นอกจากสุดสัปดาห์จะมีโอกาสได้ไปพูดคุยกับยุนจงอูและเจย์ สองหนุ่มจากรายการ Boys Planet แล้ว ในงาน 2023 K-POP ROOKIES FESTA in BANGKOK ยังมีเด็กฝึกหัดจากรายการ Boys Planet คนอื่นๆ อีก หนึ่งในนั้นก็ 4 หนุ่มแก๊ง REDSTART BOYS จากค่าย Redstart ENM อย่างคิมมินซอง กึมจุนฮยอน ฮงกอนฮี และชเวอูจินด้วย ซึ่งแต่ละคนเก่งกันมาก ตอนแข่งขันในรายการ Boys Planet ก็ต่างสร้างเพอร์ฟอร์แมนซ์ดีๆ ไว้
งานนี้หนุ่มๆ เดินทางมาไทยทั้งที สุดสัปดาห์ก็ไม่พลาดที่จะไปพูดคุยกับพวกเรา REDSTART BOYS ถึงเรื่องราวในรายการ Boys Planet ซึ่ง 4 หนุ่มก็แอบแย้มเรื่องราวที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนให้เราฟัง ไหนจะได้คุยกันถึงจุดเริ่มต้นของความฝันอยากเป็นไอดอล ชีวิตการเป็นเด็กฝึกหัด ความสัมพันธ์ในทีม ไปจนถึงการเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งพวกเขาบอกว่าประเทศไทยเป็นตารางงานในต่างประเทศที่แรกเลย
ขอบอกเลยว่า 4 หนุ่มน่ารักมาก สดใส และเป็นกันเองสุดๆ ทำให้บรรยากาศการพูดคุยออกมาสบายๆ และสนุกมากๆ แม้เราจะคุยกันยาวสุดๆ ก็ตาม ไหนๆ ก็เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว ไปพบกับบทสัมภาษณ์พิเศษของหนุ่มๆ REDSTART BOYS จากสุดสัปดาห์เลยค่า
REDSTART BOYS เปิดเผยความฝันวัยเด็ก พร้อมเรื่องราวใน Boys Planet
ขอให้แต่ละคนแนะนำตัวเองหน่อยค่ะ
ทุกคน : สวัสดีครับ พวกเรา “REDSTART BOYS” ครับ
คิมมินซอง : สวัสดีครับ ผมพี่ใหญ่ “คิมมินซอง” ครับ
กึมจุนฮยอน : สวัสดีครับ ผม “กึมจุนฮยอน” รับหน้าที่เป็นวิชวลครับ
คิมมินซอง : อันนี้เขาพูดเองนะครับ (หัวเราะ)
ฮงกอนฮี : สวัสดีครับ ผมเป็นพี่คนที่สาม “ฮงกอนฮี” ครับ
ชเวอูจิน : สวัสดีครับ ผมน้องเล็ก “ชเวอูจิน” ครับ
คิดว่า 3 เสน่ห์ของตัวเองคืออะไรคะ
ชเวอูจิน : เสน่ห์ข้อแรกของผมคือเป็นอายุน้อยที่สุดครับ ส่วนเสน่ห์ที่สองคือสีตาสวยครับ และความน่ารักครับ
คิมมินซอง : เสน่ห์ข้อแรกของผมคือผมสีแดงครับ และผมก็มีความสามารถด้านอะโครบาติกครับ ผมสามารถกระโดดบนอากาศได้ และผมคิดว่าตัวเองเต้นเก่งนิดนึงครับ รวมถึงความมั่นใจก็เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของผมครับ
กึมจุนฮยอน : เสน่ห์ข้อแรกของผมคือผมเป็นคนน่ารักครับ ส่วนเสน่ห์ที่สองคือผมหล่อครับ และเสน่ห์ข้อสุดท้ายผมคิดว่าผมร้องเพลงเพราะครับ
ฮงกอนฮี : เสน่ห์ของผมคือผมมีส่วนสูงเกือบ 190 เซนติเมตรครับ แล้วผมเพิ่งมารู้ตอนนี้ว่าผมมีดอลลี่อายค่อนข้างหนาครับ และคิดว่าตัวเองเต้นเก่งแม้มีรูปร่างที่สูงครับ ขอแถมอีกข้อครับ ผมคิดว่าตัวเองเสียงดีด้วยครับ
ขอ 3 พยางค์ที่นิยามความเป็นตัวเอง
กึมจุนฮยอน : ผมน่ารักที่สุดในจักรวาลครับ (เป็นคำย่อในภาษาเกาหลี 3 พยางค์)
ฮงกอนฮี : ผมสูงมากครับ
คิมมินซอง : โคชูจัง (เป็นซอสพริกเกาหลี)
ชเวอูจิน : น้องเล็กสุดครับ
ขอย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเด็ก แต่ละคนตอนเด็กเป็นสไตล์ไหน
คิมมินซอง : ผมเป็นเด็กที่สดใสมากๆ ครับ เป็นคนขี้เล่นมาก และเป็นคนที่เสียงดัง พูดมาก บนกระดานที่จะมีจดชื่อคนคุยก็จะมีชื่อผมอยู่ตลอดเลยครับ แต่พอโตมาได้ใช้ชีวิตและได้ทำงาน ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่เงียบลงและสงบลงครับ
กึมจุนฮยอน : ตอนเด็กๆ ผมเหมือนกับตอนนี้เลยครับ เป็นคนที่สดใสมากๆ แต่ผมได้เป็นหัวหน้าห้องตลอดเลยครับ เพื่อนในห้องจะพูดตลอดว่าหัวหน้าห้องก็ต้องเป็นกึมจุนฮยอนสิ และผมเป็นคนดังในโรงเรียนครับ
ฮงกอนฮี : ตอนเด็กๆ ผมเป็นตัวเล็กครับ และเป็นคนไม่ค่อยตลกกว่าตอนนี้เยอะเลยครับ แต่เป็นเด็กที่ชอบเล่นกับเพื่อน จำได้ว่ามีเพื่อนเยอะมากครับ
ชเวอูจิน : ผมเป็นเด็กที่ตื่นนอนแค่ตอนพักกินข้าวกลางวันครับ
อยากรู้แต่ละคนฝันอยากเป็นนักร้องตั้งแต่เด็กไหม จริงๆ แล้วตอนเด็กฝันอยากเป็นอะไรและจุดเริ่มต้นที่ทำให้เริ่มอยากเป็นไอดอลมาจากอะไร
คิมมินซอง : ตอนเด็กๆ ผมเป็นนักกีฬาเทควันโดครับ จนกระทั่งตอนม.4 ผมได้เรียนเต้นครับ แล้วตอนนั้นมีคนติดต่อให้ผมไปร่วมรายการออดิชั่นของเกาหลีครับ พอผมได้ออกรายการ ความฝันในการไอดอลก็เริ่มขึ้นตอนนั้นเลยครับ
กึมจุนฮยอน : เดิมทีผมฝันอยากจะเป็นนักแสดงครับ ถ้าผมไม่ได้เป็นไอดอล ตอนนี้ผมอาจจะถ่ายละครวัยรุ่นของประเทศไทยอยู่ก็ได้ครับ
ฮงกอนฮี : ผมไม่ได้มีความฝันแค่อย่างเดียวครับ ก่อนหน้าที่จะมีความฝันอยากเป็นไอดอล ผมเคยอยากเป็นตำรวจ และเคยอยากเป็นหมอด้วย ด้วยความที่ผมชอบเคป๊อปและชอบเต้นอยู่แล้ว ผมก็เลยเริ่มอยากเป็นไอดอลตอนม.5 ครับ
ชเวอูจิน : ผมมีความฝันอยากเป็นไอดอลมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ เพราะทุกครั้งที่ตื่นนอนผมจะได้ยินพ่อแม่เปิดเพลงเคป๊อปอยู่ตลอด ตอนนั้นเวลาผมฟังเพลง ผมจำได้ว่าผมก็จะเต้นตามเพลงอย่างสนุกมากๆ ผมเลยคิดว่าตัวเองน่าจะอยากเป็นไอดอลมาตั้งแต่ตอนนั้นครับ
กึมจุนฮยอน : ตอนนั้นมีเปิดเพลงเคป๊อปเพลงไหนที่นึกออกมั้ยครับ
ชเวอูจิน : เพลง “Catallena” ของรุ่นพี่ Orange Caramel ครับ
เส้นทางการเข้ามาเป็นเด็กฝึกของแต่ละคนเริ่มต้นยังไงคะ
คิมมินซอง : อย่างที่ผมบอกไปเมื่อสักครู่นะครับ ผมเริ่มจากการไปร่วมรายการออดิชั่นหาไอดอล หลังจากรายการจบลง ก็มีคนที่บริษัท Redstart ENM ติดต่อมากครับเลยได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกหัด ซึ่งที่นี่เป็นบริษัทแรกครับ
กึมจุนฮยอน : เมื่อก่อนผมเรียนเต้นอย่างเดียวครับ ซึ่งคนที่เรียนเต้นด้วยกันจะเรียนร้องเพลงกันด้วย ผมเลยเริ่มเรียนร้องเพลงครับ ซึ่งพอได้เรียนแล้วผมรู้สึกว่าการร้องเพลงสนุกกว่าการเต้นและการแสดงครับ เพื่อเลยเริ่มฝันอยากเป็นไอดอล และเริ่มเข้ามาเป็นเด็กฝึกหัดครับ
ฮงกอนฮี : ระหว่างที่ผมเดินกลับมาหลังเลิกเรียน ผมได้รับใบปลิวโรงเรียนสอนเต้น ผมเลยรู้สึกสนใจไปเรียน ซึ่งระหว่างเรียนเต้นอย่างตั้งใจอยู่ก็มีค่ายเพลงติดต่อมา ผมเลยได้มาเป็นเด็กฝึกหัดครับ
ชเวอูจิน : สมัยช่วงป.6 ผมไม่ได้สนใจเรื่องจะมาเป็นเด็กฝึกหัดเลย แต่สักประมาณช่วงม.1 คุณพ่อคุณแม่ก็บอกผมว่าไหนๆ ก็ชอบเต้นแล้วไปเรียนเต้นดีมั้ย ซึ่งพอผมไปเรียนเต้น เจ้าของสถาบันสอนเต้นก็บอกกับผมว่าลองไปออดิชั่นดูมั้ย ผมก็เลยไปแล้วก็ได้มาเป็นเด็กฝึกหัดครับ
ก่อนเข้าแข่งขันในรายการ Boys Planet มีการเตรียมตัวยังไงบ้าง
คิมมินซอง : ก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ ทางค่ายไปส่งพวกเราไปเรียนเต้นที่อเมริกาครับ ระหว่างเรียนเต้นอยู่ก็เริ่มเตรียมตัวมาแข่งขันในรายการเลยครับ เพราะรู้ว่าจะได้มาออกรายการ Boys Planet ก็เลยถ่ายคลิปสมัครจากที่อเมริกาเลย เริ่มมีการเตรียมตัวเลือกเพลงที่จะไปออดิชั่นและเริ่มฝึกซ้อมครับ
สเตจเพลง “NUNU NANA” ในรายการ Boys Planet ได้รับผลตอบรับดี อยากรู้ตอนฝึกซ้อมเพลงนี้ยังไงบ้าง
ฮงกอนฮี : ตอนที่พวกเราตัดสินใจโชว์เพลง “NUNU NANA” กัน ก็มีการเปลี่ยนทั้งตัวเพลงและท่าเต้นจากต้นฉบับครับ เลยมีการฝึกซ้อมกันค่อนข้างเยอะ โดยพวกเราฝึกซ้อมกันอยู่ประมาณ 3 อาทิตย์ครับ
กึมจุนฮยอน : ตอนฝึกซ้อมก็มีเรื่องราวสนุกๆ เกิดขึ้น เพราะว่าในเนื้อเพลงจะมีคำว่า “Gimme sound gimme sound” อยู่ครับ แล้วเสียงเหมือนคำว่า “คิมมินซอง คิมมินซอง” ครับ
ตอนเข้าไปถ่ายทำรายการ Boys Planet วันแรกตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง
กึมจุนฮยอน : มีคนที่เป็นกำลังใจให้กับผมตั้งแต่ตอนเป็นเด็กฝึกหัด และยังมีคนที่จะได้เห็นผมครั้งแรกในรายการนี้ด้วย ผมก็เลยคิดว่าอยากจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าที่ผมมีความมั่นใจไม่ได้มั่นใจแบบไม่มีสาเหตุนะ ผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าผมมีดีจริงๆ
แล้วตอนที่ได้ขึ้นเวทีต่อหน้าผู้ชมครั้งแรก ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง
ชเวอูจิน : ตอนนั้นผมจะตื่นเต้นมากจนรู้สึกจะเป็นลมเลยครับ ตอนที่ผมใส่อินเอียร์อยู่หลังเวที ผมไม่รู้ว่าที่ตัวเองตัวสั่นเป็นเพราะผมหนาวหรือตื่นเต้นกันแน่ครับ ผมตื่นเต้นขนาดนั้นเลยครับ แล้วพอทีมงานบอกว่าขึ้นแสดงได้เลยครับ พอขึ้นไปบนเวทีปุ๊บ ผมรู้สึกว่าใจผมเต้นแรงมากๆ แบบตึกๆๆๆ แล้วข้างๆ ผมก็มีเด็กฝึกคนอื่นนั่งอยู่ ผมก็คิดเลยว่าถ้าผมทำพลาดขึ้นมาจะทำยังไงดี ตอนนั้นผมจำได้ว่าตื่นเต้นมากครับ
มีได้มอนิเตอร์ดูตัวเองในรายการและในคลิปต่างๆ ที่ปล่อยออกมามั้ยคะ
คิมมินซอง : มีได้มอนิเตอร์ดูตัวเองครับ พอมีคลิปของตัวเองปล่อยออกมา ผมรู้สึกว่าน่าทึ่งมากๆ เพราะไม่คุ้นเคยที่เห็นตัวเองในคลิปหรือในรายการ แล้วพอได้ดูก็รู้สึกว่ามีบางจุดที่รู้สึกเสียดายครับ มีคิดว่าตัวเองน่าจะทำได้ดีกว่านี้ เห็นจุดที่ต้องปรับ ซึ่งเป็นจุดที่เห็นได้ชัดจากการมอนิเตอร์ตัวเองครับ แล้วก็คิดว่าครั้งหน้าต้องทำให้ดีขึ้นครับ
เบื้องหลังในรายการ Boys Planet อะไรที่แฟนๆ ไม่รู้ไหม เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ
ฮงกอนฮี : ผมจำได้ว่าตอนที่พวกเราถ่ายทำตอนที่ 1 ตอนการประเมินครั้งแรกรอบค่ายเป็นช่วงฤดูหนาวครับ แล้วในเซ็ตการถ่ายทำหนาวมาก ใต้ที่นั่งของเด็กฝึกหัดทุกคนจะมีฮ็อตแพ็กกันหมด หรือว่าติดฮ็อตแพ็กไว้ในเสื้อผ้ากันครับ
กึมจุนฮยอน : ตอนที่ถ่ายทำรายการ Boys Planet กันอยู่ พวกเราจะใช้โทรศัพท์กันไม่ได้ครับ ตอนนั้นสิ่งที่พวกเราจะได้รับก็คือจดหมายจากแฟนๆ ทุกคนก็จะนั่งจดหมายบนเตียงกันเหมือนนั่งอ่านหนังสือเลยครับ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่เด็กฝึกหัดในรายการ Boys Planet ทุกคนได้รับรู้ความรักจากแฟนคลับ ซึ่งรู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่น่าประทับใจกันมากๆ ครับ
ช่วงที่มีความสุขที่สุดในรายการ Boys Planet
คิมมินซอง : ตอนที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีครับ
ช่วงเวลาไหนในรายการ Boys Planet ที่ยากลำบากที่สุด
ชเวอูจิน : ตอนซ้อมครับ เพราะว่าตอนซ้อมพวกเราซ้อมกันแบบอดหลับอดนอนแบบข้ามวันข้ามคืนเลยครับ เลยเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดครับ
พอมีช่วงที่กดดัน เครียด คุณมีวิธีปลุกพลังตัวเองยังไง และช่วยกันปลุกพลังเพื่อนยังไงบ้าง
กึมจุนฮยอน : ผมเป็นคนไม่ค่อยมีช่วงเวลาที่รู้สึกกดดันหรือเครียดครับ ผมเลยไม่แน่ใจว่าผมผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ยังไงครับ ส่วนเวลาเห็นเพื่อนกำลังลำบาก ผมจะพูดอะไรซึ้งๆ ครับ ปกติผมจะชอบแกล้งอูจินครับ แต่เวลาเห็นเขากำลังลำบากหรือกำลังซ้อมอย่างหนัก ผมก็จะไปพูดคำดีๆ ให้เขา เช่น อูจินนายเหนื่อยมากเลยใช่มั้ย จริงๆ แล้วที่ผมพูด ผมโกหกครับ (มีแอบแกล้งน้องไปอีกหนึ่ง 5555+)
มีโมเมนต์ไหนที่จดจำได้เกี่ยวกับมาสเตอร์ที่มาสอนทุกคนในรายการมั้ยคะ
กึมจุนฮยอน : มีโมเมนต์หนึ่งที่ผมจำได้ครับ ตอนที่ผมเตรียมการแสดงเพลง “Gang” ตอนแรกกางเกงที่ผมใส่เป็นขาสั้นครับ ตอนที่ผมเต้นในรอบซ้อม ผมยังดูเต้นไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ แล้วมาสเตอร์ลิปเจก็มาบอกผมว่าจุนฮยอนลองใส่กางเกงขายาวดูมั้ย แล้วพอถึงตอนแสดงจริงผมก็เปลี่ยนเป็นใส่กางเกงขายาวครับ ซึ่งพอมาดูตอนรายการออนแอร์ ผมก็ได้รับฟีดแบ็กว่าโชว์ได้ดีมาก ผมก็เลยได้รู้ว่าเพราะผมใส่กางเกงสั้นก็เลยทำให้เต้นออกมาไม่ดีสินะ
แล้วมีตอนเจอมาสเตอร์คนไหนที่เจอแล้วรู้สึกทึ่ง
กึมจุนฮยอน : ส่วนตัวผมทึ่งกับมาสเตอร์ชเวยองจุนครับ ผมได้เรียนเต้นกับมาสเตอร์ชเวยองจุนตอนแสดงเพลง “En Garde” ครับ แล้วตอนนั้นเขาพาพวกเราไปซ้อมที่ห้องซ้อมของ 1MILLION เลยครับ ตอนนั้นก็รู้สึกเลยว่า “โอ้! การเต้นของนักเต้นจริงๆ จะแตกต่างไปเลยสินะ” เพราะตอนแรกพวกเราได้แค่ซ้อมจากคลิปวิดีโออย่างเดียวครับเลยไม่รู้รายละเอียดของท่า แล้วแต่พอได้เรียนกับมาสเตอร์ที่นั่นแล้วเขาสอนดีเทลต่างๆ ของท่าเต้นให้ ก็เลยได้รู้สึกว่า “นี่สินะ นักเต้นที่แท้จริง”
ได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการเข้าแข่งขันใน Boys Planet
กึมจุนฮยอน : ผมได้เรียนรู้วิธีการแสดงสีหน้ายังไงให้ออกมาดูดีเวลาอยู่หน้ากล้องครับ
ฮงกอนฮี : แม้ว่าผมจะมีประสบการณ์ขึ้นเวทีไม่มากนัก แต่จากประสบการณ์ที่ได้ขึ้นเวทีในรายการมา ผมรู้สึกได้เลยจากการขึ้นเวทีในงานแฟนมีตติ้งเมื่อไม่นานมานี้หลังจากไม่ได้ขึ้นเวทีมานาน แต่ผมรู้สึกว่าผมมีความผ่อนคลายนิดนึงเวลาอยู่บนเวทีครับ อาจจะเพราะในงานแฟนมีตติ้งไม่มีกล้องถ่ายอยู่ด้วยก็จริง แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองชิล ผ่อนคลายขึ้น ผมสามารถมองแฟนคลับได้ พูดเล่นกับแฟนคลับได้ แฟนเซอร์วิสได้ และสนุกกับแฟนคลับได้
พวกคุณเคยตอบว่าโรลโมเดลคือใคร อยากรู้ว่าทำไมถึงยึดพวกเขาเป็นแบบอย่าง
ชเวอูจิน : โรลโมเดลของผมคือรุ่นพี่ Rain ครับ เหตุผลที่ผมยึดรุ่นพี่เป็นแบบอย่างเพราะว่าผมอยากเก่งในหลายๆ ด้านแบบรุ่นพี่ และอยากจะมีเสน่ห์แบบรุ่นพี่ Rain ครับ
คิมมินซอง : เหตุผลที่ผมเลือกรุ่นพี่ Zico เป็นโรลโมเดลเพราะว่าเวลารุ่นพี่อยู่บนเวทีจะมีไวบ์ในแบบที่ผมชอบครับ ตอนที่รุ่นพี่ทำกิจกรรมในนามวง Block B จะมีการแสดงสีหน้าแบบร้ายๆ หรือทัศนคติในการแสดง รวมถึงการแร็ป ผมสัมผัสได้ถึงไวบ์ที่แข็งแกร่ง ผมก็เลยอยากทำให้ได้แบบนั้น เลยยึดรุ่นพี่เป็นแบบอย่างครับ
กึมจุนฮยอน : เหตุผลที่ผมยึดรุ่นพี่แทยังเป็นโรลโมเดลเพราะว่าถึงแม้รุ่นพี่จะทำงานในวงการมานานแล้ว แต่ยังเป็นศิลปินที่ทำกิจกรรมโปรโมตอยู่ด้วยภาพลักษณ์ที่เท่มากๆ แล้วก็เป็นคนที่ทั้งเต้นเก่งและร้องเพลงดี ทำได้หลากหลาย แถมการร้องเพลงของรุ่นพี่ยังเป็นการร้องเพลงที่ไม่มีใครสามารถทำตามได้ ผมเองก็อยากจะร้องเพลงไปนานๆ และเป็นศิลปินที่เท่อยู่เสมอเหมือนรุ่นพี่แทยัง แล้วก็อยากร้องเพลงของตัวเองให้แฟนๆ ได้ฟังไปเรื่อยๆ ครับ
ฮงกอนฮี : เหตุผลที่ผมเลือกรุ่นพี่ SEVENTEEN เป็นโรลโมเดลเพราะว่าตั้งแต่อัลบั้มเดบิวต์ พวกเขาทำเพลงเอง ทั้งแต่งเนื้อเพลง แต่งเมโลดี้ และแต่งแร็ป รวมถึงยังมีส่วนร่วมกับการออกแบบท่าเต้นด้วย ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้มีอิมแพกสำหรับผมมาก ทั้งที่ตอนนั้นพวกเขาเป็นน้องใหม่ แต่พวกเขาสามารถทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่เป็นน้องใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำได้ ผมเลยคิดว่าถ้าในอนาคตผมมีวงของตัวเอง ผมก็อยากที่จะทำเพลงเองหรือออกแบบท่าเต้นเองครับ แล้วตอนนี้ผมก็มีทีมของตัวเองแล้ว ในอนาคตเมื่อผมเดบิวต์แล้ว ผมก็อยากจะลองครีเอททุกอย่างที่เกี่ยวกับการแสดงของพวกเราเช่นกันครับ
แล้วจนถึงตอนนี้แม้ว่ารุ่นพี่ SEVENTEEN จะเดบิวต์มาหลายปีแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงทำแบบเดิมเหมือนตอนเดบิวต์อยู่ ตัวผมเองก็อยากจะทำแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเซ็นสัญญาใหม่อีกกี่รอบ ผมก็อยากจะทำเพลงของตัวเองออกมาเหมือนเดิม
ตอนทั้ง 4 คนเจอกันครั้งแรก ใครที่สร้างความประทับใจไว้อิมแพกสำหรับคุณที่สุด
ฮงกอนฮี : สำหรับผมคือจุนฮยอนครับ เพราะตอนที่เจอกันครั้งแรกแล้วยังไม่รู้จักกัน พอผมได้เจอเขา อย่างแรกที่ผมคิดเลยคือคนเราสามารถสดใสได้ขนาดนี้เลยเหรอ และจุดที่สองที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจคือหลังจากเห็นภาพลักษณ์ที่สดใสของเขา แต่ตอนระหว่างที่พวกเราฝึกจะมีการประเมิน พอได้ฟังเขาร้องเพลง ก็รู้สึกว่าเขาร้องเพลงเก่งขนาดนี้เลยเหรอ ถึงแม้ว่าเราจะเคยเป็นเด็กฝึกด้วยกันในบริษัทเก่ามาก่อน แต่พูดจากใจเลยว่าพอได้มาเจอกันอีกรอบ ผมก็ยังรู้สึกทึ่งกับเขามากๆ ครับ
แชร์ความประทับใจที่มีต่อกันหน่อย
ชเวอูจิน : เมื่อไม่นานมานี้ที่หอพัก พวกพี่ๆ เผลอทิ้งรองเท้าจองผมโดยไม่ได้บอกขออนุญาตก่อนครับ แต่พอผมกลับมาจากฝึกซ้อมที่บริษัท ผมก็เห็นรองเท้าคู่ใหม่วางอยู่ครับ แล้วก็ซื้อเสื้อกับกางเกงให้ใหม่แบบครบชุดเลยครับ ผมเลยรู้สึกประทับใจมากครับ
กึมจุนฮยอน : แต่รองเท้าที่ทิ้งไปเป็นรองเท้าที่เก่าแล้วนะครับ
พอจบการแข่งขันพวกคุณได้รับความรักจากแฟนๆ มากมาย ได้มีแฟนมีตติ้งและยังได้มาไทย รู้สึกยังไงบ้างที่ได้รับความรักจากแฟนๆ มากมายขนาดนี้
ฮงกอนฮี : พวกเรามีโอกาสได้จัดแฟนมีตติ้งที่เกาหลี และยังมีโอกาสได้มาเมืองไทยอีก ซึ่งการมาเมืองไทยครั้งนี้ไม่ได้เป็นแฟนมีตติ้งของพวกเรา REDSTART BOYS อย่างเดียว แต่เป็นงาน K-POP ROOKIES FESTA ที่มีเพื่อนๆ จากรายการ Boys Planet ทั้งพี่จงอู พี่ฮวานฮี พี่ดงยอล และพี่เจย์ด้วย แน่นอนว่าเป็นงานที่พวกเราได้เจอแฟนคลับของพี่ๆ คนอื่นด้วย แต่ทุกคนก็สนุกไปกับการแสดงของพวกเรา ได้รับความรู้สึกที่แตกต่างไปจากที่เกาหลี เพราะแบบนี้ผมจึงรู้สึกขอบคุณแฟนๆ และคิดว่าอยากจะมีโอกาสได้มาจัดงานของพวกเราและมอบการแสดงดีๆ ให้แฟนชาวไทยได้ชมอีกครับ
ได้บินมาทำงานที่เมืองไทยเป็นยังไงบ้าง การเดินทางมาไทยครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยไหม
ฮงกอนฮี : ผมเคยมาเที่ยวประเทศไทยกับครอบครัวครับ ส่วนจุนฮยอน พี่มินซองและอูจินมาเมืองไทยครั้งแรกครับ
คิมมินซอง : ผมมาเมืองไทยครั้งแรกครับ และประเทศไทยก็เป็นการเดินทางมาทำงานในต่างประเทศที่แรกด้วยครับ จึงเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างมีความหมายครับ ทำให้ผมรู้สึกว่าตารางงานในต่างประเทศที่แรกของเราคือประเทศไทยสินะ
ได้ลองอาหารไทยอะไรบ้างแล้ว และชอบเมนูไหนที่สุด
คิมมินซอง : ไม่ได้ลองหลายเมนูมากครับ แต่ก็มีได้ลองกินอาหารมาไทยมาบ้างครับ
ฮงกอนฮี : เมนูที่ผมชอบที่สุดคือข้าวผัดครับ ข้าวผัดอร่อยมาก
กึมจุนฮยอน : เมนูที่ผมชอบที่สุดคือปูผัดผงกะหรี่ครับ
คิมมินซอง : เมนูที่ผมชอบที่สุดคือแตงโมปั่นครับ
ชเวอูจิน : เมนูที่ผมชอบที่สุดคือไก่ย่างครับ
มีอะไรที่อยากทำที่เมืองไทยมั้ยคะ
คิมมินซอง : ผมอยากไปทะเลครับ
กึมจุนฮยอน : ผมอยากไปดูสัตว์ตามธรรมชาติที่ไม่ใช่ในสวนสัตว์ครับ
ฮงกอนฮี : ผมอยากไปเข้าป่าครับ
ชเวอูจิน : ผมอยากไปถ่ายรูปครับ
พอได้มาไทยแล้วมีภาพอะไรที่เหมือนหรือแตกต่างจากที่คิดไว้บ้างมั้ยคะ
ฮงกอนฮี : เมื่อก่อนที่ผมมาเที่ยวประเทศไทยกับครอบครัว ผมจำได้ว่าตอนนั้นร้อนมากๆๆๆ ขนาดที่แม้จะใส่แขนสั้น แต่เหงื่อก็ยังท่วมตัวจนเสื้อเปียกเลย แต่พอมาครั้งนี้ไม่รู้ว่าเพราะมาทำงาน แล้วอยู่แต่ในร่มหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าอากาศไม่ได้ร้อนเท่าครั้งก่อน แล้วก็รู้สึกเย็นกว่าที่เกาหลีครับ และท้องฟ้าสวยมากครับ
เตรียมภาษาไทยอะไรมาบ้างคะ
กึมจุนฮยอน : “รักนะจุ๊บๆ” และ “ผมหล่อมั้ยครับ”
ฮงกอนฮี : “ทุกคนน่ารักมากครับ”
คิมมินซอง : “ผมรักคุณ”
ชเวอูจิน : “พี่สาวครับ”
มองภาพตัวเองในอนาคตบนเส้นทางศิลปินไว้ยังไงบ้างและมีอะไรที่อยากจะทำด้วยกันในอนาคต
คิมมินซอง : พวกเราจะมีกิจกรรมพรีเดบิวต์ภายในปีนี้ออกมาครับ ซึ่งหลังจากพรีเดบิวต์แล้วพวกเราก็อยากจะเดบิวต์อย่างเป็นทางการ เมื่อพวกเราเดบิวต์แล้วถ้ามีโอกาสสักครั้งหนึ่งอยากจะมาเมืองไทยอีกครับ อยากมาเจอแฟนคลับชาวไทย และอยากจะโชว์ภาพลักษณ์เท่ๆ และการแสดงดีๆ ให้ทุกคนได้ชมครับ
สุดท้ายนี้ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อยค่ะ
ฮงกอนฮี : สวัสดีครับแฟนๆ ชาวไทยทุกคน พวกเรา “REDSTART BOYS” นะครับ หลังจากจบแฟนมีตติ้ง ที่เกาหลี พวกเราก็ได้เดินทางมาประเทศไทยได้มาขึ้นคอนเสิร์ตในงาน K-POP ROOKIES FESTA และได้มาร่วมสัมภาษณ์กับสื่อไทยต่างๆ มากมาย ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับความสนใจมากมายที่มอบให้พวกเรา และครั้งหน้าพวกเราหวังว่าจะได้มาเจอกับทุกคนในงานที่เป็นงานของพวกเรา REDSTART และขอให้ทุกคนอดทนรออีกนิดนึงนะครับ พวกเราจะกลับมาพร้อมภาพลักษณ์เท่ๆ ครับ อยากให้ทุกคนรอติดตามพวกเราด้วยนะครับ ขอบคุณครับ รักนะครับ
กึมจุนฮยอน : ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะอากาศร้อนมาก แต่หวังว่าหลังจากที่ทุกคนได้ชมคลิปที่สดใสของพวกเรา REDSTART BOYS แล้วจะทำให้สดชื่นขึ้นมานะครับ รอพวกเราอีกแป๊บนึงนะครับ พวกเราจะกลับมาเมืองไทยอีกครั้งครับ
คิมมินซอง : ครั้งนี้พวกเราได้เดินทางมาประเทศไทยในนาม REDSTART BOYS ครั้งหน้าพวกเราจะเดินทางมาประเทศไทยมาเจอทุกคนพร้อมกับชื่อวงของพวกเราครับ และหวังว่าจะได้เจอกับทุกคนด้วยโชว์เท่ๆ ในสถานที่ที่เจ๋งกว่าเดิมนะครับ พวกเราจะตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนักครับ แล้วเดี๋ยวจะมีกิจกรรมพรีเดบิวต์ออกมาครับ ฝากทุกคนรอติดตามด้วยนะครับ และมอบความรักให้กับพวกเราด้วยนะครับ
ชเวอูจิน : ในอนาคตฝากทุกคนรอติดตามการเจริญเติบโตของพวกเรา และหวังว่าสักวันหนึ่งพวกเราจะมีโอกาสได้มาโชว์ที่ประเทศไทยอีกนะครับ ขอบคุณครับ
กึมจุนฮยอน : รักนะจุ๊บๆ
ฮงกอนฮี : ขอบคุณครับ
คิมมินซอง : ผมรักคุณ
.
.
TEXT : ImJinah
PHOTO : Naowapoj Photikaserm
.
.
.
อัพเดตข่าวบันเทิงเอเชีย ซีรี่ย์เอเชีย ดาราเอเชีย ไอดอลเอเชียได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
คิมแทฮีเปิดใจถึงการกลับมารับบทแม่อีกครั้งใน Lies Hidden in My Garden
สัมภาษณ์พิเศษ 4 นักแสดงจากซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง RACE ออริจินัลจาก Disney+ Hotstar
สัมภาษณ์พิเศษวง PSYCHIC FEVER วงน้องใหม่มาแรงจากญี่ปุ่น พกพาความดีงามเบอร์ล้าน
พูดคุยกับ วังจั๋วเฉิง (Wang Zhuocheng) นักแสดงจีนรุ่นใหม่สุดปัง มาพร้อมความดีงามมัดใจแฟนๆ
สัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ 5 สมาชิกรายการ Jinny’s Kitchen กับเรื่องลับๆ เบื้องหลังการถ่ายทำ!
Exclusive Interview : N.Flying แชร์ความทรงจำสุดประทับใจที่มีต่อ N.Fia ไทย และอาหารไทย!
สัมภาษณ์เอ็กซ์คลูซีฟคังแดเนียล แย้มแค่ได้เจอแฟนคลับชาวไทยก็หายเหนื่อย
สัมภาษณ์พิเศษ Lay Zhang สมาชิก EXO แชร์ความทรงจำเกี่ยวกับประเทศไทย!
บทสัมภาษณ์พิเศษชวนอมยิ้มของ นาอินอู พระเอกเกาหลีดาวรุ่ง ผู้ตกหลุมรักหมูกระทะ!
ชาอึนอูเล่าเบื้องหลังถ่ายปกสุดสัปดาห์ พร้อมสปอยล์งานแสดงเรื่องใหม่ในสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ!
WEi บอยแบนด์เกาหลีรุ่นใหม่ ที่พกพาความดีงามเบอร์ล้าน และดาเมจแรงกระแทกตาเบอร์สุด
สัมภาษณ์พิเศษสาวๆ (G)I-DLE เมาท์เมมเบอร์จัดเต็ม โชว์เคมีความซี้ปึ้ก แย้มเรื่องลับความสัมพันธ์ในวง!!!
อูกี & ชูฮวา สองสมาชิกแก๊งมักเน่ไลน์ (G)I-DLE ที่ต้องจากบ้านเกิดและครอบครัวมาทำงานในเกาหลี!