บ้านสุขาวดี

บ้านสุขาวดี ตัวแทน ซอฟต์ พาวเวอร์ ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย

Alternative Textaccount_circle
event
บ้านสุขาวดี
บ้านสุขาวดี

บ้านสุขาวดี ร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย กว่า 300 คน ในกิจกรรมเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบิน Azur Air ประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย

ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เชิญบ้านสุขาวดี เป็นตัวแทน ซอฟต์ พาวเวอร์ ภาคตะวันออกของประเทศไทย ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย กว่า 300 คน ในกิจกรรมเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของสายการบิน Azur Air ประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อต้องการเปิดตลาดนักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซียนำท่องเที่ยวสู่พัทยา พร้อมกระตุ้นการท่องเที่ยวจากต่างประเทศไหลสู่จังหวัดระยอง-พัทยา โดยกิจกกรรมครั้งนี้บ้านสุขาวดีได้นำทีมงานนักแสดงเข้าร่วมต้อนรับและประชาสัมพันธ์ โปรโมทสถานที่บ้านสุขาวดีกับทางคณะผู้บริหาร นักท่องเที่ยว รวมทั้งเอเจ้นท์ทัวร์รัสเซีย กว่า 300 คน ผ่านชุดการแสดงไทย ซึ่งเป็นที่ประทับใจ ต่างให้เสียงตอบรับและชื่นชม ตลอดจนสนใจเข้าเยี่ยมชมบ้านสุขาวดีเพิ่มเติม เมื่อเร็วๆ นี้

บ้านสุขาวดี
OPPO

เปิดตัวสมาร์ตโฟนจอพับ OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip

Alternative Textaccount_circle
event
OPPO
OPPO

ออปโป้ กำหนดนิยามใหม่แห่งการพับ เปิดตัวสมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิป OPPO Find N3 เบา บาง ทรงพลัง และ OPPO Find N3 Flip พับกับกล้องที่ดีกว่า

OPPO

ออปโป้ ไทยแลนด์ ยกระดับมาตรฐานสมาร์ตโฟนจอพับไปอีกขั้น จัดเต็มนวัตกรรมที่เหนือกว่าในทุกด้าน ทั้งดีไซน์ การถ่ายภาพ ประสิทธิภาพทรงพลัง ในสไตล์ที่โดดเด่น และแตกต่าง พร้อมมอบนิยามใหม่แห่งการพับทั้ง 2 รุ่น กับ OPPO Find N3 และ OPPO Find N3 Flip ได้แล้ววันนี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

OPPO

OPPO Find N3 สมาร์ตโฟนจอพับระดับแฟลกชิปที่เบา บาง ทรงพลัง กับเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนจอพับด้วยระบบกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้อง Wide 48MP, กล้อง Telephoto 64MP และกล้อง Ultra-wide 48MP มาพร้อมกล้อง Periscope Telephoto ซูมแบบออปติคอลได้ 3X และสร้างสรรค์ผลงานระดับมาสเตอร์พีซได้ง่ายด้วย Hasselblad Portrait Mode ที่สีสันสวยงามเป็นธรรมชาติ บนหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว เมื่อกางออกมีขนาด 7.8 นิ้ว น้ำหนัก 239 กรัม บางเพียง 5.8 มิลลิเมตรเมื่อกางออก อัปเกรดระบบบานพับ Flexion Hinge ในรุ่นที่ 3 มาพร้อมขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 แบตเตอรี่ 4,800 mAh ชาร์จไว 67W SUPERVOOC มาใน 2 สี ได้แก่ สีทอง Champagne Gold และ สีดำ Classic Black ในราคา 69,990 บาท

OPPO

OPPO Find N3 Flip ให้พับกับกล้องที่ดีกว่าด้วยกล้อง 3 ตัวที่มาพร้อม Telephoto Portrait Camera ครั้งแรกบนสมาร์ตโฟนจอพับที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้สวยที่สุดด้วยกล้อง Portrait 32MP, กล้องหลัก 50MP และกล้อง Ultra-wide 48MP มอบสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Hasselblad ยกระดับการออกแบบให้พรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยวงแหวน Cosmos Ring ซึ่งล้อมรอบด้วย Starlight Track มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,300 mAh ชาร์จไว 44W SUPERVOOC มาใน 3 สี ได้แก่ สีทอง Cream Gold, สีชมพู Misty Pink และสีดำ Sleek Black ในราคา 34,990 บาท

ROBINSON

ROBINSON & ROBINSON LIFESTYLE WONDER CELEBRATION

Alternative Textaccount_circle
event
ROBINSON
ROBINSON

โรบินสัน ร่วมกับ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย ฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีกับแคมเปญ ROBINSON & ROBINSON LIFESTYLE WONDER CELEBRATION

“ห้างโรบินสันและศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์” ร่วมกับ “เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย” ฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีกับแคมเปญ “ROBINSON & ROBINSON LIFESTYLE WONDER CELEBRATION” ชวนนักช้อปและเหล่าแฟนดิสนีย์ฟินไปกับกิจกรรม โปรโมชัน และดีลสุดพิเศษ

ห้างโรบินสันและศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ร่วมกับ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย จัดแคมเปญ “Robinson & Robinson Lifestyle Wonder Celebration” (โรบินสัน แอนด์ โรบินสันไลฟ์สไตล์ วันเดอร์ เซเลเบรชัน) ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ยกทัพคอลเลกชันสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งเสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าเด็ก ชุดเครื่องนอน และของใช้ภายในบ้าน อีกทั้งกิจกรรมและดีลโปรโมชันมาเซอร์ไพรส์เหล่าครอบครัวนักช้อปและแฟนดิสนีย์ให้ฟินกันถ้วนหน้าที่ห้างโรบินสันและศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงทุกช่องทางการช้อปปิ้งสุดสะดวกของห้างฯ ได้แก่ Robinson Chat & Shop, Robinson Personal Shopper On Demand โทร.1425 ผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับทุกคน, Central App และเว็บไซต์ www.central.co.th ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง Facebook Fanpage: Robinson Department Store ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 – 4 มกราคม 2567

ROBINSON

คุณณัฐธีรา บุญศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มห้างสรรพสินค้า ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ช่วงปลายปีนับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทุกคนต่างรอคอยและได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เพื่อนฝูง และคนรัก ดังนั้นเพื่อเป็นการตอกย้ำจุดยืนของห้างโรบินสันที่มุ่งสร้างความสุขในทุกๆ วันของชีวิตและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แก่ครอบครัวนักช้อปด้วยความครบครันของสินค้าและบริการมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ เราจึงได้ร่วมมือกับ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทยจัดแคมเปญ “Robinson & Robinson Lifestyle Wonder Celebration” เพื่อส่งมอบประสบการณ์ความมหัศจรรย์ในช่วงเทศกาลแห่งความสุขแก่ครอบครัวนักช้อป ที่มาพร้อม Wonder Pop-up Stores ใน 6 สาขาทั่วทุกภูมิภาค พระราม 9, ชลบุรี, เชียงใหม่, สุราษฎร์ธานี, อุบลราชธานี และตรัง รวมทั้งไอเทมสินค้าแลกซื้อสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกระดาษห่อของขวัญมิคกี้ เมาส์ – มินนี่ เมาส์ และผองเพื่อน ฉลองดิสนีย์ 100 ปี กิจกรรมออนกราวนด์จากมิคกี้ เมาส์ – มินนี่ เมาส์ และโปรโมชันต่าง ๆ มากมาย พร้อมกันนี้เรายังได้เติมเต็มบรรยากาศการตกแต่งห้างฯ ในช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยสีสันและความสนุกสนานในทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อต้อนรับครอบครัวนักช้อปทุกท่าน”

ฉลองช่วงเวลาแห่งความสุขที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน พบกับโปรโมชันโดนใจ ได้แก่…

  • รับคูปองส่วนลดและเครดิตเงินคืนสูงสุด รวมมูลค่า 6,500 บาท เมื่อช้อปครบตามเงื่อนไข
  • ลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายสูงสุด 10 ท่านแรก รับทันที Disney Wonder of Magic Moment Gold Figurines (Figure Set เคลือบทองคำบริสุทธิ์ 99.99% มูลค่า 55,900 บาท) เฉพาะที่ห้างโรบินสันเท่านั้น
  • เฉพาะวันที่ 25 ธ.ค. 66 – 4 ม.ค. 67 รับฟรี! กระเป๋าเดินทาง Wonder Travel bag ลวดลายมิคกี้ เมาส์ – มินนี่ เมาส์ ลิมิเต็ด เอดิชัน จำนวน 1 ใบ เมื่อช้อปครบ 6,000 บาทขึ้นไป
  • บริการห่อของขวัญ! กับกระดาษห่อของขวัญลวดลายธีมดิสนีย์ 100 ปี เมื่อช้อปครบ 200 บาทขึ้นไป
ROBINSON

พร้อม “Wonder Pop-up Store” ช้อปหลากหลายไอเทมจากคาแรกเตอร์ที่อยู่ในใจคนไทยทุกเพศ ทุกวัยตลอดกาล อย่าง ‘มิคกี้ เมาส์ – มินนี่ เมาส์’ ที่ห้างโรบินสันพระราม 9, ชลบุรี, เชียงใหม่, อุบลราชธานี, สุราษฎร์ธานี และตรัง พร้อมพบกับกิจกรรม สุดสนุกที่ครอบครัวนักช้อปจะได้รับประสบการณ์เสมือนโลดแล่นสู่จินตนาการในโลกของดิสนีย์ ได้แก่

  • วันที่ 14 พ.ย. – 31 ธ.ค. 2566: Disney Photo Booth บูธถ่ายภาพสุดเก๋ที่จะชวนทุกครอบครัวไปสัมผัสโลกแห่งดิสนีย์แบบจัดเต็ม!  ที่ห้างโรบินสัน พระราม 9, ชลบุรี, เชียงใหม่, สุราษฎร์ธานี, อุบลราชธานี และตรัง
  • วันที่ 16 – 31 ธ.ค. 2566 (ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์)Disney Model Coloring ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการกับ Workshop D.I.Y เทสีโมเดลมิคกี้ เมาส์ สร้างลวดลายลิมิเต็ดหนึ่งเดียวในโลก เพียงแสดงใบเสร็จ 500 บาท ที่ห้างโรบินสัน พระราม 9, ชลบุรี, เชียงใหม่, สุราษฎร์ธานี, อุบลราชธานี และตรัง
  • วันที่ 18 – 31 ธ.ค. 2566: Disney Postcard ชวนรำลึกความทรงจำสุดประทับใจกับดิสนีย์โปสการ์ดถึงเหล่าตัวละครดิสนีย์ในดวงใจ เพียงแสดงใบเสร็จ 500 บาท ที่ห้างโรบินสันทุกสาขา
  • ตั้งแต่ 23 พ.ย. เป็นต้นไป: ห้ามพลาดกับ Robinson AR Snow Globe ที่ติ๊กต็อกเกอร์จะได้พบกับความมหัศจรรย์ของ Snow Globe ยักษ์ สร้างคอนเทนต์สนุกๆ แค่เข้าเมนู Effect บน TikTok Robinson Department Store หรือสแกน QR Code ที่จุดกิจกรรม พร้อมติดแฮชแท็ก #RobinsonWonderCelebration เพื่อรับรางวัลสุดพิเศษที่ห้างโรบินสันทุกสาขา

พร้อมกันนี้ ห้างโรบินสัน ขอเชิญชวนลูกค้าร่วมส่งต่อความสุขให้กับเด็กๆ ผู้ด้อยโอกาส ส่งท้ายปีกับกิจกรรม “Robinson Drop & Shop for Kids” ด้วยการบริจาคสิ่งของใช้แล้วสภาพดี ทั้งอุปกรณ์การเรียน ของเล่นเสริมพัฒนาการ และเสื้อผ้าแก่น้องผู้ด้อยโอกาส ที่ห้างโรบินสัน 10 สาขา ได้แก่ พระราม 9, รังสิต, ราชพฤกษ์, ศรีสมาน, ศรีนครินทร์, เชียงใหม่, อุบลราชธานี, ชลบุรี, กาญจนบุรี และสุราษฎร์ธานี  เพื่อรับคูปองดิจิทัลแทนเงินสด 100 บาท สำหรับช้อปในห้างฯ และรับส่วนลดสูงสุด 12% (สูงสุด 1,000 บาท) สำหรับช้อปใน Central App เมื่อช้อปตามเงื่อนไขที่กำหนด พร้อมชวนช้อปกระเป๋า GOOD GOODS คอลเลกชันพิเศษ “Smiles are Blooming” ซึ่งออกแบบโดย คุณอาเรียนนา คาโรลี ศิลปินระดับโลกชาวอิตาลี ร่วมกับห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน และแบรนด์ GOOD GOODS โดยนำวัสดุธรรมชาติจากชุมชน จังหวัดนครศรีธรรมราช มาจักสานเป็นกระเป๋าสุดพิเศษที่เปี่ยมด้วยคุณค่า โดยรายได้ทั้งหมดนำไปสมทบทุน เพื่อช่วยในการผ่าตัดแก่ผู้ป่วยที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ทั่วประเทศ ผ่านมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม, เซ็นทรัล แอท เซ็นทรัลเวิลด์, ลาดพร้าว,บางนา, ปิ่นเกล้า และห้างโรบินสัน พระราม 9, ราชพฤกษ์

ROBINSON

ช้อปเพลินไปกับโปรโมชันและดีลสุดพิเศษที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์

ด้าน คุณอังศิกรณ์ วรงค์สุรัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านการออกแบบการค้าปลีกและการตลาด ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า“เพื่อเป็นการฉลองในช่วงเทศกาลแห่งความสุข        ส่งท้ายปี ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ได้ผนึกกำลังกับห้างโรบินสัน และเดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย ขอมอบความสนุกแบบครบจบในที่เดียวทั้ง “EAT-SHOP-PLAY” เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ตอกย้ำการเป็น    เดสติเนชันที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยทัพกิจกรรมความสนุกสุดพิเศษที่อัดแน่นจัดเต็มแบบข้ามปี” ไม่ว่าจะเป็น…

  • ต้นคริสต์มาสพร้อมไฟประดับสุดอลังการที่สูงกว่า 12 เมตร (วันที่ 14 พ.ย. 66 – 4 ม.ค. 67) สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นความสุขอย่างเป็นทางการ ทั้ง 5 สาขา ได้แก่ สาขาราชพฤกษ์, ฉะเชิงเทรา, สระบุรี, ถลาง และฉลอง พร้อมมุมถ่ายภาพต้นคริสต์มาสธีมดิสนีย์ 100 ปี ภายในศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ทั้ง 27 สาขา
  • โซนกิจกรรมสุดสนุก และมุมถ่ายภาพธีมดิสนีย์ 100 ปี (วันที่ 23 ธ.ค. 66 – 2 ม.ค. 67) ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ พร้อมพบกับกิจกรรม Workshop ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส อาทิ แต่งหน้าคัพเค้ก, แต่งหน้าคุกกี้ และเพนต์ถุงผ้าลายพิเศษ ที่จะยกขบวนมาแบบจัดเต็ม รอคอยให้ครอบครัวนักช้อปได้เอนจอยในโมเมนต์แสนพิเศษ
  • ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสกับเซอร์ไพรส์มินิคอนเสิร์ตสุดสนุก (วันที่ 23 ธ.ค. 66) จากศิลปินดูโอขวัญใจวัยรุ่นฟันน้ำนม อย่างวงPaper Planes พบกับ 2 หนุ่ม ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ และ เซน-นครินทร์ ขุนภักดี ที่จะมาระเบิดความมันส์กับเพลงฮิตอย่าง “ทรงอย่างแบด” และซิงเกิลเพราะๆ อีกเพียบ! แท็กทีมมากับ Tippsy ให้เหล่าเอฟซีและลูกค้าได้จอยกันแบบเต็มๆ และร่วมฉลองส่งท้ายปี ไปกับหนุ่มหน้าใส “เจ้านาย-จินเจษฎ์” (วันที่ 30 ธ.ค. 66) ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์
  • รับทันที! แก้วน้ำคอลเลกชันพิเศษดิสนีย์ 100 ปี เมื่อช้อปครบ 3,500 บาทขึ้นไป (รวบรวมใบเสร็จภายในห้างฯ ศูนย์ฯ และโรงภาพยนตร์) (วันที่ 23 ธ.ค. 66 – 4 ม.ค. 67) และชมการประกวด Robinson Lifestyle Santa & Santy Kid’s Dress Up Contest (วันที่ 23 – 24 ธ.ค. 66)* (สามารถตรวจสอบรายละเอียดกิจกรรมและวันประกวดได้ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ได้ทุกสาขา)

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ยังเสิร์ฟความสนุกทุกไลฟ์สไตล์แบบจัดเต็มด้วยดีลสุดพิเศษอีกมากมาย โดยคุณศันสนีย์ นิ่มพิทักษ์พงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายพัฒนาพื้นที่เช่า ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวเพิ่มเติมว่า “เทศกาลคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของทุกครอบครัวจะได้ทำกิจกรรมร่วมกันพร้อมหน้า โดยศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ขอมอบความสุขสุดพิเศษด้วยดีลโปรโมชันสุดคุ้มทั้ง EAT-SHOP-PLAY จากศูนย์การค้า ร้านค้า และสเปเชียลตี้สโตร์ชั้นนำ” อาทิ…

  • Wonder Couponรับทันที! คูปองส่วนลดจากร้านค้าชั้นนำภายในศูนย์ฯ อาทิ Tops, Supersports, Auto1, Jetts Fitness, AIIZ, Mister Donut, Auntie Anne’s, ห้างทองหวังโต๊ะกังเยาวราช, ห้างทองพรีเมี่ยมโกลด์ เยาวราช เป็นต้น ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 66 – 4 ม.ค. 67
  • Wonder Deals ร่วมฉลองไปกับโปรโมชันและดีลสุดพิเศษส่งท้ายปีจากร้านอาหารและร้านค้าชั้นนำ อาทิ The Pizza Company, Sizzler, Bonchon, Swensen’s, Dairy Queen, Uniqlo, AIIZ และร้านค้าชั้นนำอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมสนุกสนานไปกับ Wonder Moment ชมภาพยนตร์รอบพิเศษจากโรงภาพยนตร์ SF Cinema, Major Cineplex และตอกย้ำบรรยากาศแห่งความสุขร่วมกับ MUJI รังสรรค์ต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ กับความเป็นสโตร์โร้ดไซด์ 2 ชั้นแห่งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 14 พ.ย. 66 – 4 ม.ค. 67
  • Wonder Privileges เฉพาะลูกค้า TRUE & DTAC รับสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำภายในศูนย์ฯ มากมาย ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. – 31 ธ.ค. 66

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดกิจกรรมและโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่ Fanpage : Robinson Department Store และ Robinson Lifestyle

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จัดงานแถลง LifeWear = a New Industry

Alternative Textaccount_circle
event
ฟาสต์ รีเทลลิ่ง
ฟาสต์ รีเทลลิ่ง

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จัดงานแถลง LifeWear = a New Industryความตั้งใจเพื่อปรับเปลี่ยนซัพพลายเชนสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนด้วยการบริหารแบบครบวงจร

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง (Fast Retailing) บริษัทแม่ของยูนิโคล่ จัดงานแถลง LifeWear = a New Industry สำหรับสื่อมวลชนและนักวิเคราะห์ โดยเผยว่า ฟาสต์ รีเทลลิ่ง กำลังปรับเปลี่ยนธุรกิจของบริษัทเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนกับการเติบโตของธุรกิจ และส่งเสริมสังคมที่ยั่งยืนขึ้นผ่านโมเดลแบบธุรกิจแบบครบวงจรได้อย่างไร ซึ่งงานแถลงครั้งนี้กล่าวถึงระบบและกระบวนการใหม่ที่ได้เริ่มดำเนินการเพื่อมุ่งสู่ความชัดเจนที่มากขึ้น รวมถึงการควบคุมตัวแปรต่างๆ ของสภาพแวดล้อมและสถานที่ทำงานตั้งแต่ระบบซัพพลายเชนทั้งหมดจนถึงช่วงหลังการขาย นอกจากนี้ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ยังเผยถึงความคืบหน้าของเป้าหมายด้านความยั่งยืนของปีงบประมาณ 2573 อีกด้วย

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง กำลังสร้างซัพพลายเชนที่มั่นคงและคล่องตัวเพื่อส่งมอบความยั่งยืนที่ดีขึ้น สร้างความร่วมมืออันแข็งแกร่งในระยะยาวกับผู้ผลิตเสื้อผ้าและวัตถุดิบต่างๆ ตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นของระบบซัพพลายเชน แนวคิดนี้ทำให้ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง สามารถบริหารระบบซัพพลายเชนทั้งหมดได้ดีขึ้น สามารถควบคุมขั้นตอนการผลิตทั้งหมดได้โดยตรงตั้งแต่ คุณภาพ การจัดซื้อ การผลิต สิ่งแวดล้อม และสิทธิพื้นฐานของแรงงาน หลังจากเห็นภาพรวมของระบบซัพพลายเชนตั้งแต่สินค้าที่เสร็จสมบูรณ์ไปจนถึงขั้นตอนของวัถตุดิบ ทางบริษัทเริ่มรวมธุรกิจระหว่างพาร์ทเนอร์ที่ได้รับเลือกจำนวนหนึ่ง รวมถึงแผนการในอนาคตเรื่องการสรรหาวัตถุดิบจากฟาร์มหรือไร่ปศุสัตว์

ในขณะเดียวกัน ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้ยกระดับแนวคิด RE.UNIQLO เพื่อส่งเสริมการนำเสื้อผ้ายูนิโคล่มารีไซเคิลและนำกลับมาใช้อีกครั้ง จากการเปิดตัวเสื้อดาวน์ขนเป็ดรีไซเคิลในปี 2563 ทางบริษัทยังคงเดินหน้าเพื่อการพัฒนาสินค้ารีไซเคิลอื่นๆ จากเสื้อผ้าที่ทำด้วยผ้าแคชเมียร์ ผ้าวูล และผ้าฝ้าย

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง

โคจิ ยาไน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จำกัด กล่าวว่า “เรามีความรับผิดชอบต่อสินค้าทุกชิ้นจาก LifeWear ที่เราผลิตเพื่อลูกค้า เราไม่นิ่งนอนใจ ด้วยขั้นตอนการพัฒนาสินค้า การผลิต และขั้นตอนหลังการขาย เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าของเรานั้นใช้งานได้ยาวนานและตอบโจทย์ หนึ่งในตัวอย่างเพื่อให้ LifeWear ยั่งยืนขึ้น เราได้เปิดตัวโปรเจกต์นำร่องร้านค้าเสื้อผ้ามือสองเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยความร่วมมือกับลูกค้าของเรา ชุมชนท้องถิ่น และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ พวกเรายังคงเดินหน้าเพื่อยกระดับความเป็นไปได้ของ LifeWear สร้างธุรกิจที่ส่งเสริมชีวิตของผู้คนและสังคมทั่วโลก”

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง

งานแถลงในวันนี้ครอบคลุมเรื่องการริเริ่มที่สำคัญต่างๆ ในด้านสินค้า การบริการ และซัพพลายเชน รวมถึงความคืบหน้าของเป้าหมายด้านความยั่งยืนของปีงบประมาณ 2573 ของฟาสต์ รีเทลลิ่ง ประกอบไปด้วย

FILA x Smiley®

เปิดตัวคอลแลปส์คอลเลคชั่น “FILA x Smiley®” เอาใจสายสตรีท

Alternative Textaccount_circle
event
FILA x Smiley®
FILA x Smiley®

FILA เปิดตัวคอลแลปส์คอลเลคชั่น “FILA x Smiley®” เอาใจสายสตรีทส่งต่อความรู้สึกด้านบวก รับช่วงเทศกาลแห่งความสุข

ฟีล่า (FILA) แบรนด์เสื้อผ้าสปอร์ตไลฟ์สไตล์ชั้นนำ เปิดตัวคอลเลคชั่น ‘FILA x Smiley®’ จากการ คอลแลปส์กับไอคอนแบรนด์ระดับโลก ‘The Smiley® Company’ ดึงไอคอนิกเครื่องแต่งกายกีฬาเทนนิส-การออกแบบสไตล์อิตาเลียน สู่คอลเลคชั่นสตรีทแวร์แทรกความสนุกสนาน ความรู้สึกด้านบวกทุกการแต่งตัว พร้อมสานต่อกลยุทธ์คอลแลปส์และตอกย้ำ Identity Sports Lifestyle Fashion ของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง

FILA x Smiley®

ความนิยมของแบรนด์ FILA เกิดขึ้นจากความพยายามในการเข้าถึงลูกค้าด้วยตัวตนที่ชัดเจน บนความเป็น ‘Sport Lifestyle Fashion’ โดยมีจุดขายหลักของการออกแบบสไตล์อิตาเลียนซึ่งเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอของ FILA  รวมถึงความไอคอนิกที่มาจากเสื้อผ้าในกีฬาเทนนิส และได้ปูทางให้แบรนด์สามารถสร้างเครื่องแต่งกายสปอร์ตแฟชั่น ที่ทันสมัย คุณภาพดี ในราคาที่ง่ายต่อการตัดสินใจ ซึ่งในปี 2023 นี้ FILA ได้สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก อย่างกลุ่ม Millennials และ Gen Z  ด้วยการใช้กลยุทธ์คอลแลปส์ร่วมกับแบรนด์ที่มีแนวคิดเดียวกันอย่าง The Smiley® Company ไอคอนที่คุ้นตากันดีจากเอกลักษณ์รูปใบหน้ายิ้มสีเหลืองสดใส ที่ถูกยอมรับในฐานะสัญลักษณ์สร้างพลังบวกคอยสนับสนุนให้ผู้คนให้เวลากับการยิ้ม เปิดตัวคอลเลคชั่น “FILA x Smiley®” คอลแลปส์คอลเลคชั่นที่ร่วมกันสร้างสรรค์ระหว่างสองแบรนด์ชั้นนำในวงการแฟชั่นไลฟ์สไตล์ โดยออกแบบให้ความรู้สึกอารมณ์สนุกสนานและร่าเริง ความสดใส ประกอบด้วยสินค้า Total Looks ที่หลากหลาย อาทิ ทีเชิ้ต เสื้อพูลโอเวอร์ กางเกงขาสั้น กระโปรง สำหรับการแต่งสบาย ๆ แต่มีสไตล์ รวมถึงยังมี สเวตเชิ้ตวินเทจและกระโปรงพลีทที่ให้น่ารักโดดเด่นด้วยไอคอน Smiley® ในสไตล์สตรีทลุค

FILA x Smiley®

คอลเลคชั่น FILA x Smiley® ถือเป็นการสร้างความสดใหม่ให้กับแบรนด์ FILA เป็นอย่างมาก โดยทั้ง 2 แบรนด์ ได้มีแลกเปลี่ยนจุดแข็งและความสร้างสรรค์ที่แต่ละแบรนด์มีร่วมกัน โดยความพิเศษของคอลเลคชั่นนี้มาจากการผสานในฝั่ง FILA ที่ต้องการสร้างความรู้สึกมีพลังมีสไตล์ เข้ากับฝั่งของ Smiley® ที่ต้องการสร้างความร่าเริงและทัศนคติดี ๆ จนถ่ายทอดออกมาเป็นเสื้อผ้าที่มีความเท่ในสไตล์สตรีท แทรกด้วยความสนุกสนานในทุกการแต่งตัวเพื่อสร้างความรู้สึกด้านบวกให้คนรุ่นใหม่

FILA x Smiley® ยังมีไฮไลต์พิเศษ ต้อนรับการกลับมาของ Original Tennis OG 1985 รองเท้าเทนนิสที่มากด้วยประสิทธิภาพอันเป็นเอกลักษณ์ในยุคนั้น ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ด้วยงานออกแบบสุดคลาสสิกเฉพาะตัวของ FILA พร้อมไอคอน Smiley® สีเหลืองสดที่ส้นรองเท้า เข้ากับความชอบกลุ่มคนรักสนีกเกอร์ในปี 2023 เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกอย่างรองเท้าแซนเดิล สลิงแบ็ก ฯลฯ ที่มีดีไซน์สวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย รวมอยู่ในคอลเลคชั่นด้วย

FILA x Smiley®

การคอลแลปส์ร่วมกับแบรนด์ที่มีตัวตนชัดเจน นับเป็นกลยุทธ์ที่ FILA ให้ความสำคัญมาโดยตลอด แต่ละครั้งแบรนด์จะโฟกัสการจับเอาเทรนด์แฟชั่นที่นิยมของแต่ละฝั่ง มาเป็นหัวใจของการออกแบบสินค้าร่วมกัน เพื่อให้สินค้านั้นสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ออกมา และช่วยให้แบรนด์มีตัวตนอยู่ในสายตาของลูกค้า-อยู่ในกระแสตลอดเวลา และในอนาคต FILA ยังคงมีความตั้งใจจะคอลแลปส์ร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ ต่อเนื่องในทุก ๆ ปี เพื่อให้ผู้คนได้สวมใส่เสื้อผ้า Sports Lifestyle Fashion ของแบรนด์ในชีวิตประจำวัน และเป็นแรงบันดาลใจในการส่งต่อความรู้สึกสร้างพลังสร้างสไตล์ให้ผู้คนต่อไป”

สำหรับคอลเลคชั่น FILA x Smiley® มีราคาเริ่มต้นที่ 1,590.- สามารถหาซื้อได้แล้วที่ Shop FILA และเคาน์เตอร์ FILA ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, โรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต ทั่วประเทศ

เฮยยิน

เฮยยิน ต้อนรับ เทศกาลปูขน พร้อมแนะนำเมนูใหม่ ไก่เหวินชางทอดหนัง

Alternative Textaccount_circle
event
เฮยยิน
เฮยยิน

ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ต้อนรับ “เทศกาลปูขน” พร้อมแนะนำเมนูใหม่ “ไก่เหวินชางทอดหนังกรอบ”พร้อมให้บริการตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม ศกนี้

“เฮยยิน” ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่เหล่านักชิมและผู้ที่ชื่นชอบอาหารจีนโปรดปราน แนะนำ 4 เมนูสุดพิเศษจาก “เทศกาลปูขน” ที่ใช้ปูขนนำเข้าจากเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และเมนูใหม่ “ไก่เหวินชางทอดหนังกรอบ” ไก่ทอดสูตรต้นตำรับที่รังสรรค์โดยเชฟชาวฮ่องกง ในราคาเริ่มต้น 650 – 1,380 บาท พร้อมให้บริการตั้งแต่วันนี้ –  31 ธันวาคม ศกนี้ (ราคาอาหารดังกล่าวยังไม่รวมค่าบริการ 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

เริ่มด้วยเมนูพิเศษจาก “เทศกาลปูขน” ประจำปี 2566 ได้แก่ “ปูขนนึ่ง เสิร์ฟพร้อมน้ำขิงร้อน” ราคา 1,280 บาท ปูขนน้ำหนัก 180 – 200 กรัม นึ่งจนสุกพอดี เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วขิงสับสูตรพิเศษ และน้ำขิงร้อนเพิ่มความสดชื่น “เสี่ยวหลงเปาปูขน” ราคา 650 บาท เต็มอิ่มไปกับเนื้อปูขนที่มีความหอมมันที่อัดแน่นมาในไส้ของเสี่ยวหลงเปาสีแดง ซึ่งเป็นสีธรรมชาติที่ได้จากข้าวแดง และท็อปด้วยไข่ปลาคาเวียร์ “ปูขนผัดไข่ขาวนมสด” ราคา 1,380 บาท เมนูเอาใจคนรักสุขภาพที่นำปูขนไปผัดกับไข่ขาวและนมสด และปิดท้ายด้วย “ปูขนเย็นซอสมะตูม” ราคา 1,380 บาท เมนูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร  โดยเชฟได้รังสรรค์ซอสจากน้ำมะตูม สมุนไพรไทยที่รสชาติหอมละมุน นำมาปรุงให้เข้ากันกับปูขน และเส้นเซี่ยงไฮ้

เฮยยิน

ต่อด้วยความพิเศษที่ 2 กับเมนูใหม่เอาใจคนรักไก่ทอด “ไก่เหวินชางทอดหนังกรอบ” ที่คัดสรรไก่พันธุ์เหวินชาง หรือที่รู้จักกันดีในชื่อไก่ไหหลำ ซึ่งมีเนื้อแน่นอร่อยนุ่ม ความอร่อยของเมนูนี้มาจากการนำไก่ไปหมักกับเครื่องเทศสูตรลับ แล้วทอดจนสีเหลืองทอง จนได้ความกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 สูตรพิเศษเพิ่มความอร่อยลงตัว จำหน่ายในราคาพิเศษตัวละ 1,200 บาท

พบกับความอร่อยที่ตอบโจทย์คนรักอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งอย่างแท้จริงได้ที่ร้าน “เฮยยิน” ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ เปิดให้บริการ 3 ช่วง คือ มื้อกลางวัน เวลา 11.00 – 15.00 น. มื้อบ่ายให้บริการติ่มซำและชุด Afternoon Tea เวลา 15.00 – 17.00 น. และมื้อค่ำ เวลา 18.00 – 22.00 น. พร้อมห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว 4 ห้อง (ค่าบริการ 1,000 – 2,000 บาท หากมียอดใช้จ่ายตามที่กำหนด ฟรีค่าบริการห้องจัดเลี้ยง)

สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 080-964-5423 และ LINE: @heiyinbangkok ดูรายละเอียดอื่นๆ และติดตามอัปเดตของร้านได้ที่

คนดังเกาหลีร่วมรายการจีนปี 2023 - คนดังเกาหลี - ซุปตาร์เกาหลี - นักร้องเกาหลี - รายการจีน - รายการเซอร์ไวเวิลจีน - รายการจีนปี 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

2 คนดังเกาหลีร่วมรายการจีนปี2023 นั่งแท่นเมนเทอร์สุดโปร!!

Alternative Textaccount_circle
event
คนดังเกาหลีร่วมรายการจีนปี 2023 - คนดังเกาหลี - ซุปตาร์เกาหลี - นักร้องเกาหลี - รายการจีน - รายการเซอร์ไวเวิลจีน - รายการจีนปี 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
คนดังเกาหลีร่วมรายการจีนปี 2023 - คนดังเกาหลี - ซุปตาร์เกาหลี - นักร้องเกาหลี - รายการจีน - รายการเซอร์ไวเวิลจีน - รายการจีนปี 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ พาส่อง 2 คนดังเกาหลีร่วมรายการจีนปี2023 พร้อมนั่งแท่นเมนเทอร์โชว์สกิลความโปร บอกเลยว่าพลาดแล้วจะเสียดายมาก!?!

ปี 2023 นี้สุดฯ บอกเลยว่าเป็นอีกปีที่รายการจีนหลายๆ รายการท็อปฟอร์มและน่าดูหนักมาก!! โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็มีรายการจีนของซุปตาร์หลายๆ คนทยอยออนแอร์ฟาดความปัง ไม่ว่าจะเป็นรายการเรียลลิตี้จีน Chinese Restaurant S7 ที่พาเหล่าซุปตาร์จีนไปเปิดร้านอาหารจีนและต้องทำงานต่างๆ ภายในร้านเองทั้งหมดเป็นเวลาระยะประมาณ 20 กว่าวัน, รายการ Call Me By Fire S3 ที่นำเหล่าศิลปินชายจากทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง และอาจรวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียมาร่วมกันแข่งขันทำโชว์ เพื่อโชว์ฝีมือทั้งด้านการร้อง เต้น จากทั้งหมด 30 กว่าคนจะถูกคัดเหลือเพียง 17 คน ซึ่งปีนี้มีตัวแทนเด็กไทยอย่างเจฟ วรกมล ชาเตอร์ หรือ เจฟ ซาเตอร์ ร่วมรายการด้วย, Divas Hit the Road ซีซั่น 5 ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้ที่จะพาเหล่าดาราจีน คนดังจีนมาร่วมกันออกทริปเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยเป็นไกด์กันเอง ดูแลกันเองทั้งหมดตลอดทริป พร้อมกับต้องทำภารกิจที่รายการมอบให้ โดยมีซุปตาร์จีนสาวสวย ตี๋ลี่เร่อปา (Dilireba) พร้อมด้วยฉินหลัน (Qin Lan) นักแสดงหญิงจีนเจ้าบทบาท และหวังอันอวี่ (Wang Anyu) เป็นต้น ร่วมรายการในซีซั่นนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากรายการจีนที่มีซุปตาร์จีนไปออกแล้ว ยังมีรายการอีกหลายๆ รายการที่มีซุปตาร์จากแดนกิมจิเข้าร่วมด้วย ซึ่งวันนี้สุดฯ ไม่รอช้า ขอพาทุกคนมาอัพเดตไปพร้อมกันเลยค่ะ

คนแรกสุดฯ ขอเปิดด้วย เจย์ ปาร์ค (Jay Park) นักร้อง แร็ปเปอร์ นักเต้น นักแต่งเพลง นักธุรกิจครบเครื่องมากความสามารถวัย 36 ปี ที่ในปี 2023 เป็นอีกหนึ่งปีที่เจย์ ปาร์คมาโลดแล่นในวงการบันเทิงจีนพอสมควร โดยก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าร่วมในรายการเซอร์ไวเวิลจีนแข่งแร็ป THE RAP OF CHINA 2023 ซึ่งเป็นรายการที่ให้เหล่าแร็ปเปอร์มาสร้างโชว์สุดร้อนแรงร่วมกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจย์ ปาร์คเคยนั่งแท่นเมนเทอร์ของรายการ The Rap of China ซีซั่น 4 เมื่อปี 2020 มาแล้ว

เจย์ ปาร์ค - เจย์ พาร์ก - Jay Park - 박재범 - 朴宰范

นอกจากนี้ ในปี 2023 นี้เจย์ ปาร์คยังได้เข้าร่วมเป็นเมนเทอร์ในรายการ The Next 2023 ซึ่งเป็นรายการเซอร์ไวเวิลจีนที่ให้เหล่านักร้องจากทั้งในจีนและต่างประเทศมาร่วมกันแข่งขันทำโชว์ จนคัดเหลือทีมที่เป็นผู้ชนะ โดยนอกจากเจย์ ปาร์คที่นั่งแท่นเมนเทอร์แล้ว ยังมีไอดอลเกาหลีสัญชาติจีนอย่างหวังเจียเอ๋อร์ (Wang Jiaer หรือ แจ็คสัน หวัง/Jackson Wang) แห่งวง GOT7 เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ และหนิงหนิง (Ningning หรือ หนิงอี้จั๋ว/Ning Yizhuo) จากวง aespa มาร่วมรับเชิญด้วย และอีกหนึ่งรายการล่าสุดของเจย์ ปาร์คในปีนี้คือ Street Dance of China Season S6 สตรีทแดนซ์ออฟไชน่า ซีซัน 6 ที่เพิ่งจะเริ่มออนแอร์เมื่อช่วงต้นเดือนพ.ย. 2023 โดยเจย์ ปาร์คเป็น 1 ใน 3 โค้ชหัวหน้าทีม พร้อมด้วยแวนเนส วู (Vanness Wu หรือชื่อจริง อู๋เจี้ยนหาว/Wu Jianhao) และติงเฉิงซิน (Ding Chengxin) ไอดอลจีนสมาชิกวง TNT (Teens In Time) ซึ่งการแข่งขันกำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเจย์ ปาร์คก็เผยทักษะด้านการเต้น การออกแบบ สร้างสรรค์โชว์ออกมาให้เหล่านักเต้นและคนดูได้ตะลึงเรื่อยๆ พลาดไม่ได้ค่ะ ไปตามเก็บกันได้ที่ YOUKU นะคะ

เจย์ ปาร์ค - เจย์ พาร์ก - Jay Park - 박재범 - 朴宰范
คนดังเกาหลีร่วมรายการจีนปี 2023  - คนดังเกาหลี  - ซุปตาร์เกาหลี  -  นักร้องเกาหลี  -  เจย์ ปาร์ค - เจย์ พาร์ก - Jay Park - 박재범 - 朴宰范

อีกหนึ่งซุปตาร์เกาหลีชื่อดังระดับโลกที่มาร่วมสร้างสีสันให้วงการรายการจีนในปีนี้คือ เรน (Rain Bi หรือ จองจีฮุน/Jung Ji-hoon) นักร้อง นักแสดง โปรดิวเซอร์ นักธุรกิจวัย 41 ปีที่นานๆ จะกลับมามีผลงานในฝั่งจีนให้ได้เห็นเป็นระยะ (ก่อนหน้านี้เรนเคยร่วมแสดงในซีรี่ย์จีนและหนังจีนหลายเรื่อง เช่น หนังจีน For Love or Money เพื่อรักหรือเงินตรา (2014), Diamond Lover กะรัตรัก (2015) เป็นต้น) ซึ่งในปีนี้เรนก็ได้เข้าร่วมนั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์แห่งชาติในรายการเซอร์ไวเวิลจีน ASIA SUPER YOUNG ที่ให้เหล่าเด็กฝึกชายจีนทั้งหมด 60 กว่าคนมาแข่งขันโชว์ทักษะทั้งด้านการร้อง การเต้น เพื่อเดบิวต์เป็นไอดอลจีน โดยรายการจะออนแอร์เร็วๆ นี้ในวันที่ 25 พ.ย. 2023 ซึ่งในรายการนอกจากจะมีเรนแล้ว ยังมีเฉิงเซียว (Cheng Xiao) ไอดอลหญิงจากวง Cosmic Girls, จูเจิ้งถิง (Zhu Zhengting) อดีตสมาชิกวง NINEPERCENT และอื่นๆ ร่วมเป็นเมนเทอร์ด้วย จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันได้ที่ YOUKU นะคะ

เรน - Rain - Jung Ji-hoon - 정지훈  - จองจีฮุน - Rain Bi

รูปจาก : 朴宰范/RAIN-JIHOON/亚洲超星团

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

2 คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ สานต่อเคมีชวนฟินในซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่!!​

น่าดูมาก! ซีรี่ย์จีน I Love You ที่รีเมคจากเกาหลี One Spring Night ของจองแฮอิน-ฮันจีมิน!

หวังซิงเยว่ นักแสดงจากซีรี่ย์จีนเล่ห์รักวังคุนหนิง ที่น่าจับตามอง!

เสิ่นอวี่เจี๋ย นักแสดงจีนน้องใหม่หน้าเฟียร์ซ ว่าที่ซุปตาร์คนต่อไป!

3 หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love เลือกไม่ถูก ขอเหมาหมดได้มั้ย!?!

3 ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 ฮอตปรอทแตกทุกเรื่อง!!

2 บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง ใน 2 ซีรี่ย์จีนที่มาแรงสุดๆ ในขณะนี้!

คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเก่าๆ - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - The Imperial Coroner - Go Go Squid - นายเย็นชากับยัยปลาหมึก

2 คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ สานต่อเคมีชวนฟินในซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่!!​

Alternative Textaccount_circle
event
คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเก่าๆ - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - The Imperial Coroner - Go Go Squid - นายเย็นชากับยัยปลาหมึก
คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเก่าๆ - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - The Imperial Coroner - Go Go Squid - นายเย็นชากับยัยปลาหมึก

สุดฯ พาส่อง 2 คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ เตรียมสานต่อเคมีชวนฟินให้แฟนๆ ได้ตามกรี๊ดกันอีกครั้งในซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่!!

หากพูดถึงคู่จิ้นพระ-นางซีรี่ย์จีนที่หลายๆ คนชื่นชอบ และอยากให้ทั้งคู่ได้กลับมาร่วมงานกันอีก จะขาดชื่อของ 2 คู่ที่สุดฯ จะพูดถึงในวันนี้ไปไม่ได้ โดย คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ คู่แรกที่ต้องขอพูดถึงก่อนเลยคือ คู่พระเอก นางเอกจากซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก Go Go Squid นายเย็นชากับยัยปลาหมึก (2019) ที่โกยเรตติ้งและยอดวิวถล่มทลาย โดยสามารถครองท็อป 7 ของสถานีโทรทัศน์ Zhejiang Television และ Dragon Television ได้ตลอดการออกอากาศ และมียอดวิวออนไลน์สูงถึง 7,350 ล้านวิว ครองบัลลังก์อันดับ 2 ซีรี่ย์จีนที่มียอดวิวสูงสุดในปี 2019 โดยได้ 2 นักแสดงจีนชื่อดังอย่างหลี่เซี่ยน (Li Xian) เจ้าของผลงานสุดฮิตอย่างซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Sword Dynasty ราชวงศ์ดาบ (2019), ซีรี่ย์จีนแนวฟีลกู๊ดฮีลหัวใจ Meet Yourself ณ ที่สายลมรักพัดผ่าน (2023) ที่กระแสตอบรับเปรี้ยงปังมากเมื่อช่วงต้นปี เป็นต้น และหยางจื่อ (Yang Zi) นางเอกจีนเจ้าของผลงานสุดปัง เช่น The Destiny of White Snake ลิขิตรักนางพญางูขาว (2018), ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกยอดวิวหมื่นล้านวิว Ashes of Love มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง (2018), The Oath of Love คุณคือคำปฏิญาณแห่งรัก (2022), Immortal Samsara อวลกลิ่นละอองรัก (2022), Lost You Forever ห้วงคำนึง ดวงใจนิรันดร์ (2023) ฯลฯ มารับบทคู่กัน

คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน  -   คู่จิ้นดาราจีน  -  Go Go Squid  -  นายเย็นชากับยัยปลาหมึก

หลังจากส่งต่อความปังในซีรี่ย์จีน Go Go Squid นายเย็นชากับยัยปลาหมึก ไปแล้ว หลี่เซี่ยนกับหยางจื่อยังได้ร่วมเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรี่ย์จีนภาคต่ออย่าง Go Go Squid 2: DT Appledog’s Time นายเย็นชากับยัยปลาหมึก 2 (2021) ที่มีหูอี้เทียน (Hu Yitian) รับบทพระเอกคู่กับหลี่อี้ถง (Li Yitong) ด้วย แม้ว่าจะเป็นเพียงการกลับมาแบบนิดๆ หน่อยๆ พอหอมปากหอมคอให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง แต่นั่นก็ยังไม่พอค่ะ!!

คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - Go Go Squid - นายเย็นชากับยัยปลาหมึก

ล่าสุดในปี 2023 นี้แอคเคาท์เวยป๋อซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค FLOURISHED PEONY (ชื่อจีน 国色芳华) ก็ประกาศข่าวดีให้แฟนคลับของหลี่เซี่ยนและหยางจื่อได้กรี๊ดกัน เพราะทั้งคู่จะโคจรกลับมารับบทคู่กันอีกครั้งในซีรี่ย์จีนเรื่องนี้!! ทีมแฟนๆ ปักหมุดรอกันได้เลยจ้า

คู่จิ้นซีรี่ย์จีนคัมแบ็คงานคู่ - คู่จิ้นซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - Go Go Squid - นายเย็นชากับยัยปลาหมึก

อีกหนึ่งคู่จิ้นดาราจีนที่เตรียมจะส่งผลงานเรื่องที่ 2 ลงจอแล้ว นั่นคือคู่ของหวังจื่อฉี (Wang Ziqi) นักแสดงชายจีนจากเรื่อง Once We Get Married ป่วนรัก งานแต่งทิพย์ (2021), ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก The Love You Give Me รักนี้เธอมอบให้ (2023) ฯลฯ และซูเสี่ยวถง (Su Xiaotong) นักแสดงหญิงจีนรุ่นน้องจากเรื่อง Heartbeat Love คลับลุ้นจังหวะรัก (2021), Love Forever Young แค้นพลิกรักสองสำนัก (2023) เป็นต้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยประกบคู่กันมาแล้วในซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค The Imperial Coroner ฉู่ฉู่ มือชันสูตรฟ้าประทาน (2021) ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังของนักเขียนเจ้าของนามปากกา ชิงเสียนยาโถว (Qing Xian Ya Tou) ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสืบหาความจริงของคดีปริศนาที่ปิดไม่ลงมานานกว่า 18 ปีในช่วงสมัยราชวงศ์ถัง สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูก็สามารถไปตามเก็บกันได้ค่ะ

The Imperial Coroner
The Imperial Coroner

ล่าสุดหลังจากห่างหายกันไปนาน 2 ปี หวังจื่อฉีกับซูเสี่ยวถงก็โคจรมาร่วมงานกันในซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่อย่าง Chase The Truth (黑白密码) ที่เพิ่งจะออนแอร์เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2023 โดยเป็นซีรี่ย์จีนที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แทรกซึมเข้าไปอยู่ในกลุ่มอาชญากรในฐานะสายลับ เพื่อตามหาความจริงเกี่ยวกับแม่ของเขา ซึ่งเรื่องราวระหว่างเขาและเธอจะเป็นอย่าง แฟนคลับของคู่จิ้นหวังจื่อฉีและซูเสี่ยวถงไปติดตามซีรี่ย์จีน Chase The Truth กันได้ที่ WeTV นะคะ

Chase The Truth - 黑白密码

รูปจาก : 电视剧国色芳华/电视剧亲爱的热爱的/我的时代你的时代/黑白密码官微/御赐小仵作

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

น่าดูมาก! ซีรี่ย์จีน I Love You ที่รีเมคจากเกาหลี One Spring Night ของจองแฮอิน-ฮันจีมิน!

หวังซิงเยว่ นักแสดงจากซีรี่ย์จีนเล่ห์รักวังคุนหนิง ที่น่าจับตามอง!

เสิ่นอวี่เจี๋ย นักแสดงจีนน้องใหม่หน้าเฟียร์ซ ว่าที่ซุปตาร์คนต่อไป!

3 หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love เลือกไม่ถูก ขอเหมาหมดได้มั้ย!?!

3 ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 ฮอตปรอทแตกทุกเรื่อง!!

2 บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง ใน 2 ซีรี่ย์จีนที่มาแรงสุดๆ ในขณะนี้!

เลอ กอร์ดอง เบลอ

พาส่องเมนูร้านดังศิษย์เก่า เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เมนูคาวหวาน สุดฟิน

Alternative Textaccount_circle
event
เลอ กอร์ดอง เบลอ
เลอ กอร์ดอง เบลอ

Gourmet Foodie Fest 2023 Alumni Market ซีซั่น 2 พาส่องเมนูร้านดังศิษย์เก่า “เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต” เสิร์ฟเมนูคาวหวาน-เครื่องดื่ม สุดฟิน

เชฟดังตบเท้าเสิร์ฟความอร่อย! พาส่องเมนูร้านดังศิษย์เก่า “เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต” ในงานมหกรรมอาหารครั้งยิ่งใหญ่ “Gourmet Foodie Fest 2023 Alumni Market ซีซั่น 2” เสิร์ฟเมนูคาวหวาน-เครื่องดื่ม สุดฟิน ตอกย้ำความสำเร็จของศิษย์เก่าสถาบันระดับโลก

โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ร่วมกับนิตยสาร Gourmet & Cuisine จัดงาน “Gourmet Foodie Fest 2023” Alumni Market Season 2 ตั้งแต่วันที่ 26-29 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชวนเจ้าของร้านอาหารชื่อดังทั่วประเทศซึ่งเป็นศิษย์เก่าของสถาบันมาเปิดบูธนำเสนออาหารคาวหวานหลากชนิดกว่า 40 ร้าน พร้อมจัดเวิร์กช็อปสอนทำอาหารฟรีแก่ผู้สนใจ การสนับสนุนครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายและความผูกพันระหว่างสถาบันและศิษย์เก่า ตลอดจนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนมุมมองในกลุ่มคนทำอาหาร เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและเร่งพัฒนาธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มของเมืองไทย

เลอ กอร์ดอง เบลอ

นางสาวสุชาดา สถาปิตานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจในศิษย์เก่าและผู้เรียนทุกท่าน ซึ่งตลอดเวลา 16 ปีที่เราได้เปิดทำการเรียนการสอน เราได้ผลิตบุคลากรคุณภาพสู่อุตสาหกรรมอาหารมาแล้วกว่า 10,000 คน กิจกรรม Alumni Market ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในแผนงานสนับสนุนผู้สำเร็จการศึกษาของโรงเรียน ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมการประกอบอาชีพของศิษย์เก่าแล้ว เรายังผลักดันให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดและมุมมองในธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มในเมืองไทย ตลอดจนเสริมสร้างเครือข่ายและความผูกพันระหว่างสถาบันและศิษย์เก่า เพื่อช่วยต่อยอดเทคนิคการประกอบอาหารและขนมให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างน่าประทับใจและประสบความสำเร็จ”

ตลอด 4 วันของมหกรรมอาหาร “Gourmet Foodie Fest 2023” Alumni Market Season 2 ได้รับความสนใจจากนักชิม ผู้ปฏิบัติงานด้านอาหาร ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้ามาร่วมชิมร่วมช็อปในงานกันอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ยังจัดเวิร์กช็อปฟรีมากมาย ทั้งการผสมค็อกเทลสุดครีเอตโดย Howei x Le Cordon Bleu Dusit, โชว์ทำเครื่องดื่ม “เมนูมัตฉะสุดพิเศษ” โดย Samatea Cafe, การสาธิตแต่งหน้าเค้กอย่างไรให้ปังสุด ๆ โดยศิษย์เก่า และเวิร์กช็อป “เค้กป๊อปแสนน่ารัก” โดย Global Food Products x ร้าน K-zy Sweethery ซึ่งสร้างความสนุกสนานและประทับใจแก่ผู้ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก

เลอ กอร์ดอง เบลอ

เชฟเป้ จิรัฎฐ์ จินดามงคล และ เชฟเบนซ์ ศุภวัฒน์ อนันต์นับ สองหนุ่มศิษย์เก่าเจ้าของร้าน Beurre & Boulanger กล่าวในงานว่า “ก่อนหน้านี้เราเคยทำคาเฟ่มาก่อนครับ แต่ตอนนั้นยังไม่มีทักษะอะไรมาก ช่วงที่ปิดร้านเพื่อรีโนเวต เราเลยตัดสินใจมาลงเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เพื่อนำความรู้ไปต่อยอด ตอนแรกก็คิดว่าจะเรียนอะไรมาก แต่เมื่อสัมผัสคุณภาพการเรียนการสอนก็ทำให้ลงเรียนไปทั้งหมดเกือบ 300 เมนู รวมถึงได้ความรู้เรื่องการจัดครัวที่มีประสิทธิภาพซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการบริหารร้าน เพราะร้าน Beurre & Boulanger เป็นแบบครัวเปิด เราอยากให้ลูกค้าเห็นการอบขนมสดใหม่ โดยเฉพาะเมนูแครมบรูเลครัวซองต์ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน การมาเรียนที่นี่จึงทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นในการทำตามความฝันที่เป็นสไตล์ของเราเองครับ”

เลอ กอร์ดอง เบลอ

ร้านเบเกอรีชื่อดังในซอยสุขสวัสดิ์ 30 อย่าง Three Bears Pastry ก็ได้มาร่วมออกบูธในงานนี้ โดย เชฟออย วัชราพรรณ วณิชย์คูพลังกูร เจ้าของร้าน กล่าวว่า “เลอ กอร์ดองเบลอ ดุสิต มีมาตรฐานการสอนโดยเชฟระดับสากล ซึ่งไม่ได้สอนแค่เทคนิคการทำขนมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำงานอย่างมีระบบ ซึ่งเมื่อออยเรียนจบแล้วก็ได้ไปฝึกงานในครัวที่รัสเซียและญี่ปุ่น ถึงแม้เราจะไม่เข้าใจภาษาของเค้ามาก แต่เพราะเราได้เรียนรู้ระบบที่เป็นมาตรฐานสากลมาแล้ว จึงสามารถนำความรู้จากเลอกอร์ดอง เบลอ ไปใช้ในการสื่อสารได้เยอะจริง ๆ ออยดีใจมากที่ได้มาร่วมงานวันนี้ เหมือน Home coming และนำเสนอเมนูที่แนะนำในงานนี้คือ ปังหิมะหมูอบ โดยเราอบหมูกว่า 2 ชั่วโมงจนเปื่อย ขนมปังนุ่มเบา มีหน้าหิมะกรอบ ๆ หอม ๆ เข้ากันมาก และอีกหนึ่งเมนูคือ TB Honey Toast Cup ทานกับไอศกรีมเอิร์ลเกรย์คือดีมาก ๆ ขนมปังหนุบหนับของทางร้านทำเองค่ะ”

เลอ กอร์ดอง เบลอ

เชฟเจน เจนจิรา เลิศวรปรีชา แห่งร้าน Samatea Café กล่าวว่า “แรกเริ่มเราทำขนมเพราะใจรักอยู่แล้ว แต่พอได้มาเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ก็ได้เข้าใจในการทำขนมเชิงทฤษฎีอย่างถ่องแท้ เรียนรู้วิธีสร้างสรรค์ขนมใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดได้เยอะมาก และยังสามารถปรับเปลี่ยนองค์ประกอบหรือหน้าตาของขนมให้ดูน่าสนใจมากขึ้น โดยขนมซิกเนเจอร์ของร้านเราคือ Premium Matcha Banoffee ตัวนี้ก็เคยนำไปออกรายการคุณต๋อยมาแล้ว อีกเมนูก็คือ Matcha Cheesecake นอกจากนั้นก็จะมีเมนูพิเศษที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน ซึ่งไอเดียการคิดเมนูก็ได้จากการเรียนที่นี่ค่ะ การได้มาร่วมงานครั้งนี้จึงดีใจมาก เพราะเป็นพื้นที่ให้ศิษย์เก่าได้มาแสดงสินค้าและแสดงศักยภาพของแต่ละร้าน  ทำให้แต่ละร้านได้รู้จักกันมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้กลุ่มธุรกิจร้านอาหารมีมิตรภาพที่แข็งแกร่งมากขึ้นค่ะ”

เลอ กอร์ดอง เบลอ

นอกจากการเปิดร้านอาหาร บริการเดลิเวอรีหรืออาหารสำเร็จรูปแช่แข็งก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟูในปัจจุบัน เชฟกีส ธรรมเศรษฐ์ บุญศิริ แห่งร้าน ฮ่อยจ๊อปูทะลัก By เชฟกีส คืออีกหนึ่งศิษย์เก่าเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ โดยกล่าวว่า “จุดเริ่มต้นคือเราเคยไปซื้อฮ่อยจ๊อมาเปิดดูแล้วไม่มีปู จึงเริ่มจับ Pain point ตรงนี้มาทำขาย โดยเริ่มต้นแบบเล็ก ๆ คือโพสต์ลงเฟสบุ๊ก แล้วมีคนแชร์โพสต์หลักหมื่น จึงได้เอามาทำขาย ซึ่งเราก็ได้นำความรู้จากเลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต มาใช้มากจริง ๆ ทั้งเรื่องการเตรียมครัว การทำความสะอาด การดูแลจัดการครัว รวมถึงการดูแลตัววัตถุดิบ สิ่งที่ประทับใจคือเชฟผู้สอนชาวฝรั่งเศสมีความเป็นครูสูงมาก ถ่ายทอดเทคนิคทุกอย่างแบบไม่กั๊ก คิดไม่ผิดเลยที่เลือกเรียนที่นี่ อีกข้อหนึ่งคือเครื่องไม้เครื่องมือของโรงเรียนที่ครบครันทันสมัย ทำให้เราได้ลงมือปฏิบัติจริง และมีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อยึดเป็นอาชีพจนทุกวันนี้ การได้มาเปิดบูธในห้างใหญ่ใจกลางเมืองแบบนี้ก็ตื่นเต้นมากครับ และดีใจที่ได้กลับมาเจอเพื่อน ๆ ศิษย์เก่าด้วยกัน”

เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต มีการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยมีการนำความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานเพิ่มเติมในหลักสูตรและเวิร์กช็อปที่เป็นหลักสูตรระยะสั้น เช่น Introduction to Restaurant Start-up เป็นต้น รวมถึงการจัดคลาสปฏิบัติการในรูปแบบจำลอง เป็นการประยุกต์ใช้ความรู้จากภาคทฤษฎีสู่การปฏิบัติจริงในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมฝึกปฏิบัติบริการและปรุงอาหารสำหรับการบริการในห้องอาหารจำลอง เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมต่อการทำงานในโลกธุรกิจปัจจุบันในทุกมิติ

ดูรายละเอียดเกี่ยวกับโรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต ได้ที่ https://www.cordonbleu.edu/thailand/home/th หรือสอบถามข้อมูลที่ E-mail: [email protected] ; LINE: @lecordonbleudusit หรือติดต่อที่ โทร. 02-237-8877

RML

RML จัด Unlock Your Iconic Night เปิดให้ชมคอนโดฯ พร้อมเข้าอยู่

Alternative Textaccount_circle
event
RML
RML

เปิดให้ชมคอนโดฯ พร้อมเข้าอยู่ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ RML จัด ‘Unlock Your Iconic Night’ มอบความสุขกับมินิคอนเสิร์ต และบิ๊กเซอร์ไพรส์ Lucky Draw

RML จัด ‘Unlock Your Iconic Night’ เปิดให้ชมคอนโดฯ พร้อมเข้าอยู่ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ ครั้งแรกพร้อมมอบความสุขกับมินิคอนเสิร์ต ‘นัท มีเรีย’ และบิ๊กเซอร์ไพรส์ Lucky Draw แจกของแบรนด์เนมให้ลูกบ้าน เหล่าเซเลบ-ลูกบ้านร่วมงานล้นหลาม

‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ (Tait Sathorn 12)’ คอนโดฯ ลักชัวรี่ พร้อมเข้าอยู่ เลี้ยงสัตว์ได้ ใจกลางสาทร ที่พัฒนาโดย RML (บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด มหาชน) ผู้นำวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่และอัลตร้าลักชัวรี่ จัดงาน ‘Unlock Your Iconic Night’ เพื่อต้อนรับลูกบ้านโครงการ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว RML อย่างเป็นทางการ โดยมีเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย อาทิ ปอ-ศีกัญญา ศักดิเดช, เล็ก-กรกนก ยงสกุล, จริง-วรางคณา จิตศักดานนท์, กวาง-กุญช์ณิชา (พรประภา) พึ่งบุญพระ, โอ๊ค-อัครรัฐ วรรณรัตน์, จิน-จรินทร์ ธรรมวัฒนะ, ปิ๊ด-คณิศร เปรมประเสริฐ, ออม-ภาวิลาส พงศ์ไพโรจน์, น้ำผึ้ง-จารุวรรณ โชติเทวัญ, เป้-ดร.อัครวัฒน์ ศรีณรงค์, เก๋-ณัฏฐ์ธนิน คุณาธนาฒย์ มาร่วมงานแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมยลโฉมคอนโดฯ ที่เป็นไอคอนิคแลนด์มาร์กใจกลางสาทรเป็นครั้งแรกด้วย นอกจากจะได้ดื่มด่ำกับอาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย แขกผู้มีเกียรติทุกท่านยังได้สนุกกับไฮไลต์ของงานคือมินิคอนเสิร์ตจากนักร้องเสียงคุณภาพ ‘นัท มีเรีย’ รวมทั้งเสียงเพลงจากดีเจชั้นนำที่มาสร้างเสียงเพลงตลอดงาน ปิดท้ายด้วยบิ๊กเซอร์ไพรส์กับกิจกรรม Lucky Draw มอบโชคแจกของรางวัลจากแบรนด์ดังให้กับลูกบ้านคนสำคัญ 

นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML กล่าวว่า “เราได้เนรมิตพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าของคอนโดฯ ไอคอนิคแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางสาทร ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ มาสร้างสรรค์จัดงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ‘Unlock Your Iconic Night’ มอบประสบการณ์ที่แตกต่าง ภายใต้บรรยากาศสุดชิค มีสไตล์ ไม่ซ้ำใคร ให้สมกับคอนเซ็ปต์ ‘Live The Iconic Life’ ที่สุดของการใช้ชีวิตที่แตกต่าง โดยเราตั้งใจจัดงานนี้ขึ้นเพื่อต้อนรับ และแสดงความขอบคุณลูกบ้านคนสำคัญที่มอบความไว้วางใจเป็นเจ้าของโครงการ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ พร้อมๆ ไปกับให้บรรดาเซเลบริตี้ชื่อดังได้ยลโฉมโครงการสร้างแล้วเสร็จที่กวาดรางวัล 3 ปีซ้อนด้านการออกแบบเป็นครั้งแรกอีกด้วย งานนี้นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ดีๆ ที่ RML ตั้งใจมอบให้ และเราจะจัดกิจกรรมสุดพิเศษเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบความสุข สร้างความประทับใจให้กับลูกบ้านคนพิเศษของเรา”

RML

“เทตต์ สาทร ทเวลฟ์นับเป็นความภาคภูมิใจครั้งใหม่ล่าสุดของ RML ซึ่งโครงการออกแบบตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้ครบทุกมิติ จึงทำให้โครงการได้รับความสนใจอย่างดีตั้งแต่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ ปัจจุบันมียอดขายแล้วถึง 97% โดยโครงการได้ทยอยส่งมอบห้องพักอาศัยให้กับลูกบ้านตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งลูกบ้านโอนกรรมสิทธิ์รวดเร็วมาก สะท้อนถึงเสียงตอบรับที่ดี และความไว้วางใจจากลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ RML อย่างล้นหลาม” นายกรณ์ กล่าวเสริม 

‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ เป็นคอนโดมิเนียมลักชัวรี่ ความสูง 40 ชั้น จำนวน 231 ยูนิต ที่ตั้งใจพัฒนาภายใต้แนวคิด ‘Live The Iconic Life – ที่สุดของการใช้ชีวิตอย่างแตกต่างใจกลางสาทร’ ปลดล็อกการใช้ชีวิตที่เหนือระดับ กับความเป็นไอคอนิคไลฟ์หรือสุดยอดชีวิตที่แตกต่าง ผ่าน 3 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ 

  • THE ICONIC LOCATION: ตั้งอยู่ในซอยสาทร 12 ห่างจาก BTS เซนต์หลุยส์เพียง 180 เมตร สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสาทร และถนนสีลม มอบความสะดวกสบายให้การเดินทางของทั้งผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวและ Public Transportation ทั้งยังห้อมล้อมด้วยคาเฟ่ ร้านอาหารชื่อดัง พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนนานาชาติ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน โรงแรม 5 ดาว สถานทูต ฯลฯ นับว่าเป็นทำเลที่ upscale และ happening ที่สุดบนเส้นสาทร-สีลม
  • THE ICONIC DESIGN: แลนด์มาร์คใหม่ของย่านสาทรที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ออกแบบโดยบริษัทสถาปนิกอันดับหนึ่งของไทยอย่าง ‘A49’ และภูมิสถาปัตย์โดย ‘Shma’ ซึ่งอาคารได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะตัวด้วยรูปทรงไล่ระดับ Iconic Slope ลดหลั่นกันลงไปแต่ละชั้นบริเวณยอดอาคาร ดีไซน์โมเดิร์นคมชัดดูสะอาดตาด้วยกระจกบานสูง การันตีคุณภาพงานออกแบบทั้งภายนอกภายใน โดยได้รับรางวัลในด้านงานออกแบบและความเป็นสุดยอดคอนโดฯ ลักชัวรี่ 3 ปีซ้อน ได้แก่ รางวัล Best Luxury Condominium Project จากเวที International Finance Award ในปี 2564 ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่คอนโดฯ ลักชัวรี่ที่มีมาตรฐานระดับอินเตอร์, รางวัล Best Luxury Condo Architectural Design จาก PropertyGuru Thailand Property Awards ในปี 2565 ในฐานะคอนโดฯ ลักชัวรี่ที่มีสถาปัตยกรรมภายนอกยอดเยี่ยม และนวัตกรรมดีไซน์ที่ทันสมัย และล่าสุดปีนี้ได้รับรางวัล Best Exposure Condo จาก Livinginsider Awards  ซึ่งมอบให้แก่คอนโดฯ ที่โดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมภายนอกที่มีรูปทรงสวยงาม  
  • THE ICONIC FACILITIES: เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ มอบประสบการณ์ใช้ชีวิตสุดไอคอนิค ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบครัน ตั้งแต่บริเวณล็อบบี้ รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า 6 ชั้นบนยอดอาคารครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 ตร.ม. ได้แก่
  • ชั้น G:  
  • ด้านหน้าโครงการ บริเวณล็อบบี้ โครงการมี Outdoor Lobby ซึ่งเชื่อมต่อกับสวนด้านหน้าของโครงการ ให้ความรู้สึกเสมือนพักในโรงแรม  
  • ด้านหลังโครงการ พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงและพื้นที่สีเขียว โครงการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกบ้านสามารถนำสัตว์เลี้ยงออกมาเดินเล่นบริเวณนี้ได้ 
  • ชั้น 35: ห้องอาบน้ำ และห้องอบไอน้ำแยกหญิง – ชาย สำหรับพักผ่อน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ให้ผิวสุขภาพดีจากภายใน 
  • ชั้น 36:  
  • สระว่ายน้ำระบบปราศจากคลอรีน ที่มอบวิวเมืองสวย และอยู่ในร่มแบบ Semi Outdoor ไม่ทำให้ผิวเสียทั้งจากแสดแดดตรงและสารเคมี สามารถใช้งานได้ในเวลากลางวัน และด้านข้างสระแบ่งเป็นสระเด็ก และ Jacuzzi ที่ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและความเครียดจากการใช้งานมาตลอดทั้งวัน 
  • เลาจน์สำหรับนั่งพักผ่อน และชมวิวเมือง ที่เปิดรับทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ได้อย่างตระการตา  
  • ชั้น 37:  
  • ห้องแอมพิเธียเตอร์สำหรับชมภาพยนตร์ขนาดใหญ่และจัดกิจกรรม ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของโครงการ เพราะเป็นพื้นที่ที่ถูกดีไซน์เพื่อการรับชมภาพยนตร์ และมอบประสบการณ์แบบ เอ็กซ์คลูซีฟได้ทั้งความเป็นส่วนตัวและความบันเทิงไปพร้อมกัน รวมทั้งห้องนี้ยังสามารถจัดกิจกรรมสังสรรค์กับครอบครัวหรือชวนเพื่อนๆ มาได้ด้วย 
  • เลาจน์สำหรับนั่งอ่านหนังสือ ที่เงียบ สงบ และเป็นส่วนตัว สามารถอ่านหนังสือเล่มโปรด ประชุม หรือทำงานภายใต้บรรยากาศวิวตึกมหานครอันหรูหรา ได้ทั้งวัน 
  • ชั้น 38: ห้องออกกำลังกายอเนกประสงค์พร้อมห้องยิมสตูดิโอที่มีจุดเด่น คือ ออกแบบให้เป็นห้องกระจกเต็มบานรับวิวเมืองได้เต็มสายตา สามารถออกกำลังกายไปด้วยและชมวิวเมืองได้แบบพาโนรามา โดยห้องออกกำลังกาย แบ่งเป็น 2 โซน ช่วยลดความหนาแน่น และมีอุปกรณ์ออกกำลังกายจากแบรนด์อันดับ 1 ของโลกจากอิตาลีอย่าง Technogym ให้เล่นมากกว่า 20 ฟังก์ชั่น นอกจากนี้ ยังมีห้องสตูดิโอ สำหรับให้ครูมาสอนโยคะ ซ้อมเต้น หรือกิจกรรมอื่นๆ ได้  
  • ชั้น 39: ห้องรับประทานอาหาร และจัดกิจกรรมส่วนตัว เหมาะสำหรับจองเพื่อจัดปาร์ตี้หรือเชิญเชฟที่ถูกใจมาทำอาหารร่วมกับครอบครัวและเพื่อนๆ อีกทั้งห้องนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ด้านข้างห้องเพื่อจัดกิจกรรมได้ 
  • ชั้น Rooftop : จุดพักผ่อนชั้นดาดฟ้า ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของย่านสาทร เห็นทั้งวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวเมือง ช่วงเย็นๆ มานั่งกินลมชมวิว เล่นโยคะรับอาทิตย์ยามเช้า หรือจะนอนอาบแดดบริเวณนี้ก็ได้ 
RML

‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ มีห้องหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่เปิดรับกลุ่มคนหลากหลายทั้งคนโสด คู่รัก ไปจนถึงครอบครัวขนาดเล็ก ซึ่งขายหมดไปหลายรูปแบบแล้ว ปัจจุบันเหลือห้องขนาด 1-2 ห้องนอน โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 68 – 118 ตร.ม. ทั้งนี้มีห้องตัวอย่างใหม่ให้ชมบนตึกจริง 2 ห้อง คือ แบบ 1 ห้องนอน ‘ดิ ไอคอนิค สวีท’ ที่มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์สามารถปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย พื้นที่ใช้สอย 68 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นเพียง 17.9 ล้านบาท และแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 79-118 ตร.ม. โดยยูนิต 2 ห้องนอนปัจจุบันที่เหลืออยู่แต่ละห้องมี layout ที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผู้ซื้อจะได้แบบห้องที่มีแบบเดียวในโลก ถือว่าเป็นไอคอนิคไลฟ์แท้จริง และทุกห้องอยู่บนชั้นสูงทั้งหมด มอบวิว ทั้งแบบพาโนรามา หรือ 360 องศา 

มาสัมผัสโครงการที่เป็นแลนด์มาร์กของสาทรได้แล้ววันนี้ นัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่ โทร. 02 029 1888 Line Official @raimonland หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.raimonland.com 

GARMIN เปิดตัว MARQ Carbon ลักซ์ชัวรีวอทช์จากคาร์บอนไฟเบอร์

Alternative Textaccount_circle
event

รังสรรค์อย่างพิถีพิถันจากวัสดุสุดพรีเมียม สู่สมาร์ทวอทช์ดีไซน์หรูหราทันสมัยที่แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา มาพร้อมหน้าจอ AMOLED อัดแน่นด้วยฟีเจอร์

Garmin ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จีพีเอสสมาร์ทวอทช์ระดับโลก เปิดตัว MARQ Carbon Edition ลักซ์ชัวรีวอทช์ 2 คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดที่รังสรรค์ขึ้นจาก Fused Carbon Fiber 130 ชั้น ประกอบด้วย MARQ Athlete และ MARQ Golfer แต่ละรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์เฉพาะตัวอัดแน่น ภายใต้วัสดุพรีเมียมที่คัดสรรอย่างพิถีพิถัน คราฟต์ทุกองค์ประกอบด้วยความชำนาญ สู่นาฬิกาดีไซน์หรูหรา ทันสมัย และทนทาน ใช้งานง่ายด้วยหน้าจอสัมผัส AMOLED สีสันสดใส พร้อมเลนส์กระจกแซฟไฟร์ทรงโดม และแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 16 วัน ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกเป้าหมายการผจญภัยให้กับผู้สวมใส่อย่างแท้จริง

คุณหรรษา อาภานุกูล ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การตลาด การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “MARQ เป็นโมเดลที่สะท้อนการออกแบบอย่างพิถีพิถันและสไตล์ที่เหนือระดับของการ์มินได้อย่างชัดเจน โดยในครั้งนี้กลับมากับคอลเลคชั่น MARQ Carbon ซึ่งได้นำวัสดุคุณภาพชั้นยอดอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ มาดีไซน์เป็นตัวเรือนลายเกลียวสุดพรีเมียมที่มีความแข็งแรงทนทาน ทั้งยังมีน้ำหนักเบา มาพร้อมฟีเจอร์เฉพาะตัวที่ตอบโจทย์การใช้งานของนักกีฬาและนักผจญภัย ผสานฟังก์ชันการทำงานรอบด้านของสมาร์ทวอทช์ สู่ผลลัพธ์สมาร์ทวอทช์คอลเลคชั่นใหม่ที่พร้อมเป็นเพื่อนคู่ใจให้คุณบรรลุทุกเป้าหมายที่ปรารถนา”

ที่สุดแห่งดีไซน์ – The Pinnacle of Design

MARQ Carbon ถือเป็นคอลเลคชั่นที่ถ่ายทอดความปราณีตและพิถีพิถันในการออกแบบผลิตภัณฑ์ของการ์มินได้อย่างชัดเจน โดยคอลเลคชั่นนี้ได้มีการนำวัสดุที่มีลักษณะเฉพาะทางวิศวะกรรมอย่าง Fused Carbon Fiber ใช้เทคนิคการอัดซ้อน 130 ชั้น ผลิตเป็นตัวเรือนขนาด 46 มม. และขอบตัวเรือน ทำให้ MARQ Carbon เป็นคอลเลคชั่น MARQ ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดที่เคยมีมา โดยในขั้นตอนการสร้างตัวเรือน คาร์บอนทุกชั้นจะถูกหมุนให้ได้องศาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับบล็อกตั้งต้น จากนั้นจะนำบล็อกไปผ่านความร้อนและแรงดันเพื่อขึ้นรูปเป็นตัวเรือนนาฬิกา เจียด้วยเครื่องตัดเพชรเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพื่อให้ได้พื้นผิวตัวเรือนลายเกลียวที่สวยงามโดดเด่น แข็งแรงทนทาน และน้ำหนักเบา

สายข้อมือและสายรัดของ MARQ Carbon มีวัสดุให้เลือกทั้ง หนัง FKM ที่มีรูพรุน ไนลอนทอลายแจ็คการ์ด และซิลิโคนที่ผ่านการออกแบบโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก จึงทำให้ MARQ Carbon เป็นคอลเลคชั่นที่ผสานความหรูหราเข้ากับการใช้งานได้อย่างลงตัว ผู้สวมใส่ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จระหว่างการผจญภัย ด้วยแบตเตอรี่ที่มาอายุการใช้งานยาวนานถึง 16 วัน ทั้งยังสามารถชาร์จได้ง่ายและรวดเร็วด้วยเครื่องชาร์จแม่เหล็กซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 100% ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

เผยโฉม MARQ Carbon คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด

GARMIN

MARQ Athlete – Carbon Edition  

MARQ Athlete – Carbon Edition สุดยอดมัลติสปอร์ตสมาร์ทวอทช์ที่มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามเมตริกการฝึกซ้อม เพอร์ฟอร์แมนซ์ และการฟื้นตัวของร่างกาย ให้ผู้สวมใส่พร้อมเผชิญทุกความท้าทาย นอกจากติดตามกิจกรรมในแต่ละวันแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถติดตามกิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบได้โดยเลือกจากโปรไฟล์กีฬาในตัวเครื่อง อาทิ วิ่งเทรล ว่ายน้ำ ปีนเขา พายเรือ ปีนผาในร่ม หรือออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อ (Strength) โยคะ และพิลาทิสตามแอนิเมชั่นบนหน้าปัดนาฬิกาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ติดตามเมตริกขั้นสูงอย่าง Endurance Score และ Hill Score ซึ่งจะช่วยให้นักกีฬาสามารถประเมินภาพรวมความอึดและความสามารถของร่างกายในการวิ่งขึ้นเนินเขา รวมถึงคะแนนความพร้อมของร่างกาย ซึ่งประเมินจากคุณภาพการนอน การฟื้นตัว ปริมาณการฝึกซ้อม และเมตริกอื่นๆ ช่วยในการพิจารณาว่าสภาพร่างกายในวันนี้เหมาะสมกับการออกแรงซ้อมอย่างเต็มที่ หรือควรฝึกซ้อมแบบเบาๆ มากกว่ากัน1 นักวิ่งยังสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งด้วยฟีเจอร์การฝึกซ้อมระดับพรีเมียม อาทิ PacePro, Garmin Coach, คำแนะนำการออกกำลังกายรายวัน, Real-time Stamina และวิดเจ็ตการแข่งขัน

GARMIN

MARQ Golfer – Carbon Edition 

MARQ Golfer – Carbon Edition ช่วยให้นักกอล์ฟเตรียมความพร้อมในการออกรอบได้อย่างมั่นใจ ด้วยข้อมูลสนามกอล์ฟที่โหลดไว้แล้วกว่า 43,000 แห่งทั่วโลก มาพร้อมฟีเจอร์แคดดี้เสมือนจริง (Virtual Caddie) ที่จะคอยให้คำแนะนำการเลือกไม้กอล์ฟ โดยพิจารณาจากทิศทางลม2 ระดับความสูง และข้อมูลวงสวิงของผู้สวมใส่ ชาร์ตการกระจายลูกแบบใหม่ยังแสดงอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นโดยพิจารณาประกอบกับไม้กอล์ฟที่เลือกใช้ ฟีเจอร์ PlayLike Distance ช่วยให้นักกอล์ฟรู้ว่าแต่ละช็อตไปได้ไกลแค่ไหน โดยจะปรับเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงและสภาพแวดล้อม ยังมีฟีเจอร์ Green Contour Data (ต้องเป็นสมาชิก Garmin Golf App) ที่แสดงข้อมูลทิศทางความลาดชัดของแต่ละสนามซึ่งสามารถเลือกได้โดยตรงจากนาฬิกา ช่วยให้นักกอล์ฟวางแผนตีช็อตและพัตต์ลูกได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ แผนที่สนามกอล์ฟยังมีชีวนิเวศที่หลากหลายขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของสนาม และยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมอย่างต้นไม้ หรือเส้นทางรถกอลฟ์ได้อีกด้วย เพื่อช่วยให้นักกอล์ฟเห็นภาพแต่ละหลุมได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

พรีเมียมฟีเจอร์สำหรับทุกคน – Premium Features for All 

ไม่เพียงเท่านั้น MARQ Carbon ยังมาพร้อมฟีเจอร์การนำทาง ฟิตเนส และฟีเจอร์การเชื่อมต่ออย่างครบครัน เพื่อเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ให้กับผู้สวมใส่ โดยฟีเจอร์ต่อไปนี้ พร้อมใช้งานใน MARQ Carbon ทุกรุ่น  

  • ฟีเจอร์การนำทาง ระบบ GPS หลายย่านความถี่ (Multi-band GPS) มาพร้อมเทคโนโลยี SatlQ แผนที่ TopoActive  และแผนที่สกีรีสอร์ทที่โหลดไว้แล้วในเครื่อง การนำทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง (point-to-point navigation) โหมด UltraTrac ฟีเจอร์ Trackback ฟีเจอร์ ClimbPro นอกจากนี้ยังมี Ascent Planner และแผนที่ Outdoor Maps+ (ต้องสมัครสมาชิก) 
  • ฟีเจอร์สุขภาพและฟิตเนส รับ Morning Report คะแนนประสิทธิภาพการนอน (Sleep Score) พร้อมการติดตามการนอนหลับขั้นสูง (Advanced Sleep Monitoring) ในทุกเช้าหลังตื่นนอน ติดตามระดับความเครียดตลอดวัน รวมถึงข้อมูลสุขภาพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ความอิ่มตัวออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox) และระดับพลังงานร่างกาย (Body Battery) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ให้คำแนะนำลดอาการ Jet Lag อีกด้วย 
  • ฟีเจอร์การเชื่อมต่อ ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ2 มาพร้อม Garmin Pay ระบบชำระเงินไร้สัมผัส3 เพิ่มความอุ่นใจในการผจญภัยด้วยฟีเจอร์ตรวจจับเหตุการณ์ (Incident Detection) และขอความช่วยเหลือ (Assistance)4 นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ LiveTrack และพื้นที่จัดเก็บเพลง ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งหรือดาวน์โหลดแอปฯ เพิ่มเติมได้จาก Connect IQ 

MARQ Carbon ทั้ง 2 คอลเลคชั่น พร้อมให้นักกีฬา และนักผจญภัยชาวไทยจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของการ์มินทุกสาขา Garmin MARQ Carbon Athlete ราคา 109,990 บาท และ Garmin MARQ Carbon Golfer ราคา 115,990 บาท ติดตามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://gar.mn/WP8jOE6 หรือที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Garmin Thailand และ อินสตาแกรม Garmin Thailand 

จิม ทอมป์สัน

จิม ทอมป์สัน ฉายมนต์เสน่ห์แห่งผ้าไทยสู่โรงแรมระดับโลก

Alternative Textaccount_circle
event
จิม ทอมป์สัน
จิม ทอมป์สัน

จิม ทอมป์สัน จากสิ่งทออันงดงามที่รังสรรค์ทีละเส้นด้ายอย่างประณีตกับการถักทอจนกลายเป็นผืนผ้าอันสวยงาม แก่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวทั่วโลก

จากสิ่งทออันงดงามที่รังสรรค์ทีละเส้นด้ายอย่างประณีตผสานกับสุนทรียศาสตร์การถักทอจนกลายเป็นผืนผ้าอันสวยงาม แก่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวทั่วโลก นับตั้งแต่โรงแรมชื่อดังริมแม่น้ำเจ้าพระยาในมหานครกรุงเทพฯ สู่ห้องสวีทอันหรูหราของโรงแรมในมหานครชั้นนำระดับโลก ส่งต่อเอกลักษณ์สิ่งทอไทยในการจัดอันดับ

จิม ทอมป์สัน (Jim Thompson) แบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ของเมืองไทย เผยบทบาทสำคัญในการยกระดับความหรูหราการตกแต่งภายในของโรงแรมระดับโลก ซึ่งได้รับการยกย่องจากการจัดอันดับ “The World’s 50 Best Hotels” รวบรวมรายชื่อโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, เดอะ สยาม, โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา, เชอวัล บลังค์ ปารีส, เดอะ ซาวอย ลอนดอน, และ วัน แอนด์ โอนลี่ แมนดารีนา เม็กซิโก ซึ่งที่พักชั้นนำเหล่านี้ล้วนได้รับการออกแบบและตกแต่งด้วยผลิตภัณฑ์ผ้าตกแต่งของจิม ทอมป์สัน และได้กระแสชื่นชมถึงความประณีตงดงามอย่างเหนือระดับ สอดรับกับบรรยากาศการพักผ่อนอันหรูหราบนมาตรฐานบริการระดับโลกอย่างแท้จริง

จิม ทอมป์สัน

ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ จิม ทอมป์สัน ในฐานะผู้นำแห่งผ้าไหมไทยที่ยากจะมีแบรนด์ใดเทียบเคียง ผ่านความทุ่มสร้างสรรค์งานฝีมือที่บูรณาการตลอดทุกกระบวนการ ตั้งแต่การผลิตเส้นด้ายไปจนถึงการออกแบบ การทอ การพิมพ์ และการปรับปรุงคุณภาพของเนื้อผ้า จึงมั่นใจได้ถึงความทนทานและความสวยงามหรูหราในทุกเส้นใย “เรามีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ผ้าและสิ่งทอตกแต่งบ้านประสิทธิภาพสูงสำหรับธุรกิจโรงแรม ที่พักทุกรูปแบบ ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาคุณภาพและการออกแบบที่เหนือชั้น ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ไว้อย่างสมบูรณ์” ศัษยา เวชาเนน ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มธุรกิจสินค้าตกแต่งบ้านของจิม ทอมป์สัน กล่าว

จิม ทอมป์สัน

ด้วยความพยายามร่วมกันและความมุ่งมั่นของแผนกต่าง ๆ ทำให้จิม ทอมป์สัน สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สิ่งทอตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละโครงการได้อย่างครบถ้วน ครอบคลุมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าบุผนังที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุด ซึ่งจิม ทอมป์สัน สามารถผลิตสิ่งทอที่สอดคล้องตามมาตรฐานเหล่านั้น โดยไม่กระทบต่อรูปลักษณ์และเนื้อสัมผัสอันหรูหรา โดยอาศัยความเชี่ยวชาญขั้นสูงในการสร้างสรรค์สิ่งทอที่งดงามได้อย่างกลมกลืน

จิม ทอมป์สัน

นับตั้งแต่บริเวณโถงทางเดินที่กรุ่นกลิ่นอายประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 147 ปีของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ไปจนถึงโรงแรมกลางเมืองอย่าง เดอะ สยาม ซึ่งโดดเด่นด้วยบ้านไม้สักไทยเก่าแก่ Connie’s Cottage ผลิตภัณฑ์ผ้า จิม ทอมป์สัน ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างบรรยากาศที่หรูหราอย่างเหนือชั้นและโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อันงดงามริมแม่น้ำ โดยทั้งสองแห่งนี้นำเสนอเอกลักษณ์ของผ้าจิม ทอมป์สัน ได้อย่างชัดเจน ชูศิลปะและความประณีตของผ้าไหมไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของลูกค้าต่างชาติที่เดินทางมาจากทั่วโลก ไม่ใช่เพียงในประเทศไทยแต่ยังได้รับการยอมรับจากโรงแรมระดับสากลอย่าง เชอวัล บลังค์ ปารีส มอบบริการพักผ่อนอันเงียบสงบพร้อมทิวทัศน์เมืองแบบพาโนรามา ก็ได้รับการตกแต่งด้วยผ้าของจิม ทอมป์สัน เช่นกัน ในขณะที่ เดอะ ซาวอย ลอนดอน ซึ่งมีชื่อเสียงด้านมาตรฐานการต้อนรับระดับสูงมานานนับศตวรรษของมหานครลอนดอน ก็ให้ความไว้วางใจ ใช้ผ้าของจิม ทอมป์สัน มาเป็นส่วนหนึ่งในการตกแต่งสถานที่ อีกหนึ่งโรงแรมที่โด่งดังจากทัศนียภาพที่แสนมหัศจรรย์อย่าง วัน แอนด์ โอนลี่ แมนดารีนา เม็กซิโก ทำให้แขกจะได้ดื่มด่ำไปกับภูมิประเทศที่มีชีวิตชีวาของริเวียร่า นายาริต ที่มีทั้งป่าฝนเขียวชอุ่มเคียงคู่หาดทรายขาว ก็ได้รับการยกระดับบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอันหรูหราด้วยผ้าจิม ทอมป์สัน ด้วยเช่นกัน

จิม ทอมป์สัน

จิม ทอมป์สัน ร่วมงานกับสถาปนิกและนักออกแบบระดับแนวหน้าของโลกมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่การตกแต่งโรงแรมระดับหรูไปจนถึงเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวและซุปเปอร์ยอร์ช โดยยึดมั่นในมรดกทางภูมิปัญญาและการพัฒนานวัตกรรมที่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ แบรนด์ยังร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจโรงแรมที่พักระดับโลกมากมาย จนสร้างชื่อเสียงอันโด่งดังให้แก่จิม ทอมป์สัน ในฐานะพันธมิตรสิ่งทอผ้าตกแต่งและผ้าบุที่หรูหราและงดงามเป็นเอกลักษณ์หาเทียบได้ยาก

โรงแรมคอนราด

โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ จัดกิจกรรม “ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่”

Alternative Textaccount_circle
event
โรงแรมคอนราด
โรงแรมคอนราด

ร่วมฉลองเทศกาลแห่งความสุขกับกิจกรรม “ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่” ตลอดเดือนธันวาคมนี้ ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

สัมผัสประสบการณ์อาหารจีนกวางตุ้งและอาหารญี่ปุ่นเลิศรส ดื่มด่ำบรรยากาศอันแสนรื่นรมย์และอาหารค่ำประจำเทศกาลคริสต์มาส จิบน้ำชายามบ่ายภายใต้คอนเซ็ปต์ “เที่ยวรอบโลก” และร่วมงานปาร์ตี้นับถอยหลังสู่วันปีใหม่

ต้อนรับลมหนาวและฉลองเทศกาลแห่งความสุข ณ “โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ” (Conrad Bangkok) พร้อมส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขและเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยกิจกรรมอันน่าประทับใจตลอดเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566

ดิโพลแมท บาร์

สัมผัสประสบการณ์จิบน้ำชายามบ่าย รังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยเชฟ  ”ไรอัน ดาดูฟาลซ่า” (Ryan Dadufalza) เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟของโรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ที่ได้นำแนวคิด “การออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก” (Around the World) มาผสมผสานกับวัตถุดิบพรีเมี่ยมอย่าง“สตรอว์เบอร์รี” เพื่อส่งมอบความอร่อยในช่วงเวลาแห่งความสุขให้กับทุกท่านได้ลิ้มลอง พบเอกลักษณ์แห่งรสชาติของอาหารและขนมหวานซิกเนเจอร์จากหลากหลายประเทศทั่วโลกไปพร้อมๆ กัน

โรงแรมคอนราด

ชุดน้ำชายามบ่าย “สตรอว์เบอร์รี ไฮที”

  • 12.00 น. – 17.30 น.
  • ราคา 1,500++ บาท สำหรับ 2 ท่าน
  • เมนูเด่น เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่ม ชา และกาแฟสูตรพรีเมี่ยม

ห้องอาหาร หลิว

ขอเชิญพบกับเมนูติ่มซำและอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งสูตรต้นตำรับ ของเอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟชาวฮ่องกง “แอนดี้ ฟุง” (Andy Fung) ณ ห้องอาหารหลิว โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ที่ได้นำเสนอความอร่อยตลอดเดือนธันวาคมนี้

โรงแรมคอนราด

บุฟเฟต์ติ่มซำมื้อกลางวัน แบบกินไม่อั้น

  • 11.30 น. – 14.30 น.
  • ราคาท่านละ 1,180++ บาท (วันจันทร์-วันศุกร์)
  • ราคาท่านละ 1,280++ บาท (วันเสาร์-วันอาทิตย์)

อิ่มอร่อยกับติ่มซำนานาชนิดกว่า 30 รายการ พร้อมอาหารซิกเนเจอร์จานเดี่ยวที่สลับสับเปลี่ยนทุกสัปดาห์ อาทิ เกี๊ยวกุ้งทอดกรอบซอสเปรี้ยวหวาน สลัดผลไม้กับหอยเชลล์ทอดเกล็ดขนมปัง ซุปไก่ตุ๋นเครื่องยาจีน ซุปซี่โครงหมูกระเทียมดำหัวไชเท้า ปลาซาบะย่างซอสกงโปว์ ปลาหิมะนึ่งวุ้นเส้นเห็ดรวมกับซอสบ๊วย โจ๊กหมูไข่เยี่ยวม้า โจ๊กไก่ไข่เค็ม เป็ดปักกิ่งและเป๋าฮื้อน้ำมันหอย มะม่วงพุดดิ้ง และสาคูฟักทองกะทิและส้มโอ เป็นต้น

อาหารค่ำมื้อพิเศษในวันคริสต์มาสและวันส่งท้ายปีเก่า

24, 25 และ 31 ธันวาคม 2566 อาหารชุด 8-คอร์ส ราคา 6,888++ เหมาะสำหรับการรับประทานได้ 4 ท่าน รายการอาหารประกอบด้วย กุ้งทอดครีมสลัด ซุปเป๋าฮื้อกระเพาะปลาและเห็ดหอม เป็ดปักกิ่งสไตล์ฮ่องกง ผัดบรอกโครีปลาหมึกและหน่อไม้ทะเลในซอส XO หมูกรอบซิกเนเจอร์ ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว ข้าวผัดไข่ขาวเนื้อปู กังป๋วยและไข่กุ้ง และสาคูมะม่วงส้มโอ

ห้องอาหาร คิซาระ

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น ห้องอาหารคิซาระ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ขอเสนอประสบการณ์รับประทานอาหารสไตล์ไคเซกิ ที่ถ่ายทอดความอร่อยของรสชาติอาหารสูตรต้นตำรับ ผ่านการนำเสนอแบบร่วมสมัยไว้อย่างลงตัว เชฟให้ความใส่ใจในการปรุงอาหารทุกจาน พิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และให้ความสำคัญกับทุกๆ ขั้นตอนแม้แต่การจัดแต่งจานก่อนนำออกเสิร์ฟให้กับทุกท่าน

โรงแรมคอนราด

อาหารชุด KiSara Signature Winter Gozen

  • ราคาท่านละ 1,580++ บาท

รายการอาหารชุดประกอบด้วย ไข่ตุ๋น กุ้งและผักทอดเทมปุระ ซูชิบอล 5 ชนิด ซุปมิโซะ ลันช์เพลทที่ประกอบด้วยอาหาร 4 ชนิด คือ ซาชิมิ อาหารจานย่าง สลัดผัก และสตูว์หมู ก่อนปิดท้ายด้วยผลไม้ตัดแต่ง

อาหารชุด KiSara Winter Dinner Kaiseki

  • ราคาท่านละ 3,800++ บาท

รายการอาหารชุดประกอบด้วย อาหารเรียกน้ำย่อยจานรวม 3 ชนิด ซาชิมิ ล็อบสเตอร์ย่าง เนื้อออสเตรเลีย A4 ย่าง สไตล์เทปันยากิ ปลาทอดเทมปุระ ข้าวหน้าปลาดิบหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ชิราชิซูชิ” ซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมของคนญี่ปุ่น และจะทำกินที่บ้านในวันพิเศษต่างๆ ก่อนปิดท้ายด้วยไอศกรีม

อิ่มอร่อยกับโปรโมชั่น “Winter Delights” ทั้ง 2 รายการข้างต้นได้ทุกวันตลอดเดือนธันวาคมนี้ มื้อกลางวัน เวลา 11.30 น. – 14.30 น. และมื้อเย็น เวลา 18.00 น. – 21.30 น.

ห้องอาหาร Café@2

โรงแรมคอนราด กรุงเทพ เนรมิตห้องอาหาร Café@2 ให้เต็มไปด้วยบรรยากาศของงานเลี้ยงฉลองส่งท้ายปี “คริสต์มาส อีฟ และ นิวเยียร์ อีฟ ดินเนอร์” ในวันที่ 24 และ 31 ธันวาคม 2566 เวลา 18.00 น. – 22.00 น. พร้อมนำเสนออาหารตามธรรมเนียมนิยมของเทศกาลคริสมาสต์ อาหารทะเลสไตล์ “ซีฟู้ด ออน ไอซ์”และอาหารนานาชาติประจำเทศกาลปีใหม่หลากหลายรายการ

อิ่มอร่อยกับอาหารยอดนิยมจากห้องอาหารหลิวและห้องอาหารคิซาระ มุมโคลด์คัทและชีสพรีเมี่ยม และซุ้มอาหารนานาชนิดที่มีเชฟยืนประจำการและปรุงขึ้นสดใหม่แบบ “จาน-ต่อ-จาน” เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะพรีเมี่ยมนำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมเสิร์ฟสไตล์บาร์บีคิว เมนูไก่งวงตามเทศกาล และปลาแซลมอนตัวใหญ่ยักษ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีมุมอาหารอิตาเลี่ยนอย่าง “ริซอตโต” ซอสเห็ดทรัฟเฟิล ซุ้มอาหารไทย ขนมหวาน และไอศกรีม ตลอดจนกิจกรรมและเกมส์สำหรับเด็ก เพื่อลุ้นรับของขวัญประจำปีติดไม้ติดมือกลับบ้าน

โรงแรมคอนราด

คริสมาสต์ อีฟ และนิวเยียร์ อีฟ ดินเนอร์ 24 และ 31 ธันวาคม 2566

  • ราคาท่านละ 2,200++ บาท สำหรับผู้ใหญ่
  • ราคาท่านละ 1,100++ บาท สำหรับเด็ก

แพ็กเกจเครื่องดื่มแบบเติมไม่อั้น ราคาเริ่มต้นที่ท่านละ 588++ บาท สำหรับเบียร์ และท่านละ 888++ บาท สำหรับไวน์

ร่วมกิจกรรมนับถอยและก้าวเข้าสู่ปี พ.ศ. 2567 ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ

หลังจากรับประทานอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว ขอเชิญทุกท่านร่วมเฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ร่วมกัน ณ ดิโพลแมท บาร์ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป

โรงแรมคอนราด กรุงเทพ ขอเสนอปาร์ตี้ “Glitz & Glam” หรูหราและคลาสสิก พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศและการแสดงดนตรีสดของวง Elevate Band ที่พร้อมมอบความสุข เสียงหัวเราะ และภาพความประทับใจ ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นกันเองตลอดค่ำคืน

ท่านสามารถซื้อคูปองเข้าร่วมงาน Countdown Party ราคาท่านละ 2,024++ บาท ได้ล่วงหน้าแล้ววันนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองโต๊ะได้ที่ โทร. 02 690 9999 หรืออีเมล [email protected]

OPPO

OPPO Zero-Power Tag ได้รับรางวัล Best Inventions of 2023

Alternative Textaccount_circle
event
OPPO
OPPO

OPPO Zero-Power Tag ได้รับรางวัล Best Inventions of 2023 จากนิตยสาร TIME ในประเภทการทดลอง พร้อมมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน

Zero-Power Tag ของ OPPO ได้รับรางวัล TIME’s list of Best Inventions for 2023  ในประเภทการทดลอง ส่งผลให้ OPPO เป็นหนึ่งในบริษัทอย่าง Apple, Samsung และ Sony ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติในด้านสิ่งประดิษฐ์  ในทุกปี TIME ได้มีการประกาศรางวัลผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และบริการที่กำลังแก้ไขปัญหาที่น่าสนใจด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ ผลลัพธ์ที่ได้คือรายการสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำ 200 ชิ้นที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การทำงาน การเล่น และความเป็นไปได้ต่างๆ ในหมวดการทดลอง การได้รางวัลของ OPPO Zero-Power Tag ช่วยเพิ่มชื่อเสียงระดับนานาชาติของ OPPO ในด้านความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและการคิดแบบใหม่ และตอกย้ำถึงแนวทางใหม่สู่โลกที่ยั่งยืนซึ่งอุปกรณ์ IoT จะไม่สร้างแบตเตอรี่ที่ก่อให้เกิดมลพิษ

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการรวมอยู่ในรางวัล Best Inventions of 2023 ของ TIME สำหรับ OPPO Zero-Power Tag เพื่อเป็นการยกย่องความสำเร็จของเราในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน” Elvis Zhou, OPPO Overseas CMO กล่าว “ในขณะที่การเปลี่ยนไปใช้ B5G/6G เร็วขึ้น ก็มีความท้าทายในการขยายการเชื่อมต่อ IoT โดยไม่ทำให้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในโลกของเรารุนแรงขึ้น เกิดจากวิสัยทัศน์ของ OPPO ในการต้องการผสมผสานความสะดวกสบายและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม OPPO Zero-Power Tag เป็นอุปกรณ์ IoT ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ด้วยการใช้พลังงานโดยรอบแทนแบตเตอรี่ ด้วยการติดตามวัตถุ การตรวจสอบสภาพแวดล้อม และฟีเจอร์อัจฉริยะอื่นๆ เรารู้สึกตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ที่จะปลดล็อคพื้นที่ในการใช้งาน IoT และในอนาคตข้างหน้า OPPO จะยังคงมีส่วนร่วมในด้านความยั่งยืนและพัฒนาความคิดริเริ่มที่เป็นนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป”

ที่งาน MWC 2023 OPPO ได้เปิดตัวอุปกรณ์ต้นแบบ IoT ไร้แบตเตอรี่เครื่องแรกของบริษัท นั่นคือ OPPO Zero-Power Tag ซึ่งขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีการสื่อสารแบบ Zero-Power ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีหลักๆ เช่น การเก็บเกี่ยวพลังงาน RF การกระเจิงกลับ และการประมวลผลพลังงานต่ำ Tag นี้สามารถเก็บเกี่ยวพลังงานได้โดยตรงจากสัญญาณ Bluetooth, WiFi และโทรศัพท์มือถือ ทำให้ได้ข้อดีหลายอย่างเช่น ขนาดที่เล็กลง ความทนทานที่ดีขึ้น ระยะสัญญาณที่มากขึ้น และต้นทุนที่ต่ำกว่า 

ขณะนี้ OPPO อยู่ระหว่างการพัฒนาการออกแบบ เทคโนโลยี และมาตรฐานอุตสาหกรรมของอุปกรณ์ พร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การตรวจติดตามสุขภาพ เพื่อขยายแอปพลิเคชันของอุปกรณ์ไปยังสาขาต่างๆ มากขึ้น บริษัทเชื่อว่าวันหนึ่ง OPPO Zero-Power Tag จะสามารถป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่นับล้านถูกฝังกลบ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ชีวิตของผู้บริโภคและธุรกิจมีความชาญฉลาดและง่ายยิ่งขึ้น

ความยั่งยืนเป็นองค์ประกอบหลักในการดำเนินธุรกิจและการออกแบบผลิตภัณฑ์ของ OPPO มายาวนาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 OPPO ได้เผยแพร่รายงาน OPPO Climate Action Report โดยได้รับการสนับสนุนจาก Deloitte ที่ปรึกษาระดับโลก ในรายงาน OPPO ให้คำมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี 2050 และสรุปประเด็นสำคัญ 5 ประการในการบรรลุเป้าหมายนี้ ได้แก่ การผลิตที่มีคาร์บอนต่ำ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์ การลงทุนในตัวเลือกที่สร้างคาร์บอนน้อยลง ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอน และความร่วมมือด้านมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในปีนี้ OPPO Battery Health Engine ได้รับรางวัล SEAL Business Sustainability Award ประจำปี 2023 และด้วยนวัตกรรมดังกล่าว ทำให้ OPPO ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิกในปี 2023 โดย Fast Company สื่อธุรกิจที่ทรงอิทธิพล ในการแข่งขัน OPPO Inspiration Challenge ปี 2023 OPPO ได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ “Inspiration for the Planet” เพื่อยกย่องนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และดึงดูดข้อเสนอโครงการมากกว่า 280 รายการจากสตาร์ทอัพทั่วโลก ครอบคลุมตั้งแต่วัสดุเลียนแบบชีวภาพไปจนถึงการจัดเก็บพลังงานที่ยั่งยืนและปลอดภัย

ด้วยความปรารถนาสำหรับอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับทุกคน OPPO จะยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นผ่านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

ซันโทรี่

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ผนึกกำลังพันธมิตรขับเคลื่อน จัดการบรรจุภัณฑ์

Alternative Textaccount_circle
event
ซันโทรี่
ซันโทรี่

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ผนึกกำลังพันธมิตร จัดการบรรจุภัณฑ์แบบ Closed-Loop ผ่านโครงการ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่

บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย ตอกย้ำนโยบายการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน (Sustainable Packaging Management) โดยล่าสุดจับมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ จังหวัดระยองบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC), บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO) และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนจังหวัดระยองเพื่อนำร่องส่งเสริมการคัดแยกขวดพลาสติก PET ใช้แล้ว และเก็บกลับมารีไซเคิลเป็นขวดใหม่ ส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศไทย ผ่านโครงการ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่” ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

โครงการ “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่” รณรงค์ให้คนระยองคัดแยกขวดพลาสติก PET ใช้แล้วโดยปูพรมตั้งถังแยกขวดพลาสติก PET เพื่อการรีไซเคิล ตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดระยอง อาทิ สถานที่ราชการ สถานศึกษา พื้นที่สาธารณะ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลรยอง รวมถึงร้านอาหารที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 220 ถัง หลังจากนั้นจะดำเนินการเก็บกลับขวดพลาสติก PET ใช้แล้วโดยอาสาสมัครชุมชน และแพลตฟอร์มจัดการพลาสติกใช้แล้ว “GC YOUเทิร์น” ที่สำคัญ ขวดพลาสติก PET ที่คัดแยกอย่างดี จะถูกส่งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่โรงงานเอ็นวิคโค ซึ่งเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลเกรดอาหารคุณภาพสูง เพื่อหมุนเวียนกลับมาผลิตเป็นขวดพลาสติก  รีไซเคิลหรือที่เรียกกันว่า ขวด rPET ซึ่งแน่นอนว่าสะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน อย. โครงการนี้จึงถือว่าเป็นต้นแบบ Closed-Loop ของการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัดระยองอย่างแท้จริง

ซันโทรี่

นางสาววิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ว่า “หลังจากที่บริษัทฯ ประกาศใช้ขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% (ขวด rPET 100%) เป็นเจ้าแรกในตลาดเครื่องดื่มไทย บริษัทฯ จึงเดินหน้าส่งเสริมการคัดแยกขวดพลาสติก PET ใช้แล้วอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อรีไซเคิลหมุนเวียนกลับมาเป็นขวดใหม่ หรือที่เรียกว่า ‘Bottle-to-Bottle Recycling’ พร้อมกันนี้ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความพร้อมและศักยภาพของจังหวัดระยองในการเป็นจังหวัดนำร่องจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน เพราะปัจจุบันจังหวัดระยองเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีทั้งผู้ผลิตสินค้า ผู้จัดจำหน่าย ผู้บริโภค ผู้คัดแยก และโรงงานรีไซเคิล ครบตามห่วงโซ่ของบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม สามารถนำขวดพลาสติก PET ใช้แล้วมารีไซเคิลหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างครบวงจร ที่สำคัญโรงงานที่เป็นฐานการผลิตใหญ่ของบริษัทฯ ก็ตั้งอยู่ในจังหวัดระยองด้วย บริษัทฯ จึงร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนดำเนินโครงการ ‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่’ ผนึกกำลังเพื่อเก็บกลับและรีไซเคิลขวดพลาสติก PET ใช้แล้วให้ได้มากยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อน ‘ระยอง’ เป็นจังหวัดนำร่องจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน”

นายธีรพันธ์ ศิริปักมานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาท้องถิ่น ตัวแทนจังหวัดระยอง กล่าวว่า “โครงการ‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่’ เป็นโครงการที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาจังหวัดระยอง เพราะไม่เพียงแต่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับจังหวัดระยองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ยังช่วยส่งเสริมให้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในจังหวัดระยองมีประสิทธิภาพ เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตามนโยบายของทางรัฐบาลอีกด้วย ผมจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โครงการดีๆ เช่นนี้ปักหมุดที่จังหวัดระยองเป็นแห่งแรก และขอเชิญชวนพี่น้องชาวระยอง คัดแยกขวดพลาสติก PET ใช้แล้ว รวบรวมนำไปใส่ในถังแยกขวดพลาสติก PET เพื่อการรีไซเคิล ของทางโครงการฯ ที่ตั้งกระจายไปทั่วจังหวัด”

ซันโทรี่

ด้าน ดร.ชญาน์ จันทวสุ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานความยั่งยืนองค์กร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GC) กล่าวว่า“GC มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยหลัก ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) และเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ด้วยความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero GC ลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลล้ำสมัย ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน สำหรับการผนึกกำลังกับซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ในครั้งนี้ เราได้นำอาสาสมัครชุมชนที่เข้าอบรมเรื่องการคัดแยกขยะ และนำแพลตฟอร์ม ‘GC YOUเทิร์น’ เข้ามาช่วยบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วอย่างครบวงจร ตั้งแต่การคัดแยก จัดเก็บ ขนส่ง ไปจนถึงการนำพลาสติกใช้แล้วกลับมารีไซเคิลผ่านโรงงานเอ็นวิคโค สร้างความมั่นใจให้กับขวดพลาสติก PET ใช้แล้วทุกขวดที่ชาวระยองตั้งใจคัดแยก จะได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม เพื่อนำไปผลิตเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ภายใต้แบรนด์อินโนอีโค (InnoEco) ที่สะอาด ปลอดภัย ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลทั้งจากอเมริกา (USFDA) ยุโรป (EFSA) และมาตรฐาน อย. ไทย

นายกิตติพงษ์ สิปิยารักษ์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนา ‘เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม’ ให้ดำเนินไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งแต่ละโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เราเข้าร่วมเป็นพันธมิตร ดำเนินงานบนหลักการที่สามารถสร้างคุณค่าที่แท้จริงและตอบโจทย์ความต้องการของสังคมได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมโครงการ ‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่’ โดยสนับสนุนพื้นที่ตั้งถังแยกขวดพลาสติก PET ใช้แล้วในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยองของเรา เพื่อรณรงค์ให้ลูกค้าคัดแยกขวดพลาสติก PET ใช้แล้ว และเราจะส่งมอบขวดให้แก่กลุ่มอาสาสมัครชุมชน เพื่อส่งต่อให้กับบริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO) เพื่อรีไซเคิลเป็นขวดใหม่ต่อไป”

“โครงการฯ ในจังหวัดระยองนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ที่ใส่ใจตั้งแต่ต้นทางคือ การออกแบบบรรจุภัณฑ์และเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การสื่อสารประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี รวมถึงการดำเนินโครงการเก็บกลับขวดพลาสติก PET ใช้แล้วให้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้ได้มากยิ่งขึ้น ถือได้ว่าเป็นการดำเนินงานตามหลักการ ‘Extended Producer Responsibility’ (EPR) โดยขยายความรับผิดชอบของบริษัทฯ ให้ครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตของบรรจุภัณฑ์ และบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าจับมือกับทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นได้จริงในประเทศไทย” นางสาววิภาวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

ANTA

ANTA บุกตลาดไทย เปิดสาขาแรกอย่างยิ่งใหญ่ กลางเซ็นทรัลเวิลด์

Alternative Textaccount_circle
event
ANTA
ANTA

ANTA จับมือกับศิลปินชาวไทยเพื่อส่งมอบสโตร์สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย เปิดตัวสโตร์แรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ANTA (อันท่า) แบรนด์อุปกรณ์กีฬาชั้นนำของโลก เปิดตัวสโตร์แรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร  นับเป็นจุดหมายสำคัญในการเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ANTA สโตร์แรกนี้ถูกออกแบบโดยผสมผสานวัฒนธรรมไทยผ่านงานศิลปะและกีฬา โดยได้ นภา วีระธรรมวิวัฒน์ ศิลปินกราฟฟิตี้ชาวไทยมาร่วมรังสรรค์ผลงานในร้านเพื่อดึงความเป็นไทยร่วมสมัยให้ออกมาสู่แบรนด์ระดับโลก  นอกจากนี้ ANTA ยังมุ่งมั่นที่จะร่วมมือและเติบโตคู่ไปกับคอมมิวนิตี้กีฬาในไทยผ่านการจับมือกับ SWISH บาสเก็ตบอลคอมมิวนิตี้ชื่อดังของไทยที่จะมาร่วมส่งต่อโปรแกรมการฝึกสกิลบาสเก็ตบอลภายในงาน อีกทั้งยังได้ ติ๊นา – ศุภนาฎ จิตตลีลา มาร่วมออกแบบโชว์ครั้งแรกในฐานะ Creative Director และ Stylist แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของ ANTA พร้อมเฉลิมฉลองวัฒนธรรม กีฬา และสไตล์ของประเทศไทย
ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา  ANTA ถือเป็นผู้เล่นแถวหน้าของวงการอุปกรณ์กีฬา ทั้งในแง่ของการออกแบบ การพัฒนาสินค้า การผลิต และการตลาดในทุกสินค้าของ ANTA ตั้งแต่เครื่องแต่งกายจนถึงรองเท้า การเปิดสโตร์แรก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นับเป็นกลยุทธ์ที่จะเสริมทัพตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการเล่นกีฬาที่โดดเด่น และตลาดการค้าปลีกที่เติบโต ทำให้เป็นโอกาสที่ดีของ ANTA ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่เคยซื้อสินค้าของ ANTA ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยตอนนี้ ANTA พร้อมให้พวกเขาได้สัมผัสสินค้าภายในร้านและเต็มอิ่มกับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ไม่เหมือนใคร

ANTA

ANTA ส่งต่อแคมเปญ “Let’s Go” สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพื่อเฉลิมฉลองการเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ANTA ส่งต่อแคมเปญ “Let’s Go”  แคมเปญที่ออกแบบมาเพื่อผลักดันผู้คนในภูมิภาคให้ #KeepMoving  ก้าวต่อไป ทั้งในด้านกีฬาและในชีวิตประจำวันไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในจุดไหนในชีวิตก็ตาม โดย ANTA ตระหนักดีว่าพลังแห่งการขับเคลื่อนคือพื้นฐานสำคัญของประสบการณ์มนุษย์ และเป็นพลังที่พาผู้คนไปสู่เป้าหมาย ชนะทุกความท้าทาย และโอบรับทุกการผจญภัยใหม่ ๆ แคมเปญ #LetsGo จึงตอกย้ำสปิริตของนักสู้ด้วยแนวคิดแบบ “Keep moving” ไปกับ ANTA ที่มองว่าหัวใจของกีฬาไม่ได้อยู่แค่ที่ผลลัพธ์ แต่อยู่ที่มิตรภาพและการเติบโตระหว่างทาง

“เรามีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวสโตร์แรกของเราที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ตอกย้ำจุดยืนของเราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเทศไทยที่มีวัฒนธรรมกีฬาที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์” Gavin Lum (แกวิน ลัม), Regional Brand Marketing Director จาก Anta Group of Brands South East Asia กล่าว “เราได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมกีฬาในประเทศไทย ทำให้เราอยากก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับคอมมิวนิตี้เพื่อตอกย้ำ #LetsGo สปิริตในประเทศไทย สโตร์ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์นี้จะเป็นสวรรค์ของเหล่าผู้คนที่รักในกีฬา ด้วยเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์กีฬาของเรา บวกกับพนักงานที่พร้อมด้วยความรู้และประสบการณ์ที่จะช่วยแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา เพื่อช่วยให้พวกเขาเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด”

ANTA

ANTA สโตร์แรกของประเทศไทยนี้จะตั้งอยู่ที่ชั้นสาม โซน Beacon ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยพื้นที่กว่า 230 ตารางเมตร ANTA ตั้งเป้าให้ที่นี่เป็นหมุดหมายของเหล่าผู้คนที่รักกีฬา นักกีฬา และบุคคลทั่วไปที่สนใจในเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา โดยสินค้าภายในร้านครอบคลุมตั้งแต่ รองเท้าวิ่งรุ่นล่าสุดอย่าง G21 lite และรองเท้าบาสเก็ตบอล Shockwave 5 Pro (รับรองคุณภาพโดยนักกีฬา NBA อย่าง Kyrie Irving) พร้อมด้วยเสื้อผ้า รองเท้า และไอเท็มในการออกกำลังกายอีกมายมายที่พร้อมให้ทุกคนเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด

ห้ามพลาด ! กับการเปิดตัวสโตร์แรกของ ANTA ในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จัดเต็มกับกิจกรรมมากมายตลอดวัน ร่วมชมบาสเก็ตบอลเรืองแสงของไทยครั้งแรก สัมผัสสินค้าล่าสุดจาก ANTA  อย่าง รองเท้ารุ่น Shockwave 5 Pro และรับโปรโมชั่นพิเศษในโอกาสการเปิดร้านแบบจัดเต็ม ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับก้าวสำคัญนี้ และ #KeepMoving ไปกับ  ANTA

อยากเห็นคนไทยออกวิ่ง

สสส. อยากเห็นคนไทยออกวิ่งสู่ชีวิตใหม่ไปด้วยกัน Ready to Move On

Alternative Textaccount_circle
event
อยากเห็นคนไทยออกวิ่ง
อยากเห็นคนไทยออกวิ่ง

สสส. อยากเห็นคนไทยออกวิ่ง กระตุ้นการมีกิจกรรมทางกายของคนไทย ผลักดันการมีกิจกรรมทางกาย ผ่านแคมเปญวิ่งสู่ชีวิตใหม่ไปด้วยกัน Ready to Move On

ในปัจจุบันจากตัวเลขสถิติปี 2565 ร้อยละของการมีกิจกรรมทางกายของประชากรไทย แสดงให้เห็นว่ากว่า ร้อยละ 38 ยังมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ มีเพียงร้อยละ 62 ที่มีกิจกรรมทางกายเพียงพอ  จึงเป็นที่มาที่ สสส. และภาคีเครือข่ายอยากสนับสนุนให้คนไทยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มสูงขึ้นๆ โดย สสส. เชื่อว่า การวิ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง และสามารถทำได้ทุกที่

สสส. และ Thai Health Day Run เชื่อว่าการออกวิ่งสามารถนำพาคนที่ออกวิ่งไปสู่การสร้างวิถีชีวิตใหม่ได้ทั้งด้านร่างกาย และการใช้ชีวิต ทางด้านร่างกายการวิ่งช่วยสร้างเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น สารความสุขจะหลั่งออกมาหลังการวิ่ง และในปัจจุบันพบว่าหลายคนใช้การวิ่งเพื่อค้นพบสิ่งใหม่ให้กับชีวิต และหรือพาตัวเองหลุดออกจากปัญหาที่ค้างคาอยู่ อาทิ ความเครียด ความโศกเศร้า

อยากเห็นคนไทยออกวิ่ง

จึงเป็นที่มาที่ในปี 2566 นี้ สสส. และ งานวิ่ง Thai Health Day Run 2023 ยังสานต่อสร้างค่านิยมในการวิ่ง เพื่อสร้างนักวิ่งหน้าใหม่สู่สังคมผ่านแนวคิด “วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ไปด้วยกัน READY TO MOVE ON” การสื่อสารภายใต้แคมเปญจะสนับสนุนแนวคิดในการวิ่ง และกระตุ้นให้คนลุกและก้าวออกวิ่งผ่านสปอตรณรงค์ที่แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าการวิ่งของคุณจะเป็นแบบไหน ขอแค่ออกมาวิ่ง ชีวิตของคุณจะดีขึ้น โดยสปอตรณรงค์ชุดนี้ได้สอดแทรกประเด็นและคำตอบที่หลายคนที่เคยคิดจะออกวิ่ง แต่ยังไม่เริ่มวิ่งไว้ในสปอตรณรงค์ชุดนี้ อาทิ  หลายคนตั้งเงื่อนไขให้ตัวเองในเรื่องเวลา : ไม่มีสถานที่วิ่งที่ใกล้ : ตัวคนเดียว ไม่รู้จะวิ่งกับใคร : รู้สึกจำเจกับสถานที่ : วิ่งแล้วไม่สนุก และอื่น ภายในสปอตรณรงค์ยังมีสถานที่วิ่งมากมายที่หลายคนอาจรู้จัก และสถานที่ใหม่ๆ ที่หลายคนอาจยังนึกไม่ถึง สามารถติดตามสปอตรณรงค์ ชุด ใครๆก็วิ่ง

สปอตรณรงค์ชุดนี้หวังว่าจะกระตุ้นให้คนในสังคมที่ได้เห็นสื่อมองเห็น และมองข้ามคำถามที่กั้นการมีกิจกรรมทางกาย และใช้การออกวิ่งเพื่อก้าวข้ามไปสู่วิถีชีวิตใหม่ไปด้วยกัน

ไม่รู้จะเริ่มออกวิ่งที่ไหน ลองมาเริ่มออกวิ่งไปด้วยกัน

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มวิ่งที่ไหน สามารถเริ่มออกวิ่งกับ สสส. ได้ ผ่านงานวิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ Thai Health Day Run ถือเป็นงานวิ่งประจำปีที่จัดโดย สสส. โดยในปีนี้จะจัดขึ้นที่ สะพานพระราม 8 ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายนนี้ สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลการวิ่ง และงานวิ่ง Thai Health Day Run ติดตามได้ที่ https://web.facebook.com/thaihealthdayrun

และหากใครที่ชอบวิ่งใกล้บ้าน ยังสามารถติดตาม ‘โครงการสวนใกล้บ้าน 15นาที’ ที่สสส. ร่วมมือกับ กรุงเทพมหานครและผู้ว่า กระตุ้นให้เกิดการวิ่งละแวกบ้านผ่าน โครงการสวนใกล้บ้าน’ ที่เปิดโอกาสให้คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงสถานที่พักผ่อน และออกกำลังกายได้ง่ายภายใน 15 นาที สนใจรายละเอียด และพื้นที่ไหนใกล้บ้านสามารถติดตามได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ We Park

กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดีๆ จาก สสส  เพิ่มเติมได้ที่ :

Oris

Oris เผยโฉม Divers Sixty-Five Chronograph

Alternative Textaccount_circle
event
Oris
Oris

Oris แนะนำโฉมใหม่ของประดิษฐกรรมแห่งเวลา Divers Sixty-Five Chronograph ที่ได้รับ แรงบันดาลใจในการออกแบบแนวย้อนยุคจากช่วงกลางศตวรรษ

Oris มีความยินดีที่จะแนะนำโฉมใหม่ของประดิษฐกรรมแห่งเวลา Divers Sixty-Five Chronograph ที่ได้รับ แรงบันดาลใจในการออกแบบแนวย้อนยุคจากช่วงกลางศตวรรษ ซึ่งเป็นนาฬิกาไดฟ์เวอร์สไตล์เรโทรที่ได้รับความนิยมตลอดกาลของเรา นาฬิการุ่นล่าสุดมาในตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 40 มม. ที่เล็กลงกว่าเดิม หน้าปัดสีดำโมโนโครมดีไซน์ประณีต และมาพร้อมกับตัวเลือกของสายนาฬิกา ทั้งแบบสายหนังสีดำที่ผลิตจากหนังกวางแบบยั่งยืนโดย บริษัทสวิสที่เป็นพันธมิตรของเรา Cervo Volante หรือแบบสายสเตนเลสสตีล การออกแบบฐานตัวเรือนสะท้อนถึงนาฬิกาไดฟ์เวอร์รุ่นแรกของเราที่รังสรรค์ขึ้นในปี 1965 ซึ่งเป็นผลงานที่ดูเรียบหรูแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสูง หน้าปัดย่อยของฟังก์ชั่นโครโนกราฟที่สามารถจับเวลาได้ต่อเนื่อง 30 นาที และแสดงวินาที เป็นเข็มสีขาวบนพื้นสีดำทั้ง 2 วง โดดเด่นเข้ากับขาตัวเรือนที่โค้ง วงแหวนขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ทิศทางเดียว และปุ่มกดสำหรับจับเวลาแบบวินเทจที่มีเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัว ภายในขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลออโตเมติกที่สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 48 ชั่วโมง

Oris Divers Sixty-Five Chronograph Ref. No.

  • 01 771 7791 4054-07 6 20 01
  • 01 771 7791 4054-07 8 20 18
Oris

ตัวเรือน

  • วัสดุ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลแบบประกอบหลายชิ้น วงแหวนขอบหน้าปัดหมุนได้ทิศทางเดียว
  • ขนาด 40 มม, 1.575 นิ้ว
  • กระจกหน้าปัด กระจกแซฟไฟร์ โค้งรูปโดมสองด้าน เคลือบสารกันแสงสะท้อนด้านใน
  • ฝาหลัง สเตนเลสสตีล ขันสกรู
  • ปุ่มปรับตั้งเวลา เม็ดมะยมนิรภัยสเตนเลสสตีลแบบขันเกลียว และปุ่มกด
  • ความกว้างหูสาย 20 มม
Oris

กลไก

  • หมายเลขเครื่อง Oris 771
  • เส้นผ่านศูนย์กลาง Ø 30.00 มม, 13 1/4’’’
  • ฟังก์ชั่น เข็มชั่วโมง เข็มนาที และเข็มโครโนกราฟ ¼ วินาที จากจุดศูนย์กลาง หน้าปัดย่อย 2 หน้าปัดสำหรับแสดงเวลาวินาทีแบบต่อเนื่อง และสำหรับจับเวลา 30 นาที ปุ่มปรับตั้งเวลาแบบละเอียด และและหยุดเข็มวินาที
  • การขึ้นลาน อัตโนมัติ
  • พลังงานสำรอง 48 ชั่วโมง
  • การสั่นสะเทือน 4 Hz (28’800 A/h)
  • อัญมณี 27
Oris

หน้าปัด

  • ดีไซน์ หน้าปัดทรงโค้งสีดำ พร้อมขีดบอกเวลาแบบนูน
  • วัสดุเรืองแสง ขีดบอกเวลา และเข็มนาฬิกาเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®
  • ขีดบอกเวลา แบบนูน
  • สายนาฬิกา สายหนังกวาง Cervo Volante สีดำ เฟืองล็อคสายสเตนเลสสตีลแบบหัวเข็มขัด หรือ สายสเตนเลสสตีล เฟืองล็อคสายแบบบานพับ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรคาเดโร ไทม์ โทร.  084-088-2189 , 02-163-0555

keyboard_arrow_up