สัมภาษณ์ 4 นักแสดงนำ อีดงอุค อีจูบีน อีกวางซู และอีดาฮี จากซีรีส์ The Divorce Insurance เกมรักประกันใจ

account_circle
event

The Divorce Insurance เกมรักประกันใจเ รื่องราวของพนักงานบริษัทประกันชีวิตที่ได้ร่วมกันออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันตัวใหม่เกี่ยวกับการหย่าร้าง ด้วยเหตุผลที่ว่าการหย่าร้างคือโชคร้ายครั้งใหญ่ที่คนส่วนมากอาจเผชิญในชีวิต โดยระหว่างการพัฒนาประกันหย่าร้างและพยายามกำหนดมูลค่าของการหย่านี้ พวกเขากลับได้ทบทวนเกี่ยวกับตัวเองและเรียนรู้ถึงความรัก

การแต่งงานและการหย่าร้างดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันสุดขั้ว แต่สองสิ่งนั้นล้วนมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ… ความสุข

ชีวิตคู่แต่งงาน แค่รักยังไม่พอ และอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดรอดฝั่ง และหากมีประกันการหย่าร้างมาเป็นหลักประกันความมั่นคงไม่ให้ใจเจ็บล่ะ คุณสนใจมั้ย?

สุดสัปดาห์ล้อมวงสัมภาษณ์ 4 นักแสดงนำ อีดงอุค อีจูบีน อีกวางซู และอีดาฮี จากซีรีส์The Divorce Insurance เกมรักประกันใจ ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ที่เสนอแง่มุมความรัก ชีวิตคู่ และการทบทวนถึงสิ่งที่ผ่าน มาฟังคำตอบกันว่าถ้ามีประกันการหย่าร้างทั้ง 4 นักแสดงนำจะซื้อมั้ย


ในเรื่องตัวละครของคุณผ่านการหย่าร้างมา 3 ครั้ง และยังใช้ประสบการณ์นั้นกับการทำงาน แต่ในชีวิตจริงคุณยังโสดอยู่เลย คุณทำการบ้านอย่างไรเพื่อทำความเข้าใจตัวละคร

อีดงอุค: เนื่องจากอาชีพนักแสดงคืออาชีพที่ต้องแสดงบทบาทที่ไม่ใช่ตัวเองให้ผู้ชมได้ดู ผมก็เลยคิดว่าจริงๆ แล้วประสบการณ์แต่งงานอาจจะไม่ได้สำคัญขนาดนั้นครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยแสดงเป็นทั้งยมทูตและจิ้งจอกเก้าหางมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่มีประสบการณ์จริงๆ ในเรื่องพวกนั้น ดังนั้นสิ่งที่สำคัญไม่ใช่ประสบการณ์ส่วนตัว แต่เป็นการตีความบทละครและถ่ายทอดให้ผู้ชมเข้าใจและเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครมากกว่าครับ

บุคลิกที่โดดเด่นน่าสนใจที่สุดของตัวละครของคุณ คืออะไร

อีดงอุค: ตัวละครที่ผมรับบทคือ ‘โนกีจุน’ ซึ่งทำงานเป็นนักออกแบบกรมธรรม์ประกันภัยครับ เขาผ่านการแต่งงานและหย่ามาแล้วถึง 3 ครั้ง ทำให้เขาเข้าใจถึงความหมายของการหย่าร้างเป็นอย่างดี จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างประกันการหย่าร้างขึ้นมา

อีจูบีน: ตัวละครของฉันชื่อ ‘คังฮันดึล’ ค่ะ เป็นนักวิเคราะห์เงื่อนไขกรมธรรม์ในบริษัทประกันภัย เพิ่งหย่ามาไม่นาน และการหย่าสำหรับเธอมีความหมายมากกว่าคนอื่นๆ และในเรื่องเธอมีนิสัยที่แคร์คนอื่นและเข้าอกเข้าใจผู้อื่นมาก มีความอดทนสูง แต่หลังจากการหย่าก็พยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่เข้มแข็งและเยือกเย็นขึ้นค่ะ

อีดาฮี: ฉันรับบทเป็น ‘จอนนาแร’ รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัท Plus Insurance เธอเป็นคนที่คิดทุกอย่างแบบคำนวณเป็นตัวเลข ดูเป็นคนเย็นชาและเหมือนไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ แต่เมื่อมีเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในตัวเธอค่ะ

อีกวางซู: ผมรับบทเป็น ‘อันจอนมัน’ พนักงานประเมินความเสี่ยง ของบริษัทประกันภัย Plus Insurance มีหน้าที่ลดความเสี่ยงของกรมธรรม์ และเป็นตัวละครที่กำลังเผชิญกับการยอมรับการหย่าร้างของตัวเองครับ

หากเปรียบซีรีส์เรื่องนี้เป็นอาหาร คุณคิดว่าเป็นเมนูอะไร

อีกวางซู: สำหรับผมเป็นพิซซ่าครับ เพราะพิซซ่ามีหน้าและท็อปปิ้งต่างๆ ที่หลากหลาย รวมกันกลายเป็นพิซซ่า 1 ถาด ก็เหมือนกับเหล่าตัวละครที่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวของแต่ละคน รวมข้อดีของแต่ละคน สร้างมาเป็นทีมของเราครับ

อีดงอุค: ของผมคิดว่าเป็น ต้มยำกุ้งครับ ต้มยำกุ้งมีกลิ่นและรสชาติที่หลากหลายจากเครื่องปรุงต่างๆ มีทั้งความเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวานเล็กน้อย คิดว่าละครเรื่องนี้ถ่ายทอดรสชาติของชีวิตได้อย่างหลากหลายเหมือนต้มยำกุ้งครับ

‘จอนมัน’ เป็นคนขี้กลัวและไม่ชอบความเสี่ยง คุณอีกวางซูได้เพิ่มมิติให้เขามีความตลกและเชื่อมโยงกับผู้ชมอย่างไรบ้าง

อีกวางซู: อันจอนมัน เป็นคนที่ค่อนข้างมีเหตุผล เป็นตัวของตัวเอง และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นคนขี้อายด้วย แต่ในบทละครได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการพูดและการกระทำของ จอนมัน ไว้ค่อนข้างชัดเจน ทำให้ผมได้รับความช่วยเหลือจากบทละครเยอะเลยครับ แล้วแทนที่ผมจะพยายามทำให้มันตลก ผมกลับรู้สึกว่าประโยคที่ผมพูดในบทมันตลกมากอยู่แล้ว ผมจึงพยายามไม่ทำอะไรที่เกินไป แค่ถ่ายทอดความตลกตามที่ผมรู้สึกจริงๆ ออกมาให้ผู้ชมได้สนุกไปกับมันครับ

นอกจากนี้ในกองถ่าย พี่ดงอุค รวมถึงนักแสดงทุกคน  ไปจนถึงผู้กำกับ ทุกคนต่างทำให้บรรยากาศในกองถ่ายเป็นไปอย่างอิสระและสบายๆ เราจึงสามารถอิมโพรไวส์รายละเอียดของตัวละครเข้าไปได้เยอะ และหลายๆ ฉากก็ออกมาสมจริงและมีมิติมากขึ้นกว่าที่อยู่ในบทละคร มีหลายฉากที่พัฒนาขึ้นจากตอนซ้อม และทำให้เนื้อหามีความสนุกมากขึ้น ผมคิดว่าซีรีส์ที่ตัดต่อและออกอากาศจริงน่าจะออกมาสนุกกว่าที่คาดไว้ ซึ่งผมก็ตั้งตารอมากๆ ครับ

มีประกันมากมาย ทั้ง ประกันสุขภาพ เงินออม ฯลฯ นอกจากประกันการหย่าร้าง อยากคิดประกันอะไร เพื่อครอบครัว เพื่อความสัมพันธ์ อีกบ้าง

อีดาฮี: ในบทของ นาแร ที่ฉันแสดง มีประโยคหนึ่งที่บอกว่า “ถ้ามีประกันที่สามารถชดเชยคำพูดแย่ๆ ด้วยคำพูดดีๆ ก็คงจะดีนะ” เพราะเวลาที่คนเราพูดออกไป บางครั้งอาจเผลอพูดทำร้ายจิตใจคนอื่นโดยไม่ตั้งใจ และคำพูดก็สามารถทำร้ายคนได้อย่างรุนแรงเลย ดังนั้นถ้ามีประกันที่สามารถชดเชยคำพูดแย่ๆ ด้วยคำพูดดีๆ ได้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีมาก ฉันเลยคิดว่าประกันแบบนี้น่าจะมีประโยชน์มากเลยค่ะ

อีดงอุค: อันนี้ก็เป็นสิ่งที่อยู่ในซีรีส์ของเราเหมือนกันครับ ผมคิดว่าถ้ามีประกันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีก็คงจะดี ที่จริงแนวคิดของประกันนี้คล้ายกับประกันคำพูดแย่ๆ เพราะในชีวิตเราต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้เสียศักดิ์ศรีหรือเจ็บปวดทางจิตใจอยู่บ่อยๆ ถ้ามีประกันที่สามารถชดเชยหรือเยียวยาความรู้สึกเหล่านั้นได้ ก็คงจะดีไม่น้อยครับ

อีดาฮี: แล้วก็กวางซูชอบบอกว่าอยากให้มีประกันอวกาศ

อีกวางซู: ไม่ใช่ผมครับ แต่เป็นตัวละคร อันจอนมัน ที่ผมแสดงต่างหาก จริงๆ แล้วผมเองไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับอวกาศมากนัก แต่มันเป็นบทพูดของตัวละครของผมเองครับ

อีจูบีน: ฉันมีอย่างหนึ่งค่ะ ฉันคิดว่าควรมี “ประกันสำหรับกรณีที่ประกันไม่คุ้มครองตามประกัน” เพราะว่าบางครั้งเงื่อนไขของประกันมักจะเข้มงวดเกินไป และการชดเชยหรือการดูแลก็ไม่เพียงพอเท่าที่ควร ฉันเลยคิดว่าน่าจะมีประกันที่คุ้มครองในกรณีที่ประกันไม่สามารถให้ความคุ้มครองได้ค่ะ

อีดงอุค: อ่า ประกันที่ประกันให้อีกขั้น

อีกวางซู: ประกันประกัน

อีดาฮี: แปลกใหม่มาก

อีกวางซู: เหมือนท้องอืดเพราะยาแก้ท้องอืดและทานยาแก้ท้องอืดอีกที

ทุกการทำงานมักให้บทเรียนสำคัญในแง่มุมต่างๆ สำหรับพวกคุณซีรีส์เรื่องนี้ให้มุมมองเรื่องความรักอะไรที่คุณประทับใจ จนนับเป็นบทเรียนชีวิตได้

อีกวางซู: แม้ว่าละครเรื่องนี้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับความรักเป็นหลัก แต่จริงๆ แล้วก็มีเรื่องของครอบครัว คู่รักสูงวัย และมิตรภาพระหว่างเพื่อนรวมอยู่ด้วย สำหรับตัวผมเองตอนที่ได้อ่านบทละคร ผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากความรักในรูปแบบต่างๆ เหล่านี้ ผมคิดว่ามันไม่ใช่ซีรีส์ที่พยายามสอนบทเรียนอะไรแก่ผู้ชมโดยตรง แต่หวังว่าทุกคนที่ได้รับชมจะสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่นแบบเดียวกับที่ผมรู้สึกได้ครับ

ในชีวิตจริง คุณคิดว่าคุณจะซื้อประกันการหย่าร้างไหม และเหตุผลที่คุณจะซื้อเพราะอะไร

อีจูบีน: ฉันจะซื้อค่ะค่ะ แม้ว่าฉันจะยังไม่ได้แต่งงาน แต่ฉันคิดว่าประกันการหย่าร้างอาจเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยให้ชีวิตแต่งงานมีความสุขมากขึ้น เพราะความเสี่ยงที่เกิดจากการหย่าร้างนั้นสูงมาก และหลายคนอาจต้องทนอยู่กับคู่ชีวิตที่ไม่เข้ากันไปตลอดชีวิต เพียงเพราะกลัวผลกระทบจากการหย่า ซึ่งนำไปสู่ความเครียดและบาดแผลทางใจที่ลึกขึ้นเรื่อยๆ ฉันคิดว่าหากมีประกันประเภทนี้ มันอาจช่วยบรรเทาความกังวลและลดภาระทางอารมณ์ของคนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ได้ค่ะ

อีดงอุค: ผมก็จะซื้อครับ เพราะผมแสดงเรื่อง The Divorce Insurance นั่นเองครับ

อีกวางซู: ผมก็ซื้อด้วยเหมือนกันครับ

อีดาฮี: ถ้าฉันแต่งงานก็จะซื้อเหมือนกันค่ะ

ในฐานะที่คุณอีจูบินยังไม่แต่งงาน อะไรคือความท้าทายที่คุณพบเมื่อต้องถ่ายทอดอารมณ์และประสบการณ์ที่ซับซ้อนของตัวละครที่ผ่านการหย่ามาแล้ว และคุณมีวิธีการเข้าถึงและถ่ายทอดมันออกมาอย่างไรให้สมจริงที่สุด

อีจูบีน: ฉันยังไม่เคยแต่งงานหรือหย่าร้างมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทที่ฉันได้รับนั้น การแต่งงานและการหย่าร้างเป็นเรื่องที่มีความหมายสำคัญมาก ฉันจึงต้องเตรียมตัวให้มากเป็นพิเศษ ฉันพยายามหาประสบการณ์ทางอ้อมโดยดูรายการเรียลลิตี้และวาไรตี้ของเกาหลีที่เกี่ยวกับการแต่งงานและการหย่าร้างเยอะมาก และถึงแม้ว่าจะรู้สึกเกรงใจเพื่อนๆ อยู่บ้าง แต่ฉันก็สัมภาษณ์พูดคุยกับพวกเขาหลายคน มีทั้งเพื่อนที่กำลังหย่า เพื่อนที่เคยผ่านการหย่ามาแล้ว และเพื่อนที่กำลังวางแผนหย่าด้วย ฉันได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากพวกเขามากค่ะ

จาก 100% คุณคิดว่าตัวละครของคุณ ประกอบไปด้วยส่วนประกอบอะไรที่สำคัญในชีวิตบ้าง (สามารถเป็นได้ทั้งสิ่งของ คนสำคัญ หรืออื่นๆ เช่น จาก 100% – แบ่งเป็น ครอบครัว 55% / งาน 30% / กาแฟ 10% / ของหวาน 5%)

อีจูบีน:  หากต้องแบ่งองค์ประกอบของตัวละครฮันดึลออกเป็นเปอร์เซ็นต์ ฉันคิดว่า 70% คือ งาน, 10% คือครอบครัว, 10% คือเบียร์ และอีก 10% คือการถักไหมพรมค่ะ

อีกวางซู: สำหรับ อันจอนมัน ผมคิดว่าประมาณ 90% คือ งานครับ จริงๆแล้วตัวละครของพวกเราทุกคนเป็นพวกบ้างานหมดเลยครับ  แล้วก็ 5% คือการทำความสะอาดบ้าน และ อีก 4% เป็นโยโย่ (ของเล่นลูกดิ่งโยโย่) เพราะจอนมันชอบโยโย่มาก และที่เหลืออีก 1% คือเนื้อสันในวัว เขาชอบเนื้อสันในมากๆ ครับ

อีดงอุค: ส่วนผมคิดว่า 80% คือ ความสำเร็จของประกันการหย่าร้าง, 10% คือรถที่เขามี แล้วก็ 5% คือปืนยิงฟองสบู่ และ 5% ที่เหลือคือ อันจอนมันครับ

อีดาฮี: ถ้าวัดจากช่วงแรกของซีรีส์ ฉันคิดว่า 90% ของนาแร คือ งาน และ 10% ที่เหลือ คือ กีจุนค่ะ

คุณอีดาฮีเคยรับบทบาทตัวละครหญิงแกร่งมาแล้วหลายเรื่อง อยากรู้ว่านาแรมีอะไรพิเศษจากบทบาทอื่นๆ ที่คุณเคยแสดงมา

อีดาฮี: จริงๆ แล้ว บทบาทที่ฉันเคยแสดงมาก่อนหน้านี้ไม่ได้แตกต่างจากบทนี้แบบสุดขั้วขนาดนั้นค่ะ แต่ครั้งนี้ฉันอยากให้ตัวเองดูแตกต่างออกไปสักหน่อย เลยตัดสินใจตัดผมเพื่อแสดงบทนี้ ฉันตัดผมเป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปีเลย ปกติฉันไว้ผมยาวมาตลอด แต่เพื่อให้ตัวละครนาแรดูมีเอกลักษณ์และความสดใหม่ ฉันจึงเลือกเปลี่ยนลุคแบบนี้ค่ะ ส่วนเรื่องการแสดงและคาแรกเตอร์ ฉันรู้สึกว่าเสียงพูดและภาพลักษณ์ของฉันเข้ากับตัวละครนาแรอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าโชคดีมากๆ ค่ะ แค่พยายามปรับภาพลักษณ์ให้ดูแตกต่างออกไปเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ข้อมูลซีรีส์ The Divorce Insurance

  • ชื่อเรื่อง: The Divorce Insurance
  • ผู้กำกับ: อีวอนซอก (Killing Romance)
  • ผู้เขียนบท: อีแทยุน (Royal Secret Inspector Joy)
  • นักแสดง: อีดงอุค, อีจูบีน, อีกวางซู, อีดาฮี
  • ประเภท: โรแมนติก คอเมดี้
  • กำหนดสตรีม: วันที่ 31 มีนาคม 2568
  • ตารางการสตรีม: สตรีมสัปดาห์ละ 2 ตอน ทุกวันจันทร์และอังคาร
  • จำนวนตอน: 12 ตอน

ตัวละคร:

โนกีจุน (รับบทโดย อีดงอุค)
ชายที่ดูเหมือนจะเพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่าง ทั้งมีภูมิหลังทางการศึกษาที่น่าชื่นชม และประสบความสำเร็จอย่างสูงในอาชีพผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัย แต่โชคร้ายที่เขากลับล้มเหลวทั้งความรักและการเงิน หลังจากผ่านการหย่าร้างถึงสามครั้ง เขาต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูอดีตภรรยาจำนวนมากจนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว กีจุนจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันหย่าร้างเพื่อปกป้องคนอื่นที่อาจจะเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกับเขา

คังฮันดึล (รับบทโดย อีจูบีน)
หญิงสาวที่ใช้ชีวิตอย่างสงบเสงี่ยมและไม่เคยแสดงความคิดเห็นหรือยืนหยัดเพื่อตัวเองเลยตลอดมา เธอต้องทนกับการปฏิบัติที่แย่จากครอบครัวสามี เพราะเธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ตลอด 5 ปีของการแต่งงาน แต่ครอบครัวสามียังคงโทษเธออยู่เรื่อยๆ  ทั้งที่จริงแล้วสามีของเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายมีปัญหา  ในที่สุดฮันดึลก็หมดความอดทนและตัดสินใจหย่าขาดจากสามี ตอนนี้เธอมุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่พร้อมกับงานใหม่

อันจอนมัน (รับบทโดย อีกวางซู)
จองมันเป็นคนขี้กลัวที่คำนึงถึงความปลอดภัยเหนือสิ่งอื่นใด เขาเป็นเพื่อนกับกีจุนมาตั้งแต่ประถม แม้ว่าทั้งคู่จะมีนิสัยที่แตกต่างกัน แต่มิตรภาพของพวกเขายังคงยืนยาวมาจนถึงปัจจุบัน จองมันเองก็เคยผ่านประสบการณ์การหย่าร้างมาแล้ว แต่เขาถือว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ต้องเจอกับการหย่าร้างที่เต็มไปด้วยดราม่าและความยุ่งเหยิง แม้ว่าเขาจะไม่อยากยอมรับแต่เขากลับรู้สึกสนใจไอเดียของกีจุนเกี่ยวกับการพัฒนาประกันการหย่าร้างอยู่ไม่น้อย

จอนนาแร (รับบทโดย อีดาฮี)
หญิงสาวที่ให้ความสำคัญกับอิสรภาพและไม่ชอบการผูกมัด นาแรเป็นอดีตภรรยาคนแรกของกีจุน ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงหลังจากฮันนีมูนเพราะมีมุมมองเรื่องแต่งงานที่ต่างกัน หลังจากไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ทั้งคู่เลยตัดสินใจหย่า นาแรรู้สึกประหลาดใจเมื่อรู้ว่ากีจุนแต่งงานและหย่าอีกสองครั้ง ด้วยความอยากรู้ เธอจึงเข้าร่วมทีมของกีจุนเพื่อค้นหาว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมล้มเลิกความคิดเรื่องการแต่งงาน

Text: AuAi
Photo: Prime Video

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สุดสัปดาห์ คนหล่อขอทำดีปี 18 ปรากฏการณ์ 17 คนหล่อ ทำดีเพื่อสังคม

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up