“Rethink Pink We Care” ปี 2

account_circle
event

เนื่องในเดือนแห่งการรณรงค์ต่อต้านโรคมะเร็งเต้านม บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย และ
ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล รวมถึงพันธมิตรชั้นนำ ร่วมจัดกิจกรรม “Rethink Pink We Care” เป็นปีที่ 2 เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านม ตั้งแต่สาเหตุของการเกิดโรค การรักษาโรค ไปจนถึงการดูแลตนเองเมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็ง ณ ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช

บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย และ ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สานต่อกิจกรรม “Rethink Pink We Care” ร่วมกับพันธมิตรต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งเต้านมที่พบบ่อยในสตรี  พร้อมร่วมมือกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการตรวจคัดกรองโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น นำเสนอแนวทางการรักษาที่มีอยู่ในปัจจุบันให้แก่ประชาชน รวมถึงให้คำแนะนำในการดูแลตนเองเพื่อให้อยู่กับโรคมะเร็งได้

ภายในกิจกรรม “Rethink Pink We Care” ครั้งนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำ โครงการ และสถาบันเพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมากมาย อาทิ บริษัท แคริว่า (CARIVA) ประเทศไทย จำกัด ในการร่วมแนะนำแบบฟอร์มประเมินความเสี่ยงด้วยตัวเอง คุณอัจฉรา สัมฤทธิวณิชชา ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ผ่านมุมมองของผู้ป่วยโรคมะเร็ง ธนาคารทิสโก้ มาให้แนวทางในการวางแผนการเงินเมื่อพบเจอกับโรคร้าย และ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด ที่มาจัดกิจกรรมเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญในการดูแลผิวหนังในผู้ป่วยโรคมะเร็ง

นอกจากนี้ ยังมีพันธมิตรอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Tumour clinic (สถานวิทยามะเร็งศิริราช) โครงการ Art for Cancer ชมรมผู้ป่วยมะเร็งเต้านมแห่งประเทศไทย (Thailand Breast Cancer Community) สถานวิทยามะเร็งศิริราช (SiCA) และ บริษัท ยีนพลัส จำกัด

ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค. 2023 - ซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่ - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนออนแอร์ - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนไตรมาสสี่ - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง - ดาราจีน - นักแสดงจีน -พระเอกจีน - นางเอกจีน-นางเอกซีรี่ย์จีน - พระเอกซีรี่ย์จีน -ข่าวจีน-บันเทิงจีน

รวบตึง 4 ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค.2023 หลากหลายแนว น่าดูทุกเรื่อง!

Alternative Textaccount_circle
event
ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค. 2023 - ซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่ - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนออนแอร์ - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนไตรมาสสี่ - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง - ดาราจีน - นักแสดงจีน -พระเอกจีน - นางเอกจีน-นางเอกซีรี่ย์จีน - พระเอกซีรี่ย์จีน -ข่าวจีน-บันเทิงจีน
ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค. 2023 - ซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่ - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนออนแอร์ - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนไตรมาสสี่ - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง - ดาราจีน - นักแสดงจีน -พระเอกจีน - นางเอกจีน-นางเอกซีรี่ย์จีน - พระเอกซีรี่ย์จีน -ข่าวจีน-บันเทิงจีน

สุดฯ รวบตึง 4 ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค.2023 มาแบบหลากหลายแนว ทั้งย้อนยุค ปัจจุบัน โรแมนติก แต่บอกเลยว่า น่าดูทุกเรื่อง! มีเรื่องไหนของใครบ้าง ตามสุดฯ มาดูกันค่ะ

  • Ripe Town 繁城之下
Ripe Town - 繁城之下

ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค.2023 เรื่องแรกสุดฯ ขอเปิดด้วย Ripe Town ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/อาชญากรรม/ลึกลับที่บอกเล่าเรื่องราวที่มีพื้นหลังของเรื่องอยู่ในสมัยราชวงศ์หมิง ทั่วแผ่นดินเกิดเหตุการณ์คดีฆาตรกรรมครั้งแล้วครั้งเล่าติดต่อกันหลายครั้ง ฉวี่ซานเกิง ชายหนุ่มไฟแรงผู้ไม่หวาดหวั่นให้กับอุปสรรคใดๆ ร่วมมือกับซ่งเฉิน เกาซื่อฉง เหลิ่งกุ้ยเอ๋อร์ เฟิ่งเข่อจุย และอื่นๆ ในการตรวจสอบ สืบสวนหาตัวฆาตกรที่อยู่ในเงามืด แต่กลับกลายเป็นจุดที่เปิดคดีแห่งยุคเมื่อ 20 ปีก่อนขึ้นมาอีกครั้งด้วย! นักแสดงนำของเรื่อง Ripe Town ได้ไป๋อวี่ฝาน (Bai Yufan), เซี่ยงหานจือ (Xiang Hanzhi), หลิวอี๋ถง (Liu Yitong), อวี๋เหยา (Yu Yao), หนิงหลี่ (Ning Li) มารับบท

Ripe Town - 繁城之下
  • Never Too Late 我的助理不简单
ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค.2023 - ซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่ - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนออนแอร์ - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนไตรมาสสี่ - Never Too Late - 我的助理不简单

Never Too Late ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบันที่ได้นักแสดงหญิงจีนมากฝีมืออย่างหวังจื่อเหวิน (Wang Ziwen), เติ้งเจี๋ย (Deng Jie) และไป๋จิ้งถิง (Bai Jingting) มารับบท โดยถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับเจียงเถียน ดีไซเนอร์ที่ย้ายจากเมืองหลวงอย่างปักกิ่งกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดอย่างซูโจว จนกระทั่งได้เจอกับเพื่อนร่วมห้อง อู๋จิ้งฟาง หลังจากทั้งคู่ได้ใช้เวลาร่วมกัน และเผชิญหน้ากับสิ่งๆ ต่างไปด้วยกันก็เกิดเป็นมิตรภาพที่ลึกซึ้งขึ้น ต่างฝ่ายต่างช่วยกันให้อีกฝ่ายต่างประสบความสำเร็จและเดินบททางของตัวเองได้อย่างมั่นคง โดยซีรี่ย์จีน Never Too Late เริ่มออนแอร์ตอนแรกวันที่ 14 ต.ค. 2023 ทาง iQIYI นะคะ

Never Too Late - 我的助理不简单
  • Fall in Love on the Farm 田耕纪
Fall in Love on the Farm - 田耕纪

ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/คอเมดี้ Fall in Love on the Farm ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังของรั่วเหยียน (Ruo Yan) ที่มีพื้นหลังของเรื่องอยู่ในชนบทในสมัยราชวงศ์ซ่ง บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเสิ่นนั่วและเหลียนม่านเอ๋อร์ที่ร่วมมือกันเพื่อชิงไหวชิงพริบกับเหล่าญาติๆ ในการบริหารจัดการดูแลฟาร์มแห่งหนึ่ง จนในระหว่างนั้นค่อยๆ ก่อเกิดเป็นความรักขึ้นมา ซึ่งพระ-นางที่มารับบทคู่กันในเรื่อง Fall in Love on the Farm ได้เจิงซุ่นซี (Zeng Shunxi หรือ Joseph Zeng) มารับบทคู่กับเถียนซีเวย (Tian Xiwei)

Fall in Love on the Farm - 田耕纪
  • Scent Of Time 为有暗香来
Scent Of Time  -  为有暗香来 - ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค.2023 - ซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่ - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนออนแอร์ - ซีรี่ย์จีนปี 2023

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก Scent Of Time ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนแนวโรแมนติกขนาดยาวบนแพลตฟอร์ม Zhihu เรื่อง Washing Powder โดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนางเอก หัวเฉี่ยน ลูกสาวตระกูลเซียงเหย้า ที่เคยลงมือทำสิ่งที่ผิดพลาดไป เพราะหมกมุ่นอยู่กับจ้งเย่หลาน ชายหนุ่มที่ไม่เคยรักเธอเลยแม้แต่น้อย จนท้ายที่สุดทำให้หัวเฉี่ยนต้องถึงแก่ชีวิต เมื่อโชคชะตาพลิกผันอีกครั้ง หัวเฉี่ยนตื่นขึ้นมาพบว่าเธอย้อนเวลากลับมาในคืนที่เธอแต่งงานกับจ้งเย่หลาน ซึ่งหลังจากเคยทำผิดพลาดมาแล้วครั้งนี้ การได้กลับมาใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งจะเกิดเรื่องราวอะไรในชีวิตของเธอบ้าง ไปติดตามในซีรี่ย์จีน Scent Of Time ได้ที่ YOUKU นะคะ โดยนางเอกของเรื่องได้โจวเหย่ (Zhou Ye) มาประกบคู่กับหวังซิงเยว่ (Wang Xingyue) นอกจากนี้ยังมีเผิงฉู่เยว่ (Peng Chuyue), จางอี้เจี๋ย (Zhang Yijie) และอื่นๆ อีกเพียบ

Scent Of Time - 为有暗香来 - ซีรี่ย์จีนออนแอร์ในเดือนต.ค.2023 - ซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่ - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนออนแอร์ - ซีรี่ย์จีนปี 2023

รูปจาก : 网剧繁城之下/我的助理不简单/田耕纪官微/网剧为有暗香来

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

น่าดู! Scent Of Time ซีรี่ย์จีนแนวทะลุมิติที่นางเอกอยู่ในร่างตัวร้าย!

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ร่วมงานแสดงเกาหลี-ญี่ปุ่น การันตีความฮอตทั่วเอเชีย!

เปิดกล้องแล้ว! Go Back Lover ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกเรื่องใหม่ของหลี่อวิ๋นรุ่ย-สวีรั่วหาน

5 ซีรี่ย์จีนยังไม่ได้ออนแอร์ของหลิวอวี่หนิง ฉายแววปังทุกเรื่อง!

8 บทบาทอาชีพรับใช้ชาติของหวงจิ่งอวี๋ ทั้งจอเงินและจอแก้ว กี่เรื่องก็กวาดคำชมเรียบ!!

My Precious ซีรี่ย์จีนเรื่องที่ 2 ของหวงจื่อเทาในปี 2023!!

คนหล่อขอทำดีปี 16 Happy Giving บอย ปกรณ์ มอบความอบอุ่นให้น้องๆ บ้านทานตะวัน

account_circle
event

คนหล่อขอทำดีปี 16 Happy Giving บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ปีนี้มาร่วมส่งความสุข มอบความอบอุ่นให้กับน้องๆ ที่บ้านทานตะวัน มูลนิธิเด็ก งานนี้เฮียบอยอาสามาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เล่านิทาน พาเดินเล่น ป้อนข้าว พาเข้านอนกลางวัน บอกเลยว่าละมุนเกินต้าน สมตำแหน่งพี่ชายที่แสนดีที่สุด

สำหรับโครงการคนหล่อขอทำดี ปี 16 Happy Giving จะไม่มีพี่ใหญ่ซึ่งเปรียบเสมือนหัวหน้าของโครงการอย่าง บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ไม่ได้เลย ซึ่งเฮียบอยไปทำภารกิจมาแทบจะทุกรูปแบบแล้ว ปีนี้คอนเซปต์ Happy Giving เฮียบอยอยากไปมอบความสุขให้กับน้องๆ บ้านทานตะวัน มูลนิธิเด็ก ด้วยความที่เป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว ก็เรียกว่าเข้าทางเฮียสุดๆ

แน่นอนว่าทุกครั้งที่มาทำภารกิจคนหล่อขอทำดี เฮียบอยจะต้องขับรถคู่ใจเองทุกครั้ง ปีนี้มากับ ISUZU THE NEW MU-X รุ่นพิเศษ PHANTOM COLLECTION ซึ่งโครงการคนหล่อขอทำดี โดยเฮียบอยและ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้นำข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นมามอบให้กับ บ้านทานตะวัน มูลนิธิเด็ก อาทิ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นมกล่อง UHT นมผง น้ำดื่ม ข้าวสาร เครื่องปรุงที่ใช้ในครัวสำหรับปรุงอาหาร ฯลฯ ซึ่งเงินจากการประมูลเสื้อ และการขายเสื้อคนหล่อขอทำดี ในส่วนของเฮียบอย ก็ได้นำไปสมทบทุนในการซื้อของ และทำบุญผ้าป่าร่วมกับบ้านทานตะวันอีกด้วย

บ้านทานตะวัน เปรียบเสมือนบ้านที่สอง…ของเด็กที่ขาดโอกาส รับดูแลเด็กๆ ตั้งแต่แรกเกิด – 4 ขวบ โดยใช้แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่ช่วยพัฒนาทักษะการคิด ผสมผสานกับการเรียนแบบมอนเตสซอรี่ เพื่อพัฒนาทักษะให้เด็กทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กโดยเฉพาะด้านสมอง ให้เด็กพร้อมเรียนรู้ในช่วงปฐมวัยเพื่อไปต่อในระดับอนุบาล จากที่เราได้มาเจอน้องๆ ต้องบอกว่าน้องๆ น่ารัก อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีระเบียบวินัย มารยาทดี และที่สำคัญรู้จักช่วยเหลือตัวเอง กินข้าวเองได้โดยที่พี่เลี้ยงไม่ต้องป้อน เพราะพี่เลี้ยงจะสอนให้น้องๆ รู้จักช่วยเหลือตัวเอง

ทีมงานและเฮียมาถึงในช่วงที่น้องๆ เพิ่งกินมื้อเช้าเสร็จ และกำลังที่จะไปเดินเล่น เฮียบอยก็เลยอาสาพาน้องๆ เดินเล่น สูดอากาศดีๆ จากนั้นก็พาน้องๆ ไปเล่นที่สนามเด็กเล่น เพื่อฝึกพัฒนาการการเคลื่อนไหว เป็นการออกกำลังการเบาๆ ไปในตัว และช่วงเวลาที่เด็กๆ รอคอยก็คือ เล่านิทาน น้องๆ ชอบฟังนิทานมาก เฮียบอยก็เลยจัดให้ เล่านิทานอย่างสนุกสนาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก เป็นภาพที่น่ารักมากๆ

เล่าไปเล่ามา เฮียบอยหันไปถามทีมพี่เลี้ยงว่าได้กลิ่นอาหารโชยมา น่าจะได้เวลามื้อกลางวันแล้วใช่มั้ย พี่เลี้ยงตอบว่าใช่เลยค่ะ “เด็กๆ ครับได้เวลามื้อกลางวันแล้ว ไปกินข้าวกัน” พูดจบเฮียบอยก็นำทีมพาน้องๆ ไปกินมื้อกลางวัน เด็กๆ นั่งประจำที่กันอย่างเรียบร้อย เฮียบอยจัดเสิร์ฟอาหารให้น้องๆ อย่างทั่วถึง ความที่อดเอ็นดูน้องๆ ไม่ได้ บ้างก็แอบป้อนบ้าง เช็ดปากให้บาง โอร๊ยยยย เฮียคือละมุนสุดๆ นอกจากนี้เฮียบอย ยังแวะไปห้องเด็กเล็กช่วยป้อนข้าวด้วย เป็นน้องๆ ช่วยอายุประมาณ แรกเกิดถึงขวบกว่าๆ

หลังจากน้องๆ อิ่มอร่อยกับมื้อกลางวันและขนมเค้กแสนอร่อยแล้ว พี่เลี้ยงก็พาน้องๆ ไปอาบน้ำ แต่ละคนเดินกลับมาประแป้งหอมฟุ้งกันมาเลย น่ารักกก ถึงเวลานอนกลางวันแล้ว เฮียบอยก็ส่งน้องๆ เข้านอนทุกห้อง กล่อมนอน ปูที่นอนให้ เด็กทุกคนดูมีความสุขมาก เวลาอยู่กับเฮียบอย ซึ่งเดาว่าทุกคนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากเฮียบอยได้ จากนั้นเฮียบอยก็ขอตัวกลับพร้อมบอกทีมพี่เลี้ยงและเด็กๆ ว่าจะกลับมาหาอีก

พี่เพียงหรือคุณเพียงใจ เลี่ยววิไลกุลวัฒน์ พยาบาลโครงการบ้านทานตะวัน เล่าให้ฟังว่า “บ้านทานตะวัน พุทธมนฑล สาย 4 ที่ศูนย์เด็กเล็กแห่งนี้ มีเด็กประมาณ 40 คน เปิดดูแลเด็กมา 44 ปีแล้ว ที่นี่ช่วยระดมทุนกันเองในการดูแลเด็ก โดยมีการจัดงานผ้าป่าบ้านทานตะวัน ผู้ใหญ่ใจสามารถมาร่วมงานผ้าป่า ปีนี้ได้ในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 หรือติดต่อขอรับต้นผ้าป่าไปวางตามห้าง ร้าน บริษัทได้ สามารถเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเลี้ยงอาหารเช้า หรืออาหารกลางวัน หรืออาหารเย็น หรือจะเลี้ยงทั้ง 3 มื้อก็ได้เช่นกัน

นอกจากเลี้ยงอาหารแล้วสามารถร่วมบริจาคข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นได้ ที่ต้องใช้เยอะๆ คือ ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นม UHT รสจืด นมผงสำหรับเด็ก น้ำถั่วเหลือสำหรับเด็กๆ ที่แพ้นมวัว วันนี้ต้องขอบคุณคุณบอย-ปกรณ์ ทีมสุดสัปดาห์และทีมตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ที่มาสมทบทุนและมอบของใช้ที่จำเป็น ที่สำคัญมามอบความอบอุ่นให้เด็กๆ ค่ะ”

This image has an empty alt attribute; its file name is 11A6365-800x600.jpg

ด้านเฮียบอยเองได้ให้เล่าถึงความรู้สึกในวันนี้ว่า “วันนี้เป็นความรู้สึกที่ดีมาก ได้เจอเด็กๆ เวลาที่เขาวิ่งมาหา วิ่งมากอดเราในครั้งแรกที่ได้เจอกัน ตอนจะกลับเขาก็บ๊ายบาย เห็นแววตาใสๆ รู้สึกอิ่มเอมใจมาก แม้ว่าน้องๆ อาจจะไม่มีโอกาสเท่ากับเรา แต่บ้านทานตะวัน ก็เติมเต็มความรักความอบอุ่น และการดูแลที่ดีให้กับน้องๆ เพื่อที่น้องๆ จะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การร่วมภารกิจคนหล่อแม้เพียงครั้งเดียว แต่ผมเชื่อว่าจะเป็นกระบอกเสียงหนึ่ง เพื่อให้รู้ว่าองค์ใด กำลังต้องความช่วยเหลือบ้าง อย่างเช่น บ้านทานตะวัน ซึ่งผมจะไม่มาครั้งเดียว มาครั้งเดียวก็รู้สึกผูกพันแล้วครับ ต้องมาอีกแน่นอน

This image has an empty alt attribute; its file name is 11A7455-1064x598.jpg

ผู้ใหญ่ใจดีสามารถร่วมสนับสนุน การเพิ่มโอกาสให้เด็กๆ ผ่านบัญชี ธนาคาร บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี : มูลนิธิเด็ก

• ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่ 308-1-13382-8 เพื่อมอบสุขภาพ และพัฒนาการที่ดี ให้กับเด็กๆ แจ้งโอนเงินได้ที่ Line Id : btw1979 / btw2521 • บันทึกช่วยจำ : ผ้าป่าบ้านทานตะวัน ( รบกวนแจ้งโอนเงินทุกครั้งแม้ไม่ใช้ใบเสร็จ )

*** ใบเสร็จหักลดหย่อนภาษีได้

• ติดต่อสอบถาม 095-8733040 กอล์ฟ / 092-9065777 บ้านทานตะวัน / 0639525111 ยุ้ย

• ร่วมสนับสนุนเป็นสิ่งของที่บ้านทานตะวัน ต้องการเร่งด่วน ส่งมาได้ที่ มูลนิธิเด็ก (โครงการบ้านทานตะวัน) 95/24 หมู่ 6 ซ.กระทุ่มล้ม 18 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม 73220

Text: AuAi Photo: เนาวพจน์ โพธิเกษม

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สุดสัปดาห์ คนหล่อขอทำดี ปีที่ 16 รวมคนดีที่น่ารัก มาเต็มแบบห้างแตก!!

บอย ปกรณ์ ควงคนสวยขอทำดี น้องวันใหม่ ส่งต่อความรักที่มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

คนหล่อขอทำดีปี 12 : ต่อ สกาย แบงค์ รวมพลังสร้างบ้านหลังน้อยเพื่อนกเงือกสุดสัปดาห์

คนหล่อขอทำดี ปี 12 : เจมส์ จิรายุ #เปลี่ยนขยะให้เป็นเงินออมกับGC

ถุงขยะแชมเปี้ยน

แทคทีม คลีนทั่วไทยเมื่อ 2 แบรนด์ชั้นนำ อย่าง “มาจิคลีน” และ “ถุงขยะแชมเปี้ยน”

Alternative Textaccount_circle
event
ถุงขยะแชมเปี้ยน
ถุงขยะแชมเปี้ยน

ผนึกกำลัง “แทคทีม คลีนทั่วไทย”แคมเปญนี้สร้างเพื่อเป็นตัวช่วยให้คนไทยได้ดูแลบ้าน และร้านค้าให้สะอาด มีอนามัยได้ทุกวัน

แทคทีม คลีนทั่วไทย เมื่อ 2 แบรนด์ชั้นนำ อย่าง “มาจิคลีน” และ “ถุงขยะแชมเปี้ยน” ผนึกกำลัง “แทคทีม คลีนทั่วไทย” แคมเปญนี้สร้างเพื่อเป็นตัวช่วยให้คนไทยได้ดูแลบ้าน และร้านค้าให้สะอาด มีอนามัยได้ทุกวัน

ถุงขยะแชมเปี้ยน

งานนี้ได้มีการดึงร้านอาหารระดับตำนานชื่อดังเรื่องความอร่อยอย่าง “สมบูรณ์โภชนา” สำหรับการเป็นร้านต้นแบบที่ได้มาตรฐานที่ใส่ใจความสะอาดทั้งหน้าร้าน และหลังร้าน โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มั่นใจในเรื่องความสะอาดอย่าง “มาจิคลีน” ในการทำความสะอาด ห้องครัว พื้นร้าน ชุดพนักงาน รวมถึงการซักผ้าปูโต๊ะอยู่สม่ำเสมอ จึงสามารถมั่นใจได้ว่าลูกค้าที่เข้ารับบริการจะได้ทานทั้งอาหารที่อร่อย และ บรรยากาศร้านที่สะอาดมีอนามัย

ถุงขยะแชมเปี้ยน

ทั้งนี้ ร้านสมบูรณ์ยังใส่ใจในการแยกขยะอย่างถูกต้อง โดยใช้ “ถุงขยะแชมเปี้ยน” เพื่อช่วยลดปริมาณขยะ และแยกขยะเพื่อ นำไปรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น    โดยมีการใช้ถุงขยะแชมเปี้ยน แบบแยกประเภทขยะ เช่น ถุงขยะสีเขียว เพื่อแยกขยะเศษอาหาร ถุงขยะสีเหลือง เพื่อแยกขวดน้ำ เพื่อง่ายต่อการนำไปรีไซเคิล  เพื่อแยกประเภทขยะต่างๆ ภายในครัว และถุงขยะแชมเปี้ยน แบบม้วนกลิ่นหอม สำหรับห้องต่างๆ ภายในร้าน เพื่อความสะอาด และถูกสุขอนามัย

ถุงขยะแชมเปี้ยน

ทั้งหมดนี้ ทำให้ “สมบูรณ์โภชนา” ได้รับป้ายสัญลักษณ์การการันตีว่า ‘ร้านนี้สะอาด มีอนามัย’ จาก Kao Professional Solution และป้ายแยกขยะเท่ากับลดขยะ อย่างถูกต้องจาก แชมเปี้ยน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่า ร้านนี้สะอาดมีอนามัย ทั้งหน้าร้าน หลังร้าน ซึ่งหากร้านอาหารต้องการป้ายการันตี การแยกขยะเท่ากับลดขยะ จาก “ถุงขยะแชมเปี้ยน” พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์พิเศษ

สามารถสอบถามมาได้ที่ Facebook : championbagsofficial หรือ www.championbags.com

realme

“ปอนด์-ภูวินทร์” สองพรีเซนเตอร์คู่จิ้นเปิดใจทำไมต้อง realme 11 5G

Alternative Textaccount_circle
event
realme
realme

เจาะ Behind The Scene! “ปอนด์-ภูวินทร์” สองพรีเซนเตอร์คู่จิ้น เปิดใจทำไมต้อง realme 11 5G และ realme 11x 5G พบกับกิจกรรมพิเศษ ลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษจากพรีเซนเตอร์ดูโอ้ “ปอนด์ – ภูวิน” ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

หลังจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศตั้งสองหนุ่มหล่อ “ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์” และ “ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน” นั่งแท่นพรีเซนเตอร์คู่ใหม่จนทำเอาแฟนคลับกรี้ดกันสนั่นมาแล้ว งานนี้แฟนคลับสาววายห้ามพลาดกับ Behind The Scene เจาะเบื้องหลังการถ่ายทำ TVC พร้อมเผยความในใจสองคู่จิ้นทำไมต้องเลือก “realme 11 5G และ realme 11x 5G” เป็นสมาร์ตโฟนคู่ใจให้แมตช์กับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างอย่างลงตัวของสองหนุ่ม พร้อม Trick ไม่ลับกับการใช้มือถือของคุณอย่างเต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่าในทุกฟีเจอร์ของ “realme 11 5G และ realme 11x 5G” แบบ Double Star Double Leap

realme

เปิดเหตุผล สองหนุ่มปอนด์-ภูวินทร์แมทซ์กับเรียลมีได้อย่างไร

ในครั้งนี้เรียลมีเปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น ซึ่งมีความโดดเด่นในตัวเองทั้งคู่ โดยใน realme 11 5G มาพร้อมกล้อง 108MP และการชาร์จไว SUPERVOOC 67W ซึ่งถือว่าเป็นสเปคที่ดี 2 เท่าในมาตรฐานสมาร์ตโฟนในระดับราคาเดียวกัน และเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์อันก้าวกระโดดในราคาที่เอื้อมถึงได้จึงทำให้ realme 11x 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ดีที่สุดในระดับราคาเดียวกัน โดยมาพร้อมกล้อง 64MP ที่มีพิกเซลที่ดีที่สุดและการชาร์จไว SUPERVOOC 33W และ RAM 8GB ขนาดใหญ่ที่สุดในระดับเซกเมนต์เดียวกันและนอกจากเรียลมีจะเป็นผู้นำเทคโนโลยีที่ต้องการมอบประสบการณ์อันก้าวกระโดดจาก realme 11 5G และ realme 11x 5G แล้วเรียลมียังคงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ก้าวกระโดดให้กับคนรุ่นใหม่ จึงดึงสองพรีเซนเตอร์ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์ และ ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน ผู้เป็นไอคอนของคนรุ่นใหม่ โดยสำหรับหนุ่มปอนด์ ถือเป็นผู้ชนะเลิศจากการประกวดค้นหานักแสดงหน้าใหม่และหนุ่มภูวินทร์ยังได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ดีเด่นและด้วยความเพอร์เฟกต์และสมบูรณ์แบบอีกทั้งยังประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วจึงเข้ากับเรียลมี และความโดดเด่นในตัวเองของสมาร์ตโฟนทั้งสองรุ่นนั้นเปรียบเสมือนกับหนุ่มปอนด์และภูวินทร์ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันแต่ก็มีความเข้ากันเป็นอย่างดี นับว่าแมทซ์เข้ากับความ Double Star ได้อย่างลงตัว

โดยหลังจากที่สองหนุ่มได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์การใช้งาน realme 11 5G และ realme 11x 5G พร้อมร่วมถ่ายทำ TVC (รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/realmeTH/posts/pfbid0WfHcCy7Ct3dSZps7duHY7NDhHSFf8Ny5yHSkJ7PsXhYYr5vwB5Xd12y7M8SkFrjZl)  ก็ได้เล่าถึงความประทับใจในการร่วมงานและการใช้งานจากทั้งสองสมาร์ตโฟน โดยปอนด์เล่าถึงความประทับใจในกล้องของ realme 11 5G ว่า “ชอบมากครับ เพราะกล้องของ realme 11 5G ถ่ายยังไงก็สวย” ไม่เพียงเท่านั้น หนุ่มปอนด์ยังเผยทริคเด็ดในการใช้ฟังก์ชันการซูม 3 เท่าในแบบฉบับของตนเอง “ในรุ่น realme 11 5G มาพร้อมกับการซูม 3 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียด ทำให้เราได้ภาพที่ชัดเจนมาก ซึ่งประโยชน์ของการซูม 3 เท่าแบบไม่สูญเสียรายละเอียดสำหรับผมคือเวลามีแฟนคลับ ๆ มาพบปะกันตามงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ก็จะใช้ฟีเจอร์นี้ซูมดูแฟนคลับที่อยู่ไกล ๆ ให้ผมกับแฟนคลับใกล้กันได้เพียงคลิ๊กเดียว ไม่ว่าผมกับแฟนคลับจะอยู่ห่างกันแค่ไหน แต่ realme 11 5G ก็ช่วยให้เราใกล้กันได้ครับ”

realme

และหนุ่มภูวินทร์เล่าถึงระบบชาร์จ 67W SUPERVOOC ใน realme 11 5G “บางทีเราก็มัวแต่ทำงานจนลืมชาร์จโทรศัพท์ไว้ แต่ด้วยระบบชาร์จเร็ว 67 วัตต์ ผมชาร์จไว้แปปเดียว ถ่าย TVC ไปไม่ถึงชั่วโมงแบตเตอรี่ก็เต็มแล้ว พร้อมลุยยาว ๆ ได้ทั้งวันครับ”  และสองหนุ่มยังใจตรงกัน โดยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชื่นชอบดีไซน์ของทั้งสองรุ่นมาก โดยครั้งนี้ “realme 11 5G และ realme 11x 5G” นำเสนองานดีไซน์แบบ Unisex ใครถือก็โดดเด่นพรีเมียมทุกเพศทุกวัย ด้วยดีไซน์ระดับมาสเตอร์ Glory Halo โดยออกแบบโมดูลกล้องให้เหมือนวงแหวนกรอบหน้าปัดนาฬิกา Bazel Ring ที่หรูหรา พร้อมเอ็ฟเฟกต์แสง S-Curve สร้างประกายที่งดงามบนฝาหลังที่สวยงามสะดุดตาทุกมุมมอง สองหนุ่มเล่าว่า “ตอนเห็นในรูปก็คิดว่าสวยแล้ว แต่พอได้จับและถืออยู่ในมือก็รู้สึกว่าเข้ากับไลฟ์สไตล์ของพวกผมมาก ใน TVC ของปอนด์จะเป็นรุ่น realme 11 5G สี Gloly Gold และของภูวินทร์เป็นรุ่น realme 11x 5G สี Purple Dawn ซึ่งบอกเลยว่าทั้งสองรุ่นมีลูกเล่นของฝาหลังเวลาสะท้อนกับแสงต่าง ๆ รู้สึกพรีเมียมและเกินราคาไปมากเหมือนกัน ชอบมาก ๆ เลยครับ”

นอกจากการพาทุกท่านไปสัมผัสกับประสบการณ์อันเหนือขั้นจากพรีเซนเตอร์ในงานเปิดตัวที่ผ่านมาแล้ว เรียลมียังดับเบิ้ลความพิเศษมากขึ้นกับกิจกรรมพิเศษ realme 11 5G l realme 11x 5G POND PHUWIN EXCLUSIVE SET เพียงซื้อ realme 11 5G หรือ realme 11x 5G ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับประสบการณ์และความสนุกแบบดับเบิ้ลเพิ่มไปอีกกับ realme 11 5G จำนวน เครื่อง ภาพถ่ายปอนด์-ภูวินพร้อมลายเซ็นต์ 2  และ realmeow figure 1 ตัวตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ ตุลาคม

ทั้งนี้ “realme 11 5G และ realme 11x 5G” ประกาศวางจำหน่าย First Sale อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 กันยายนนี้ ที่ realme Brand Shop และศูนย์จำหน่ายสมาร์ตโฟนชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมจัดรายการไลฟ์ผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม ผ่านช่องทาง Facebook : (https://www.facebook.com/realmeTH) โดยสามารถไลค์และแชร์เพื่อลุ้นรับของรางวัลภายในไลฟ์ , Youtube: (https://www.youtube.com/@realmeThailandTH) และ Tiktok: (https://www.tiktok.com/@realme_thailand) โดยเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อผ่านช่องทาง Tiktok ยังได้รับราคาพิเศษสุด Exclusive และของรางวัลอีกมากมายดับเบิ้ลไปอีกด้วย

เกาะติดข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ จาก realme Thailand ผ่านช่องทาง

ฟิลิปส์

ฟิลิปส์เดินหน้ารณรงค์ ให้คนไทยรู้ทัน ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน

Alternative Textaccount_circle
event
ฟิลิปส์
ฟิลิปส์

ฟิลิปส์เดินหน้ารณรงค์ให้คนไทยรู้ทันภาวะหัวใจวายเฉียบพลันภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องในวันหัวใจโลก หรือ World Heart Day

วันที่ 29 กันยายน ของทุกปีเป็นวันหัวใจโลกหรือ World Heart Day ได้ถูกตั้งขึ้น เพื่อให้ทุกคนตระหนักรู้และให้ความสำคัญกับโรคหัวใจและหลอดเลือด และเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนให้มีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาการ การดูแลรักษา การป้องกันและการรับมือหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดจากภาวะทางโรคหัวใจและหลอดเลือด ถึงแม้คำว่าโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นคำที่คนทั่วไปคุ้นชิน อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจในแต่ละปีกลับเพิ่มสูงขึ้น และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประชากรทั่วโลกถึง 17 ล้านคนต่อปี และ 40-50% ของจำนวนผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจมีสาเหตุมาจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน[1] ดังนั้นภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันจึงถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญด้านสาธารณสุขของหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย

ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ ฟิลิปส์ตระหนักถึงความสำคัญของอันตรายจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และมีความมุ่งมั่นในการเดินหน้ารณรงค์ถึงอันตรายจากโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการให้ความรู้ด้านการช่วยชีวิตเบื้องต้นในผู้ป่วยที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest: SCA) ที่อาจเกิดขึ้นนอกโรงพยาบาล เพราะสถิติแสดงให้เห็นว่าในหนึ่งวันมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากสาเหตุภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันกว่า 1,000 คนต่อวัน[2] โดยสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย เมื่อภาวะดังกล่าวไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนทั่วไปควรมีความรู้พื้นฐานในการช่วยชีวิต เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดอัตราการเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

ความแตกต่างระหว่างภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (SCA) และภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลัน(Heart Attack)

หนึ่งในความเข้าใจผิดเกี่ยวกับภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันของคนทั่วไปคือ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest : SCA) คือภาวะเดียวกันกับภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลัน หรือ Heart Attack เมื่อหัวใจมีหน้าที่สูบฉีดเลือดเพื่อไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้สามารถทำงานได้ปกติ หัวใจจะทำงานด้วยจังหวะการเต้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาโดยเฉลี่ย 36-42 ล้านครั้งต่อปี โดยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน คือภาวะที่หัวใจหยุดทำงานอย่างกระทันหันด้วยความผิดปกติของระบบไฟฟ้าในหัวใจ ทำให้หัวใจห้องล่างมีการเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรงหรือที่เรียกว่าหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้ว (Ventricular Fibrillation: VF) ซึ่งจะเกิดขึ้นในทันทีโดยไม่มีสัญญาณของอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นล่วงหน้า และเมื่อเกิดภาวะนี้ขึ้นจะทำให้ไม่มีการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายจนการทำงานของอวัยวะผิดปกติ โดยเฉพาะเมื่อเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอพอ จะทำให้คนไข้มีอาการหมดสติภายในไม่กี่วินาทีและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงจำเป็นต้องได้รับการช่วยชีวิตด้วยการ CPR และใช้เครื่อง AED อย่างทันท่วงทีโดยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันสามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ แต่สามารถพบบ่อยในผู้ใหญ่วัยกลางคนที่มีอายุระหว่าง 30-40 ปี และมีสถิติการเกิดภาวะดังกล่าวในเพศชายมากกว่าเพศหญิง 2 เท่า[3]

ในขณะที่ภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลัน (Heart Attack) คือภาวะที่หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งจะมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่สามารถสังเหตุได้เช่น อาการเจ็บหน้าอก เหงื่อออกเยอะ ใจสั่น หายใจสั่นและรู้สึกหายใจไม่อิ่ม อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ภาวะมีความเกี่ยวเนื่องกัน เพราะการเกิดภาวะหัวใจกำเริบเฉียบพลันอาจนำไปสู่การเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้ ทำให้ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันคือสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นในผู้ป่วยโรคหัวใจ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่ได้ป่วยโรคหัวใจมาก่อนได้ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า คนไทยเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเฉลี่ยปีละกว่า 54,000 คน หรือประมาณ 6 คนต่อหนึ่งชั่วโมง[4]

สาเหตุการเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ความผิดปกติของหัวใจโดยกำเนิด หรือในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี อาจเกิดจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาชนิดไม่ทราบสาเหตุหรือภาวะเส้นเลือดหัวใจขาดเลือดในคนอายุน้อย และผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ความเสี่ยงของภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันอาจเกิดขึ้นจาก โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูงหรือการสูบบุหรี่จัด[5] นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ในกรณีฉุกเฉินเช่น อุบัติเหตุ การออกกำลังกายหนักเกินไป การตกใจหรือพบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ที่ทำให้หัวใจเกิดการทำงานผิดปกติ ทางเดินหายใจอุดกั้น รวมทั้งอาจเกิดจากการได้รับยาเกินขนาดหรือแพ้ยา จะเห็นได้ว่าภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และกับทุกคน

AED ตัวช่วยสำคัญในการช่วยชีวิตผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนั้นเมื่อเกิดขึ้นแล้วจำเป็นต้องเริ่มการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานด้วยการนวดหัวใจหรือหากบริเวณนั้นมีเครื่อง Automated External Defibrillator หรือ AED ให้รีบนำเครื่องมาใช้ในทันที เพราะอ้างอิงจากสถิติของสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกาพบว่า 90% ของผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรงพยาบาล (Out-of-Hospital Cardiac Arrest: OHCA) มักเสียชีวิตในทันที ดังนั้นจะสังเกตได้ว่าตามสถานที่ต่าง ๆ จึงมีการติดตั้งเครื่อง AED ทั้งในสนามบิน โรงเรียน สนามกีฬา สถานีรถไฟฟ้าหรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้าก็ตาม เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

ฟิลิปส์

ห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิตของผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา ได้กำหนดห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิต (Chain of Survival) เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกโรงพยาบาลไว้ 6 ขั้นตอน ดังนี้

  • ประเมินสถานการณ์และแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินให้เร็วที่สุด (Activation of Emergency Response) หากพบผู้ป่วยหมดสติ หัวใจหยุดเต้น โทรแจ้งที่เบอร์ 1669 และทำการแจ้งอาการเบื้องต้นที่สังเกตได้ ณ ตอนนั้น โดยหากเป็นไปได้ควรระบุเพศและอายุโดยคร่าวๆ ของผู้ป่วยให้ผู้ประเมินสถานการณ์ทราบ
  • ทำการนวดหัวใจที่มีคุณภาพทันท่วงที (High Quality CPR) โดยความสำคัญของการทำ CPR อยู่ที่การนวดหัวใจที่ต้องทำให้ถูกต้องและทันเวลา เพราะหากสมองขาดออกซิเจนไปเกิน 4 นาที สมองอาจเสียหายได้[6] จากสถิติของสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกาพบว่าการทำ CPR อย่างถูกวิธีสามารถช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิต (Survival Rate) ได้ถึง 3 เท่า โดยเริ่มต้นจากการกระตุ้นด้วยการเรียกผู้ป่วยว่าผู้ป่วยรู้สึกตัวหรือมีการตอบสนองหรือไม่ หากผู้ให้การช่วยเหลือรู้วิธีการคลำชีพจรให้คลำชีพจรเพื่อตรวจสอบ และหากไม่พบชีพจรให้เริ่มทำการกดหน้าอกผู้ป่วยบริเวณตรงกลางซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่ของกระดูกหน้าอก โดยบริเวณนี้จะมีความปลอดภัยเนื่องจากมีกระดูกรองรับอยู่ โดยให้กดที่ตำแหน่งครึ่งล่างของกระดูกหน้าอก ใช้สันมือหนึ่งข้างในการกดพร้อมกับใช้มืออีกข้างหนึ่งล็อคมือที่ใช้กดหน้าอกไว้ กดหน้าอกให้ลึกลงไปประมาณ 2 นิ้ว และควรระวังไม่ให้ลึกเกิน 2.4 นิ้ว ซึ่งปกติแรงกดของคนทั่วไปมักไม่เป็นอันตราย จึงควรพยายามกดให้แรงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการกระตุ้นหัวใจ โดยใช้ความเร็วในการกดหน้าอกที่ 100-120 ครั้งต่อนาที[7]
  • ใช้เครื่องคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้า (Defibrillation) ด้วยการช็อกด้วยกระแสไฟฟ้า (Electrical Shock) จากเครื่องมือที่เรียกว่า Defibrillator ซึ่งเมื่อเหตุนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลสามารถใช้เครื่อง AED ที่สามารถใช้งานโดยคนทั่วไประหว่างรอให้หน่วยกู้ชีพฉุกเฉินจะเดินทางมาถึง
  • ได้รับบริการการแพทย์ฉุกเฉินขั้นสูง (Advanced Resuscitation)
  • การดูแลหลังภาวะหัวใจหยุดเต้น (Post-Cardiac Arrest Care)
  • การดูแลพักฟื้นและติดตามอาการ (Recovery)

ความสำคัญของเครื่อง AED ต่อผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

จาก 6 ขั้นตอนห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิต (Chain of Survival) จะเห็นได้ว่าในการช่วยชีวิตผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นในขั้นเบื้องต้นจำเป็นต้องใช้เครื่อง AED ร่วมกับการทำ CPR เนื่องจากผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันกว่าร้อยละ 50 เกิดจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะในลักษณะของหัวใจห้องล่างเต้นพลิ้วจากระบบไฟฟ้าในหัวใจผิดปกติ หากเกิดภาวะนี้จำเป็นต้องใช้เครื่อง AED เพื่อคืนคลื่นหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้าถ้าไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าวอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตจึงถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการช่วยชีวิตเป็นอย่างมาก โดยเครื่อง AED สามารถใช้ได้กับผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเท่านั้น  โดยข้อมูลสถิติจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติระบุว่า การใช้เครื่อง AED ร่วมกับการทำ CPR ภายใน 3-5 นาที จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตได้ถึง 45%[8]

ฟิลิปส์

วิธีการใช้เครื่อง AED เบื้องต้น

เครื่อง AED เป็นเครื่องที่ถูกออกแบบมาให้มีระบบการทำงานที่ไม่ซับซ้อนเพื่อทำให้บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์สามารถใช้ได้เมื่อจำเป็นต้องให้การช่วยเหลือผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน โดยกดเปิดเครื่องและฟังตามคำแนะนำของเครื่องในแต่ละขั้นตอน เริ่มจากถอดเสื้อผู้ป่วย นำแผ่นแพด (Pad) ในเครื่องติดบริเวณหน้าอกผู้ป่วยตามตำแหน่งที่แนะนำในเครื่องโดยติดให้แนบสนิท โดยต้องแน่ใจว่าหน้าอกผู้ป่วยแห้ง ไม่เปียกน้ำหลังจากนั้นเครื่อง AED จะทำการประเมินจังหวะการเต้นของหัวใจ เพื่อตรวจสอบว่าจำเป็นต้องทำการช็อตหัวใจหรือไม่ หากต้องทำการช็อตเครื่องจะสั่งการให้ผู้ช่วยเหลือทำการกดปุ่มช็อตหัวใจ ซึ่งระหว่างกดปุ่มช็อตห้ามโดนตัวผู้ป่วยเด็ดขาด อย่างไรก็ตามเพื่อให้สามารถทำตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้องเมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันคณะกรรมการมาตราฐานการช่วยชีวิต (Thai Resuscitation Council) ได้เปิดการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานสำหรับประชาชนทั่วไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://thaicpr.org/?mod=course

เนื่องในโอกาสวันหัวใจโลก 2023 นี้ ฟิลิปส์ มุ่งมั่นในการให้ความรู้และรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับสังคมไทย ถึงอันตรายจากภาวะต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือด เพราะถึงแม้ว่าในปัจจุบันเครื่อง AED จะมีการติดตั้งในที่สาธารณะเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนของเครื่อง AED ที่สามารถเข้าถึงได้นั้นยังคงมีไม่เพียงพอ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ควรได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการติดตั้งเครื่อง AED โดยกรมสุขภาพจิตเผยว่าเมื่อมีผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันหรือหัวใจล้มเหลวเครื่อง AED สามารถช่วยกระตุ้นหัวใจให้กลับมาเต้นปกติได้ถึง 70% ในทางกลับกันหากไม่มีเครื่อง AED อัตราการฟื้นกลับมาของผู้ป่วยจะเหลือเพียง 50% เท่านั้น ซึ่งภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนั้นเป็นอาการหัวใจหยุดเต้นที่จำเป็นต้องใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าให้กลับมาเต้นอีกครั้ง[9] นอกจากนี้อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไปมากขึ้นคือการเข้ารับการฝึกอบรมการทำ CPR และวิธีการใช้เครื่อง AED อย่างถูกต้อง โดยอ้างอิงจากผลสำรวจ YouGov ของประชากรในประเทศไทยกว่า 2,000 คน พบว่า 39% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดไม่ทราบวิธีการกู้ชีพขั้นพื้นฐานที่ถูกต้อง ในขณะที่ 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจไม่ทราบวิธีการใช้เครื่อง AED ที่ถูกต้อง และ 54% ระบุว่า ไม่เคยพบเห็นเครื่อง AED ในพื้นที่สาธารณะ[10] ดังนั้นหากมีการติดตั้งเครื่อง AED ในที่สาธารณะและประชาชนมีความสนใจเข้ารับการอบรมการทำ CPR และการใช้เครื่อง AED เพิ่มมากขึ้นจะสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงการเสียชีวิตของผู้ป่วยภาวะหัวใจหยุดเต้นฉับพลันให้ลดลงได้

Scent Of Time - A Scent of Time - The Scent of Time -为有暗香来 - หวังซิงเยว่ - Wang Xingyue -王星越- โจวเหย่ - Zhou Ye -周也 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนไตรมาสสี่ - นักแสดงจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

น่าดู! Scent Of Time ซีรี่ย์จีนแนวทะลุมิติที่นางเอกอยู่ในร่างตัวร้าย!

Alternative Textaccount_circle
event
Scent Of Time - A Scent of Time - The Scent of Time -为有暗香来 - หวังซิงเยว่ - Wang Xingyue -王星越- โจวเหย่ - Zhou Ye -周也 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนไตรมาสสี่ - นักแสดงจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
Scent Of Time - A Scent of Time - The Scent of Time -为有暗香来 - หวังซิงเยว่ - Wang Xingyue -王星越- โจวเหย่ - Zhou Ye -周也 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนไตรมาสสี่ - นักแสดงจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ ชวนตามเก็บซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/ทะลุมิติ/โรแมนติก Scent Of Time ที่นางเอกทะลุมาอยู่ในร่างของตัวร้าย แล้วความชุลมุนวุ่นวายนี้จะเป็นอย่างไร ไปตามลุ้นกันจ้า!

อีกหนึ่งซีรี่ย์จีนออนแอร์เดือนต.ค. 2023 ที่กำลังจะออนแอร์ให้แฟนๆ ได้รับชมกันเร็วๆ นี้ นั่นคือ Scent Of Time (ชื่อจีน 为有暗香来) ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนแนวโรแมนติกขนาดยาวบนแพลตฟอร์ม Zhihu เรื่อง Washing Powder โดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับนางเอก หัวเฉี่ยน ลูกสาวตระกูลเซียงเหย้า ที่เคยลงมือทำสิ่งที่ผิดพลาดไป เพราะหมกมุ่นอยู่กับจ้งเย่หลาน ชายหนุ่มที่ไม่เคยรักเธอเลยแม้แต่น้อย จนท้ายที่สุดทำให้หัวเฉี่ยนต้องถึงแก่ชีวิต เมื่อโชคชะตาพลิกผันอีกครั้ง หัวเฉี่ยนตื่นขึ้นมาพบว่าเธอย้อนเวลากลับมาในคืนที่เธอแต่งงานกับจ้งเย่หลาน ซึ่งหลังจากเคยทำผิดพลาดมาแล้วครั้งนี้ การได้กลับมาใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง หัวเฉี่ยนจึงตระหนักได้ว่า เธอจะชดเชยความผิดพลาดในอดีตของตัวเอง และเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้เธอได้เห็นคุณค่าของครอบครัวและสหายรอบข้าง และเพื่อไม่ให้เกิดความผิดซ้ำอีก เธอจึงเลิกจมปลักอยู่กับชายหนุ่มที่จ้งเย่หลานอีกต่อไป และเลือกที่จะส่งเสริมให้จ้งเย่หลานนได้ครองรักกับมู่เหยา หญิงสาวที่เขารักแทน

นอกจากนี้ หัวเฉี่ยนยังอุทิศตัวและทำทุกวิถีทางให้คนในครอบครัวที่กำลังเดินทางผิดได้กลับมาเดินบนเส้นทางที่ถูกที่ควร ซึ่งในช่วงนั้นเองที่หัวเฉี่ยนได้ค้นพบความลึกลับต่างๆ ในอดีตที่ค่อยๆ เปิดเผยขึ้น ขณะเดียวกัน หัวเฉี่ยนยังค้นพบอีกว่า เธอมีชายหนุ่มนามว่า จ้งซีอู่คอยปกป้องเธออยู่อย่างเงียบๆ พร้อมกับอีกชายหนุ่มที่เข้ามาพัวพันกับเธออย่างหัวหรงโจว ที่คิดถึงแต่ตัวเองก่อนเสมอ ซึ่งเรื่องราวความรัก ครอบครัวของหัวเฉี่ยนจะเป็นอย่างไรต่อ ไปติดตามกันได้ที่ซีรี่ย์จีนScent Of Timeนะคะ

Scent Of Time  - A Scent of Time - The Scent of Time  -为有暗香来  -  หวังซิงเยว่  - Wang Xingyue  -王星越-   โจวเหย่  -  Zhou Ye  -周也

สำหรับซีรี่ย์จีนScent Of Timeที่เตรียมจะออนแอร์วันที่ 13 ต.ค. 2023 นี้ นำแสดงโดยนางเอกจีนรุ่นใหม่ไฟแรงขวัญใจวัยรุ่นอย่างโจวเหย่ (Zhou Ye) วัย 25 ปี (เกิดวันที่ 20 พ.ค. 1998) ที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วทั้งผลงานทางจอเงินและจอแก้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังจีนแนววัยรุ่น/อาชญากรรม Better Days ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ (2019), ซีรี่ย์จีน Word of Honor นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า (2021), Back From The Brink ล่าหัวใจมังกร ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกที่โจวเหย่ประกบคู่กับโหวหมิงฮ่าว (Hou Minghao/Neo Hou) เป็นต้น

Scent Of Time  - A Scent of Time - The Scent of Time  -为有暗香来  - โจวเหย่  -  Zhou Ye  -周也

ส่วนพระเอกของเรื่องScent Of Timeได้หวังซิงเยว่ (Wang Xingyue) นักแสดงชายจีนวัยรุ่นวัย 21 ปี (เกิดเดือนมี.ค. 2002) ที่ก่อนหน้านี้คอซีรี่ย์จีนหลายคนน่าจะเคยเห็นเขามาแล้วในฐานะพระเอกซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น First Love วุ่นนัก โจทย์รักแรก (2022), Delicacies Destiny ลิขิตฟ้าชะตาเลิศรส (2022) เป็นต้น

หวังซิงเยว่ - Wang Xingyue -王星越-

นอกจากโจวเหย่กับหวังซิงเยว่ ยังมีทัพนักแสดงจีนอีกหลายคน อาทิ เผิงฉู่เยว่ (Peng Chuyue) นักร้อง ไอดอลสมาชิกบอยแบนด์จีน X NINE นักแสดงวัย 29 ปีที่เคยเข้าร่วมแข่งขันในรายการเซอร์ไวเวิลจีน CHUANG 2019 มารับบทเป็นจ้งเย่หลาน, จางอี้เจี๋ย (Zhang Yijie) จากเรื่อง My Strange Friend เพื่อนซี้พลังวิเศษ (2020) และ Unrequited Love รักข้างเดียวที่หวายหนาน (2021) ฯลฯ, จ้าวฉิง (Zhao Qing) รับบทเป็นมู่เหยา เป็นต้น

Scent Of Time - A Scent of Time - The Scent of Time -为有暗香来 - หวังซิงเยว่ - Wang Xingyue -王星越- โจวเหย่ - Zhou Ye -周也
为有暗香来 - หวังซิงเยว่ - Wang Xingyue -王星越- โจวเหย่ - Zhou Ye -周也
为有暗香来 - หวังซิงเยว่ - Wang Xingyue -王星越- โจวเหย่ - Zhou Ye -周也
为有暗香来 - หวังซิงเยว่ - Wang Xingyue -王星越- โจวเหย่ - Zhou Ye -周也

รูปจาก : 网剧为有暗香来

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

เปิดกล้องแล้ว! Go Back Lover ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกเรื่องใหม่ของหลี่อวิ๋นรุ่ย-สวีรั่วหาน

5 ซีรี่ย์จีนยังไม่ได้ออนแอร์ของหลิวอวี่หนิง ฉายแววปังทุกเรื่อง!

8 บทบาทอาชีพรับใช้ชาติของหวงจิ่งอวี๋ ทั้งจอเงินและจอแก้ว กี่เรื่องก็กวาดคำชมเรียบ!!

My Precious ซีรี่ย์จีนเรื่องที่ 2 ของหวงจื่อเทาในปี 2023!!

ตามเก็บซีรี่ย์จีน Gourmet in Tang Dynasty 2 ภาคของ 2 คู่พระ-นางชวนจิ้น!

The Heart ซีรี่ย์จีนแนวการแพทย์กับบทคุณหมอครั้งแรกของจ้าวโย่วถิง!

ส่องแฟชั่นสไตล์จัดจ้านมีสีสันของคนดังและเหล่าเวสปิสตี้ ที่งาน “VESPAFESTA: WASP IN THE PARK”

ส่องแฟชั่นสไตล์จัดจ้านมีสีสันของคนดังและเหล่าเวสปิสตี้ ที่งาน “VESPAFESTA: WASP IN THE PARK”

Alternative Textaccount_circle
event
ส่องแฟชั่นสไตล์จัดจ้านมีสีสันของคนดังและเหล่าเวสปิสตี้ ที่งาน “VESPAFESTA: WASP IN THE PARK”
ส่องแฟชั่นสไตล์จัดจ้านมีสีสันของคนดังและเหล่าเวสปิสตี้ ที่งาน “VESPAFESTA: WASP IN THE PARK”

“VESPAFESTA: WASP IN THE PARK” ถือเป็นอีกงานที่รวมพลเหล่าคนรักสกู๊ตเตอร์เวสป้าและเสียงดนตรีมารวมไว้ในที่เดียว ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นงานอีเวนต์ธรรมดาๆ เท่านั้น แต่คือการร่วมฉลอง Viva Moment ที่มีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ และยังเป็นลานแฟชั่นที่ทุกคนสามารถสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์และตัวตนได้อย่างอิสระ ตามคอนเซ็ปต์แบรนด์ ‘LIVE FREELY’ กับสไตล์การแต่งตัวที่แสดงตัวตนอันหลากหลายและไร้ขีดจำกัดในสไตล์แฟชั่นนิสต้า จนกลายเป็นแรงบันดาลใจที่คนอื่นๆ สามารถนำไปแมทช์ลุคกับการแต่งตัวภายในชีวิตประจำวันได้

สำหรับงานอีเวนต์ครั้งนี้ได้มี “เวสปิสตี้ – (Vespisti)” มาร่วมสนุกกับเวสป้า จอยดนตรี เสพงานศิลป์มากมาย พร้อมโชว์สไตล์การแต่งตัวที่ตัวเองชื่นชอบและเรียกว่าเป็นตัวเองแบบสุดๆ ทั้ง “เรย์ แมคโดนัลด์” “ต้าร์ บาร์บี้” “ลีโอ พุฒ” “ปาล์มมี่” “ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์” “สตาร์บัค พงศ์พิชญ์” “โจ๊ก ไอศกรีม” “บอส ดรัณภพ” “ยงค์ยุทธ เติมต่อ” “โอม สุทธิพงษ์” “ยิม ธัญญะ” “กี้ร์ – กัญญ์กุลณัช”“ภูเขา-บุญรอด”จากช่องภูเขาชาแนล “ใหม่-หนุ่ม” “สมาชิกจากช่อง Powerpuff Gay” และ “ปู-จิรัฏฐ์” จากเพจ Cheeze Looker เป็นต้น ที่แต่งตัวมาร่วมงานในหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น

“แฟชั่นสไตล์วินเทจ” ที่เวสปิสตี้ ได้สนุกกับสีสันและลวดลายที่บาดตาทั้งเสื้อสูทโอเวอร์ไซส์เสริมไหล่ ถุงน่องสี แจ็กเก็ตหนัง หรือเป็น “ไอเทมตัวโปรด”กับ ยีนส์ คลาสสิกเอาอยู่ทุกสไตล์ ที่ เวสปิสตี้ ส่วนใหญ่เลือกกางเกงเดนิมมาแมทช์เข้ากับเสื้อโอเวอร์ไซส์ตัวโปรด เพื่อให้ลุคการแต่งตัวดูสบายแต่ยังคงความคลาสสิกเอาไว้ หรือเลือกกางเกงเดนิมมาแมทช์คู่กับเสื้อเดนิมที่สีเหมือนกันเพื่อให้ลุคการแต่งตัวดูเท่มากขึ้น หรือจะสนุกกับแบบ All Street Style เรียบง่ายที่ไม่ธรรมดา เพราะไม่ว่าคุณ จะลุคไหน คุณก็เป็นเวสปิสตี้ ได้อย่างมีสไตล์เพราะความอิสระคือตัวตนที่มีความสำคัญ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมาแนวมินิมอล Unisex style หรือจะฮิปๆ แนวสตรีทก็สะท้อนความสนุกกับการแต่งตัวและมั่นใจที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ และข้ามขีดจำกัดของตัวเอง

VESPAFESTA
VESPAFESTA
VESPAFESTA

และสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ กับชุดที่เป็น Talk of the town ของหนึ่งในเวสปิสตี้ตัวแม่ อย่าง “ปาล์มมี่” นักร้องชื่อดังที่ฝากผลงานฮิตติดหูไว้มากมาย กับชุด “The Color of Pollen” ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานที่เต็มไปด้วยดอกไม้ จึงเกิดเป็นชุดเกสรดอกไม้หลากสี ที่พร้อมจะปล่อยความสุข อิสระ และความเป็นตัวเอง กระจายปกคลุมไปทั่วงาน พร้อมสร้างรอยยิ้มความมันส์จากโชว์ตลอดหนึ่งชั่วโมงเต็ม

VESPAFESTA: WASP IN THE PARK เป็นอีกหนึ่งงานที่มีการรวมเอาดนตรี ศิลปะและความหลากหลายเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว สามารถรวมเหล่าเวสปิสตี้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียว ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เพศอะไร มีความชื่นชอบด้านแฟชั่นแบบไหน ล้วนแต่มีหัวใจที่รักความเป็นเวสป้าและศิลปะไว้เสมอ ซึ่งสามารถร่วมฉลอง Viva Moment ครั้งต่อไป และออกเดินทางไปพร้อมกัน กับชาวเวสปิสตี้ ในการรวมตัวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 9 ปี กับ VIVA LA VESPA FESTIVAL & CARAVAN 2024 โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานคาราวาน ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปที่ https://www.vespa.co.th/vivalavespa ติดตามกิจกรรมต่าง ๆ และข่าวสารทุกโมเมนต์ได้ทาง LINE OA @VESPATHAILAND และ www.vespa.co.th

ติดตามอ่านข่าวกิจกรรมและบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

KTIS มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วย “นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์”

รพ.วิมุต สร้างสุขภาพในฝันหลังวัย 50+ แคมเปญใหญ่ ViMUT Healthy 50 Plus

การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

dwp ชวนเปิดประสบการณ์แห่งความผ่อนคลายกลางกรุง ที่ Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok

ริคฟิกซ์หน้าเป๊ะ รักษาริ้วรอยแบบไม่โป๊ะ

หมอเพชร Fiora Clinic กับเทคนิคการเติมเต็ม&ปรับรูปหน้าที่ไม่เหมือนใคร

อัพเดททางเลือกในการดูแลสุขภาพและความงามที่เปิดกว้างขึ้น & ปรับให้เหมาะกับตัวเองได้

การท่องเที่ยวฮ่องกง แจกแพลนเที่ยว 3 อีเวนต์ฮ่องกงมาแรงส่งท้ายปี 2023!

เปิด 30 เมนูเด็ดจาก 10 ร้านที่ต้องแวะชิมก่อนเดินทาง ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ดุสิตธานี

‘กลุ่มดุสิตธานี’ รุกขยายธุรกิจต่อเนื่อง ปักธงโรงแรมแห่งที่ 11 ในจีน

Alternative Textaccount_circle
event
ดุสิตธานี
ดุสิตธานี

‘กลุ่มดุสิตธานี’ รุกขยายธุรกิจต่อเนื่อง ปักธงโรงแรมแห่งที่ 11 ในจีนเปิดตัว ‘ดุสิตธานี โมแกนเมาน์เท่น หูโจว’ โรงแรมหรูใจกลางธรรมชาติ

กลุ่มดุสิตธานี เดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดโรงแรมแห่งที่ 11 ในจีน ภายใต้ชื่อ ‘ดุสิตธานี โมแกนเมาน์เท่น หูโจว’ โรงแรมหรูที่โอบล้อมด้วยภูเขาและไร่ชาใจกลางธรรมชาติ พร้อมบริการเวลเนส เน้นบริการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ

มร. จิลล์ เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  กลุ่มดุสิตธานี รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายธุรกิจโรงแรมในจีนอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนและมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ โดยการเปิดโรงแรม “ดุสิตธานี โมแกนเมาน์เท่น หูโจว” นับเป็นโรงแรมแห่งที่ 11 ในจีนของกลุ่มดุสิตธานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งครั้งสำคัญที่กลุ่มดุสิตธานีได้มีโอกาสนำแบรนด์ไทยขยายสู่ภูเขาโมแกน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติที่ยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ พร้อมอากาศบริสุทธิ์

ดุสิตธานี

“หนึ่งในจุดเด่นภูเขาโมแกน คือ เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงด้านสภาพแวดล้อมที่บริสุทธิ์และยังมีไร่ชาอุดมสมบูรณ์อย่างมาก พร้อมอากาศอันบริสุทธิ์ที่จะช่วยให้แขกผู้เข้าพักได้รับประสบการณ์ของการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจได้อย่างเต็มที่ในที่พักที่หรูหรา ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ ทำให้เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า โรงแรมแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่พักผ่อนที่จะสร้างประสบการณ์อันน่าจดจำให้กับทุกผู้มาเยือน และนำคุณค่าที่ยั่งยืนมาสู่ชุมชนโดยรอบอย่างแน่นอน” มร.จิลล์กล่าว

สำหรับ โรงแรมดุสิตธานี โมแกนเมาน์เท่น หูโจว ในเฟสแรกที่เปิดให้บริการ ประกอบด้วย ห้องพักประเภทดีลักซ์ตกแต่งในแบบไทยร่วมสมัยจำนวน 22 ห้อง และวิลล่าขนาดใหญ่ 3 หลัง ที่มองเห็นวิวทะเลสาบและไร่ชาอันงดงาม ส่วนในเฟสสองที่จะตามมา ประกอบด้วย ห้องพักเพิ่มรวม 100 ห้องและวิลล่า 9 หลัง พร้อม “เทวารัณย์ เวลเนส”  ที่จะนำเสนอประสบการณ์ผ่านโปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมภายใต้แนวคิด การหยุดนิ่ง ‘Pause’, การมีสมาธิ ‘Focus’, และการเติบโต ‘Growth’ ซึ่งเทวารัณย์ เวลเนส นี้เป็นหลักปฏิบัติและแนวคิดเพื่อการดูแลสุขภาพของกลุ่มดุสิตธานี

ดุสิตธานี

โรงแรมแห่งใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อดึงดูดนักเดินทางเพื่อการพักผ่อนและนักธุรกิจที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย และมีโอกาสใช้เวลาอย่างเต็มที่กับความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยตั้งอยู่ที่ หยิง วัลเลย์ รีสอร์ท (เชิงเขาด้านตะวันออกของภูเขาโมแกน) ใจกลางเจ้อเจียง มณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของเซี่ยงไฮ้ โรงแรมอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟความเร็วสูง ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์เพียง 20 นาที นอกจากนี้ แขกยังสามารถเดินทางไปเมืองหางโจวได้ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง หรือเซี่ยงไฮ้ภายในเวลาสองชั่วโมง

ในด้านบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก จะประกอบด้วย “เทวารัณย์ เวลเนส” ที่นำเสนอบริการหลากหลายรูปแบบของการรักษาด้วยการนวดแบบไทยและการดูแลเสริมความงาม สระน้ำร้อน ฟิตเนส สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ห้องจัดเลี้ยง และพื้นที่จัดกิจกรรมด้านร่างกายและจิตใจ เช่น โยคะ การบำบัดด้วยเสียง และการทำสมาธิ

สำหรับด้านอาหาร โรงแรมแห่งนี้ใช้แนวคิด ‘Farm to Table’ ส่งต่ออาหารสุขภาพจากฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร โดยทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ชั้นนำในท้องถิ่น เพื่อจัดหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดและสดใหม่ที่สุดมาบริการ ทั้งที่ห้องอาหารจีนและห้องอาหารนานาชาติ ซึ่งเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน พร้อมนำเสนอเมนูเพื่อสุขภาพที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเติมพลังและช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีที่สุด ขณะที่กิจกรรมอื่นๆ ที่แขกสามารถเข้าร่วม ยังรวมถึง มินิกอล์ฟ ขี่จักรยาน การเดินป่า และการเล่นพาเดิลบอร์ดในทะเลสาบที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม

ดุสิตธานี

โรงแรมดุสิตธานี โมแกน เมาน์เท่น หูโจว นำเสนอแพ็คเกจห้องพักราคาพิเศษ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดตัว เริ่มต้นที่ 6,950 บาท (USD 189) ต่อคืน สำหรับห้องดีลักซ์วิวทะเลสาบ พร้อมอาหารเช้าสำหรับสองท่าน และมินิบาร์ฟรี ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่ง กรุณาเยี่ยมชม: ดุสิตธานี โมแกน เมาน์เท่น หูโจว

GENTLEWOMAN

GENTLEWOMAN จับมือ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่

Alternative Textaccount_circle
event
GENTLEWOMAN
GENTLEWOMAN

GENTLEWOMAN จับมือ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ DHL’s Timeless Journey: The Irreversible Spin by GENTLEWOMAN’

  • คอลเลกชั่น ‘DHL’s Timeless Journey: The Irreversible Spin by GENTLEWOMAN’ ได้รับแรงบันดาลใจจากพนักงานคูเรียร์ของดีเอชแอลที่ทำงานทุกวันเพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ และขยายธุรกิจไปทั่วโลก
  • คอลเลกชั่นฉลองครบรอบ 50 ปีดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสในประเทศไทย จะเปิดตัวในวันที่ 29 กันยายน 2566 โดยออเดอร์ระหว่างประเทศทั้งหมดจะถูกจัดส่งโดยดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส
  • ความร่วมมือครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ GENTLEWOMAN ในการขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายโลจิสติกส์ของดีเอชแอล

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งความมุ่งมั่นในการส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่นไปสู่เวทีระดับโลก โดยร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังของประเทศไทย GENTLEWOMAN (เจนเทิลวูแมน) เตรียมเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ชื่อ ‘DHL’s Timeless Journey: The Irreversible Spin by GENTLEWOMAN’ ที่ได้โอบรับความเป็นผู้หญิง ความงาม และตัวตนของทุกคนในทุกรูปแบบ โดยนำเสนอแฟชั่นสำหรับทุกเพศ หรือ Genderless Fashion ผ่านสตรีทแวร์ร่วมสมัย ผสานกับความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะ และความเป็นตัวเองอย่างมั่นใจ

GENTLEWOMAN

คอลเลกชั่นนี้จะเปิดตัวทั่วโลกในวันที่ 29 กันยายน และจะผสานรวมความเป็นดีเอชแอลอันเป็นเอกลักษณ์บนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของทั้งแบรนด์ GENTLEWOMAN และ Gentle Littlewoman แบรนด์เสื้อผ้าเด็ก

นอกจากนี้ ยังเป็นการเชิดชูเกียรติพนักงานคูเรียร์ของดีเอชแอลที่มีบทบาทในการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ขยายกิจการระหว่างประเทศ หรือจัดส่งพัสดุให้แก่ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่อยู่ห่างไกลมาโดยตลอด คอลเลกชั่นนี้ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ไม่หยุดนิ่งของคนรุ่นใหม่ โดยมีธีมเกี่ยวกับสตรีทแวร์และแฟชั่นที่กล้าแสดงความเป็นตัวเอง นำเสนอในสไตล์ที่แตกต่าง ช่วยให้ผู้สวมใส่มีความมั่นใจในการแต่งตัวด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขตและมีลักษณะเฉพาะตัว

เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “ในวาระครบรอบ 50 ปีของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย เราตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำ โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราได้ทำงานอย่างทุ่มเทเพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจไทยจำนวนมาก และเราก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกับ GENTLEWOMAN ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศและความยั่งยืนทางสังคม ทั้งสองบริษัทได้มุ่งเน้นเรื่องการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลาย และการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นเราจึงมุ่งหวังที่จะเห็นผลสำเร็จของความร่วมมือในครั้งนี้ที่มีต่อลูกค้าทั่วโลก”

GENTLEWOMAN

รยา วรรณภิญโญ ผู้ร่วมก่อตั้ง GENTLEWOMAN กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมฉลองครบรอบ 50 ปีของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ในประเทศไทย เราเชื่อในพลังของการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมมือกับผู้มีวิสัยทัศน์ชั้นนำอย่างดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการสร้างสรรค์สิ่งที่พิเศษอย่างแท้จริงซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในตลาดโลก และกระตุ้นยอดขายอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศแล้ว ยังช่วยสนับสนุนความมุ่งมั่นของเราในการเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้คนทั่วโลก ไม่เฉพาะแค่ผู้หญิง และเราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ของเราอย่างเหนือชั้น พร้อมทั้งตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลก ควบคู่ไปกับการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนมีความมั่นใจและมีสไตล์ที่เป็นของตัวเอง”

เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของการช้อบปิ้งออนไลน์ทั่วโลก มีการคาดว่าตลาดอีคอมเมิร์ซด้านแฟชั่นทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 672,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ภายในปี 2566[1] ซึ่งเห็นได้ชัดว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นมีบทบาทและการพัฒนาอย่างรวดเร็วในโลกดิจิทัล

รยา วรรณภิญโญ กล่าวต่อว่า “ไม่ว่าเราจะส่งออกหรือนำเข้า เรายอมรับความเชี่ยวชาญของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ซึ่งเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ระดับโลกที่มีกระบวนการจัดการโลจิสติกส์ย้อนกลับ (Reverse logistics) ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศ รวมถึงตลาดสำคัญในภูมิภาคอย่างฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย”

GENTLEWOMAN

งานคอลแลบบอเรชันรุ่นลิมิเต็ดนี้ประกอบด้วยเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่หลากหลายซึ่งออกแบบมาสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ ชุดบอดี้สูท เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต เสื้อกั๊ก แจ็คเก็ต กระโปรงสั้น กางเกงยีนส์ กางเกงขายาว และกางเกงขาสั้น  นอกจากนี้ กระเป๋าโท้ตที่เป็นซิกเนเจอร์ของ GENTLEWOMAN ก็ได้ปรับลุคใหม่ในรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น แสดงโลโก้สัญลักษณ์ดีเอชแอลที่โดดเด่น

คอลเลกชั่นนี้จะวางจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 29 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. (GMT+7) ที่ https://www.GENTLEWOMANonline.com และในร้าน GENTLEWOMAN 15 สาขาในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และขอนแก่น

แคนนอน

แคนนอน จัดแคมเปญ “Happy Holiday” รับหยุดยาวฟรี!

Alternative Textaccount_circle
event
แคนนอน
แคนนอน

แคนนอน จัดแคมเปญ “Happy Holiday” รับหยุดยาวฟรี! บริการตรวจเช็คและทำความสะอาดกล้องแบบด่วน ตอบโจทย์พกกล้องออกทริปปลายปี

แคนนอน รู้ใจลูกค้าที่เตรียมพกกล้องคู่ใจไปออกทริปช่วงหยุดยาวในเดือน ต.ค 66  จัดแคมเปญ Happy Holiday มอบข้อเสนอสุดพิเศษ ฟรี! บริการตรวจเช็คและทำความสะอาดภายนอกแบบเอ็กซ์เพรส โดยสามารถนำผลิตภัณฑ์กล้องหรือเลนส์แคนนอนประกันศูนย์เข้ามารับบริการพิเศษตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์บริการแคนนอน สำนักงานใหญ่ (อาคารสารทรสแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ) สิทธิประโยชน์สุดคุ้มค่า มีดังนี้

  • สิทธิพิเศษสำหรับการนำกล้องหรือเลนส์ในระยะประกันมาเข้ารับบริการ:
    -ฟรีค่าบริการตรวจเช็คและทำความสะอาดภายนอกแบบเอ็กซ์เพรส (มูลค่า 531 บาท)
    – ฟรีค่าบริการซ่อมด่วนแบบเอ็กซ์เพรส (มูลค่า 535 บาท)
  • สิทธิพิเศษสำหรับการนำกล้องหรือเลนส์นอกระยะประกันมาเข้ารับบริการ:
    – ฟรีค่าบริการซ่อมด่วนแบบเอ็กซ์เพรส (มูลค่า 535 บาท )

รายการตรวจเช็คและทำความสะอาด

  1. การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบอาการภายใน (error code) และค่าการเสื่อมสภาพต่างๆ
  2. นับจำนวนชัตเตอร์
  3. ระบบ Wi-Fi
  4. ช่องมองภาพ (View finder)
  5. ช่องแบตเตอรี่
  6. ชุดขั้วต่อแฟลช (Hot Shoe)
  7. จอแสดงผลภาพ LCD Monitor
  8. อัปเดตเฟิร์มแวร์
  9. Slot Card
  10. ระบบโฟกัส
  11. ยางและฝาครอบรอบตัว
  12. ระนาบเซนเซอร์รับภาพ
  13. ปุ่มกดต่างๆ
  14. Hot / Dead เซนเซอร์รับภาพ
  15. ระบบซูมเลนส์
  16. ระบบกันสั่น
  17. ระบบวัดแสง
  18. CMOS เซนเซอร์
  19. สภาพภายนอกเลนส์
  20. ความเร็วชัตเตอร์

สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับบริการ สามารถดูเงื่อนไขทั้งหมดในการรับบริการได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/48pXjPB  หรือโทรสอบถาม Canon Call Center โทร. 02- 344-9999 หรือที่ Line Official: @CanonThailand

*****************************************

เงื่อนไขการให้บริการ

  • โปรโมชันนี้สำหรับลูกค้าที่เข้ามารับบริการแบบเอ็กซ์เพรสที่ศูนย์บริการ สำนักงานใหญ่ อาคารสารทรสแควร์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ ชั้น 24 เท่านั้น
  • โปรโมชันนี้ใช้ได้เฉพาะลูกค้าที่ซื้อกล้อง, เลนส์ และอุปกรณ์เสริมแคนนอนประกันศูนย์เท่านั้น  
  • ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการแบบเอ็กซ์เพรสตามโปรโมชันนี้ได้ในวันทำการ จันทร์-ศุกร์ ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดราชการและวันหยุดตามประกาศของบริษัทฯ
  • ไม่จำกัดจำนวนสินค้าต่อลูกค้า 1 ราย สำหรับบริการแบบเอ็กซ์เพรส ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการให้บริการ และการจัดลำดับการให้บริการ (คิว) ตามที่บริษัทกำหนด ดังนี้
    – จำกัดสินค้าที่เข้ารับบริการแบบเอ็กซ์เพรสสูงสุด 2 รายการ / คิวเข้าใช้บริการ   ทั้งนี้แคนนอนกำหนดการให้บริการแบบเอ็กซ์เพรสสูงสุดวันละ 40 คิว โดยแบ่งตามช่วงเวลาให้บริการเป็นช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8:15 – 11:30 น จำนวน 20 คิว และช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 13:00 – 16:00 น จำนวน 20 คิว
    – ลูกค้าที่มีสินค้ามากกว่า 2 รายการ สามารถใช้ข้อเสนอนี้ได้ โดยสินค้ารายการที่ 3-4 จะต้องถูกปรับเป็นคิวใหม่ และเป็นลำดับถัดไปจากลูกค้าคิวสุดท้ายของรอบนั้นๆ
    – สินค้าที่เข้ารับบริการแบบเอ็กซ์เพรสในรอบเช้าจะได้รับสินค้าคืนช่วงบ่าย ส่วนสินค้าที่เข้ารับบริการแบบเอ็กซ์เพรสในรอบบ่ายจะได้รับสินค้าคืนในเช้าของวันถัดไป
  • โปรโมชันนี้ไม่สามารถใช้ได้กับบริการแบบเอ็กซ์เพรสที่ต้องรออะไหล่
  •  ลูกค้าต้องยืนยันการซ่อมทันทีหลังจากที่เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปแจ้งรายละเอียดการซ่อมแบบเอ็กซ์เพรส
  • การบริการแบบเอ็กซ์เพรส สำหรับสินค้าที่มีอะไหล่พร้อมซ่อม ลูกค้าจะได้รับสินค้าคืนภายใน 3 วัน โดยไม่ต้องชำระค่าบริการแบบเอ็กซ์เพรส (Express Service Charge) ยกเว้นกล้องที่เสียหายหนัก เช่น ตกหล่น ตกน้ำ และอาการเสียที่ต้องการใช้เวลาในการทดสอบ เป็นต้น
  • โปรโมชันนี้ ไม่นับรวมทำความสะอาดภายใน เช่น มีรา มีสนิม ด้านในอุปกรณ์ เป็นต้น
  • โปรโมชันนี้ ไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชันอื่นได้
  • บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ลูกค้ากรอกในแบบฟอร์ม เพียงเพื่อการแจ้งเตือน ตรวจสอบความถูกต้อง และการแสดงตัวตนเฉพาะสำหรับโปรโมชันนี้เท่านั้น โดยจะดูแลข้อมูลส่วนตัวเหล่านั้นตามกฎหมาย และนโยบายของบริษัทฯ ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของบริษัทฯ ได้ที่ https://th.canon/th/consumer/web/privacy
  • ในกรณีที่มีข้อพิพาทเกิดขึ้น การตัดสินใจของบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ถือเป็นที่สิ้นสุด
นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢- ดาราไต้หวัน - ดาราชายไต้หวัน - นักแสดงชายไต้หวัน - นักแสดงไต้หวัน - พระเอกไต้หวัน - นายแบบไต้หวัน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ร่วมงานแสดงเกาหลี-ญี่ปุ่น การันตีความฮอตทั่วเอเชีย!

Alternative Textaccount_circle
event
นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢- ดาราไต้หวัน - ดาราชายไต้หวัน - นักแสดงชายไต้หวัน - นักแสดงไต้หวัน - พระเอกไต้หวัน - นายแบบไต้หวัน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢- ดาราไต้หวัน - ดาราชายไต้หวัน - นักแสดงชายไต้หวัน - นักแสดงไต้หวัน - พระเอกไต้หวัน - นายแบบไต้หวัน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

ปังไม่ไหว! นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น เดินหน้าเฉิดฉายทั่วเอเชีย หลังร่วมงานแสดงทั้งในเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น พิสูจน์ความฮอตทั่วเอเชีย!

หากพูดถึงนักแสดงชายไต้หวันแห่งยุคนี้ที่มาแรงแบบไม่ได้หยุดอยู่แค่ในไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น แต่ยังไปไกลในหลายประเทศทั่วเอเชีย หนึ่งในนั้นจะขาดชื่อของสวี่กวงฮั่น (Xu Guanghan หรือ Greg Hsu) นายแบบ นักแสดง นักร้องไต้หวันวัย 32 ปี (เกิดเดือนต.ค. 1990) ไปไม่ได้ โดยสวี่กวงฮั่นเริ่มเข้าวงการบันเทิงไต้หวันตั้งแต่ปี 2013 จากการรับบทนำในซีรี่ย์ไต้หวัน Dive Into Love แต่อันที่จริงสวี่กวางฮั่นเริ่มมาเปรี้ยงปร้างเป็นพลุแตกจริงๆ ในช่วง 5-6 ปีให้หลังมานี้ โดยในปี 2016 สวี่กวางฮั่นได้แสดงในซีรี่ย์ไต้หวัน Miss Jiang, You Talked About Love it และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก Golden Bell Awards ครั้งที่ 52

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan  -  Greg Han  -許光漢

หลังจากนั้นสวี่กวงฮั่นก็มีซีรี่ย์ไต้หวันและหนังไต้หวันออกมากวาดความปังอีกเพียบ เช่น My Dear Boy (2017-2018), A Sun (2019), Nowhere Man (2019) ออริจินัลซีรี่ย์ไต้หวันเรื่องแรกของ NETFLIX ซึ่งนับเป็นซีรี่ย์ภาษาจีนกลางเรื่องแรกที่ร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ รายนี้ด้วย และผลงานชิ้นโบแดงของสวี่กวงฮั่นที่ต้องยกขึ้นหิ้งเลยคือ ซีรี่ย์ไต้หวันแนวโรแมนติก/ดราม่า Someday or One Day (2019-2020) ที่ขึ้นแท่นเป็นซีรี่ย์ไต้หวันที่มีคะแนนวิจารณ์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของปี 2020 และฮ็อตฮิตเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมทั้งในไต้หวันและจีน รวมไปถึงเกาหลีใต้ที่ทำให้สวี่กวงฮั่นมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ชาวเกาหลี จนได้จัดงานแฟนมีตติ้งของเขาในเกาหลีด้วย ยิ่งไปกว่านั้นซีรี่ย์ไต้หวันเรื่อง Someday or One Day ยังถูกนำไปรีเมคในเวอร์ชั่นของแดนกิมจิที่ใช้ชื่อเรื่องว่า A Time Called You เวลาเพรียกหาเธอ โดยมีอันฮโยซอบ (Ahn Hyo-Seop), จอนยอบิน (Jeon Yeo-Bin), คังฮุน (Kang Hoon) รับบทนำที่เพิ่งจะออนแอร์ไปเมื่อเดือนก.ย. 2023

 สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢

นอกจากจะได้จัดงานแฟนมีตติ้ง และร่วมงานประกาศรางวัลอื่นๆ รายการต่างๆ ในเกาหลีใต้แล้ว สวี่กวงฮั่นยังได้ร่วมแสดงในมินิซีรี่ย์เกาหลีแนวอาชญกรรมเรื่อง No Way Out (ชื่อเกาหลี 노 웨이 아웃) ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมในที่สาธารณะที่มีค่าหัวสูงถึง 2 พันล้านวอน! และเป้าหมายของการลอบสังหารครั้งนี้คือ อาชญากรสุดโฉดที่กำลังจะได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก!?! โดยในเรื่องนี้สวี่กวงฮั่นรับบทเป็นนักฆ่าลูกครึ่งเกาหลี-ไต้หวัน ร่วมงานกับนักแสดงเกาหลีตัวท็อป นำทีมโดยอีซอนกยุน (Lee Sun-kyun), ยูแจมยอง (Yoo Jae-myung), คิมมูยอล (Kim Mu-yeol) และอีกวางซู (Lee Kwang-soo) ซึ่งกำลังถ่ายทำกันอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในฝั่งแดนกิมจิเท่านั้น แต่ยังบุกไปต่อที่แดนปลาดิบอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสวี่กวงฮั่นได้ร่วมแสดงนำในหนังญี่ปุ่นเรื่อง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในฝั่งแดนกิมจิเท่านั้น แต่ยังบุกไปต่อที่แดนปลาดิบอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสวี่กวงฮั่นได้ร่วมแสดงนำในหนังญี่ปุ่นแนวโรแมนติกชวนซึ้งเรื่อง Seishun18x2 Kimi e to Tsuzuku Michi (ชื่อญี่ปุ่น 青春18×2 君へと続く道) ประกบคู่กับนักแสดงหญิงญี่ปุ่นวัยรุ่น คายะ คิโยฮาระ (Kiyohara Kaya) วัย 21 ปี จากเรื่อง Okaeri Mone (2021), Fight Song (2022) เป็นต้น จะเป็นอย่างไรไปติดตามตัวอย่างหนังได้ที่อินสตาแกรมทางการของหนังเรื่องนี้ seishun18x2 กันได้เลยจ้า วางแพลนว่าจะฉายเดือนพ.ค. 2024

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan  -  Greg Han  -許光漢- Seishun18x2 Kimi e to Tsuzuku Michi - 青春18×2 君へと続く道)
นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢- Seishun18x2 Kimi e to Tsuzuku Michi - 青春18×2 君へと続く道)

รูปจาก : 許光漢GregHan/seishun18x2

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

5 ซีรี่ย์จีนยังไม่ได้ออนแอร์ของหลิวอวี่หนิง ฉายแววปังทุกเรื่อง!

8 บทบาทอาชีพรับใช้ชาติของหวงจิ่งอวี๋ ทั้งจอเงินและจอแก้ว กี่เรื่องก็กวาดคำชมเรียบ!!

My Precious ซีรี่ย์จีนเรื่องที่ 2 ของหวงจื่อเทาในปี 2023!!

ตามเก็บซีรี่ย์จีน Gourmet in Tang Dynasty 2 ภาคของ 2 คู่พระ-นางชวนจิ้น!

The Heart ซีรี่ย์จีนแนวการแพทย์กับบทคุณหมอครั้งแรกของจ้าวโย่วถิง!

3 ซีรี่ย์จีนของจางหลิงเฮ่อในปี2023 มาครบทั้งบทพระเอกและบทสมทบ!

อีซูซุเปิดตัว ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ เหนือลิมิต…พิชิตโลก ตอกย้ำเจ้าตลาดรถปิกอัพเมืองไทย

account_circle
event

อีซูซุเจ้าตลาดรถปิกอัพเมืองไทย เปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก “NEW! ISUZU D-MAX” UNLOCK YOUR POTENTIAL ปลดล็อกนิยามใหม่แห่งปิกอัพ จัดเต็มทุกไลน์อัพ มาพร้อมดีไซน์ใหม่ สะกดทุกสายตา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมกระตุ้นตลาดรถยนต์ปลายปี ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ รวมทั้งผู้จำหน่ายอีซูซุ ลูกค้าพิเศษ “อีซูซุ ซูเปอร์แฟน” และสื่อมวลชนหลากหลายสาขาที่มาร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 1,000 คน ณ ICON HALL ชั้น 7 ศูนย์การค้า ICON SIAM

การเปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณจุติพงศ์ บุญสูง ประธานกรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด มร. ชินสุเกะ มินามิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท   อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) มร. ยูโซ โนะอุจิ รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท มิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) มร. ชิเงรุ วากะบายาชิ รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มยานยนต์และโมบิลิตี้ บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และ มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมเปิดตัว “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก “NEW! ISUZU D-MAX” UNLOCK YOUR POTENTIAL สุดอลังการ ด้วยเทคนิค 3D ครั้งแรกที่สมจริงและจัดเต็มทั้ง ภาพ แสง สี เสียง สุดล้ำ ให้ผู้ร่วมงานได้ปลดล็อกทุกความท้าทาย ตื่นเต้น เร้าใจ ทั้งงาน นับเป็นการตอกย้ำความเป็นรถปิกอัพอันดับ 1 ของเมืองไทย ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตและกิจกรรมที่หลากหลายของผู้ใช้รถยุคใหม่อย่างแท้จริง

ภายในงานเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจกับไลน์อัพรถปิกอัพรุ่นใหม่จัดเต็มถึง 11 คัน ของ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก “NEW! ISUZU D-MAX” UNLOCK YOUR POTENTIAL นำโดย “ใหม่! อีซูซุ วี-ครอส 4×4” ปลดล็อกทุกความท้าทายกับความแข็งแกร่ง ตอบโจทย์สายออฟโรด พร้อมลุยทุกกิจกรรม ต่อด้วย “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู” ตอบโจทย์ Urban Lifestyle วิถีชีวิตคนเมืองพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับ TOP CLASS และ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู” ปลดล็อกศักยภาพใหม่ ไปได้ไกลกว่า รวมถึงรุ่น “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บโฟร์” และ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ สเปซแค็บ” ตอบโจทย์สาย Outdoor Activity

มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “อีซูซุ มุ่งมั่นในการพัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ด้วย “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก ดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก มาพร้อมสีส้มใหม่ Namibu Orange Mica (ส้ม นามิบู ไมก้า) ด้านหน้าใหม่ตั้งแต่ฝากระโปรงจดกันชนหน้า พร้อมออกแบบ Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ ฝาท้ายและชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่ ภายในเพิ่มความโดดเด่นสุดพิเศษด้วย “Miura” Design (“มิอุระ” ดีไซน์) หรูหรามีมิติ เพิ่มการขับขี่ให้สนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift อีกทั้งยังมีหน้าจอ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบ Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID ใหม่ขนาด 7 นิ้ว แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน ยกระดับความสะดวกสบายให้กับ   ผู้ขับขี่ และยังมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทางด้วย ใหม่ล่าสุด! ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D Imaging Stereo Camera ที่กว้างขึ้นและแม่นยำขึ้น พร้อม ใหม่! ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (Rear Cross Traffic Brake) 

ด้วยราคาคุ้มค่าเงิน ตั้งแต่ 540,000 – 1,264,000 บาท รถรุ่นใหม่นี้นอกจากจะตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายทั้งส่วนตัวและเพื่อการพาณิชย์แล้ว แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันเหนือชั้นของรถอีซูซุ คือ ความแข็งแกร่งทนทาน ความเชื่อถือได้ อะไหล่หาง่าย และบำรุงรักษาได้ง่าย ซึ่งล้วนเป็นคุณลักษณะสำคัญที่ครองใจผู้ใช้รถชาวไทยได้เป็นเวลายาวนาน อีซูซุขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้รถอีซูซุเป็นอย่างดีเสมอมา และเรามั่นใจว่ารถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก จะสร้างความพอใจสูงสุดให้ผู้ใช้รถชาวไทยอย่างแน่นอน”

This image has an empty alt attribute; its file name is 1-%E0%B8%A1%E0%B8%A3.-%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4-%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B0-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97-%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%8C-%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94-900x600.jpg

พบกับ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก ได้ ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม เป็นต้นไป ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

ฮวังมินฮยอน โซโล่ มินิคอนเสิร์ต จัดโชว์พิเศษโต๊ะริม สุดจึ้ง

account_circle
event

ฮวังมินฮยอน โซโล่ มินิคอนเสิร์ต จัดโชว์พิเศษ โต๊ะริม สุดจึ้ง สะกดทุกหัวใจ ขอให้ฮวังโดอย่าป่วยเพื่อกลับมาเจอกันอีก

เล่นเอาใจละลายตกอยู่ในภวังค์กันเมื่อนักร้องหนุ่มผู้เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์แถมภาพลักษณ์สุดละมุน ฮวังมินฮยอน ร่ายมนต์สะกดหัวใจ ฮวังโด (Hwangdo : ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของ ฮวังมินฮยอน) จนแทบลืมหายใจกันตลอดงาน “2023 ฮวัง มินฮยอน โซโล่ มินิ-คอนเสิร์ต <อันเวล> อิน แบงคอก” (2023 HWANG MIN HYUN MINI CONCERT <UNVEIL> IN BANGKOK)  โดยผู้จัดใจดีทั้งสาม ได้แก่ บริษัท ดับบลิวพี 24 กรุ๊ป จำกัด (WP24 Group Co.,Ltd.), บริษัท อะชิ แอคทิเวชั่น และ บริษัท ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด (CHAN ACTIVATION CO., LTD.) และ บริษัท พีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) จำกัด (PCCW OTT THAILAND) หรือ Viu Thailand

เสียงกรี๊ดจากเหล่าฮวังโด จากทุกที่มารวมตัวกันแน่นขนัดอินดอร์ สเตเดียม หัวหมากดังสั่นหวั่นไหว ทันทีที่ VCR เปิดตัวฉายขึ้นบนเวที ก่อนที่เพลงไตเติ้ล Hidden Side จะนำพาทุกคนพบกับ ฮวังมินฮยอน ที่มาในชุดสุดเท่พร้อมทีมแดนเซอร์ ก่อนสาดคาริสม่าไม่ยั้งตั้งแต่เวทีแรก จากนั้นคุณเจมิกซ์ เจริญ แซ่จู พิธีกรก็ออกมากล่าวเปิดงาน “2023 ฮวัง มินฮยอน โซโล่ มินิ-คอนเสิร์ต <อันเวล> อิน แบงคอก” อย่างเป็นทางการ และปล่อยคิวให้ มินฮยอน โชว์พลังเสียงใส่เต็มทุกอารมณ์เข้าถึงทุกความรู้สึกในเพลง Honest ต่อเป็นเพลงที่สอง พอหลุดจากภวังค์มาได้เหล่า ฮวังโดก็โดน มินฮยอน มาบอกคำรักแสนหวานแบบใกล้ชิดติดข้างหูกับเพลง Earphone

 “สวัสดีครับ ผม ฮวังมินฮยอน ครับ คิดถึงมากๆ นะครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่มินิ-คอนเสิร์ต UNVEIL IN BANGKOK นะครับ” แล้วเข้าสู่ช่วงพูดคุยกัน งานนี้ล่ามคนเก่ง คุณยูคอนยอง รับหน้าที่คอยสื่อสารให้เช่นเคย คำถามแรกเกี่ยวกับเพลง Hidden Side ที่ดูไม่เหมือนเดิม ซึ่ง มินฮยอน อธิบายว่า “ผมเปิดตัวด้วยเพลง Hidden Side ในมินิอัลบั้มของผม และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นความแตกต่าง จึงมีการอาเร้นจ์ใหม่โดยใส่เครื่องสายลงไปครับ” และการได้มาโซโล่คอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ ก็ทำให้ มินฮยอน รู้สึกว่า “ไม่ได้มานานมาก นี่เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกหลังการเกิดขึ้นมาของ ฮวังโด ด้วย ตื่นเต้น ดีใจมากๆ ที่ได้มาพบกับทุกคนวันนี้ครับ” เห็น มินฮยอน ทำงานหนักขนาดนี้ จะเหนื่อยขนาดไหน เจ้าตัวบอกว่า “ตั้งใจถ่ายทำเรื่อง Lovely Liar คนไทยคงได้ดูกัน ซึ่งได้ถ่ายทำเสร็จไปแล้วช่วงกลางเดือนสิงหาคม และได้เริ่มถ่ายทำเรื่องใหม่แล้ว 

ถึงแม้จะยุ่งขนาดไหนก็ต้องหาเวลาเตรียมตัวเพื่อให้เหล่าฮวังโดได้มีความสุขกัน ได้เห็นฮวังโดมีความสุขแบบนี้ ผมก็มีความสุขเช่นเดียวกันครับ” แต่อยากรู้จังว่าที่มาของชื่อคอนเสิร์ตคืออะไร? มินฮยอน เผยว่า “<UNVEIL> คือการโชว์สิ่งใหม่ ผมได้เตรียมเวทีใหม่ๆ มาให้ทุกคนเพียบเลย หวังว่าจะสนุกไปด้วยกันนะครับ” ได้ข่าวว่ามาครั้งนี้ไม่ได้มามือเปล่า แต่ มินฮยอน เตรียมของขวัญมามอบให้กับทุกคนด้วย “ผมเตรียมของขวัญเป็นพัดเล็กๆ มาให้ทุกคนครับ ตัวผมเองเป็นคนขี้ร้อนก็เลยมีพัดติดตัวอยู่เสมอ กรุงเทพฯ เป็นเมืองร้อนด้วย เลยเตรียมพัดมาเพื่อฮวังโดจะได้คลายร้อน  แล้วก็อยากให้ถือพัดนี้บ่อยๆ นะครับ”

          เข้าสู่ช่วง TIMING GAME  ที่มินฮยอน สารภาพว่าเล่นเกมทีไรแพ้ทุกที ซึ่ง เกมนี้มีบททดสอบ 4 บท มาท้าทายความจำ ถ้ามินฮยอนทำได้ 3 บทขึ้นไป ถือว่าชนะ แต่ถ้าได้ไม่ถึง จะมีบทลงโทษสำหรับผู้แพ้ เกมที่จัดมาก็มีทั้งทายชื่อเพลง ร้องต่อเพลงที่เปิด แต่เกมที่ถูกใจกันมากก็เป็นเกมต่อบทละคร ผลผ่านบททดสอบแค่ 2 ใน 4 บท จึงถือว่าแพ้ แต่ ฮวังโด จะยอมให้ชนะ แต่พอรู้ว่าบทลงโทษเป็นอะไรน่าสนุกกว่า จึงปรับให้แพ้ แล้วเราก็ได้เห็น มินฮยอน ใส่ที่คาดผมสัตว์โลกน่ารัก แล้วเต้นตามเพลงซึ่งผลการโหวตที่คาดผมกระต่ายหูยาวชนะ มินฮยอน เลยต้องสวมพร้อมเต้นสุดคิ้วท์ในเพลง Betcha เรียกเสียงกรี๊ดได้ถล่มทลาย ก่อนโดนทำโทษเพิ่มด้วยที่คาดผมหูกระต่ายกับเพลง Super Shy ที่คนโดนลงโทษดูจะแฮปปี้เหมือนกัน

         

 มาถึงเวทีสุดเซอร์ไพร้ส์กับเพลงฮิตติดหูคนไทยอย่าง Melt (โต๊ะริม) ที่ มินฮยอน ตั้งใจฝึกซ้อมมากๆ จนร้องได้สำเนียงไทยชัดเว่อร์ เป็น โต๊ะริม เวอร์ชั่นคนเกาหลีคัฟเวอร์ที่เพราะเกินบรรยาย จากเพลงโต๊ะริม มินฮยอน ก็ชวนไปฟังเพลงรักสุดซึ้งอย่าง Tree ที่พาทุกคนเข้าสู่โลกของ ซอยุล ในเรื่อง Alchemy of Souls สลับจากการฟังเพลงมาชม VCR ที่ มินฮยอน ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งในอดีต ปัจจุบัน และสิ่งที่อยากทำในอนาคต รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อ ฮวังโด ทุกคน และแล้วหนุ่มหล่อละมุนก็ขอเผยความเซ็กซี่ที่ซ่อนอยู่ในตัวตนอีกด้านหนึ่งกับเพลงที่ทุกคนรอคอย Perfect Type  ซึ่งทั้งเสื้อผ้าหน้าผมและเพอร์ฟอร์มบนเวทีมีความเซ็กซี่ในทุกองศา สมกับเป็นเพลงที่บ่งบอกความเป็น ฮวังมินฮยอน ได้ดีที่สุด ก่อนต่อด้วยเพลง CUBE ที่เพิ่มดีกรีความเซ็กซี่ขึ้นอีกระดับ

           จากนั้นพักพูดคุยเรื่องการซ้อมร้องเพลงไทยและซีรีส์เรื่อง Lovely Liar ที่กำลังฉายอยู่ในเมืองไทย “ผมรู้สึกสำเนียงไทยยากอยู่ครับ แต่โชคดีตอนซ้อมมีผู้ช่ำชองภาษาไทยคอยซ้อมให้ บวกกับเป็นเพลงที่ติดหูมาก เลยสนุกมากๆ ครับ” ส่วนเรื่องซีรีส์ มินฮยอน สปอยล์ให้นิดหนึ่ง “ตอนที่ 11 จะเป็นการคลี่คลายปมของตัวละคร โดฮา อยากให้จับตาดูกันให้ดีนะครับ” ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่ มินฮยอน จะรับบทเป็นดีเจเสียงนุ่ม เข้าสู่ช่วง ‘Music Album’ ในคอนเซ็ปต์ให้คำปรึกษากับน้องนักเรียน ม.5 โดยปลอบใจด้วยการร้องเพลงเพราะๆ 4 เพลงรวดด้วยเสียงหวานๆของดีเจ เริ่มจาก Consolation เพลงที่คอยปลอบโยนหัวใจในช่วงวัยรุ่น ตามติดด้วยเพลง Beautiful เพลงประกอบซีรีส์ดังที่ฟังแล้วเคลิ้มกันทั้งอินดอร์ ตัวบ่งชี้ว่าวัยรุ่นคือช่วงเวลาที่สวยงามเพียงใด และเพลงโปรดของมินฮยอน อย่าง Twenty-five,Twenty-one ที่สะท้อนช่วงวัย 20 ต้นๆ ได้ดีและอยากร้องให้ ฮวังโด ฟังมากๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง Amusement Park ที่มินฮยอนชอบมากและดีใจที่ได้ร้องสดๆ ให้ ฮวังโด ฟัง

This image has an empty alt attribute; its file name is KR1_4735-400x600.jpg

         แล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายที่มินฮยอน มาในชุดสบายๆ ดูน่ารัก “ในที่สุดก็มาถึงช่วงนี้จนได้ นี่จะเป็นเพลงสุดท้ายเพื่อฮวังโด ผู้เป็นเหมือนจักรวาลของผมครับ” แล้วเพลง Universe ก็พาฮวังโดทุกคนเข้าสู่ห้วงจักรวาลของมินฮยอน สลับกลับมาชม ENDING VCR ที่เผยภาพบรรยากาศการทำงานหนักของ มินฮยอน ผู้ซึ่งมุ่งมั่นสร้างผลงานเพื่อตอบแทนทุกๆ ความรักที่ได้รับจากฮวังโด ก่อนที่ มินฮยอน จะมาในเพลง Crossword ที่แสนจะสดใส “Universe เป็นเพลงที่ผมชอบมาก ครั้งนี้ใส่ทำนองเปียโนเข้าไปด้วย เป็นยังไงบ้างครับ เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่ผมชอบมากๆ เลย และได้ใช้ช่วงเวลานี้กับฮวังโด หวังว่า ฮวังโด จะเก็บช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ไว้นะครับ” จากนั้น มินฮยอน ก็ขอถ่ายรูปร่วมกับ ฮวังโด เป็นที่ระลึก แต่โดนเซอร์ไพรส์ด้วยโปรเจ็คท์น่ารักๆ

ก่อนจะหันมาเจอแผ่นป้ายสโลแกนนับพันที่เขียนว่า “황도의 세상을 완벽하고 사랑만 가득하게 만들어줘서 고마워요” (ขอบคุณที่ทำให้โลกของฮวังโดสมบูรณ์แบบและเต็มไปด้วยความรัก) เจอแบบนี้เข้าไป มินฮยอน ถึงกับรู้สึกผิดที่มาเมืองไทยช้าไป “ขอบคุณที่มอบความรักความอบอุ่นให้ผมขนาดนี้นะครับ จะกลับไปทำงานให้หลากหลายจะได้กลับมาเจอฮวังโดอีกนะครับ อย่าเจ็บ อย่าป่วยกันนะครับ แล้วกลับมาเจอกันอีกในหน้าร้อนนะครับ” และแล้วเพลงสุดท้าย Smile ก็ดังขึ้น เพลงจังหวะสดใสน่ารักๆ ที่ถูกเลือกมาเป็นเพลงบอกลา แต่กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขของทุกคน “ไว้เจอกันอีกนะครับ รักนะครับ!” มินฮยอน กล่าวเป็นภาษาไทยพร้อมโบกมือลา ก่อนหน้าจอบนเวทีจะขึ้นตัวอักษรลายมือ ฮวังมินฮยอน ที่เขียนว่า “Love Hwangdo” เป็นการจากลาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม อิ่มเอมความสุขกันถ้วนหน้า

#황민현 #HWANGMINHYUN #UNVEIL_IN_BKK #PLEDISENTERTAINMENT #CHANACTIVATION #WP24Group #ACHIACTIVATION #THECONCERT

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

the other side โซโล่อัลบั้มแรก ที่บันทึกเรื่องราวและก้นบึ้งความรู้สึกตลอด 10 ปี ของมาร์ค ต้วน

ลาซาด้า

ลาซาด้า นำร่องกรีนโลจิสติกส์ฮับแห่งแรกในไทยเปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง

Alternative Textaccount_circle
event
ลาซาด้า
ลาซาด้า

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ นำร่องกรีนโลจิสติกส์ฮับแห่งแรกในไทยเปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง มุ่งใช้พลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง รามอินทรา นำร่องโลจิสติกส์ฮับที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งแรกในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ยั่งยืนและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคม โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับการดำเนินงานภายในศูนย์ฯ การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า ซึ่งทำให้การขนส่งกว่า 70% ของศูนย์ฯ เป็นการใช้พลังงานสะอาด และชุดยูนิฟอร์มสำหรับตัวแทนจัดส่งสินค้าที่ผลิตจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิล

ลาซาด้า

งานเปิดตัวศูนย์ฯ ได้จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีทีมผู้บริหารลาซาด้าร่วมงาน ได้แก่ เจมส์ มาร์แชนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า ประเทศไทย และณัฏฐพล เกรียงชัยเวทย์ รองประธานอาวุโสฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า ประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารจาก สวอพ แอนด์ โก (Swap & Go) พันธมิตรผู้ให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า นำโดยอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด

ศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้งของลาซาด้าครอบคลุมพื้นที่การจัดส่งสินค้าในบริเวณแขวงท่าแร้งและแขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน โดยการเปิดศูนย์ฯ แห่งนี้จะช่วยให้ลูกค้าของลาซาด้าได้รับสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ของลาซาด้าโดยรวม

ลาซาด้า

ศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง นับเป็นหนึ่งในโครงการด้านโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนของลาซาด้า กรุ๊ป สะท้อนแนวทางการดำเนินงานของบริษัทในการใช้อีคอมเมิร์ซเป็นพลังขับเคลื่อน เพื่อยกระดับชุมชน ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน และบริหารจัดการผลกระทบของธุรกิจที่มีต่อสิ่งแวดล้อม จากรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ประจำปี 2566 ลาซาด้าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) โดยรวมลงถึง 10% ในระดับภูมิภาค เมื่อเทียบกับกรอบเวลาการรายงานในปีงบประมาณ 2565

ทิกิสต์ อัสเซฟา

เบอร์ลินมาราธอนต้องจารึก! ทิกิสต์ อัสเซฟา สวม ADIZERO ADIOS PRO EVO 1

Alternative Textaccount_circle
event
ทิกิสต์ อัสเซฟา
ทิกิสต์ อัสเซฟา

เบอร์ลินมาราธอนต้องจารึก! ทิกิสต์ อัสเซฟา นักกีฬาอาดิดาสสร้างประวัติศาสตร์โลกบทใหม่ พร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้เมื่อสวม ADIZERO ADIOS PRO EVO 1

จากผลการแข่งขันเบอร์ลินมาราธอนวันก่อน ทำให้ ทิกิสต์ อัสเซฟา (Tigist Assefa) กลายเป็นนักวิ่งมาราธอนหญิงที่ดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา กับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ด้วยการบันทึกสถิติใหม่ของโลกที่เวลา 2:11:53 ชั่วโมง อีกทั้งเธอยังสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์พร้อมกับทำลายสถิติเดิมกว่า นาที กับ ADIZERO Adios Pro Evo 1 รองเท้าวิ่งทำความเร็วรุ่นล่าสุดจากอาดิดาส

สำหรับ ADIZERO Adios Pro Evo 1 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นในห้องปฏิบัติการเพื่อให้เกิดเป็นรองเท้าที่สามารถพลิกโฉมการกำหนดฟอร์มการวิ่ง (Running Economy) ซึ่งการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้ของทิกิสต์แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของนักกีฬาอาดิดาสเมื่อได้สวมรองเท้าที่เป็นตัวกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม โดยก่อนหน้านี้ ปาเรส เจปเชียร์เชียร์ (Pares Jepchirchir) ก็ได้คว้าชัยบนถนนนิวคาสเซิล พร้อมปฏิวัติการแข่งขันการวิ่งสายถนนกับผลงานอันแสนโดดเด่น ในการแข่งขันฮาล์ฟมาราธอนรายการใหญ่ที่สุดของโลก จนเกิดเป็นสองประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของรองเท้าวิ่งที่เบาที่สุดและเร็วที่สุดของอาดิดาส ซึ่งสถิติดังกล่าวจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะในการแข่งขันมาราธอนหลักของโลกรายการอื่นๆ ประจำฤดูกาลนี้รวมถึงนิวยอร์กมาราธอนที่กำลังจะมาถึง เหล่านักกีฬาของอาดิดาสก็จะสวมใส่สุดยอดรองเท้าวิ่งคู่นี้ลงสนามด้วยเช่นกัน

ทิกิสต์ อัสเซฟา

ทิกิสต์ อัสเซฟา ให้สัมภาษณ์ถึงการจารึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้ว่า “การแข่งขันเบอร์ลินมาราธอนมีความหมายกับฉันมาก และหลังจากที่ได้คว้าชัยชนะในปีที่แล้ว ฉันได้เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีเพื่อการแข่งขันในวันนี้ โดยฉันได้ฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเพื่อให้ฉันวิ่งได้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ซึ่งฉันต้องขอขอบคุณทุกแรงเชียร์จากมวลชนตลอดเส้นทางการแข่งขัน รวมถึงพันธมิตรคนสำคัญอย่างอาดิดาสที่ได้มอบ ADIZERO Adios Pro Evo 1 รองเท้าแข่งขันที่เบาที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มพลังให้ฉันในทุกย่างก้าวและทำให้ฉันสามารถบันทึกสถิติโลกครั้งใหม่ได้สำเร็จ มันเป็นความสุขที่เปี่ยมล้นจริงๆ”

อัลแบร์โต อุนชินี มังกาเนลลี (Alberto Uncini Manganeli) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่ง และการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือด้านกีฬา (Running & Credibility Sports) ของอาดิดาส กล่าวว่า “พวกเราขอแสดงความยินดีกับทิกิสต์กับความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้ การได้เห็นเธอทำลายสถิติโลกด้วยรองเท้า ADIZERO Adios Pro Evo 1 ทำให้เราตื่นเต้นจนเกินบรรยายเลยทีเดียว โดยพวกเราชาวอาดิดาสเกิดมาพร้อมกับความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะเป็นผู้ชนะ และรองเท้าคู่นี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามอันไม่มีที่สิ้นสุดของเราในการรังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้กับนักกีฬา เพื่อผลักดันขอบเขตของความเป็นไปได้ในการช่วยให้เหล่านักกีฬาวิ่งได้เร็วกว่าที่เคยวิ่งมา และการที่ทิกิสต์ยืนอยู่บนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวันนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงผลลัพธ์ของความทุ่มเท ความเชื่อมั่น และความเพียรพยายามเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี”

นอกจากการที่ทิกิสต์สามารถป้องกันแชมป์เบอร์ลินมาราธอนได้สำเร็จ เธอยังได้แสดงให้เห็นว่าเธอคือนักวิ่งมาราธอนหญิงที่ดีที่สุดในโลกตัวจริง ด้วยการเอาชนะการแข่งขันรายการนี้สองครั้งติดต่อกัน โดยปีก่อนเธอทำเวลาอยู่ที่ 2:15:37 ชั่วโมง และถูกบันทึกว่าเป็นนักวิ่งมาราธอนหญิงที่วิ่งเร็วอันดับสามของโลก แต่สำหรับในปีนี้เธอได้ทำลายสถิติโลกและบันทึกเวลาใหม่ของเธอได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วยเวลาที่เร็วกว่าเดิมถึง 2 นาที 11 วินาที

ทิกิสต์ อัสเซฟา

นอกจากนี้ ชีลา ชิปคิรุย (Sheila Chepkirui) ยังได้ขึ้นโพเดียมด้วยรองเท้า ADIZERO Adios Pro Evo 1 ด้วยเช่นกัน กับการจบอันดับที่สองด้วยเวลา 2:17:49 ชั่วโมง ซึ่งเธอเคยคว้าชัยในการแข่งขันเบอร์ลินฮาล์ฟมาราธอนเมื่อปีที่แล้วด้วยเวลา 65:02 นาที

ติดตามข่าวสารรองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO ได้ที่ช่องทาง

  • อินสตาแกรม @adidasthailand 
  • เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/adidasTH 
  • แฮชแท็ก #ADIZERO #adidasThailand และ @adidasrunning
ฟูจิฟิล์ม

ฟูจิฟิล์ม เดินหน้าแคมเปญยุติวัณโรคด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ล้ำสมัย

Alternative Textaccount_circle
event
ฟูจิฟิล์ม
ฟูจิฟิล์ม

ฟูจิฟิล์ม เดินหน้าแคมเปญยุติวัณโรคด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ล้ำสมัยตอกย้ำปณิธานในการสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นให้แก่คนทั่วโลก

กลุ่มบริษัทฟูจิฟิล์มเดินหน้าจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วโลกเพื่อเร่งยุติการแพร่ระบาดของวัณโรคด้วยการมุ่งเน้นโครงการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ ล่าสุดบริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้าน One Stop, Total Healthcare Solution เปิดตัววิดีโอ “Efforts to End Tuberculosis” สะท้อนให้เห็นถึงพยายามของฟูจิฟิล์มในการร่วมมือกับประเทศทั่วโลกเพื่อยุติวัณโรค แม้แต่ในประเทศไทย ฟูจิฟิล์มก็ได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญของการยุติวัณโรคเช่นกัน ซึ่งวิดีโอดังกล่าวนับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรที่ไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง

ภายใต้พันธกิจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้สังคมผ่านการร่วมแก้ไขความท้าทายด้านสุขภาพทั่วโลก ฟูจิฟิล์ม ตระหนักถึงความเร่งด่วนในการยุติการแพร่ระบาดของวัณโรค ภัยร้ายที่กระทบประชากรกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ทั้งยังเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนจำนวนมหาศาลตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ฟูจิฟิล์มจึงเดินหน้าใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสุขภาพมาต่อยอดเพื่อร่วมเป็นกลไกในการต่อสู้กับโรคร้ายดังกล่าว

วัณโรค เป็นภัยสุขภาพร้ายแรง โดยเป็นหนึ่งในสามโรคติดต่อที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก ทุก ๆ ปี มีผู้ป่วยวัณโรคมากกว่า 10 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 1.5 ล้านคน จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าทุก ๆ วัน จะมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคเกือบ 4,400 ราย และติดเชื้อกว่า 30,000 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับโรคที่สามารถป้องกันและรักษาได้ ทั้งนี้ เกือบ 90% ของผู้ป่วยวัณโรคอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาและราวครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อในพื้นที่เหล่านี้ ไม่สามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองและการรักษาอย่างเหมาะสม

ฟูจิฟิล์ม

ด้วยเหตุนี้ ฟูจิฟิล์ม จึงมุ่งมั่นยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติในการยุติวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2030 ด้วยการนำเสนออุปกรณ์เอกซเรย์แบบพกพาขนาดกะทัดรัดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองวัณโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและเข้าถึงยากมร.โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า “ฟูจิฟิล์ม ก้าวสู่ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟิล์มเอกซเรย์ที่เป็นที่ยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลก เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสุขภาวะที่ดีแก่คนทั่วโลก และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพให้ครอบคลุมอย่างระบบจัดเก็บภาพและข้อมูลทางการแพทย์ PACS (Picture Archiving Communication System) รวมถึงเทคโนโลยี MRI และ CT Scan มาเสริมทัพให้โซลูชันการวินิจฉัยทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มครบวงจรมากยิ่งขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเครื่องมือเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ขั้นสูง ก็ยิ่งยกระดับการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ฟูจิฟิล์มก้าวเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพในฐานะผู้ให้บริการ Total Healthcare Solution ชั้นนำอย่างแท้จริง เป้าหมายหลักของเราคือการยกระดับด้านการแพทย์และสุขภาพให้สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในการยุติวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2030 เราจึงเร่งเดินหน้าต่อสู้กับวัณโรค โดยมุ่งเน้นที่การตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ ผ่านนวัตกรรมอันล้ำสมัยของเรา”
การตรวจพบการติดเชื้อตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นหัวใจสำคัญของการยุติการแพร่ระบาดของวัณโรคตามแผน SDGs ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยเครื่องเอกซเรย์ FDR Xair ของฟูจิฟิล์ม ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยบรรลุเป้าหมายนี้ ด้วยขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา และทำงานได้ด้วยแบตเตอรี่ในตัว ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถทำการตรวจคัดกรองวัณโรคในพื้นที่ห่างไกลได้ ฟูจิฟิล์ม ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อดำเนินโครงการตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHOในการใช้ระบบเอกซเรย์เพื่อตรวจคัดกรองวัณโรคและขยายการคัดกรองวัณโรคในภูมิภาคที่มีความเสี่ยงให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

มร.โซ มารูโอะ กล่าวเสริมว่า “ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ ฟูจิฟิล์มจะยังเดินหน้ารับมือกับความท้าทายเพื่อยกระดับบริการสาธารณสุขที่ทั่วถึงและมีคุณภาพ ผ่านการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในขับเคลื่อนการตรวจวินิจฉัยและคัดกรองวัณโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับองค์กรไม่แสวงหากำไร “STOP TB Partnership ที่จัดตั้งขึ้นโดยสำนักงานบริการโครงการแห่งสหประชาชาติ (UNOPS) เพื่อสนับสนุนการคัดกรองวัณโรคในกลุ่มประชากรในถิ่นทุรกันดาร การดำเนินงานทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพของฟูจิฟิล์ม เราพร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย เวียดนาม และประเทศไทย และอีกหลากหลายประเทศทั่วโลก โครงการคัดกรองวัณโรคในอินเดียและอีกหลากหลายโครงการเพื่อสังคมในไทยนับเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของเรา”

ในอินเดีย โครงการตรวจคัดกรองวัณโรคซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่สองในอินเดียของฟูจิฟิล์ม อินเดีย ตั้งเป้าคัดกรองประชากรมากกว่า 5 ล้านคน ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของรัฐบาลอินเดียในการทำให้ประเทศปลอดวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2025 โดยฟูจิฟิล์ม อินเดีย ลงพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของวัณโรค พร้อมให้บริการตรวจคัดกรองวัณโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์แบบพกพาที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้ได้ผลการวินิจฉัยที่รวดเร็ว

สำหรับในประเทศไทย ฟูจิฟิล์มมีแผนเชิงคุณค่าแห่งความยั่งยืน 2030 (SVP2030) และหนึ่งในเป้าหมายหลักคือการยกระดับมาตรฐานทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสุขภาวะที่ดีขึ้นของคนไทยทั่วประเทศ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ร่วมมือกับพันธมิตร มูลนิธิ และสถานพยาบาลเพื่อเสริมแกร่งบริการสาธารณสุข โดยใช้โซลูชันทางการแพทย์ขั้นสูงที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ตั้งแต่โรงพยาบาลในเมืองไปจนถึงสถานพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล “นับตั้งแต่ที่บริษัทก่อตั้งขึ้นที่ประเทศไทยในปี ค.ศ. 1989 ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจในวงการแพทย์ ในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ฟูจิฟิล์มมุ่งมั่นอย่างจริงจังที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคมของประเทศไทย โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ ที่ไม่ใช่แค่สร้างผลกระทบต่อตัวบุคคล แต่ยังสร้างผลเสียต่อสังคมในวงกว้าง เพื่อช่วยให้คนใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองวัณโรค เพื่อให้สอดคล้องกับแผน SVP2030 ของเรา โดยเรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ คืนกลับสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับสุขภาวะของคนไทยให้ดีขึ้นเทียบเท่าระดับสากล” มร.มารูโอะ กล่าว

โซลูชันด้านการแพทย์และสุขภาพแบบครบวงจรของฟูจิฟิล์ม ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างสุขภาวะที่ดีแก่สังคมด้วยนวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพล้ำสมัย นอกจากแคมเปญในการยุติวัณโรคแล้ว วิสัยทัศน์ของฟูจิฟิล์มยังครอบคลุมอีก 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาทางสังคมและความยั่งยืน ฟูจิฟิล์มยังคงแน่วแน่ในการสร้างสุขภาวะที่ดีสำหรับทุกคนอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน ไม่ว่าจะที่อินเดียหรือประเทศไทย ฟูจิฟิล์มจะไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมที่ล้ำสมัยเพื่อช่วยเหลือสังคมและสร้างโลกที่น่าอยู่ให้แก่ทุกคน

HONOR

เปิดตัวแล้ววันนี้ HONOR X6a และ HONOR X5 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น

Alternative Textaccount_circle
event
HONOR
HONOR

เปิดตัวแล้ววันนี้ HONOR X6a และ HONOR X5 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น จัดเต็มความคุ้มค่า ด้วยแบตใหญ่กว่าไหลลื่นได้ทั้งวัน เริ่มต้น 3,499 บาท

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลกเปิดตัว HONOR X6a และ HONOR X5 Plus ในตระกูล X Series ทลายขีดจำกัดของสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กด้วยนวัตกรรมเหนือระดับด้วยขุมพลังแบตใหญ่กว่าไหลลื่นได้ทั้งวัน พร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ตอกย้ำการส่งมอบความคุ้มค่าและมาตรฐานนวัตกรรมที่เหนือระดับแก่ผู้บริโภค ด้วยราคาเปิดตัวเพียง 3,999 บาท สำหรับ HONOR X6a และ 3,499 บาท สำหรับ HONOR X5 Plus ลุยเจาะตลาดผู้ใช้งานทั่วไปด้วยฟีเจอร์ที่      ครบครันในราคาที่เอื้อมถึงได้ ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้งาน โดยเปิดวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศไทยให้แฟนๆ HONOR ได้สัมผัสประสบการณ์ไหลลื่นไม่มีสะดุดตั้งแต่วันพุธที่ 27 กันยายน นี้

HONOR

แบตใหญ่กว่าไหลลื่นได้ทั้งวัน ไม่สะดุดทุกการใช้งาน 

สมาร์ทโฟนราคาประหยัด HONOR X6a โดดเด่นด้วยขุมพลังแบตเตอรี่ขนาด 5,200 mAh สะท้อนคอนเซปท์ “แบตใหญ่กว่าไหลลื่นได้ทั้งวัน” โดยสำหรับการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง สามารถเล่นวิดีโอติดต่อกันได้ยาวนานถึง 17 ชั่วโมง หรือเล่นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง TikTok ได้เต็มอิ่มตลอด 13 ชั่วโมงไม่มีสะดุด หรือหากจำเป็นต้องเดินทางไกลเป็นระยะเวลานาน ยังสามารถฟังเพลงได้ติดต่อกันถึง 15 ชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลว่า       แบตจะหมดก่อนถึงที่หมาย นอกจากนี้ หากลืมชาร์จแบตเตอรี่ก่อนออกจากบ้าน ทาง HONOR ยังคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้งานและตอบรับวิถีชีวิตที่เร่งด่วนในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี HONOR SuperCharge 22.5W ที่สามารถชาร์จได้รวดเร็วถึง 31% ภายในเวลาเพียง 20 นาที เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานได้อย่างไร้กังวลตลอดวัน

HONOR

จัดเต็มทุกฟีเจอร์ความบันเทิง สนุกกับทุกไลฟ์สไตล์ได้ด้วยราคาสุดคุ้มค่า 

HONOR X6a จัดเต็มหน้าจอแสดงผลขนาด 6.56 นิ้ว โค้งมนสี่ด้าน อีกทั้งยังผสานหน้าจอไหนลื่นด้วยอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 90 Hz พกพาสะดวกด้วยขนาดบางเฉียบเพียง 8.35 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนักเบาเพียง 188 กรัม นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวยังผสานเทคโนโลยีถนอมสายตา Dynamic Dimming ที่ช่วยปรับแสงหน้าจอให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ทำให้สายตาไม่เมื่อยล้าจากการใช้งานต่อเนื่อง ตอกย้ำจุดแข็งของ HONOR ที่ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและฟีเจอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อสอดรับพฤติกรรมของผู้ใช้งานยุคปัจจุบัน ทำงานด้วยซอฟต์แวร์ MagicOS 7.1 รันบน Android 13 เติมเต็มทุกอรรถรสความบันเทิงได้อย่างไม่มีสะดุด

นอกจากนี้ HONOR X6a ยังผสานฟีเจอร์กล้องระดับท็อปให้สร้างสรรค์ภาพถ่ายราวกับสมาร์ทโฟนราคาหลักหมื่น โดยกล้องหลักจัดเต็มด้วยความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4 และ เลนส์ Depth  2 ล้านพิกเซล f/2.4 ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นในสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กในราคาไม่ถึง 4,000 บาท รวมถึงสเปคกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยสำคัญให้เก็บภาพทุกโมเมนต์ พร้อมสร้างคอนเทนต์ที่น่าจดจำเพื่อแชร์เพื่อนฝูง ครอบครัว หรือคนรัก ด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว

HONOR

เขย่าวงการสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 3,499 บาท พร้อมให้สัมผัสแล้ววันนี้! 

HONOR X6a เซอร์ไพรส์วงการสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดราคาอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึงที่ 3,999 บาท ด้วยความจุมากถึง 128GB+4GB ซึ่งมาพร้อมสเปคที่อัดแน่น โดยจะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 27 กันยายน ซึ่งมีสีให้เลือกได้แก่ Midnight Black และ Sky Silver ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย HONOR ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม พร้อมกันนี้ นอกจาก HONOR X6a แล้ว ทางแบรนด์ยังเปิดตัวน้องเล็กอย่าง HONOR X5 Plus ซึ่งจัดเต็มสเปคที่อัดแน่นไม่แพ้กัน ด้วยแบตเตอรี่ใหญ่จุใจขนาด 5,200 mAh และ       รีเฟรชเรท 90Hz อีกทั้งยังเสริมด้วยกล้องหลักสูงถึง 50 ล้านพิกเซล เท่ากับรุ่น HONOR X6a พร้อมความจุขนาด 64GB+4GB โดยสำหรับรุ่น HONOR X5 Plus นี้ มี 2 สีให้เลือกสรรได้แก่ Midnight Black และ Cyan Lake ซึ่งแฟนๆ HONOR สามารถสัมผัสความคุ้มค่าได้แล้ววันนี้ในราคา 3,499 บาท เท่านั้น! สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook HONOR Thailand

keyboard_arrow_up