ครีมกันแดดญี่ปุ่น

7 ครีมกันแดดญี่ปุ่น 2025 คุณภาพดี เทคโนโลยีล้ำ ปกป้องผิว+บำรุงในตัว

account_circle
event
ครีมกันแดดญี่ปุ่น
ครีมกันแดดญี่ปุ่น

#SudsapdaBeauty แนะนำ ครีมกันแดดญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพดี เทคโนโลยีล้ำ กันแดดแน่น พร้อมบำรุงในตัว แถมคุณสมบัติปังๆ อีกมากมาย ใครกำลังมองหากันแดดตัวใหม่สำหรับซัมเมอร์ 2025 ลองดู 7 ตัวนี้! แล้วตัวไหนคือไอเท็มที่ใช่สำหรับคุณ คอมเมนต์มาบอกกันได้นะ

แนะนำ ครีมกันแดดญี่ปุ่น กันแดดแน่น พร้อมบำรุงในตัว

CANMAKE MERMAID SKIN GEL UV C03

ครีมกันแดดญี่ปุ่น CANMAKE MERMAID SKIN GEL UV C03

กันแดดโทนอัพ จากแบรนด์ CANMAKE รุ่นนี้มาพร้อมการปกป้องด้วยค่า SPF50+ PA++++ ใช้ได้กับทั้งผิวหน้าและผิวกาย หลอดขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาไปเติมระหว่างวันได้สะดวก เนื้อกันแดดเป็นเนื้อเจลที่ทาแล้วแตกตัวเป็นน้ำ ซึมซาบสู่ผิวรวดเร็ว ให้ความรู้สึกเย็นชุ่มชื้นสบายผิว และเป็นเมคอัพเบสในตัว ช่วยโทนอัพผิวให้ดูสว่างขึ้น และเตรียมผิวให้ชุ่มชื้นพร้อมสำหรับการแต่งหน้า

มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่ช่วยเสริม Skin barrier ใครสายขี้เกียจหรือตอนเช้าไม่มีเวลาลงอะไรหลายขั้นตอน ตัวนี้ตัวเดียวจบ เพราะทั้งปกป้องผิว มีส่วนผสมของสารบำรุง และโทนอัพผิวด้วย ความจริงรุ่นนี้มีหลายสี แต่ส่วนตัวชอบเบอร์ 03 สีม่วง ช่วยลดเม็ดสีเหลือง ช่วยให้หน้าดูสดใส ไม่หมอง เหมาะกับคนที่อันเดอร์โทนผิวเหลือง

CANMAKE SUNSCREEN ครีมกันแดด แคนเมค
เนื้อครีมกันแดด CANMAKE MERMAID SKIN GEL UV C03
  • เป็นกันแดดแบบ Hybrid
  • ปกป้องผิวด้วยค่า SPF50+ PA++++
  • เป็นเนื้อเจลที่แตกตัวเป็นน้ำเมื่อสัมผัสผิว
  • มีส่วนผสมของ Niacinamide ที่ช่วยเสริม Skin barrier
  • เป็นโทนอัพในตัว (สีม่วง ช่วยลดความเหลือง ผิวดูสดใสขึ้น)

ราคา – 40 g ประมาณ 300 บาท (ขึ้นกับร้านค้าและช่วงโปรโมชั่น) มีจำหน่ายที่บิวตี้สโตร์ ดรักสโตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และช่องทางออนไลน์

BIORE UV AQUA RICH WATERY ESSENCE SPF50+ PA++++

BIORE UV AQUA RICH WATERY ESSENCE SPF50+ PA++++

กันแดด Biore UV Aqua Rich Watery Essence เป็น ครีมกันแดดญี่ปุ่น อีกตัวที่ดังมาก ด้วยเนื้อเอสเซนส์ที่บางเบา ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะหรือทิ้งคราบขาวบนผิว สัมผัสเสมือนน้ำเมื่อทาแล้วจะซึมซาบสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่เหนียว ไม่มัน จึงสามารถเติมทับเมคอัพระหว่างวันเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการปกป้องได้

Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ มีการใช้เทคโนโลยี Micro Defense ที่มี Micro UV Cut Capsule อนุภาคขนาดไมโครที่ให้การปกป้องผิวได้อย่างดี นอกจากนี้ ยังปกป้องผิวอย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยค่า SPF50+ และ PA++++ ซึ่งสามารถปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB ที่เป็นสาเหตุของความหมองคล้ำ ริ้วรอย และความหย่อนคล้อย รวมทั้งมีสารบำรุงจาก Hyaluronic Acid และ Royal Jelly Extract

BIORE UV AQUA RICH WATERY ESSENCE
เนื้อครีมกันแดด BIORE UV AQUA RICH WATERY ESSENCE
  • เป็นครีมกันแดดแบบ Chemical
  • ปกป้องผิวด้วยค่า SPF50+ PA++++
  • มีเทคโนโลยี Micro Defense ในการปกป้องผิว
  • เนื้อเอสเซนส์บางเบา ให้สัมผัสเสมือนน้ำ สบายผิว
  • มีสารบำรุงจาก Hyaluronic Acid และ Royal Jelly Extract

ราคา – 50 g 420 บาท  (ขึ้นกับร้านค้าและช่วงโปรโมชั่น) มีจำหน่ายซูเปอร์มาร์เก็ตและบิวตี้สโตร์ชั้นนำทั่วไป อาทิ Konvy, Boots, Beautriam, Watsons, 7-11 หรือช่องทางออนไลน์

ALLIE CHRONO BEAUTY SMOOTH GEL UV SPF50+ PA++++

แบรนด์ ALLIE เป็นครีมกันแดดญี่ปุ่นอีกตัวที่น่าสนใจยิ่งขึ้นเมื่อมีการปรับสูตร สำหรับสูตรใหม่ในรุ่น Chrono Beauty สามารถใช้เป็นเมคอัพเบสได้ มีส่วนผสมของผงดูดซับความมัน และผงไข่มุกช่วยเบลอรูขุมขน กันน้ำ ทนเหงื่อ มีส่วนผสมของเมนทอลที่ให่ความรู้สึกเย็นสบาย

ครีมกันแดดญี่ปุ่น ALLIE CHRONO BEAUTY SMOOTH GEL UV SPF50+ PA++++

เนื้อกันแดดเป็นเจลครีม ลื่น ทาง่าย อาจใช้เวลาซึมซาบเล็กน้อย แต่เมื่อซึมแล้วสบายผิว ไม่มัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่ทำให้รู้สึกว่าผิวแห้งเกินไป มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นอย่างโซเดียม ไฮยาลูโรเนต ไม่แต่งสีและกลิ่น ใช้ได้กับทั้งผิวหน้าและผิวกาย และเป็นสูตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ครีมกันแดดญี่ปุ่น ALLIE CHRONO BEAUTY SMOOTH GEL UV
เนื้อครีมกันแดด ALLIE CHRONO BEAUTY SMOOTH GEL UV
  • เป็นครีมกันแดดสูตร Hybrid
  • ปกป้องผิวด้วยค่า SPF50+ PA++++
  • เนื้อเจลครีม ลื่น ทาง่าย
  • มีส่วนผสมของผงไข่มุกช่วยเบลอรูขุมขน
  • มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น โซเดียม ไฮยาลูโรเนต

ราคา – 60 g 780 บาท  (ขึ้นกับร้านค้าและช่วงโปรโมชั่น) มีจำหน่ายที่บิวตี้สโตร์ ดรักสโตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และช่องทางออนไลน์

ANESSA PERFECT UV SUNSCREEN SKINCARE MILK SPF50+ PA++++

ANESSA PERFECT UV SUNSCREEN SKINCARE MILK SPF50+ PA++++ ครีมกันแดด

แบรนด์ ANESSA เป็น ครีมกันแดดญี่ปุ่น ที่ดังและปังมากในเอเชีย ให้การปกป้องขั้นสูงด้วยค่า SPF50+ PA++++ มาพร้อม Auto Repair & Booster Technology ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีอย่างต่อเนื่อง และบูสต์ประสิทธิภาพการปกป้องเมื่อผิวสัมผัสกับความร้อน ความชื้น และเหงื่อ

รุ่นนี้เป็นเนื้อน้ำนม บางเบา ซึมสู่ผิวได้ง่าย เมื่อซึมแล้วแห้งเนียนไปกับผิวเลย สบายผิว ไม่มัน ไม่เหนอะหนะ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นไพรเมอร์ที่ช่วยเตรียมผิวก่อนแต่งหน้า มาพร้อมการบำรุงจาก Skin Beautifying Sun Essence ที่ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน และเป็นสูตรที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำร้ายปะการัง

ครีมกันแดดญี่ปุ่น ANESSA PERFECT UV SUNSCREEN SKINCARE MILK
เนื้อครีมกันแดด ANESSA PERFECT UV SUNSCREEN SKINCARE MILK
  • เป็นครีมกันแดดสูตร Hybrid
  • ปกป้องผิวด้วยค่า SPF50+ PA++++
  • เนื้อน้ำนม ซึมง่าย ไม่มัน ไม่เหนอะ
  • Auto Repair & Booster Technology ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีอย่างต่อเนื่อง
  • เป็นไพรเมอร์ที่ช่วยเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าในตัว

ราคา – 60 ml 1,050 บาท  (ขึ้นกับร้านค้าและช่วงโปรโมชั่น) มีจำหน่ายที่บิวตี้สโตร์ ดรักสโตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เคาน์เตอร์ในแผนกเครื่องสำอาง ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และช่องทางออนไลน์

ELIXIR DAY CARE REVOLUTION SPF50+ PA++++​

ELIXIR DAY CARE REVOLUTION SPF50+ PA++++​

เพิ่งเปิดตัวใหม่เลย สำหรับ ELIXIR Day Care Revolution SPF50+ PA++++​ กันแดดผิวสวย ผสาน 3 คุณสมบัติในหนึ่งเดียว ทั้งกันแดด ไพร์เมอร์ และมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว มาพร้อม MitoRevitalizer เทคโนโลยีเฉพาะของบ้านชิเซโด้ ช่วยให้ผิวแลดูสวยเปล่งปลั่ง Micro UV Technology ที่ช่วยปกป้องอย่างครอบคลุมและแนบสนิทไปกับผิว ทั้งยังอุดมไปด้วยสารบำรุง 7 ชนิด

เนื้อสัมผัสสดชื่น สบายผิว เกลี่ยง่าย ช่วยให้เมคอัพติดทนนานโดยไม่ทิ้งคราบขาว ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า มาพร้อมกลิ่นหอมผ่อนคลายแนวฟลอรัล

ELIXIR DAY CARE REVOLUTION
เนื้อครีมกันแดด ELIXIR DAY CARE REVOLUTION
  • เป็นกันแดดแบบ Hybrid
  • ปกป้องผิวด้วยค่า SPF50+ PA++++​
  • เป็นทั้งกันแดด ไพร์เมอร์ และมอยส์เจอไรเซอร์ในตัว
  • MitoRevitalizer เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผิวแลดูสวยเปล่งปลั่ง
  • อุดมไปด้วยสารบำรุง 7 ชนิด

ราคา –  35 ml 1,365 บาท มีจำหน่ายที่เคาน์เตอร์ ELIXIR ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และ EVEANDBOY หรือช่องทางออนไลน์

KANEBO VEIL OF THE DAY SPF50 PA+++

KANEBO VEIL OF THE DAY SPF50 PA+++ ครีมกันแดด

ครีมกันแดดเนื้อบางเบาที่คุณสมบัติเสมือนเซรั่ม สามารถเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้สูงและคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี ด้วยเทคโนโลยี Lamella UV Protection ที่ช่วยป้องกันรังสียูวีพร้อมมอบความชุ่มชื้น และส่วนผสมที่เป็นน้ำประมาณ 75% ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้านจากการเผชิญกับรังสียูวี

เนื้อครีมดีมาก ลื่น เกลี่ยง่าย สบายผิว ทาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนมีฟิล์มที่ชุ่มชื้นปกป้องผิว แต่ไม่มัน ไม่เหนียว และไม่เหนอะหนะ สามารถใช้เป็นเมคอัพเบสได้ ด้วยความที่เนื้อเบาบางจึงไม่ทำให้เมคอัพเป็นคราบ นอกจากนี้ยังมีสารสกัดที่ช่วยบำรุงผิว ลดผลกระทบจากรังสียูวี และเสริม Skin Barrier อย่าง สารสกัดจากชา สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ สารสกัดจากอัลที รูท และโซเดียม ไฮยาลูโรเนต มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ แนวฟลอรัล

KANEBO VEIL OF THE DAY SPF50 PA+++ ครีมกันแดด
เนื้อครีมกันแดด KANEBO VEIL OF THE DAY
  • เป็นครีมกันแดดสูตร Chemical
  • ปกป้องผิวด้วยค่า SPF50 PA+++
  • เทคโนโลยี Lamella UV Protection ที่ช่วยป้องกันรังสียูวีพร้อมมอบความชุ่มชื้น
  • มีสารสกัดที่ช่วยบำรุงผิว ลดผลกระทบจากรังสียูวี และเสริม Skin Barrier
  • เนื้อสัมผัสหรูหรา เนียนลื่น ให้ความชุ่มชื้นสูง

ราคา – 40 g 1,700 บาท มีจำหน่ายที่เคาน์เตอร์ KANEBO ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และช่องทางออนไลน์

SHISEIDO FUTURE SOLUTION LX UNIVERSAL DEFENSE SPF50+ PA++++

SHISEIDO FUTURE SOLUTION LX UNIVERSAL DEFENSE S SPF50+ PA++++ ครีมกันแดด Sunscreen

ครีมกันแดดญี่ปุ่น ที่ให้การปกป้องพร้อมบำรุงจากแบรนด์ที่เน้นเทคโนโลยีด้านความงามอย่าง SHISEIDO มาพร้อมประสิทธิภาพในการปกป้องผิวด้วยค่า SPF50+ PA++++ และเทคโนโลยี SuperVeil-UV 360 ที่ปกป้องยูวีและกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ มีสารต้านอนุมูลอิสระจากแสง 3 ชนิด ทั้งยังเป็นเมคอัพเบสในตัว

เนื้อครีมกันแดดชุ่มชื้น กันน้ำ ทนเหงื่อ แต่ไม่เหนอะหนะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ มีจุดเด่นคือ ช่วยเสริม Skin Barrier จากส่วนผสมของสารบำรุงแบบจัดเต็ม ที่เด่นๆ คือสาร Golden Mushroom Complex ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระจากแสง 3 ชนิด คือ รังสียูวี แสงสีฟ้า และรังสีอินฟาเรด, ENMEI Herb ซึ่งเป็นส่วนผสมเอกสิทธิ์ตัวดังของแบรนด์ SHISEIDO และสารสักดจากพืชญี่ปุ่น

SHISEIDO FUTURE SOLUTION LX UNIVERSAL DEFENSE
เนื้อครีมกันแดด SHISEIDO FUTURE SOLUTION LX UNIVERSAL DEFENSE
  • เป็นครีมกันแดดสูตร Hybrid
  • ปกป้องผิวด้วยค่า SPF50+ PA++++
  • เทคโนโลยี SuperVeil-UV 360 ที่ปกป้องยูวีและกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
  • มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระจากแสง 3 ชนิด คือ รังสียูวี แสงสีฟ้า และรังสีอินฟาเรด
  • มีส่วนผสมของสารบำรุงต่างๆ และ ENMEI Herb ซึ่งเป็นส่วนผสมเอกสิทธิ์ตัวดังของแบรนด์ SHISEIDO

ราคา – 50 ml 3,750 บาทมีจำหน่ายที่เคาน์เตอร์ชิเซโด้ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์

FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ครีมกันแดด

1. ครีมกันแดดมีกี่ประเภท

ครีมกันแดดมี 3 ประเภท คือ แบบ Chemical, แบบ Physical และแบบ Hybrid

2. ครีมกันแดดแบบไหนดีกว่ากัน

แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป

ครีมกันแดดแบบ Chemical ใช้หลักการดูดซับรังสียูวีแล้วเปลี่ยนเป็นความร้อน ข้อดีคือราคาไม่สูง หาได้ง่ายในท้องตลาด เนื้อบางเบา สีอ่อน ข้อเสียคือต้องทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงหากออกแดด

– ครีมกันแดดแบบ Physical ทำงานแบบสะท้อนรังสียูวีออกไป ข้อดีคือโอกาสแพ้หรือระคายเคืองน้อยกว่า ไม่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ ปกป้องผิวได้ดี ข้อเสียคือเนื้อจะหนักกว่า และอาจมีความขาวมากกว่า

– แบบ Hybrid เป็นกันแดดที่ผสมข้อดีและลดข้อเสียระหว่าง Chemical กับ Physical คือทำงานแบบทั้งดูดซับและสะท้อนรังสียูวี เนื้อจะเบากว่าแบบ Physical

3. ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกกี่ชั่วโมง

ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง แต่ก็ขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น

– หากอยู่ในที่ร่มอาจทาซ้ำทุก 4-6 ชั่วโมง

– เมื่อออกแดดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง และหากทำกิจกรรมที่เหงื่อออกมากควรใช้ครีมกันแดดสูตรกันน้ำ

– ทำกิจกรรมทางน้ำหรือว่ายน้ำ ควรทาซ้ำทันทีเมื่อขึ้นจากน้ำ

4. ทาครีมกันแดดซ้ำอย่างไรไม่ใหเป็นคราบ

– เลือกครีมกันแดดเนื้อบางเบา แบบสเปรย์ หรือแป้งผสมกันแดด

– ซับหน้าด้วยทิชชู่หรือกระดาษซับมันก่อนเสมอ

– สำหรับกันแดดแบบครีมหรือเนื้อโลชั่น ให้บีบลงบนฝ่ามือ ถู แล้วแท็ปลงบนผิวแทนการทา

– ส่วนครีมกันแดดแบบสเปรย์หรือแป้งผสมกันแดด ให้ฉีดสเปรย์กันแดดหรือแท็ปแป้งลงบนผิวหลังการซับหน้าได้เลย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแยกครีมกันแดดแต่ละประเภท

กันแดดแบบ Chemical – เป็นกันแดดที่ใช้หลักการดูดซับรังสียูวีแล้วเปลี่ยนเป็นความร้อน ข้อดีคือราคาไม่สูง หาได้ง่ายในท้องตลาด เนื้อบางเบา สีอ่อน ข้อเสียคือต้องทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงหากออกแดด

สารในกันแดดกลุ่ม Chemical เช่น Octinoxate, Avobenzone (Butyl Methoxydibenzoylmethane), Homosalate, Octocrylene, Oxybenzone (Benzophenone-3), Octisalate (Ethylhexyl Salicylate), Ethylhexyl Methoxycinnamate

ครีมกันแดดแบบ Physical – ทำงานแบบสะท้อนรังสียูวีออกไป ข้อดีคือโอกาสแพ้หรือระคายเคืองน้อยกว่า ไม่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ ปกป้องผิวได้ดี ข้อเสียคือเนื้อจะหนักกว่า

ส่วนผสมในกลุ่มนี้คือ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide (เป็นสารกันแดดเพียง 2 ตัวที่ FDA ของสหรัฐอเมริกาให้การรับรองมายาวนาน

กันแดดแบบ Hybrid – เป็นกันแดดที่ผสมข้อดีและลดข้อเสียระหว่าง Chemical กับ Physical คือทำงานแบบทั้งดูดซับและสะท้อนรังสียูวี เนื้อจะเบากว่าแบบ Physical ปัจจุบันหลายแบรนด์เลือกใช้สูตรนี้เพื่อการปกป้องที่ดีขึ้นและเนื้อสัมผัสที่น่าใช้ยิ่งขึ้น

ส่วนผสมในกันแดดแบบ Hybrid อาจมีทั้งส่วนผสมในกลุ่ม Physical และ Chemical ร่วมกัน และส่วนผสมที่มีคุณสมบัติสะท้อนและดูดซับในตัวเอง เช่น Methylene Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol

*หมายเหตุ – การรีวิวเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล ผลลัพธ์และความรู้สึกอาจแตกต่างไปตามสภาพผิว ความชอบ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

Text/Images: Nicharee W.

ติดตามอ่านบทความความงามเพิ่มเติมได้ที่นี่

เจาะ ครีมกันแดดแบรนด์ไทย MISTINE & HER HYNESS ดียังไง เด็ดแค่ไหน ทำไมปังมาก

อัปเดต เมคอัพผิวโกลว์ กับรองพื้น&ลิปสติกรุ่นใหม่ จาก DECORTÉ

รวม ลิปบำรุงสีสวยฉ่ำ แท่งเดียวจบครบทั้งสีสันและความชุ่มชื้น

รู้จัก Coty บริษัทผู้พลิกโฉมวงการน้ำหอมตั้งแต่ปี 1904 หรือเมื่อ 120 ปีก่อน!

คุยกับ ดนัย ดีโรจนวงศ์ ผู้พา MISTINE สู่ตลาดโลก พร้อมส่องบิวตี้ไอเท็มสุดเก๋ที่สาวๆ เทใจให้

คุยเรื่องความงามทั้งภายนอกและภายใน กับ “จองแซมุล” มาสเตอร์บิวตี้ตัวจริง

เจาะเทคโนโลยีในลิปสติกรุ่นล่าสุด Rough Star Vibrant จาก KANEBO #สวยฉ่ำไม่ตกร่อง

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up