สหฟาร์ม เปิดบ้านต้อนรับ คณบดีและทีมอาจารย์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เข้าศึกษาต้นแบบความสำเร็จธุรกิจแปรรูปไก่สด ไก่แช่แข็งส่งออก เข้าศึกษาดูงาน

บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกไก่สด ไก่แช่แข็งรายใหญ่อันดับหนึ่งประเทศไทย โดยดร.ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัทในเครือ ให้การต้อนรับ คณบดี และทีมคณาจารย์ บุคลากร จากคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำโดย ผศ.ดร.ประภากร ธาราฉาย คณบดีคณะสัตวศาสตร์ฯ พร้อมด้วยบุคลากร ได้เข้าศึกษาดูงาน โมเดลธุรกิจส่งออกที่ประสบความสำเร็จของอาณาจักรสหฟาร์ม ในระหว่างวันที่ 19 และ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า ธุรกิจสหฟาร์ม ได้ดำเนินงานมาอย่างยาวนานบนความแข็งแกร่ง ทำให้เติบโตและมีชื่อเสียงด้านการส่งออกไก่สด ไก่แช่แข็งระดับโลก ล่าสุด ได้มีบุคลากรสำคัญจากทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ขอเข้ามาศึกษาโมเดลธุรกิจ และเยี่ยมชมกระบวนการผลิตและการแปรรูปไก่สด ไก่สดแช่แข็งและไก่ปรุงสุกแช่แข็งเพื่อการส่งออก ณ บริษัท โกลเด้นไลน์บิสซิเนส จำกัด อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมกันนี้ยังเป็นโอกาสดีที่ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางด้านการผลิตและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ระหว่างบุคลากรของคณะฯ และทีมผู้บริหารของบริษัทสหฟาร์ม

นอกจากนี้สหฟาร์มยังได้เปิดบ้านสุขาวดีให้กับ คณบดี และทีมคณาจารย์ บุคลากร จากคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เข้าเยี่ยมชม ซึ่งมีผู้บริหารสหฟาร์ม นางสาวจารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายบัญชี การเงิน การตลาดต่างประเทศ และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมสถานที่ พร้อมนำร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์ การร่วมรับฟังประวัติความเป็นมาของบ้านสุขาวดี โดย ดร.ปัญญา เป็นประธานให้ข้อมูล และยังได้กล่าวบรรยายพิเศษเรื่อง “การบริหารจัดการองค์กร”ซึ่งเป็นแนวทาง ปรัชญาการใช้ชีวิต ข้อคิดในการบริหารงาน เงิน คน รวมทั้งยังได้ร่วมหารือร่วมกันด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการพัฒนาบุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงาน

ด้าน ผศ.ดร.ประภากร ธาราฉาย คณบดีคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะตัวแทนคณาจารย์และบุคลากรที่ร่วมศึกษาดูงานครั้งนี้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ทางดร.ปัญญา และผู้บริหารระดับสูงของสหฟาร์มให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และยินยอมเปิดให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยได้เข้ามาศึกษาดูงานกระบวนการผลิตอย่างใกล้ชิด ซึ่งถือเป็นโอกาสที่พิเศษมาก และไม่สามารถหาประสบการณ์ที่ดีแบบนี้ได้อีก

“การเข้าเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปไก่สด ไก่แช่แข็งของสหฟาร์มในครั้งนี้ ทีมคณาจารย์และบุคลากรรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับพื้นที่โรงงานและฟาร์มขนาดใหญ่จำนวน 6,000 ไร่ ของสหฟาร์ม ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งถือเป็นโรงงานที่มีพื้นใหญ่ที่สุดระดับโลก และมีระบบการจัดการที่เป็นระเบียบ กระบวนการผลิต และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งได้เห็นศักยภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดและทุกขั้นตอนการผลิตก่อนจะได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป ไก่แช่แข็ง สำหรับการส่งออกอันเป็นมาตรฐานสากลโลก โดยสินค้าของสหฟาร์มถือเป็น Handcrafted มีความประณีตมาก จึงไม่แปลกใจที่สินค้าสหฟาร์มเป็นที่นิยมในลูกค้าต่างชาติ และสมกับเป็นแบรนด์ผู้ส่งออกไก่แปรรูป ไก่แช่แข็ง รายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลกที่อยู่มาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ทีมคณาจารย์รู้สึกประทับที่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมบ้านสุขาวดี จังหวัดชลบุรีสถานที่อันทรงคุณค่า มีทั้งความทรงจำ ความวิจิตรสวยงามตระการตา สะท้อนเอกลักษณ์และโดดเด่นเป็นอย่างมาก ซึ่งบ้านสุขาวดี ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 80 ไร่ โดยมีอาคารต่างๆ มากมายที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชม ได้แก่ อาคารพระแม่กวนอิม ที่จะมีเจ้าเเม่กวนอิมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งมีความงดงามอย่างมาก อาคารโดมพระ เป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปที่อยู่สูงที่สุดของบ้านหลังนี้ และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามของชายทะเล นอกจากนี้ยังมีอาคารความลับสวรรคต, อาคารพุทธบารมี, อาคารไอริสโซเฟีย, อาคารสัจธรรม รวมทั้งมีอาคารสโมสรสำหรับงานจัดงาน เป็นนับภาพความทรงจำสุดประทับใจคณาจารย์และบุคลากร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่ได้มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมชม สัมผัสประสบการณ์อันสุดพิเศษนี้” ผศ.ดร.ประภากร กล่าว

ผศ.ดร.ประภากร กล่าวทิ้งท้ายว่า ในการลงพื้นที่ดูงาน ทำให้เห็นว่าสหฟาร์ม นอกจากจะเป็นธุรกิจส่งออกขนาดใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคทั่วโลกในทุกมิติแล้ว ยังให้ความสำคัญและให้โอกาสในด้านการศึกษาของเยาวชนคนรุ่นใหม่ รวมทั้งครอบครัวเจ้าหน้าที่ของสหฟาร์มและชุมชนบริเวณรอบโรงงานด้วย อย่างไรก็ตามทางคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ยึดแนวคิดการพัฒนารูปแบบการสอนที่ต้องมาจากประสบการณ์ของจริงจากบุคลากร เพื่อถ่ายทอดความรู้ได้ทุกองค์ประกอบ ในการนี้จึงพร้อมจะนำประสบการณ์ และความรู้ที่ได้จากสหฟาร์มไปต่อยอดในการเรียนการสอนให้แก่นักศึกษา พร้อมพัฒนาบุคลากรรวมทั้งองค์กร เพื่อความสำเร็จและแข็งแกร่งเช่นเดียวกับสหฟาร์มต่อไป

ธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ที่ริเริ่มอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เพราะสิ่งนี้คือปัจจัย 4 ที่ทุกคนไม่ว่าจะเพศไหนก็ต้องสวมใส่ แต่ใช่ว่าทุกคนที่ทำจะประสบความสำเร็จในเร็ววัน จะต้องใช้ความอดทน ทำด้วยใจรัก รู้เทคนิคการทำแบรนด์เสื้อผ้าให้มีคนใส่และติดตาม หนึ่งในแบรนด์เสื้อผ้าของคนไทยที่ประสบความสำเร็จคือ Capheny (คาเพนี่) เสื้อผ้าสไตล์ Ready-to-wear ที่กำลังมาแรงในแวดวงดาราและเซเลบริตี้ ผลงานออกแบบของดีไซน์เนอร์สาวที่ผันตัวจากมนุษย์เงินเดือน สู่การสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง ด้วยใจรักในการออกแบบและหาความรู้เพิ่มเติม จึงตัดสินใจเข้าเรียนที่สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ (CIDI Chanapatana) เพื่อเรียนรู้การออกแบบที่มีแบบแผน ขั้นตอน นำพาธุรกิจก้าวไปสู่ความสำเร็จ สินค้าติดตลาดออนไลน์ ยอดสั่งซื้อต่อเดือนแตะหลักล้านบาท

จิราทิพย์ สูรย์ส่องธานี ศิษย์เก่าสาขาออกแบบแฟชั่น รุ่นที่ 19 สถาบันออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า Capheny เล่าว่า “ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางสายแฟชั่น เดิมทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เรียนจบมา ตอนนั้นรู้สึกสนุกในการทำงาน ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และได้ความรู้ แต่พอเข้าช่วงวัย 30 เกิดคำถามกับตัวเองว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบนี้ต่อไป หรือออกมาทำธุรกิจส่วนตัว สุดท้ายก็ตัดสินใจออกมาเปิดแบรนด์เสื้อผ้า Capheny คอลเลคชั่นแรกทำเสื้อผ้าออกมาเพียงไม่กี่ตัว นำไปถ่ายรูปและลองลงขาย ได้ผลตอบรับดีมาก ผลิตมาเท่าไรก็ขายหมด เลยคิดว่าธุรกิจเสื้อผ้าน่าจะไปต่อได้

ในการทำแบรนด์ช่วง 1 ปีแรก การออกแบบมาจากการมโนขึ้นมาเองทั้งหมด จึงอยากลองเรียนอะไรที่สามารถพัฒนาดีไซน์ของตนเองไปได้อีกขั้น จนได้เจอกับซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ ซึ่งตอนนั้นทางสถาบันฯ ได้จัดงาน Open House ก็เลยเข้าไปฟังและสมัครเรียนทันที การเรียนการสอนเหมือนกับเรียนมหาวิทยาลัย ใช้ระยะเวลาเรียน 2 ปี มีหลากหลายวิชา ครอบคลุมสำหรับการเรียนแฟชั่นเพื่อที่คนทำแบรนด์จำเป็นต้องรู้ ซึ่งพอได้เรียนแล้วรู้สึกว่าที่นี่ตอบโจทย์กับสิ่งที่มองหาตั้งแต่แรก คือเรื่องการออกแบบดีไซน์ คิดค้นและสร้างสรรค์งาน อาจารย์สอนดีไซน์ตั้งแต่การร่างแบบ (Figure Drawing) เราทำเสื้อผ้าแบบไหน ก็ต้องสามารถวาดออกมา เพื่อถ่ายทอดให้ช่าง Pattern รับไปทำต่อได้

เมื่อก่อนเป็นคนที่วาดอะไรไม่ค่อยเป็น พอได้เรียน จึงรู้ว่าการวาดก็เป็นการถ่ายทอดอย่างหนึ่ง ต่อมาได้เรียนเกี่ยวกับการออกแบบชุด การทำ คอลเลคชั่น การหาแรงบันดาลใจในการออกแบบชุดคืออะไร มาจากใคร เก็บโมเมนต์ของชีวิตมาออกแบบ แล้วก็ถ่ายทอดออกมาเป็น Mood Board แล้วถึงออกมาเป็นชุด สำหรับอาจารย์ผู้สอนเป็นชาวต่างชาติ ทำให้การเรียนการสอนมีมุมมองที่กว้างมากขึ้น อาจารย์มีประสบการณ์จากทำงานกับแบรนด์ดังๆ มาแล้ว เช่น Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง), Balenciaga (บาเลนเซียกา) อาจารย์มักเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ่ายทอดเป็นวิชาความรู้ จึงได้นำสิ่งที่เรียนจากซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ มาประยุกต์ใช้กับการทำแบรนด์ Capheny

สำหรับที่มาของแบรนด์ “Capheny มาจากตัวละครในเกมที่ชอบ ซึ่งตัวในเกมนี้จะมีความน่ารัก ชอบการแต่งตัว และมีสไตล์การแต่งตัวตรงกัน ดังนั้นสไตล์การออกแบบของแบรนด์นี้จะไม่ตามเทรนด์มาก แต่สามารถใส่ได้เรื่อยๆ ลักษณะของเสื้อผ้าจะมีความเป็นผู้หญิง ที่ตกแต่งไปด้วยระบาย มีจีบ และลูกไม้ เป็นสไตล์ที่ตนเองชื่นชอบ เหมาะกับสาวหวานซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก นอกจากนี้ชุดที่ออกแบบจะมีความ Classic Feminine และสง่างามรวมไปด้วย เลือกใส่ได้ในหลายโอกาส ตรงใจสาวๆ ในทุกวัย

ในช่วงแรกที่เปิดแบรนด์ได้ติดต่อกับสไตล์ลิสต์ที่รู้จักพิธีกร ดารา เล่าให้เขาฟังว่าตอนนี้กำลังทำแบรนด์เสื้อผ้า ถ้ามีงานหรือต้องการที่จะหาชุดสามารถติดต่อมาได้ ต่อมาเริ่มทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้คนเริ่มเห็น และรู้จักแบรนด์มากขึ้น จึงทำให้สไตล์ลิสต์ติดต่อเข้ามาเยอะขึ้นจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งดาราที่มารีวิวและยืมชุด ก็ชื่นชอบสินค้าของแบรนด์ จึงนำไปสู่ยอดขายหลักล้านทุกเดือน จุดแข็งที่ทำให้แบรนด์เสื้อผ้าของเราเป็นที่รู้จักได้ในวงกว้าง เพราะว่าการออกแบบจะแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยสไตล์ของชุดมีความเรียบแต่แอบหวาน อีกทั้งนำเข้าผ้าจากต่างประเทศ อาทิ เกาหลี จีน และเวียดนาม หลังจากแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จัก จึงศึกษาการทำธุรกิจทั้งออนไลน์ และออฟไลน์มากขึ้น ตอนนี้นอกจากจะมีช่องทางออนไลน์ ก็จะมีฝากขายที่ร้าน SOS เพราะเกิดจากที่ลูกค้าต้องการที่จะลองเสื้อผ้า จึงมีหน้าร้านหรือฝากขายที่ร้านเสื้อผ้า เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส และได้ลองเสื้อผ้า” จิราทิพย์ สูรย์ส่องธานี กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาด้านการออกแบบ ซีไอดีไอ ชนาพัฒน์ เปิดการเรียนการสอนผ่าน 2 หลัก สูตร ได้แก่ หลักสูตรการออกแบบแฟชั่น (Fashion Design) และหลักสูตรการออกแบบตกแต่งภายในและผลิตภัณฑ์ (Interior & Product Design) สอนโดยอาจารย์ต่างชาติผู้คร่ำหวอดในวงการออกแบบระดับโลก กำลังเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ โดยสามารถเข้าร่วมงาน Open House ได้ฟรี เพื่อฟังการแนะนำหลักสูตร พร้อมชมผลงานนักศึกษา และพูดคุยกับศิษย์เก่าที่สร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความพร้อมเข้าสู่วงการนักออกแบบ ในวันที่ 24 มิถุนายน, วันที่ 9 และ 22 กรกฎาคม, วันที่ 6 และ 19 สิงหาคม, วันที่ 3,17 และ วันที่ 24 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ www.chanapatana.com/th/open-house, โทร 081-432-8555, ไลน์แอด: @cidichanapatana หรือ https://lin.ee/4AoRhnQ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.chanapatana.com และ www.facebook.com/Chanapatana

อ่านบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ไปเที่ยวทะเลใต้กับ HYUNDAI STARGAZER ใช้เวลาน้อยแต่สนุกมาก!

เบิร์ด พาราไดซ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ใหม่ล่าสุดของสิงคโปร์

ฮ่องกง 2023 เมืองของคนรักสีสัน อาหาร และสายมูฯ #สายถ่ายภาพก็ฟินนะ

Hotel MYS Khao Yai โรงแรมระดับ 5 ดาวแนวลักชูรีโคซี อบอุ่น สวยงาม อาหารเลิศ

12 เรื่องน่ารักๆ ที่แม่สื่อมืออาชีพอยากบอกคนโสด (ไม่โสดก็อ่านได้)

5 เหตุผลที่คนเก๋ๆ ต้องไปเช็คอินที่ Kimpton Kitalay Samui

รีวิว ออริกา เวลเนส & โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ..สุข สบาย ใจสงบ

Kamalaya Koh Samui รีสอร์ทที่จะทำให้คุณรู้สึกเต็มอิ่มทั้งกายใจ จนไม่อยากออกไปไหนเลย!

Maze Dining ร้านอาหารฟีล Casual Dining จากเชฟพัทธนันท์ ธงทอง รองแชมป์ Top Chef Thailand

Galaxy Macau ร่วมมหกรรมคาราวานท่องเที่ยวของมาเก๊า Experience Macao Unlimited Mega Roadshow” ณ กรุงเทพฯ

ครั้งแรกในประเทศไทย! กับ ‘ไฮแอท ไทยแลนด์ ซิกเนเจอร์ เรสเตอรองต์ วีค 2023’นำเสนอมื้ออาหารซิกเนเจอร์จาก 7 ห้องอาหารชั้นนำในเครือไฮแอทประเทศไทย