Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน - 岁岁青莲- ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคปี 2023 - ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนย้อนยุค -นักแสดงจีน -ดาราจีน -นักแสดงฮ่องกง -นักแสดงไต้หวัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน

ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Xifei’s Royal Love in the Palace ที่รวมตัวนักแสดงที่หลายคนคิดถึงไว้เพียบ!

Alternative Textaccount_circle
event
Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน - 岁岁青莲- ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคปี 2023 - ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนย้อนยุค -นักแสดงจีน -ดาราจีน -นักแสดงฮ่องกง -นักแสดงไต้หวัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน
Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน - 岁岁青莲- ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคปี 2023 - ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนย้อนยุค -นักแสดงจีน -ดาราจีน -นักแสดงฮ่องกง -นักแสดงไต้หวัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ ชวนดูซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Xifei’s Royal Love in the Palace ที่รวบรวมนักแสดงทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกงที่หลายคนคิดถึงไว้ในเรื่องเดียว!

อีกหนึ่งซีรี่ย์จีนที่ออนแอร์ในเดือนต.ค. 2023 และน่าติดตามไม่แพ้เรื่องอื่นๆ คือ Xifei’s Royal Love in the Palace หรือชื่อไทย ตำนานรักชิงเหลียน ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/ดราม่าที่ดัดแปลงบทจากนิยายออนไลน์จีนของนักเขียนเจี่ยอวี่ (Jie Yu) ซึ่งเป็นซีรี่ย์ที่ถ่ายทำไปตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 แต่เพิ่งจะได้ฤกษ์มาออนแอร์วันที่ 23 ต.ค. 2023 ที่ผ่านมา โดยเป็นซีรี่ย์จีนที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของเฮ่อเหลียนซิ่นและลั่วชิงเหลียนเป็นเส้นเรื่องหลัก เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นในเมืองฉวี่เหลียง ลั่วชิงเหลียนที่กำลังฝังใจอยู่กับคนรักในวัยเด็กของเธออย่างหลู่เป่ยอี้ แต่เหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อเธอถูกบังคับให้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกเป็นคนรับใช้ในพระราชวัง และบังเอิญได้กลายเป็นนางสนมในวังขององค์ชายสาม เหอเหลียนซิ่น

ขณะที่ลั่วชิงเหลียนและเฮ่อเหลียนซิ่นได้ใช้เวลาร่วมกัน และผ่านพ้นช่วงเวลาขึ้นๆ ลงๆ ไปด้วยกัน ทั้งสองคนก็ค่อยๆ เดินบนทางสายเดียวกัน ร่วมกันรักษาอุดมการณ์ ความมุ่งมั่นเพื่อรักษาธรรมาภิบาลที่ดีเพื่อประเทศชาติ

Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน  - 岁岁青莲

ในเรื่องXifei’s Royal Love in the Palace ตำนานรักชิงเหลียน คู่พระ-นางได้นักแสดง นักร้องไต้หวันรุ่นใหญ่อย่างเหอรุ่นตง (He Rundong หรือ Peter Ho) เจ้าของผลงานซีรี่ย์ไต้หวันสุดฮิตตลอดกาลอย่าง Summer Desire รักฉบับฤดูร้อน (2010) และเหอหงซาน (He Hongshan) นักแสดงหญิงจีนที่เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Ruyi’s Royal Love in the Palace (2018), Legend of the Phoenix ประกาศิตหงสา (2019) เป็นต้น

Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน  - 岁岁青莲
Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน  - 岁岁青莲

นอกจากนี้ยังมีอีก 2 สาวสวยที่หลายคนน่าจะคิดถึงกัน นั่นคือ หวงเซิ่งอี (Huang Shengyi หรือ Eva Huang) นักแสดงหญิงจีนตัวแม่ที่ก่อนหน้านี้มีผลงานจัดจ้านทั้งจอเงินและจอแก้ว อาทิ The Royal Swordsmen (2005), Sword Stained with Royal Blood (2007), ภาพยนตร์ Kung Fu Hustle (2004), The Sorcerer and the White Snake (2011) เป็นต้น ซึ่งถ้าหากใครที่ติดตามหนังจีนมานานน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอดี นอกจากนี้ยังมีนักแสดง นักร้องหญิงฮ่องกงอย่างโจวลี่ฉี (Zhou Liqi หรือ Niki Chow LaiKei) เจ้าของผลงานซีรี่ย์ฮ่องกงสุดคลาสสิก Under the Canopy of Love (2005), The Seventh Day (2008), Rogue Emperor (2016) เป็นต้น ซึ่งนานๆ จะมาร่วมแสดงในซีรี่ย์จีนฝั่งแผ่นดินใหญ่สักที แฟนๆ ไปติดตามกันได้จ้าในซีรี่ย์จีนXifei’s Royal Love in the Palace ตำนานรักชิงเหลียน

Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน  - 岁岁青莲

รูปจาก : 剧集岁岁青莲

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

ตามเก็บ 2 ซีรี่ย์จีนของซ่งเวยหลงในปี2023 หลังปล่อยผลงานใหม่ชวนลุ้นระทึก!

2 ซีรี่ย์จีนของไป๋จิ้งถิงในปี2023 มาครบทั้งแนวย้อนยุคและปัจจุบัน!

น่าดู! Scent Of Time ซีรี่ย์จีนแนวทะลุมิติที่นางเอกอยู่ในร่างตัวร้าย!

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ร่วมงานแสดงเกาหลี-ญี่ปุ่น การันตีความฮอตทั่วเอเชีย!

5 ซีรี่ย์จีนยังไม่ได้ออนแอร์ของหลิวอวี่หนิง ฉายแววปังทุกเรื่อง!

หวานไม่ไหว! หลินอี-หลิวฮ่าวฉุน ส่งเคมีคู่จิ้นชวนตั้งตารอซีรี่ย์จีน Derailment !

ซูมอิน หวงรื่ออิ๋ง นักแสดงหญิงจีนที่ไม่ว่าจะบทคอเมดี้ ดราม่าก็เอาอยู่!

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

Weaving a Tale of Love 2 - 风起西州- ตำนานรักช่างภูษา - Weaving a Tale of Love -风起霓裳- สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha - นักแสดงจีน - ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - ซีรี่ย์จีนภาคต่อ - ซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023

Weaving a Tale of Love 2 ซีรี่ย์จีนภาคต่อของสวี่เว่ยโจว-กู่ลี่นาจา!

Alternative Textaccount_circle
event
Weaving a Tale of Love 2 - 风起西州- ตำนานรักช่างภูษา - Weaving a Tale of Love -风起霓裳- สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha - นักแสดงจีน - ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - ซีรี่ย์จีนภาคต่อ - ซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023
Weaving a Tale of Love 2 - 风起西州- ตำนานรักช่างภูษา - Weaving a Tale of Love -风起霓裳- สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha - นักแสดงจีน - ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - ซีรี่ย์จีนภาคต่อ - ซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023

สุดฯ ชวนดู Weaving a Tale of Love 2 ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกภาคต่อ พระ-นางได้คู่จิ้นคู่เดิม สวี่เว่ยโจว-กู่ลี่นาจา มาร่วมกันสานต่อเคมีสุดปัง!

สำหรับใครที่เป็นแฟนซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก สุดฯ เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยได้รับชม Weaving a Tale of Love หรือชื่อไทย ตำนานรักช่างภูษา ที่ออนแอร์เมื่อปี 2021 กันมาแล้วไม่มากก็น้อย โดยเป็นซีรี่ย์ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังเรื่อง ต้าถังหมิงเยว่ (Da Tang Ming Yue) ของนักเขียนหลานอวิ๋นชู (Lan Yunshu) ที่บอกเล่าเรื่องราวของคู่ตี๋หลิวหลี หญิงสาวที่มีพรสวรรค์ด้านการทำเสื้อผ้าจากแม่ของเธอ แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับแม่ของเธอ ทำให้หลิวหลีต้องเอาชีวิตรอดโดยปลอมตัวเป็นชายและใช้ชีวิตแบบนั้นไปสักระยะหนึ่ง จนได้พบกับเผยสิงเจี่ยน ชายหนุ่มที่มีความกล้าหาญ ไหวพริบ ฉลาดหลักแหลมจนได้เป็นศิษย์ของแม่ทัพใหญ่ของราชวงศ์ในสมัยต้าถัง และได้กลายเป็นองครักษ์ขององรัชทายาทด้วย

风起霓裳- สวี่เว่ยโจว  -  ทิมมี่ สวี่  -  Timmy Xu  -  Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา  -  Gulinazha

แต่เรื่องราวภายในราชวงศ์ที่โกลาหลเพราะมีผู้ไม่หวังดีมุ่งหมายจะยึดบัลลังก์จากองค์รัชทายาท ทั้งหลิวหลีและเผยสิงเจี่ยนค่อยๆ ร่วมมือร่วมใจกันปกป้องราชวงศ์และค่อยๆ ช่วยกันตามหาความจริงจนทวงคืนความยุติธรรมให้กับแม่ของหลิวหลีได้สำเร็จ ท้ายที่สุดเผยสิงเจี่ยนและหลิวหลีก็ได้ครองรักกัน… ซึ่งใครที่ยังไม่ได้ดูสามารถไปตามเก็บ Weaving a Tale of Love ตำนานรักช่างภูษาย้อนหลังกันได้ค่า

风起霓裳- สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha

หลังจากส่งความสำเร็จในภาคแรกไปเมื่อปี 2021 เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี ในปี 2023 นี้ ซีรี่ย์จีนWeaving a Tale of Love 2 ก็ได้ฤกษ์ลงจอออนแอร์แล้วจ้าเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2023 โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตหลังแต่งงานของเผยสิงเจี่ยนและคู่ตี๋หลิวหลี ที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตสามีภรรยาที่เข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี หลังจากเผยสิงเจี่ยนถูกลดขั้นจนถูกขับไล่ให้ไปรับตำแหน่งที่เมืองเล็กๆ อย่างซีโจว หลิวหลีก็ติดตามสามีของเธอไป แต่หลังจากเดินทางไปถึงเมืองซีโจว เผยสิงเจี่ยนกลับถูกต่อต้านจากคนในพื้นที่ แต่สองสามีภรรยาก็ไม่ยอมแพ้ มุ่งมั่นทำความดีให้ผู้คนจนได้รับการยอมรับในที่สุด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามกันได้ค่า

สวี่เว่ยโจว  -  ทิมมี่ สวี่  -  Timmy Xu  -  Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา  -  Gulinazha  - Weaving a Tale of Love 2 -  风起西州

ในเรื่องWeaving a Tale of Love 2 ยังได้คู่จิ้นพระ-นางจากภาคแรกมารับบท นั่นคือ สวี่เว่ยโจว (Xu Weizhou หรือ ทิมมี่ สวี่/Timmy Xu) นักร้อง นักแสดงวัย 29 ปี เจ้าของผลงานสุดฮิต เช่น ซีรี่ย์จีนแนววาย Addicted ร้ายนักรักเสพติด (2016), Midsummer Is Full of Hearts รักวุ่นๆ ในฤดูร้อน (2020), City of Streamer วังวนรักหลังม่านเมืองมายา (2022) เป็นต้น มาประกบคู่กับนักแสดงหญิงรุ่นพี่ กู่ลี่นาจา (Gulinazha) วัย 31 ปีที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีน Fighter of the Destiny (2017), Weaving a Tale of Love (2021), Twelve Legends (2021), Dancing In The Storm (2021) เป็นต้น ดังนั้น แฟนๆ ที่ชื่นชอบเคมีของคู่สวี่เว่ยโจวและกู่ลี่นาจาพลาดไม่ได้ทั้ง 2 ภาคเลยนะคะ Weaving a Tale of Love 2 ออนแอร์ทางแพลตฟอร์ม YOUKU จ้า

สวี่เว่ยโจว  -  ทิมมี่ สวี่  -  Timmy Xu  -  Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา  -  Gulinazha  - Weaving a Tale of Love 2 -  风起西州
สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha - Weaving a Tale of Love 2 - 风起西州

รูปจาก : 风起西州官微

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ลงจอแย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียต้นเดือนพ.ย. 2023!​

2 ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 ประกบคู่พระเอกสุดฮอตส่งต่อเคมีสาธารณะ!

ซีรี่ย์จีน Rising With the Wind เมื่อความขัดแย้งทางธุรกิจมาพร้อมความรัก!

หลัวอวิ๋นซีคัมแบ็คซีรี่ย์จีน Love Is Panacea ทีมเมียเตรียมฟินให้ใจฟู!!

ซีรี่ย์จีนย้อนยุคของถังเยียน ในรอบ 3 ปี ออร่าเปล่งประกายไม่เปลี่ยน!

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

ซูมอิน หวงรื่ออิ๋ง นักแสดงหญิงจีนที่ไม่ว่าจะบทคอเมดี้ ดราม่าก็เอาอยู่!

ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนเดือนพ.ย. - ซีรี่ย์จีน- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน - นักแสดงซีรี่ย์จีน - พระเอกจีน- พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน- ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ลงจอแย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียต้นเดือนพ.ย. 2023!​

Alternative Textaccount_circle
event
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนเดือนพ.ย. - ซีรี่ย์จีน- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน - นักแสดงซีรี่ย์จีน - พระเอกจีน- พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน- ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนเดือนพ.ย. - ซีรี่ย์จีน- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน - นักแสดงซีรี่ย์จีน - พระเอกจีน- พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน- ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ พาตามกรี๊ด 3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ทั้งหลัวอวิ๋นซี – หวังเฮ่อตี้ – สวีข่าย หลังทยอยลงจอรับต้นเดือนพ.ย. 2023 แย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียแบบไม่มีใครยอมใคร!! มีเรื่องไหนบ้างตามสุดฯ มาดูกันจ้า

  • Love Is Panacea ให้รักเยียวยากัน
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป -  Love Is Panacea -  ให้รักเยียวยากัน - 治愈系恋人

ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป เรื่องแรกสุดฯ ขอเปิดด้วยเรื่อง Love Is Panacea ให้รักเยียวยากัน ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกของหลัวขวัญใจสาวๆ หลัวอวิ๋นซี (Luo Yunxi) เจ้าของผลงานสุดฮิต เช่น And The Winner Is Love ไฟผลาญจันทร์ (2020), Love Is Sweet ครึ่งทางรัก (2020), Till The End of The Moon จันทราอัสดง (2023) ฯลฯ ที่เพิ่งจะออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2023 ประกบคู่กับนักแสดงหญิงจีนรุ่นน้อง จางรั่วหนาน (Zhang Ruonan) ที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีน เช่น Everyone Wants To Meet You ใครๆ ก็อยากพบเธอ (2020), A Date with the Future พบรักที่ปลายสัญญา (2023) เป็นต้น โดยซีรี่ย์เรื่อง Love Is Panacea ให้รักเยียวยากัน บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับซูเหวยอัน นักศึกษาแพทย์ที่มีโรคประจำตัวที่หายาก และได้พบกับกู้อวิ๋นเจิง คุณหมอหนุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมระบบประสาท ทั้งสองคนเริ่มต้นความสัมพันธ์จากการเป็นอาจารย์ลูกศิษย์ที่มักจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก แต่สุดท้ายก็สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ กลายเป็นคู่หูในชีวิตและการทำงาน… ใครยังไม่ได้ตาม ไปเก็บกันได้ที่ YOUKU นะคะ

Luo Yunxi - หลัวอวิ๋นซี -Love Is Panacea - ให้รักเยียวยากัน - 治愈系恋人
  • Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - Only for Love- จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก -以爱为营

ต่อด้วยซีรี่ย์จีนเรื่อง Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก ของอีกหนึ่งความหวังของสาวๆ อย่างหวังเฮ่อตี้ หรือ ดีแลน หวัง (Wang Hedi/Dylan Wang) เจ้าของบทเต้าหมิงซื่อในซีรี่ย์จีนรีเมคจากซีรี่ย์ไต้หวัน Meteor Garden รักใสๆ หัวใจสี่ดวง เวอร์ชั่น 2018 หรือ F4 ที่ออนแอร์ 3 พ.ย. 2023 โดยแท็กทีมนางเอกจีนเคมีสาธารณะอย่างไป๋ลู่ (Bai Lu) จากซีรี่ย์จีนเรื่อง The Legends เจาเหยา จอมมารโลกต้องจำ (2019), One and Only ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม ภาคอดีต (2021), Forever and Ever ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม ภาคปัจจุบัน (2021) เป็นต้น มาร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของนักข่าวสายการเงินและนักธุรกิจที่เริ่มต้นรู้จักกันจากการได้สัมภาษณ์ และทั้งคู่ต่างสร้างความประทับใจให้แก่กันและกันได้อย่างลึกซึ้ง และเมื่อวันเวลาผ่านไปความรักก็ค่อยๆ ก่อเกิดตัวขึ้น… ซึ่งในเรื่อง Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก นอกจากคู่พระ-นางอย่างดีแลน หวังกับไป๋ลู่แล้ว ยังมีคู่รองอีก 2 คู่ที่เคมีน่าตามไม่แพ้กัน นั่นคือคู่ของเว่ยเจ๋อหมิง (Wei Zheming หรือ Miles Wei)เสิ่นอวี่เจี๋ย (Shen Yujie) และหลิวตงชิ่น (Liu Dongqin)เจียงเพ่ยเหยา (Jiang Peiyao) ไปติดตามความสนุกกันเต็มๆ ได้ที่ซีรี่ย์จีน Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก นะคะ

Only for Love- จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก -以爱为营
  • Wonderland of Love พสุธารักเคียงใจ
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - Wonderland of Love - พสุธารักเคียงใจ -乐游原

อีกเรื่องที่ไม่น่าพลาดในช่วงต้นเดือนพ.ย. 2023 นี้ นั่นคือ Wonderland of Love พสุธารักเคียงใจ ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนในชื่อเรื่องเดียวกันของนักเขียนเจ้าของนามปากกา เฝ่ยหว่อซือฉุน (Fei Wo Si Cun) ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหลี่อี๋ องค์รัชทายาทและชุยหลิน แม่ทัพหญิงที่แอบปลอมตัวเป็นชาย โดยไม่ให้ใครรู้ พวกเขาค่อยๆ เรียนรู้กันและกัน ร่วมกันสู้ศึกต่อกรกับเหล่าศัตรู โดยพระเอกได้สวีข่าย (Xu Kai) พระเอกจาก The Legends เจาเหยา จอมมารโลกต้องจำ (2019), She and Her Perfect Husband กฎล็อกลิขิตรัก (2022) มาประกบคู่กับจิ่งเถียน (Jing Tian) จากเรื่อง The Glory of Tang Dynasty ศึกชิงบัลลังก์ราชวงศ์ถัง ภาค 1-2 (2017), Rattan ครึ่งปีศาจซือเถิง (2021) พร้อมด้วยหลิวอวี่หนิง (Liu Yuning) ก็มาร่วมแสดงด้วย บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องในเดือนพ.ย.นี้ที่พลาดไม่ได้จริงๆ ค่ะ ออนแอร์วันที่ 6 พ.ย.นี้ทาง WeTV

Wonderland of Love - พสุธารักเคียงใจ -乐游原

รูปจาก : 乐游原官微/以爱为营官方微博/电视剧治愈系恋人

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

2 ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 ประกบคู่พระเอกสุดฮอตส่งต่อเคมีสาธารณะ!

ซีรี่ย์จีน Rising With the Wind เมื่อความขัดแย้งทางธุรกิจมาพร้อมความรัก!

หลัวอวิ๋นซีคัมแบ็คซีรี่ย์จีน Love Is Panacea ทีมเมียเตรียมฟินให้ใจฟู!!

ซีรี่ย์จีนย้อนยุคของถังเยียน ในรอบ 3 ปี ออร่าเปล่งประกายไม่เปลี่ยน!

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

หวานไม่ไหว! หลินอี-หลิวฮ่าวฉุน ส่งเคมีคู่จิ้นชวนตั้งตารอซีรี่ย์จีน Derailment !

สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

ผ่อนคลายไปกับ Jet Lag Recovery Treatment @ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

account_circle
event
สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล
สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

สุดสัปดาห์ พาไปรีวิว Jet Lag Recovery Treatment คอร์สนวดตัว+ศีรษะสุดหรูหราที่ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล บอกเลยว่าไม่ต้องมีอาการเจ็ทแล็กจากการนั่งเครื่องบินก็นวดได้ เพราะมันช่างผ่อนคลายเส้นสายทั่วร่าง เหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานจนเส้นตึงเป็นอย่างยิ่ง

สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล
บรรยากาศในส่วนต้อนรับ

สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล ตั้งอยู่บนชั้น 36 โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เรียกว่าใจกลางเมืองเลย ใครเหนื่อยล้าจากออฟฟิศ ต้องการการฮีลแบบด่วนๆ นั่งบีทีเอสแว่บมานวดสักแป๊บแล้วค่อยกลับไปทำงานต่อได้สบาย ส่วนใครที่พอมีเวลาแนะนำให้มาตอนเย็นแล้วบวกเวลาอีกสักชั่วโมง เพราะที่นี่เราสามารถใช้ Facilities ของฟิตเนสโรงแรมได้ด้วย เช่น สามารถไปใช้ห้องซาวน่าหรือห้องสตีมก่อนหรือหลังนวดได้ ไหนๆ มาแล้วก็ใช้เวลากับตัวเองให้เต็มที่ ผ่อนคลายให้สุดไปเลย

บรรยากาศบนชั้น 36 ของโรงแรมเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และผ่อนคลาย มองออกไปเห็นวิวกรุงเทพเต็มตา ในช่วงเย็นพอแดดเริ่มโรยแสงพนักงานจะเปิดม่านให้เราชมสีสันของกรุงเทพยามค่ำคืน นวดไปมองวิวสวยๆ ไป ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

InterContinental Spa
บรรยากาศในส่วนพักผ่อนของสปา

รีวิว Jet Lag Recovery Treatment

สำหรับทรีตเมนต์ที่เราจะรีวิววันนี้คือ Jet Lag Recovery Treatment (120 นาที) ซึ่งเป็นการนวดตัวแบบบาหลีผสานกับการนวดศีรษะแบบอินเดีย ซึ่งไม่ได้เหมาะกับคนที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับหนุ่มสาวทำงานอีกด้วย

การนวดตัวแบบบาหลีเป็นการผสมผสานการนวดแบบกดจุดเข้ากับเทคนิคการนวดน้ำมันที่ช่วยให้เกิดความสมดุลของร่างกาย บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เราชอบที่ Therapist ลงน้ำหนักมือไล่ไปตามเส้นมากกว่าบีบหรือขยำ และจะเบากว่าการรีดเส้นแบบนวดไทย ดังนั้นจึงให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลายเส้นสายที่ตึงจากการทำงานหรือการเดินทางไกลโดยไม่เจ็บเท่า

นวดศีรษะแบบอินเดีย Spa InterContinental
Shirodhara หรือการรินน้ำมันอุ่นลงบนศีรษะ

หลังจากนวดตัวจะเป็นการนวดศีรษะแบบอินเดียผสานกับชิโรดารา (Shirodhara) …ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คร่ำเคร่งกดดันกับการทำงานจนรู้สึกตึงตั้งแต่ไหล่ผ่านคอไปจนถึงศีรษะ อยากแนะนำตัวนี้ เพราะเขาจะรินน้ำมันอุ่นๆ ลงตรงกลางศีรษะและตามแสกผม จากนั้นจะนวดหนังศีรษะด้วยน้ำหนักกำลังดี สลับกับการคลึงด้วยลูกประคบจุ่มน้ำมันอุ่นร้อน (สำหรับบางคนอาจะรู้สึกร้อนไป แจ้งปรับอุณหภูมิได้) ซึ่งทำให้เรารู้สึกสบายหนังศีรษะ คลายความปวดตึงได้ดี คืนนั้นกลับบ้านหลับสบายด้วยค่ะ

นวดศีรษะแบบอินเดีย Spa InterContinental  2
ช่วงคลึงลูกประคบรู้สึกสบายศีรษะมาก

Therapist ที่นวดให้เราน้ำหนักมือดี จังหวะนวดลื่นไหล ในจุดที่ขอให้เน้นก็น้ำหนักมือถึง และสามารถกลับมานวดน้ำหนักปกติในจุดอื่นได้

(สำหรับทรีตเมนต์นี้หลังทำเสร็จศีรษะจะมัน อาจต้องเผื่อเวลาสระผม หรือถ้าไม่รีบไปไหน แนะนำให้เข้าห้องสตีมต่อสัก 10-15 นาที จะได้เสริมให้น้ำมันบำรุงผมและผิวด้วย)

รีวิวสปาในภาพรวม

เราชอบโลเคชั่นใจกลางเมือง เดินทางสะดวก แต่เมื่อเข้าไปในบริเวณสปาจะกลายเป็นบรรยากาศที่สงบ เงียบ และไม่มืดทึมจนเกินไป ห้องนวดสวยงามมองเห็นวิวเมืองจากมุมสูงจึงยังคงความรู้สึกส่วนตัว มีทั้งห้องทรีตเมนต์เดี่ยว ห้องทรีตเมนต์คู่ ห้องทรีตเมนต์แบบคู่พร้อมอ่างจากุชชี่ และห้องนวดไทย ภายในสปากลิ่นหอมสบายใจ ไม่อวลกลิ่นสมุนไพรจนอึดอัด เรียกว่าบรรยากาศ แสง เสียง กลิ่น ล้วนส่งให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจ

นวดศีรษะแบบอินเดีย Spa InterContinental  3
ห้องทรีตเมนต์แบบคู่ พร้อมอ่างจากุชชี่

ผลิตภัณฑ์นวดตัวที่นี่ใช้ของ HARN ซึ่งเป็นแบรนด์ที่การันตีคุณภาพและกลิ่นอยู่แล้ว โดยมีน้ำมันนวด 4 กลิ่นให้เลือก หอมมีเอกลักษณ์ทุกกลิ่นจนเลือกไม่ถูก ถ้าใครตามมานวดก็น่าจะประสบปัญหารักพี่เสียดายน้องเหมือนเรา ส่วนการนวดหน้าใช้ผลิตภัณฑ์จาก ELEMIS

สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล
ห้องทรีตเมนต์เดี่ยว

Jet Lag Recovery Treatment มีให้บริการทุกวันที่ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 23.00 น.  ราคาท่านละ 5,500++ บาท

จองทรีตเมนต์ได้ที่สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โทร: 66 (0) 2 656 0444 ต่อ 6288 และ 6289 อีเมล: [email protected] หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มติมได้ที่ www.bangkok.intercontinental.com  

Text: Nicharee W.

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

ชวนคนรักน้ำหอมทำความรู้จัก Le Labo City Exclusive

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

เลอ ลาโบ

Le Labo เปิดตัว LAVANDE 31 ตีความ “ลาเวนเดอร์” ในมิติใหม่อย่างคาดไม่ถึง ..สมการรอคอยกว่า 2 ปี

account_circle
event
เลอ ลาโบ
เลอ ลาโบ

เลอ ลาโบ เปิดตัว LAVANDE 31 น้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุด ชวนค้นหามิติใหม่แห่งลาเวนเดอร์ที่ยังไม่เคยมีใครได้สัมผัส นับว่าสมการรอคอยกลิ่นใหม่จากแบรนด์นี้กว่า 2 ปี …งานนี้คนรักน้ำหอมต้องไปพิสูจน์!

Le Labo - LAVANDE 31

เมื่อเร็วๆ นี้ เลอ ลาโบ ( Le Labo ) ได้เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุด LAVANDE 31 เติมเต็ม Classic Collection ที่ทุกคนรอคอยกลิ่นใหม่มากว่า 2 ปี นำเสนอกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบไร้เงาดอกลาเวนเดอร์เดิมๆ ที่ทุกคนคุ้นเคย มอบกลิ่นหอมสดชื่นแบบมีมิติชวนค้นหา โดยในอีเวนต์เปิดตัวทางแบรนด์ได้พิสูจน์ความเป็นมิติใหม่ด้วยการให้ผู้ร่วมงานดมกลิ่นน้ำหอมขวดนี้แล้ววาดสิ่งที่รู้สึกออกมา ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้นึกถึงลาเวนเดอร์!

Le Labo - LAVANDE 31
ดิสเพลย์ที่สื่อถึงส่วนผสมใน LAVANDE 31

ทั้งนี้ เพราะ LAVANDE 31 มอบกลิ่นหอมเอกลักษณ์ที่ได้ทลายกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ในจินตนาการแบบเดิมๆ ของทุกคนลงทั้งหมด โดยคัดสรรดอกลาเวนเดอร์แบบตูมเท่านั้น เพื่อสร้างมิติของกลิ่นที่เข้มข้น ผสาน Essential oils จาก Bergamot และ Neroli เติมความสดชื่นบางเบา เพื่อเสริมกลิ่นลาเวนเดอร์อันโดดเด่น โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของกลิ่นฉบับ Le Labo ด้วยกลิ่นโน๊ตในแบบอำพัน (Ambery), มีความ Dirty และกลิ่นหอมแบบมัสกี้ (Musky) ที่ผสมผสานกับ Tonka เพื่อให้น้ำหอมนี้ออกมามีสไตล์ที่คลาสสิกแบบย้อนยุคที่ทั้งสะอาดและเปรอะเปื้อน เพิ่มมิติความน่าค้นหาอยู่ในคราวเดียว เป็นสไตล์ที่น่าจดจำ แต่ก็แฝงไว้ด้วยเอกลักษณ์ในตัวเองที่แตกต่างและแท้จริง

Le Labo - LAVANDE 31
LAVANDE 31 น้ำหอมกลิ่นล่าสุดใน Classic Collection จาก Le Labo

LAVANDE 31 มาพร้อมแรงบันดาลใจล่าสุดอย่างภาพห้องน้ำติดวอลเปเปอร์ของคุณยายที่มีสบู่ก้อนสีม่วงวางอยู่ข้างอ่างล้างหน้า หรือร้านตัดผมแนววินเทจที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์ผสมกับโอ๊คมอสอบอวลไปทั่วทั้งร้าน

Le Labo เปิดตัว LAVANDE 31
การติดฉลากแบบ Handmade อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Le Labo

วางจำหน่ายพร้อมบริการสลักชื่อแบบ Personalized และติดฉลากแบบ Handmade ที่ Le Labo ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดย LAVANDE 31 มาในหลากหลายขนาดตั้งแต่ 1.5 ml. / 15 ml. / 50 ml. ไปจนถึง 100 ml. และ Travel Tube Set ขนาด 10 ml. จำนวน 3 หลอด

เลอ ลาโบ ลาเวอนเดอร์ 31
น้ำหอม Le Labo LAVANDE 31 ขนาด 100 ml. 50 ml. และ 15 ml.

รู้จัก เลอ ลาโบ

Le Labo เป็นน้ำหอมนิชสัญชาติฝรั่งเศสอันโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของความเป็น Slow perfume ที่ไม่กำหนดวันและเวลาในการวางขายน้ำหอมกลิ่นใหม่ ปล่อยวางความรีบร้อนเพื่อเฝ้ารอฤดูกาลแห่งวัตถุดิบให้เบ่งบานในห้วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้รับการคัดสรรมาปรุงน้ำหอมกลิ่นยูนีคไม่เหมือนใครครองใจผู้คนมาแล้วทั่วโลก …ความ Slow perfume นี้เห็นได้จากกลิ่นใหม่ LAVANDE 31 ที่เปิดตัวห่างจากกลิ่นก่อนหน้ากว่า 2 ปีเลยทีเดียว

เลอ ลาโบ
สัมผัสความเท่และมีเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ได้ตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงบรรยากาศด้านใน

นอกจากน้ำหอมใน Classic Collection แล้ว Le Labo ยังมีน้ำหอมในกลุ่ม City Exclusive ที่วางขายเฉพาะเมืองนั้นๆ เช่น เมืองโตเกียวจะมีกลิ่นพิเศษที่ชื่อว่า GAIAC 10 ซึ่งขายเฉพาะที่โตเกียวเท่านั้น แต่เฉพาะในเดือนกันยายนของทุกปี ทาง เลอ ลาโบ จะวางขาย City Exclusive จากทั่วโลกในทุกช็อปและทางออนไลน์ด้วย

Le Labo เปิดตัว LAVANDE 31

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

ชวนคนรักน้ำหอมทำความรู้จัก Le Labo City Exclusive

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

เขื่อน - ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

แง่คิดในการ “วางใจ” และ “ความสมดุล” จาก เขื่อน-ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

account_circle
event
เขื่อน - ภัทรดนัย เสตสุวรรณ
เขื่อน - ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

ในโอกาสที่ lululemon จับมือ นักจิตอายุรเวทและเซเลบริตี้ชื่อดังของไทย เขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ จัดอีเวนต์เสริมสร้างสุขภาวะสุดสัปดาห์เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา สุดสัปดาห์จึงได้พูดคุยกับเจ้าตัวเกี่ยวกับการดูแลสุขภาวะจิตใจของคนในยุคนี้ที่ค่อนข้างกดดันจากสภาพแวดล้อมต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดียด้วย

ก่อนอื่นขอพูดถึงกิจกรรมครั้งนี้สักเล็กน้อยว่าได้จัดขึ้นหลังจากที่มีการเผยแพร่รายงานสุขภาวะที่ดีระดับโลก (Global Wellbeing Report) ประจำปี 2566 ของ lululemon ซึ่งชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ ทางจิตใจ หรือทางสังคม ล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งไม่ให้ผู้คนในประเทศไทยมีสุขภาวะที่ดี รายงานฉบับนี้เผยการค้นพบที่สำคัญ ได้แก่

  • เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ คนไทยมีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าตนมีพื้นที่ทางกายภาพสำหรับออกกำลังกายในละแวกบ้านน้อยกว่า โดย Gen Z เป็นกลุ่มช่วงวัยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง Gen Z เกือบ 3 ใน 4 จึงหันไปเข้าร่วมโครงการส่งเสริมสุขภาพต่างๆ ในคอมมูนิตี้
  • ผู้ชายไทยมากกว่าครึ่งหวังว่าตนจะไม่ถูกมองในแง่ลบเมื่อแสดงออกว่าอยากยกระดับสุขภาพจิตของตนเอง
  • นอกจากนี้ Gen Z กว่า 2 ใน 3 ในประเทศไทยยังหวังที่จะแสดงออกถึงสิ่งที่พวกเขารู้สึกจริงๆ มากกว่าที่จะต้องแสร้งเป็นว่าสบายดี
  • LGBTQ+ ในประเทศไทยค่อนข้างรู้สึกหมดพลังที่จะนึกถึงเรื่องสุขภาวะที่ดีของตนเอง
  • คนไทยมากกว่าครึ่งรู้สึกกดดันที่ต้องแสร้งทำเป็นมีความสุข และเกือบ 3 ใน 5 รู้สึกว่าแรงกดดันที่บังคับให้ต้องทำตามบรรทัดฐานทางสังคมส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต และส่งผลให้เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวทางสังคมและความเหงา
lululemon
เขื่อน – ภัทรดนัย และ ภพ – ไตรภพ เหล่าอุดม แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ lululemon ประเทศไทย

จากรายงานดังกล่าวจะเห็นได้ว่าคนในยุคนี้ค่อนข้างอยู่ในภาวะกดดันจากหลายๆ ด้าน เราจึงได้พูดคุยกับคุณเขื่อนถึงการดูแลและบาลานซ์จิตใจของตัวเองท่ามกลางสภาวะต่างๆ

…มาพบกับแง่คิดดีๆ จากบทสัมภาษณ์ที่จะช่วยจุดประกายเชิงบวกให้กับเรากันค่ะ

ในสังคมไทยที่เราต้องดูแลทั้งคุณพ่อคุณแม่และดูแลครอบครัวตัวเองไปพร้อมกัน (แซนด์วิชเจเนอเรชั่น) คุณมีคำแนะนำอย่างไรในการรับผิดชอบทั้ง 2 ส่วนนี้โดยที่ตัวเองก็ไม่เครียดหรือกดดันจนทำให้ตัวเองไร้สุข

เขื่อนคิดว่าทุกการเลือกของเรามันมาพร้อมผลกระทบ และแน่นอนเมื่อเรามีความรับผิดชอบที่จะต้องดูแลคนอื่น มันก็มาพร้อมผลกระทบคือความเครียดและความกังวลบ้าง จริงๆ ความเครียดความกังวลนี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของมนุษย์นะครับ แค่มีมากมีน้อยและรับมือได้มากหรือน้อยแค่ไหนมากกว่า แต่สิ่งที่เขื่อนพูดและทำตลอดก็คือว่า เราต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อนแล้วค่อยช่วยคนอื่น เพราะถ้าเกิดเราช่วยคนอื่นอย่างเดียว อันนี้เขื่อนไม่ได้เหมารวมนะครับ แต่คนไทยอาจติดนิสัยเอาคนอื่นมาก่อน เพราะจะมีบริบทว่าถ้าเกิดเอาตัวเองมาก่อนปุ๊บจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว จะเป็นกลายเป็นคนไม่น่ารัก แต่อย่าลืมนะครับว่ามันเหมือนน้ำในบ่อ ถ้าเราวิดจนหมดบ่อแล้ว วันที่มันหมดเราก็เติมน้ำให้ตัวเองไม่ได้นะครับ

“เขื่อนจะพูดตลอดเลยว่า ช่วยตัวเองก่อน เขื่อนเชื่อว่า If you want to save everyone, you save no one. ถ้าเราอยากช่วยทุกคน เราจะไม่สามารถช่วยใครได้เลย อันนี้เป็นแนวคิดที่หลายๆ ครั้งพอเราปฏิบัตินะครับ มันอาจจะรู้สึกไม่ดีในตอนแรก เพราะมันทำให้เรารู้สึกเหมือนเราเห็นแก่ตัวหรือเปล่า เราเอาตัวเองมาก่อน เราอย่างงี้อย่างงั้น แต่อย่าลืมนะครับว่าทุกการเปลี่ยนแปลงที่ดีส่วนใหญ่ตอนแรกมันก็ไม่ได้รู้สึกดีครับ แต่ในระยะยาวเขื่อนกล้าคอนเฟิร์มให้เลยว่า ซึ่งเขื่อนเป็นคนคอนเฟิร์มอะไรยากมาก ในระยะยาวคือ Healthy และ Sustainable มากครับ เราช่วยตัวเราเองก่อน แล้วพอเราช่วยตัวเองได้เมื่อไหร่เนี่ย เราจะช่วยคนอื่นได้อีกเยอะมากเลย แล้วการช่วยของเรามันจะแบบไม่ใช่ช่วยเพื่อช่วยอ่ะครับ แต่ช่วยเพราะว่าต้องการจะช่วยแล้วมันมีความหมายจริงๆ

คุณคิดว่าการแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองสำคัญอย่างไร หากเราไม่เคยทำ จะเริ่มต้นอย่างไร

“รายงานสุขภาวะที่ดีระดับโลกของ lululemon ระบุว่า Gen Z 2 ใน 3 ในประเทศไทยหวังว่าพวกเขาจะสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงได้แทนที่จะแสร้งทำเป็นว่าสบายดีอยู่เสมอ ถ้าเกิดให้ top 3 หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตสำหรับเขื่อน คือ

“การ Being Genuine จริงใจ จริงจัง กับความรู้สึกตัวเอง ซึ่งในเมืองไทยก็ค่อนข้างยากเพราะมีบริบทหลายอย่างที่บังคับ ซึ่งคำว่าเกรงใจ อย่างภาษาอังกฤษคำว่าเกรงใจมันไม่มี พอมาเมืองไทยปุ๊บการ Voice เสียงตัวเอง ใช้สิทธิ์ตัวเอง มันมี push back ค่อนข้างเยอะครับ เพราะอาจดูไม่น่ารัก ก้าวร้าว ไม่เห็นแก่ส่วนรวม ซึ่งจริงๆ แล้วทุกอย่างมันคือการบาลานซ์ครับ กินน้ำเยอะไปก็ไม่ดี ได้รับออกซิเจนเยอะไปก็ไม่ดี แต่การ Voice เสียงของตัวเองในแบบที่ safe ทั้งใจตัวเองและเคารพผู้ฟัง บางทีเขื่อนอาจจะใช้คำว่าเคารพนะ เพราะการจะเซฟผู้ฟังตลอดเป็นไปไม่ได้ แต่เราสามารถเคารพผู้ฟังของเราตลอดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ”

เนื่องจากบางความรู้สึกเป็นเชิงลบ อาจทำให้คนลังเลที่จะแสดงออกมา คุณมีคำแนะนำในการสื่อสารความรู้สึกเชิงลบออกมาในแนวทางที่เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร

“เขื่อนจะพูดตลอดเลยครับ อันนี้เรียกว่า constructive criticism ครับ การที่เรา criticize ใครแบบคอมเมนต์ด่าหรือแซะ ไม่เคยเป็นผลดีเลยในแง่ที่เราอยากให้เขาปรับปรุงตัวนะ อันนี้เราแยกคนที่แบบสมควรโดนด่าออกไปเลยนะ เขื่อน assume ว่าเรากำลังพูดอะไร negative กับคนที่เรามีเจตนาดีด้วย

“สำหรับเขื่อน เรียกว่า constructive criticism ก็คือการติ แบบเป็นแซนด์วิชครับ

“หนึ่ง เราบอกเขาก่อนว่า อะไรมันเวิร์ก  เราชื่นชมอะไรในตัวเขา

“สอง อะไรไม่ดีที่เกิดขึ้นให้เรารู้สึกว่าเรารับผิดชอบความรู้สึกตัวเอง คือ ไม่บอกว่าเป็นเขา แต่เรารู้สึกว่า……..

“สาม ตบท้ายด้วยว่า จากที่พูดไป เรา Move forward ยังไงแล้วมัน apply ได้ยังไง

“ยกตัวอย่างเช่น เขื่อนมีนักเรียนคนนึง เป็นนักเรียนปีหนึ่ง เป็นนักจิตบำบัด เราเห็นว่าเขาเอาตัวเองเป็นหลักในจิตบำบัด แล้วบางทีมีพื้นที่คนไข้น้อย เขื่อนก็จะพูดกับเขาว่า เฮ้ย Adam ยูเป็นผู้ฟังที่ดีจริงๆ นะ เห็นได้เลยว่าการฟังของยูค่อนข้างเป็นธรรมชาติมากๆ เลย แต่บางครั้งเขื่อนก็รู้สึกว่าเพราะว่ามันมี culture clash หลายๆ อย่าง การฟังในประเทศของยูกับที่ๆ ยูทำตอนเนี้ยมันอาจจะไม่เหมาะ เราลองช่วยกันหาวิธีฟังได้ไหม ที่จะรู้สึกว่าฟังแล้วยูจะปฏิบัติงานได้ดีกว่านี้หรืออาจจะเข้าใจวัฒนธรรมได้มากขึ้นด้วย อย่างนี้เรียกว่า constructive คือ เขารู้ว่าเขาทำอะไรดี เขารู้ว่าทำอะไรไม่ดี แล้วเขามีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเขาสามารถแก้ไขได้อย่างไร

“ถ้าเราหวังดีกับใครแล้วเราด่าเขาเลย ไม่มีใครรู้สึกดีและส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นผลได้แต่ความสะใจมากกว่า เผลอๆ บางทีมันเข้าตัวเองด้วยนะครับ”

คุณมีคำแนะนำในการ “วางใจ” สำหรับคนเจเนอเรชั่นนี้ที่เติบโตมาพร้อมกับโซเชียลมีเดียเพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างสมดุลในแบบฉบับของตัวเอง

“เขื่อนว่า Wellbeing ที่ดีที่สุดและเป็นแบบ one size fits all สำหรับทุกคนนั้นไม่มี หน้าที่ของเราคือ ต้องหาให้เจอว่าแบบไหนเหมาะกับเรา อันนี้เหมาะกับเขื่อนก็อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ติดตามเขื่อนอยู่แล้ว อะไรที่เหมาะกับเขาก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับเขื่อน
เราต้องอย่าลืมนะว่าบนโซเชียลมีเดียก็เขาก็อัพในสิ่งที่เขาอยากอัพ ไม่ได้บอกว่าด้านดีหรือไม่ดีนะ มันมีทั้งมุมที่เขาเลือกอัพแล้วก็ไม่อัพ เพราะฉะนั้นมันอยู่ในหน้าที่ของผู้เสพด้วยว่าเสพแล้วเรา critical ได้มากแค่ไหน เราเอามา apply กับตัวเราได้มากแค่ไหน เพราะฉะนั้นทั้งผู้ผลิตและผู้เสพต้อง critical ให้ได้ว่า เอ้ย เรามีการเข้าใจโลกไม่เหมือนกันนะ และเราสามารถ apply กับตัวเราอย่างไร”

ปัจจุบันมีการแนะนำให้จำกัดการเสพสื่อโซเชียลเพื่อสุขภาวะทางอารมณ์ที่ดี คุณมีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร และคุณมีทริคสำหรับคนที่ติดโซเชียลและอยากละลดแต่ยังทำไม่ได้หรือไม่

“อย่างที่เขื่อนบอกไปครับ น้ำกินเยอะไปตับกับไตก็วาย ออกซิเจนที่สูงเกินไปก็เป็นพิษ ทั้งๆ ที่น้ำและออกซิเจนคือสิ่งจำเป็นกับการมีชีวิตมากที่สุด เช่นเดียวกับสารเคตามีนที่ในบางประเทศใช้รักษาภาวะโรคซึมเศร้า แต่ในบางประเทศเป็นยาเสพติด ใครเสพจับเข้าคุก

“ฉะนั้นทุกอย่างอยู่ที่บาลานซ์ ไม่ต่างอะไรกับโซเชียลมีเดียเช่นกันครับ โซเชียลมีเดียจะเล่นให้ดีก็ทำได้เยอะแยะ เดี๋ยวนี้คนสามารถ access research paper, article ส่ง message เตือนภัย หรือจะสร้างความเกลียดใส่กันก็ได้ ดังนั้นคนบาลานซ์ต้องอยู่ที่ตัวเราครับ เราต้องหาความบาลานซ์นั้นให้เจอ

“เขื่อนไม่เชื่อเรื่อง oh I’m on a 7 day social media detox ครับ เพราะมันไม่ sustainable สำหรับเขื่อนอะไรที่ดีคืออะไรที่ sustainable ทำอะไรได้ในระยะยาว โซเชียลมีเดียก็เช่นกันครับ ถ้าอยากทำให้ sustainable เราต้องหาจังหวะที่เล่นแค่นี้ถึงแค่นี้นะ ประมาณนี้นะ ต้องหาจังหวะที่ดีกับตัวเองให้เจอครับ”

ขอ how-to ง่ายๆ ในแบบฉบับคุณเขื่อน สำหรับคนวัยทำงานในการบริหารจัดการชีวิตอย่างมีคุณภาพทั้ง “งาน-สุขภาพกาย-สุขภาพใจ”

“ขอตอบแบบจริงใจแล้วก็จริงจังที่สุดแล้วนะครับ สำหรับเขื่อนคือไม่มีวิธีที่ดีที่สุด

“ไม่มีวิธีที่ดีสุดที่แปลว่า no one has it all, and if they say they do, watch closer เพราะว่าอย่างเขื่อนอย่างนี้ครับ เขื่อนทำงานหนักมาก แล้วก็เลือกที่จะเรียนหนังสือและดูแลครอบครัวไปพร้อมกัน สิ่งที่มากับจุดนี้เลยคือชีวิตสังคมกับชีวิตรักกลายเป็น 0- 5% แต่เขื่อนไม่ได้บอกว่าเพราะทำอย่างนี้เลยไม่มี แต่เขื่อนเลือกเลือกที่จะโอเคในช่วงวัยนี้เรายังไหวนะ ช่วงวัยนี้เรายังสามารถซัพพอร์ตที่บ้านได้ และยังอยากเรียนและทำงานได้ เนี่ยคือคำว่า work life balance ของเขื่อน คือเขื่อนตระหนักและเขื่อนเลือกที่จะบาลานซ์ เป็นสิ่งที่ทำได้และแลกได้

ไม่มีใครสามารถบาลานซ์ชีวิตรัก ชีวิตงาน ชีวิตเงิน ชีวิตเที่ยว ชีวิตสังคมได้เพอร์เฟค และได้นอนอีก 8 ชั่วโมง No way แต่ยูสามารถเลือกได้ว่า เออช่วงนี้ของชีวิตอยากได้อะไร โฟกัสอะไร อะไรที่มันทำได้ อะไรที่ไม่ได้

“ถ้าจะให้ฝากคำแนะนำ เขื่อนมองว่าในยุคปัจจุบันที่ชีวิตกดดันเร่งรีบ เราต้องพยายามหาวิธีสร้างสมดุลของ wellbeing ในสามด้าน คือ Physical, mental และ social ซึ่งเขื่อนว่า 3 มิตินี้ต้องทำไปพร้อมกัน โดยเราอาจจะลองทำผ่านกิจกรรมอย่างการเล่นโยคะ การวิ่ง การทำสมาธิ การเข้าร่วมคอมมูนิตี้เพื่อพูดคุยเรื่องความเป็นอยู่ที่ดี หรือลองหากิจกรรมที่ช่วยเราบริหารจัดการความเครียด ส่งเสริมสุขภาพกายใจ สร้างการมีส่วนร่วมของเราในสังคม ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวครับ”

นี่คือมุมมองหนึ่งต่อคำถามถึงการดูแลจิตใจของตัวเองในสภาวะปัจจุบันจาก เขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ ซึ่งเราหวังว่าผู้อ่านจะสามารถเลือกบางส่วนที่เหมาะกับตัวเองไปปรับใช้ได้ หรืออย่างน้อยก็เป็นแง่คิดหนึ่งที่จะนำไปวิเคราะห์ต่อยอดเพื่อจุดประกายบางอย่างที่จะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต

…ไม่ว่าสภาวะแวดล้อมหรือเงื่อนไขในชีวิตจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยในแต่ละวันอย่าลืมหาเวลาหรือสักห้วงความคิดที่จะคำนึงถึงตัวเองบ้างนะคะ

ขอบคุณ เขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ และ lululemon สำหรับการสัมภาษณ์บทความดีๆ มา ณ ที่นี้

สัมภาษณ์และเรียบเรียง Nicharee W.

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

10 เคล็ดลับหลับสบาย คลายความหงุดหงิด #ให้การนอนเยียวยาเรา

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

ชวนคนรักน้ำหอมทำความรู้จัก Le Labo City Exclusive

Clarins Beauty Therapist

เคล็ดลับน่ารู้ในการดูแลผิวจาก Dominique Rist ผู้ฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก

account_circle
event
Clarins Beauty Therapist
Clarins Beauty Therapist

พบทริคง่ายๆ ในการดูแลผิวจาก Dominique Rist ผู้ฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก พร้อมพูดคุยถึงสิ่งที่ทำให้ Clarins ใม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

ต้องยอมรับว่าแบรนด์ Clarins (คลาแรงส์) เขาปังเรื่องสปาจริงๆ เพราะมีต้นกำเนิดมาจากสปาชั้นสูงก่อนจะออกโปรดักส์มาตามคำเรียกร้องของลูกค้า ทว่าก็ไม่เคยทิ้งศาสตร์การนวดด้วยมืออันเป็นเอกลักษณ์และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 70 ปี จนถึงวันนี้จึงมีทั้งสกินแคร์และเทคนิคการนวดที่คิดค้นให้สอดรับกันมากมาย และกลายเป็นความโดดเด่นของแบรนด์

Clarins Beauty Therapis - Dominique Rist
Dominique Rist ผู้ฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ “ปรัชญาความงามในแบบฉบับ Clarins”

เมื่อไม่นานมานี้ Dominique Rist หนึ่งในผู้คิดค้นเทคนิคการนวดและฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก ได้เดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ และสุดสัปดาห์มีโอกาสร่วมพูดคุยกับเธอ ซึ่งเราสัมผัสได้ถึงความความจริงจังและความเป็นมืออาชีพในฐานะ Clarins International SPA Treatment Director ขั้นสุด อีกทั้งได้รู้จักกับศาสตร์การนวดของแบรนด์มากขึ้นด้วย

“สิ่งที่ทำให้คลาแรงส์ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน นั่นก็คือ Art and Science of Clarins Touch หรือศาสตร์แห่งการสัมผัสแบบเฉพาะอันเป็นหัวใจหลักของคลาแรงส์ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในสปา ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามใช้มือทั้งสองข้างรังสรรค์เทคนิคและท่านวดต่างๆ มากถึง 450 เทคนิค โดยไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองด้วยสองมือที่อ่อนโยนและคล่องแคล่ว ไปจนถึงน้ำหนักและจังหวะความเร็วช้าที่นวดกด ที่ล้วนแต่มีส่วนช่วยในการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในร่างกาย Dominique กล่าว พร้อมเสริมว่า

“มือของมนุษย์คือสิ่งที่เชื่อมโยงกับร่างกาย เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อสัมผัสผิวหน้าและผิวกายอยู่แล้ว นี่คือเหตุผลที่ทาง Clarins ใช้มือคนในทรีตเมนต์ต่างๆ ของแบรนด์”

คลาแรงส์
การสาธิตทรีตเมนต์ผิวหน้าหลังการพูดคุยของ Dominique Rist

ในการพูดคุยครั้งนี้นอกจากเราจะได้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ “ศาสตร์และศิลป์” ที่ผสานอยู่ในทรีตเมนต์ของ CLARINS รวมถึงความสำเร็จในประเทศไทยที่มีสาขามากที่สุดในโลกกว่า 9 สาขา มี Therapist กว่า 80 คนแล้ว ยังได้เคล็ดลับน่ารู้ดีๆ จากกูรูตัวจริงที่สามารถนำไปปรับใช้ในการดูแลตัวเองได้ และแน่นอนว่าสุดสัปดาห์ต้องไม่พลาดที่จะนำมาฝากคุณผู้อ่านด้วย

เคล็ดลับน่ารู้ในการดูแลผิวจาก Dominique Rist

  • เวลาทาเซรั่มให้เริ่มจากการดมก่อน จากนั้นวอร์มลงผิวด้วยการกดเบาๆ จากกลางหน้าไปด้านนอก แล้วค่อยกดให้แน่นขึ้น (แต่ไม่ควรหนักเกินไป)
  • การทาครีมด้วยการกดเบาๆ ช่วยให้สกินแคร์ซึมซาบได้ดีขึ้น และขอย้ำว่าการกดเบาๆ ก็เพียงพอแล้ว เพราะน้ำหนักที่แรงไปก็ไม่เป็นผลดีกับผิวเช่นกัน
  • การทาครีมย้อนขึ้นอาจทำให้ผิวยืดและมีเส้น โดยเฉพาะเมื่อทำแรงและทำเป็นประจำ
  • การไม่อาบน้ำร้อนคือหนึ่งในวิธีการดูแลผิวที่ดีที่สุด
  • การนวดหน้าสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพราะการกดหรือสัมผัสผิวหน้ามากไปก็ไม่ดีกับผิว อย่างที่หลายคนอาจเคยตั้งข้อสังเกตว่าบางคนไม่ทำอะไรเลยแต่ผิวดูเด็ก นั่นเพราะเขาไม่ยุ่งกับผิวหน้ามากเกินไป
  • ปัจจุบันมีความรู้แบบผิดๆ เผยแพร่ในโลกออนไลน์จำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวัง
คลาแรงส์ สปาสวีท
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ล้วนมีผลต่อประสบการณ์การดูแลผิว คลาแรงส์จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบห้องทรีตเมนต์ รวมทั้งแสงและเสียง

ขอบคุณ Clarins และ Dominique Rist

ผู้สนใจทรีตเมนต์สามารถจองได้ที่ คลาแรงส์ สกินสวีท ทั้ง 9 สาขา ค้นหาสาขาได้ที่ https://www.clarins.co.th/find-a-store-spa

Text: Nicharee W.

คลาแรงส์ สกินสวีท
คลาแรงส์ สกินสวีท สาขาชิดลม

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

หรูมาก! Clarins SkinSuites เซ็นทรัลชิดลม มาพร้อมทรีตเมนต์ Precious สุดเลอค่า

ผ่อนคลายไปกับ Jet Lag Recovery Treatment @ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

เคล็ดลับหลับสบาย

10 เคล็ดลับหลับสบาย คลายความหงุดหงิด #ให้การนอนเยียวยาเรา

account_circle
event
เคล็ดลับหลับสบาย
เคล็ดลับหลับสบาย

พบ 10 เคล็ดลับหลับสบาย หลับอย่างมีคุณภาพ จากคุณหมอแอมป์ – นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ ที่จะทำให้เราหลับสบาย ร่างกายสดชื่น ออกจากวังวนเครียด-นอนไม่หลับ ด้วยสเต็ปง่ายๆ หลากหลายรูปแบบ

ในยุคนี้ต้องยอมรับว่าการใช้ชีวิตไม่ง่าย นอกจากคนวัยทำงานจะมีความเครียดสูงแล้ว คนวัยอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบจากความเครียดเช่นกัน พอเครียดก็มักจะนอนไม่หลับ ส่งผลให้สมองเหนื่อยล้า อารมณ์ไม่ดี เครียดสะสมวนไป สุดสัปดาห์ ขอพาผู้อ่านออกจาก “วังวนเครียด-นอนไม่หลับ-หงุดหงิด-เครียดกว่าเดิม” ด้วยคำแนะนำดีๆ จาก คุณหมอแอมป์ – นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) ซึ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อการมีสุขภาพดี 

คุณหมอแอมป์ - นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ
คุณหมอแอมป์ – นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ

4 ปัญหาสุขภาพที่จะตามมาเมื่อเรานอนไม่พอ

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันว่า เมื่อนอนไม่พอจะเกิดผลเสียอะไรกับร่างกายเราบ้าง ทำไมเราจึงเพลียและหงุดหงิด แถมเครียดกว่าเดิม!

การประมวลผลและความจำ – การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ มีความสำคัญต่อ Brain Plasticity หรือ ความสามารถของสมองในการปรับตัวกับข้อมูลที่เข้ามา ถ้าเรานอนน้อยเกินไป เราจะไม่สามารถประมวลผลสิ่งที่เราได้เรียนรู้ระหว่างวัน และมีปัญหากับในการจดจำ

การกำจัดของเสียออกจากเซลล์สมอง – การนอนหลับยังมีความสำคัญต่อการกำจัดของเสียออกจากเซลล์สมอง กระบวนการชำระล้างสมอง (Glymphatic system) ซึ่งจะทำได้ดีที่สุดในช่วงนอนหลับลึก (Deep Non-REM Sleep) เพื่อกำจัดเบตาอไมลอยด์ (ß-amyloid) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือว่าโรคความจำเสื่อม

การเผลาผลาญ – การนอนหลับยังมีบทบาทในการเผาผลาญของร่างกาย การอดนอนทำให้เรามีแนวโน้มกินอาหารเพิ่มขึ้น และการตอบสนองของฮอร์โมนอินซูลินต่อน้ำตาลลดลง ตัวชี้วัดเริ่มแรกของการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2

กระทบต่อการทำงานของร่างกาย – เมื่อคนเรานอนหลับไม่เพียงพอ ความเสี่ยงต่อสุขภาพก็เพิ่มมากขึ้น เช่น อาการซึมเศร้า อาการปวดหัวไมเกรน ความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันทำงานได้น้อยลง เพิ่มโอกาสในการเจ็บป่วยและติดเชื้อ รวมถึง การเกิดอุบัติเหตุ ผิวแก่ก่อนไว หรือแม้แต่แรงขับทางเพศลดลง (Impaired Sexual Health)

10 เคล็ดลับหลับสบาย ตื่นเช้ามาอย่างสดใส

หลังจากเห็นว่าการนอนไม่พอส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง เชื่อว่าทุกคนต้องอยากนอนหลังให้ดีขึ้นแน่ๆ แต่จะทำอย่างไรล่ะ คุณหมอแอมป์มีเคล็ดลับดีๆ มาบอก

เคล็ดลับหลับสบาย

นอนหลับในเวลาเดิมเป็นประจำ

เพื่อให้การนอนหลับสอดคล้องกับ นาฬิกาชีวิต (Biological clock) หรือ วงจรของระบบการทำงานในร่างกายมนุษย์ เราจึงควรนอนหลับให้เพียงพอ ตื่นและเข้านอนเวลาเดิมเป็นประจำทุกวัน

เมื่อถึงเวลานอนร่างกายจะผลิตฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ ‘ฮอร์โมนเมลาโทนิน’ ฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ เพื่อทำให้รู้สึกง่วงนอน และ ‘โกรทฮอร์โมน’ ซึ่งเป็นฮอร์โมนชะลอความแก่ ออกมาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย การหลั่งฮอร์โมนทั้งหมดนี้สอดคล้องกับ จังหวะเซอร์คาเดียน (Circadian Rhythms) ซึ่งเป็นวงจรในแต่ละวันของร่างกายเรา

การเข้านอนในช่วง 4 ทุ่ม หรือ ช้าที่สุด 5 ทุ่ม ทำให้เข้าถึงช่วงหลับลึกได้ทัน ตอนประมาณ 5 ทุ่ม ถึง ตี 1 ครึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาสูงสุด โดยวัยผู้ใหญ่ควรนอนให้ได้ 7 – 9 ชั่วโมงทุกคืน เพื่อให้การนอนในหนึ่งคืนควรมีจำนวนรอบการนอนประมาณ 4 – 6 รอบ และมีช่วงหลับลึกประมาณ 20% และนอนให้ได้ครบรอบของการนอนหลับ เพื่อให้ตื่นมาสดชื่น

หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน

เมื่อแสงสว่างของวันลดลง ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินออกมา ทำให้เรารู้สึกง่วงและพร้อมเข้าสู่การนอนหลับ  แต่ แสงสีฟ้า (Blue Light) จากจอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ จอทีวี กระทบกับคลื่นสมองและยังยั้งการหลั่งของฮอร์โมนเมลาโทนิน ทำให้ไม่รู้สึกง่วงนอน แสงสีฟ้ายังส่งผลให้ระยะเวลาของช่วงหลับลึก (Deep Sleep)  และช่วงนอนหลับฝัน (REM; Rapid Eye Movement) ลดลง ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญต่อการเรียนรู้และการทำงานของสมอง

ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเข้านอน เพราะแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านี้ ส่งผลให้การนอนหลับยากขึ้นและคุณภาพการนอนลดลง

ปรับการรับประทานอาหาร

แนะนำหลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน อาหารที่มีน้ำตาล แป้ง และโซเดียมสูง และแนะนำให้รับประทานมื้อเย็นให้เสร็จก่อน 19.00 น. หรือประมาณ 2 ถึง 4 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน

รวมทั้งหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เพราะคาเฟอีน มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้ระบบประสาทตื่นตัว หากจะดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ควรดื่มก่อน 14.00 น. เพราะโดยทั่วไปตับต้องใช้เวลาขับคาเฟอีนออกจากร่างกายประมาณ 8 ชั่วโมง หากดื่มหลัง 14.00 น. ไปแล้ว ร่างกายจะขับคาเฟอีนไม่ทัน และส่งผลให้การนอนแย่ลง

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผลงานวิจัยระบุว่า การสูบบุหรี่ 1 มวนทำให้เราหลับลึกน้อยลงไป 1-2 นาทีเมื่อเทียบกับผู้ไม่สูบบุหรี่ สาเหตุมาจากนิโคตินมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง จึงขัดขวางร่างกายไม่ให้เข้าสู่ช่วงหลับลึก และทำให้นอนหลับยาก ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์นั้น แม้จะสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย แต่การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอนจะรบกวนวงจรการนอนหลับ มีผลต่อคลื่นสมอง สมดุลระหว่างช่วงนอนหลับลึก (Deep Sleep)  และช่วงนอนหลับฝัน (REM) ทำให้คุณภาพการนอนหลับเสียไป และการนอนถูกรบกวนมากขึ้น

ทำสมาธิ ลดความเครียด ปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ

อย่าปล่อยให้ความเครียดติดตามคุณไปถึงเตียง และแม้เราจะต้องงดการส่องโซเชียลหรือดูสตรีมมิ่งคลายเครียดสัก 2 ชั่วโมงก่อนนอน แต่ก็ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายในการผ่อนคลายโดยไม่ต้องจ้องหน้าจอ เช่น ถักไหมพรม ถักโครเชต์ ร้อยลูกปัด ทำสายคล้องแมส ส่องพระ ระบายสี ต่อจิ๊กซอว์ ไปจนถึงการนั่งสมาธิ เพียงเลือกทำกิจกรรมที่ชอบอย่างน้อย 30 นาทีก่อนเข้านอน จะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ลมหายใจช้าลงและลึกขึ้น ซึ่งมีการวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเหล่านี้ช่วยให้เราหลับได้ง่ายขึ้น

ออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือบ่าย

รูปแบบการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อการนอนหลับนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic exercise) แบบแรงต้าน (Resistance Training) หรือการเล่นโยคะ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำส่งผลให้คุณภาพการนอนดีขึ้น อีกทั้งยังลดความเสี่ยงอาการวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของปัญหานอนไม่หลับ (Insomnia)

การออกกำลังกายความหนักระดับปานกลางเพียง 30 นาทีต่อวัน ก็เพียงพอในการบรรเทาความวิตกกังวล และช่วยให้นอนหลับดีขึ้น ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพราะอาจทำให้ร่างกายตื่นตัว หัวใจเต้นเร็ว และนอนหลับได้ยากขึ้น

ปรับสภาพแวดล้อมในห้องนอน

เรื่องนี้สำคัญมากแต่คนไม่ค่อยนึกถึง นั่นคือการปรับสภาพแวดล้อมของห้องนอนให้เหมาะสมกับการนอน โดยปิดแสงไฟให้มืดสนิท เพราะแสงสีฟ้าจากหลอดไฟแอลอีดีหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์จะรบกวนการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน แต่หากหลีกเลี่ยงแสงรบกวนไม่ได้ แนะนำใช้ผ้าปิดตาเพื่อลดความสว่างของแสง หรือปรับเปลี่ยนไปใช้แสงในโทนสีส้มหรือเหลือง ก็ช่วยได้

นอกจากนี้ควรพยายามหลีกเลี่ยงเสียงรบกวน หรือใช้โฟมอุดหู ปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เหมาะสม ที่ประมาณ 23-25 องศาเซลเซียส จะช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น

นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม

ผู้ที่มีภาวะอ้วนมีแนวโน้มมีปัญหาการนอนหลับมากกว่าผู้ที่ไม่อ้วน รวมถึงมีอาการง่วงนอนและรู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวันมากกว่า ปัญหาสุขภาพหลายอย่างที่พบในผู้มีน้ำหนักตัวเกินมักกระทบกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ซึ่งเกิดจากการอุดกั้นของช่องทางเดินหายใจ ทำให้นอนหลับไม่ดี ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น มีภาวะกรดไหลย้อน (GERD; Gastroesophageal Reflux Disease) ที่สร้างความรู้สึกแสบร้อนกลางอก และอาการที่มักแย่ขึ้นเมื่อล้มตัวลงนอน โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ที่จะรบกวนการนอนหลับ เป็นต้น

ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ แต่ยังทำให้สุขภาพโดยรวมของเราดีขึ้นอีกด้วย

นอนกลางวัน (Power nap)

หากรู้สึกง่วงระหว่างวัน การนอนกลางวัน หรือ Power nap เหมือนการเติมแบตเตอรี่สำรอง เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า และช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง และยังเป็นการดึงความจำที่รับเข้ามาในช่วงเช้าเข้าไปอยู่ในสมอง เพราะผ่านการนอนสเตจ 1 และ 2 เช่นเดียวกับการนอนตอนกลางคืน เทคนิคคือ งีบหลับประมาณ 25 – 30 นาที แต่อย่านอนกลางวันหลังสี่โมงเย็น เพราะอาจทำให้กลางคืนนอนไม่หลับ

อาหารเสริมบางชนิดช่วยได้

หากใครได้ลองหลายวิธีแล้วแต่ยังนอนหลับได้ไม่ดี การใช้อาหารเสริมบางอย่างก็สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้ แต่การใช้ยาหรือสมุนไพรควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือเภสัชกรก่อนการใช้ทุกครั้ง

หากใครมีปัญหานอนไม่หลับลองสำรวจ เคล็ดลับหลับสบาย จากคุณหมอดูนะคะว่ามีข้อไหนที่เราพอจะปรับพฤติกรรมให้เอื้อต่อการนอนหลับได้บ้าง เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ที่เราพอทำได้แล้วค่อยเพิ่มไปทีละส่วนก็ได้ค่ะ

…ขอให้ทุกคนหลับฝันดี หลับลึก หลับสบาย ตื่นมาอย่างสดใสในทุกเช้านะคะ

นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

ขอบคุณข้อมูลจาก นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ นายกสมาคมแพทย์ฟื้นฟูสุขภาพและส่งเสริมการศึกษาโรคอ้วน กรุงเทพ (BARSO), แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine)  และประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก

แหล่งอ้างอิง

1. ตนุพล วิรุฬหการุญ. นอนถูกวิธี สุขภาพดีตลอดชีวิต. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: อมรินทร์เฮลท์ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง; 2563

2. Cutolo M, Seriolo B, Craviotto C, Pizzorni C, Sulli A. Circadian rhythms in RA. Ann Rheum Dis. 2003;62(7):593-6.

3. Wilkinson M, Imran SA. Regulation of Growth Hormone Secretion. In: Clinical Neuroendocrinology: An Introduction. Cambridge: Cambridge University Press; 2019. p. 134–53.

4. Beccuti G, Pannain S. Sleep and obesity. Current opinion in clinical nutrition and metabolic care. 2011;14(4):402.

5. Spiegel K, Leproult R, Van Cauter E. Impact of sleep debt on metabolic and endocrine function. The lancet. 1999;354(9188):1435-9.

6. Iliff JJ, Wang M, Liao Y, Plogg BA, Peng W, Gundersen GA, et al. A paravascular pathway facilitates CSF flow through the brain parenchyma and the clearance of interstitial solutes, including amyloid β. Science translational medicine. 2012;4(147):147ra11-ra11.

ภาพ SHUTERSTOCK

เรียบเรียง Nicharee W.

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

ชวนคนรักน้ำหอมทำความรู้จัก Le Labo City Exclusive

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

รู้จัก EMFACE นวัตกรรมใหม่ของวงการยกกระชับผิวหน้า

account_circle
event

ปัจจุบันมีนวัตกรรมความงามเพื่อการยกกระชับผิวออกมามากมายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่มีความกังวลเรื่องปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่ง EMFACE คือหนึ่งในวัตกรรมใหม่ในวงการยกกระชับที่เพิ่งมีการเปิดตัวในเมืองไทยในปี 2023

Introduction:

EMFACE (EMFACE by BLT Aesthetics) คือนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการยกกระชับและมีส่วนช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนขึ้น โดยการทำงานของคลื่นพลังงาน 2 แบบ คือ HIFES™ (High Intensity Facial Electrical Stimulation) และคลื่นพลังงาน Synchronized RF ซึ่งลงลึกสู่ชั้นกล้ามเนื้อช่วยทำให้เกิดการยกกระชับจากภายในสู่ภายนอก ผิวหน้าจึงแลดูอ่อนกว่าวัยขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม จึงไม่เจ็บตัวและไม่ต้องมีระยะเวลาพักฟื้น อีกทั้งใช้เวลาในการทำน้อย (ครั้งละ 20 นาที 4 ครั้ง เว้นห่างกัน 1 สัปดาห์) จึงเป็นที่สนใจในแวดวงความงามอย่างมาก

Innovation & Result:

อย่างที่กล่าวไปว่านวัตกรรม EMFACE เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่และเป็นที่สนใจในแวดวงความงามอย่างมาก เราจึงได้ขอพูดคุยกับคุณหมอคนดัง พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แห่ง KKC Clinic ซึ่งเป็นคลินิกกลุ่มแรกๆ ที่มีเครื่อง EMFACE ไว้บริการ ถึงนวัตกรรมตัวนี้พร้อมข้อแนะนำต่างๆ

โดย พญ.ของขวัญได้เล่าถึงการยกกระชับใบหน้าว่ามีปัจจัยหลักๆ คือ คอลลาเจน ซึ่งเทคโนโลยีที่ดูแลในส่วนนี้ เช่น อัลเทอร่าหรือเทอร์มาจ สองคือ กล้ามเนื้อ ซึ่งการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าจะมีอยู่ 2 อย่าง คือกล้ามเนื้อดึงขึ้นและกล้ามเนื้อดึงลง ซึ่งควรจะต้องทำงานบาลานซ์กัน แต่ในคนที่มีปัญหาหน้าตก คล้อย ย้อยลงมาก็เพราะกล้ามเนื้อดึงลงทำงานเยอะกว่ากล้ามเนื้อดึงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเลือกในการรักษาคือการใช้สารลดเลือนริ้วรอยเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อดึงลง แต่สำหรับ EMFACE ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะไปทำงานกับกล้ามเนื้อดึงขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า HIFES™ ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อ เสมือนกล้ามเนื้อได้ออกกำลังกาย เมื่อกล้ามเนื้อดึงขึ้นแข็งแรงขึ้นก็จะได้ในส่วนของการลิฟติ้ง ซึ่งตอนนี้เป็นเครื่องเดียวที่สามารถทำงานกับกล้ามเนื้อดึงขึ้นได้ และการที่เครื่องนี้มีพลังงาน RF ด้วยจึงได้ในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย

พญ.ของขวัญย้ำว่าแม้หัตถการนี้จะไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือบาดแผล (Non-invasive) แต่ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น เพราะต้องแม่นยำอะนาโตมี (Anatomy) กล้ามเนื้อบนใบหน้า เพราะหากแปะแผ่นอุปกรณ์ผิดตำแหน่งไปโดนกล้ามเนื้อดึงลงก็อาจให้ผลตรงกันข้าม ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และทำการรักษาโดยแพทย์เท่านั้น

สำหรับคนที่ดูแลตัวเองด้วยเทคโนโลยีหลากหลายแบบอาจมีคำถามว่าควรเลือกทำอะไร หรือทำร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่ ในเรื่องนี้ พญ.ของขวัญอธิบายว่า หัตถการแต่ละอย่างก็ทำงานกับผิวคนละชั้น แก้ปัญหาผิวคนละแบบ ซึ่งเวลาที่ผิวคนเรามีปัญหาจากวัยที่เพิ่มขึ้น ปัญหาไม่ได้เกิดที่ผิวหนังชั้นใดชั้นหนึ่ง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่ในขั้นตอนการรักษาควรปรึกษาแพทย์ว่าปัญหาและงบประมาณของเราเหมาะกับอะไรบ้าง รวมทั้งวางแผนการรักษาให้เหมาะสมด้วยว่าควรทำอะไรก่อนหลัง และเว้นระยะห่างจากกันเท่าไหร่

Experience:

ในส่วนของประสบการณ์ในการทดลองทำ EMFACE ต้องบอกว่ารู้สึกแปลกใหม่ เพราะเป็นหัตถการที่ใช้เวลาน้อยและมีขั้นตอนแตกต่างจากเทคโนโลยียกกระชับอื่นๆ ที่เคยทดลองทำ โดยจะมีการแปะแผ่นสติ๊กเกอร์ลงบนผิวบริเวณหน้าผากและแก้ม จากนั้นเมื่อครื่องเริ่มทำงานจะรู้สึกอุ่นๆ มีการสั่นและบีบตัวของกล้ามเนื้อหน้าเป็นระยะ ทำ 20 นาทีเสร็จ ไม่มีการใช้เข็มและไม่มีการยิงพลังงานร้อนจัดจึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บและไม่ต้องทายาชา ไม่ต้องเสียเวลารอยาชาออกฤทธิ์ (เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลจากการทดลองโปรแกรม)

ในส่วนของการดูแลหลังทำ พญ.ของขวัญแนะนำว่าสามารถดูแลผิวตามปกติ ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เช่น นอนเพียงพอ รับประทานอาหารครบหมู่ ดื่มน้ำเพียงพอ งดแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เครียด ฯลฯ

 

ขอบคุณ พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แห่ง KKC Clinic สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel: 092 350 3501-9

ภาพ EMFACE by BTL Aesthetics, KKC Clinic

TAGS: #Emface #kkclinic #หมอของขวัญ #doctorkatekate

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

หรูมาก! Clarins SkinSuites เซ็นทรัลชิดลม มาพร้อมทรีตเมนต์ Precious สุดเลอค่า

ผ่อนคลายไปกับ Jet Lag Recovery Treatment @ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

รู้จักการอาบคลื่นเสียงในคลาส ซาวด์ บาธ by เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

รู้จักการอาบคลื่นเสียงในคลาส ซาวด์ บาธ by เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

Alternative Textaccount_circle
event
รู้จักการอาบคลื่นเสียงในคลาส ซาวด์ บาธ by เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ
รู้จักการอาบคลื่นเสียงในคลาส ซาวด์ บาธ by เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ประเทศไทย เปิดตัว ซาวด์ บาธ (Sound Bath) คลาสใหม่ที่จะรวมอยู่ในคลาสฟิตเนสและสุขภาพ โดย ซาวด์ บาธ เป็นคลาสที่ทางคลับรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นได้พักผ่อน รวมถึงฟื้นฟูจิตใจและร่างกายไปกับการอาบคลื่นเสียงจากคริสตัลโบวล์ ที่จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดระยะเวลา 45 นาที

ซาวด์ บาธ

จูเลียน เบรา ผู้อำนวยการประจำภูมิภาพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ กล่าวว่า “เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ มุ่งมั่นในการยกระดับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอย่างต่อเนื่อง โดยเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอ คลาสซาวด์บาธ เป็นคลาสถาวรใหม่ล่าสุดของเรา ให้มาเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเติมเต็มบริการ”

ซาวด์ บาธ

เข้าสู่ภาวะสมาธิอันล้ำลึกด้วย ซาวด์ บาธ ของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การผ่อนคลายด้วยคลื่นเสียงสะท้อนจากเสียงคริสตัลโบวล์ บรรเลงโดยครูฝึกผู้เชี่ยวชาญ คลาสซาวด์บาธนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย สบายใจ ควบคู่ไปกับการยกระดับด้านจิตใจและร่างกายแบบอื่นๆ ด้วยการพาผู้ฝึกไปสู่สภาวะสมาธิอันล้ำลึก เพื่อเติมพลัง ปรับสมดุล และรีเซ็ตจิตใจไปกับคลื่นเสียงเพลง

คลาสซาวด์บาธ เริ่มด้วยการผ่อนคลายร่างกายและการทำใจให้โล่งสบาย ก่อนจะนอนราบบนเสื่อโยคะที่มีผ้าห่มและหมอนรองรับเพื่อปรับให้ร่างกายได้รับความสบายสูงสุด จากนั้นครูผู้สอนจะเริ่มบรรเลง ซาวด์บาธ ผ่านการหมุนวนรอบคริสตัลโบวล์อย่างแผ่วเบา ทำให้เกิดเสียงอันไพเราะพร้อมการสั่นสะเทือนที่กลมกลืนและก้องกังวานไปทั่วพื้นที่ เสียงดังกล่าวจะโอบอุ้มผู้เข้าร่วมแต่ละคนไว้ ทั้งนี้ครูผู้สอนจะรักษาความเงียบ โดยปล่อยให้เสียงเพลงจาก ซาวด์บาธ รักษาร่างกายและฟื้นฟูจิตใจตลอดเซสชัน

ซาวด์ บาธ

จากนั้นจะเรียกอย่างแผ่วเบาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมเปลี่ยนท่าทางขึ้นมานั่งตรงอย่างเชื่องช้าและผ่อนคลาย ที่จะมาพร้อมความเบาสบายของร่างกายและจิตใจ

ครูแพรว ธิดารัตน์ วิระสันติ หัวหน้าฝ่ายพิลาทิสและโยคะ ของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ทุกครั้งที่แพรวเข้าร่วมคลาสโยคะ แพรวมักจะได้รับพลังดี ๆ จากอาจารย์และเพื่อนร่วมคลาสอยู่เสมอ ซึ่งพลังงานเหล่านี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แพรวสอนคลาสโยคะของตัวเองเพื่อส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้กับนักเรียนต่อไป โดย เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เข้าใจดีว่าการเริ่มต้นการเดินทางเพื่อสุขภาพที่ดีอาจฟังดูยากและเหน็ดเหนื่อย ดังนั้น เราจึงเปิดตัวคลาสซาวด์ บาธ เพื่อให้จุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่อาจจะยังใหม่กับกิจกรรมการบำบัด หรือผู้ที่กำลังมองหาพื้นที่พร้อมคำแนะนำในการพักผ่อนและผ่อนคลาย”

ซาวด์บาธ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาวะที่ดีขึ้นหรือปรับสมดุลภายในด้วยการฝึกสมาธิ รวมถึงช่วยในการทำสมาธิ ผ่านการเพิ่มจุดโฟกัสภายในจิตใจซึ่งจะช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากส่งเสริมการรับรู้ถึงร่างกายและอารมณ์ของตนเองแล้ว การอาบเสียงที่ผ่อนคลายและกลมกลืนกันยังช่วยเสริมสร้างอารมณ์ที่ดีและลดความรู้สึกเศร้าหรือซึมเศร้าได้ โดยการศึกษาระบุว่าการบำบัดด้วยเสียงอาจส่งผลเชิงบวกต่อการทำงานของการรับรู้ เช่น ความจำและความสนใจ ซึ่งความสงบจาก ซาวด์บาธ ยังช่วยเพิ่มความชัดเจนและปรับโฟกัสทางจิตได้เช่นกัน

อ่านบทความที่เกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่

10 โรคจิตเวช ที่พบบ่อย …รู้ก่อน รักษาเร็ว ลดการสูญเสีย

มัดรวม 7 ท่าขยับร่างกาย สร้าง 7 วัน ห่างไกลหลอดเลือดอุดตัน กับ 60 For 60 Challenge พักทุก 60 นาที มาขยับ 60 วินาที

ผู้บริหารฟาร์มาแคร์เผยทิศทางธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่อยากแนะนำคนยุคดิจิทัล

FWD ประกันชีวิต ชูแนวคิด “FWD Health Companion” นิยามใหม่แห่งบริการด้านสุขภาพ

แพทย์แนะ How-to ดูแลสุขภาพหญิงทั้งกาย-ใจ พร้อมทริคเฉพาะสำหรับทุกช่วงวัย

อัพเดททางเลือกในการดูแลสุขภาพและความงามที่เปิดกว้างขึ้น & ปรับให้เหมาะกับตัวเองได้

อันตรายจาก ไข้เลือดออก ที่ผู้หญิงควรรู้เพื่อดูแลตัวเองและคนรอบตัว

วิสทร้า

วิสทร้า ส่งน้องใหม่ “วิสทร้า ซากุระ” ยกระดับไลฟ์สไตล์ไม่อยากแก่ของคนยุคใหม่

Alternative Textaccount_circle
event
วิสทร้า
วิสทร้า

วิสทร้า ผู้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มสุขภาพและความงาม ส่งน้องใหม่ “วิสทร้า ซากุระ” รุกตลาดเฮลตี้บิวตี้ ยกระดับไลฟ์สไตล์ไม่อยากแก่ของคนยุคใหม่

“วิสทร้า” ผู้นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มสุขภาพและความงาม ส่งน้องใหม่ “วิสทร้า ซากุระ” รุกตลาดเฮลตี้บิวตี้ ยกระดับไลฟ์สไตล์ไม่อยากแก่ของคนยุคใหม่ ด้วยนวัตกรรมสารสกัดธรรมชาติจากประเทศญี่ปุ่น รองรับเมกะเทรนด์ Health & Wellness พร้อมร่วมฉลองความสำเร็จ 12ปีกับ “บิวเทรี่ยม”

วิสทร้า

คุณสมศักดิ์ กวีไตรภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เอ็นบีดี เฮลท์แคร์ จำกัด และคุณเฟย์ พรปวีณ์ ตัวแทนาวยุคใหม่ของวิสทร้า พร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่ VISTRA Nutribeau Sakura Extract & Marine Collagen Plus C

จากภาพตลาดอาหารเสริมที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวพรรณสวยงาม ที่ในช่วงปีนี้กลุ่มลูกค้ามีกำลังการซื้อเพิ่มสูงขึ้นมาก นอกเหนือจากความงามของผิวพรรณแล้วเทรนด์ความความสวยอย่างยั่งยืนที่มาจากสุขภาพภายในที่ดีกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก ส่งผลให้ทิศทางของตลาดเฮลตี้บิวตี้เติบโตอย่างน่าสนใจซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพและความงามของคนไทย ที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญเรื่องการดูแลตัวเองให้ดูดีตั้งแต่ภายในด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพิ่มมากขึ้น และยังมีความต้องการค้นหาสารสกัดใหม่ ที่มีประสิทธิภาพช่วยเรื่องผิวให้สุขภาพดีกว่าเดิมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องปัญหาผิวพรรณแก่ก่อนวัย ที่ล่าสุด ปัญหานี้ได้ถูกให้ความสนใจ เพราะเป็นปัญหาที่มาพร้อมกับเทรนด์การทานอาหาร ซึ่งส่งผลต่อกระบวนการเร่งความแก่ในร่างกาย จะเห็นว่าผู้บริโภคหลายคน มองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามิน ที่ให้ประโยชน์นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์พื้นฐาน

วิสทร้า

ซึ่ง วิสทร้า ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและวิตามิน ด้านสุขภาพและความงาม  ได้ตระหนักและเล็งเห็นโอกาสที่จะเติมเต็มความต้องการของกลุ่มผู้บริโภค จึงนำความต้องการของกลุ่มลูกค้า และคัดสรรนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเปิดประสบการณ์ความงามบทใหม่ในการดูแลตัวเอง ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ใหม่ “VISTRA Nutribeau Sakura Extract & Marine Collagen Plus C” ที่คัดสรรนวัตกรรมสารสกัดธรรมชาติอันทรงคุณค่าจากประเทศญี่ปุ่น 

ช่วยให้ผิวแลดูสวยอ่อนเยาว์ กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ดุจซากุระผลิบานซึ่งมาช่วยเติมเต็มและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

นิโตริ

นิโตริ ของแต่งบ้านสไตล์มินิมอล เปิดตัวสาขาที่ 2 ซีคอน บางแค

Alternative Textaccount_circle
event
นิโตริ
นิโตริ

“นิโตริ” เปิดตัวสาขาที่ 2 “ซีคอน บางแค” พื้นที่ใหญ่สุดในเมืองไทย พร้อมประกาศลุยตลาดไทยเต็บสูบ ตอบรับแผนขยายสาขาในแถบเอเชีย

NITORI (นิโตริ) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น บริหารงานโดยบริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด (Nitori Holdings Co., Ltd.) จากเมืองซัปโปโร ทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น ประกาศความพร้อมในการขยายสาขาใหม่เพิ่มเติมครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย พร้อมเดินหน้ารุกตลาดเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านเมืองไทยเต็มสูบ ด้วยการเปิดตัว NITORI สาขาที่ 2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ซึ่งนับเป็นสาขาที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน ชูแนวคิด “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก” ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในพื้นที่ ด้วยสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพและราคา แบบไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง ตลอดจนสร้างสีสันให้กับตลาดกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น โดยพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ณ ชั้น 1 ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค

นิโตริ

นายทาเคดะ มาซาโนริ (Mr. Takeda Masanori) กรรมการ, ผู้จัดการทั่วไปแผนก Global Merchandising และผู้จัดการทั่วไปแผนก Global Sales Promotion รับผิดชอบส่วนธุรกิจขายต่างประเทศ บริษัท นิโตริ โฮลดิงส์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับ NITORI สาขาซีคอน บางแค นับเป็นสาขาที่ 2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนิโตริ กรุ๊ป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสินค้าญี่ปุ่นคุณภาพดีของลูกค้าในพื้นที่ โดยเราเล็งเห็นว่าศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าชั้นนำที่เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางของย่านบางแค อีกทั้งยังตั้งอยู่ในย่านชุมชนขนาดใหญ่ มีการเดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อได้ทั้งทางรถยนต์ รถประจำทาง และรถไฟฟ้าใต้ดิน ส่งผลให้ในแต่ละวันมีปริมาณผู้ใช้บริการในพื้นที่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ NITORI ในฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราเชื่อว่าการเปิดตัวร้านสาขาใหม่ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีและเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวไทย พร้อมช่วยยกระดับการช้อปปิ้งสไตล์ญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อรองรับความต้องการด้านสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของแต่งบ้าน ตลอดจนช่วยผลักดันในการขยายฐานลูกค้าและผู้มาใช้บริการภายในพื้นที่ศูนย์การค้าให้เติบโตอย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น”

ทั้งนี้นิโตริ กรุ๊ป (Nitori Group) ดำเนินธุรกิจตามพันธกิจที่ว่า “มอบความเป็นอยู่ที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก” โดยตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป มีเป้าหมายที่จะเร่งขยายสาขาในเอเชียเพิ่มเติมให้ถึง 3,000 สาขา เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดเอเชียที่เป็นอีกหนึ่งตลาดหลักของนิโตริ กรุ๊ป ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านยอดขายที่วางไว้ที่ประมาณ 720,000 ล้านบาท (ราว 3 ล้านล้านเยน) ภายในปี 2032 เนื่องจากคาดการณ์ว่าภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสอดรับกับทิศทางการตลาด การสานต่อพันธกิจ ตลอดจนวิสัยทัศน์ของบริษัทได้เป็นอย่างดี โดยในปัจจุบันร้าน NITORI มีสาขาทั่วโลกรวมกว่า 954 สาขา ซึ่งแบ่งเป็นสาขาในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 805 สาขา และสาขาในภูมิภาคเอเชีย เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกงอีกกว่า 149 สาขา ส่วนในประเทศไทย หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2023 ที่ผ่านมา ทางนิโตริได้วางแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมเป็น 25 สาขาทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งนอกเหนือจากร้าน NITORI ที่วางขายสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านแล้ว ทางนิโตริ กรุ๊ป ยังมีสินค้าแบรนด์อื่นๆ ในเครือฯ มากมาย อาทิ แบรนด์ DECO HOME ที่เน้นสินค้าตกแต่งบ้านที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน, แบรนด์ SHIMACHU ที่เพิ่มการจำหน่ายสินค้างานช่าง เครื่องมือช่าง ไปพร้อมๆ กับสินค้าตกแต่งบ้าน และแบรนด์ N PLUS ที่จำหน่ายเครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิง เป็นต้น

นิโตริ

นิโตริ กรุ๊ป ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มกำลัง ผ่านการสร้างรูปแบบโมเดลธุรกิจอย่างครบวงจร ที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ไปจนถึงขั้นตอนการผลิต การกระจายสินค้า และการจัดจำหน่าย เพื่อการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย โดยนำเสนอ “สิ่งที่คาดไม่ถึง” และมีคุณภาพดีเยี่ยมในราคาที่ “ย่อมเยาว์” พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียผ่านพันธมิตรทางธุรกิจหลายราย โรงงานการผลิต และบริษัทเทรดดิ้งของตนเอง เช่น ในประเทศไทยมีการก่อตั้งบริษัทที่มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลจัดส่งสินค้าภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาตั้งแต่ปี 1999 และโรงงานสยามนิโตริ (Siam Nitori) ผู้ผลิตพรมรีไซเคิลจากขวดพลาสติก ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีกระบวนการผลิตทั้งหมดภายในโรงงานเป็นของตัวเองด้วยรูปแบบธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร ส่งผลให้มีเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่แข็งแกร่งในการผลิตสินค้าให้กับนิโตริ กรุ๊ปมาอย่างยาวนาน เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอการสร้างที่อยู่อาศัยที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มั่งคั่ง และมอบความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ผู้คนทั่วโลกได้อย่างเหมาะสม

ทั้งนี้เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ทางนิโตริ กรุ๊ปได้ทำการขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 37 สาขาใน 4 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย รวมถึงทำการเปิดตัวสาขาแรกในประเทศมาเลเซีย สิงค์โปร์ และประเทศไทย ตลอดจนวางแผนที่จะเปิดสาขาแรกในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้เพิ่มเติมอีกด้วย โดยคาดการณ์ว่าภายในเดือนมีนาคม 2024 นิโตริจะสามารถเปิดสาขาได้เพิ่มได้มากขึ้นกว่า 78 สาขา ส่งผลให้จะมีจำนวนสาขารวมทั่วภูมิภาคเอเชียมากถึง 206 สาขา พร้อมตั้งเป้าว่าตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป จะเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศให้ได้ปีละประมาณ 300 สาขา เพื่อสานต่อพันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัทอย่างยั่งยืน

นิโตริ

นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค กล่าวว่า “ผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับนิโตริ กรุ๊ป ในการเปิดตัวร้าน NITORI สาขาซีคอน บางแค ซึ่งถือเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบัน รวมถึงสาขาอื่นๆที่จะวางแผนร่วมกันในอนาคต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าอย่างครบครัน ซึ่งน่าจะถูกใจนักช้อปที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบในคุณภาพของสินค้าตกแต่งบ้านให้ได้จับจ่ายใช้สอยสินค้าที่ครอบคลุมทุกความต้องการ และมีความหลากหลายในแบบฉบับของ NITORI ที่คุ้มค่าเหนือราคาโดยไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น โดยสำหรับการเปิดสาขาในครั้งนี้ ทางซีคอน บางแค มีความตั้งใจจัดหาพื้นที่ในโลเคชั่นที่ดีที่สุดของชั้น 1 ซึ่งมีพื้นที่กว่า 2,600 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกทั้งทางรถยนต์ และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ‘สถานีภาษีเจริญ’ ที่มี Skywalk เชื่อมต่อเข้ามายังศูนย์สรรพสินค้าของเราโดยตรง ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่รองรับการเดินทางของลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง NITORI ยังเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเสมือนแหล่งรวมของเทรนด์ญี่ปุ่นที่เข้าถึงง่าย เป็นร้านที่ทุกคนตั้งตารอคอย โดยผมเชื่อว่าลูกค้าที่มาใช้บริการภายในศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแคจะตื่นตาไปกับสินค้าที่หลากหลายและมาจับจ่ายที่ร้าน NITORI กันอย่างคึกคัก รวมถึงช่วยเติมเต็มสีสันของการช้อปปิ้งให้กับลูกค้าย่านฝั่งธนฯ ให้มีชีวิตชีวามากขึ้น และประสบความสาเร็จตรงตามเป้าหมายไปด้วยกันอย่างแน่นอน”

ติดตามข่าวสารและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://www.nitori.co.th

SWAP UP

เดอะ ปาร์ค ร่วมกับ SWOOP BUDDY จัดงาน SWAP UP

Alternative Textaccount_circle
event
SWAP UP
SWAP UP

เดอะ ปาร์ค สร้างสังคมแฟชั่นหมุนเวียน ร่วมกับ SWOOP BUDDY จัดงาน SWAP UP ต่อชีวิตของชิ้นโปรด สานต่อแนวคิดความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง

เดอะ ปาร์ค (The PARQ)โครงการไลฟ์สไตล์มิกซ์ยูสแห่งใหม่ที่มุ่งพัฒนาออฟฟิศและรีเทลอัจฉริยะภายใต้แนวคิด “Life Well Balanced” ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการออกแบบที่เป็นสากลเน้นความยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED GOLD® และ WELL CERTIFIED™ CORE GOLD แห่งแรกในประเทศไทย ร่วมกับ SWOOP BUDDY จัดกิจกรรม “SWAP UP” เปิดพื้นที่ให้ทุกคนนำเสื้อผ้า รองเท้า หนังสือ หรือของเล่นสภาพดีมาแลกเปลี่ยนกัน ลดวงจรการสร้างขยะ ต่อชีวิตสิ่งของชิ้นโปรดแบบยั่งยืน ในงานมี ศิลปิน มูลนิธิและคอมมูนิตี้สายรักษ์โลกชื่อดังมาร่วมงานมากมาย ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 29 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดย เดอะ ปาร์ค ตอกย้ำแนวคิด ในการเป็นผู้นำส่งเสริมกิจกรรมด้านความยั่งยืน และเป็นศูนย์กลางผลักดันคอมมูนิตี้คนรักสิ่งแวดล้อมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ตลอดจนให้ทุกคนร่วมกันตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างค่อยเป็นค่อยไป  

ภายในงานนี้ทุกคนจะได้เอ็นจอยกับการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้า รองเท้า หนังสือ หรือของสะสมตามสไตล์ของตัวเอง โดยมีไอเทมเด็ดจากศิลปินดังอาทิ คุณนท พนายางกูร (@notep), คุณป่าน ชนารดี ฉัตรกุล ณ อยุธยา (@julibakerandsummer) รวมไปถึงอินฟลูเอนเซอร์สายแฟชั่นอย่างคุณเกมส์ (@ihate.game) และคุณดาว (@cloudsstory) ที่ร่วมนำมาให้ได้แลกกันได้ด้วย และยังได้สนุกกับ Workshop แฮนด์เมดที่เพิ่มมูลค่าให้สิ่งของชิ้นเก่าดูเก๋ไม่ซ้ำใครอีกมากมาย

SWAP UP

เอาใจสายช้อปด้วยบูธสินค้าแบรนด์ดังจากศิลปิน และคอมมูนิตี้ผู้นำเทรนด์รักษ์โลกที่ขนไอเท็มเด็ด หลากสไตล์มาให้เลือกช้อปมากมาย อาทิ ร้าน Folk Charm, One More Thing, Pound For Long และ Circular เป็นต้น เพลิดเพลินกับไปกับการแสดงดนตรีสดจากที่คอยสร้างบรรยากาศภายในงานให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทอล์กที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาแลกเปลี่ยนมุมมองเรื่องแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และความยั่งยืนในธุรกิจแฟชั่น เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ร่วมกรุยทางเรื่องการบริโภคอย่างยั่งยืนและปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมในอุตสาหกรรมแฟชั่น  

ทั้งนี้สำหรับสิ่งของที่ไม่ได้ถูกนำมาแลกเปลี่ยนและของที่นำมาบริจาคภายในงาน จะถูกนำไปส่งต่อให้กับ มูลนิธิกระจกเงา ปันกัน โดยมูลนิธิยุวพัฒน์ และมูลนิธิโอกาสที่สองแห่งชีวิต (Second Chance Bangkok) เพื่อไปบริจาคให้ผู้ยากไร้และพัฒนาสังคมไทยต่อไป นอกจากนี้รายได้ส่วนหนึ่งจากงานนี้ยังได้ถูกนำไปมอบให้กับมูลนิธิ Second Chance Bangkok เพื่อไปพัฒนากิจกรรมเสริมสร้างรายได้ให้กับชุมชนคลองเตย

คุณกิตติพงษ์ ประชุมพล หัวหน้างานระดมทุนร้านแบ่งปัน มูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมกับงานครั้งนี้ ได้เห็นแนวคิดใหม่ ๆ ในการแลกเปลี่ยนและนำของใช้มาหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์อีกครั้ง มันทำให้เราตระหนักว่าเราสามารถมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ง่าย ๆ เพียงแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของเรา และขอขอบคุณเดอะ ปาร์คและทีมงานทุกคนที่สร้างสรรค์งาน SWAP UP ครั้งนี้ ที่ช่วยสร้างพื้นที่ดี ๆ ให้คนรักสิ่งแวดล้อมได้มาพบปะและแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน ผมหวังว่างานแบบนี้จะเติบโตและขยายไปสู่คอมมูนิตี้อื่น ๆ ต่อไป” 

คุณฐาปนีย์ สินาดโยธารักษ์ ผู้อำนวยการร้านปันกัน กล่าวว่า “ขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน SWAP UP และเดอะ ปาร์คที่ร่วมแบ่งปันในครั้งนี้ ร้านปันกันจะนำเสื้อผ้าสภาพดีเหล่านี้ไปเปลี่ยนเป็น ทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุนที่ขาดโอกาส ในมูลนิธิยุวพัฒน์ได้เรียนต่อจนจบชั้น ม. 6 หรือ ปวช. 3 เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสต่อยอดชีวิตด้วยการศึกษาต่อไปค่ะ”

SWAP UP

“การได้เห็นการรวมพลังของคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ที่ได้เล็งเห็นถึงความยั่งยืนทางด้านแฟชั่น และรบกวนสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด เมื่อเราได้สิ่งที่เราต้องการจากธรรมชาติแล้ว และยังเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยกันเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนให้หันมาเล็งเห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมผ่านสิ่งใกล้ตัวของเรา เช่น เสื้อผ้าของเรา ที่ SWOOP BUDDY และ เดอะ ปาร์คได้จัดกิจกรรม SWAP UP ขึ้นในครั้งนี้ค่ะ” คุณหัชยา ทูเกาะพลุก ประธานมูลนิธิโอกาสที่สองแห่งชีวิต (Second Chance of Life Foundation) กล่าวเสริม 

มาร่วมยกระดับความสมดุลให้ชีวิตและเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้แบบยั่งยืน กับกิจกรรมอีกมากมายตลอดปีที่ The PARQ (MRT ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 2)  

ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ที่
Facebook: The PARQ Instagram: @THEPARQBKK  Website: www.theparq.com โทร. 02-080-5700 #ThePARQ #LifeWellBalanced #SWAPUP 

บิวเทรี่ยม

“แม้ก-ณฐ” จากแบรนด์มิลเล่ เข้าร่วมงานฉลอง 12 ปี “บิวเทรี่ยม”

Alternative Textaccount_circle
event
บิวเทรี่ยม
บิวเทรี่ยม

มิลเล่ เข้ามาร่วมงาน BEAUTRIUM 12th Anniversary ที่ ร้านบิวเทรี่ยม สาขาสยามสแควร์ บริเวณ Walking Street เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา

โดยงานนี้ได้ 2 หนุ่มคู่จิ้นสุดฮอตอย่าง คุณแม้ก “แม้ก” “กรธัสส์ รุจีรัตนาวรพันธุ์ และคุณณฐ ณฐ “ณฐสิชณ์ เอื้อเอกสิชฌ์” เป็นตัวแทนแบรนด์มิลเล่ มาร่วมแสดงความยินดี และมาเดินแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ร่วมกับดาราศิลปินคนดังมากมาย  พร้อมแนะนำผลิตภัณ์ดีๆที่ทำให้ผิวสวยแบบเกาหลีอย่างMILLE SNAIL COLLAGEN VITAMIN PLUS WATERY SUNSCREEN SPF50 PA+++ และ MILLE SNAIL BRIGHT PRIMER SPF 15 PA+ แถมยังมีเซอร์ไพรส์ เมื่อนำเพลง ‘คนเดียวไม่ได้แล้ว’ ของ “ณฐสิชณ์ เอื้อเอกสิชฌ์” ในชี่รี่ย์ ดื้อเฮียก็หาว่าซน NAUGHTY BABE SERIES มาประเดิมร้องคู่สดบนเวทีเป็นครั้งแรก ทำเอาแฟนคลับกรี๊ดสนั่นอินไปกับบทเพลงตามๆ กัน

บิวเทรี่ยม

โดย 2 หนุ่ม “แม้ก – ณฐ” ยังได้แชร์ถึงเคล็ดลับไอเท็มงานผิวสุขภาพดีสไตล์เกาหลี ตามคอนเซ็ป MILLE Better Skin Duo ผิวสวยแบบเกาหลี โดยแนะนำ 2 Steps ใช้คู่กัน Step แรก ใช้ MILLE SNAIL COLLAGEN VITAMIN PLUS WATERY SUNSCREEN SPF50 PA+++ เซรั่มกันแดดไฮบริดสูตรน้ำ เนื้อบางเบา ปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างยาวนาน แถมยังคุมมันได้อย่างดี ตามมาด้วย Step ที่ 2 MILLE SNAIL BRIGHT PRIMER SPF 15 PA+ไอเท็มฮอตฮิตที่การันตียอดขายกว่า 1 ล้านชิ้น ตัวช่วยเบลอรูขุมขน ควบคุมความมันได้อย่างดีเยี่ยม  และยังแชร์ทริคผิวดีแบบส่วนตัวคือการทาครีมกันแดดทุกวันและดื่มน้ำเยอะๆช่วยให้ผิวสวยได้อีกด้วย

บิวเทรี่ยม

สำหรับใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์มาดูแลผิว มิลเล่มีทั้งสกินแคร์ เครื่องสำอาง และสินค้าอื่นๆอีกมากมาย ที่คุณภาพเทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำ โดยคัดสรรวัตถุดิบและโรงงาน Top 3 ที่มีคุณภาพจากประเทศเกาหลี ทำให้สินค้าของมิลเล่เอง ได้รับรางวัลการันตีทั้งคุณภาพและยอดขายมาอย่างมากมาย

ช่องทางติดต่อหรือช่องจำหน่าย
หาซื้อได้ที่ SHOP MILLE, EVEANDBOY , WATSONS,BEAUTRIUM ,7-11 สาขาที่ร่วมรายการ หรือช่องทางออนไลน์
Facebook: https://www.facebook.com/MilleBeaute
Line OA: @MilleBeaute

THANIYA JAPAN DAYS

เอาใจ Japan Lover งาน THANIYA JAPAN DAYS ในคอนเซ็ปต YATAI MURA

Alternative Textaccount_circle
event
THANIYA JAPAN DAYS
THANIYA JAPAN DAYS

ศูนย์การค้าธนิยะ สีลม เอาใจ Japan Lover จัดงาน THANIYA JAPAN DAYS ในคอนเซ็ปต์ “YATAI MURA” พร้อมเสิร์ฟกองทัพอาหารสไตล์แผงลอยญี่ปุ่น

ศูนย์การค้าธนิยะ สีลม ร่วมกับ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, กรุงเทพมหานคร, เจแปนฟาวน์เดชั่น, สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และสโมสรโรตารีบางรัก ปิดถนนธนิยะ จัดงาน THANIYA JAPAN DAYS เทศกาลงานญี่ปุ่นครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ในคอนเซ็ปต์ “YATAI MURA” ขนกองทัพร้านอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำหรับ (Great taste of Japanese food market) ในบรรยากาศแผงลอยเหมือนได้ไปกินอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมกับเมนูพิเศษที่รังสรรค์มาเฉพาะงานนี้เท่านั้น และพลาดไม่ได้กับโชว์ศิลปะการแสดงญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม (Authentic Japanese Culture Show)  ในวันศุกร์ที่ 3 ถึงวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา11.00-24.00น. ที่ บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าธนิยะ สีลม

THANIYA JAPAN DAYS

THANIYA JAPAN DAYS ถือเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวญี่ปุ่น หรือชาวไทยที่ชื่นชอบในประเทศญี่ปุ่นมากเป็นเวลานานกว่า 30 ปี ส่งเสริมวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นทั้งในด้านของอาหารญี่ปุ่นต้นตำหรับ, ศิลปะการแสดงแบบดั้งเดิม ทั้งยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพมหานครอีกด้วย

THANIYA JAPAN DAYS

ภายในงานจะได้พบกับการรวมตำนานอาหาร และเครื่องดื่มญี่ปุ่นรสชาติดั้งเดิมพร้อมเมนูพิเศษที่ออก แบบคิดค้นมาเฉพาะงานนี้ ในรูปแบบของ “YATAI MURA หรือ Street Food Vibes” จากร้านชื่อดัง อาทิ KENJI’S LAB อิซากายะสไตล์ร่วมสมัย, SHAKARIKI432 อิซากายะชื่อดังจากโอซาก้า, SAKE NO MISE อิซากายะขวัญใจคนไทย พร้อมเสิร์ฟ “Seafood Donburi” ขึ้นชื่อ, ABURI IZAKAYA SAKU อิซากายะร้านใหม่จาก Terra Group และยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นหลากหลายประเภทภายในงาน อาทิ แกงกะหรี่โฮมเมดจากร้าน AORINGO, อาหารญี่ปุ่นที่ห้ามพลาดจาก DONKI, ข้าวหน้าเนื้อจาก CHIKARA MESHI, Kushikatsu ของทอดเสียบไม้จาก IZAKAYA NAIHUA, โอเด้งและยากิโซบะจาก HI…JAPAN, อาหารจากหอยนางรมญี่ปุ่นและวัตถุดิบพรีเมี่ยมจากYAKIIMOYA, ราเมงและข้าวแกงกะหรี่จาก KURO KI IRO พร้อมด้วยร้านเครื่องดื่มและขนมเอาใจสายขนมหวาน อาทิ HONCHA “Original Green Tea”, UHOLIC “ไอศครีมนมฮอกไกโด”, MIRUKU “ร้านนมสไตล์ญี่ปุ่น” และ GLUTEN FREE TAMA BAKERY “Donut Stick & Ice Cream”

THANIYA JAPAN DAYS

อิ่มท้องแล้วเตรียมตระการตาไปกับการแสดงวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ ๆ อาทิ กลองไทโกะ ระบำโยซะโคอิ และดนตรีอะคูสติก และพบกับบูธจำหน่ายสินค้าจากชมรม Rotaract โดยนักศึกษาคณะพยาบาล วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ที่จะนำขนมหวาน เครื่องดื่ม ของที่ระลึก ไม้ประดับนำมาจำหน่ายภายในงาน โดยรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายจะถูกนำไปบริจาคให้กับสโมสรโรตารีบางรัก เพื่อนำไปพัฒนาการศึกษา สังคม ผู้ด้อยโอกาส

THANIYA JAPAN DAYS

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมงาน THANIYA JAPAN DAYS “YATAI MURA” ได้ ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าธนิยะ สีลม (BTS ศาลาแดง ทางออก 1 และ MRT สีลม ทางออก 2) ตั้งแต่เวลา 11.00-24.00น. สอบถามข้อมูลพร้อมติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Thaniya – https://shorturl.asia/wysE7 หรือโทร 02 231 2244 ต่อ 602

คลินิกทำตา

ทำความรู้จัก Lovely Eye & Skin Clinic สู่การเปิดตัว Brand Ambassador

Alternative Textaccount_circle
event
คลินิกทำตา
คลินิกทำตา

Lovely Eye & Skin Clinic คลินิกทำตา ที่มีมาตรฐานและให้ผลลัพธ์ที่สวยงามตรงใจ เปิดตัว Brand Ambassador แอน ทองประสม

หากค้นหา ‘คลินิกทำตา’ ที่มีมาตรฐานและให้ผลลัพธ์ที่สวยงามตรงใจ ผลการค้นหาอันดับท็อป ที่ติดอยู่ในลิสต์แนะนำ มีรีวิวแน่น รวมถึงอยู่ในชอยส์ของหนุ่มๆ สาวๆ ที่วางแผนจะปรับเปลี่ยนดวงตาให้สวยเป๊ะล่ะก็ คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก Lovely Eye & Skin Clinic คลินิกศัลยกรรมเสริมความงาม ที่โดดเด่นด้านการทำตาสองชั้น นำทีมดูแลโดยจักษุแพทย์ คุณหมอรวงข้าว ผู้ปลุกกระแสการทำตาสองชั้น และเทคนิคการเปิดหัวตาในประเทศไทย มาพร้อมทีมแพทย์ Lovely Specialists ที่มีสกิลชำนาญและแม่นยำ ด้วยประสบการณ์การผ่าตัดแก้ไขปัญหารอบดวงตามากกว่าสามหมื่นหัตถการ และเทคนิคเฉพาะที่แก้ไขปัญหาดวงตาได้อย่างตรงจุดของคุณหมอรวงข้าว ทำให้ Lovely Eye & Skin Clinic เป็นคลินิกที่ได้รับความไว้วางใจในด้านความงามของใครหลายคน

สำหรับใครที่ต้องการแก้ปัญหาดวงตากับคลินิกทำตาชั้นนำ และอยากจะทำความรู้จัก Lovely Eye & Skin Clinic และคุณหมอรวงข้าวให้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการทำคลินิกศัลยกรรมเสริมความงามและทำตาสองชั้น ไปจนถึงการดึงตัวแอน ทองประสม มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ อะไรคือแรงบันดาลใจแห่งความสำเร็จนี้ รวมไปถึงเป้าหมายในอนาคต วันนี้เราได้นำเรื่องราวของ Lovely Eye & Skin Clinic และคุณหมอรวงข้าวมาฝากทุกคนที่นี่แล้ว ไปดูกันเลย

จุดเริ่มต้นของ Lovely Eye & Skin Clinic : เพราะเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาและชื่นชอบการมีดวงตาที่สวยงาม

ทำความรู้จัก ‘คุณหมอรวงข้าว’ จักษุแพทย์ชื่อดังผู้บุกเบิกปลุกกระแสการทำตาสองชั้นโดยจักษุแพทย์ในของประเทศไทย

หากพูดถึง Lovely Eye & Skin Clinic ก็ต้องมาคู่กับคุณหมอรวงข้าว หรือพญ. ณัฐฐามณี สิริภคพันธ์ จักษุแพทย์สาวชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมรอบดวงตาและเป็นผู้ปลุกกระแสเทคนิคการเปิดหัวตาในประเทศไทยให้ได้รับความนิยม ด้วยความตั้งใจอยากให้ทุกคนมีดวงตาที่สวยมีเสน่ห์ จึงคิดค้นและพัฒนาเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ของแต่ละเคสที่รักษาในฐานะจักษุแพทย์ เทคนิคเฉพาะที่ได้รับการถ่ายทอดทักษะจากรุ่นสู่รุ่น ผสานกับต้นฉบับการผ่าตัดดวงตาจากประเทศเกาหลี มาประยุกต์เป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนกลายเป็นที่มาของ ‘เทคนิคหมอรวงข้าว’ ด้วยการใช้ New Lovely Microlaser เทคโนโลยีเฉพาะของคลินิก Lovely Eye & Skin Clinic ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำ ให้ผลลัพธ์ดวงตาที่สวยตรงใจผู้ใช้บริการทุกคน

คลินิกทำตา

เปลี่ยน Pain Point ของตนเองให้กลายเป็นเป้าหมาย

‘เราจะสามารถทำสิ่งๆ นึงได้ดี หากเราเรียนรู้และเข้าใจมันได้ดีที่สุด’ เราสามารถยืนยันได้เลยว่าคำกล่าวนี้เป็นจริง ถ้าได้รู้ถึงจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจในการเป็นจักษุแพทย์และการทำตาสองชั้นของคุณหมอรวงข้าว ในอดีตก่อนเข้ามหาลัย คุณหมอรวงข้าวเป็นสาวหมวย ตาชั้นเดียว ซึ่งทำให้ใบหน้าดูดุ คุณหมอจึงไม่ค่อยมีความมั่นใจในตนเอง แต่เมื่อได้ไปทำตาสองชั้นกับคุณหมอที่มีประสบการณ์และเทคนิคจากญี่ปุ่นแล้ว ก็เหมือนได้เจอกับโลกใบใหม่ ใครที่ได้เห็น ต่างก็บอกว่าดวงตาสองชั้นดูสวย เป็นธรรมชาติ จึงทำให้คุณหมอรวงข้าวมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งยังได้รับการถ่ายทอดทักษะจากคุณหมอที่ทำตาให้อีก

นอกจากนี้คุณหมอรวงข้าวยังเลือกเป็นจักษุแพทย์ เพราะชอบงานฝีมือ ชอบการใช้ความละเอียดประณีต การผ่าตัดดวงตาจึงตอบโจทย์ความชอบด้านนี้ได้เป็นอย่างดี ในระหว่างการทำงานรักษาดวงตา คุณหมอรวงข้าวมีความตั้งใจที่จะทำตาให้ออกมาสวยโดดเด่นกว่าใครให้ได้ จึงศึกษาหาข้อมูลเทคนิคต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการรักษา และนั่นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นในการนำเทคนิคเปิดหัวตา เปิดหางตา มาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย เรียกได้ว่า Lovely Eye & Skin Clinic เริ่มต้นมาจากความชื่นชอบและ Pain Point ที่คุณหมอรวงข้าวเคยเจอ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม Lovely Eye & Skin Clinic จึงเป็นคลินิกที่เข้าใจและแก้ปัญหารอบดวงตาของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี

เส้นทางสู่การเป็นคลินิกทำตาชั้นนำของประเทศไทย

หลังจากรู้จักจุดเริ่มต้นและที่มาของคลินิกกันไปแล้ว ทุกคนรู้หรือไม่กว่า Lovely Eye & Skin Clinic จะประสบความสำเร็จ และเติบโตจนกลายเป็นคลินิกทำตาชั้นนำของประเทศไทยนั้น Lovely Eye & Skin Clinic ได้ผ่านอุปสรรคและขั้นตอนมากมายมาด้วยน้ำพักน้ำแรง ประสบการณ์ การเรียนรู้ และการวางแผนของคุณหมอรวงข้าวและทีมทีมแพทย์มากประสบการณ์

อุปสรรคระหว่างทางของ Lovely Eye & Skin Clinic

ต้องยอมรับว่าในอดีต การทำศัลยกรรมยังไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะการทำศัลยกรรมบริเวณที่มีความละเอียดอ่อนอย่างดวงตา ดังนั้นช่วงที่เปิด Lovely Eye & Skin Clinic แรกๆ หลายคนอาจยังไม่มีความคุ้นชิน จึงต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจและพยายามสื่อสารให้คนเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้งในเรื่องประโยชน์ ความปลอดภัย การทำให้คนเชื่อมั่นว่า Lovely Eye & Skin Clinic เป็นคลินิกที่มีมาตรฐานและตอบสนองผู้ใช้บริการที่ให้ความไว้วางใจ ต้องผ่านด่านอุปสรรคทั้งสามข้อนี้ กว่าคุณหมอจะประสบความสำเร็จได้จนถึงปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าลองผิดลองถูกกันอยู่นานเลยทีเดียว

คลินิกทำตา

การเลือกสถานที่ประกอบการ

ในการทำธุรกิจ ทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญ Lovely Eye & Skin Clinic จึงเลือกสถานที่ที่คนสามารถเดินทางมาได้สะดวก เข้าถึงคลินิกง่าย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งโดยปกติแล้ว หากการเดินทางไปยังคลินิกเป็นเรื่องยุ่งยาก อาจส่งผลให้ผู้ใช้บริการยกเลิกความตั้งใจได้ อีกทั้งยังทำให้ภาพลักษณ์ทางอ้อมของคลินิกดูไม่ดี เพราะสถานที่ตั้งสามารถแสดงถึงความนิยม ความโด่งดัง และการได้รับความไว้วางใจ และเพราะตำแหน่งที่ตั้งของคลินิกที่เดินทางแสนสะดวกสบายนี้เอง ทำให้ Lovely Eye & Skin Clinic เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าง จนกลายเป็นคลินิกเสริมความงามและศัลยกรรมชั้นนำในประเทศไทย

การปรับกลยุทธ์ ให้นำหน้าคนอื่นอยู่เสมอ

ยิ่งเวลาผ่านไป สถาบันความงามยิ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน วิธีการที่คลินิกความงามจะยังคงความนิยมและติดท็อปอยู่ในใจคน คือการปรับกลยุทธ์ ให้นำหน้าคนอื่นอยู่เสมอ เพราะการตอบโจทย์ลูกค้าได้คือสิ่งสำคัญ ลูกค้าต้องมั่นใจว่าหากเลือกเข้ารับการดูแลรักษากับ Lovely Eye & Skin Clinic ต้องได้รับผลลัพธ์ความสวยงามที่คุ้มค่ากลับไป ดังนั้น Lovely Eye & Skin Clinic จึงมีการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าทุกท่านรวมถึงนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงและปรับใช้ และสิ่งนี้จึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่ผู้ใช้บริการทุกคนของที่นี่ต่างพึงพอใจและหันกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

การรักษามาตรฐานและไม่หยุดพัฒนาเทคนิค

Lovely Eye & Skin Clinic ให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐาน พยายามพัฒนาเทคนิคต่างๆ และรักษาฝีมือให้มีคุณภาพอยู่เสมอ และยังคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้บริการทุกคน โดยเครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ ต้องหมั่นดูแลความปลอดภัยและความสะอาด มีห้องสเตอร์ไรด์ปราศจากเชื้อ “Lovely Surgical Instrument Sterile Unit” ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อโรคด้วยไอน้ำ (Autoclave ผ่านการรับรอง ISO 13485:2016) ด้วยความที่ Lovely Eye & Skin Clinic เล็งเห็นถึงมาตรการที่ช่วยเสริมคุณภาพและสร้างความปลอดภัยของผู้ใช้บริการมาเป็นอันดับแรก ทำให้คุณหมอรวงข้าวตั้งเป้าหมายไว้ว่าคลินิกนี้จะต้องเป็นคลินิกทำตาที่ได้รับมาตรฐานและเป็นคลินิกที่เนรมิตความงามของดวงตาให้เปล่งประกายนั่นเอง

คลินิกทำตา

ทีมแพทย์ Lovely Specialists ของคุณหมอรวงข้าว พร้อมดูแลทุกเคสปัญหารอบดวงตา

Lovely Eye & Skin Clinic ขึ้นชื่อเรื่องการทำศัลยกรรมดวงตาที่สวยและมีความปลอดภัย ด้วยเทคนิคแบบคุณหมอรวงข้าว ‘New Lovely Microlaser’ คลินิกจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้มีผู้ใช้บริการมากมายอยากมาเข้ารับการดูแลและแก้ไขดวงตากับที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นคลินิกที่มีคิวทำตายาวข้ามเป็นปีๆ เลยทีเดียว ปัจจุบันคุณหมอรวงข้าวจึงถ่ายทอดความรู้ ส่งต่อเทคนิคและความชำนาญในการทำตาสองชั้นของตนเองให้กับทีมแพทย์ที่ผ่านการคัดเลือกว่ามีคุณสมบัติครบตามมาตรฐานของคลินิก มีฝีมือ มากประสบการณ์ และยังต้องมีศิลปะที่มีความละเอียดประณีต เพื่อเข้ามาช่วยดูแลดวงตาของผู้ใช้บริการทุกคน ทำให้ทีมแพทย์ Lovely Specialists ที่มาพร้อมกับมาตรฐานเดียวกับคุณหมอรวงข้าว เกิดขึ้นนั่นเอง พร้อมดูแลทุกเคสปัญหารอบดวงตา และพร้อมให้บริการแบบ Private VIP Service ทำให้ผู้เข้ารับบริการต่างได้รับความประทับใจกลับบ้านทุกคน

การันตีความสำเร็จของคลินิกด้วยการเปิดตัว Brand Ambassador นักแสดงแนวหน้าของประเทศ ‘แอน ทองประสม’

Lovely Eye & Skin Clinic การันตีความสำเร็จของคลินิกด้านความงามที่ได้รับการไว้วางใจและเชื่อมั่นในฝีมือด้วยการเปิดตัว Brand Ambassador คนแรกเป็นนักแสดงแนวหน้าของประเทศอย่าง “คุณแอน ทองประสม” ที่ใครๆ ก็ขนานนามว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง ไอดอลที่หลายๆ คนยกให้เธอเป็นแรงบันดาลใจ สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่ทั้งสวยและเก่ง ที่สำคัญคือใส่ใจการดูแลสุขภาพและความงามเป็นพิเศษ ซึ่งเหมาะสมกับ Lovely Eye & Skin Clinic ที่ต้องการยกระดับความสวยที่มาพร้อมกับสุขภาพและผิวพรรณที่ดี ด้วยการนำความชื่นชอบด้านศิลปะมาประยุกต์ใช้ผนวกกับประสบการณ์ของคุณหมอรวงข้าวและเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานสากล ทำให้ Lovely Eye & Skin Clinic ได้รับความนิยมและความไว้วางใจในกลุ่มดาราเซเลปอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ คุณแอน ทองประสม เลือกที่จะเป็น Brand Ambassador ให้กับ Lovely Eye & Skin Clinic และพร้อมส่งต่อความมั่นใจและความงามที่สะกดสายตาให้กับทุกคน

หากถามว่าทำไมคุณแอน ทองประสม ดาราแนวหน้าของประเทศถึงเลือกฝากฝังความสวยไว้กับคลินิก Lovely Eye & Skin Clinic คุณแอนได้กล่าวว่า เธอเลือกดูแลความงามกับ Lovely Eye & Skin Clinic เพราะคุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม มีประสบการณ์มากมาย และเทคนิคเฉพาะตัวที่คุณหมอได้คิดค้นและพัฒนาเทคนิคให้เป็น Signature ของที่นี่ที่เดียว สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการเข้าใจและเข้าถึงการดูแลความงามได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดจากคุณหมอและเจ้าหน้าที่ จึงทำให้มั่นใจถึงคุณภาพและฝีมือ เชื่อว่าคุณหมอและทีมแพทย์ Lovely Specialists สามารถดูแลความสวยอ่อนเยาว์ในแบบของตนเองได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน

เป็นยังไงกันบ้าง ได้ทำความรู้จักและได้รู้ความเป็นมาของ Lovely Eye & Skin Clinic กันไปแล้ว กว่าที่คุณหมอรวงข้าวจะนำพาคลินิกก้าวขึ้นมาเป็นคลินิกทำตาชั้นนำของประเทศไทยได้นั้น เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นและความตั้งใจของคุณหมอรวงข้าว ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของดวงตาที่สุขภาพดีและสวยงาม จึงได้ออกแบบและพัฒนาเทคนิคต่างๆ จากประสบการณ์และความชื่นชอบของตนเองขึ้นมา เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาดวงตาได้อย่างตรงจุดและมีความปลอดภัย อีกทั้งยังได้ก่อตั้งทีมแพทย์ที่มีคุณภาพอย่าง Lovely Specialists แพทย์มากประสบการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดสกิลจากคุณหมอรวงข้าวมาอย่างละเอียด ที่พร้อมมาดูแลผู้เข้ารับบริการทุกท่าน ให้ได้มีดวงตาที่สวย มีเสน่ห์ เป็นเจ้าของความงามในแบบฉบับของตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด

ไว้วางใจให้ Lovely Eye & Skin Clinic ดูแลความงามและดวงตาคู่สวย

  • Tel. 02 382 0045, 06 1405 0044
  • Line: @lovelyeye
  • Website: www.lovelyeyeclinic.com
  • Facebook: Lovely Eye & Skin Clinic
  • Instagram: @lovelyeyeandskin_by_drroungkaw
  • YouTube: Lovely Eye & Skin Clinic
ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 - จงฉู่ซี - เอเลน จง - Zhong Chuxi - Elaine Zhong - 钟楚曦- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ดาราจีน - นักแสดงจีน - นักแสดงหญิงจีน - นางแบบจีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

2 ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 ประกบคู่พระเอกสุดฮอตส่งต่อเคมีสาธารณะ!

Alternative Textaccount_circle
event
ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 - จงฉู่ซี - เอเลน จง - Zhong Chuxi - Elaine Zhong - 钟楚曦- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ดาราจีน - นักแสดงจีน - นักแสดงหญิงจีน - นางแบบจีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 - จงฉู่ซี - เอเลน จง - Zhong Chuxi - Elaine Zhong - 钟楚曦- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ดาราจีน - นักแสดงจีน - นักแสดงหญิงจีน - นางแบบจีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ รวบตึง 2 ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 จากนางแบบสาวสุดเซ็กซี่สู่การเป็นนางเอกตัวท็อป ประกบคู่กับพระเอกสุดฮอตส่งต่อเคมีสาธารณะ มีเรื่องไหน ประกบคู่ใครบ้าง ตามสุดฯ มาดูกันจ้า!

จงฉู่ซี - เอเลน จง - Zhong Chuxi - Elaine Zhong - 钟楚曦
  • The Furthest Distance แสนไกลแต่ใกล้เธอ ออนแอร์ 26 ต.ค. 2023
The Furthest Distance  -  แสนไกลแต่ใกล้เธอ - ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 - จงฉู่ซี - เอเลน จง - Zhong Chuxi - Elaine Zhong - 钟楚曦

ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 เรื่องแรกสุดฯ ขอเปิดด้วย The Furthest Distance แสนไกลแต่ใกล้เธอ ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนซ์ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนในชื่อเรื่องเดียวกันของนักเขียน จางเสี่ยวเสียน (Zhang Xiaoxian) บอกเล่าเกี่ยวกับซูอิ๋ง นักออกแบบภายในสาวสวยที่เคยเผชิญกับความรักที่โดนหักหลัง 6 ปีต่อมาหลังจากนั้นเธอจึงมุ่งมั่นให้กับเพียงเรื่องงานเท่านั้น กระทั่งเธอได้พบกับฉินอวิ๋นเซิง ที่ต้องการรีโนเวทบ้านตัวเอง ทำให้พวกเขาได้ไปร่วมรายการเรียลลิตี้เกี่ยวกับการออกแบบบ้านด้วยกัน หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ซูอิ๋งก็ค่อยๆ เปิดใจให้กับฉินอวิ๋นเซิง แต่ค่ะแต่… ในตอนนั้นเองที่ซูอิ๋งพบว่า ฉินอวิ๋นเซิงยังคงไม่ลืมคนรักเก่าที่เสียชีวิตไป ทำให้ซูอิ๋งตัดสินใจที่จะรุกหน้าให้กับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ เพื่อก้าวข้ามระยะห่างที่ดูเหมือนใกล้แต่ยังไกลระหว่างพวกเขาไปให้ได้

ท้ายที่สุด ด้วยความกล้าหาญ มองโลกในแง่ดีของซูอิ๋งก็ละลายหัวใจของฉินอวิ๋นเซิงได้สำเร็จ และทำให้เขาค่อยๆ ปล่อยวางความทรงจำที่เจ็บปวดไปได้ ในขณะเดียวกันซูอิ๋งที่ได้รับการสนับสนุนและกำลังใจจากฉินอวิ๋นเซิงก็ทำให้เธอทำความฝันในสายอาชีพของเธอได้สำเร็จ กลายเป็นนักออกแบบที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งในเรื่อง The Furthest Distance แสนไกลแต่ใกล้เธอ จงฉู่ซีประกบคู่กับจางอวิ๋นหลง (Zhang Yunlong) จากเรื่อง The Interpreter (2016), Xuan-Yuan Sword: Han Cloud (2017), My Roommate Is A Detective ยอดนักสืบแห่งยุคสาธารณรัฐจีน (2020) ฯลฯ ใครไม่อยากพลาดไปติดตามกันได้ในซีรี่ย์จีน The Furthest Distance แสนไกลแต่ใกล้เธอ ทาง WeTV

The Furthest Distance - แสนไกลแต่ใกล้เธอ - ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 - จงฉู่ซี - เอเลน จง - Zhong Chuxi - Elaine Zhong - 钟楚曦

  • Rising With the Wind ลมลิขิต ออนแอร์ 30 ต.ค. 2023
Rising With the Wind - ลมลิขิต - จงฉู่ซี  - เอเลน จง  -   Zhong Chuxi  - Elaine Zhong  -  钟楚曦

อีกเรื่องที่น่าดูไม่แพ้กัน และออนแอร์ในเดือนต.ค. 23 เช่นเดียวกันด้วยคือ Rising With the Wind ลมลิขิต ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก/สังคมเมืองที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนในชื่อเรื่องเดียวกันของนักเขียน เว่ยไจ้ (Wei Zai) บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสวีซือ นักลงทุนหนุ่มหล่อที่เปลี่ยนงานจากวาณิชธนกิจในฮ่องกง กลับมาที่แผ่นดินใหญ่เพื่อลงทุนในบริษัทต่างๆ จนได้พบกับเจียงหู ลูกสาวคนเดียวของบริษัทกลุ่มเสื้อผ้า ซึ่งทั้งสองคนเริ่มต้นความสัมพันธ์กันได้ไม่ดีนัก เพราะต่างมีแนวคิดทางธุรกิจที่แตกต่างกัน จนทำให้กระทบกระทั่งกันหลายครั้ง กระทั่งบริษัทของครอบครัวเจียงหูก็ล้มละลาย และคุณหนูเจียงหูก็เปลี่ยนสถานะกลายเป็นอดีตคุณหนูไปในพริบตา

สวีซือที่มีความทะเยอทะยานในอาชีพการงานมาโดยตลอด มุ่งมั่นที่จะชนะแบรนด์รองเท้าที่พ่อของเจียงหูสร้างขึ้นให้ได้ ดังนั้น เจียงหูจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาบริษัทรองเท้าของพ่อเธอเอาไว้ให้ได้ เรื่องราวของธุรกิจที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง อุปสรรคดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมกับความรักระหว่างสวีซือและเจียงหูที่ค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน… สำหรับในเรื่อง Rising With the Wind ลมลิขิต จงฉู่ซีประกบคู่กับพระเอกสุดฮอต กงจวิ้น (Gong Jun) เจ้าของผลงานซีรี่ย์จีนสุดฮิต เช่น ซีรี่ย์จีน Flavour It’s Yours สายลับจับกลิ่น (2019), The Love Equations หวานนักเมื่อรักหวนคืน (2020), Begin Again รักกันนะคุณสามี (2020), Word Of Honor นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า (2021) เป็นต้น โดย Rising With the Wind ลมลิขิต จะเริ่มออนแอร์วันที่ 30 ต.ค. 2023 ทาง iQIYI

Rising With the Wind - ลมลิขิต - จงฉู่ซี - เอเลน จง - Zhong Chuxi - Elaine Zhong - 钟楚曦

รูปจาก : 最遥远的距离官微/我要逆风去官微/钟楚曦

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

หวานไม่ไหว! หลินอี-หลิวฮ่าวฉุน ส่งเคมีคู่จิ้นชวนตั้งตารอซีรี่ย์จีน Derailment !

ซูมอิน หวงรื่ออิ๋ง นักแสดงหญิงจีนที่ไม่ว่าจะบทคอเมดี้ ดราม่าก็เอาอยู่!

2 ซีรี่ย์จีนในบทพระเอกของฟางอี้หลุน ปี 2023 ที่ทีมเมียไม่ควรพลาด!

ตามเก็บ 2 ซีรี่ย์จีนของซ่งเวยหลงในปี2023 หลังปล่อยผลงานใหม่ชวนลุ้นระทึก!

2 ซีรี่ย์จีนของไป๋จิ้งถิงในปี2023 มาครบทั้งแนวย้อนยุคและปัจจุบัน!

ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins

พูดคุยกับ ยิม ธัญญะ นักแสดงรุ่นใหม่ที่มาพร้อมแพสชั่นอันแรงกล้าที่มีต่ออาชีพนักแสดง

Alternative Textaccount_circle
event
ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins

สุดสัปดาห์มีนักแสดงรุ่นใหม่ของไทยอีกคนที่น่าจับตามองมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันค่า นั่นก็คือ ยิม ธัญญะ ธีระขจรกิจ ที่ขอบอกเลยว่าจากการได้ไปพูดคุยกับยิมมา เป็นนักแสดงที่มีแพสชั่นมาเต็มกับการเป็นนักแสดงมากๆ ซึ่งล่าสุดเขาก็มีผลงานการแสดงสุดท้าทายกับการต้องรับบทเป็นสองคาแร็กเตอร์ในซีรีส์เรื่อง “เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา (Casanova Begins)” ว่าแต่เรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร และการต้องมารับบทสุดท้าทายนี้ของยิมจะเป็นยังไงบ้าง สุดสัปดาห์มีบทสัมภาษณ์จากยิมมากฝากค่า

ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins

สัมภาษณ์ ยิม ธัญญะ กับเส้นทางนักแสดงที่มาพร้อมแพสชั่น

เส้นทางการเป็นนักแสดงของยิม เริ่มต้นขึ้นยังไงคะ

เส้นทางนักแสดงของยิมเริ่มต้นขึ้นจากตอนเรียนมหา’ลัย ยิมไปแคสต์โฆษณาและเอ็มวี แต่ก่อนหน้านั้นด้วยความที่ยิมเรียนเกี่ยวกับด้านนิเทศศาสตร์ ก็เลยมีรุ่นพี่ให้เราไปเล่นโน่นเล่นนี่ แล้วก็เคยไปเป็นเอ็กซ์ตร้าในหนังเรื่องหนึ่งด้วย หลังจากนั้นก็เริ่มเส้นทางเป็นนักแสดงแบบจริงๆ จังๆ มากขึ้นตอนปี 2 ก็ได้เป็นเล่นหนังสั้นของผู้กำกับพี่เสือ พิชย จรัสบุญประชา รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยรังสิต เล่นกับนนกุล ชานน สันตินธรกุล ชื่อเรื่องว่า “ดงผีป่า” (The Sanctuary) เป็นฟีลหนังผีหน่อย แต่ไม่ได้แนวผีมาก

แล้วก็หายไปเลย กลับมาแสดงอีกครั้งตอนปี 4 เริ่มถ่ายโฆษณา เล่นเอ็มวี ถ่ายแบบ แล้วก็เริ่มมาเล่นซีรีส์ของแกรมมี่ เป็นนักแสดงสมทบครับ แล้วก็ค่อยมาเป็นนักแสดงหลัก ได้รับบทเป็น “ตูน” คนที่มีภาวะโรคซึมเศร้าในซีรีส์เรื่อง “junk mail จดหมายที่ไม่ถูกเปิด ตอน จดหมายจากเพื่อนดาม” ก่อนจะมีเล่นซีรีส์วายเต็มตัวครับ

ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
เดิมมีความฝันอยากเป็นนักแสดงอยู่แล้วไหมคะ หรือฝันอยากทำอาชีพอื่น

ยิมมีความฝันอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่เด็กแล้วครับ ตอนเด็กๆ ก็จะชอบดูทีวี ชอบดูรายการแข่งขันไม่ว่าจะแข่งขันร้องเพลงหรือแข่งอะไรต่างๆ แล้วในรายการจะมีคลาสแอ็กติ้ง ยิมก็จะชอบไปนั่งดู แล้วรู้สึกว่าเราอยากทำแบบเขา ผมมีทำตามด้วยนะครับตามที่ครูเขาสอนเด็กในคลาส พอเราทำตาม เราก็รู้สึกว่าวันหนึ่งเราอยากเป็นนักแสดงแบบนี้ อยากทำแบบนี้ได้เหมือนกันนะ

จากความฝันวัยเด็กในวันนั้น ยิมก็ได้มาเป็นนักแสดงเต็มตัวเรียบร้อย แล้วล่าสุดยิมก็มีผลงานซีรีส์เรื่อง “เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา (Casanova Begins)” เล่าให้ฟังหน่อยว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

เรื่องราวจะเริ่มขึ้นที่ “ปลื้ม” วิญญาณแฟนเก่าของ “ขุนเขา” เขาต้องเข้าไปสู่ในร่างของ “คิม” ที่เป็นคาสโนวา ซึ่งคิมเป็นคนที่ปลื้มและขุนเขาเกลียด แต่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในร่างนี้เพื่อตามจีบขุนเขา แต่จะมีข้อจำกัดหนึ่งอยู่นั่นก็คือถ้ามีใครรู้ว่าข้างในเราเป็นใคร จะมีชีวิตอยู่ต่อได้เพียงแค่ 24 นาที เรื่องราวก็จะมีความน่าสนใจตรงนี้ครับ

ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
ด้วยความที่เรื่องนี้ต้องรับบทเป็นสองคาแร็กเตอร์ มีความแตกต่างกันยังไงบ้างคะ

อย่างคิมก็จะเป็นหนุ่มคาสโนวาเลย ชอบเอาชนะ เอาแต่ใจ ส่วนปลื้มคือตรงข้ามกันคิมเลย เป็นคนที่คลั่งรักมาก ให้ความรักมาเป็นอันดับ 1 คำสัญญาต้องมาก่อน สองตัวละครเลยมีความคอนทราสกัน

แล้วตอนที่อ่านบทครั้งแรกรู้สึกยังไงบ้างที่ต้องมารับบทนี้ ซึ่งมันท้าทายมาก

ตอนแรกที่ยิมอ่านบทแล้วรู้ว่าต้องมาแคสต์เรื่องนี้ ยิมก็แค่รู้สึกว่าเฮ้ย! บทนี้ทำไมมันจัง ทำไมน่าเล่นจัง อยากเอาตัวเองไปกระโจนเป็นตัวละครทั้งสองตัวนี้ครับ อยากรู้ว่าเราเล่น เราจะดีไซน์บทยังไง เราจะขยี้แล้วทำออกมาเป็นยังไง พอมีโอกาสได้แคสต์ผ่านแล้ว ได้ไปเวิร์กช็อป พอได้เล่นจริงๆ ก็รู้สึกว่าเป็นการแสดงที่มันเหมือนกันนะที่ได้เล่นเป็นสองคาแร็กเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน แต่ความยากคือเราไม่สามารถเป็นคาแร็กเตอร์ใดได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าเราต้องเล่นยังไงก็ได้ให้เป็นอีกคนหนึ่งโดยไม่เป็นตัวเอง แต่ยังมีความเป็นตัวเองหลงเหลืออยู่ แบบเป็นสัญญาณแบบบางๆ ให้เขารู้ว่าเป็นเรา

ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
เท่าที่ฟังบทจะมีความซับซ้อนอยู่ แล้วมีการไปเวิร์กกับตัวละครยังไงบ้างคะ

มีไปเวิร์กช็อปหนักอยู่เหมือนกันครับ เราต้องมานั่งรีเสิร์ช วิเคราะห์ตัวละคร และหาซีนร่วมกันว่าซีนนี้เป็นซีนที่เราทัชจริง เป็นซีนที่เราชอบของตัวละครนี้ หรือซีนนี้คือซีนที่เราไม่ชอบของตัวละครนี้ เหมือนต้องเวิร์กทุกไดนามิกของบทเลยเหมือนกันครับ

แล้วเวลาแสดงมีวิธีการแยกตัวละครยังไงบ้าง เพราะคาแร็กเตอร์ตัวละครต่างกัน วิธีการแสดงก็น่าจะแตกต่างกัน

ของยิมง่ายตรงที่เราทำการบ้านมาแข็งแรงแล้ว ไม่ได้ค่อนข้างยากมาก แต่แค่จูนอินกับตัวเองนิดหนึ่งว่าตอนนี้เราเป็นคิมนะ เราเป็นปลื้มนะ ซึ่งสองตัวละครนี้ยิมแบ่งชัดอยู่แล้วครับ เพราะยิมรู้สึกว่าทั้งสองตัวละครเขาใช้สายตาที่ดีเหมือนกัน แล้วเป็นสายตาที่ละเอียด ซึ่งเป็นการใช้สายตาที่ไม่เหมือนกัน อย่างตัวคิมเขาเป็นคาสโนวา การใช้สายตาเขาจะมีความเจ้าเล่ห์กว่า มีความละเมียดในบางอย่างมากกว่า ในขณะที่ตัวปลื้ม ใช้สายตาเหมือนกัน แต่เป็นสายตาที่ใส่ซื่อกว่า แต่พร้อมที่จะพุ่งชนถ้าเป็นเรื่องของความรัก

ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
นอกจากเจอคาแร็กเตอร์ที่ยากแล้ว มีซีนไหนที่รู้สึกว่ายากบ้างไหม

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดราม่าหนักมากๆ ของยิมเหมือนกัน แล้วยิมจำได้เลยว่าเหมือนจะเป็นซีนจบ แล้วเป็นซีนจบที่ดราม่าหนักมากๆ แล้วต้องแข่งกันเรื่องของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตก มีเวลาในการถ่ายซีนนั้นแค่ 5 นาที แล้วซีนนั้นเป็นซีนที่ใหญ่เหมือนกัน ต้องเก็บหลายมุม ซึ่งซีนนั้นมีนัยยะบางอย่างว่าถ้าเกิดพระอาทิตย์นั้นดับลง ชีวิตเราก็ไปเลย มันเลยมีความยากตรงนั้น แล้วมวลทุกอย่าง ด้วยความที่ซีนนั้นบทยาว รายละเอียดของซีนนั้น และเราไม่สามารถเล่นชั้นเดียวได้อย่างที่บอกไป แถมมีความพีคกว่านั้นคือเป็นซีนดราม่านะ แต่เราไม่สามารถดราม่าแบบสุดโต่งได้ขนาดนั้น เราต้องทำยังไงก็ได้ให้เขาอยู่กับเราแล้วมีความสุขที่สุด ณ โมเมนต์นั้น เราต้องพูดไปยิ้มไป แต่เป็นซีนที่เศร้ามาก แล้วเราก็ร้องไห้จริงๆ แต่เราต้องกลั้นทุกอย่าง แล้วด้วยแข่งกับเวลาอีก มันเลยสุดๆ มากๆ เลยครับ

ยิม ธัญญะ, ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
ถึงแม้ว่าทั้งสองตัวละครจะคาแร็กเตอร์ต่างกัน แต่มีมุมมองที่เหมือนกันคือเรื่องของคลั่งรัก แล้วในมุมมองความรักของยิมเป็นยังไง

ยิมเป็นคนที่มีความรักแบบเรียบง่ายมากเลยครับ อะไรก็ได้ ชิลล์ๆ เลย แต่ขอแค่เราคุยกัน เราสบายใจและเราคลิกกัน ผมเชื่อว่าถ้าคนเราอยู่ด้วยกัน เป็นพื้นที่ที่สบายใจจริงๆ เราไม่ต้องฝืนในการที่จะเป็นตัวเอง เขาไม่ต้องฝืนในการที่จะเป็นตัวเขา แต่ก็ต้องมีจุดตรงนี้ที่เราต้องเบลนมาหากัน ถ้าเราหาจุดเบลนตรงกลางนั้นได้ ยิมว่าจะเป็นคู่ที่แฮ็ปปี้แน่ๆ

บรรยากาศในกองถ่ายเป็นยังไงบ้าง สนุกไหม

ม่วน สนุกมากครับ แต่ต้องเป็นตอนยิมไม่ถ่ายนะ ยิมจะชอบไปนั่งอยู่หน้าเซ็ต ชอบไปทำตัวเป็นผู้กำกับ ชอบไปคุยกับทีมงานว่าพี่ผมอยากถ่าย ผมขอลองถ่ายได้ไหม แกล้งทำเป็นผู้กำกับแบบอันโน่นได้ อันนี่ได้ แล้วก็ชอบไปเล่น ไปป่วนคนอื่น เป็นพาร์ทที่ยิมได้รีแล็กจากการถ่ายทำในแต่ละวัน เพราะบางวันที่ยิมมีถ่าย ถ้าเป็นซีนดราม่าก็จะดราม่าทั้งวันเลยครับ ตาบวมไปถึงอีกวันหนึ่ง แล้วการที่เราได้รีแล็ก ได้เล่นกับเพื่อน กับทีมงาน และช่างหน้าช่างผม มันก็เลยเป็นโมเมนต์ที่สนุก แล้วความสนุกอีกอย่างของการทำงานคือทุกคนไม่กดดันเรา ทุกคนใจเย็นกับยิม อย่างที่ยิมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าด้วยความซีนเป็นซีนที่หนัก เป็นซีนที่ยาก มีเวลาจำกัดในการถ่ายทำ ทุกคนก็รู้ว่ามันไม่ทันแล้ว แต่ทุกคนก็รู้ว่าเราทำเต็มที่ ทุกฝ่ายเต็มที่หมด เขาก็ให้พื้นที่กับเรา ให้เวลากับเรามากๆ รู้สึกว่าเป็นความสนุกในการทำงานแบบเราได้ร่วมงานกับคนเก่งๆ ได้ร่วมงานกับเพื่อนๆ และทีมงานทุกคนครับ เป็นจุดที่เราได้เจอคนเก่งๆ แล้วร่วมมือกันทำผลงานให้ออกมาดีแล้ว

ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins

จากการแสดงในเรื่องนี้ ทำให้ยิมได้เรียนรู้แง่คิดอะไรบ้างคะ

ยิมรู้สึกว่าทำให้เราเห็นค่ากับตัวเองมากขึ้น และเห็นค่ากับทุกอย่างมากขึ้น คนเราไม่สามารถตายแล้วมาเกิดใหม่โดยที่สามารถกลับมาแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองได้ ยิมเลยรู้สึกว่าทำให้เราต้องใส่ใจทุกรายละเอียด ใส่ใจทุกคนมากขึ้น ถ้าเป็นมู้ดรวมของเรื่องนี้ ยิมรู้สึกว่าถ้าคนดูดูเรื่องนี้จบ อาจจะอยากไปบอกคนรอบตัวว่าเรารักคุณนะ เราคิดถึงเธอนะ ไปกินข้าวด้วยกันนะ มันทำให้กล้าที่จะพูดมากขึ้น กล้าที่จะแสดงความรู้สึกมากขึ้น

แล้วเรื่องนี้ทำให้ยิมเติบโตในฐานะนักแสดงยังไงบ้างคะ

จริงๆ ทุกเรื่องก็ทำให้ยิมเติบโตมากขึ้น แต่เรื่องนี้เราได้เล่นเป็นสองตัวละครเลย และในระยะเวลาที่กระชับ ในการถ่ายทำเราต้องเก่งขึ้นให้เร็วขึ้นที่สุด เพื่อให้ทุกคนทำงานได้ง่ายที่สุด ยิมเลยรู้สึกว่าเราต้องทำให้ดีขึ้น เราต้องเก่งขึ้น

ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
คิดว่าความสนุกของเรื่องนี้ที่จะทำให้ผู้ชมเอนจอยและติดตามดูยันจบคืออะไร

ยิมคิดว่าถ้าทุกคนดูเรื่องนี้น่าจะต้องเตรียมทิชชู่กันเยอะหน่อย เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างดราม่าหนักที่สุดในโปรเจ็กต์นี้เลย แล้วก็ไม่ได้มีแค่ความดราม่าอย่างเดียว ยิมรู้สึกว่ามีความคอเมดี้และความแฟนตาซีบางอย่าง แล้วคิดว่าคนดูจะรักในทุกๆ ตัวละคร และรักในเนื้อเรื่องของเรื่องนี้ นอกจากนี้คนดูจะได้แง่คิดอย่างที่ยิมบอกไปจะทำให้เห็นค่าในตัวเองมากขึ้น ใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น แล้วไปแสดงความรู้สึกกับคนอื่นมากขึ้น

จากบทบาทในเรื่องนี้ก็ได้รับบทที่ท้าทายไปแล้ว มีบทแบบไหนที่อยากลองเล่นได้อนาคตไหม

มีสองแบบที่อยากลองเล่นครับ อย่างแรกอยากลองเล่นแนวโรแมนติกคอเมดี้ดู เพราะที่ผ่านมายิมชอบเล่นสายดราม่าเยอะ เรารู้สึกว่าโอเค เราทำได้แล้วแหละสายดราม่า เราอยากจะมาลองเล่นโรแมนติกคอเมดี้ดู แต่เป็นแนวรอมคอมที่ตัวละครกลมๆ หน่อยครับ หมายถึงว่ามีมิติของมัน มีมิติในเส้นเรื่องว่าทำไมเขาเป็นอย่างนี้ ทำไมเขารู้สึกแบบนี้ แล้วเขามีปมในพาร์ทชีวิตเขายังไง อยากลองเล่นครับ

อีกแนวอยากลองเล่นเป็นผีๆ หรือหนังผีก็ได้ เพราะอยากรู้จักผีครับ (หัวเราะ) ยิมรู้สึกว่าพอเราเป็นคน เราแสดงตัวละครหนึ่ง ความคิดของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่พอเป็นผี จะมีความคิดที่ซับซ้อนกว่านั้น จะมีสัญญาณบางอย่าง เช่น ผีตลกก็อาจจะคิดอีกแบบหนึ่ง ผีโหดก็คิดอีกแบบหนึ่ง ผีเคียดแค้นก็คิดอีกแบบหนึ่ง ยิมรู้สึกว่าเขาไม่ได้คิดแค่ชั้นในแต่ละมิติของผี เขาต้องมีเหตุและผลที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ มีแรงจูงใจที่ทำให้เขาทำแบบนี้ อยากลองเล่น อยากรู้ว่าถ้ายิมเป็นผี ยิมจะเป็นในเวอร์ชั่นไหนนะ

ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
ดูเหมือนยิมจะเป็นคนที่ชอบตัวละครที่มีมิติ หรือมีความซับซ้อนใช่ไหมคะ

ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ยิมก็ผ่านความหนักหน่วงมามากเหมือนกัน เคยแสดงเป็นคนที่เป็นโรคซึมเศร้าเลย เวลายิมเจอบทยากมาเยอะ ยิมชอบมาก เหมือนเป็นคนบ้า มา มาอีก มาเลย ชอบมาก อยากจะกระโจนไปเล่นอีก สนุก ก็เลยอยากจะฉีกคาแร็กเตอร์ตัวเองไปเรื่อยๆ ครับ

มองภาพตัวเองในฐานะนักแสดงไว้ยังไงบ้าง

เป็นสองเวย์แล้วกัน เวย์แรกยิมอยากให้ป๊าม๊า อาม่าอากง เห็นชื่อยิมอยู่บนจอทีวี แล้วก็เห็นยิมขึ้นไปรับรางวัล แล้วยิมได้พูดกับเขาแล้วนะว่ายิมทำได้แล้ว แค่ทุกวันนี้เขาได้เห็นเราบนจอทีวี เขาก็ตื่นเต้นมากๆ เลย อาม่าจะบอกว่าเมื่อไหร่จะมีชื่อยิมอยู่บนนั้นบ้าง ยิมรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราได้ยินมาตั้งแต่เด็ก แล้วเราอยากจะทำให้เขาเห็นครับ ก็อยากทำให้ได้

ส่วนอีกเวอร์ชั่นหนึ่งคืออยากเป็นนักแสดงที่คนชื่นชอบในฐานะนักแสดง และรู้จักว่ายิมเป็นยิม ที่รับได้หลายบทบาทและเล่นได้หลายบทบาทครับ

ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
แล้วมีอะไรที่อยากทำอีกไหม นอกจากการเป็นนักแสดง

อยากเป็นนักธุรกิจครับ โดยอยากมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตัวเอง และอยากมีร้านคาเฟ่เป็นของตัวเอง แต่อยากทำแบบเป็นอาณาจักรของตัวเอง

ปกติยิมเป็นคนมีไลฟ์สไตล์เป็นแบบไหนคะ

ยิมเป็นคนชอบแต่งตัว ชอบแฟชั่น ชอบถ่ายรูปคนอื่น ชอบแต่งบ้าน ชอบฟังเพลง คือเหมือนไลฟ์สไตล์วัยรุ่นทั่วไป แต่ก็จะมีอีกพาร์ทหนึ่งที่ค่อนข้างจริงจัง ก็จะเป็นคนที่เป๊ะในการทำงาน เป็นคนชอบไปคุยกับคนที่จะทำธุรกิจ เราชอบไปคุย ไปเสนอความคิด ขายไอเดียให้กับเขา ช่วยเขาคิด รู้สึกว่ามันอะ เพราะเรายังทำไม่ได้ แต่เราอยากให้ทุกคนทำออกมาแล้วออกมาดี แล้วพอเราได้ไปคุยกับเขาเราก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเหมือนกันนะ

ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins
สุดท้ายนี้ให้ฝากผลงาน และฝากอะไรถึงแฟนๆ หน่อยค่ะ

ขอฝากซีรีส์ “เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา (Casanova Begins)” ด้วยนะครับ อาจจะออนแอร์จบไปแล้ว แต่อยากให้ทุกคนไปดูย้อนหลังกันนะครับ ส่วนผลงานอื่นๆ ก็สามารถติดตามยิมได้ในอินสตาแกรม @gymthunyah แล้วก็อยากจะขอบคุณทุกคนที่อยู่กับยิมมาตั้งแต่วันแรกที่ยิมเริ่มก้าวเข้ามาในวงการบันเทิง ก็ยังอยู่กันเหนียวแน่น ถึงแม้ว่าปัจจุบันบางคนอาจจะยังอยู่หรือไม่อยู่แล้ว แต่ทุกคนก็ต่างเป็นแรงผลักดันให้ยิมมาได้ถึงจุดนี้ครับ แล้วก็อยากจะบอกว่าจะไม่หยุดนิ่ง จะพัฒนาตัวเองต่อไปครับ และจะให้คนชื่นชอบเราที่เราเป็นเราแบบนี้ต่อนี้ รวมถึงจะทำบทบาทในพาร์ทของเราให้เต็มที่เพื่อให้ทุกคนอินและรักตัวละครที่ยิมเล่นครับ แล้วก็รอดูความสำเร็จของยิมนะ ยิมอยากมีชื่อให้อาม่าอากง ป๊าม๊าเห็นครับ

ดาราไทย, นักแสดงไทย, Gym Thunyah, เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา, Casanova Begins

ใครที่ยังไม่ได้ชมซีรีส์ “เกิดใหม่อีกครั้งเป็นคาสโนวา (Casanova Begins)” ตามไปชมย้อนหลัง แบบ UNCUT version กันได้บนแอป iQIYI และเว็บ iQ.com ที่เดียวเท่านั้น และสามารถไปติดตามช่องทางโซเชียลต่างๆ ของยิมนอกจากอินสตาแกรมได้อีก ไม่ว่าจะเป็น Twiter : @gymthunyah และ Tiktok : @gymthunyah ค่า

.

.

TEXT : ImJinah

PHOTO : ธรรมนาถ อินทร์ปรุง

.

.

.

อัพเดตข่าวบันเทิงเอเชีย ซีรี่ย์เอเชีย ดาราเอเชีย ไอดอลเอเชียได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

สัมภาษณ์พิเศษแบบจอยๆ กับ แทคยอน ไอดอล-นักแสดงตัวพ่อ แชร์ความผูกพันที่มีต่อประเทศไทย

พูดคุยกับ pH-1 เปิดใจถึงชีวิตวัยเด็ก และความประทับใจที่มีต่อประเทศไทย พร้อมแย้มเบื้องหลังบทบาทมาสเตอร์ใน Boys Planet

พูดคุยแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ THE WIND บอยแบนด์เกาหลีน้องใหม่ที่รวมตัวสมาชิกวัยทีนสุดสดใส มาแผ่ความน่ารักครองใจพี่สาวทั่วเมือง

เม้าท์กับแมทธิว-ลีเดีย-พลอย-แอริน สปอยล์ความมันในรายการเรียลิตี้สุดเผ็ช Deane’s Dynasty

พูดคุยเป็นกันเองกับ REDSTART BOYS แก๊งสี่หนุ่มเด็กฝึกหัดค่าย Redstart ENM แอบเผยเบื้องหลังรายการ Boys Planet ที่ไม่มีใครเคยรู้

Yoon Jungwoo & JAY สองหนุ่มสุดปังจากรายการ Boys Planet แท็กทีมมาโชว์เคมี เปิดเผยมิตรภาพและเรื่องราวเบื้องหลังรายการ

พูดคุยจัดเต็มกับ EVERGLOW เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีสุดปังจริตตัวแม่ เมื่อได้กลับมาพบ Forever ชาวไทยอีกครั้งในรอบ 3 ปี

ทำความรู้จัก TEMPEST บอยแบนด์เกาหลีรุ่นใหม่วิชวลปัง ความสามารถเริ่ด เสน่ห์พุ่งกระจายผ่านสัมภาษณ์พิเศษ

keyboard_arrow_up