง ได้มีการจัดแสดงนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ
นอกจากนี้ในงานแสดงสินค้ายังมีแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชื่อดังอื่น ๆ จากฮ่องกง เช่น
● Chow Tai Fook แบรนด์เครื่องประดับชั้นนำที่มีเครือข่ายค้าปลีกที่กว้างขวางในเอเชีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา
● Memorigin แบรนด์นาฬิการุ่น Tourbillon (ตูร์บิยง) ที่มีชื่อเสียงของฮ่องกง
● Camel แบรนด์สินค้าครัวเรือนที่ผลิตกระติกน้ำและแก้วน้ำสุญญากาศ ที่หุ้มฉนวนป้องกันหยดน้ำเกาะรอบแก้วที่สามารถกำหนดขนาดเองได้ตั้งแต่ยุค 1940
● DPM แบรนด์ชุดเครื่องนอนเพื่อสุขภาพการนอนที่ดีขึ้นโดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีจากการวิจัยและพัฒนากว่า 20 ปี
● B.Duck หนึ่งในตัวละครที่เป็นทรัพสินทางปัญญา (IP) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
นอกจากนั้น ภายในงาน ยังประกอบไปด้วยกิจกรรมงานเสวนา Trade Talks ซึ่งได้ครอบคลุมใน 4 หัวข้อเด่นด้านการค้าที่อยู่ในเทรนด์ในขณะนี้ ได้แก่ นวัตกรรมเทคโนโลยีของการค้าปลีก การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการได้รับใบอนุญาต การปรับโฉมอีคอมเมิร์ซและการขนส่งข้ามพรมแดน ตลอดจนการพัฒนาอย่างยั่งยืนและ ESG โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มค้าปลีก สมาคม และบริษัทด้านนวัตกรรมที่มีชื่อเสียง เช่น Mr. Anson Bailey หัวหน้าฝ่ายผู้บริโภคและการค้าปลีก ASPAC ของ KPMG Mr. Vincent Cheung ผู้อำนวยการบริหารและผู้จัดการทั่วไป (ใบอนุญาต) บริษัท B.Duck Semk Holdings International Limited Mr. Anavil Paodit ผู้อำนวยการ Medialink Brand Management PTE. LTD Mr. David Yeung ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Green Monday Group และ Mr. Ir Andrew Young รองผู้อำนวยการ (นวัตกรรม) ของ Sino Group และผู้เชี่ยวชาญในวงการอีกมากมาย ที่จะแบ่งปันประสบการณ์ระดับมืออาชีพและข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดกับผู้เข้าร่วมในงานทั้งสองวัน
ในวันแรกของงาน มีการจัดงาน Hong Kong Night Reception ซึ่งเป็นงานสำหรับผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้นำธุรกิจทั้งจากไทย อาเซียน และฮ่องกงได้สร้างเครือข่ายและค้นหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน
นอกจากนี้ ในงานยังมีช่วงแจกของรางวัลพิเศษในวันที่ 14 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่สองของการจัดงาน โดยมีรางวัลมากมาย เช่น นาฬิกา Tourbillion สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอื่น ๆ โดยหนึ่งในไฮไลท์ของรางวัลได้แก่ ตั๋วเครื่องบินไปกลับชั้นประหยัดสูงสุด 100 ใบ จากกรุงเทพไปยังฮ่องกงซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย แคมเปญ “World of Winners” Ticket Offers จากสนามบินนานาชาติฮ่องกง โดยสงวนสิทธิ์โดย HKTDC และบริษัทสายการบินสำหรับของรางวัลนี้
ท้ายสุด อีกหนึ่งกิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมงานไม่ควรพลาด คือบูธถ่ายภาพที่มีอาคารอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงเป็นฉากหลัง ทำให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสกับความเป็นฮ่องกงอย่างแท้จริง
เว็บไซต์
Think Business, Think Hong Kong: https://www.thinkbusinessthinkhk.com/bangkok2023/en
Trade Talks Programme: https://www.thinkbusinessthinkhk.com/bangkok2023/en/programe/trade_talk_programme.html
account_circle ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ และเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ทุกสาขา อัดโปรแรง ร้านค้าภายในศูนย์ฯ ลดสูงสุด 80% แจกบัตรกำนัลศูนย์ฯ รวมกว่า 2.5 ล้านบาท ในแคมเปญ “BANGKOK SHOPPING FESTIVAL ช้อปร่างพัง KUNG FU SHOPPING”
ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ และ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา ร่วมกับ พันธมิตรธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) , ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย และ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จํากัด (มหาชน) จัดแคมเปญ “BANGKOK SHOPPING FESTIVAL 2023 ช้อปร่างพัง KANG FU SHOPPING” มอบโปรโมชั่นพิเศษ ร้านค้า ชั้นนำในศูนย์ฯ อาทิ BOOTS, EVEANDBOY, GENTLEWOMAN, H&M, JASPAL, JD SPORTS, JELLY BUNNY, MISTY MYNX, ORIENTAL PRINCESS, PLAYBOY, POMELO, TG และ UNIQLO ลดสูงสุดกว่า 80% หรือสินค้าราคาพิเศษต่างๆ มากมาย พร้อมทั้งแจกบัตรกำนัลศูนย์ฯ รวมกว่า 2.5 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ – 30 กรกฎาคม 2566 รวม 31 วัน ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ ทุกสาขา และ เดอะมอลล์ โคราช
– ช้อปร่างพัง KUNG FU SHOPPING ตลอดทั้ง 3 วัน 2 ช่วง คือ ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เมื่อช้อปในศูนย์ฯ 5,000 บาทขึ้นไป สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต SCB M VISA / UOB / CITI / AEON / SCB และ CardX รับบัตรกำนัลศูนย์ฯ 800 บาท วันที่ 30 มิ.ย. – 2 ก.ค. / 28 – 30ก.ค. 66 และ รับบัตรกำนัลศูนย์ฯ 500 บาท วันที่ 7 – 9 ก.ค. / 14 – 16 ก.ค. / 21 – 23 ก.ค. 2566 ตลอดทั้งแคมเปญ พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตร M Card ช้อปร้านค้าในศูนย์ฯ 1,500 บาทขึ้นไป รับแก้วกังฟู M CARD X PUCK ดีไซน์เอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะแคมเปญนี้ มูลค่า 290บาท (จำกัด 1 สิทธิ์ / หมายเลข M Card /ตลอดรายการ)
พบกับ KUNG FU TROOP ขบวนสนุก แจกสนั่น สร้างสีสันความสนุก ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ในวันที่ 1 ก.ค. – 2 ก.ค. / 29 ก.ค.– 30 ก.ค.2566 สมาชิก M Card ช้อปร้านค้าในศูนย์ฯหรือห้างฯ 1,000 บาทขึ้นไป และพิเศษ บัตรเครดิต SCB M VISA เพียงช้อปร้านค้าในศูนย์ฯหรือห้างฯ800 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมากมาย อาทิ บัตรกำนัลร้านค้าในศูนย์ฯสูงสุด 100 บาท, Code เครื่องดื่มเต่าบิน ฟรี (3 รอบ/วัน) 13.00 น., 15.00 น., 17.00 น. ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน, เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ และ เดอะมอลล์ โคราช ข้อมูลเพิ่มเติม https://themalllifestore.themall.co.th
account_circle ยังมีความจำเป็นในการสื่อสารให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ ปัจจุบันยังมีเด็กได้รับควันบุหรี่ภายในครัวเรือนสูงถึง 5 ล้านคน แม้หลายๆ คนพยายามแล้วที่จะไปสูบไกลๆ แต่ควันบุหรี่นั้นลอยไกลกว่าที่คุณคิด
ภาพรวมของการได้รับควันบุหรี่ และบุหรี่ไฟฟ้าในครัวเรือนนั้นจากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2564 พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ไม่สูบบุหรี่ 3.43 ล้านคน ในจำนวนนี้ได้รับควันบุหรี่ในบ้านตัวเอง แบ่งเป็นเพศชาย 6 แสนกว่าคน เพศหญิง 2.82 ล้านคน ขณะที่ในครัวเรือนที่มีเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 5 ขวบ พบว่า ในทุก 10 ครัวเรือน จะมี 5 ครัวเรือนที่มีคนสูบบุหรี่ ในจำนวนนี้มี 3 ครัวเรือนมีการสูบในบ้าน รวมแล้วจะมีเด็กไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนเป็นอย่างน้อย ที่ได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน แม้ในภาพรวม แนวโน้มการได้รับควันบุหรี่มือสองในบ้าน จะลดลงจาก 39.9% ในปี 2557 เหลือ 23.7% ในปี 2564
สสส. และภาคีเครือข่าย มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่เห็นถึงความจำเป็นในการสื่อสารให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ จากการทำงานเพื่อหาต้นตอของปัญหา ทำให้พบว่าผู้ปกครองทุกคนรักคนในครอบครัว และได้มีความพยายามแล้วที่จะเดินไปสูบในบริเวณอื่นของตัวบ้าน หรือในพื้นที่บ้าน อาทิ การเดินออกจากห้องนั่งเล่น การเดินสูบบริเวณที่จอดรถ การสูบริมรั้ว ที่มองแล้วว่าไม่มีคนในครอบครัวอยู่ใกล้ๆ แต่ความจริงของการเดินทางของควันบุหรี่นั้นลอยได้ไกลกว่าที่คุณคิด และตกค้างได้นาน กอปรกับการเติบโตของการใช้บุหรี่รูปแบบใหม่ บุหรี่ไฟฟ้า ทำให้พบควันจากบุหรี่ และไอจากบุหรี่ไฟฟ้า
จึงเป็นที่มาว่าสสส. และภาคีเครือข่าย มีความจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่สูบ หรือครอบครัวที่มีผู้ใกล้ชิดสูบบุหรี่ เข้าใจว่าควันจากบุหรี่จากการสูบนั้นสร้างสารพิษตกค้างในรูปแบบฝุ่น PM2.5 ได้สูง และถึงแม้ผู้สูบหลายๆ ท่านได้พยายามเดินไปสูบแล้วแต่ระยะการเดินทางของบุหรี่นั้นไกลได้ถึง 10 เมตร ทำให้สามารถลอยกลับเข้ามาในบ้านได้
คลิป เจาะอันตรายการตกค้างและการเดินทางของบุหรี่
เราอยากเห็นถึงครัวเรือน และทุกครอบครัวมีความสุขมาช่วยกันให้บ้านป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ โดยถ้าหากใครกำลังมาหาทางเลือก หรือตัวช่วยเลิกบุหรี่ สามารถโทร.ปรึกษาการเลิกบุหรี่ได้ที่ 1600
กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดีๆ จาก สสส เพิ่มเติมได้ที่
account_circle เขย่าตลาดสกินแคร์ คาโอ เปิดตัว บิโอเร เมคอัพ รีมูฟเวอร์ คลีนซิ่ง แอคเน่ในบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก รีไซเคิลได้ 100%
นับว่าเป็นก้าวสำคัญของ คาโอ สู่ตลาดความงามอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Beauty กับการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมภายใต้แบรนด์บิโอเร โดยส่ง บิโอเร เมคอัพ รีมูฟเวอร์ เพอร์เฟค คลีนซิ่ง วอเตอร์ – แอคเน่ แคร์ (Biore Makeup Remover Perfect Cleansing Water – Acne Care) ที่เปลี่ยนมาใช้พลาสติกที่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ 100% เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการใช้พลาสติกและการสร้างขยะในอนาคต ตอกย้ำแนวคิดความยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ ESG ด้านสิ่งแวดล้อม
เจาะเบื้องหลังแนวคิด บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ของบิโอเร เมคอัพ รีมูฟเวอร์
คุณภัททิรา ชัชวาลย์ปรีชา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดธุรกิจสินค้าอุปโภค บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “คาโอให้ความสำคัญเรื่องการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผ่านกลยุทธ์ ESG หรือ Kirei Lifestyle Plan พื้นฐานการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของคาโอ ที่จะช่วยเสริมสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่งดงามของผู้บริโภคทั้งภายในและภายนอก ทั้ง 3 มิติ (ESG) ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแลกิจการที่ดีและบริหารงานอย่างโปร่งใส(Environmental, Social and Governance) เราจึงมุ่งยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างความยั่งยืนแก่ผู้บริโภค เพื่อโลกที่สะอาดและสมบูรณ์ โดยคาโอตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2030 ผลิตภัณฑ์คาโอทั้งหมดจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิต ซึ่งรวมถึงลดการสร้างขยะพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้”
เพราะหลังม่านการดูแลความงามของผู้หญิง สร้างผลกระทบด้านขยะและส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมกับโลกมากกว่าที่คิด จากข้อมูลองค์กร Zero Waste รายงานว่า ในแต่ละปีอุตสาหกรรมความงามทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์สร้างขยะจากบรรจุภัณฑ์มากกว่า 1.2 แสนล้านชิ้น[1] โดยมี 14% ของบรรจุภัณฑ์เท่านั้นที่ส่งไปยังโรงงานรีไซเคิล และมีเพียง 9% เท่านั้นที่ถูกรีไซเคิล ที่เหลือถูกกำจัดโดยการฝังกลบ ซึ่งบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวนั้น อาจใช้เวลาถึง 450 ปี ในการย่อยสลาย
อีกทั้งข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ประเทศไทย รายงานว่า มีขยะพลาสติกประมาณร้อยละ 12 ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น หรือประมาณปีละ 2 ล้านตัน มีการนำกลับไปใช้ประโยชน์ประมาณปีละ 0.5 ล้านตัน (ร้อยละ 25) เท่านั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในมลพิษร้ายแรงและเป็นเหตุผลให้ผู้บริโภคจำนวนมาก
“จากปัญหาขยะพลาสติกที่มาจากบรรจุภัณฑ์ความงาม ทำให้จุดประกายความคิดว่าในเมื่อการดูแลผิวหน้าของผู้หญิงเป็นรูทีนบิวตี้ที่ต้องทำเป็นประจำ ก็คงจะดีไม่น้อยหากทุกคนจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกเหมือนที่เรารักผิวหน้าตัวเองในทุกๆ วัน เราจึงเลือกแบรนด์บิโอเร ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงที่สุดในกลุ่มสินค้าดูแลสุขภาพและความงามของคาโอ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักและคุ้นเคย เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย โดยเลือกเซกเมนท์ เมคอัพ รีมูฟเวอร์ เพอร์เฟค คลีนซิ่ง วอเตอร์ – แอคเน่ แคร์ เพราะเป็นสินค้าที่ต้องใช้ทุกวัน มาปรับแพ็กเกจ เพื่อมาเป็นโครงการ นำร่องก่อนที่จะขยายไปสู่สินค้าหมวดอื่นๆ”
บรรจุภัณฑ์ใหม่ ให้ “เชิดหน้าใส รักษ์โลก”
สำหรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ของบิโอเร เมคอัพ รีมูฟเวอร์ เพอร์เฟค คลีนซิ่ง วอเตอร์ – แอคเน่ แคร์ (Biore Makeup Remover Perfect Cleansing Water – Acne Care) มาพร้อมแคมเปญ “เชิดหน้าใสรักษ์โลก” โดยมีจำหน่าย 2 ชนิด ทั้งแบบชนิดขวด ขนาด 400 มล. โดยมีส่วนผสมของวัสดุทดแทนจากพืช (Bio-PET) เป็นส่วนประกอบสูงสุด 30% ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของตลาดสกินแคร์ที่นำบรรจุภัณฑ์ประเภท Plant-based มาใช้เป็นครั้งแรก โดยทุก 1,000 ขวด จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1 ต้น
และชนิด “รีฟิล” หรือ “ถุงเติม” ขนาด 330 มล. เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุ PE ประเภทเดียว (Mono Material) ทำให้รีไซเคิลได้ง่ายขึ้น โดยไม่มีการผสมกับวัสดุอื่นๆ ซึ่งบรรจุภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 100% ช่วยลดขยะพลาสติกให้เป็นศูนย์ และลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกจากการนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วกลับมารีไซเคิลใหม่
“นอกจากตัวบรรจุภัณฑ์จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ตัวผลิตภัณฑ์เองยังปลอดภัยด้วยสารสกัดจากธรรมชาติและไม่ใส่สีสังเคราะห์ และคงคุณสมบัติการทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคาโอเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคงคุณภาพคำนึงถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริง” คุณภัททิรา กล่าวทิ้งท้าย
KAO x Watsons แท็กทีมรักษ์โลก
ในการเปิดตัว บิโอเร เมคอัพ รีมูฟเวอร์ เพอร์เฟค คลีนซิ่ง วอเตอร์ – แอคเน่ แคร์ (Biore Makeup Remover Perfect Cleansing Water – Acne Care) ในบรรจุภัณฑ์ใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ทาง คาโอได้จับมือกับวัตสัน (Watsons) โดยวางจำหน่ายเฉพาะที่ วัตสัน ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน(Sustainable Choices) ซึ่งเป็นโซนพิเศษนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพต่อผู้บริโภค เน้นความใส่ใจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า 1,800 รายการ เพื่อส่งเสริมแนวคิด Green is the new beautiful สร้างนิยามของความงามแบบใหม่ที่ใส่ใจโลกไปด้วยกัน โดยลูกค้าสามารถหาซื้อได้แล้วที่ร้านวัตสัน ทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ Watsons.co.th หรือผ่านแอป WatsonsTH ดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store และ App Store
account_circle วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต เปิดตัวบริการสุขภาพระดับไฮเอนด์แห่งใหม่ !! “Plenary Wellness” ชวนสัมผัสบริการด้านสุขภาพและความงามสุดพรีเมียม ต้อนรับนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพไทย-ต่างชาติจากทั่วโลก
ซิซซา กรุ๊ป (CISSA Group) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนชั้นนำของประเทศไทย เผย วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต (Wyndham Grand Nai Harn Beach Phuket) โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว พรีเมียม พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบภายใต้แนวคิด เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต (Medical Wellness Resort) ด้วยการเปิดตัว “เพลนารี เวลเนส (Plenary Wellness)” ศูนย์สุขภาพและความ เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบแบบองค์รวม ระดับไฮเอนด์อย่างเป็นทางการ เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของการพักผ่อนและดูแลสุขภาพแบบองค์รวม แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผลักดันให้ภูเก็ตและประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางและศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์ (Medical Wellness Hub) ชั้นนำแห่งเอเชีย
นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “เนื่องจากพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักเดินทาง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีกำลังการใช้จ่ายสูง เริ่มมีการผสานแพ็คเกจสุขภาพเข้าเป็นส่วนหนึ่งในโปรแกรมการท่องเที่ยวมากขึ้น ซิซซา กรุ๊ป จึงมุ่งมั่นพัฒนา วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต ให้เป็น ‘เมดิคอล เวลเนส รีสอร์ต’ (Medical Wellness Resort) ระดับไฮเอนด์ที่ครบครันด้วยบริการด้านสุขภาพและความงามระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด ซึ่งนอกจากบริการห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับเวิลด์คลาส เรายังเปิดตัว “เพลนารี เวลเนส (Plenary Wellness)” ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและความงามชั้นเยี่ยม โดยการก่อสร้างศูนย์ฯ ในเฟสแรกใช้งบลงทุนไปมากกว่า 70 ล้านบาท ซึ่งนับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ (Soft opening) ที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี ทำให้เราเล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาโครงการรูปแบบนี้ในโมเดลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน (Investment Property) ที่เรามีความเชี่ยวชาญในระดับสูงต่อไปในอนาคต”
วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต บริหารงานโดย Wyndham Hotel Group เชนโรงแรมมืออาชีพที่มีจำนวนสาขาในเครือมากที่สุดกว่า 9,000 แห่งในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว พรีเมียม ที่พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันภายใต้บรรยากาศการตกแต่งที่สวยงาม ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีมากด้วยยอด Occupancy rate สูงถึง 90% ผู้มาเยือนจะสัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรกสู่ล็อบบี้ที่หรูหราพร้อมบริการด้วยอัธยาศัยไมตรีจากพนักงานต้อนรับของโรงแรม นำเสนอบริการห้องพักรวม 353 ห้อง ซึ่งมีให้เลือกหลากรูปแบบตั้งแต่ห้องดีลักซ์มาตรฐานขนาด 41 ตร.ม. วิวสระว่ายน้ำ ไปจนถึงห้องสตูดิโอสวีทพูลแอคเซสขนาดใหญ่ขนาด 64 ตร.ม. ที่มีระเบียงเชื่อมต่อสู่สระว่ายน้ำได้โดยตรง ทั้งนี้ โรงแรมยังมีโปรเจกต์ วินแดม กรีน ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมีการปลูกผักและผลไม้ปราศจากสารเคมีใช้ในโรงแรม ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าได้รับอาหารที่สดใหม่ดีต่อสุขภาพ
เกรก แฮริสัน ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมวินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต กล่าวว่า “โรงแรมของเราตั้งใจออกแบบเพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ นับตั้งแต่ส่วนล็อบบี้ของโรงแรมดีไซน์พิเศษรูปทรงกะลามะพร้าวพร้อมต้อนรับแขกทุกท่านสู่โลกใต้ท้องทะเลซึ่งมีทั้งปลาและปะการังรายล้อม ส่วนอาคารห้องพักโอบล้อมด้วยสระว่ายน้ำที่ได้แรงบันดาลใจจากเกาะแก่งในทะเลอันดามัน โดยสถาปนิกนำสีฟ้าของน้ำทะเลและสีเม็ดทรายของหาดในหานมาใช้ในการออกแบบสระได้อย่างงดงามกลมกลืน ขณะที่ภายในห้องพักคัดสรรวัสดุและออกแบบตกแต่งอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกใช้โทนสีอันอบอุ่น การใช้ที่นอนพ็อกเก็ตสปริงเดี่ยวและหมอนที่มีออปชั่นให้เลือกตามสรีระและความสบายของแขกแต่ละท่านเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ตลอดจนบริการอื่น ๆ ที่ช่วยเติมเต็มการพักผ่อนวันหยุดที่สมบูรณ์แบบ อาทิ บริการฟรีอินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงทั่วโรงแรม บริการรับเลี้ยงเด็ก บริการรถรับ-ส่งไปยังหาดในหานและสนามบิน เป็นต้น”
ภายในโรงแรมฯ ยังเพียบพร้อมด้วยพื้นที่บริการเพื่อรองรับกิจกรรมการพักผ่อนระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง ทั้งสระว่ายน้ำท่ามกลางสวนสวยขนาดใหญ่ที่มีมากถึง 10 สระเชื่อมต่อโอบล้อมกันทั่วโรงแรม ห้องประชุมจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ รวมไปถึงห้องอาหารและบาร์รวม 4 แห่ง รวมทั้งห้องอาหารบัว ให้บริการอาหารไทยและนานาชาติแบบ All-day Dining ห้องอาหาร “โซเฟีย” ให้บริการอาหารอาหรับ พร้อมรายการความบันเทิงทุกค่ำคืน นอกจากนี้ยังมี ฟิตเนส โคโคซี สปา และอีกมากมาย โดยในอนาคตจะมี Sky Bar Roof Top ที่เชื่อมต่อถึง 3 อาคารในโรงแรม เพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสบรรยากาศ รับลมชมวิวและดื่มด่ำกับอาหารเลิศรสและเครื่องดื่มสุดพิเศษได้อย่างรื่นรมย์ตลอดค่ำคืน เพื่อการพักผ่อนอย่างรื่นรมย์ รวมถึงศูนย์สุขภาพและความงาม เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบแบบองค์รวมที่เป็นไฮไลต์ของโรงแรมฯ อย่างเพลนารี เวลเนส (Plenary Wellness)
นพ. ฐิฏิ สมุทรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ Plenary Wellness กล่าวว่า “เพลนารี เวลเนส คือศูนย์สุขภาพและความงาม เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบแบบองค์รวม มีการให้บริการทางการแพทย์ที่สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะบุคคลได้ ซึ่งเราคิดค้นโปรแกรมสุขภาพต่าง ๆ ให้สอดรับกับปัญหาและความต้องการของคนยุคใหม่ เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะทั้งร่างกาย จิตใจ และอารมณ์แบบองค์รวม นอกจากนี้ เรายังมีโปรแกรมเสริมความงาม ซึ่งดำเนินงานโดยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านบนมาตรฐานทางการแพทย์ทุกขั้นตอน”
Plenary Wellness นำเสนอบริการสุขภาพและความงาม 4 ด้าน ได้แก่
การพัฒนา Plenary Wellness เฟส 2 จะเป็นส่วนของการดูแลสุขภาพทั้งผู้ชายและผู้หญิงทั้งหมด (Men’s Health และ Women’s Health) และเฟส 3 อยู่ในขั้นตอนการศึกษาข้อมูล โดยคาดว่า Plenary Wellness ทั้ง 3 เฟสจะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 300 ล้านบาท
หาดในหานซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมฯ เป็นชายหาดริมทะเลอันดามันที่ติดสวยงามอันดับใน TripAdvisor โดยเป็นชายหาดที่เงียบสงบเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว ทั้งยังใกล้กับหนองน้ำในหานและสวนสาธารณะขนาดใหญ่ซึ่งผู้คนในท้องถิ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวนิยมพาครอบครัวมาทำกิจกรรมและออกกำลังกายร่วมกัน ทั้งการวิ่งและปั่นจักรยาน หาดในหานอยู่ห่างจากย่านเมืองเก่าเพียง 18 กม. และอยู่ใกล้หาดชื่อดังของภูเก็ตอีกหลายแห่ง เช่น หาดราไวย์ แหลมพรหมเทพ หาดกะตะ หาดกะรน และหาดป่าตอง และสามารถเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติภูเก็ตได้อย่างสะดวกสบายซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 45 นาที
“วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านด้วยบริการห้องพักชั้นเลิศและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงบริการสุขภาพและความงามแบบองค์รวมที่เราภาคภูมิใจ เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสทั้งประสบการณ์การพักผ่อนริมทะเลอันดามันที่สวยงามในรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว พรีเมียม และกลับไปพร้อมกับสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงด้วยผิวพรรณที่สดใส ดูอ่อนกว่าวัย และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้แบบเต็มร้อยและมีความสุขมากขึ้น เสมือนได้ชาร์จพลังทั้งภายในและภายนอกแบบครบวงจรอย่างแท้จริง” นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด กล่าว
account_circle สัมผัสมื้อแห่งความสุขที่ “อลีเกรียร์” (Alegria) สแปนิช ทาปาส บาร์ แห่งใหม่ย่านสุขุมวิท เสิร์ฟเมนูทาปาสวัตถุดิบพรีเมียมจากทั่วมุมโลก ครีเอทโดยเชฟฝีมือมิชลินสตาร์จากบาร์เซโลน่า ชวนเปิดประสบการณ์อาหารรูปแบบใหม่ เคล้าบรรยากาศสนุกสนานกลิ่นอายสเปนร่วมสมัย
“Alegria” ในภาษาสเปนหมายถึง “ความสุข” เป็นจุดเริ่มต้นของการสรรสร้างสแปนิช ทาปาส บาร์สุดชิคแห่งใหม่ของคนมีสไตล์อย่าง “อลีเกรียร์” (Alegria) ที่ตั้งใจจะให้ร้านแห่งนี้เป็นจุดพบปะสังสรรค์กินดื่ม นำเสนออาหารชั้นเลิศที่อร่อยถูกปากในบรรยากาศสนุกสนาน ด้วยมนต์เสน่ห์เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ดนตรีและศิลปะร่วมสมัยสไตล์โมเดิร์นมานำเสนอในมุมมองใหม่ ที่ให้กลิ่นอายตามแบบฉบับวัฒนธรรมสเปน เน้นเสิร์ฟอาหารสเปนสไตล์ทาปาสร่วมสมัยที่ได้แรงบันดาลใจจากเมนูดั้งเดิมแบบสเปนต้นตำรับผสมผสานรสชาติเข้ากับกลิ่นอายสไตล์โมเดิร์นทวิสต์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ทุกเมนูรังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบเกรดพรีเมียมนำเข้าจากทั่วทุกมุมโลก ที่ถูกปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยเอ็กเซกคิวทีฟ เชฟชาวสเปน David Aparicio Martin ผู้มากประสบการณ์อยู่เบื้องหลังร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาวจากสเปน พร้อมเปิดให้สัมผัสสุนทรียะแห่งมื้ออาหารแห่งความสุขในบรรยากาศสนุกสนาน ที่ทาปาสบาร์ที่มาแรงที่สุดในเมืองกรุงฯ อย่าง “Alegria Spanish Tapas Bar” ที่ตั้งอยู่ในโครงการ K Village สุขุมวิท 26
บิ๋ง – ลภัส บุญศรี ผู้ก่อตั้ง Alegria เล่าว่า “หนึ่งในเป้าหมายของ Alegria คือการมอบ “ความสุข” ให้กับผู้มาเยือนทุกคน เหมือนกับที่ตัวเองได้รับประสบการณ์ที่ทำให้ประทับใจจนตกหลุมรักในอาหารและวัฒนธรรมสเปน จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้เดินทางชิมเมนูต่าง ๆ จากร้านอาหารชั้นแนวหน้าในหลากหลายประเทศทั่วทุกมุมโลก ยังไม่มีที่ไหนที่มีมนต์เสน่ห์และให้ความรู้สึกลงตัวประทับใจได้เท่ากับอาหารสเปน ด้วยความที่มีรสชาติเข้มข้นจัดจ้านคล้ายกับอาหารไทย นอกจากนี้ยังแฝงไปด้วยรสชาติของเครื่องเทศที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ประกอบกับสีสันที่จัดจ้านสวยงามของอาหารบนจาน ทำให้อาหารสเปนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นชวนให้ตกหลุมรักทุกครั้งที่ได้รับประทาน จึงเป็นที่มาของการเปิดตัว Alegria ซึ่งแปลว่า “ความสุข” ในภาษาสเปน ด้วยความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใครให้กับเหล่านักชิมด้วยความใส่ใจในรายละเอียดของเชฟ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากทั่วโลก วิธีการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันด้วยเทคนิคเฉพาะตัว และการจัดจานที่สวยงาม เรามุ่งหวังให้ Alegria เป็นร้านอาหารชั้นเลิศที่ปรุงด้วยวัตถุดิบที่ดีที่สุดในโลก เต็มไปด้วยความสุขและบรรยากาศที่สนุกสนาน เพื่อมอบประสบการณ์รับประทานอาหารสเปนที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ”
ความพิเศษของ Alegria ยังมอบประสบการณ์และกลิ่นอายวัฒนธรรมที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวาของชาวสเปน ทั้งหมดนี้ถูกสร้างสรรค์และถ่ายทอดออกมาได้อย่างลงตัวตั้งแต่บรรยากาศการตกแต่งที่มีสีสันที่สนุกสนาน ขณะเดียวกันยังให้ความรู้สึกโมเดิร์น ทันสมัย เพื่อให้ Alegria เป็นร้านอาหารสเปนสไตล์โมเดิร์นทวิสชั้นเลิศ ที่เต็มไปด้วยความ “สนุกสนาน” รวมถึงการออกแบบเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อนลายสวยล้อมครัวเปิดที่ไม่เหมือนใคร เพื่อให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินเต็มอรรถรสกับเชฟในขณะปรุงอาหารแต่ละจาน พร้อมเพิ่มความสมบูรณ์แบบแห่งมื้อพิเศษด้วยไวน์สเปนชั้นเลิศและไวน์เก่าแก่ที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ตลอดจน เครื่องดื่มซิกเนเจอร์สูตรพิเศษทั้งม็อกเทลและค็อกเทล พร้อมด้วยองค์ประกอบบนโต๊ะอาหารอีกมากมายที่แสดงถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด รวมถึงไฮไลต์ดนตรีสเปนที่สนุกสนานเพื่อการสร้างสรรค์ประสบการณ์แห่งมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบของคุณที่ Alegria
ด้านเชฟเดวิด อาปาริซิโอ มาร์ติน (David Aparicio Martin) เอ็กเซกคิวทีฟ เชฟผู้รังสรรค์เมนูรสเลิศที่ Alegria ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการอาหารระดับอาชีพทั่วโลกมานานกว่า 21 ปี และเป็นเชฟผู้อยู่เบื้องหลังร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ตั้งแต่ 1-3 ดาวในสเปน อธิบายคอนเซ็ปต์ด้านอาหารว่า “เราต้องการถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดที่สั่งสมมาในรูปแบบใหม่ที่ประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น ผมจึงได้สร้างสรรค์เมนูพิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับ Alegria เท่านั้น ด้วยการนำเสนอรสชาติต้นตำรับของแท้แบบดั้งเดิมจากสูตรลับของคุณยายผสมผสานกับเทคนิคพิเศษที่ได้สั่งสมมาจากร้านระดับมิชลินสตาร์ พร้อมกับการตอกย้ำให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับวัตถุดิบชั้นเลิศที่ส่งตรงมาจากทั่วทุกมุมโลก โดยนำเสนอผ่านการครีเอทเมนูทาปาสเรียกน้ำย่อยจานเล็กๆ และอาหารจานเด็ดที่เป็นซิกเนเจอร์หลากหลายรายการซึ่งรับรองว่าทุกคนจะได้พบความแปลกใหม่และพบกับความสุขทุกครั้งในการมาเยือนที่ Alegria ซึ่งถูกเนรมิตออกมาในสไตล์สเปนร่วมสมัย ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ที่พร้อมมอบสุดยอดประสบการณ์ในการดื่มด่ำและอิ่มเอมอาหารเลิศรส รวมถึงเครื่องดื่มชั้นเลิศจากทีมงานที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดนิ่ง”
Alegria เสิร์ฟอาหารสเปนสไตล์ทาปาสร่วมสมัยที่ได้แรงบันดาลใจจากเมนูดั้งเดิมแบบสเปนต้นตำรับผสมผสานรสชาติเข้ากับกลิ่นอายสไตล์โมเดิร์นทวิสต์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว สำหรับเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านขอแนะนำ
มื้ออาหารรสเลิศก็คงขาดเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยมไปไม่ได้ Alegria มีเมนูเครื่องดื่มมากมายให้ลิ้มลองทั้ง ค็อกเทล ม็อกเทล และไวน์ชั้นเลิศให้ลูกค้าได้เลือกจับคู่แพริ่งเพื่อเติมเต็มรสชาติอาหารมื้อพิเศษสมบูรณ์แบบเหนือระดับ
สัมผัสประสบการณ์มื้ออาหารแห่งความสุขตามแบบฉบับกลิ่นอาย สแปนิช ทาปาส บาร์ ได้แล้ววันนี้ที่ “Alegria Spanish Tapas Bar” ชั้น 2 โครงการ K Village สุขุมวิท 26 เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 23.00 น. สำรองที่นั่งโทร. 093-074-8999 LINE : @alegriatapasbar พร้อมติดตามข่าวสารรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.facebook.com/alegria.bangkok
account_circle สุดฯ พาส่อง 4 ซีรี่ย์จีนของคู่จิ้นซุปตาร์จีน ที่ขนกันมาแบบอัดแน่นลงจอรัวๆ ในเดือนก.ค. 2023 เรียกว่าทำแฟนๆ คอซีรี่ย์ตื่นตาตื่นใจ ตามไม่ไหวก็ต้องไหว!?! มีเรื่องไหนของคู่จิ้นคู่ไหนบ้าง ตามสุดฯ มาดูกันค่ะ
เริ่มด้วยซีรี่ย์จีนที่ออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2023 ที่ผ่านมา นั่นคือ Divine Destiny หรือชื่อไทย พรหมลิขิตรักพันธนาการ ซีรี่ย์ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังของเยียนอวี่เจียงหนาน (Yanyu Jiangnan) บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของพระ-นางที่เป็นความรักของเทพเซียนกับมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและคราบน้ำตา ที่ได้ฤกษ์ออนแอร์ในรอบเกือบ 2 ปี หลังจากที่ปิดกล้องถ่ายทำเสร็จตั้งแต่ปี 2021 โดยพระเอกที่มารับบทได้หม่าเทียนอวี่ (Ma Tianyu) นักแสดงชายจีนจากเรื่อง My Mowgli Boy นายเมาคลีของฉัน (2019), River Flows To You สายธารรักของสองเรา (2019) ฯลฯ มาประกบคู่กับแองเจล่าเบบี้ (Angelababy หรือชื่อจริง หยางอิ่ง/Yang Ying) จากเรื่อง The Wind Blows From Longxi สายลมแห่งหล่งซี (2022), Love The Way You Are รักนะครับพี่สาวคนสวย (2022) ฯลฯ ไปตามซีรี่ย์จีน Divine Destiny แบบซับไทยได้ที่ iQIYI นะคะ
The Longest Promise ลำนำกระดูกหยก ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/กำลังภายในที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดัง จูเหยียน ลำนำกระดูกหยก ของนักเขียนหญิงจีน ชางเยว่ (Cang Yue) โดยบอกเล่าเรื่องราวของพระ-นางที่เริ่มต้นความสัมพันธ์จากการเป็นอาจารย์-ลูกศิษย์ จากความรักนำไปสู่ความเจ็บปวดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง… ซึ่งพระเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสามีขวัญใจสาวๆ อย่างเซียวจ้าน (Xiao Zhan) เจ้าของผลงานซีรี่ย์จีนสุดฮิต เช่น The Untamed ปรมาจารย์ลัทธิมาร (2019), Douluo Continent ตํานานจอมยุทธ์ภูตถังซาน (2021), Ace Troops กองกำลังประจัญบาน (2021-2022), The Oath of Love คุณคือคำปฏิญาณแห่งรัก (2022) เป็นต้น มารับบทคู่กับนักแสดงหญิงจีนรุ่นน้อง เหรินหมิ่น (Ren Min) จาก ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/ดราม่าสุดปัง Held in the Lonely Castle วังเดียวดาย (2020) ไปตามซีรี่ย์จีน The Longest Promise ลำนำกระดูกหยก แบบซับไทยได้ที่ WeTV ค่ะ
ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก Fireworks of My Heart กู้ภัยรัก นักดับเพลิงที่ออนแอร์ในวันที่ 5 ก.ค. 2023 แบบสายฟ้าฟาด โดยซีรี่ย์จีนเรื่องนี้ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังเรื่อง Waiting For You In My City ของนักเขียน จิ่วเยว่ซี (Jiu Yuexi) บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับซ่งเยี่ยน หัวหน้าสถานีดับเพลิง และสวี่ชิ่น แพทย์หญิงแผนกฉุกเฉินที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังแยกจากกันไปนาน 10 ปี เมื่อครั้งที่พวกเขายังเป็นวัยรุ่น เนื่องด้วยโดนครอบครัวกีดกันและคัดค้าน ทำให้พวกเขาต้องแยกจากกันไป เมื่อได้กลับมาเจอกันอีก ซ่งเยี่ยนกับสวี่ชิ่นได้ผ่านเรื่องราวต่างๆ เติบโตขึ้น และเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ อย่าง… (อ่านเรื่องย่อซีรี่ย์เต็มๆ ได้ที่นี่ คลิกเลย) คู่จิ้นพระ-นางนำทีมโดยหยางหยาง (Yang Yang) จากเรื่อง Love O2O ยิ้มนี้โลกละลาย (2016), Who Rules The World เทียบท้าปฐพี (2022) ฯลฯ ประกบคู่กับหวังฉู่หรัน (Wang Churan) ที่เมื่อต้นปี 2023 เพิ่งจะเปรี้ยงปังจากซีรี่ย์จีนเรื่อง Love Heals เสียงกระซิบบอกว่ารัก
ซีรี่ย์จีนของคู่จิ้นซุปตาร์จีน เรื่องที่ 4 เพิ่งจะออนแอร์แบบสายฟ้าแลบไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2023 ที่ผ่านมา สำหรับ Legend of Anle อันเล่อจ้วน ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังของซิงหลิง (Xing Ling) ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักครบรสของคู่พระ-นาง โดยพระเอกได้กงจวิ้น (Gong Jun) ที่สุดฯ เชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยกันดีจากซีรี่ย์จีนเรื่อง Begin Again (2020), Word of Honor (2021) เป็นต้น มารับบทคู่กับตี๋ลี่เร่อปา (Dilireba) นางเอกจีนหน้าปังเจ้าของผลงาน Eternal Love of Dream สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย (2020), You Are My Glory ดุจดวงดาวเกียรติยศ (2021), The Long Ballad สตรีหาญ ฉางเกอ (2021) เป็นต้น กระแสตอบรับมาแรงตามคาด ใครยังไม่ได้ดู ไปตามเก็บได้ที่ YOUKU เลยจ้า
รูปจาก : 玉骨遥官微/电视剧我的人间烟火/尘缘官方微博/电视剧安乐传
เรื่องโดย : Lizhu
อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
account_circle อุตสาหกรรมการออกแบบของประเทศไทยได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ไทยอย่างมหาศาล และเป็นปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อิทธิพลของการดีไซน์จะเข้ามาสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ ที่คู่แข่งไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ ทั้งยังเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ จนนำไปสู่การได้รับการยอมรับในวงกว้าง แต่การจะก้าวไปสู่ความสำเร็จจะต้องได้รับการฝึกฝนที่มี แบบแผน ขั้นตอน อย่างต่อเนื่อง จากสถาบันที่มีมาตรฐานนานาชาติและได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลก
เตชทัต หลวงพิทักษ์ (อั้ม) ศิษย์เก่าสาขาออกแบบแฟชั่น รุ่นที่ 14 ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ แบรนด์เสื้อผ้า SAAMU (ซามู) เผยถึงมุมมองต่อวงการดีไซน์ในปัจจุบันว่า “หลังจากมาเรียนที่ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ สิ่งที่ได้รับจากที่นี่คือได้มุมมอง แนวคิด กระบวนการออกแบบและการทำงานในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้จนถึงทุกวันนี้ และรวมไปถึงการได้รับโอกาสในการเป็นนักเรียน ทุนต่างประเทศ ซึ่งทำให้ได้เปิดมุมมอง โลกทัศน์ และความรู้ใหม่ๆ ในการออกแบบได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจธุรกิจหรือโลกของแฟชั่น ก็อย่าลังเลที่จะหยิบยื่นโอกาสให้กับตัวเอง เพราะซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ เป็นสถาบันออกแบบนานาชาติที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเมื่อเรียนจบไป สามารถสร้างแบรนด์ สร้างอาชีพออกสู่ตลาด หรือแม้แต่ต่อยอดทางการศึกษาได้ทั้งในไทยและต่างประเทศ ปัจจุบันเทคโนโลยีและสื่อต่างๆ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนวงการแฟชั่น ทำให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้นมาก ส่งผลให้เกิดแบรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ขึ้นมากมาย แต่นักออกแบบต้องไม่ลืมที่จะสร้างเอกลักษณ์ของตนเอง ประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยี เพื่อสร้างความยั่งยืนทางการออกแบบต่อไป”
ธนุนาฏ เอกะสิงห์ (มิ้ม) ศิษย์เก่าสาขาออกแบบแฟชั่น รุ่นที่ 20 เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า STORI WARE กล่าวว่า “จุดเริ่มต้นของความใฝ่ฝันเริ่มจากความต้องการจะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า และมีแบรนด์เป็นของตัวเอง แต่ยังขาดความรู้พื้นฐานในด้านนี้จนได้มาศึกษาที่ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ โรงเรียนสอนออกแบบแฟชั่น ที่สอนครอบคลุมทุกด้านในแบบสากลที่ไม่ได้มีการตีกรอบทางความคิด สนับสนุนให้นักเรียนพัฒนาต่อยอดในสไตล์ความชอบของตนเองได้อย่างเต็มที่ ชอบเรียน Research and Entrepreneur หรือการวิจัยเพื่อการทำแบรนด์โดยตรง ทำให้เราสามารถนำความรู้ที่ได้จากการทำวิจัยมาต่อยอดในการทำแบรนด์ของเราได้ทันที และยังช่วยพัฒนาและต่อยอดแบรนด์ให้ในขณะที่เรียน โดยมีอาจารย์เป็นที่ปรึกษาช่วยให้คำแนะนำ ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งปัจจุบันแบรนด์ STORI WARE ประสบผลสำเร็จได้ เป็นผลมาจากการ บ่มเพาะของ ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ การมาเรียนที่นี่จะทำให้ความสำเร็จของคุณง่ายขึ้น เพราะมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางให้เรา ทำให้การสร้างแบรนด์ที่เริ่มต้นจากศูนย์นั้นเป็นไปได้ และไม่ได้ยากจนเกินไป
วงการดีไซน์ในปัจจุบันให้ความสำคัญสูงสุดกับการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์และความหลากหลายที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ยังมีกระแสความต้องการใหม่ๆ และ เทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน ทำให้นักออกแบบต้องปรับตัวและ พัฒนาตนเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของโลกสมัยใหม่ได้อย่างไม่ตกเทรนด์”
ณัฐวุฒิ เตียวต่อสกุล (ก็อต) ศิษย์เก่าสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ รุ่นที่ 18 ผู้ชนะการประกวดออกแบบผลิตภัณฑ์กับ SCG และ เจ้าของ Studio TEAL Industrial & Product Design และแบรนด์ I.divert เล่าว่า “ผมได้รับโอกาสดีๆ มากมายจากการประกวดงานออกแบบ ประสบการณ์ตรงคือช่วงปีสองของการเรียนในสมัยที่ผมเรียนนั้น อาจารย์จะให้ส่งงานประกวดการออกแบบผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพลาสติก ซึ่งก็เป็นนับเป็นการบ้าน ที่อาจารย์จะคอยให้คำแนะนำในการเข้าส่งงานในคลาสเรียน จากการที่ได้คำแนะนำและทำงานนอกเหนือจากคนอื่นๆ ในห้อง จึงได้มีโอกาสฟังคำแนะนำและมุมมองของอาจารย์ได้มากยิ่งขึ้น จึงคิดว่าเหตุการณ์นั้นคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ทำให้เราต่อยอดธุรกิจได้จนถึงปัจจุบัน
วงการดีไซน์ในปัจจุบันผู้คนให้ความสำคัญมากกว่าสมัยก่อนมาก การทำธุรกิจในยุคสมัยนี้ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ความสวยงาม และสิ่งแปลกใหม่ ไม่ใช่แค่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว ประกอบกับการมีเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดทำให้นักออกแบบสามารถสื่อสารความเป็นตัวตนให้ผู้คนรับรู้ได้อย่างง่าย นี่จึงเป็นโอกาสสำหรับนักออกแบบ และวงการดีไซน์อย่างมีนัยสำคัญ ฝากถึงผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์ว่า งานออกแบบไม่ใช่แค่สวยไม่สวย แต่ต้องมองให้รอบด้านทั้งวัสดุ โครงสร้าง การใช้งาน ต้นทุนและอื่นๆ”
ธารารัตน์ สิทธิวันชัย (ทอฟฟี่) ศิษย์เก่าสาขาออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ รุ่นที่ 16 ปัจจุบันเป็น Assistant Retail Manager ดูแลการตกแต่งของร้าน Samsung ทั้งหมดในประเทศไทย เผยว่า “ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความคิด ความฝันที่จะเป็นนักออกแบบ อยากเปลี่ยนสายอาชีพ หรือนักออกแบบที่อยากมีช่องทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ ที่ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด ที่นี่เปรียบเสมือนประตูที่ก้าวเข้าสู่โลกของการดีไซน์ มีหลักสูตรการเรียนแค่ 2 ปี และยังสามารถเรียนต่างประเทศอีก 2 ปี ได้วุฒิปริญญาตรีมหาวิทยาลัยที่มีความร่วมมือด้วย ทั้งที่อังกฤษและอิตาลี ซึ่งตนก็ได้ทุนเรียนต่อที่ Elisava ที่ประเทศสเปน เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ Top Ten ของยุโรป ตรงตามเป้าหมายที่หวังไว้มาก พร้อมทั้งอาจารย์ยังสนับสนุนไม่ใช่แค่การเรียนในห้องเรียน แต่รวมไปถึงการประกวดอื่นๆ ด้วย ทำให้ตนมีผลงานเพิ่มขึ้น ซึ่งคิดว่าการที่จะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายของเรา ส่วนหนึ่งเพราะสิ่งที่ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ให้ บวกกับความพยายามของตัวผู้เรียน อีกทั้งได้เปลี่ยนสายอาชีพและสามารถเข้าทำงานด้านดีไซน์ได้ เรียกได้ว่าสานฝันการเป็นดีไซเนอร์อย่างแท้จริง”
สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาด้านการออกแบบ ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ เปิดสอน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรการออกแบบแฟชั่น (Fashion Design) และหลักสูตรออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Interior & Product Design) สอนโดยอาจารย์ต่างชาติผู้คร่ำหวอดในวงการออกแบบระดับโลก กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ สามารถเข้าร่วมงาน Open House ได้ฟรี เพื่อฟังการแนะนำหลักสูตร พร้อมชมผลงานนักศึกษา และพูดคุยกับศิษย์เก่าที่สร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความพร้อมเข้าสู่วงการนักออกแบบ ในวันที่ 9 และ 22 กรกฎาคม, วันที่ 6 และ 19 สิงหาคม, วันที่ 3,17 และ วันที่ 24 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ www.chanapatana.com/th/open-house, โทร 081-432-8555, ไลน์แอด: @cidichanapatana หรือ https://lin.ee/4AoRhnQ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.chanapatana.com และ www.facebook.com/Chanapatana
account_circle LINE OpenChat ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ “Live talk” ดันประสบการณ์ “เปิดห้องพูดคุยด้วยเสียง” รองรับสูงสุด 10,000 คน A group of people running Description automatically generated
LINE OpenChat ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด “Live talk” (ไลฟ์ ทอล์ก) ให้สามารถสร้างห้องสนทนาได้ด้วยเสียงแบบเรียลไทม์บนคอมมูนิตี้ออนไลน์ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้ในไทยกว่า 17 ล้านคน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ทอล์กได้ทุกวัน ฟังมันส์ทุกห้อง” โดยแอดมินหลักหรือแอดมินร่วมสามารถสร้าง Live talk เพื่อให้สมาชิกในห้อง OpenChat กดเข้าร่วมฟังและร่วมพูดคุยได้ทุกที่ทุกเวลา รองรับได้สูงสุดห้องทอล์กละ 10,000 คน เพิ่มมิติใหม่กับประสบการณ์ #เปิดตัวเองในพื้นที่สำหรับคุณ ให้แลกเปลี่ยนความชอบและความสนใจของตัวเองอย่างสนุกและมีอรรถรสมากกว่าที่เคยได้แล้ววันนี้ ครอบคลุมทั้งด้านสาระความรู้ การศึกษา การเงินการลงทุน ข่าวสาร ท่องเที่ยว และความบันเทิง ให้เลือกฟังมากมาย
สนุกกับ Live talk ได้ง่ายๆ
เข้าห้อง LINE OpenChat ที่สนใจ กดปุ่ม Join ที่มุมขวาของห้องแชทเพื่อเข้าร่วม Live talk หรือจะกดผ่านข้อความแจ้งเตือน Live talk ที่แอดมินส่งมาในห้องแชท กดปุ่มอิโมจิ เพื่อ React ใน Live talk โดยรูปนั้นจะปรากฏขึ้นบนรูปผู้กด กดปุ่มยกมือ เมื่อต้องการเป็นผู้พูด (บางห้องอาจต้องรอให้แอดมินอนุมัติผู้พูดก่อน)
ฟีเจอร์ Live talk บน LINE OpenChat มีอะไรน่าสนใจบ้าง?
แอดมินและแอดมินร่วมสร้าง Live talk ได้ในไม่กี่ขั้นตอน
LINE OpenChat มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและขยายฟังก์ชันบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ใช้ได้ใช้งานที่เป็นประโยชน์ สะดวก ง่ายดาย ทั้งยังดำเนินการภายใต้แนวทางการสร้างสภาพแวดล้อมการสื่อสารที่ปลอดภัย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://lin.ee/19CZpWC/btdv
วิดีโอวิธีใช้งาน Live talk
account_circle จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจสปามากว่า 20 ปีของDivana จนต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ความงามหลากหลายรูปแบบ จนเมื่อสองปีที่ผ่านมาเราก็ได้เห็น Divana Thai Med เกิดขึ้น ทำให้ สุดสัปดาห์ อยากรู้ที่มาที่ไปว่าจากธุรกิจสปา บิวตี้โปรดักส์ พัฒนาไปบรรจบกับศาสตร์แพทย์แผนไทยได้อย่างไร
หลังจากได้พูดคุยกับ คุณโรส – อภิรดี หิรัญรามเดช ผู้บริหาร Divana Thai Med เพื่อหาคำตอบในประเด็นนี้ ทำให้เราได้เห็นแนวโน้มปัญหาสุขภาพของคนยุคนี้ ได้รู้ว่าแพทย์แผนไทยนั้นใกล้ตัวกว่าที่คิด และเมื่อนำมาปลั๊กอินกับธุรกิจเวลเนสแอนด์สปาจะกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังทำให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงศาสตร์นี้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย
รู้จัก Divana Thai Med
“จริงๆ แล้วDivana มีประสบการณ์การทำสปามามากกว่า 22 ปี แต่ในช่วงโควิดเราพบว่าลูกค้ามีปัญหาออฟฟิศซินโดรมเยอะขึ้น อาจเป็นเพราะช่วง Work From Home ทำให้ชีวิตของบางคนเสียสมดุล ทำงานกันตั้งแต่ตื่นยันนอน บางคนเป็นไมเกรน บางคนนอนไม่หลับ เพราะทำงานลากยาวถึงกลางคืนแล้วมีความเครียดต่อเนื่องจนถึงดึก ซึ่งเรามองว่าอาการเหล่านี้ศาสตร์ของการแพทย์แผนไทยสามารถช่วยได้ เป็นการบำบัดแบบที่ไม่ได้กดภูมิแต่เป็นการช่วยให้ร่างกายค่อยๆ ปรับสมดุล เพราะฉะนั้นการเปิดDivana Thai Medจึงเป็นการต่อยอดจากธุรกิจที่เรามีอยู่เดิมให้แข็งแรงและตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
“จุดต่างของเราคือความรู้สึกที่ผ่อนคลายกว่า เพราะแม้ในปัจจุบันหลายโรงพยาบาลมีแผนกแพทย์แผนไทย แต่สำหรับบางคนการไปโรงพยาบาลหรือคลินิกจะรู้สึกเหมือนไปรักษา แต่ด้วยความที่เราทำธุรกิจสปามา 20 กว่าปีจะสามารถสร้างประสบการณ์ที่รีแล็กซ์กว่าในขณะที่ก็ช่วยแก้ปัญหาเขาได้ด้วย เช่น หลังจากทำทรีตเมนต์สบายๆ จะมีช่วงให้พบแพทย์แผนไทยพื่อกดจุดแก้ปัญหากล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ตึงประมาณ 30 นาที ซึ่งโรสมองว่ามันทำให้เกิดสุนทรียะเวลามาหาคุณหมอนะ ลูกค้าจะรู้สึกว่าฉันมาแล้วรู้สึกสบายตัวจังเลยเดี๋ยวอาทิตย์หน้าฉันมาใหม่นะ เหมือนมีแรงจูงใจที่ดีในการมาดูแลรักษาตัวเองอย่างต่อเนื่อง”
3 ปัญหาสุขภาพเรื้อรังของคนเมือง
จากการดูแลลูกค้าทำให้ทางดิวาน่าไทยเมดพบว่าปัจจุบันคนเมืองจำนวนมากมีปัญหาสุขภาพจากความเครียด ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงและลามไปยังระบบย่อยอาหาร ซึ่งสะท้อนให้เห็นผ่านคอร์สยอดนิยมสามอันดับแรก
“คอบ่าไหล่ตึง เมื่อก่อนเราคิดว่าปัญหานี้น่าจะเกิดกับผู้ชายเยอะ แต่กลับพบว่าผู้หญิงก็เป็นเยอะค่ะ เพราะพฤติกรรมของผู้หญิงรุ่นใหม่เป็นผู้หญิงทำงาน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เจอคือนั่งทำงานนาน สะพายกระเป๋าหนัก ถือโน๊ตบุ๊ก นั่งไขว่ห้าง อาการเหล่านี้มันเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดการตึงตัวของกล้ามเนื้อ เพราะฉะนั้นก็ทำให้เกิดปัญหาปวดคอบ่าไหล่ตามมา
“อาหารไม่ย่อย คือการรับประทานอาหารเข้าไปแล้วรู้สึกมีลม ซึ่งศาสตร์แพทย์แผนไทยรักษาได้โดยการนวดกดจุดบริเวณช่องท้องและเผายาซึ่งให้ความอุ่นจากสมุนไพรมาช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของลมในท้อง อาการลมคั่งค้าง ท้องอืด อาหารไม่ย่อยก็จะดีขึ้น ผลพลอยได้อีกอย่างหนึ่งคือช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ซึ่งก็สอดคล้องกับโปรแกรมยอดนิยมอันดับหนึ่งและสองของเราคือ Muscle Release & Colon Detox ซึ่งคนไข้ชอบมากเพราะเขามีความรู้สึกว่าสบายท้องแล้วก็ได้คลายกล้ามเนื้อที่คอบ่าไหล่ด้วย และโปรแกรม Deep Sleep ที่ช่วยเรื่องการนอนหลับซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง
“ปัญหาผิวจากมลภาวะ ในช่วงหลังมานี้เรามีปัญหา PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง ในบางคนที่ผิวคอนข้างเซ้นซิทีฟก็จะเกิดการระคายเคืองได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น ผื่นขึ้น หรือผิวแห้งกว่าปกติ ทางดีวานาไทยเมดก็เลยออกแบบโปรแกรมที่ให้คุณหมอนวดกดจุดให้ผิวหน้าขับของเสียออกมา รวมถึงใช้อุปกรณ์ที่เป็นเทคโนโลยีเข้ามาเสริมเพื่อช่วยขจัดไอฝุ่น PM 2.5 ที่มันเกาะผิวหน้าและทำให้เกิดการระคายเคือง แล้วตามด้วย Oxygen Dome เพราะว่าคนปัจจุบันมีปัญหาในเรื่องของการสูดออกซิเจนน้อย เพราะเวลาเครียดคนเรามักจะกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้หากเราได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญดี ผิวพรรณดี และลดการอักเสบที่ผิวด้วย”
จุดร่วมของศาสตร์ด้านสุขภาพของฝั่งตะวันตกและตะวันออก
ทุกประเทศต่างก็มีภูมิปัญญาของตัวเอง อย่างศาสตร์แพทย์แผนจีน ศาสตร์อายุรเวทของอินเดีย ศาสตร์แพทย์แผนไทย และเวชศาสตร์ชะลอวัยของฝั่งตะวันตก ซึ่งหลังจากศึกษาด้านนี้อย่างจริงจัง คุณโรสพบว่าเป้าหมายของศาสตร์ทั้งสองฝั่งคือสิ่งเดียวกัน นั่นคือการดูแลสมดุลของร่างกาย เพียงแต่ว่าวิธีการที่จะไปสู่เป้าหมายนั้นมีกระบวนการที่ต่างกัน
“ศาสตร์ของฝั่งตะวันตกเขาจะมีเรื่องของ Nutrition ขณะที่แพทย์แผนไทยจะเน้นศึกษาธาตุที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งธาตุหลักจะติดตัวเรามาตั้งแต่ปฏิสนธิ เช่น โรคจากพันธุกรรม ส่วนธาตุรองนั้นสัมพันธ์กับช่วงเวลาที่เราเกิดว่าเป็นฤดูอะไร ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับโรคที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมตั้งแต่เราเกิด เขาสามารถคำนวณได้เทียบเคียงกับการตรวจยีนของทางฝรั่ง แต่แพทย์แผนไทยจะเป็นการเก็บสถิติ ฉะนั้นแพทย์แผนไทยจะพอคาดเดาได้ว่าโรคที่เป็นอยู่ในแต่ละบุคคลมีแนวโน้มเป็นอย่างไร แล้วก็ใช้วิธีการปรับสมดุลร่างกายเพื่อเลี่ยงการกระตุ้นรอยโรคเดิม ถือว่าเป็นการดูแลร่างกายแบบป้องกัน
“โรสมองว่าคนเราควรใส่ใจดูแลสุขภาพเพื่อจะได้ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล เป้าหมายสูงสุดของทางการแพทย์คือเรามีผู้ป่วยน้อยที่สุด เพราะฉะนั้นเราต้องให้ผู้ป่วยฟังเสียงร่างกายตัวเองก่อน อย่างเช่นวันนี้เรานอนน้อย ตื่นขึ้นมาร่างกายส่งสัญญาณแล้วว่าปวดหัว แสดงว่าหนึ่งขาดออกซิเจน สองร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่คนเรามักจะให้ความสำคัญกับชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าเลยเลือกที่จะทานยาแก้ปวดหัวแล้วก็ไปทำงานต่อทั้งวันแล้วก็นอนดึกเหมือนเดิม คือเลือกที่จะกดอาการปวดหัวแทนที่จะปรับพฤติกรรม ทั้งที่การฟังเสียงเล็กๆ จากร่างกายสามารถป้องกันการปวดไมเกรนในอนาคตได้
“จากเคสนี้เรามีวิธีอื่นที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้มากมาย เช่น คนอิตาเลี่ยนจะ quick nap 15 นาทีเพื่อช่วยบูสต์ให้ร่างกายเรามีเอเนอร์จี้กลับขึ้นมา ขณะที่การแพทย์แผนไทยจะให้ปรับสมดุลด้วยสมุนไพรบางตัวเพื่อเพิ่มเอเนอร์จี้ เช่น เวลาที่คนนอนน้อยร่างกายความร้อนในร่างกายจะเคลื่อนจากท้องขึ้นมาอยู่ที่แถวศีรษะ การดิ่มน้ำที่มีฤทธิ์เย็นต่างๆ เช่น น้ำใบบัวบก จะช่วยบรรเทาได้ แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่ดีที่สุดคือการนอนหลับค่ะ อย่างในโปรแกรมของเราจะมีช่วง quick nap พร้อมให้ได้รับออกซิเจน แล้วก็กลับไปปรับเวลานอนให้เร็วขึ้นหน่อยเพื่อชดเชยกับเวลานอนก่อนหน้านั้น”
แนวโน้มแพทย์แผนไทยหลังจากช่วงโควิด
“โรสคิดว่าคนให้ความสนใจเยอะขึ้นมาก เพราะทุกคนไม่อยากเข้าโรงพยาบาลถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เลยให้ความสำคัญกับการป้องกัน ทุกคนพยายามรักษาสุขภาพ กินวิตามินเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันตัวเองไม่ให้ป่วย
“ฉะนั้นทุกโรงพยาบาลในปัจจุบันจึงให้ความสำคัญกับทุกๆ ศาสตร์แพทย์ทางเลือก บางโรงพยาบาลถึงกับมีแพทย์แผนไทยกับแพทย์แผนปัจจุบันทำงานร่วมกัน แพทย์แผนปัจจุบันรักษาก่อน แล้วแพทย์แผนไทยมาฟื้นฟูต่อเพื่อช่วยให้อาการดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราฟังเสียงร่างกายอย่างที่โรสบอกไป อัตราการเข้าโรงพยาบาลของเราก็จะลดลง”
ทริคง่ายๆ จากแพทย์แผนไทยเพื่อป้องกันโรค
จากการพูดคุย เราสรุปทริคง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพตามแนวทางแพทย์แผนไทยได้ว่า
“แค่สามข้อนี้จบเลยค่ะ ยกตัวอย่างเพิ่มเติมจากตัวโรสเองนะคะ โรสจะฟังเสียงร่างกายตัวเองเสมอ ช่วงไหนที่รู้สึกว่ามีความร้อนในร่างกายสูง เช่น ตาแห้ง รู้สึกร่างกายร้อน กระหายน้ำตลอดเวลาจะกลับมาจัดระเบียบชีวิต โดยเบื้องต้นจะนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้เยอะขึ้น ควบคู่กับการทานสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ใบบัวบก ใบย่านาง เพื่อช่วยลดความร้อนของร่างกาย และอาจปรึกษาแพทย์แผนไทยเพื่อทำทรีตเมนต์ที่ช่วยขับความร้อนออกจากร่างกาย เช่น แช่น้ำสมุนไพรเบญจเกษร ที่สำคัญต้องปรับพฤติกรรมด้วย ไม่ใช่ว่ามาแช่น้ำสมุนไพรแล้วกลับบ้านไปทานของหวานอีก เนื่องจากของหวาน เค็ม มัน เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบซึ่งทำให้เกิดความร้อนในร่างกายตามมา” คุณโรสย้ำทิ้งท้าย
ขอบคุณ ดิวาน่า ไทย เมด
Text : Nicharee W.
Images: ดิวาน่า ไทย เมด
#Sudsapda #BeautTalk
CELEBRATING CHANTECAILLE 25 YEAR
L’Oréal Professionnel จัดงานใหญ่เปิดตัวผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมสูตรใหม่ของ iNOA
KANEBO BRIGHT FUTURE BOX อายแชโดว์ใหม่ เปล่งประกายจับตา!
Dyson Airstrait เครื่องหนีบผมไร้แผ่นให้ความร้อน ล่าสุดจาก Dyson
ส่อง เทคนิคทำผมหน้าม้าซีทรู จาก Kim Sunwoo แฮร์สไตลิสต์ของเหล่าไอดอลเกาหลี
แนะนำ 3 ลิปบาล์มใช้ดีมาก ปากนุ่ม ไม่ลอก ไม่เป็นคราบ ราคาเอื้อมถึง
