ประเทศไทยของเราหัวกะไดมิเคยแห้งของจริง มีดาราต่างชาติแวะเวียนมาทักทายอยู่ตลอด รวมไปถึงเหล่าบรรดาดารานักแสดงหรือศิลปินจากญี่ปุ่น ล่าสุดก็มีหนึ่งศิลปินและนักแสดงของญี่ปุ่นอย่าง คาซึยะ สมาชิกวง FLS ที่ได้เดินทางมาทำงานในประเทศไทยถึง 2 ครั้งในระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งสุดสัปดาห์ก็มีโอกาสได้ไปพูดคุยกับเขามา เรียกว่าเป็นการทำความรู้จักคาซึยะตั้งแต่เด็กทั้งมุมมองชีวิตส่วนตัวและมุมมองการทำงานไปเลยจ้า แถมหนุ่มคนนี้ยังแอบกระซิบบอกอีกว่าตกหลุมรักประเทศไทยไปเรียบร้อย
คาซึยะ เผยตกหลุมรักเมืองไทย และเปิดเผยตัวตนสุดน่ารัก
เริ่มด้วยอยากให้คุณแนะนำตัวพร้อมบอกเสน่ห์ของตัวเอง 3 อย่างหน่อยค่ะ
สวัสดีครับ ผมชื่อ “คาซึยะ” ครับ (พูดเป็นภาษาไทย) เสน่ห์ของผมอย่างแรกเลยคือผมเป็นคนมองไปข้างหน้า ไม่ยอมแพ้ครับ ข้อที่สองคือผมเป็นคนที่รู้สึกขอบคุณผู้อื่นเสมอครับ และข้อสุดท้ายคือวิชวลครับ (หัวเราะ)
แล้วถ้าพูดตัวตนของคุณคาซึยะ คิดว่าตัวเองเป็นแบบไหน ได้ข่าวว่ามองภายนอกอาจจะดูนิ่งๆ สุขุม แต่จริงๆ เป็นคนเฮฮามากจริงไหมคะ
ผมจะรับหน้าที่เป็นคนคอยสร้างบรรยากาศให้กับทุกคนครับ ไม่ว่าจะไปที่ไหนผมก็เข้ากับคนง่าย ด้วยความที่ผมเป็นคนสนุกสนาน เฮฮา มีความโก๊ะๆ บ้างครับ บางทีก็จะโดนแซวบ้าง ไม่ว่าผมจะไปไหนที่นั่นก็จะสนุกสนานครับ
ด้วยความที่เป็นคนโก๊ะๆ เคยมีวีรกรรมความโก๊ะของตัวเองที่จำได้ไหมคะ
ตอนนั้นผมอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วรีบไปทำงานมากๆ เลยครับ ในขณะที่กำลังรีบเดินทางไปทำงาน จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ซึ่งผมใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงข้างหลัง ปรากฏว่าหยิบขึ้นมากลายเป็นรีโมตทีวีครับ (หัวเราะ)
ย้อนกลับไปตอนเด็กหน่อยค่ะว่าสมัยเด็กคุณคาซึยะเป็นเด็กสไตล์ไหน
ตอนที่ผมเด็กๆ ช่วงนั้นเป็นยุคที่พวกวิดีโอเกมคนเล่นกันเยอะ แต่ผมเป็นคนไม่ชอบเล่นเกมเลย ผมจะชอบออกไปออกกำลังกาย ไปเล่นข้างนอกบ้านมากกว่าครับ ผมชอบไปสัมผัสประสบการณ์ข้างนอกมากกว่าการนั่งเล่นเกมอยู่ในบ้าน ซึ่งผมก็เล่นกีฬาเบสบอลครับ
คุณเล่นตำแหน่งอะไรในกีฬาเบสบอลคะ
ตอนเล่นเบสบอลผมเล่นเป็นแคชเชอร์ครับ (ตำแหน่งแคชเชอร์คือตำแหน่งที่จะเป็นผู้รับลูกจากที่พิชเชอร์ขว้าง)
แล้วตอนเป็นนักกีฬาเบสบอลเล่นระดับไหนคะ ระดับโรงเรียน จังหวัด หรือระดับประเทศไหมคะ
ตอนที่ผมเรียนม.3 ผมได้เป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นไปร่วมการแข่งขันกีฬาเบสบอล แล้วตอนปีนั้นได้ไปแข่งกับประเทศฟิลิปปินส์ในระดับเยาวชน ซึ่งตอนนั้นก็แพ้ครับ แต่ครั้งหนึ่งมีโอกาสได้ติดทีมชาติในระดับเยาวชนครับ
ทำไมตอนนั้นถึงเลือกเล่นกีฬาเบสบอลครับ
จริงๆ แล้วตอนเด็กๆ ผมลองเล่นกีฬาหลายอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเก็ตบอล เล่นหมดเลยครับ แต่เหตุผลที่มาเล่นกีฬาเบสบอล เพราะผมชอบถุงมือเบสบอล ซึ่งก็คิดว่าแล้วทำยังไงถึงจะซื้อได้ ก็ต้องมาเล่นกีฬานี้สิ ก็เลยมาเล่นเบสบอล แล้วพอลองมาเล่นก็รู้สึกชอบด้วย ก็เลยตั้งใจและจริงจังกับการเล่นกีฬาเบสบอลครับ
ได้ยินมาว่ามีพี่สาวสองคน คุณเป็นน้องชายสไตล์ไหนสำหรับพี่สาวคะ
แม้ผมจะอายุห่างจากพี่สาวคนโต 3 ปี และพี่สาวคนที่สอง 1 ปี แต่พี่ๆ มองผมว่าเป็นเด็กน้อยน่ารัก เป็นน้องเล็กของบ้าน พี่ๆ เอ็นดูผมมากๆ ครับ ถึงแม้กระทั่งตอนนี้พี่ๆ ก็ยังมองว่าผมเป็นน้องเล็กน่ารักของพี่ๆ ครับ ส่วนตัวผมรู้สึกว่าไม่ใช่แค่พี่สาว ทั้งครอบครัวของผมเลยเป็นครอบครัวที่ที่พึ่งพากันได้ แล้วก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่น ซึ่งเวลามีปัญหาอะไรก็ตาม ไม่ใช่แค่พี่สาวเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่ด้วย มีอะไรก็พร้อมจะช่วยเหลือผมตลอด แล้วก็เป็นครอบครัวที่รวยด้วยเสียงหัวเราะครับ
ด้วยความที่คุณคาซึยะเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก จริงๆ แล้วตอนเด็กมีความฝันอยากเป็นอะไรคะ
ตอนเด็กๆ จะมีให้เขียนเรียงความครับ ซึ่งผมก็เขียนว่าผมอยากเป็นซูเปอร์สตาร์ครับ พูดแล้วก็รู้สึกแอบเขินนิดหนึ่ง แต่ตอนเด็กๆ เขียนว่าแบบนั้นครับ ซึ่งผมอยากให้ตัวเองโด่งดัง แต่ไม่ได้มีคิดว่าต้องดังจากอาชีพไหนหรือสถานะไหนครับ
แล้วจุดไหนที่ทำให้เริ่มจุดประกายว่าอยากเป็นซูเปอร์สตาร์ในฐานะดาราคะ
ช่วงวัยเด็กถึงช่วงมัธยมฯ ผมสัญญากับครอบครัวว่าจะตั้งใจเล่นเบสบอลให้ดี แล้วพอหลังจากช่วงที่ผมเรียนจบมัธยมฯ ปรากฏว่าผมก็ไปเดินเล่นในเมืองแล้วก็มีแมวมองมาเจอ เขาชักชวนให้ผมมาเข้าวงการบันเทิงประมาณช่วงอายุ 18–19 ปี
แล้วตอนนั้นได้ลองทำงานอะไรในวงการบันเทิงบ้างคะ
พอเริ่มเข้าวงการ ผมได้ไปออดิชั่นเล่นเรื่องวันพีซ จะเป็นการแสดงโชว์ที่บนเวทีอยู่ในธีมพาร์คในโตเกียวทาวเวอร์ครับ ผมเล่นเรื่องนี้อยู่ 1 ปี โดยวันหนึ่งจะแสดงทั้งหมด 7 รอบ และสัปดาห์ละ 5 วัน ซึ่งผมก็สนุกสนานกับงานนี้มาก และตั้งใจทำงานตลอด 1 ปีที่ได้แสดงวันพีซ หลังจากนั้นก็ได้มาแสดงละครทีวีก่อนจะได้เป็นนายแบบเดินแบบบนแคทวอล์ก และปัจจุบันผมก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง FLS ครับ
คุณคาซึยะทำมาหลากหลายงานในวงการบันเทิงเลย ชอบจุดไหนของแต่ละงาน ทั้ง นักแสดง นักร้อง และนายแบบ
ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วไม่ว่าจะงานแสดง งานเพลง หรืองานโมเดลมีจุดเชื่อมโยงกัน รวมไปถึงการแสดงไม่ว่าจะในทีวี หนัง หรือตอนที่แสดงวันพีซก็ตาม สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำงานทั้งหมดก็คือในเรื่องของความพยายามครับ เพราะการที่ผมไม่ได้มีประสบการณ์มาก่อนเลยแล้วมีโอกาสได้ไปเรียนรู้ แน่นอนตอนแรกจะยากมากๆ แล้วในครอบครัวผมก็ไม่ได้มีเงินมากมายจะไปลงทุนเข้าคอร์สเรียนเรื่องต่างๆ ทุกๆ อย่างผมก็ต้องพยายามด้วยตัวเอง ฝึกเอง ก็ทำให้ผมมีความเพียรพยายาม และเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย แล้วความเพียรพยายามเหล่านั้นก็ยังส่งผลให้ผมมีทักษะและประสบการณ์ติดตัวมา จนทำให้มีจุดที่สามารถเชื่อมโยงกับงาน ณ ปัจจุบันของผมได้ด้วยครับ ผมจึงชอบจุดนี้ครับ
ตอนที่ต้องแสดงเรื่องวันพีซ ซึ่งเป็นผลงานแรกเลย จำได้ไหมว่าวินาทีแรกที่ได้โชว์ครั้งแรกตื่นเต้นขนาดไหน
ครั้งแรกที่ขึ้นเวทียังเป็นความทรงจำที่ก้องอยู่ในหัวผมอยู่เลยครับ มันยังเป็นภาพจำที่ชัดเจนมาจนถึงทุกวันนี้ พอขึ้นเวทีไปปุ๊บก็มีเสียงคนปรบมือ แน่นอนว่าก็ต้องรู้สึกตื่นเต้น ซึ่งก็ทำให้รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ในวงการบันเทิงแล้วนะ เพราะฉะนั้นผมต้องทำให้ดีที่สุด
แล้วตอนนั้นต้องฝึกอะไรบ้างคะ
ตอนที่เล่นเรื่องวันพีซ ไม่ใช่แค่ต้องฝึกเรื่องบทพูด หรือต้องมาคิดว่าตัวเองต้องต่อบทกับคนอื่นยังไง ผมต้องเริ่มตั้งแต่เรื่องร่างกายตัวเองเลยครับ ต้องไป Stretching หรือยืดกล้ามเนื้อของตัวเอง เพราะตอนแรกผมตัวแข็ง ไม่ได้ตัวอ่อนแบบสามารถยืดได้ แล้วการต้องไปยืดตัว เป็นอะไรที่ผมต้องพยายามมากๆ เวลากลับบ้านผมก็ต้องไปซ้อมอีกตลอดครับ ก็เป็นอะไรที่หนักมากๆ ครับ ก็คือเริ่มตั้งแต่เรื่องพื้นฐานของร่างกายไปจนถึงการเสริมเรื่องทักษะการแสดงครับ
เมื่อกี้พูดถึงการเป็นสมาชิกของวง FLS อยากให้ช่วยแนะนำวงให้ผู้อ่านสุดสัปดาห์รู้จักมากขึ้นหน่อยค่ะ
โดยปกติวงทั่วๆ ไปเขาจะเน้นความเป็นกรุ๊ป ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต้องพร้อมเพรียง หรือทุกคนจะต้องไปในทางเดียวกัน แต่วง FLS จะไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ จะไม่ได้เหมือนวงอื่น วงของเราคือใครมีความเด่นยังไงก็เด่นแบบนั้นแหละ เอาความเด่นของตัวเองแสดงออกมา หมายถึงถนัดในด้านไหนก็แสดงด้านนั้นออกมา เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จึงส่งผลมาถึงเรื่องของลักษณะเพลง เราจะไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องเป็นเพลงแนวป็อป อินดี้ หรือแนวไหนเลยอย่างเดียว วงจะมีเพลงทั้งฟังง่ายๆ หรือฟังแล้วสนุกสนาน หรือเป็นเพลงที่เท่ๆ แนวเพลงจะไม่มีการกำหนดไว้เลยครับ เพราะฉะนั้นจุดนี้แหละครับคือจุดเด่นของวง
การมาไทยในครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์คุณได้เดินทางมาประเทศไทยครั้งแรก ตอนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ
ตอนแรกที่ได้ยินว่าจะได้ไปประเทศไทยก็คิดว่าจะได้ไปจริงๆ เหรอ มันเป็นความฝันหรือเปล่าที่จะได้มีโอกาสไปทำงานที่ประเทศไทย แล้วปรากฏว่าก็ได้มาจริง ซึ่งผมก็รู้สึกตื่นเต้น และมีความกังวลอยู่บ้างครับ แล้วพอได้มาประเทศไทยจริงๆ ก็รู้สึกดีใจมากๆ ทุกคนต้อนรับผมเป็นอย่างดี ดูแลผมดีมากๆ เลยครับ ผมรู้สึกหลงรักและชอบประเทศไทยตั้งแต่ตอนที่มาไทยครั้งแรกเลยครับ
เพราะฉะนั้นพอได้มาประเทศไทยเป็นครั้งที่สอง ก่อนมาผมไม่ต้องคิดเยอะเลยตอนที่มีคนชวนมา ผมตัดสินใจตอบรับว่าจะมาทันทีเลยว่าจะไปแน่นอน
แล้วการทำงานในประเทศไทยเป็นยังไงบ้างคะ สนุกไหมคะ
จะบอกว่ายิ่งกว่าคำว่าชอบ ผมได้มีโอกาสทำงานอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วก็ถือว่าเป็นการได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่ได้มาประเทศไทย เพราะฉะนั้นทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ สำหรับโอกาสดีๆ ที่ได้รับในครั้งนี้ โอกาสที่ได้รับเหล่านี้แน่นอนว่าจะเป็นส่วนผลักดันที่ทำให้ผมได้มีโอกาสได้ทำอย่างอื่นต่อไปครับ รู้สึกดีใจมากๆ เลยครับ
นอกจากมาทำงานแล้ว เห็นได้ไปเที่ยวหลายที่เลย ได้ไปที่ไหนบ้าง
ตั้งแต่มาประเทศไทยผมมีโอกาสได้ไปล่องเรือที่เอเชียทีค และยังได้ไปกินข้าวที่เยาวราช พอได้ไปก็รู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกว่าแต่ละที่ดีจังเลย ทำให้ผมคิดว่าในเมืองไทยน่าจะมีที่เที่ยวอะไรอีกเยอะเลยแน่ๆ เพราะฉะนั้นช่วยแนะนำผมด้วยนะครับว่าควรไปเที่ยวที่ไหนอีก ถ้ามีโอกาสผมอยากไปอีกหลายๆ ที่เลยครับ
สุดสัปดาห์ : ถ้าประเทศไทยก็ทะเลสวยค่ะ มีหลายที่เลยที่ทะเลสวยๆ เช่น ภูเก็ต เกาะหลีเป๊ะ หรือถ้าชอบภูเขา ก็มีเชียงใหม่ เชียงรายค่ะ
ผมชอบธรรมชาติมากครับ อยากลองไปดูครับ
แล้วชอบอะไรในเมืองไทยที่สุดคะ
สิ่งที่ชอบที่สุดคือเมืองไทยไม่มีฤดูหนาวครับ (ทีมงานพร้อมใจกันหัวเราะ 5555+) เพราะผมไม่ค่อยชอบอากาศหนาวเท่าไหร่ครับ เพราะเวลาอากาศหนาว ตอนเรานอนเราห่มผ้าห่มก็อุ่น แต่ข้างนอกมันหนาวจัดเลย ทำให้ไม่อยากตื่นนอนครับ อยากนอนซุกผ้าห่มอย่างเดียวเลยครับ พออยู่เมืองไทยผมก็จะไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ ผมก็เลยแฮปปี้มากครับที่ได้อยู่ในอากาศร้อนๆ ชิลๆ ในประเทศไทยแบบนี้ครับ
อยากมีอะไรที่ทำในประเทศไทยอีกไหมคะ
ผมอยากลองไปขี่ช้างครับ เพราะผมอยากลองทำอะไรที่ในญี่ปุ่นไม่มีครับ ซึ่งการขี่ช้างที่ญี่ปุ่นก็ไม่มี หรือที่ผมเคยไปเสิร์ชมาก็มีให้เล่นกับเสือได้ ผมอยากลองหลายอย่างเลยครับ เพราะผมชอบสัตว์เลยอยากลองขี่ช้าง อยากเล่นกับเสือครับ
ได้ข่าวว่าสนใจงานในวงการบันเทิงไทยด้วย มีงานอะไรที่อยากทำคะ
จริงๆ ไม่ได้กำหนดไว้ว่าอยากจะทำอะไรมากที่สุด ในใจก็อยากจะลองทำหลายๆ อย่างเลยครับ อะไรก็ได้ที่มีคนเสนอมาแล้วถ้าผมทำได้ก็อยากจะลองทำเต็มที่ครับ และอีกอันที่อยากจะทำคือทำช่อง YouTube ที่นำเสนอเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับประเทศไทยให้คนญี่ปุ่นมีโอกาสได้รับรู้ด้วยว่าประเทศไทยดียังไงบ้างครับ ผมตั้งใจอยากจะทำในอนาคตครับ
คุณคาซึยะอยากลองทำช่อง YouTube เกี่ยวกับประเทศไทย ก็ต้องรู้คำภาษาไทยบ้าง มีคำไหนที่พูดได้บ้างคะ
ผมรู้จักคำว่า อร่อย, ใช่ๆ, สู้ๆ, ขอบคุณครับ, สวัสดีครับ, ผมชื่อคาซึยะครับ, สวย และหล่อครับ
ปกติตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น ชอบทำอะไรเป็นงานอดิเรกคะ
ผมเป็นคนชอบธรรมชาติครับ แล้วก็ชอบไปออนเซน ที่ญี่ปุ่นออนเซนจะเยอะ ผมก็จะชอบลองไปออนเซนที่โน่นที่นี่ครับ นอกจากนั้นก็จะชอบไปดูหนังบ้าง และไปช็อปปิ้งครับ
เมื่อกี้แอบแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยให้คุณคาซึยะไป อยากให้คุณแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นให้แฟนๆ ชาวไทยบ้างคะ
ผมอยากแนะนำบ้านเกิดของผมที่อำเภอนาโกย่า จังหวัดไอจิครับ อาหารอร่อยมาก โดยอาหารในนาโกย่ามีลักษณะพิเศษคือรสชาติเข้มข้นครับ มีอาหารอร่อยหลายอย่างมาก เพราะฉะนั้นผมขอฝากไปเที่ยวนาโกย่าบ้านเกิดของผมด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้ ฝากถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อยค่ะ
ขออนุญาตฝากเนื้อฝากตัวกับแฟนๆ ชาวไทยด้วยนะครับ ผมขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะอยากจะสร้างความสุขและสร้างรอยยิ้มให้กับคนไทย เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสได้ร่วมในหลายๆ งานของประเทศไทย ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
.
.
สถานที่:
Crowne Plaza Bangkok Lumpini Park
คราวน์ พลาซ่า กรุงเทพฯ ลุมพินี พาร์ค
เสื้อผ้า
ZARNY Collection
.
.
.
TEXT : ImJinah
PHOTO : นวพจน์ โพธิเกษม
.
.
อัพเดตข่าวบันเทิงเอเชีย ซีรี่ย์เอเชีย ดาราเอเชีย ไอดอลเอเชียได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ
Exclusive Interview กับ BALLISTIK BOYZ ศิลปินชั้นนำแห่งวงการ J-POP ความปังระดับตัวพ่อ
สัมภาษณ์พิเศษวง PSYCHIC FEVER วงน้องใหม่มาแรงจากญี่ปุ่น พกพาความดีงามเบอร์ล้าน
พูดคุยกับ TRINITY กับการเติบโตจนได้ร่วมงานกับศิลปินต่างชาติ และมุมมองต่อวงการ T-POP
.