Cortina Watch เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ Shop.CortinaWatch.com รุกค้าปลีกออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ความพิถีพิถันคัดสรรเรือนเวลาหรู

Cortina Watch (คอร์ติน่า วอทช์) ผู้ค้าปลีก และตัวแทนจำหน่ายแบรนด์นาฬิกาหรูชั้นนำของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มค้าปลีกดิจิทัลใหม่ Shop.CortinaWatch.com ที่ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อนาฬิกาออนไลน์ที่นำความเห็นจากทุกด้านมาใช้พัฒนาอินเตอร์เฟซให้ง่ายต่อการใช้งาน ยกระดับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และความพิถีพิถันในการคัดเลือกแบรนด์ รวมถึงนาฬิกาที่คู่ควรด้วยความใส่ใจอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง พร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย โดยการสนับสนุนจากหลากหลายแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลก

Jeremy Lim (มร.เจเรมี่ ลิม) ประธานคณะกรรมการบริหารคอร์ติน่า วอทช์ จำกัด กล่าวว่า Shop.CortinaWatch.com ได้รับการพัฒนาโดย Shopify บริษัทอีคอมเมิร์ซระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการกำหนดโครงสร้างพื้นฐานระบบซื้อขายสินค้าออนไลน์ ศักยภาพด้านเทคโนโลยีระดับสูง และความสะดวกสบายในการใช้งาน เพื่อนำผู้ที่หลงใหลนาฬิกาทุกคนร่วมเดินทางสู่ความมหัศจรรย์ของโลกแห่งเรือนเวลา แพลตฟอร์มใหม่นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่ต้องการ รวมถึงมอบประสบการณ์ซื้อสินค้าออนไลน์ที่ไม่มีความซับซ้อน ปลอดภัย และสามารถเข้ามาเลือกซื้อสินค้าทางแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยความสบายใจทุกครั้ง

โดยความพิเศษของ Shop.CortinaWatch.com คือการคัดสรรแบรนด์นาฬิกาที่มีชื่อเสียงระดับโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบนาฬิกา โดยจะมีนาฬิกาจากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Bell & Ross (เบลล์ แอนด์ รอสส์) Blancpain (บล็องก์แปง) Chopard (โชพาร์ด) Corum (โครัม) Longines (ลองจินส์) Montblanc (มงต์บลอง) Omega (โอเมก้า) Zenith (เซนิธ) และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่อย่างเช่น Franck Muller (แฟรงก์ มูลเลอร์) และ Tudor (ทิวดอร์) ผู้ผลิตนาฬิกาที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนากลไกที่มีความล้ำสมัย และสร้างสรรค์เรือนเวลาที่หรูหราในมูลค่าที่ผู้ครอบครองทุกคนพึงพอใจ นับเป็นหนึ่งในความพิเศษของนาฬิกาอีกมากมายใน Shop.CortinaWatch.com ที่พร้อมให้ทุกคนจับจองเป็นเจ้าของ”

การเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่นี้ไม่เพียงแต่จะเชิญชวนลูกค้าให้เข้ามาเลือกซื้อนาฬิกาแบรนด์ต่างๆ ผ่านทางออนไลน์เท่านั้น แต่คอร์ติน่า วอทช์ มีความตั้งใจที่จะยกระดับความหลงใหลในศิลปะแห่งเรือนเวลาผ่านการนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายเพื่อบอกเล่าประวัติ ความสำเร็จ และแนวความคิดของผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ต่างๆ นอกจากนี้บรรดานักสะสมนาฬิกาที่ตามเก็บรุ่นที่หายาก และรุ่นที่ถูกผลิตขึ้นมาพิเศษ จะต้องตื่นเต้นกับการเปิดตัว Shop.CortinaWatch.com เช่นเดียวกันจากการที่แพลตฟอร์มนี้จะมีการเปิดจำหน่ายนาฬิการุ่นพิเศษทางออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือจากผู้ผลิตนาฬิกา
ชั้นนำของโลก

ซึ่งนาฬิกาเรือนแรกที่จะเปิดขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Shop.CortinaWatch.com เป็นการร่วมสร้างสรรค์กับ Corum โดยจะมีการจัดงานเปิดตัวที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย ในวันที่ 12 ธันวาคม 2023 และจำหน่ายผ่านทาง Shop.CortinaWatch.com เท่านั้น โดยสำหรับนาฬิการุ่นพิเศษ Corum Admiral 42 Automatic Cortina Watch Exclusive จะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 50 เรือนเท่านั้น โดยตัวเรือนจะใช้วัสดุคาร์บอนพิเศษตบแต่งด้วยทองคำ 18k เพิ่มความโดดเด่นด้วยแรงบันดาลใจจากการเดินเรือเหมือนกับนาฬิกาที่อยู่ในคอลเลคชั่น  Admiral เช่น ตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ และธงการเดินเรือถูกนำมาใช้แทนตัวเลขบอกชั่วโมง

“Shop.CortinaWatch.com จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในธุรกิจค้าปลีกของ Cortina Watch นับจากนี้ เราพยายามมองหาแนวความคิดใหม่ และนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมานำเสนอลูกค้าของเรา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเริ่มต้นสะสมนาฬิกา จะได้รับประสบการณ์ที่พิเศษในการเลือกซื้อนาฬิกาหลากหลายรุ่นที่เรานำเสนอ และด้วยการนำเสนอตัวเลือกแบรนด์ที่เพิ่มมากขึ้น และนาฬิการุ่นพิเศษที่จะถูกจำหน่ายเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Shop.CortinaWatch.com ตลอดจนการออกแบบ และโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิคที่เราสร้างแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา เราหวังที่จะเพิ่มคุณค่า และสร้างประสบการณ์ที่พิเศษกว่าเดิมในการสัมผัสความน่าหลงใหลของนาฬิกาเพื่อมอบให้แก่ลูกค้าทุกท่าน”มร.เจเรมี่ ลิม กล่าวเสริม

คอร์ติน่า วอทช์ เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของนาฬิกาทุกแบรนด์ที่จำหน่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ Shop.CortinaWatch.com

“เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” แนะนำ 5 เมนูใหม่ “Smack’s the Snack” ให้คุณอร่อยและสุขภาพดีได้ทุกเวลา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์” ร้านกาแฟสเปเชียลตี้ชั้นนำคุณภาพระดับโลกจากฮ่องกงสู่ไทย ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ชวนลิ้มลอง 5 เมนูใหม่ในสไตล์ Smack’s the Snack ที่นิยามความอร่อยไม่จำกัด ให้คุณสามารถรับประทานอาหารที่อร่อยและสุขภาพดีได้ตลอดทั้งวัน โดยคงคุณค่าทางโภชนาการจากการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ และปรุงโดยฝีมือเชฟชั้นนำ ในราคาเริ่มต้นเพียง 180 – 290 บาท (ราคายังไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) พร้อมให้บริการความอร่อยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (จนกว่าจะมีการแจ้งการเปลี่ยนแปลง) ที่ร้านเดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ 3 สาขา ได้แก่ สาขาโครงการเวลา หลังสวน สาขาเกษรวิลเลจ และสาขาเมกาบางนา

อิ่มอร่อยพร้อมดูแลสุขภาพกับ 5 เมนู Smack’s the Snack ได้แก่ “Spicy Avocado Halloumi” ราคา 250 บาท กัวคาโมเล่ที่ทำจากอะโวคาโดสดใหม่ พร้อมด้วยฮาลูมีชีส บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ และรสเผ็ดจากพริกปาปริก้า “Bacon and Egg” ราคา 290 บาท เบคอนคุณภาพดี พร้อมไข่คน และราดด้วยเมเปิลไซรัป “Spicy Sausage and Egg” ราคา 230 บาท ได้ประโยชน์จากถั่วขาวอบในซอสมะเขือเทศ พร้อมด้วยไส้กรอกคุณภาพดี ไข่ดาว และรสเผ็ดจากพริกปาปริก้า “Asian Shrimp Toast” ราคา 180 บาท หอมกรุ่นกุ้งย่างตัวโตที่เคล้าด้วยซอส Curry Aioli เพิ่มความอร่อยด้วยแตงกวาดอง ผักสลัด และไข่ดาว ปิดท้ายด้วยเมนู “Organic Tomatoes” ราคา 180 บาท ความอร่อยที่ลงตัวของมะเขือเทศสดย่าง มอสซาเรลล่าชีสสด และเพสโตซอส

โดยทุกเมนูสามารถเลือกเปลี่ยนขนมปังได้จาก 4 ชนิดที่มีเอกลักษณ์ความอร่อยเฉพาะตัว ได้แก่ เดนิชโทสต์ (Danish Toast) บริออช (Brioche) ซาวโดวจ์ (Sourdough) และครัวซองต์ (Croissant)

ลิ้มลอง 5 เมนูอร่อย Smack’s The Snack ได้แล้ววันนี้ที่ร้านเดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ ทั้ง 3 สาขา

• สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง LINE Official Account: @TCA_thailand 
• สั่งเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน LINE MAN, GrabFood, foodpanda หรือ Robinhood 
• ติดตามโปรโมชั่นดีๆ ได้ที่ Facebook: TheCoffeeAcademicsTH และ Instagram: @TheCoffeeAcademicsTH

แอร์ แคนาดา เชิญชวนนักท่องเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ-แวนคูเวอร์ เดินทางสู่แคนาดาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ บินตรงสู่จุดหมาย ได้ตั้งแต่ธันวาคมนี้- พฤษภาคม 2567

แอร์ แคนาดา สายการบินแห่งชาติของแคนาดา ผู้นำด้านการเชื่อมโยงกลุ่มคนและวัฒนธรรมทั่วโลกภูมิใจนำเสนอการกลับมาอีกครั้งของเที่ยวบินตรงสุดพิเศษ ระหว่างกรุงเทพฯ และแวนคูเวอร์ ผ่านงาน “Canada Calling!” โดยได้รับเกียรติจาก นางสาวปิง กิดนิกร เอกอัครราชทูตแคนาดา ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยพันธมิตรคนสำคัญ รวมถึงศิษย์เก่านักศึกษาแคนาดา เซเลบริตี้ นักท่องเที่ยว และอินฟลูเอนเซอร์มาร่วมงาน อาทิ ม.ล.อรดิศ สนิทวงศ์ อมาตย์ นิมิตภาคย์ อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ซินดี้ บิชอพ โศภิดา จิระไตรธาร เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ รัสรินทร์ ชุมสาย ณ อยุธยา สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล และ วิมลทิพย์ จารุกิจพิพัฒน์ ซึ่งงานดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของแอร์แคนาดาที่ไม่เพียงแต่เชื่อมโยงผู้คนระหว่างทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการเชื่อมต่อทางธุรกิจข้ามทวีปอีกด้วย

“ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานเปิดตัวเที่ยวบินตรงสุดพิเศษในครั้งนี้ของแอร์แคนาดา ระหว่างประเทศไทยและแคนาดา การเปิดเส้นทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเราทั้งสองประเทศ แต่ยังส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอีกด้วย

ในฐานะเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทยดิฉันเชื่อว่าแคมเปญนี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น“  นางสาวปิง กิดนิกร เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย กล่าว

ต้อนรับการท่องเที่ยว ไทย-แคนาดา อย่างภาคภูมิ 

ในโอกาสสำคัญครบรอบ 35 ปีที่ในประเทศไทย แอร์ แคนาดา เฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่นี้ด้วย การเปิดตัวบริการเที่ยวบินตรงที่สะดวกสบายจากกรุงเทพฯ ไปยังแวนคูเวอร์อีกครั้ง โดยจะให้บริการตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2567[1]

โดยหลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวเส้นทางกรุงเทพฯ ในปี 2565 และความมุ่งมั่นของ
แอร์ แคนาดาที่จะลงทุนในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สายการบินจึงจะเพิ่มจำนวนที่นั่ง 35% จากปีที่แล้ว เพื่อเป็นการต้อนรับนักเดินทางทั้งชาวไทยและแคนาดาอย่างอบอุ่น

บริการสุดพิเศษเพื่อผู้โดยสารเส้นทางบินตรงโดยเฉพาะ
ผู้โดยสารบนเที่ยวบินกรุงเทพฯ-แวนคูเวอร์ จะได้รับบริการสุดพิเศษบนเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งประกอบไปด้วย

• บริการชั้น Air Canada Signature Class สุดหรู พร้อมสิทธิ์เข้าใช้ห้อง Signature Suite ในสนามบินที่แวนคูเวอร์ และบริการรถรับส่งเมื่อต่อเครื่องจากเส้นทางภายในประเทศแคนาดา
• บริการชั้น Premium Economy และ Economy Class อันแสนสะดวกสบาย ที่มาพร้อมความบันเทิงบนเครื่องบินหลายร้อยชั่วโมง
• สิทธิพิเศษในการผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและการศุลการกร ล่วงหน้าของสหรัฐฯ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการเดินทางเชื่อมต่อในอเมริกาเหนือที่ราบรื่นโดยไม่มีความล่าช้า

ทั้งนี้ สมาชิก Aeroplan ยังจะได้รับบริการส่งข้อความฟรีตลอดการเดินทาง[2] ซึ่งสามารถใช้งานได้กับหลากหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง Apple iMessage, WhatsApp และอื่นๆ อีกมากมาย[3]

ห้ามพลาดกับแคมเปญโปรโมชันสุดคุ้มจากพันธมิตร

แอร์ แคนาดา ได้มอบสิทธิพิเศษให้กับพันธมิตรในประเทศไทยในหลายภาคส่วน เช่น สมาชิก VIZ ที่มี ONESIAM Super App และสมาชิกบัตรเครดิต KTC และทางสายการบินยังได้จับมือกับพันธมิตรตัวแทน จำหน่ายตั๋วและแพคเกจทัวร์ชั้นนำ เช่น Traveloka,  Majestic Travel,  Bangkok Air Tour ,  Global Union Express และ KTC World ในการนำเสนอตั๋วและแพคเกจพิเศษในระหว่างเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคมนี้ด้วย

นอกจากนี้แอร์แคนาดายังได้ทำการทำโปรโมชั่นร่วมกับทิม ฮอร์ตันส์ (Tim Hortons) เครือร้านกาแฟชื่อดังสัญชาติแคนาดา ส่งแคมเปญสุดตื่นเต้นตั้งแต่ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน ถึง 25 ธันวาคม 2566 ซึ่งลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มและเบเกอรี่ที่ร่วมรายการมูลค่า 200 บาทขึ้นไป มีโอกาสลุ้นรับรางวัลตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังแวนคูเวอร์ กับแอร์ แคนาดาอีกด้วย

มร. ฮอน แลม ผู้จัดการทั่วไปของแอร์แคนาดา ฮ่องกง จีนตอนใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เราตื่นเต้นกับการกลับมาให้บริการเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯและแวนคูเวอร์อีกครั้ง ในขณะที่เราเตรียมการสำหรับการให้บริการเที่ยวบินตรงในครั้งนี้ พร้อมเฉลิมฉลองครบรอบ 35 ปีในประเทศไทย จึงขอเชิญชวนทุกท่านให้ร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินที่น่าจดจำกับแอร์แคนาดาและรับโปรโมชั่นสุดพิเศษจากพันธมิตรของเรา”

“ดีใจที่แอร์ แคนาดากลับมาเปิดเที่ยวบินตรง” คุณสิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล กล่าวภายในงาน Canada Calling! “เพราะแคนาดาเป็นอีกประเทศที่เรานึกถึงอยู่เสมอ แต่ด้วยระยะเวลาในการเดินทางที่ค่อนข้างนานจึงทำให้ต้องกลับมาคิดใหม่อีกครั้ง แต่พอมีเที่ยวบินนี้จากแอร์แคนาดาก็ทำรู้สึกสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และตัดสินใจได้ที่จะเดินทางได้ง่ายขึ้น”

คุณอภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กล่าวว่า “รู้สึกดีใจมากๆ ที่แอร์ แคนาดา กลับมาเปิดเที่ยวบินนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะโดยส่วนตัวแล้วชื่นชอบประเทศแคนาดาเป็นอย่างมาก เนื่องจากบ้านเมืองสวยงาม กว้างขวาง ผู้คนก็เป็นกันเอง ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี อีกทั้งระบบการขนส่งและระบบผังเมืองก็สะดวกสบายดีมาก เอื้อต่อการเดินทาง การท่องเที่ยว ซึ่งเวลา 13 ชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สมเหตุสมผลกับการเดินทาง ทำให้เราสามารถแวะเที่ยวแคนาดาได้สองสามวัน แล้วยังเดินทางต่อไปอเมริกาได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย”

แอร์ แคนาดา ยังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์การเดินทางสุดที่ดียิ่งขึ้น พร้อมส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยและแคนาดา สายการบินจึงขอเชิญชวนนักเดินทางทุกคนให้มาสัมผัสประสบการณ์การการโดยสารอันน่าจดจำด้วยจำนวนเที่ยวบินที่มากขึ้น และโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย เที่ยวบินสุดพิเศษและโปรโมชั่นดีๆ เหล่านี้ สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.aircanada.com หรือสอบถามผ่านทางบริษัทนำเที่ยวของคุณ

• [1] เที่ยวบิน 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนธันวาคม 2566 และ มีนาคม 2567 (วันอังคาร พุธ ศุกร์ และอาทิตย์) เที่ยวบินรายวันตลอดวันที่ 9 มกราคม – 1 มีนาคม 2567 เที่ยวบิน 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2567 (วันจันทร์ พุธ และศุกร์) 
• [2] A complimentary text messaging service will only be available for text messaging, excluding images, videos, and attachments.
• [3] Covering various platforms including Apple iMessage, Meta Messenger, WhatsApp, Google Messages, WeChat, LINE, KakaoTalk, Telegram, Tencent QQ, and Viber.

ความตื่นเต้นครั้งใหม่ ป๊อปมาร์ท (POP MART) สานต่อกระแสตอบรับสุดปัง!!! เปิดตัวสโตร์แห่งที่สองในไทย ณ เทอร์มินอล 21 อโศก

จากกระแสความนิยมอย่างท่วมท้นของ Art Toy , Blind Box/Mystery Box ที่สร้างปรากฏการณ์ POP Culture ที่โด่งดังจนเกิดเทรนด์ใหม่ “ป๊อปคัลเจอร์ อาร์ตทอย” สำหรับการเปิดตัวแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในไทยที่ เซ็นทรัลเวิลด์ ในเวลาเพียง 2 เดือน เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ป๊อป มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย Art Toy Collection ต่างๆ ที่โด่งดังทั่วโลก พร้อมเขย่าวงการตลาดอาร์ตทอยในเมืองไทยอีกครั้ง ได้จัดงาน “POP MART Hello Bangkok” เปิดตัว POP MART Store แห่งที่สองในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ เทอร์มินอล 21 อโศก โดยได้รับเกียรติจากเซเลบคนดังที่ชื่นชอบในอาร์ตทอย แวะมาเยี่ยมชมร้านสาขาใหม่นี้

ปัจจุบัน Art toy ได้กลายเป็น POP Culture ในโลกยุคใหม่ที่นักสะสมของเล่นให้ความสนใจ ช่วยเพิ่มความสุขให้กับทุกคน ซึ่งวัฒนธรรมสะสมของเล่นได้รับอิทธิพลมาจากอนิเมะ เกม และงานศิลป์ต่างๆ ในขณะที่สื่อสังคมออนไลน์ปล่อยภาพ ความน่ารักๆ ออกไปทั่วโลกทำให้เกิดเป็นกระแสคลั่งไคล่ของคนยุคใหม่อย่างรวดเร็ว และด้วยความที่เป็น Blind box ซึ่ง POP MART เป็นผู้ริเริ่มกลยุทธ์นี้ยิ่งสร้างความตื่นเต้นจากการลุ้นระทึกว่าสินค้านั้นเปิดกล่องมาแล้วจะเป็นตัวอะไร กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสนุก หลังจากการได้ลิ้มรสความตื่นเต้น ดีใจ กรีดร้องด้วยความสุข ทำให้จดจำแล้วอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้อีก เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ของ POP MART Art Toys อย่างแท้จริง ทำให้ POP MART ใน ประเทศไทยจึงเร่งขยายสาขาอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มช่องทางจำหน่ายทาง Robo shop สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ และสาขาสยามเซ็นเตอร์ และสโตร์ใจกลางเมือง สาขา เทอร์มินอล 21 อโศก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแฟนๆ Art Toys นักสะสมที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยนับตั้งแต่เปิดสาขาแรกที่ เซ็นทรัลเวิลด์ สินค้าในทุก IPs ทุก คอลเลคชั่นได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ

โดยเฉพาะ IPs CRYBABY (ครายเบบี้) ซึ่งได้รับการออกแบบโดยคุณมอลลี่ ศิลปินชาวไทยที่ได้สร้างสรรค์ผลงานอันโดดเด่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Everybody cries sometimes เพราะการหัวเราะไม่ใช่วิธีเดียวที่จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น การร้องไห้ก็สามารถเยียวยาคุณได้เช่นกัน CRYBABY ทุกตัวจึงร้องไห้ด้วยเหตุผลต่างกัน เพราะมีเหตุผลนับล้านที่จะทำให้เราร้องไห้! และด้วยความที่คุณมอลลี่เป็นศิลปินคนไทยหนึ่งเดียวที่ร่วมออกแบบกับ POP MART จึงได้รับแรงสนับสนุนจากแฟนๆ ชาวไทยเป็นอย่างดี

ตามมาด้วย IPs MOLLY (มอลลี่) ไม่ว่าจะมาเป็นรูปแบบ Blind Box หรือ ขนาด Mega 400% และ 1000% โดยเฉพาะ Space Molly Collection ที่กำลังเป็นที่นิยม และมีลูกค้าที่สะสมเฉพาะกลุ่ม โดย Kenny Wong (เคนนี่ หว่อง) ศิลปินและนักออกแบบแฟชันจากฮ่องกง สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเด็กน้อยตากลมโต นัยน์ตาสีเขียวราวกับทะเลสาบ ริมฝีปากบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจ สวมหมวกและเสื้อคลุมแบบจิตรกรพร้อมถืออุปกรณ์วาดรูปในมือ ให้ภาพลักษณ์ความเป็นจิตรกรน้อย บุคลิกลักษณะที่ดื้อดึง น่ารัก ฉลาด มั่นใจ และมีเสน่ห์ รวมถึงรูปร่างที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ MOLLY โดดเด่นในวงการและมีแฟนๆ มากมายจนเป็นหนึ่งในคาแรกเตอร์ระดับไอคอนิก

HIRONO (ฮิโรโน) Version 1-4 ที่ได้ออกวางจำหน่ายมาเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะ V1 The Other One แต่ยังเป็นที่ต้องการของแฟนๆ ไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงปัจจุบัน เปรียบเสมือนตัวแทนที่เมื่อร่างกายเปลี่ยนแปลงไปตามวัย แต่มีเพียงอารมณ์และสภาวะทางใจที่เผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเรา ความรู้สึกและเสรีภาพ ถูกซ่อนไว้ภายใต้เงื่อนไขทางสังคมที่หลากหลาย โดย LANG (แลง) ศิลปินผู้สร้างสรรค์ได้แปรเปลี่ยนแนวคิดนี้เป็นแรงบันดาลใจและสร้าง HIRONO ขึ้นผ่านสื่อหลายชนิด

นอกจากนี้ ความโดดเด่น เสน่ห์และความน่าดึงดูดของ IPs ทั้ง 6 ใน POP MART Iconic Characters ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น SKULLPANDA (สกัลแพนด้า) ตัวน้อยน่ารัก ขาอวบและปากหนา มาพร้อมหมวกนักบินอวกาศและผมมัดจุกกลมสองจุก กับการแต่งหน้าอันโดดเด่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัวของ SKULLPANDA สร้างสรรค์โดยศิลปิน โดย SKULLPANDA , DIMOO WORLD (ดีมู่ เวิร์ล) เปี่ยมไปด้วยความงดงามชวนฝันที่นำเสนอผ่านเด็กน้อยขี้อายชื่อ DIMOO หลังจากเข้าสู่โลกแห่งความฝันอันลึกลับ เขาได้พบกับเพื่อนๆ หลายคนและเติบโตไปพร้อมกัน ด้วยผลงานการวาดและการสร้างสรรค์ของ AYAN (อาเยียน), THE MONSTERS (เดอะ มอนสเตอร์ส) หนึ่งในซีรีส์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของศิลปิน Kasing (คาซิง) ท่ามกลางคาแรกเตอร์อันหลากหลายของ THE MONSTERS Labubu (เดอะมอนสเตอร์ ลาบูบู) ที่มีหูยาวและ Skeleton Tycoco (สเกเลตันไทโคโค) เป็นคาแรกเตอร์ที่ Kasing โปรดปรานที่สุด

โดยป๊อปมาร์ท สโตร์ สาขาที่สองนี้ ตั้งอยู่ที่ เทอร์มินอล 21 อโศก ชั้น เอ็ม โซน ปารีส มีพื้นที่รวมกว่า 145 ตร.ม.ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความสนุกในรูปแบบต่างๆในแต่ละโซน พร้อมสินค้าหลากหลายคอลเลคชั่น ไม่ว่าจะเป็น

• คอลเลคชั่นพิเศษเปิดร้าน Opening Limited มีวางจำหน่ายจำนวนจำกัด ที่ POP MART Thailand คัดสรรมาแล้วว่าสุดพิเศษ ได้นำมาให้แฟนๆได้เป็นเจ้าของกันแบบลิมิเต็ดเฉพาะสาขา เทอร์มินอล 21 อโศก เท่านั้น ได้แก่

BABY MOLLY GREY
MOLLY ที่มาในรูปแบบ BABY ROYAL MOLLY ครั้งแรกในเมืองไทยกับดีไซน์รูปแบบใหม่และขนาดพิเศษที่ปกติแล้วจะวางจำหน่ายแบบลิมิเต็ดในงาน Art Toys Show เท่านั้น BABY MOLLY GREY ดีไซน์สุดลิมิเต็ดที่ไม่เคยทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง กับดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย ส่งต่อความสดใส ด้วยพลังที่ส่งออกมาจากดวงตาทำให้หายสงสัยว่าทำไมทุกคนถึงหลงรักและอยากเป็นเจ้าของน้อง BABY MOLLY กัน

MOLLY Toy Museum Figure
MOLLY ที่มาในธีม Toy Museum สุดเก๋ สวมชุดสูทจัดเต็ม โทนสีฟ้าสุดเท่ห์ กับเสื้อเชิ๊ตผูกโบว์แดงที่สุดแสนจะเข้ากัน และ Accessories มากมาย ที่เป็นกิมมิคพิเศษของ MOLLY คอลเลคชั่นนี้

และ LABUBU Hedgehog Figure
คอลเลคชั่นพิเศษที่ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกที่ 2023 Singapore POP Toy Show และได้กลายเป็นหนึ่งใน Figurine ที่แฟนๆ POP MART ตามหา ด้วยคาแรกเตอร์สุดชัดเจน แฝงไปด้วยความทะเล้นซุกซน ทำให้ LABUBU ได้กลายเป็นคาแรกเตอร์ขวัญใจแฟนๆ POP MART

• Disney 100th Celebration
ฉลองดิสนีย์ครบรอบ 100 ปี พบกับ Disney 100th Year Bell Series พาแฟนๆร่วมฉลองไปกับช่วงเวลา Holiday Seasons กับคาแรกเตอร์ดิสนี่ย์สุดหลากหลาย ที่มาใน Blind Box รูปแบบระฆังที่สามารถนำไปเป็น Christmas Ornaments ถือเป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ที่แฟนๆ POP MART ต้องห้ามพลาด

และที่พิเศษที่สุด พลาดไม่ได้ก็คือ MEGA SPACE MOLLY Disney 100th Celebration 400% & 1000% มาเปิดตัวครั้งแรกที่นี่ในประเทศไทย จำนวนจำกัดเท่านั้น

และที่พิเศษไปกว่านั้น คอลเลคชั่นนี้ มาในลวดลายแสนลิมิเต็ด พร้อมเทกซ์เจอร์พิเศษ แบบ Glossy สำหรับขนาด 400% และเทกซ์เจอร์แบบ Matte สำหรับขนาด 1000% ที่แฟนๆต้องมาสัมผัสความพิเศษนี้ด้วยตัวเองเท่านั้น

• คอลเลคชั่น MEGA ได้แก่ MEGA SPACE MOLLY 400% & 1000% ที่แฟนๆ ตามหา
• คอลเลคชั่น (Blind Box Collections) คอลเลคชั่นที่หายากที่สุด ซึ่งเป็นที่ต้องการของทุกคน
• คอลเลคชั่นอื่นๆ อาทิ POP BEAN, Big Figure และ Accessories ต่างๆ มากมาย

สำหรับมือใหม่หัดเข้าวงการ Art Toy หรือกำลังตามหา Love at First Sight ที่ทำให้ใจเต้นแรง ลองมาเดินเล่นที่ ป๊อปมาร์ท สโตร์กันดูก่อน หลายคนเริ่มสะสม Art Toy จากคอลเลคชั่น Movies, Series, Anime, Comics ที่ตัวเองชื่นชอบ เพราะ Blind Box เหล่านี้จะพาให้ตื่นเต้นและหลงใหลใน Story หรือ Content ของ IP นั้นๆ จนอดใจไม่ไหวพาน้องๆ กลับบ้านไปด้วยทุกครั้ง

เป็นอีกวงการที่ถ้าได้เข้ามาแล้วจะไม่อยากออก เพราะวงการ Art Toys เป็นความสุข สนุกและเป็นศิลปะที่จับต้องได้ รับรองว่าการได้พาตัวเองออกจากโลกดิจิทัลและแชร์ความสุขให้คนรอบข้าง จะเป็นการส่งต่อ POP MART POP Culture ที่สร้างความสุขรูปแบบใหม่ไม่รู้จบ

ตามมาอัปเดตสินค้าที่ออกใหม่ได้ทุกวันศุกร์ พร้อมติดตาม Rare Collection และสินค้าพิเศษตาม Seasonal รวมถึงการ Restock คอลเลคชั่นต่างๆ ได้ที่ POP MART ทั้งสองสาขา

สามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับป๊อปมาร์ทประเทศไทยได้ที่
Facebook : facebook.com/popmartth
Instagram : instagram.com/popmartth

อาดิดาส ชวนสาวกแฟชั่นมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ROUND TWO ซึ่งครั้งนี้ได้มี 2 แบรนด์ไทย Ari และ Carnival มาร่วมสร้างสรรค์ และจัดจำหน่ายผลงานการออกแบบจากการคอลแลปส์กับ SEAN WOTHERSPOON ยูทูบเบอร์ นักสะสมตัวยง ซึ่งเขาได้เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

ในการคอลแลปส์ครั้งนี้ Ari และ SEAN WOTHERSPOON แห่ง ROUND TWO ได้จัดทำ Box Set ลิมิเต็ดอิดิชั่น ซึ่งประกอบด้วยเสื้อ กางเกง และถุงเท้าฟุตบอล ขณะที่ Carnival และฌอห์นร่วมกันออกแบบเสื้อยืดลายลิมิเต็ดอิดิชั่น กางเกงขาสั้นลำลอง หมวก และตุ๊กตาอิดิชั่นพิเศษที่ควรมีไว้สะสม

ด้วยตัวตนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งไม่เป็นไปตามขนบทั่วไป SEAN WOTHERSPOON ร่วมงานกับอาดิดาสมากแล้วหลายครั้ง สำหรับป็อปอัพสโตร์ครั้งนี้ เขาก็ไม่พลาดที่จะรับหน้าที่ “ศิลปิน” ออกแบบรองเท้ากับอาดิดาสอีกครั้ง โดยได้ตีความหนึ่งในรองเท้าไอคอนิกของแบรนด์อย่าง adidas Gazelle Indoor SW ขึ้นใหม่จนก่อเกิดเป็นรองเท้ารุ่นพิเศษที่ใช้วัสดุร่วมสมัยพร้อมเทคนิคการปักเย็บทั่วรองเท้า ซึ่งแน่นอนว่า เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบฉบับของ Sean Wotherspoon

รองเท้า Gazelle Indoor SW มาในโทนสีเขียว Collegiate โดยใช้ผ้าทอใยกัญชงในส่วนอัปเปอร์ และมีการปักเย็บทั่วรองเท้าเพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับผิวสัมผัสและยกระดับคาแรกเตอร์ของรองเท้าให้โดดเด่น ขณะเดียวกันก็มีการสอดแทรก ‘ผ้าทอใยกัญชง’ บริเวณส้น และเอาท์โซลแบบ Gum ซิกเนเจอร์บนรองเท้าระดับตำนานคู่นี้ด้วย

งานเปิดตัว “ROUND TWO ป็อปอัพสโตร์” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 – 3 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ที่บริเวณ Q Stadium ชั้น M ห้างสรรพสินค้า Emquartier โดยภายในงานยังมีการจัดจำหน่ายสินค้าจาก ROUND TWO ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อฮู้ดดี้ กางเกงขาสั้น กางเกงยีนส์สกรีนโลโก้แบรนด์ แว่นตา หมวกแก็ป และปลอกหมอน

นอกจากงาน ROUND TWO แล้ว ยังสามารถซื้อ adidas Gazelle Indoor SW รุ่นใหม่ ได้ในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2566 ในราคา 5,400 บาท ที่ร้านอาดิดาส แบรนด์เซ็นเตอร์ สาขาเซ็นทรัลเวิล์ด ร้านอาดิดาส ออริจินอลส์ สาขาสยามเซ็นเตอร์ ร้านคาร์นิวาล ร้านแอทมอส รวมถึงทางออนไลน์ที่ www.adidas.co.th  แอปพลิเคชัน adidas และไลน์ adidasThailand