สัมภาษณ์พิเศษที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นของ ชินมินอา คิมยองแด อีซังอี และฮันจีฮยอน นักแสดงจาก No Gain No Love

account_circle
event

No Gain No Love ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องใหม่จาก Prime VDO ที่เห็นลิสต์รายชื่อนักแสดงแล้วควรค่าแก่การชมยิ่งนัก นำแสดงโดย เจ้าแม่รอมคอม อย่างชินมินอา ร่วมด้วยนักแสดงฝีมือดีอย่าง คิมยองแด อีซังอี และฮันจีฮยอน

ความเก๋ของแกนเรื่องคือ มุมมองความรักยุคใหม่ที่จะไม่ยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงสามคนที่ไม่เชื่อในการแต่งงาน การออกเดท และการขอแต่งงาน พวกเธอจึงเลือกที่จะแต่งงานแบบชั่วคราว ออกเดทแบบมีสัญญาข้อตกลง และเดินเข้าสู่การหย่าร้าง เพื่อที่พวกเธอจะได้ไม่ต้องสูญเสียเงิน อาชีพ และเวลา

ซนแฮยอง (ชินมินอา) พบกับชีวิตของเธอต้องเจอกับความสูญเสียอย่างต่อเนื่องจนแทบไม่ได้หยุดพัก ทั้งเรื่องครอบครัว ความรัก และการงาน แฮยองจึงพยายามพลิกชะตาชีวิตด้วยการทำสัญญาแต่งงานกับพนักงานในร้านสะดวกซื้อละแวกบ้าน (คิมยองแด) แต่เธอไม่ใช่คนเดียวที่พยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีการแปลกๆ เพื่อนสนิทของเธอก็เลือกใช้วิธีการแหวกแนวเพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียด้วยเหมือนกัน

นี่แค่เรื่องย่อ เรื่องเต็มบอกเลยว่าสนุกมาก เอ็นจอยแน่นอน คอนเฟิร์มด้วยบทสัมภาษณ์พิเศษจาก 4 นักแสดง ชินมินอา คิมยองแด อีซังอี และฮันจีฮยอน นักแสดงจากซีรีส์ No Gain No Love มายืนยันเหตุผลดีๆ ว่าทำไมต้องดู พร้อมพูดคุยเบื้องหลังของการทำงานร่วมกันที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นไม่แพ้ซีรีส์เลย

เล่าถึงตัวละครที่แต่ละคนรับบทบาทให้ฟังหน่อยค่ะ

ชินมินอา: ฉันรับบทเป็น “ซนแฮยอง” หญิงสาวที่ไม่ยอมเป็นฝ่ายแพ้ ทั้งเรื่องรักและเรื่องงานค่ะ เธอไม่กลัวที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมายของตัวเอง เป็นคนซื่อตรงและแข็งแกร่งมากๆ ดังนั้นฉันก็เลยพยายามแสดงความเป็นตัวเองออกมาอย่างจริงใจ แล้วก็พยายามเข้าใจความรู้สึกของแฮยอง รวมถึงทุกเรื่องที่ผ่านมาในชีวิตของเธอด้วยค่ะ

คิมยองแด: ผมคิมยองแดครับ รับบทเป็น “คิมจีอุก” ชายหนุ่มผู้ทำงานหนักและพยายามไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นครับ จีอุกเป็นคนเอาใจใส่คนอื่นมากๆ ผมจึงพยายามที่จะคิดอะไรให้ลึกซึ้งรอบคอบแบบเขา และพยายามแสดงบุคลิกที่สงบเยือกเย็นของเขาออกมา

อีซังอี: ผมอีซังอีครับ รับบทเป็น “บกกยูฮยอน” ซีอีโอของบริษัท KKULBEE ผู้ไม่เคยเปิดใจให้ความรักอย่างเต็มที่ครับ การที่ผมจะดูเหมือนประธานบริษัทได้ เราต้องปรับลุค มีเสื้อผ้า รองเท้า และแอคเซสซอรี่ที่ดูเนี้ยบ และก็ต้องแสดงเข้าขากับอียูจิน ที่รับบทเป็นเลขาของผม รวมถึงจีฮยอน ที่ต้องเข้าฉากด้วยกันมากที่สุดด้วยครับ

ฮันจีฮยอน: ฉันฮันจีฮยอนค่ะ ฉันรับบทเป็น “นัมจายอน” หรือ “ยอนโบรา” ค่ะ จายอนเป็นนักเขียนนิยายเรท R ค่ะ เธอเป็นคนมีจินตนาการสูงมาก แต่ว่าเธอยังโสด แล้วก็ไม่เคยมีแฟนเลยตลอดชีวิตที่ผ่านมา ดังนั้นฉันก็เลยพยายามจะแสดงให้เห็นความรู้สึกสดใหม่ของการตกหลุมรักเป็นครั้งแรกของเธอค่ะ



ตัวละครของคุณเหมือนหรือแตกต่างจากตัวจริงของคุณอย่างไงบ้าง และมุมไหนของตัวละครที่คุณรู้สึกประทับใจที่สุด

ชินมินอา: ก่อนที่จะมารับบทนี้ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองกำลังอยู่ในจุดที่เสียเปรียบในสถานการณ์ไหนบ้างรึเปล่า แต่พอได้แสดงเรื่องนี้แล้ว ฉันก็เริ่มถามตัวเองว่า ‘นี่ฉันกำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่รึเปล่านะ ฉันเป็นฝ่ายทำให้คนอื่นเสียหาย หรือเป็นฝ่ายที่เสียหายกันแน่นะ’ ส่วนเรื่องที่ว่าฉันเหมือนกับตัวละครมากแค่ไหน ตอนที่อ่านบทครั้งแรก ฉันรู้สึกเชื่อมโยงกับเธอและรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย ยิ่งถ่ายทำไปเรื่อยๆ ฉันก็ยิ่งรู้สึกเหมือนเธอมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นฉันคิดว่าตอนนี้เรามีสิ่งที่คล้ายกันหลายอย่างเลยค่ะ

คิมยองแด: จีอุกเกลียดการสร้างปัญหาให้คนอื่น แล้วก็ชอบที่จะเป็นฝ่ายแบกรับปัญหาไว้เอง การได้เล่นบทนี้สอนผมหลายอย่าง และทำให้ผมกลับมาคิดว่าที่ผ่านมาผมใส่ใจคนอื่นมากน้อยแค่ไหน การสละตัวเองเพื่อคนอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย ผมพยายามมากเพื่อที่จะเข้าใจมุมนี้ของตัวละครอย่างลึกซึ้ง ดังนั้น ผมคิดว่าเรามีความคล้ายกันประมาณ 99% เลย (หัวเราะ) จริงๆ อาจจะประมาณครึ่งนึงครับ เพราะปกติผมก็มักจะเกรงใจคนอื่นประมาณนึงเลย

อีซังอี: ผมคิดว่าตัวละครบกกยูฮยอนกับผมค่อนข้างต่างกันมากเลยครับ ผมไม่เคยเป็นผู้นำในบริษัทหรือองค์กรอะไรมาก่อนการเข้าไปอยู่ในความคิดของเขาเลยเป็นเรื่องค่อนข้างท้าทายในตอนแรก แต่แน่นอนว่าคำตอบมักจะซ่อนอยู่ในบทครับ ผมค้นพบว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่าหน้าที่การงานหรือสถานะทางสังคมของเขาคือ ความสัมพันธ์ของเขากับตัวละครตัวอื่นๆ ในเรื่องดังนั้นผมก็เลยโฟกัสกับจุดนี้ เพื่อให้บทบาทออกมาสมจริง แม้ว่าจะมีหลายอย่างที่ผมกับเขาไม่เหมือนกัน แต่ผมก็พยายามจะอุดช่องว่างนั้น ผมว่าสิ่งที่เราเหมือนกันที่สุด คือวิธีที่เขาสื่อสารกับเลขา โดยเฉพาะการพูดคุยแบบสบายๆ และขี้เล่น แล้วก็มุมน่ารักในความสัมพันธ์ของเขากับนัมจายอน ทั้งหมดนี้ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับตัวจริงของผม ดังนั้นผมว่าเราเหมือนกันประมาณ 50% ครับ

ฮันจีฮยอน: ฉันคิดว่าฉันกับจายอนเป็นคนรักครอบครัวมากๆ นั่นเป็นจุดสำคัญที่เรามีเหมือนกันค่ะ แต่ในขณะที่จายอนดูเหมือนจะกลัวความรักหน่อยๆ ฉันเป็นคนที่ไม่ลังเลเลยในการแสดงออกเรื่องความรัก นี่คือจุดที่เราต่างกัน ในระหว่างถ่ายทำ ฉันค่อยๆ รู้สึกว่าตัวเองเหมือนจายอนขึ้นเรื่อยๆ จากที่ตอนแรกรู้สึกว่าเธอห่างไกลจากฉันมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปฉันก็ค่อยๆ เหมือนเธอมากขึ้น ดังนั้นมันเลยอาจจะยากหน่อย ถ้าต้องบอกว่าเราเหมือนกันกี่เปอร์เซ็นต์

คุณซังอี บทบาทของคุณในเรื่องนี้ต่างจากตัวละครของคุณในเรื่องอื่นๆ ยังไงบ้าง

อีซังอี: ผมคิดว่าตัวละครตัวนึงจะมีพลังดึงดูดก็ต่อเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ในตัวเขาครับ สำหรับบกกยูฮยอน เขาเปลี่ยนจากคนเก็บตัวเป็นคนอินเลิฟแบบสุดๆ ผมคิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เขาเป็นตัวละครที่แตกต่างจากบทบาทอื่นๆ ที่ผมเคยเล่นมาเลยครับ

คุณจีฮยอน ในเรื่องนี้คุณแสดงเป็นนักเขียนนิยายออนไลน์ จริงๆ แล้วคุณเป็นคนชอบเขียนหรืออ่านนิยายหรือเว็บตูนอยู่แล้วด้วยไหม

ฮันจีฮยอน: ส่วนใหญ่ฉันจะเขียนไดอารี่และชอบจดบันทึกความฝันของตัวเองไว้ค่ะ ส่วนใหญ่จะเขียนประมาณนี้ ฉันอ่านนิยายออนไลน์บ้างและชอบเว็บตูนมากๆ เลยค่ะ ฉันอ่านมันทุกวันและพยายามตามอ่านเว็บตูนที่อัพเดทใหม่ตลอด ฉันชอบเว็บตูนมาตั้งแต่เรียนประถม ส่วนใหญ่จะเริ่มอ่านจากเว็บตูนก่อน แล้วถ้าเรื่องไหนน่าสนใจก็ค่อยตามไปอ่านนิยายต้นฉบับ ซึ่งหลายครั้งก็ทำให้เสียเงินไปเยอะเหมือนกันค่ะ (หัวเราะ)

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้คุณตกลงรับบทนี้ และอะไรในซีรีส์ที่ทำให้คุณรู้สึกประทับใจ

ชินมินอา: อย่างแรกเลยคือบทที่น่าติดตามค่ะ ทั้งสนุก ดูง่าย แล้วก็แปลกใหม่ มันทำให้ฉันอยากสวมบทเป็นแฮยอง แล้วก็คิดว่ามันต้องสนุกมากๆ แน่ ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้มีมิติมากๆ และแต่ละคนก็มีเรื่องราวภูมิหลังที่น่าสนใจ ดังนั้นฉันเลยตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นว่ามันจะออกมาเป็นยังไง ฉันแน่ใจตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่า ด้วยตัวละครที่น่าสนใจและเรื่องราวที่ทำให้พวกเขามาเกี่ยวพันกัน ซีรีส์เรื่องนี้จะต้องสนุกมากแน่ๆ

คิมยองแด: ผมเองก็รู้สึกว่าพล็อตเรื่องมันน่าสนใจมากๆ เหมือนกันครับ อย่างที่พี่มินอาบอกเลย ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในเรื่องนี้น่าติดตามมาก อีกอย่างคือนักแสดงที่รับบทเป็นตัวละครทั้งหมดนี้ก็ทั้งเก่ง หน้าตาดี แล้วก็นิสัยดีมากๆ จนผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ด้วยเลยครับ…สู้! (หัวเราะ)

อีซังอี: ผมคิดแบบเดียวกับพี่มินอาเลยครับ เพราะว่าครั้งแรกที่ผมอ่านบท No Gain No Love ผมได้เห็นความสัมพันธ์และความรักหลากหลายรูปแบบในนั้น ทั้งคู่เดท คู่แต่งงาน ครอบครัว พ่อแม่ลูก มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบ ซึ่งมาพร้อมกับความรักที่แตกต่างกันออกไป มันเป็นเรื่องราวที่จริงใจและตรงไปตรงมามากกว่าซีรีส์เรื่องอื่นๆ มันโดนใจผมมากๆ ผมคิดว่าเวลาแสดงความรัก คนเราจะแสดงบุคลิกและตัวตนออกมา ดังนั้นมันเลยสนุกมากที่เราได้เห็นตัวละครแต่ละตัวตั้งคำถามว่า ‘ฉันจะได้หรือเสียอะไรจากตรงนี้ไหม’ หรือ ‘ฉันควรจะตอบโต้ยังไงในสถานการณ์นี้ดีนะ’ ผมอ่านบทจบเร็วมากครับ และนั่นคือเหตุผลที่ผมอยากมีส่วนร่วมในซีรีส์เรื่องนี้

อีกเหตุผลที่ทำให้ผมอยากร่วมงานนี้มากๆ เพราะผมได้ยินว่ารุ่นพี่มินอาจะแสดงด้วย ผมก็เลยอยากจะร่วมงานกับเธออีกครับพวกเราสนิทกันเพราะว่าผมกับเธอเคยรู้จักกันจากเรื่อง Hometown Cha-Cha-Cha ส่วนยองแดกับจีฮยอนก็เคยแสดงใน The Penthouse: War in Life ด้วยกัน ผมก็เลยคิดว่ามันคงจะสนุกดี

ฮันจีฮยอน: ตอนที่ได้บทมาครั้งแรก ฉันมีคำถามเกี่ยวกับตัวละครของตัวเองเยอะมากเลยค่ะ ฉันจดคำถามไว้ยาวมากเพื่อจะมาคุยในวันที่นัดเจอผู้กำกับครั้งแรก มันเป็นตัวละครที่ลึกลับและเข้าใจยากมากสำหรับฉัน ฉันรู้สึกได้ว่าเธอต้องมีเรื่องราวภูมิหลังเยอะมาก ซึ่งก็ทำให้ฉันยิ่งอย่างรู้เข้าไปอีก อีกอย่างคือ ฉันอยากร่วมงานกับรุ่นพี่ซังอี ยองแด และพี่มินอามากๆ ก็เลยตกลงรับบทนี้ค่ะ

ความรู้สึกตอนแรกที่ได้เจอกันเป็นยังไงบ้าง และหลังจากได้ร่วมงานกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

ฮันจีฮยอน: ในวันอ่านบทครั้งแรก ตอนที่พี่มินอาเดินเข้ามาเธอสวยตะลึงสุดๆ เลยค่ะ สวยแบบที่ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีคนสวยขนาดนี้อยู่ในโลก! ฉันกลับบ้านไป แล้วก็พูดกับแม่หลายรอบมากว่า ‘แม่ พี่เขาสวยมากเลยอะ พี่เขาสวยมาก’ แล้วพี่เขาก็สวยตลอดเวลาที่อยู่ในกองถ่ายด้วยค่ะ สำหรับพี่ซังอี เราเคยรู้จักกันที่โรงเรียนมาก่อน ตอนเจอที่โรงเรียนเราก็จะแค่ทักทายกันเฉยๆ แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ทำงานด้วยกันในกองถ่าย รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากๆ ส่วนยองแด เราเคยแสดงเรื่อง The Penthouse: War in Life ด้วยกัน ฉันก็เลยตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับเขาในแนวโรแมนติกบ้าง แล้วก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับเขาอีกค่ะ

อีซังอี: ความประทับใจแรกของผมต่อทุกคนดีหมดเลยครับ พวกเราเข้ากันได้ดีมาก แล้วก็สนิทกันได้เร็ว โดยเฉพาะผมกับยองแด ยังไงความประทับใจสุดท้ายก็สำคัญกว่าความประทับใจแรกใช่ไหมล่ะครับ รวมๆ แล้วมันเป็นประสบการณ์การถ่ายทำที่สนุกมากเลยครับ

คิมยองแด: ผมขอเริ่มจากพี่มินอาก่อนนะครับ ผมโตมากับการได้ดู My Girlfriend is a Gumiho ตอนสมัยม.ปลาย จำได้ว่าตอนที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนั้นครั้งแรกผมรู้สึกว่า ‘ว้าว ทำไมสวยขนาดนี้นะ’ ดังนั้นก็เลยรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ ที่ได้ร่วมงานกับพี่เขาในซีรีส์เรื่องนี้ ผมคิดว่าผมเคยบอกเธอแล้วตอนที่เจอกันครั้งแรก ว่าตั้งแต่นั้นมาผมก็เป็นแฟนคลับเธอมาตลอด การถ่ายทำในครั้งนี้ทั้งสนุก ตื่นเต้น แล้วก็เป็นเหมือนของขวัญสำหรับผมเลยครับ ส่วนพี่ซังอี ผมก็จำความรู้สึกแรกตอนที่ได้เจอเขาไม่ค่อยได้ แต่ความประทับใจสุดท้ายตอนนี้คือ เขาเป็นพี่ชายที่ผมชอบมากๆ เขาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วย ส่วนจีฮยอน เราเคยทำงานด้วยกันมาก่อน ผมจำได้ว่าตอนนั้นทีมนักแสดงสนิทกันมาก พวกเราคอยดูแลช่วยเหลือกันตลอด ดังนั้นการได้ร่วมงานกับเธออีกเลยเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ปกติแล้วผมจะเกร็งมากในวันอ่านบทครั้งแรก แต่สำหรับครั้งนี้การที่มีเธออยู่ด้วยมันทำให้ผมนึกถึงความทรงจำที่ผ่านมา ทำให้ผมรู้สึกสงบนิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆครับ

ชินมินอา: ก่อนจะได้เจอคิมยองแด ฉันอยากรู้ตลอดเลยค่ะว่าเขาเป็นคนยังไง เพราะฉันไม่เคยเจอเขามาก่อนเลย ตอนแรกมันค่อนข้างจะเก้ๆ กังๆ หน่อย เพราะว่าฉันเป็นคนขี้อาย ยองแดก็เหมือนกัน แต่ฉันชอบมากเลยที่เขาพยายามจะปรับตัวให้เข้ากับวิธีการแสดงของฉัน และฉันก็พยายามแบบนั้นกับเขาเหมือนกัน อีกอย่างคือหน้าตาเขามีบางอย่างที่ทำให้เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนเลยค่ะ

ส่วนซังอี เขาเป็นนักแสดงที่ฉันรู้สึกชื่นชมค่ะ เราแสดงด้วยกันในเรื่อง Hometown Cha-Cha-Cha เขาเป็นคนสดใส แล้วก็คิดบวกมากๆ ส่วนตัวฉันรู้สึกว่าเขาเหมาะจะรับบทบกกยูฮยอนเลยล่ะ ฉันดีใจและตื่นเต้นมากตอนที่รู้ว่าเขาจะมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย

ส่วนจีฮยอน เธอเป็นคนน่ารักมากๆ เป็นคนน่ารักน่าเอ็นดู มีชีวิตชีวาจนฉันหยุดคิดไม่ได้เลยว่าเธอน่ารักจัง ฉันรู้สึกตั้งแต่แรกเลยว่าเธอต้องเหมาะกับบทจายอนสุดๆ ตอนที่พวกเราอ่านบทครั้งแรกด้วยกัน ฉันก็รู้สึกได้ถึงเคมีและเสน่ห์ของตัวละครแต่ละตัว  ความรู้สึกแรกของฉันตอนได้เจอทุกคนมันดีมากเลยค่ะ

คุณซังอีกับคุณจีฮยอน มีอะไรในตัวอีกฝ่ายที่คุณรู้สึกประทับใจหรือชื่นชมบ้าง

ฮันจีฮยอน: พี่ซังอีเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศในกองสดใสมากเลยค่ะ เขาเป็นคนตลกแล้วก็ยิ้มแย้มตลอด ทำให้ความรู้สึกในกองถ่ายผ่อนคลายขึ้น การได้อยู่ใกล้เขาทำให้ฉันรู้สึกเกร็งน้อยลงและสนุกขึ้น อีกอย่างคือเขาเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์มาก ดังนั้นฉันก็เลยเหมือนได้อานิสงส์ไปด้วยน่ะค่ะ (หัวเราะ)

อีซังอี: ไม่จริงเลยครับ ผมว่าจีฮยอนเป็นคนมุ่งมั่นและอดทนมากต่างหากครับ ตอนที่เราถ่ายทำเป็นช่วงอากาศหนาวมากๆ แต่ผมไม่เห็นเธอบ่นเลย ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว บางครั้งเธอต้องยืนใกล้กับฮีตเตอร์มากๆ จนเสื้อกันหนาวไหม้ แต่เธอก็จะพูดตลอดว่าเธอโอเค เธอไม่หนาว ผมประทับใจความเข้มแข็งของเธอตอนถ่ายทำมากครับ และเธอก็ทำให้ผมนึกถึงผลไม้ เพราะว่าพลังงานของเธอในกองถ่ายมันทำให้ทุกคนสดชื่นมีชีวิตชีวามากๆ

คุณซังอีกับคุณจีฮยอน มีซีนไหนของคุณที่จำได้ขึ้นใจบ้างไหม

ฮันจีฮยอน: มีฉากนึงที่ฉันจำบทได้ยากมาก เพราะบทยาวหนึ่งหน้าเต็มๆ เลยค่ะ บทพูดจะประมาณว่า ‘ต้องใช้การ์ดเชิญกี่ใบนะ? หนึ่งร้อย? สองร้อย? ร้อยห้าสิบ? แล้วจะใส่รูปด้วยไหม? งั้นถ้าใส่ภาพวาดลงไปจะดีรึเปล่า? ให้ฉันไปถามเพื่อนนักเขียนดูไหม? แล้วถ้าเป็นกรอบแบบเลเซอร์คัทล่ะ…’ ฉันต้องพูดแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มันเป็นบทที่จำยากสุดๆ ไปเลยค่ะ

อีซังอี: ตอนแรกๆ ผมจะได้เข้าฉากกับเลขายอ-ยออาจุน ซึ่งในเรื่องเป็นเลขาของผมค่อนข้างเยอะ เราต้องอยู่ด้วยกันตลอด แทบจะเหมือนทอมกับเจอร์รี่ แล้วผมต้องเรียกเขาบ่อยมาก ‘เลขายอ’ ‘เลขายอ’ ‘เลขายอ’ ‘เลขายอ’ นี่คือบทที่ผมจำขึ้นใจสุดครับ  ถึงจะเรียกชื่อเขาบ่อย แต่จะใช้น้ำเสียงไม่เหมือนกันเลยครับ นี่เลยเป็นบทพูดที่ผมจำได้แม่นสุด

ใครคือคนที่ร่าเริงที่สุดในกองคะ

คิมยองแด: ทุกคนลงความเห็นว่าเป็นพี่ซังอีครับ พี่เขาเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศในกองสนุกขึ้น เป็นคนที่ร่าเริงที่สุดและทำให้พวกเราหัวเราะตลอด แล้วยังเป็นคนใจกว้างมากๆด้วย บางทีเขาก็ชอบเต้นแท็ปขึ้นมาเฉยๆ แบบว่านึกอยากจะเต้นก็เต้น มันตลกมากเลย

อีซังอี: ผมไม่ค่อยแน่ใจเรื่องสร้างสีสันในกองถ่ายนะครับ ผมแค่อยากจะสนุกไปกับการถ่ายทำ ที่ผมเต้นหรือฮัมเพลงเป็นเพราะนั่นคือวิธีที่ผมทำให้ตัวเองยังตื่นตัวเท่านั้นเอง ผมพยายามจะเพิ่มพลังให้ตัวเอง ด้วยการเต้นท่าที่กำลังฮิตอยู่อะไรอย่างนี้น่ะครับ

ฮันจีฮยอน: ฉันยืนยันว่าพี่ซังอีเป็นคนตลกและเข้าถึงง่าย แล้วก็ใจดี คอยใส่ใจดูแลทุกคนในกองถ่าย แต่ในขณะเดียวกันพี่เขาก็จริงจังสุดๆ กับการแสดง แล้วก็ตั้งใจมากเวลาคุยเรื่องงาน นั่นคือสิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับพี่เขาเลยค่ะ

คุณมินอากับคุณยองแด มีบทบาทแบบไหนอีกที่คุณอยากแสดงในอนาคต

คิมยองแด: สำหรับผมยังมีบทอีกหลายแนวเลยที่ผมยังไม่เคยได้แสดง ดังนั้นถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะลองเล่นทุกบทบาทเลยครับ ไม่ได้มีบทแบบไหนที่ผมมองไว้เป็นพิเศษ แต่ผมอยากจะท้าทายตัวเองและจะตั้งใจทำให้ดีที่สุดในทุกๆ ครั้งครับ

ชินมินอา: หลังจากได้สวมบทบาทเป็นแฮยอง ฉันรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยเลยค่ะ เพราะว่าได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่อยู่ข้างในออกมาอย่างเต็มที่ ในอนาคตฉันก็เลยอยากจะแสดงเป็นตัวละครที่มีความตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองอีกซักครั้งค่ะ

This image has an empty alt attribute; its file name is Shin-Mina-Kim-Young-dae_SetB_240721_YB_1045-F2-400x600.jpg

คุณมินอากับคุณยองแด คิดว่าอะไรที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ต่างจากเรื่องอื่นๆ และอะไรคือเหตุผลที่ผู้ชมต้องติดตามซีรีส์เรื่องนี้

ชินมินอา: สิ่งที่แปลกใหม่ในเรื่องนี้คือ การที่พระเอกนางเอกเพิ่งจะเริ่มรู้สึกชอบอีกฝ่ายหลังจากแต่งงานกันแล้ว ดังนั้นมันเลยกลับกัน เพราะความรู้สึกของพวกเขาค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นแบบช้าๆ เมื่อเวลาผ่านไป ฉันคิดว่านี่คือจุดที่น่าติดตามค่ะ และหลังจากแต่งงานแล้ว เราก็จะค้นพบว่าเรื่องราวภูมิหลังของจีอุกกับแฮยองมันเกี่ยวพันกันในแบบที่น่าสนใจมาก ฉันคงเล่ามากกว่านี้ไม่ได้แล้วค่ะ เดี๋ยวจะสปอยล์เรื่องราว อยากให้ทุกคนติดตามชมด้วยตัวเอง

คิมยองแด: หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นในซีรีส์เรื่องนี้คือ บทสนทนาในเรื่องมันให้ความรู้สึกสมจริงมากๆ ครับ ทั้งบทพูดและฉากต่างๆ ดูเป็นธรรมชาติเหมือนในชีวิตจริง ซึ่งทำให้เรื่องราวเข้าถึงผู้ชมได้ง่ายขึ้นอีก ความรักในเรื่องก็ถ่ายทอดออกมาได้เหมือนจริงมากมันไม่ใช่อะไรที่ผิวเผินหรือเกินจริง แต่มันแสดงให้เห็นแก่นแท้ของอารมณ์ความรู้สึกและผมเชื่อว่าความจริงใจนี้จะโดนใจผู้ชมครับ

คุณซังอีกับคุณจีฮยอน คุณคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้เหมาะกับใครบ้าง

ฮันจีฮยอน: ฉันคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้ เหมาะกับผู้ชมทุกวัยเลยค่ะ เป็นเรื่องราวที่อบอุ่นหัวใจทั้งความรักในครอบครัวและความรักของหนุ่มสาว ที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากๆเลย ฉันคิดว่ามันเป็นซีรีส์ที่ดูด้วยกันได้ทั้งครอบครัว ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่เลยค่ะ

อีซังอี: ความรู้สึกของผมตอนได้อ่านบทครั้งแรก ทำให้ผมอยากจะแนะนำซีรีส์เรื่องนี้ให้คนอื่นได้ชมเลยครับ ในช่วงเวลาที่ท้าทายแบบนี้ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ ตามที่เราเห็นกันบ่อยๆ ในข่าว ผมคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้คุณได้มองความสัมพันธ์และความรักในมุมใหม่ ผู้ชมจะได้กลับไปใคร่ครวญถึงชีวิตของตัวเองและความสัมพันธ์ของตัวเองกับคนรอบข้างอีกครั้ง เป็นซีรีส์ที่ดูสนุกได้ทั้งทุกเพศทุกวัยเลยครับ

ถ้าต้องพูดถึงซีรีส์เรื่องนี้ด้วยคำเพียง 3 คำ คุณจะเลือกคำไหนบ้าง

ฮันจีฮยอน: ‘ชินมินอา’ ‘ความรัก’ ‘ความอบอุ่น’ ยังไงสำหรับฉันต้องมีคำว่า ‘ชินมินอา’ แน่นอนค่ะ

อีซังอี: ‘ความรัก’ ‘ความรัก’ ‘ความรัก’ ครับ เพราะคุณจะได้เห็นความรักมากมายหลายแง่มุมในซีรีส์เรื่องนี้ครับ

คิมยองแด: ‘ความรัก’ ‘ทันสมัย’ ‘สร้างสรรค์’ ผมนึกถึง 3 คำนี้ครับ

ชินมินอา: ‘สนุก’ ‘แสบ’ ‘ซื่อตรง’ ค่ะ

แฟนๆ ในต่างประเทศตั้งตารอคอยซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ประกาศสร้างเลย คุณมีอะไรอยากจะพูดกับพวกเขาบ้าง

คิมยองแด: สำหรับแฟนๆ ในต่างประเทศ ผมมั่นใจมากเลยครับว่าซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และตื่นเต้นสมกับที่รอคอยแน่นอน หวังว่าจะมาลองชมและสนุกกับซีรีส์ของเรากันเยอะๆ นะครับ

ชินมินอา: ฉันรู้สึกขอบคุณมากๆ เลยค่ะ สำหรับความชื่นชอบที่พวกคุณมีต่อซีรีส์เกาหลีและสนับสนุนผลงานของฉันมาตลอดฉันมั่นใจว่า No Gain No Love จะเป็นซีรีส์ที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ นักแสดงทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างหนักเพื่อซีรีส์เรื่องนี้ หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากพวกคุณต่อไปเรื่อยๆ นะคะ

  • กำหนดสตรีม: เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567
  • ตารางการสตรีม: ทุกวันจันทร์และอังคาร (สัปดาห์ละ 2 ตอน)

เรื่องอื่นๆ น่าสนใจ

คุยกับวง PRU กับการรวมตัวครั้งสำคัญในรอบ 20 ปี

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up