คุยกับวง PRU กับการรวมตัวครั้งสำคัญในรอบ 20 ปี

account_circle
event

คุยกับวง PRU กับการรวมตัวครั้งสำคัญในรอบ 20 ปี และเรื่องราวการเดินทางที่น่าจดจำตลอดช่วงเวลาของการเป็นศิลปิน ฟังพี่ๆ เล่าถึงเส้นทางสายดนตรีแล้วเพลินมากกก ใครที่เป็นแฟนเพลง 3 ตำนานวงร็อค “Moderndog” “Pru” และ “Flure” ต้องไม่พลาด Bakery Rock Concert วันที่ 9 พ.ย. 67 ที่ Bitec Live At Bitec นะ

Bakery Rock กับการร่วม 3 วงร็อคระดับตำนาน

สุกี้:  จริงๆ มันมีคอนเซปต์มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว คือถ้าใครจำสมัยเบเกอรี่ มิวสิคได้ จะมีผม บอย โกสิยพงษ์และสมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ ก่อตั้งค่าย บอยเขาจะเน้นทำเพลงรัก สมเกียรติไปทางเพลงแดนซ์ ส่วนผมเพลงร็อค ซึ่งอีก 2 วงที่ผมโปรดิวซ์ภายใต้เบเกอรี่มิวสิค ก็จะมี Moderndog, Flure และมี PRU ของเรา วันนั้นมันก็เลยกลายเป็น Bakery Rock ขึ้นมา และวันนี้เรากำลังจะมีคอนเสิร์ต Bakery Rock ชื่อนี้น่าจะลงตัวที่สุดแล้วครับ

PRU ไม่ได้ขึ้นโชว์เต็มมา 20 ปี ครับ มีบ้างที่ไปเล่นให้นิดๆ หน่อยๆ 2-3 เพลงครับ เราตั้งใจจะทำอัลบั้มใหม่ แต่ก็ไม่เสร็จสักที (ยิ้ม) ความที่ไม่มีค่าย เลยไม่มีใครบังคับให้ต้องรีบ เลยปล่อยไปเรื่อยๆ แต่มีวันหนึ่งผมไปอ่านสัมภาษณ์ วง The Rolling Stones นักร้องนำมิก แจ็กเกอร์ บอกกับวงว่า เขาบุ๊กเวิลด์ทัวร์แล้วนะ เพลงต้องเสร็จ ผมได้ยินแบบนั้น เออ! กู้ดไอเดีย! (หัวเราะ) ผมเลยไปบุ๊กคอนเสิร์ตบ้าง แล้วไปบอกวงว่า เฮ้ยยู! เพลงต้องเสร็จแล้ว เรากำลังมีคอนเสิร์ต (หัวเราะ)

น้อย:  สำหรับหน้อยมันก็พูดได้หลายสิ่งหลายอย่าง ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้ เวลาไปเล่นโชว์ตามงานต่างๆ จะมีนักดนตรีอื่นมาเล่นแบ็คอัพให้ แต่ฟีลลิ่งมันต่างกับเล่นกับสุกี้และยอด เวลาเราเล่น เราซ้อมด้วยกันมันอิมแพ็ค รู้สึกตื่นเต้น

น้อยเชื่อมั่นว่า บนเวที วันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ฟีลลิ่ง เอนเนอร์จี้จะต่างจากที่น้อยเคยเล่นกับวงแบ็คอัพ แต่วงแบ็คอัพน้อยเขาก็น่ารักและเก่งมากๆ เช่นกันครับ ในคอนเสิร์ต Bakery Rock ครั้งนี้ มีสุกี้และยอด และมีกลองอีกคน มันจะพาวเวอร์ฟูลมาก ห่วงตัวเองว่าจะเล่นไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ตั้ง 20 เพลง (หัวเราะ)

ยอด:  ก่อนหน้านี้ผมเล่นได้ไปเล่นให้คนนั้นคนนี้มาบ้าง เล่นเพลงคนอื่น แต่กลับมาเล่นให้ PRU มันเพลงของเราเอง เป็นตัวเรา คอนเสิร์ต Bakery Rock ครั้งนี้ก็เหมือนกลับบ้านครับ

ย้อนกลับไปมองตัวเองตอนอายุ 20 ปี ตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้างคะ

สุกี้:  ตอนอายุ 20 ปี ตอนนั้นผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ผมอยากเป็นนักดนตรีตั้งแต่อายุ 11 ปี  พออายุ 20 ปี ก็ยังคิดแบบนั้นอยู่ สักวันหนึ่งเราะจะเป็นนักดนตรีที่โด่งดัง มันเป็นความฝันของผมตั้งแต่เด็ก โชคดีที่ฝันได้กลายเป็นจริง

น้อย:  ก็เหมือนหลายคนที่อายุ 20 ปี ก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไร เพราะน้อยไม่ได้เข้าวงการเร็ว น้อยเข้าวงการตอนอายุ 31 ปี ต่างจากจากศิลปินคนอื่นๆ ที่เข้ากันมาเร็วตอนอายุ 20 ปี อายุ 20 ปีเราเริ่มรู้ว่าอยากมีเวทีให้ปลดปล่อยอารมณ์ ไม่ว่าจะการแสดง การร้องก็ได้ แต่เรื่องการร้อง การเต้น การทำเพลง

น้อยเพิ่งมาค้นพบตอนอายุ 30 ปี ค่อนข้างเลทเหมือนกันครับ พูดตรงๆ ว่าช่วงอายุ 20 ปี น้อยก็ไม่ได้เป็นคนที่แฮปปี้เท่าไร ไม่มีตัวตน จนได้มาเริ่มต้นทำงานเบื้องหลังที่ Bakery Music และกลายมาเป็นวง PRU ความฝันถึงได้เป็นจริง ซึ่งก็รอนานเหมือนกัน

ยอด:  ตอนอายุ 20 ปี ตั้งใจจะเป็นวิศวกรการบินครับ แต่ชีวิตเปลี่ยน เพราะได้เล่นดนตรี เรียนจนก็มาเป็นวง PRU เลยไม่ได้ไปทำงานทางวิศวกรเลย

น้อย:  ยอดจบธรรมศาสตร์ ได้เกียรตินิยม

ยอด:  ครับ จบเกียรตินิยม อันดับ 1 คือผมได้มาเจอพี่สุกี้ตอนอายุ 20 ปีพอดี จำได้ว่านั่งรถเมล์ จากธรรมศาสตร์ รังสิต ต่อรถสองต่อ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงเพื่อมาซ้อมที่บ้านคุณกมลา คุณแม่ของพี่สุกี้

น้อย:  น้อยเป็นคนคิดเยอะ ค่อยๆ หาสไตล์ของตัวเอง โดยแซวนู่นนี่ แต่ก็ต้องลอง เพราะไม่ลองก็ไม่รู้ แต่วง PRU เรามีแค่ 2 อัลบั้ม แต่อัลบั้มแรกเราเป็น One Album Wonder

สุกี้:  ชุด 2 ออกมาไม่เวิร์ค แต่ผ่านไป 20 ปี มีเพลงที่คนกลับไป วันที่ออกเพลงไม่ดัง แต่มาหลังจากนั้น แต่ผมก็แฮปปี้นะ ที่ออกมา ไม่เวิร์ค แต่ผ่านไปยี่สิบ มันมีเพลงของชุดนั้นที่คนกลับไปฟัง ยูบอกไอเองนะ เค้าเล่นโชว์ไง เขาก็เลยรู้ไง วันทีอ่อกเพลงไม่ได้ดัง แต่มาดังคนรู้จักหลังจากนั้น ซึ่งไอก็แฮปปี้นะ นึกออกยังว่าจะพูดอะไร

น้อย:  คนรู้จักเรา เพลงฮิตมีเยอะ แต่ยังค้นหาตัวเองอยู่ ซึ่งน้อยไม่ได้แฮปปี้ ตรงนี้วงก็รู้ว่า เล่นคอนเสิร์ตเสร็จ น้อยจะไปร้องไห้ เราเป็นร็อค เป็นอัลเทอร์ ยังบอกสุกี้เลยว่า แต่โรมิโอ กับทุกสิ่ง มันป็อบมากเลยนะ แต่เวลาเล่นเรากลายเป็นอัลเทอร์ เป็นร็อค จริงๆ นั่นคือการค้นหาตัวเองที่ค้นพบแล้ว

สุกี้:  สมัยนู้น น้อยเจ็บปวดบ่อย สีหน้าจะออกเลยบนเวที ครั้งหนึ่งไปเล่นแคมบัส ทัวร์ สีหน้าเขาออก ผมถามว่าเป็นอะไร ขาบอกว่าเมื่อกี้มี 3 คน เดินไปเข้าห้องน้ำ ผมบอกว่า “มึงก็ดู 2,000 คนที่ไม่ไปเข้าห้องน้ำสิ ไปดู 3 คนนั้นทำไม”

น้อย:  นักร้องนำยากที่ต้องเอาคนให้อยู่ เดี๋ยวนี้ก็ยังมีความกลัวอยู่ น้อยเป็นโรคกลัวลืมเนื้อร้อง ถึงวันนี้เวลาน้อยคิดมาก เวลาร้องเพลงโรมิโอแอนด์จูเลียต ยังลืมเนื้อเลย น้อยเหมือนเด็กที่อยู่หน้าห้องเรียน ออกไปหน้าห้องเรียนยังสั่นอยู่ ตอนนี้ลดลงบ้าง แต่คิดว่าก็เป็นความสนุกที่ต้องสู้กับมันครับ น้อยไม่ได้เป็นคนมั่นใจเหมือนสุกี้นะ (ยิ้ม)

ยอด:  ผมบอกพี่น้อยเสมอว่า ไม่ต้องกลัว เล่นผิดก็หยุดแล้วเริ่มใหม่ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก

สุกี้:  วงเราก็เป็แบบนี้แหละ เป็นข้อดีนะเพราะคุณไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนเวที เราเป็นวงไม่มีสคริปต์เลย จริงๆ ดนตรีควรเป็นแบบนี้ ขึ้นไปก็ไปลุยกันเลย

ยอด:  พี่น้อยเคยเล่นคอนเสิร์ตแล้วฟันหักด้วยนะ

น้อย:  ฟันหัก ข้อเท้าหัก เอ็นฉีก มีเยอะมาก ชอบบ้าบอ

สุกี้:  หักครั้งแรก ตอนไปที่ ม.เกษตร เวทีสูงมาก คิดว่าถ้าน้อยกระโดด_บหายแน่ แล้วก็กระโดดจริงๆ เล่นอยู่ได้ยินเสียงร้องมาจากข้างล่าง เล่นเสร็จน้อยบอกว่าตอนนั้นยูทำไมไม่หยุด ไอเจ็บอยู่นะ เลยตอบว่า ยูไม่หยุด ไอก็ไม่หยุด

คอนเสิร์ตประทับใจที่ยังจำไม่ลืม

ยอด:  หลายครั้งที่เราไปเล่นกันงานเล็กๆ เอาแอมป์วางไว้ตรงพื้น ไม่มีเครื่องเสียง ไม่มีอะไรมากมาย มีคนดูอยู่ตรงหน้า ผมชอบมากที่สยาม ที่ถนนพระอาทิตย์ ผมชอบเวทีเล็กๆ ผมไม่ค่อยชอบเวทีใหญ่ เพราะไม่เห็นคนดู

น้อย:  งานแฟตครั้งแรก ที่โรงงานยาสูบ ร้อนมาก เหงือไหลเต็มไปหมด แต่สนุกมาก คอนเสิร์ตที่จุฬาฯ ก็สนุก น้อยปีนขึ้นลำโพง มันเป็นอีกโมเมนต์ที่จำได้ไม่ลืม

ความผูกพันระหว่างสมาชิกในวง PRU ยังคงอยู่ แม้จะเหลือสมาชิกเพียง 3 คน

ยอด:  ตอนแรกเจอพี่สุกี้ครั้งแรก เขาว่าผมทำไมไม่ไหว้เขา คือเจอกันตอนนั้นยืนฉี่อยู่ จะยกมือไหว้อย่างไร (หัวเราะ) การเจอกันแบบจริงจังของผมคือ สุกี้เรียกไปคุย วงกำลังหามือเบส เขาเปิดเพลง PRU ให้ฟัง ฟังแล้วรู้สึกเลยว่าน่าทำด้วย

น้อย:  น้อยกับสุกี้เป็นพี่น้อง คณิณก็เป็นเพื่อนกันตั้งเด็ก ส่วนยอดเด็กกว่าพวกเราหนึ่งเจน เมื่อก่อนเขามาแบบเงียบๆ เดี๋ยวนี้เข้าห้องอัดสั่งนู่นสั่งนี่ กลายเป็นรุ่นใหญ่ไปเลย เขาไม่อายแล้ว

สุกี้:  ปกติ PRU มี 4 คน มี ผม น้อย ยอด และคณิณ ครั้งนี้มีแค่ 3 คน ต้องบอกว่างานหลักของคณิณ เขาเป็นผู้กำกับโฆษณา และเวลาทำงานจะไม่เป๊ะ รวมตัวซ้อมให้ตรงกันอาจจะยาก เรารวมตัวซ้อมกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่มันขาดตอนค่อนข้างบ่อย วันหนึ่งคณิณคุยกับผมว่า “สุ ไอขอออกดีกว่า” เราเข้าใจนะ เพราะเขาไม่มีเวลา แล้วเขาก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์ต่อวง มันจะไปข้างหน้าไม่ได้ จะไปเล่นคอนเสิร์ตก็ไม่ว่าง เขาห่วงวงว่า อนาคตถ้าขายโชว์แล้วเขาไม่ว่าง คนอื่นจะขาดโอกาส

ยอด: ทุกคนเข้าใจเขานะ

สุกี้:  แต่ความสัมพันธ์เราไม่ขาดนะ ผมรู้จักคณิณตั้งแต่เขา 9 ขวบ เราโตมาด้วยกัน เป็นเพื่อนกันมาก่อนจะมาเป็นมือกลองให้วง PRU  ยังมีแชทกรุ๊ปคุยกันทุกวัน

น้อย:  ในอนาคตเราอาจจะกลับมาเจอกัน ผมก็ดีใจนะครับที่เขาไม่ได้อยู่ในวง เพราะเขาหล่อมากเลยครับ สมัยก่อนเวลาผมขึ้นเวที ไม่มีใครกรี๊ดเท่าไร เพราะผมแต่งงานแล้ว สาวๆ ก็มักจะกรี๊ดคณิณเสมอ เขาก็รู้นะว่าเค้าหล่อ เขาก็มีมาดของเขา เขาเท่มาก น้อยแซวเล่นๆ นะ (หัวเราะ)

สุกี้:  ตอนนี้ยูหล่อสุด เราแคสมือกลองมาหนึ่งคน ยอดบอกเราเอาคนนี้ไม่ได้ เขาหล่อเขายังเด็ก พี่น้อยแก่แล้ว เราก็เลยไม่เลือก (หัวเราะ)

ความผูกพันระหว่าง PRU กับแฟนเพลง

ยอด:  แฟนเพลงพวกเรามีลูกมีครอบครัวกันหมดแล้วครับ เพจ PRU มีน้องแฟนเพลงช่วยเป็นแอดมินให้ ทุกคนยังอยู่กับพวกเรา และคอนเสิร์ตครั้งนี้หวังว่าทุกคนจะหายคิดถึงกันครับ

สุกี้:  สิ่งที่คิดมาตลอด คือพวกเราเกิดมาในยุคแฟนเบสใหญ่อยู่ในยุคอนาล็อกครับ ผมว่าสมัยนี้ทุกอย่างไปไวมาก บางอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับศิลปินแล้ว โลกเปลี่ยนไปตลอด สมัยนี้มีอะไรให้เลือกเต็มไปหมด สมัยก่อนมีแค่ศิลปิน ดารา ไม่มีอย่างอื่น ทำให้แฟนเบสค่อนข้างแข็งแรง เราโชคดีที่เกิดในยุคนั้น

ส่วนตัวผมจะพูดเสมอว่า เพลงใหม่ที่เราทำอยู่ ผมทำให้แฟนเพลงเก่าๆ ถ้าเด็กรุ่นใหม่ฟังแล้วชอบก็โชคดีไป เรากำลังทำ song list ของ Bakery Rock Concern บางเพลงเราไม่อยากเล่น แต่ก็ต้องเล่นให้แฟนเพลงเก่า คือ “เพลงเริ่มต้นที่เรา แต่ปล่อยออกไปแล้วเป็นของคนฟัง” เราต้องคำนึงถึงคนฟังด้วย อีกอย่างที่อยากพูดตลอดเลยว่า มุมมองของศิลปิน แฟนเพลงสำคัญสุด ถ้าไม่มีแฟนเพลง เราก็ไม่มีตัวต้น แฟนเพลงมีค่าและสำคัญกับเรามาก ไม่มีเขาไม่มีเรา

Text: AuAi
Photo: เนาวพจน์

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

the other side โซโล่อัลบั้มแรก ที่บันทึกเรื่องราวและก้นบึ้งความรู้สึกตลอด 10 ปี ของมาร์ค ต้วน

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up