สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน จัดงาน Taste of Thailand  ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต โดยได้เชิญ เชฟชุมพล แจ้งไพร ประธานอนุกรรมการ Soft Power สาขาอาหาร เจ้าของรางวัลมิชลิน 2  ดาว 5 ปีซ้อน ทำอาหารไทย 5 ภาค เสิร์ฟให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ได้แก่ ข้าวซอยเนื้อจากภาคเหนือ แกงเขียวหวานจากภาคกลาง ผัดหมี่โคราชและส้มตำไก่ย่างจากภาคอีสาน ขนมจีนน้ำยาปูจากภาคใต้ เส้นจันทน์ปูจากภาคตะวันออก ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหม้อแกง ขนมชั้น ขนมปังหน้ากุ้ง ข้าวตังหน้าตั้ง พร้อมสาธิตการประกอบอาหารไทยเมนูลาบคั่ว

            งาน Taste of Thailand จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับสมาคมด้านอาหารนานาชาติ La Chaîne des Rotisseurs ในเดนมาร์ก โดย นางศิริลักษณ์ นิยม เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ได้กล่าวเปิดงานร่วมกับนาย Jørgen Krenk ประธานสมาคมฯ โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงอาหารไทยที่มีวิวัฒนาการต่อเนื่องมาหลายศตวรรษจนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งในด้านความกลมกล่อมของทุกรสชาติและกลิ่นของสมุนไพรและเครื่องเทศจากอาหารที่มีความหลากหลายกันไปในแต่ละภาคของประเทศ

นอกจากนี้ การจัดงานยังได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ กรุงโคเปนเฮเกน โดยได้มีซุ้มบริการเครื่องดื่มคอกเทลแบรนด์ซิลพิน (SILPIN) ของไทยที่นำเสนอนวัตกรรมกลิ่นไซรัปที่มีอัตลักษณ์ของความเป็นไทยและเครื่องดื่มเบียร์สิงห์ ซุ้มส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยและสาธิตการทำถุงผ้าพิมพ์ลายทอง

            รวมทั้งการแสดงดนตรีไทยและโขนโดยคณะละครมรดกใหม่ซึ่งก่อตั้งโดยครูช่าง ชลประคัลภ์ จันทร์เรือง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละคร) พ.ศ. ๒๕๖๒ การสาธิตมวยไทยและการแสดงนาฏศิลป์ไทยโดยคณะสยามสไมล์กรุ๊ป รวมถึงการแจกของที่ระลึกไทยเป็นเครื่องแกงไทย สูตรอาหารไทยทั้ง ๕ ภาค เข็มกลัดรูปสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย และแผ่นพับประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยแก่แขกผู้ร่วมงานประมาณ ๙๐ คน

ประกอบด้วยสมาชิกของสมาคมด้านอาหารนานานาชาติ La Chaîne des Rotisseurs คณะทูตานุทูต ผู้แทนภาครัฐและเอกชนในเดนมาร์ก และกลุ่ม Friends of Thailand ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละคร) พ.ศ. ๒๕๖๒ การสาธิตมวยไทยและการแสดงนาฏศิลป์ไทยโดยคณะสยามสไมล์กรุ๊ป รวมถึงการแจกของที่ระลึกไทยเป็นเครื่องแกงไทย สูตรอาหารไทยทั้ง ๕ ภาค เข็มกลัดรูปสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยและแผ่นพับประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยแก่แขกผู้ร่วมงานประมาณ ๙๐ คน ประกอบด้วยสมาชิกของสมาคมด้านอาหารนานานาชาติ La Chaîne des Rotisseurs คณะทูตานุทูต ผู้แทนภาครัฐและเอกชนในเดนมาร์ก และกลุ่ม Friends of Thailand

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น ร่วมกับโรงแรม Four Seasons นครเจนีวา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงาน “Amazing Thai Food Night, Amazing Thailand” ณ ห้อง Salon du Lac โรงแรม Four Seasons ซึ่งจัดขึ้นภายใต้โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารจากธรรมชาติรวมถึงสมุนไพรของไทยในสวิตเซอร์แลนด์ของสถานเอกอัคราชทูตฯ โดยในโอกาสนี้ โดย เชฟชุมพล แจ้งไพร มานำเสนอเอกลักษณ์อาหารไทยผ่านการใช้สมุนไพรไทยชนิดต่าง ๆ ในการประกอบอาหาร

นอกจากนั้น ได้มีการจัดการแสดงทางวัฒนธรรม อาทิ รำไทยสี่ภาค รำวง และการสาธิตมวยไทย โดยผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วย นายจิตติพัฒน์ ทองประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบิร์น เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ณ นครเจนีวา เลขาธิการสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association – EFTA) รวมทั้งสื่อมวลชนในนครเจนีวา ได้แก่ The Foreign Press Association in Switzerland and Liechtenstein, ELLE Magazine, Les Genevoises, New Sight Magazine, Go out! Magazine และ Elevated Living

            ทั้งนี้ งานดังกล่าวจัดขึ้นในห้วงกิจกรรม Savours of Thailand ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน 2567 ณ โรงแรม Four Seasons นครเจนีวา ซึ่งได้รับความสนใจและชื่นชมจากกลุ่มลูกค้า prestige ของ Swiszerland และ ชาวต่างชาติที่นิยมชมชอบอาหารไทยและประเทศไทย

       “BIG CAMERA Leica Authorized Dealer” ร่วมกับ “Leica Camera Asia Pacific” จัดงานเปิดตัวกล้องคอมแพคฟูลเฟรมระดับไฮเอนด์ “LEICA Q3 43”ที่เกิดมาเพื่อมอบแก่นแท้ของการถ่ายภาพที่ไร้ซึ่งการปรุงแต่งด้วยเลนส์ตัวใหม่ใกล้เคียงสายตามนุษย์มากที่สุด สอดผสานเข้ากับเทคโนโลยีของกล้องแห่งศตวรรษที่ 21 มาพร้อมงานดีไซน์ตัวบอร์ดี้ที่คงอัตลักษณ์แห่งไลก้า โดดเด่นอยู่เหนือกาลเวลา สง่างาม เรียบหรู พร้อมเปิดให้เหล่าไลก้าเลิฟเวอร์ได้เก็บเข้าคลอเลกชันแล้วตั้งแต่วันนี้เฉพาะที่ บิ๊ก คาเมร่า เท่านั้น ราคาเริ่มต้น 264,000 บาท

         กิจกรรมครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก มร. ไบรอัน โก๊ะ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาค บริษัท ไลก้า          คาเมร่า เอเชียแปซิฟิก และ มร. เคซี อิง แบร์นแอมบาสเดอร์ และ ไลก้า อคาเดมี่ ประเทศสิงคโปร์มาร่วมแนะนำ “LEICA Q3 43” โดยมี นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ, นายชิตชัย         เธียรกาญจนวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)พร้อมด้วยช่างภาพท็อปคลาสของเมืองไทย จอร์จ-ธาดา วารีช, โอ๊ต-ชัยสิทธิ์ จุนเจือดี และนักแสดงชื่อดัง สเตฟาน-ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์, ฌอห์ณ จินดาโชติ ร่วมทั้งช่างภาพอินฟูเอ็นเซอร์จากเพจดัง อาทิ Seventeenfiftyseven, Rockhhound, Pakornograpx และ Bzsranuwat เข้าร่วมงานและร่วมเวิร์คชอปถ่ายภาพครั้งแรกกับกล้อง LEICA Q3 43 เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ เดอะเฮาส์ ออน สาทร

กล้อง LEICA Q3 43 คอมแพคฟูลเฟรมระดับไฮเอนด์ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Moment, Just as Your Eye Sees ด้วยการแลกเปลี่ยนแนวคิดกับช่างภาพทั่วโลก พร้อมการพัฒนากลายเป็นกล้องที่เกิดมาเพื่อมอบความลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของการถ่ายภาพที่ไร้ซึ่งสิ่งปรุงแต่ง ตัวบอร์ดี้เน้นงานดีไซน์ที่คงอัตลักษณ์ Leica DNA มาอย่างหมดจด โดดเด่นอยู่เหนือกาลเวลา สง่างาม เรียบหรู สะท้อนความเป็น Iconic แห่งรสนิยม ที่สอดผสานเทคโนโลยีของกล้องแห่งศตวรรษที่ 21 มาพร้อมเลนส์ APO-Summicron 43 f2 ASPH เลนส์ Leica APO ในระยะใช้งานที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้มุมมองใกล้เคียงสายตามนุษย์มากยิ่งขึ้น ผสานคุณสมบัติของเลนส์ไวแสง ให้ความคมชัดและความละเอียด 60 ล้านพิกเซล พร้อมไฟล์ภาพแบบ 3D Pop พื้นหลังละลายและเอกลักษณ์ Bokeh ที่สวยงาม

สำหรับผู้ที่สนใจ LEICA Q3 43 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ BIG Camera Leica Authorized Dealer ร้าน Exclusif by BIG Camera ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน                ดิ เอ็มควอเทียร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ไอคอนสยาม แฟชั่น ไอซ์แลนด์ และ เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ หรือติดตามความเคลื่อนไหวอื่นๆ ได้ที่  https://www.bigcamera.co.th

#BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอลที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด

#โฟกัส..ให้ลึกถึงตัวตน เริ่มต้นที่ Big Camera

กลุ่มนักธุรกิจครอบครัวไทย สมาชิกของเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) หรือสมาคมธุรกิจครอบครัวเชิงสร้างสรรค์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติของมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชา และสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน ร่วมให้การต้อนรับ ฯพณฯ ดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ในงานเลี้ยงอาหารค่ำสุดพิเศษ ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพมหานคร

เคานต์เจรัลด์ แวน เดอ สตราเทน พอนโธส ประธานมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ เรียนเชิญ ฯพณฯ ดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ร่วมปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับโครงการสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก เกเลพู เมืองแห่งสติ (Gelephu Mindfulness City)

ภายในงานได้จำลองบรรยากาศของประเทศภูฏาน เพื่อทำการต้อนรับ ฯพณฯ ดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วย ฯพณฯ ลายองโป เลเค ดอร์จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ฯพณฯ ลายองโป นัมเกล ดอร์จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กรมการค้า และการจ้างงาน รวมถึงผู้แทนจากกระทรวงต่าง ๆ หอการค้า และกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำของราชอาณาจักรภูฏาน โดยมีบุคคลสำคัญของประเทศไทย ฯพณฯ ดร. จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา คุณอาสา สารสิน หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต พร้อมด้วยแวดวงนักธุรกิจชั้นนำของประเทศไทยหลายท่าน อาทิ คุณสันติ ภิรมย์ภักดี ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร. สุทธิพันธ์ จิราธิวัฒน์ คุณนิติ โอสถานุเคราะห์ และอีกมากมาย ให้การต้อนรับ

ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก มูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ เอฟบีเอ็กซ์ (FBX) หรือสมาคมธุรกิจครอบครัวเชิงสร้างสรรค์แห่งประเทศไทยและ สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน ที่ร่วมมือรังสรรค์งานผสมผสานองค์ประกอบต่างๆเข้าด้วยกัน มีทั้งการผสมผสานมิตรภาพระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรภูฏาน มีการพูดคุยเกี่ยวกับครอบครัวในการจัดการด้านธุรกิจและเกี่ยวกับ ความฝัน

เมนูอาหารสุดพิเศษถูกรังสรรค์ขึ้นโดยการผสมผสานรสชาติของอาหารไทยแบบดั้งเดิม กับคาเวียร์และชีสที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังได้สอดแทรกกลิ่นอายของประเทศภูฏานไว้ได้อย่างลงตัว เช่น มีขวดน้ำที่สวมชุดพื้นเมืองขนาดเล็กของภูฏาน สร้างสรรค์โดยแบรนด์ไทย VORAVAJ Bangkok นอกจากนี้ยังมีของที่ระลึกพิเศษอื่นๆ มอบให้กับแขกทุกท่าน

โดย ดร. จารุวรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นำเปิดงานและตามด้วย คุณวิกร ศรีวิกรม์ ในนามตัวแทนของสังคมไทยกล่าวต้อนรับ ฯพณฯ  นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน จากนั้น คุณสรรนิยา คานธี บาร์ดวาจ ตัวแทนเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) ซึ่งเป็นสมาคมสำหรับธุรกิจครอบครัว กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) เพื่อให้สังคมไทยได้ร่วมรู้จักกับเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) และกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวมากขึ้น ตามด้วยการดื่มด่ำกับอาหารค่ำรสเลิศในบรรยากาศเพลงภูฏานอันไพเราะ

หลังจากนั้น เคานต์เจรัลด์ แวน เดอ สตราเทน พอนโธส ประธานมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ หนึ่งในสมาชิกครอบครัวผู้ก่อตั้งบริษัท AB InBev ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ร่วมแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับพื้นที่สำหรับความฝันในครอบครัวและเรื่องราวความเป็นมาของบริษัทAB InBev และครอบครัว อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ ดาโช เชริง โตบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ให้เกียรติกล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับโครงการสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งคือ เกเลพู เมืองแห่งสติ (Gelephu Mindfulness City) โดยอธิบายถึงแนวคิด เอกลักษณ์ของโครงการ รวมถึงโอกาสสำหรับนักลงทุนไทย พร้อมทั้งนี้ ท่านได้ตอบข้อซักถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

โครงการ เกเลพู เมืองแห่งสติ

เกเลพู เมืองแห่งสติ คือเขตบริหารพิเศษบริเวณตอนใต้ของประเทศภูฏาน ที่พัฒนาขึ้นเป็นโครงการภายใต้แนวคิด ความมีสติ (Mindfulness) ความยั่งยืน (Sustainability) และการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข (Harmony) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลก ในการสร้างเมืองที่จะพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกันกับธรรมชาติและการดำรงชีวิตอย่างมีสติ อีกทั้งเมืองแห่งนี้จะกลายเป็นตัวอย่าง ของการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและมีคุณค่าสำหรับกลุ่มคนรุ่นต่อไป โดยวิสัยทัศน์ของโครงการเมืองแห่งสติเมืองใหม่ของภูฏานนี้ถูกนำเสนออย่างเป็นทางการ โดยสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ในปี 2566 เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ไม่เหมือนใครในโลก

เกเลพู เมืองแห่งสติ จะเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ทางตอนใต้ของประเทศภูฏาน ซึ่งเป็นประเทศที่สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ต่ำกว่าศูนย์ได้เป็นแห่งแรกของโลก และเมืองแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ตารางกิโลเมตร ถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของชาวภูฏานที่มีดัชนีความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH) และมีมรดกทางจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง

โครงการ เกเลพู เมืองแห่งสติ เป็นโครงการอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักลงทุน กลุ่มผู้สนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กลุ่มที่มีแนวคิดในการทำธุรกิจเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน ทั้งกลุ่มเทคโนโลยีสีเขียว การศึกษา และสุขภาพ รวมถึงกลุ่มบริษัทการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณและเชิงนิเวศวิทยา รวมถึงผู้คนที่สนใจเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบและวิถีชีวิตแบบชาวภูฏาน นับได้ว่ามีผู้คนให้ความสนใจและติดตามการพัฒนาโครงการเกเลพู เมืองแห่งสติอย่างมากมาย

ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ และสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน จึงได้ร่วมมือกับ เอฟบีเอ็กซ์ (FBX) เพื่อจัดงานเลี้ยงพิเศษครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้สังคมไทยได้เรียนรู้เกี่ยวกับโครงการเกเลพู เมืองแห่งสติ จากนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ที่ให้เกียรติมาปาฐกถาพิเศษด้วยตัวท่านเอง

ค่ำคืนแห่งมิตรภาพและการเรียนรู้ที่น่าจดจำ

ในการจัดงานครั้งนี้ วัตถุประสงค์ของเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) มูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชา และสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน ไม่เพียงต้องการต้อนรับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏานเป็นอย่างดีและเหมาะสมที่สุดเท่านั้น แต่ยังต้องการให้ค่ำคืนนี้เป็นที่น่าจดจำ และสร้างสัมพันธภาพอันดีงามระหว่างสังคมไทยและภูฏานอีกด้วย

คำกล่าว เคานต์เจรัลด์ แวน เดอ สตราเทน พอนโธส ประธานมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ

และสมาชิกคณะกรรมการบริหารของเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) เกี่ยวกับงานพิเศษในครั้งนี้

“เรากำลังอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราทุกคนต้องปรับตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในด้านธุรกิจ ในชุมชน หรือในการใช้ชีวิตส่วนตัว การเปลี่ยนแปลงของโลกนั้นเร็วมาก จนบางครั้งเราอาจลืมพื้นฐานของชีวิตและสิ่งที่สำคัญจริงๆ ประเทศภูฏานเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมือนใครในโลกที่นำแนวคิดเรื่องความสุขมวลรวมประชาชาติ (GNH) มาใช้เป็นกำลังขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ อีกทั้งยังเป็นประเทศและเป็นสังคมที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครๆ อีกมากมาย หากประเทศภูฏานกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง แล้วพวกเราทั้งหลายกำลังทำผิดหรือเปล่า เป็นไปได้ไหมกับการสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเคารพต่อธรรมชาติ จิตวิญญาณ ประเพณี วัฒนธรรมในสมัยโบราณ และรวมทั้งความสุขด้วย อาจจะมีคนสงสัยว่าวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ในการพัฒนาโครงการ เกเลพู เมืองแห่งสติ ว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องสำหรับอนาคตหรือไม่ หรือเป็นเส้นทางที่เราควรเดินตาม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนและมีความสุขที่แท้จริง”

คำกล่าวของ ฯพณฯ คุณคินซัง ดอร์จิ เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏานประจำประเทศไทย

“งานสุดพิเศษของเอฟบีเอ็กซ์ (FBX) เกี่ยวกับเกเลพู เมืองแห่งสติ (The Gelephu Mindfulness City: GMC) จะเป็นโอกาสอันดีสำหรับเจ้าของธุรกิจและนักลงทุนชาวไทยที่สนใจที่จะได้ฟังการบรรยายของฯพณฯ ดาโช เชริง โตบเกย์นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏานเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เกี่ยวกับโครงการ เกเลพู เมืองแห่งสติ และฟังโอกาสด้านการลงทุนและด้านธุรกิจต่างๆ ที่เป็นไปได้ในเมืองนี้ งานปาฐกถาพิเศษนี้ยังจะเป็นช่องทางสำหรับเจ้าของธุรกิจและนักลงทุนชาวไทยในการสร้างเครือข่ายและหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลงทุนและความร่วมมือทางธุรกิจกับแขกผู้ร่วมงานจากภูฏาน ซึ่งรวมถึงสมาชิกคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจของเราและนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง”

คำกล่าวของคุณสรรนิยา คานธี บาร์ดวาจ สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเอฟบีเอ็กซ์ (FBX)

“โครงการ เกเลพู เมืองแห่งสติเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของประเทศภูฏานในการพัฒนาสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นในขณะที่ยังคงรักษารากฐานที่มั่นคงในค่านิยมหลักของประเทศ อันเป็นค่านิยมที่สะท้อนก้องไกลกว่าเขตชายแดนและวัฒนธรรม  ในโลกที่ในบางครั้งความต้องการเติบโตอาจจะขัดแย้งกับหลักการที่เรายึดถือมา แต่โครงการนี้สอนบทเรียนอันสำคัญยิ่ง ถึงความเป็นไปได้ในการสร้างความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าและเป้าหมายเข้าด้วยกัน ในงานนี้ไม่เพียงจะเป็นโอกาสให้เรียนรู้วิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของภูฏาน แต่ยังเปิดโอกาสให้พวกเราได้ไตร่ตรองว่า พวกเราในฐานะผู้นำทางธุรกิจจะสามารถผนวกหลักการเหล่านี้เข้ากับองค์กรของตัวเอง เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปได้อย่างไรบ้าง”

The 1 Exclusive เปิดประสบการณ์ช้อปเหนือระดับ Global Luxe Privileges ผนึกเครือข่ายพันธมิตรกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรปและประเทศแห่งการช้อปปิ้งชั้นนำ ให้สมาชิกได้ช้อปแบบ VIP สะดวกสบายทุกที่ทั่วโลก!

The 1 Exclusive ผู้นำโปรแกรมดูแลกลุ่มลูกค้า Wealth Segment ของ The 1 อันดับหนึ่งในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล เปิดประสบการณ์ช้อประดับโลกเพื่อสมาชิกคนพิเศษ Global Luxe Privileges ด้วยเครือข่ายอันแข็งแกร่งของกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์เหนือระดับของสมาชิก The 1 Exclusive ที่มีการใช้จ่ายและการเดินทางระหว่างประเทศเป็นประจำ ชูสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ครอบคลุม 10 ห้างสรรพสินค้าชั้นนำใน 8 ประเทศ อาทิ สะสมคะแนน The 1, สะสมยอดช้อปเพื่อรับสิทธิ์อัปเกรดหรือต่อสถานะเป็น The 1 Exclusive, ส่วนลดสูงสุด 20% และบริการพิเศษระดับ VIP ที่ครอบคลุมทุกมิติของการช้อประดับสากล ไม่ว่าสมาชิกคนสำคัญจะอยู่ที่ใดในโลก ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์การช้อปได้อย่างสะดวกสบายเสมือนอยู่บ้าน เพียงแสดงสถานะ The 1 Exclusive บน The 1 APP

คุณอรญา คูนลินทิพย์, Head of Wealth Segment – The 1 กล่าวว่า “เราทราบดีว่าสมาชิก The 1 Exclusive มีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น ทั้งการใช้ชีวิตและการเดินทางท่องเที่ยวไปยังเมืองชั้นนำที่เป็นศูนย์กลางของแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ระดับโลก จากข้อมูลชี้ว่า 75% ของสมาชิก The 1 Exclusive มีความสนใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และ 95% ของสมาชิกเคยใช้บริการและพึงพอใจกับสิทธิพิเศษที่เรามอบให้ ณ ห้างสรรพสินค้าพันธมิตรของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป ด้วยเหตุนี้ The 1 Exclusive จึงเดินหน้ายกระดับประสบการณ์พิเศษและครอบคลุมยิ่งกว่าเคย ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป อาทิ อิตาลี เยอรมนี เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ และขยายสู่พันธมิตรทั่วทุกเมืองที่เป็นแหล่งช้อปชั้นนำในเอเชีย อย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และสิงคโปร์ เพื่อตอบโจทย์ ‘Global Luxe Privileges’ อย่างต่อเนื่องและตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าคนพิเศษ โดยนอกจากการสะสมคะแนน The 1 และสะสมยอดช้อปเพื่อรับสิทธิ์อัปเกรดหรือต่อสถานะเป็น The 1 Exclusive รวมกับการช้อปในประเทศไทยได้อย่างไร้รอยต่อแล้ว สมาชิก The 1 Exclusive ยังจะได้รับการบริการที่เทียบเท่ากับสมาชิก VIP ของประเทศนั้นๆ พร้อมด้วย Cashback สูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์การช้อปเหนือระดับ Global Luxe Privileges อย่างแท้จริง”

The 1 Exclusive Global Luxe Privileges: สมาชิก The 1 Exclusive รับทันทีสิทธิพิเศษจากห้างสรรพสินค้าชั้นนำในยุโรปและประเทศแห่งการช้อปปิ้งระดับโลก อาทิ สะสมคะแนน The 1 และสะสมยอดช้อปเพื่อรับสิทธิ์อัปเกรดหรือต่อสถานะเป็น The 1 Exclusive เมื่อมียอดใช้จ่ายถึง 400,000 บาทต่อปี พร้อมด้วยส่วนลดสูงสุด 20% และบริการพิเศษระดับ VIP ที่ครอบคลุมทุกมิติของการช้อประดับสากล ดังนี้

1.อิตาลี: ห้างสรรพสินค้า Rinascente ในมิลานและโรม ทุกการใช้จ่าย 1 ยูโร สะสมได้ 1 คะแนน รับส่วนลด 10% ผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว พร้อมบริการส่งของถึงโรงแรมฟรี และคืนภาษีแบบเร่งด่วน

2.เยอรมนี: ห้างสรรพสินค้า KaDeWe ในเบอร์ลิน ทุกการใช้จ่าย 1 ยูโร สะสมได้ 1 คะแนน รับส่วนลด 10% ผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว พร้อมบริการห่อของขวัญฟรี และบริการส่งของถึงโรงแรมภายในวันเดียวกัน ห้างสรรพสินค้า Oberpollinger ในมิวนิค และ ห้างสรรพสินค้า Alsterhaus ในฮัมบูร์ก รับส่วนลด 10%

3.เดนมาร์ก: ห้างสรรพสินค้า ILLUM ในโคเปนเฮเกน ทุกการใช้จ่าย 7.5 โครนเดนมาร์ก สะสมได้ 1 คะแนน รับส่วนลด 10% พร้อมบริการส่งของถึงโรงแรมฟรี และบริการห่อของขวัญแบบไม่มีขั้นต่ำ

4.สวิตเซอร์แลนด์: ห้างสรรพสินค้า Globus ในซูริค, ลูเซิร์น และเจนีวา ทุกการใช้จ่าย 1 ฟรังก์สวิส สะสมได้ 1 คะแนน รับส่วนลด 10% ผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว บริการห่อของขวัญฟรี พร้อมบริการส่งของถึงโรงแรมฟรี และบริการจอดรถฟรี 4 ชั่วโมง

5.ญี่ปุ่น: ห้างสรรพสินค้า Daimaru ในโตเกียว, โกเบ, โอซาก้า (ชินไซบาชิ) และซัปโปโร รับส่วนลด 10% พร้อมรับบัตรกำนัลร้านอาหารมูลค่า 2,000 เยน เมื่อคืนภาษีจากยอดซื้อ 100,000 เยนขึ้นไป ที่สาขาโอซาก้า (ชินไซบาชิ) พร้อมสิทธิ์ใช้ห้องรับรองพิเศษสำหรับคุณและผู้ติดตาม 1 ท่าน

6.เกาหลีใต้: ห้างสรรพสินค้า Lotte Duty Free สาขาเมียงดง, World Tower Store, ปูซาน และเจจู รับส่วนลดสูงสุด 20% พร้อมสิทธิ์การอัปเกรดสถานะเป็นสมาชิก Premium และสิทธิ์ใช้ห้องรับรอง Star Lounge Café & LVVIP Lounge ที่สาขาเมียงดง พร้อมผู้ติดตาม 1 ท่าน

7.จีน: ห้างสรรพสินค้า Bailan ในเซี่ยงไฮ้ รับคูปองส่วนลด 100 หยวน เมื่อซื้อสินค้าขั้นต่ำ 500 หยวน และคูปองส่วนลดอีก 100 หยวนอีก 2 ใบ เมื่อซื้อสินค้าขั้นต่ำ 2,000 หยวน พร้อมรับของที่ระลึกเป็นกระเป๋าสะพาย Sport Theme Shoulder Bag

8.สิงคโปร์: รับสิทธิ์อัปเกรดเป็นสถานะ Elite เป็นเวลา 3 เดือนทันที รับส่วนลด 15% เมื่อจองห้องพักที่ Marina Bay Sands และใช้บริการที่ Banyan Tree Spa สำหรับ à la carte treatments และแพ็กเกจต่างๆ พร้อมสิทธิ์ใช้ห้องรับรอง Sands Lounge และตั๋วเข้าชมฟรีสำหรับ ArtScience Museum, SkyPark Observation Deck, Sampan Ride และ Digital Light Canvas (ใช้ได้สูงสุด 6 ครั้งต่อเดือน จำกัด 1 คู่ต่อวัน)

นอกจากนั้น สมาชิก The 1 Exclusive ยังได้รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ณ ห้างสรรพสินค้าพันธมิตรในยุโรป ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า Rinascente ในอิตาลี, ห้างสรรพสินค้า KaDeWe, Oberpollinger, Alsterhaus ในเยอรมนี, ห้างสรรพสินค้า ILLUM ในเดนมาร์ก, ห้างสรรพสินค้า Globus ในสวิตเซอร์แลนด์ ดังนี้

•บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เดอะแบล็ค: รับเครดิตเงินคืน 15%
•บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน แบล็ค: รับเครดิตเงินคืน 10%
•บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน ลักซ์: รับเครดิตเงินคืน 5%

เกี่ยวกับ The 1 Exclusive

The 1 Exclusive ผู้นำโปรแกรมดูแลลูกค้าระดับพรีเมียม พร้อมสิทธิพิเศษเหนือระดับให้กับสมาชิกครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ โดย The 1 ผู้นำด้านดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์มอันดับ 1 ของไทย ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล มอบประสบการณ์พิเศษสำหรับสมาชิกได้ในทุกวันกับสิทธิประโยชน์ บริการและของรางวัลพิเศษ ที่เลือกสรรเฉพาะเพื่อสมาชิก The 1 Exclusive ครอบคลุมทุกมุมไลฟ์สไตล์ ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ อาทิ ที่จอดรถพิเศษที่ศูนย์การค้าในกลุ่มเซ็นทรัล คะแนน The 1 ไม่มีวันหมดอายุ ส่วนลดราคาพิเศษจากกลุ่มเซ็นทรัลและพันธมิตรมากมาย สิทธิ์ในการใช้ห้องรับรองพิเศษที่ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในกลุ่มเซ็นทรัล มีผู้ช่วยช้อปส่วนตัว (Personal Shopper) รวมถึงสิทธิพิเศษและรีวอร์ดอีกมากมายครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเชื่อมต่อการใช้งานทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อผ่าน The 1 APP

ดาวน์โหลด The 1 APP เพื่อติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ทั้งบน App Store, Play Store และ Huawei AppGallery https://t1x.onelink.me/XZji/ormlo1c2