Wet & Wild Festival 2023

Wet & Wild Festival 2023 สนุกทะลุปรอทตลอด 12 ชั่วโมงมันส์…เกินต้าน

Alternative Textaccount_circle
event
Wet & Wild Festival 2023
Wet & Wild Festival 2023

Wet & Wild Festival 2023 สนุกทะลุปรอทตลอด 12 ชั่วโมงมันส์…เกินต้านปังไม่ไหว..กับสุดยอดเทศกาลดนตรีกลางสายน้ำที่มันกันจนร่างแหลก

 Wet & Wild Festival เทศกาลดนตรีกลางสวนน้ำ ฉลองการกลับมาครั้งที่5 ประสบความสำเร็จชนิดว้าวซ่าขั้นสุด สร้างความชุ่มฉ่ำทั้งกายทั้งใจให้กับผู้ร่วมงานทุกคนในแบบ นอนสต็อป ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของงาน Wet & Wild ที่ก่อนหน้านี้เคยจัดขึ้นมาแล้วได้อย่างสวยงาม เพิ่มเติมก็คือสีสันความสนุกที่ทางผู้จัดเนรมิตให้สวนน้ำบนเนื้อที่ 200 ไร่ของ โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส พัทยา ให้เป็นทั้งเวทีคอนเสิร์ตและลานกิจกรรมต่างๆให้ผู้ร่วมงานทุกคนได้ปลดปล่อยตัวเองแบบสุดตัวสมกับคอนเซ็ปต์ The Animal Planet แรดไปให้สุด พร้อมคอนเซ็ปต์สุดปังอย่าง “ปลุกสัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวคุณ” จริงๆ

Wet & Wild Festival 2023

มีไม่บ่อยครั้งแน่นอนที่จะมีการจัดคอนเสิร์ตในสวนน้ำที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ โดยก่อนที่แร็ปเปอร์สาวสุดจี๊ด วันเดอร์เฟรมที่มาพร้อมเพลงสไตล์ แคนดี้ ป็อปและฮิปฮอปจังหวะชวนโยกสุดมันจะขึ้นโชว์เป็นคนแรกในเวลา 4 โมงเย็น ผู้ร่วมงานก็มีเวลาเล่นน้ำในโซนต่างๆไม่ว่าจะเป็นลานน้ำคลื่นจำลองสำหรับซ้อมเล่นเวคบอร์ด, สไลเดอร์ขนาดยักษ์หลายโซน, สระว่ายน้ำทั้งขนาดเล็กใหญ่ที่ล้อมรอบทั่วบริเวณสวนน้ำและกิจกรรมสำหรับครอบครัวและเพื่อนๆตั้งแต่เที่ยงตรงเพื่อชาร์จพลังในวันหยุดยาวในช่วงสุดสัปดาห์ท่ามกลางบรรยากาศดีๆที่เป็นใจในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ และถึงแม้ว่าแดดจะร้อนในช่วงเที่ยงแต่ครีมกันแดดที่แจกให้ฟรีตลอดงานก็ถือเป็นไอเดียสุดปังที่ทำให้การเล่นน้ำในสวนสนุกเป็นไปอย่างไม่ติดขัดและทวีความมันมากยิ่งขึ้นไปอีกกับเสียงดนตรีสนุกๆที่ขับกล่อมทุกคนตลอดงาน

ปีนี้สาวๆได้มีโอกาสนำเอาชุดบิกินี่ที่เคยพับเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้ามานานหลายปีตั้งแต่สถานการณ์โควิดมาใส่อวดหุ่นสวยโชว์สรีระสุดเซ็กซี่กันอย่างเต็มที่จนทำให้สวนน้ำ โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส กลายเป็นชายหาดขนาดย่อมๆกันไปเลย แถมยังมีเวลาได้เปลี่ยนชุดกันหลากหลายสไตล์ทั้งชุดสำหรับเล่นน้ำและชุดสำหรับดูคอนเสิร์ตที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลงไปดูกันในสระว่ายน้ำให้เย็นฉ่ำหัวใจแบบสุดๆตั้งแต่โชว์แรกยันโชว์สุดท้าย

Wet & Wild Festival 2023

งานในปีนี้จัดเต็มด้วย 2 เวทีซึ่งจัดขึ้นเพื่อรองรับแฟนเพลงที่ชอบดนตรีที่มีสไตล์แตกต่างกัน เวทีแรกมีชื่อว่า Mega Wave ที่ ส้ม มารี สร้างความครึกครื้นเป็นการอุ่นเครื่องต่อมความแรดที่มีอยู่ในสัญชาตญาณสัตว์ป่าให้กับทุกคนเป็นคนที่สองต่อจากโชว์ของวันเดอร์เฟรม ตามมาด้วยโชว์ของ The Toys ที่เปลี่ยนสไตล์มาเป็นดนตรีป็อปร็อคด้วยสำเนียงเสียงกีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่อด้วยการแสดงสดสุดเท่ด้วยเสียงร้องที่ไม่ธรรมดาของป็อปสตาร์แห่งยุคอย่าง นนท์ ธนนท์ และ จ๊ะ นงผณี นักร้องลูกทุ่งสาวสุดแซ่บที่วาดลวดลายสุดร้อนแรงจนแทบจะทำเอาน้ำในสระเดือดกันไปเลย ส่วนคอนเสิร์ตของ 3 ศิลปินอย่าง Potato, URBOYTJ ปิดท้ายด้วยความมันสุดเดือดกับ ไททศมิตร  พร้อมโบกมือลาและขอบคุณทุกคนด้วยพลุสุดอลังการ สร้างความประทับใจสุดขีดเต็มสตรีมจริงๆ

ส่วนเวทีที่ 2 เน้นดนตรีแดนซ์และฮิปฮอปอย่าง Surf Arena ก็ถือเป็นจุดศูนย์รวมของเหล่าหนุ่มสาวที่พร้อมใจกันปลดปล่อยความแรดในตัวออกมาให้เข้ากับคอนเซ็ปต์งานที่สุด ดนตรีEDM และบีทฮิปฮอปชวนโยก เวทีนี้คราคร่ำไปด้วยหนุ่มหล่อสาวสวยที่พร้อมใจกันโชว์แซ่บกันแบบไม่บันยะบันยัง เรียกได้ว่าแดนซ์กันตกขอบสระกันเลยทีเดียวกับโชว์ของ LazyLoxyP-Hot, HypertrainDHG รวมถึงเหล่าดีเจยอดฝีมืออย่าง Botcatch, Roxy June, Make You Freak, Cleo P, Dope Here ,โจล่ง

Wet & Wild Festival 2023

ส่วนเวทีที่ 2 เน้นดนตรีแดนซ์และฮิปฮอปอย่าง Surf Arena ก็ถือเป็นจุดศูนย์รวมของเหล่าหนุ่มสาวที่พร้อมใจกันปลดปล่อยความแรดในตัวออกมาให้เข้ากับคอนเซ็ปต์งานที่สุด ดนตรีEDM และบีทฮิปฮอปชวนโยก เวทีนี้คราคร่ำไปด้วยหนุ่มหล่อสาวสวยที่พร้อมใจกันโชว์แซ่บกันแบบไม่บันยะบันยัง เรียกได้ว่าแดนซ์กันตกขอบสระกันเลยทีเดียวกับโชว์ของ LazyLoxyP-Hot, HypertrainDHG รวมถึงเหล่าดีเจยอดฝีมืออย่าง Botcatch, Roxy June, Make You Freak, Cleo P, Dope Here ,โจล่ง

นอกจากจะเปียกปอนอย่างสุขอุราด้วยสายน้ำแล้ว Wet & Wild Festival ก็ยังเป็นเทศกาลดนตรีและ Ketchupboyz สุดพิเศษที่ทำให้ทุกๆคนรู้สึกชุมฉ่ำหัวใจไปด้วยสายธารจากดนตรีหลากหลายแนวทางที่มาบรรจบเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ ซึ่งก็แสดงให้เห็นถึงพลังของดนตรีทุกแนวไม่ว่าจะเป็นแนวร็อค, ป็อป, แดนซ์สายตื้ดสายโยก, ลูกทุ่งสุดนัว ไปจนถึงฮิปฮอป ซึ่งโชว์ของศิลปินแต่ละคนก็มีการปล่อยของออกมาเต็มที่แบบไม่มีกั๊ก นับว่าเป็น 12 ชั่วโมงแห่งความสุขนับตั้งแต่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับโลกจนกระทั่งแสงจันทร์สาดส่องลงมา ก่อนจะปิดท้ายด้วยพลุสวยงามสุดอลังการ ที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นการจบงานที่สวยสดงดงามจริงๆ

ติดตามความเคลื่อนไหวของ Wet&Wild Festivalได้ที่ https://www.facebook.com/WetandWildFestival

Neal’s Yard

Neal’s Yard Remedies รังสรรค์ ‘Premium Organic Gifts’

Alternative Textaccount_circle
event
Neal’s Yard
Neal’s Yard

Neal’s Yard Remedies ผู้นำสกินแคร์ ออร์แกนิค คุณภาพพรีเมียม ยอดนิยมอันดับหนึ่ง จากประเทศอังกฤษ รังสรรค์ ‘Premium Organic Gifts’

เติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุข และการเฉลิมฉลองท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่น Neal’s Yard Remedies ผู้นำสกินแคร์ ออร์แกนิค คุณภาพพรีเมียม ยอดนิยมอันดับหนึ่ง จากประเทศอังกฤษ รังสรรค์ ‘Premium Organic Gifts’ เซ็ตของขวัญที่ดีที่สุด หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพื่อการดูแลผิวพรรณแบบองค์รวมด้วยความอิ่มเอมรื่นเริงใจ

ส่งมอบของขวัญแทนความรักความห่วงใย และเป็นเหมือนรางวัลให้กับตัวคุณเอง อีกทั้งยังเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่อย่างสวยงามและรื่นรมย์ “Premium Organic Gifts” คือของขวัญที่ Neal’s Yard Remedies ได้รังสรรค์อย่างพิถีพิถันจัดกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ดีและเหมาะที่สุด ในการมอบเป็นของขวัญให้กับทุกคนที่คุณรัก

Neal’s Yard

ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Organic’s Gifts Wrapped in Blue ” ของขวัญแห่งอนาคต เพื่อเราและโลกที่งดงาม สื่อถึงทุกผลิตภัณฑ์ในบรรจุภัณฑ์สีน้ำเงินคุณภาพพรีเมี่ยมหนึ่งเดียวของ Neal’s Yard Remedies แม้ศักราชจะเปลี่ยนไป แต่เรายังมุ่งมั่นจุดยืนเดิม นับตั้งแต่การคัดสรรส่วนผสมธรรมชาติ และออร์แกนิคแท้ที่ดีที่สุด จากแหล่งเพาะปลูกที่เคร่งครัดตามวิถีออร์แกนิคแท้ 100% เพื่อประสิทธิภาพแห่งการดูแลผิวสูงสุด และกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและวิถีชุมชนจากทั่วทุกมุมโลก รวมทั้งยึดมั่นในแนวทางการปกป้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด รวมทั้งส่งเสริมการค้าที่เป็นธรรมและสนับสนุนให้หลายชุมชนทั่วโลกมีรายได้ที่ยั่งยืน ควบคู่กับคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน ที่อุดมด้วยขุมพลังแห่งธรรมชาติ

ดังนั้นในทุกการส่งมอบของขวัญจาก Neal’s Yard Remedies จึงเป็นเหมือนการส่งต่อความสุข อย่างยั่งยืนให้กับอีกหลายคนทั่วโลกเช่นเดียวกัน

หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-นักแสดงจีน -นักแสดงชายจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - พระรองจีน - พระรองซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน-ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนปี 2023-ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - นักแสดงซีรี่ย์จีน

3 หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love เลือกไม่ถูก ขอเหมาหมดได้มั้ย!?!

Alternative Textaccount_circle
event
หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-นักแสดงจีน -นักแสดงชายจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - พระรองจีน - พระรองซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน-ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนปี 2023-ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - นักแสดงซีรี่ย์จีน
หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-นักแสดงจีน -นักแสดงชายจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - พระรองจีน - พระรองซีรี่ย์จีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน-ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนปี 2023-ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - นักแสดงซีรี่ย์จีน

กรี๊ดให้สุดเสียง! สุดฯ พาส่อง 3 หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก แต่ละคนเบ้าหน้าฟ้าประทาน เลือกไม่ถูก ขอเหมาหมดเลยได้มั้ย!?! 

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์จีนที่มาแรงในช่วงปลายปี 2023 สุดๆ จ้า สำหรับ Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน/โรแมนติกที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดัง Cuo Liao ของเชี่ยวเหยา (Qiao Yao) บอกเล่าเรื่องราวความรักของนักข่าวสายการเงินและนักธุรกิจที่เริ่มต้นรู้จักกันจากการได้สัมภาษณ์ และทั้งคู่ต่างสร้างความประทับใจให้แก่กันและกันได้อย่างลึกซึ้ง และเมื่อวันเวลาผ่านไปความรักก็ค่อยๆ ก่อเกิดตัวขึ้น! ซึ่งในเรื่องนี้หลักๆ จะมีด้วยกัน 3 คู่ ซึ่งทั้ง 3 คู่ได้นักแสดงจีนสวยหล่อเคมีเข้ามาร่วมงานกันที่สุดฯ บอกเลยว่า พลาดไม่ได้สักคู่เลยจริงๆ ค่ะ วันนี้สุดฯ จึงไม่รอช้า ขอพาทุกคนมาเปิดวาร์ป  3 หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก กันค่ะ!

  • หวังเฮ่อตี้ หรือ ดีแลน หวัง (Wang Hedi/Dylan Wang)

หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-หวังเฮ่อตี้ – ดีแลน หวัง - Wang Hedi – Dylan Wang - 王鹤棣

ในเรื่อง Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก พระเอกได้หวังเฮ่อตี้ หรือ ดีแลน หวังมารับบทฉือเยี่ยน นักธุรกิจหนุ่มที่ต้องการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยหวังจะตอบแทนสังคมให้ได้มากที่สุด ซึ่งฉือเยี่ยนก็ได้อ่านข่าวการวิเคราะห์ของนางเอก เจิ้งชูอี้ นักข่าวสายการเงินที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเขียนข่าววิจัยอุตสาหกรรมเชิงลึกที่มีความเที่ยงตรงและเป็นประโยชน์กับสังคมอยู่หลายครั้ง และเห็นว่างานเขียนของเธอเป็นงานเขียนที่ตรงกับความคิดของเขาอยู่เสมอ ซึ่งดึงดูดให้พวกเขาได้ใกล้ชิดและทำงานร่วมกันมากขึ้น แต่หลังจากความรักก่อตัวขึ้นจะมีอุปสรรคอะไรรอพวกเขาอยู่ต้องไปตามลุ้นกันค่ะ ส่วนนางเอกที่ประกบคู่กับดีแลน หวังได้ไป๋ลู่ (Bai Lu) เจ้าของผลงาน The Legends เจาเหยา จอมมารโลกต้องจำ (2019), Love Is Sweet ครึ่งทางรัก (2020), One and Only ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม ภาคอดีต (2021), Forever and Ever ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม ภาคปัจจุบัน (2021) ฯลฯ มารับบท

หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-หวังเฮ่อตี้ – ดีแลน หวัง - Wang Hedi – Dylan Wang - 王鹤棣

 

  • เว่ยเจ๋อหมิง (Wei Zheming/Miles Wei) 

หนุ่มหล่อจากซีรี่ย์จีนOnly For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei - 魏哲鸣

พระรองเรื่อง Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก ได้เว่ยเจ๋อหมิงเจ้าของบทพระเอกในซีรี่ย์จีน Perfect And Casual ลุ้นรักคู่รักกำมะลอ (2020) และ Unforgettable Love รักนี้ไม่ลืมเลือน (2021) มารับบทเป็นอวี้โหยว รองศาตราจารย์มหาวิทยาลัยและที่ปรึกษาด้านกฎหมายของฉือเยี่ยน มารับบทคู่กับเสิ่นอวี่เจี๋ย (Shen Yujie) นักแสดงหญิงจีนรุ่นใหม่วัย 21 ปีที่ก่อนหน้านี้เคยร่วมแสดงในซีรี่ย์จีน Checkmate ยอดนักสืบพิชิตคดี (2022) มารับบทเป็นฉินฉือเยว่ เด็กฝึกงานในสำนักข่าวเดียวกันเจิ้งชูอี้ และมีศักดิ์เป็นหลานสาวของฉือเยี่ยนที่แอบชอบอวี้โหยวที่ดูแก่นๆ เปรี้ยวๆ ซึ่งความต่างขั้วของทั้งคู่จะทำให้เป็นอีกหนึ่งคู่ของเรื่อง Only For Love ที่ได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างล้นหลาม

จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei - 魏哲鸣

 

  • หลิวตงชิ่น (Liu Dongqin)

จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-หลิวตงชิ่น – Liu Dongqin -刘冬沁

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งหนุ่มฮอตของเรื่อง Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก ที่ได้หลิวตงชิ่น (Liu Dongqin) นักแสดงชายจีนวัย 29 ปีที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีนเรื่อง Psych-Hunter วิญญาณนักล่า (2020), Delicious Romance (2021) เป็นต้น มารับบทเป็นกวนจี้ หนุ่มหล่อนักธุรกิจที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะที่รู้จักกับฉือเยี่ยนมาตั้งแต่เด็ก และเป็นเพื่อนซี้ที่โตมาด้วยกัน โดยในเรื่องกวนจี้คู่กับปี่รั่วซาน สาวสุดเฟียสที่ได้เจียงเพ่ยเหยา (Jiang Peiyao) นางรองจากซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก You Are My Hero คุณคือป้อมปราการของฉัน (2020) มารับบท

จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก-以爱为营-หลิวตงชิ่น – Liu Dongqin -刘冬沁

 

รูปจาก : 以爱为营官方微博

เรื่องโดย : Lizhu

 

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ลงจอแย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียต้นเดือนพ.ย. 2023!​

Weaving a Tale of Love 2 ซีรี่ย์จีนภาคต่อของสวี่เว่ยโจว-กู่ลี่นาจา!

2 บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง ใน 2 ซีรี่ย์จีนที่มาแรงสุดๆ ในขณะนี้!

ซีรี่ย์จีนย้อนยุคของถังเยียน ในรอบ 3 ปี ออร่าเปล่งประกายไม่เปลี่ยน!

หวานไม่ไหว! หลินอี-หลิวฮ่าวฉุน ส่งเคมีคู่จิ้นชวนตั้งตารอซีรี่ย์จีน Derailment !

เคมีนี้ที่รอคอย! The Furthest Distance​ ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนซ์ของ 2 คู่จิ้นชวนฟิน!

ตำจู๋จี๋

ร้านอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่นตำ ยำ รสแซ่บ สุดจัดจ้าน “ตำจู๋จี๋”

Alternative Textaccount_circle
event
ตำจู๋จี๋
ตำจู๋จี๋

“ตำจู๋จี๋” ร้านอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่นตำ ยำ รสแซ่บ สุดจัดจ้านในย่าน ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า โดย 3 ผู้บริหารแห่ง บริษัท จู๋จี๋ ร่ำรวย จำกัด

เพราะการกินคือความสุข ตำจู๋จี๋ (Tum Juu Jee) โดย ศิริลัคณา เอียดวิจิตร์, ธนัชชา โสมเกษตรินทร์, ชาคริต เอียดวิจิตร์ 3 ผู้บริหารแห่ง บริษัท จู๋จี๋ ร่ำรวย จำกัด ที่สุดแห่งร้านตำ ยำ ย่าง ทอด รสแซ่บ ที่มีความโดดเด่นเรื่องรสชาติอาหาร ในบรรยากาศที่แสนเย็นสบายผ่อนคลาย ซึ่งจะทำให้การทานอาหารทุกมื้อมีความสุขมากยิ่งขึ้น

เปิดตัวตำจู๋จี๋สาขาแรก ปั๊ม ปตท.ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ขาเข้าเมือง) แบบแซ่บเกินต้าน!! จัดจ้านในย่านนี้ ด้วย เมนูส้มตำ ยำ ต้มแซ่บ เมนูทอด อาหารจานเดียว ไอติม ขนมหวาน กว่า 100 เมนู ครบจบที่ร้านเดียว

เปิดปากรับความแซ่บด้วย จู๋จี๋ส้มตำ ตัวแม่แห่งการตำ กว่า 19 เมนู ทีเด็ดอยู่ที่ น้ำปลาร้ารสนัวๆฉ่ำๆ สูตรต้นตำรับ พร้อมจะฟาดสนั่นตำให้ระเบิด เพลิดเพลินกันให้ถึงใจถึงอารมณ์ ไปกับเมนูไฮไลท์ ที่จัดว่าเด็ด ตำจู๋จี๋ ส้มตำถาดยักษ์ซิกเนเจอร์ของร้าน อิ่มสุขจุใจกับ ส้มตำหอยแครง-ไส้กรอก ที่อัดแน่นด้วยเครื่องเคียงล้นถาด ไม่ว่าจะเป็น แหนมสด, หมูยออุบล, ปลากรอบ, ไข่ต้ม, ผักดอง, ถั่งงอก และ เส้นลวก 3 อย่าง มาม่า-เส้นหมี่-เส้นขนมจีน คุ้มสุดๆ ในราคาเพียง 289 บาทเท่านั้น ส่วนเมนูส้มตำอื่นๆ ก็ถือว่าโดดเด่นไม่เป็นสองรองใคร ทั้ง ตำแซลมอน, ตำข้าวโพดไข่เค็ม , ตำปูปลาร้า, ตำไทย, ตำแตง, ตำขนมจีน, ตำทะเล ฯลฯ

ตำจู๋จี๋

ต่อด้วย ยำจู๋จี๋ ตัวจี๊ดแห่งการยำ เด็ดเกินต้านด้วยน้ำยำสูตรพิเศษ ที่คิดค้นพัฒนาสูตรโดยเชฟมืออาชีพมีความเปรี้ยว หวาน แซ่บจัดจ้านกำลังดี มิกซ์แอนด์แมทซ์กับพริกชี้ฟ้าแดงโขลกสดๆ เติมรสเปรี้ยวด้วยมะนาวแท้ๆ คั้นสดทุกจาน เพื่อให้ได้ความฉ่ำฟินแบบเต็มคาราเบล สะใจคนรักยำกันไปเลย จานแรกที่ต้องลอง ยำจู๋จี๋ ยำหอยแครงผสมไส้กรอก อร่อยฉ่ำๆ แบบเต็ม 10 ไม่หัก จู๋จี๋ยำผักหวานกุ้งกรอบ ผักหวานทอดกรอบๆ กุ้งตัวโตๆ ราดฉ่ำๆ ด้วยน้ำยำแสนแซ่บ จู๋จี๋ยำวุ้นเส้นโบราณ สูตรต้นตำรับชาววังแบบโบราณแท้ยำแห้งๆ โรยหน้าด้วยกุ้งแห้งและถั่วทอดอร่อยเพลินเกินห้ามใจ หรือจะอัปเลเวลไปลอง จู๋จี๋ยำแซลมอน ก็คือดีมาก แซลมอนสดๆ ละเลงไปด้วยน้ำยำชุ่มฉ่ำได้ใจไปเลยเต็มๆ แต่ถ้าใครอยากมาแนวนัวๆ ต้องไม่พลาด ยำขนมจีน แนะนำให้ใส่ปลาร้า เพราะจะได้อรรถรสของยำสไตล์อีสานที่แท้ทรู

ถ้าความแซ่บมันร้อนแรงเกินไป ลดดีกรีมาทอดอาหารเบาๆ กันสักหน่อย จู๋จี๋คอหมูย่าง ที่ร้านใช้คอหมูแท้ หมักนุ่มๆ ชุ่มลิ้นแทบละลายในปาก ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วและข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยมาก ไก่ทอดจู๋จี๋ ไก่ทอดซิกเนเจอร์สูตรเฉพาะของร้าน ทอดกรอบๆ โรยหน้าด้วยหอมเจียว แต่ถ้าอยากได้ฟิวอาสานแท้ๆ แนะนำ จู๋จี๋ปลาส้มทอด ทอดใหม่ทอดสดทอดอย่างพิถีพิถันทุกจานจึงได้ปลาส้มทอดที่อร่อยพิเศษกว่าที่เคยทานมาก่อน จู๋จี๋ลูกชิ้นทอด กิมมิกเก๋ๆ ปลุกตำนานลูกชิ้นหน้าโรงเรียน ไส้กรอกแดง-ลูกชิ้นปลา คู่หูบัดดี้มาทอดกรอบๆ ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด เปรี้ยว หวาน เผ็ดอ่อนๆ ถือว่าเป็นเมนูทานแก้เหงาที่อร่อยเริ่ด

ตำจู๋จี๋

ก่อนมาอิ่มแซ่บส่งท้ายด้วย จู๋จี๋มาม่าหม้อเดือด มาม่าต้มยำทะเลหม้อไฟ มีหมูเด้ง กุ้ง ปลาหมึก ทีเด็ดอยู่ที่น้ำซุปต้มยำถึงเครื่องสมุนไพร น้ำพริกเผา จัดจ้านมาก ต้มแซ่บจู๋จี๋ ต้มแซ่บหม้อไฟน่ารักๆ ที่ผสมผสานระหว่าง ขาไก่และกระดูกอ่อน ตุ๋นเปื่อยๆ น้ำซุป เปรี้ยว เผ็ด แซ่บกำลังดี

นอกจากนั้นยังมีเมนูอาหารจานเดียวอย่าง ข้าวคลุกน้ำพริกปลาทู ร้านนี้ใช้ปลาทูแท้ๆ จากแม่กลอง และน้ำพริกกะปิกุ้งเคยจากสุราษฏร์ธานี ข้าวคลุกปลาทูพริกสด, ข้าวคลุกแมว, ข้าวหมูทอดไข่ยางมะตูม ผัดหมี่ย่าโม, สุกี้แห้ง, ผัดซีอิ้ว และเมนูแจ่มๆ อย่าง น้ำตกหมู ลาบหมูทอด ลาบเป็ด ลาบไก่ ซุปหน่อไม้ ไก่ทอดน้ำปลา หมูยอทอด หมู-เนื้อแดดเดียว ไส้กรอกอีสาน ฯลฯ รวมกว่า 100 เมนู และก่อนเช็คบิลกลับบ้านอย่าลืมดื่มด่ำความหวานเย็นสดชื่นของ ไอติม ขนมหวาน อีกระรานตา จู๋จี๋ไอติมพวง ไอติมกะทิสดแท้ๆ จากมหาชัย ที่มาพร้อมพวงท็อปปิ้ง 4 อย่าง มันเชื่อม ลูกชิด วุ้นมะพร้าว ถั่วลิสงคั่วเอง, จู๋จี๋น้ำแข็งใสแสนสนุก น้ำแข็งใสทรงเครื่อง หรือถ้าอยากทานของหวาน ต้องลอง ทับทิมกรอบ, ลอดช่อง, เฉาก๊วย และน้ำชงสมุนไพร อาทิ กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย โอเลี้ยง อัญชันมะนาว นมชมพู ที่อร่อยครบอิ่มจบเลย

ตำจู๋จี๋

ใครที่ชื่นชอบความแซ่บ ความฟินของยำ ตำ ที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ ต้องไม่พลาด ร้านตำจู๋จี๋ (Tum Juu Jee) สาขาแรกที่ ปั๊ม ปตท.ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ขาเข้าเมือง) และเร็วๆ นี้ กำลังจะขยายอีกหลากหลายสาขา เพื่อสร้างความสุขให้กับคนที่รักการกินอาหารรสแซ่บ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 – 20.30 น. โทร.061-414-5059 Facebook: ตำจู๋จี๋ Tum Juu Jee สาขาปั๊มปตท.ศรีนครินทร์ร่มเกล้า และหากสนใจแฟรนไชส์ติดต่อ line : @ Juu Jee ได้เลยจ้า

ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 - ไป๋ลู่ -Bai Lu - 白鹿 - ดาราจีน -นักแสดงหญิงจีน - นักแสดงจีน - นางเอกจีน -นางเอกซีรี่ย์จีน –ดาราหญิงจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนปี 2023

3 ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 ฮอตปรอทแตกทุกเรื่อง!!

Alternative Textaccount_circle
event
ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 - ไป๋ลู่ -Bai Lu - 白鹿 - ดาราจีน -นักแสดงหญิงจีน - นักแสดงจีน - นางเอกจีน -นางเอกซีรี่ย์จีน –ดาราหญิงจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนปี 2023
ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 - ไป๋ลู่ -Bai Lu - 白鹿 - ดาราจีน -นักแสดงหญิงจีน - นักแสดงจีน - นางเอกจีน -นางเอกซีรี่ย์จีน –ดาราหญิงจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน -ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนปี 2023

สุดฯ รวบตึงชวนตาม 3 ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 นางเอกจีนเคมีสาธารณะที่บอกเลยว่า 3 เรื่อง 3 สไตล์ แต่ฮอทปรอทแตกทุกเรื่อง มีเรื่องไหนประกบคู่พระเอกคนไหนบ้าง ตามสุดฯ มาดูกันค่ะ

  • Till The End Of The Moon จันทราอัสดง

Till The End Of The Moon - จันทราอัสดง - 长月烬明

ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 เรื่องแรกสุดฯ ขอเปิดด้วย Till The End Of The Moon จันทราอัสดง ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังเรื่อง Black Moonlight Guaranteed Bad Ending Screenplay ของนักเขียนเจ้าของนามปากกา เถิงหลัวเว่ยจือ (Teng Luo Wei Zhi) โดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางความรักหลายภพหลายชาติของพระเอกที่เกิดมาพร้อมกระดูกมารในตัว แม้เขาจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เขาก็มีหัวใจที่ได้รู้จักความรักเมื่อได้เจอกับนางเอกที่เกิดมาพร้อมสถานะการเป็นเทพเซียน และคอยดูแล ปกป้อง ให้ความรัก เอาใจใส่พระเอกเสมอ ทำให้ทั้งสองผูกพันกันด้วยหัวใจรักที่บริสุทธ์ และหวังว่าทุกภพทุกชาติพวกเขาจะได้กลับมาเจอกันและครองรักกันอีก… เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปตามเก็บกันได้จ้า เรื่อง Till The End Of The Moon จันทราอัสดง ออนแอร์ไปตั้งแต่เดือนเม.ย. 2023 แล้ว โดยไป๋ลู่รับบทนางเอกประกบคู่กับหลัวหยุนซี (Luo Yunxi หรือ Leo Luo) นักร้อง นักแสดงชายจีนรุ่นพี่จากเรื่อง Ashes of Love มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง (2018), Princess Silver คำสาปรัก ชายาผมขาว (2019), And the Winner Is Love ไฟผลาญจันทร์ (2020) ฯลฯ ซึ่งนอกจากคู่พระ-นางแล้ว ยังมีอีก 2 คู่รองให้ได้ตามซึ้งและเศร้าด้วย ใครสนใจคลิกอ่านต่อได้ที่นี่ค่ะ

Till The End Of The Moon - จันทราอัสดง - 长月烬明

 

  • Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก 

ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 - ไป๋ลู่ -Bai Lu - 白鹿 - Only For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก - 以爱为营

Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกที่ไป๋ลู่รับบทนำคู่กับหวังเฮ่อตี้ หรือ ดีแลน หวัง (Wang Hedi/Dylan Wang) เจ้าของบทเต้าหมิงซื่อในซีรี่ย์จีนรีเมคจากซีรี่ย์ไต้หวัน Meteor Garden รักใสๆ หัวใจสี่ดวง เวอร์ชั่น 2018 หรือ F4 ร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของนักข่าวสายการเงินและนักธุรกิจที่เริ่มต้นรู้จักกันจากการได้สัมภาษณ์ และทั้งคู่ต่างสร้างความประทับใจให้แก่กันและกันได้อย่างลึกซึ้ง และเมื่อวันเวลาผ่านไปความรักก็ค่อยๆ ก่อเกิดตัวขึ้น… นอกจากคู่พระ-นาง ยังมีคู่รองอีก 2 คู่ที่เคมีน่าตามไม่แพ้กัน นั่นคือ คู่ของเว่ยเจ๋อหมิง (Wei Zheming หรือ Miles Wei)เสิ่นอวี่เจี๋ย (Shen Yujie) และหลิวตงชิ่น (Liu Dongqin)เจียงเพ่ยเหยา (Jiang Peiyao) ไปติดตามความสนุกกันเต็มๆ ได้ที่ซีรี่ย์จีน Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก นะคะ

ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 - ไป๋ลู่ -Bai Lu - 白鹿 - Only For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก - 以爱为营

 

  • Story of Kunning Palace เล่ห์รักวังคุนหนิง

ซีรี่ย์จีนสุดปังของไป๋ลู่ในปี2023 - ไป๋ลู่ -Bai Lu - 白鹿 - Story of Kunning Palace - เล่ห์รักวังคุนหนิง - 宁安如梦

Story of Kunning Palace เล่ห์รักวังคุนหนิง ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกที่ออนแอร์แบบสายฟ้าแลบเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2023 โดยดัดแปลงบทจากนิยายจีนเรื่อง คุนหนิง (Kun Ning) ของนักเขียนชื่อดังฉือจิ้ง (Shi Jing) บอกเล่าเรื่องราวของเจียงเสวี่ยหนิง ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว อุปสรรคต่างๆ จนได้เป็นฮองเฮา แต่หลังจากได้ครองบัลลังก์และเข้าวัง เธอกลับต้องพบจุดเปลี่ยนของราชวงศ์ และนำมาซึ่งจุดจบที่บีบให้เธอต้องฆ่าตัวตาย หลังจากได้เกิดใหม่อีกครั้ง สิ่งที่เธอปรารถนาคือการอยู่ให้ห่างไกลจากวังวนเดิมมากที่สุด แต่ท้ายที่สุดโชคชะตาก็เล่นตลกให้เธอได้เข้าวังในที่สุด เธอก็ต้องการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปีนั้น และเขียนตอนจบให้กับชีวิตของเธอใหม่อีกครั้ง ซึ่งนอกเหนือจากเส้นเรื่องชีวิตของเจียงเสวี่ยหนิงแล้ว ยังมีเรื่องของราชสำนัก การกวาดล้างกบฏ และปราบศัตรูที่เข้ามารุกรานด้วย

ในเรื่องนี้ไป๋ลู่รับบทนำร่วมกับอีก 3 หนุ่มฮอต ทั้งจางหลิงเฮ่อ (Zhang Linghe) นักแสดงชายจีนรุ่นน้องวัย 25 ปีที่เคยร่วมแสดงในเรื่อง Love Between Fairy and Devil ของรักของข้า (2022) มาแล้ว รวมไปถึงหวังซิงเยว่ (Wang Xingyue) นักแสดงจีนวัยรุ่นวัย 21 ปีที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วในฐานะพระเอกซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น First Love วุ่นนัก โจทย์รักแรก (2022) และ Delicacies Destiny ลิขิตฟ้าชะตาเลิศรส (2022) ฯลฯ และอีกคนคือ โจวจวิ้นเหว่ย (Zhou Junwei) นักแสดง นักร้องวัย 27 ปีจากเรื่อง Since I Met You (2022) ใครยังไม่ได้ตาม รีบไปดู Story of Kunning Palace เล่ห์รักวังคุนหนิง กันได้ที่ iQIYI นะคะ

 ไป๋ลู่ -Bai Lu - 白鹿 - Story of Kunning Palace - เล่ห์รักวังคุนหนิง - 宁安如梦

 

รูปจาก : 以爱为营官方微博/宁安如梦官微/长月烬明官微

เรื่องโดย : Lizhu

 

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

2 บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง ใน 2 ซีรี่ย์จีนที่มาแรงสุดๆ ในขณะนี้!

Weaving a Tale of Love 2 ซีรี่ย์จีนภาคต่อของสวี่เว่ยโจว-กู่ลี่นาจา!

3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ลงจอแย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียต้นเดือนพ.ย. 2023!​

2 ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 ประกบคู่พระเอกสุดฮอตส่งต่อเคมีสาธารณะ!

ซีรี่ย์จีน Rising With the Wind เมื่อความขัดแย้งทางธุรกิจมาพร้อมความรัก!

หลัวอวิ๋นซีคัมแบ็คซีรี่ย์จีน Love Is Panacea ทีมเมียเตรียมฟินให้ใจฟู!!

ABEILLE ROYALE Scalp & Hair

ABEILLE ROYALE Scalp & Hair จาก เกอร์แลง

account_circle
event
ABEILLE ROYALE Scalp & Hair
ABEILLE ROYALE Scalp & Hair

เกอร์แลง แนะนำชุดผลิตภัณฑ์ ABEILLE ROYALE Scalp & Hair อุดมด้วยสารสกัดจากน้ำผึ้ง สูตรเพื่อการฟื้นบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ

ABEILLE ROYALE Scalp & Hair

นับจากวันแรกที่ ปิแอร์-ฟรองซัวส์ ปาสกาล เกอร์แลง ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Guerlain (เกอร์แลง) เปิดบูติกจำหน่าย น้ำหอมขึ้นภายใน โรงแรมเลอ เมอริซ (Le Meurice) ถนนริโวลิ เมื่อปี ค.ศ. 1828 ไม่เพียงแต่น้ำหอมและผลิตภัณฑ์ความงามที่ได้รับความนิยมจากเหล่าสมาชิกในวงสังคมชั้นสูงปารีเซียงตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ แต่ ‘ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ’ ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องมาตลอดจนถึงทศวรรษที่ 1970 ก็ได้หยุดวางจำหน่าย จนกระทั่งปี ค.ศ. 2022 Guerlain ได้กลับมาคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมและหนังศีรษะขึ้นอีกครั้งกับ Abeille Royale Scalp & Hair Youth Oil-in-Serum เซรั่มสูตรน้ำมันที่ช่วยฟื้นบำรุงความงามให้แก่เส้นผมที่นำวิทยาการจากไลน์ผลิตภัณฑ์ Abeille Royale ที่เปี่ยมคุณสมบัติล้ำค่าของน้ำผึ้งและน้ำนมผึ้ง

ล่าสุดใน ปี 2023 เพื่อเติมเต็มกิจวัตรถนอมความงามสำหรับเส้นผมและหนังศีรษะ Guerlain ได้สรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ดูแลเรือนผมระดับมืออาชีพ ด้วยการพัฒนา 3 ผลิตภัณฑ์ Abeille Royale Scalp & Hair เพื่อดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ ได้แก่ แชมพู, คอนดิชันเนอร์ และ รีแพร์ มาส์ก ด้วยวิทยาการ Blackbee Honey Repair technology หลอมรวมน้ำผึ้งอันทรงประสิทธิภาพจาก 4 แหล่งผลิต ได้แก่ เกาะอุซซองต์, คอร์ซิกา ประเทศฝรั่งเศส, เกาะอิกาเรีย ประเทศกรีซ, เกาะโอลังด์ ประเทศฟินแลนด์ เข้ากับ น้ำนมผึ้งสูตรเอกสิทธิ์ และ บรรดาส่วนผสมเฉพาะสำหรับเส้นผม ได้แก่ เซราไมด์สูตรพืช (Restructuring Phytoceramide), อาร์จินีน (arginine) ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมให้ดูนุ่มสลวยเป็นเงางาม, ดี-แพนเธอนอล (Fortifying D-panthenol) ช่วยบำรุงผม และ สารสกัดชุมเห็ดเทศ (cassia alata extract) ช่วยปกป้องสีผม

Abeille Royale Scalp & Hair เป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อเส้นผม มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนโยน ละมุนละไม ด้วยการรังสรรค์จาก เธียรรี วาซแซร นักออกแบบผู้ปรุงน้ำหอมของ Guerlain ทำให้แต่ละครั้งที่ใช้ Abeille Royale Scalp & Hair จะป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ผ่อนคลาย มอบความรู้สึกสบายผมและผิวหนังศีรษะอย่างต่อเนื่อง

ประกอบด้วย…

ABEILLE ROYALE Scalp & Hair

REVITALISING & FORTIFYING CARE SHAMPOO – แชมพูเนื้อสัมผัสฉ่ำชุ่มปานน้ำผึ้ง ให้ความรู้สึกนุ่มเนียนดุจแพรไหม ช่วยขจัดสิ่งสกปรกอย่างหมดจดและอ่อนโยนแล้ว พร้อมส่วนผสมที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุง

REPAIRING & REPLUMPING CARE CONDITIONER – ครีมนวดผมที่ให้เนื้อครีมสัมผัสสดชื่นและบางเบาราวน้ำนมผึ้ง เสมือนเป็นครีมสูตรกลางวันสำหรับใช้หลังขั้นตอนทำความสะอาด ด้วยคุณสมบัติของ Blackbee Honey Repair Technology พัฒนาสูตรร่วมกับ เอ็คโทอิน (Ectoine) ช่วยฟื้นบำรุงให้ผมนุ่มละมุน สลวยเป็นเงางาม

DOUBLE R RADIANCE & REPAIR MASK – นวัตกรรมการหลอมรวมเนื้อสัมผัสที่แตกต่าง ระหว่าง ‘บาล์มเนื้อครีม’ กับ ‘เจลเนื้อน้ำผึ้ง’ ผสมผสานกลมกลืนกลายเป็นหนึ่งเดียว เติมเต็มประสิทธิภาพของ ‘น้ำผึ้งและน้ำมัน’ ไว้ด้วยบรรจุภัณฑ์หลอดประกบคู่ขนาน รวมเป็นเนื้อมาส์กที่ง่ายต่อการลำเลียงสารบำรุงล้ำค่าจากน้ำผึ้งควบคู่ไปกับประสิทธิภาพบำรุงที่ช่วยให้ผมดูเงางามจากน้ำมันพฤกษาสกัด, Blackbee Honey Repair Technology และ เคราตินสกัดจากพืช (phytokeratin)

SCALP & HAIR CARE BRUSH – เพื่อเติมเต็มกิจวัตรการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ Guerlain ได้คิดค้น ‘หวีแปรง’ (SCALP & HAIR CARE BRUSH) หวีแปรงสีทองทอประกาย ผลงานระดับเอกสิทธิ์จากการร่วมงานกับ S-Heart-S ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเรือนผมชั้นนำของญี่ปุ่น ด้วยแรงบันดาลใจจาก “ชิอัตสึ” เทคนิคนวดกดจุดของชาวญี่ปุ่น โดย SCALP & HAIR CARE BRUSH ประกอบด้วยขนแปรง 376 เส้นที่มีความยาวและความหนาที่ต่างระดับกันเพื่อมอบประสิทธิภาพในการนวดบำรุงหนังศีรษะ ขนแปรงผลิตจากเรซินกันน้ำ สามารถใช้หวีขณะผมแห้งเพื่อจัดทรง และใช้แปรงผมตอนผมหมาดๆ หลังการบำรุงเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ ABEILLE ROYALE Scalp & Hair กระจายตัวได้อย่างทั่วถึง

เกอร์แลง

ชุดผลิตภัณฑ์เพื่อเส้นผมและหนังศีรษะ Revitalising & Fortifying Care Shampoo ขนาด 290 มล. ราคา 3,800 บาท, Repairing & Replumping Care Conditioner ขนาด 290 มล. ราคา 3,800 บาท, Double R Radiance & Repair Mask ขนาด 200 มล. ราคา 4,300 บาท และ หวีแปรงผม Scalp & Hair Care Brush ราคา 8,250 บาท วางจำหน่ายแล้วที่เคาน์เตอร์ Guerlain ทุกสาขา

#GUERLAINHAIRCARE #ABEILLEROYALE #GUERLAINTHAILAND

 

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

เคล็ดลับน่ารู้ในการดูแลผิวจาก Dominique Rist ผู้ฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก

หรูมาก! Clarins SkinSuites เซ็นทรัลชิดลม มาพร้อมทรีตเมนต์ Precious สุดเลอค่า

ผ่อนคลายไปกับ Jet Lag Recovery Treatment @ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

ดนัย ดีโรจนวงศ์

คุยกับ ดนัย ดีโรจนวงศ์ ผู้พา MISTINE สู่ตลาดโลก พร้อมส่องบิวตี้ไอเท็มสุดเก๋ที่สาวๆ เทใจให้

account_circle
event
ดนัย ดีโรจนวงศ์
ดนัย ดีโรจนวงศ์

คุยกับ ดนัย ดีโรจนวงศ์ ผู้จับกระแส Soft Power ไทย พา MISTINE ปักธงในจีน กับไลน์ผลิตภัณฑ์อินเตอร์ที่เก๋มากทั้งรูปลักษณ์-คอนเซ็ปต์-คุณภาพ พร้อมถอดรหัสความสำเร็จจากจีนพาแบรนด์ไทยไปไกลระดับโลก

ในอดีตสาวๆ ต่างคุ้นเคยกับแบรนด์ MISTINE ในฐานะแบรนด์ขายตรงคุณภาพเกินราคาจนเป็นที่นิยมไปทั่วไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะกลายเป็นแบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จในการบุกตลาดจีนภายใน 6 ปี

เมื่อเราได้พูดคุยกับ ดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอาง MISTINE (มิสทิน) ในงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2023 ที่ผ่านมาก็ได้รู้ว่า ณ วันนี้เขาพาแบรนด์ MISTINE ไปไกลกว่านั้นแล้ว กับแผนขยายตลาดในระดับ Global ทั้งด้วย Marketing Strategy ที่เคยประสบความสำเร็จในจีน และสินค้าหลากหลายไลน์ที่ปรับให้เหมาะกับผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค …บอกเลยว่าสินค้า MISTINE ในต่างประเทศทั้งเก๋และดูดีมีระดับตั้งแต่ส่วนผสม คอนเซ็ปต์ ไปจนแพ็คเกจ จนอยากให้มีขายในไทยบ้าง

ดนัย ดีโรจนวงศ์
ดนัย ดีโรจนวงศ์ กับบูธสวยๆ ของ MISTINE ในงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2023

( คลิกที่นี่เพื่อชม Short VDO สินค้า MISTINE ในงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2023 )

มาติดตามเส้นทางความสำเร็จของ MISTINE และไอเท็มใหม่ๆ ที่น่าสนใจไปพร้อมกับสุดสัปดาห์กันค่ะ

Disruption ผลักดันสู่ตลาดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม

เมื่อแบรนด์ขายตรงยักษ์ใหญ่ของไทยที่อยู่มานานกว่า 30 ปี เคยทำยอดออร์เดอร์สินค้าได้สูงสุดเกือบ 5 หมื่นชิ้นต่อวัน เล็งเห็นว่า “ธุรกิจขายตรงไม่ใช่อนาคตของแบรนด์อีกต่อไป” จากการถูกดิสรัปชั่นโดยโลกออนไลน์ สิ่งที่MISTINEขยับตัวคือมองหาตลาดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม นั่นคือ “จีน” โดยปรับกลยุทธการขายในน่านน้ำใหม่เป็นอีคอมเมิร์ซ เรียกว่าพลิกมุมมองการทำธุรกิจไปเลย!

6 ปีผ่านไป MISTINE พิสูจน์ความสำเร็จด้วยการส่งผลิตภัณฑ์กลุ่มกันแดดขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในทุกอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มในประเทศจีน พร้อมได้รับคัดเลือกเป็น Super Brand เคียงข้างแบรนด์อินเตอร์จากแพลตฟอร์มเจ้าใหญ่ เป็นใบเบิกทางอีกขั้นของแบรนด์ทั้งในจีนและระดับสากล

MISTINE
สินค้า Top 3 ที่น่าจับตามองในจีน (จากซ้าย) ผลิตภัณฑ์กลุ่มกันแดดที่เป็นอันดับหนึ่งในทุกอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม ตามมาด้วยสินค้ากลุ่มงานผิว เช่น คุชชั่น รองพื้น ฯลฯ และลิปคอลเล็กชั่น THAI LATTE ที่เปิดเพิ่งตัวไปเมื่อไม่นานมานี้

“6 ปีที่แล้วเราเข้าไปทำธุรกิจจริงจังในประเทศจีนที่มีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน จุดเริ่มต้นมาจากนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวประเทศไทยตามรอยภาพยนตร์ Lost In Thailand ที่ดังมากๆ ในจีน พอมาแล้วก็ซื้อของฝากกลับไปซึ่งหนึ่งในนั้นมีเครื่องสำอางMISTINE  ทำให้ MISTINE เริ่มเป็นที่รู้จักในตลาดจีน จนกระทั่งเราตัดสินใจเปิดบริษัท Joint Venture ร่วมกับนักธุรกิจท้องถิ่นภายใต้ชื่อ เบทเตอร์เวย์ เซินเจิ้น ด้วยทุนจะทะเบียน 10 ล้านบาท (ปัจจุบันมูลค่าธุรกิจอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท) ทำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า MISTINE ที่ผลิตจากไทย โดย 95% จำหน่ายบนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างต่อเนื่องแม้กระทั่งในช่วงโควิด อย่างปีที่แล้วเราปิดยอดขายไปที่ประมาณเกือบ 1 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะปิดได้ราว 1.5-1.6 พันล้านบาทในปี 2023 นี้

“เป็นเหตุผลใหญ่ที่เราตัดสินใจจะนำแบรนด์เข้าไปสู่ความเป็น Globalization มากขึ้น โดย 4 ปีแรก (นับจากปี 2022) เราจะคัฟเวอร์ตลาดเอเชียเป็นกลุ่มเป้าหมายแรก จึงเป็นเหตุผลที่เราเริ่ม Rebranding ในปี 2022 ที่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนโลโก้ใหม่ แต่มีการปรับทั้งคุณภาพ ภาพลักษณ์ Active-ingredient โดยเบสจากความต้องการของผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า 1.4 พันล้านคนในจีน และอีก 2 พันล้านคนในตลาด CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) และประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียน ซึ่งปีนี้จะโฟกัสไปที่อินโดนีเชีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ซึ่งมีประชากรกลุ่มใหญ่และมีกำลังซื้อที่ดีขึ้น” ผู้บริหารใหญ่MISTINE กล่าวถึงก้าวแรกในจีนและการมองโอกาสใหม่ๆ

เมื่อถนนทุกสายมุ่งสู่จีน: วางกลยุทธ์ให้แบรนด์ Outstanding

ต้องยอมรับว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาทุกแบรนด์ทั่วโลกก็มุ่งหน้าไปทำตลาดในจีน ทั้งด้วยจำนวนประชากรที่มหาศาลและกำลังซื้อที่พุ่งตามเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดจีนจัดเป็น Red Ocean ที่ดุเดือดพอตัว แล้วอะไรที่ทำให้แบรนด์เครื่องสำอางจากไทยอย่าง  MISTINE ปักธงในจีนได้อย่างมั่นคงและสวยงาม เรื่องนี้ดนัยได้ถอดแนวทางการทำธุรกิจในจีนออกมาได้อย่างน่าสนใจ

สร้างตัวตนของแบรนด์ไทย ชูสโลแกน Tropical Energy

MISTINE
ผลิตภัณฑ์กลุ่มกันแดดที่เป็น Flagship Product ของแบรนด์ MISTINE ในจีน

“เรายังคงความเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่มาจากประเทศไทย เราพบว่าแบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำในโลกนี้ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ที่มาจากเมืองหนาว ไม่ว่าจะยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ทำให้เกิดช่องว่างหนึ่งที่ทำให้แบรนด์เรามีความพิเศษในตัวเอง คือเราเป็นแบรนด์จากเมืองร้อน นี่คือหลักคิดที่เรานำไปวางสโลแกน Tropical Energy เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กันแดดของเราซึ่งตั้งใจวางให้เป็น Flagship Product โดดเด่น เพราะว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อน เมื่อนักท่องเที่ยวมาก็จะพบว่าแดดแรง ดังนั้นอะไรที่ใช้ในเมืองร้อนได้ดี ก็น่าจะใช้ได้ดีทั่วโลก

“ต้องเรียนว่าคนจีนมี Perception ที่ดีกับแบรนด์ไทยทุกอุตสาหกรรม ทั้งอาหาร เครื่องใช้ เครื่องสำอาง เขาเชื่อในคุณภาพของสินค้า Made in Thailand ทำให้เรามีต้นทุนที่ดี จากนั้นก็อยู่ที่การสร้างแบรนด์ให้เกิดความประทับใจ ทำให้ผู้บริโภคจีนยอมรับในตัวสินค้า เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจเปิดแล็บที่เซี่ยงไฮ้เมื่อ 3 ปีก่อน”

ตั้งศูนย์วิจัยเพื่อสร้าง Intellectual Property ของตัวเอง

“การตั้งศูนย์วิจัยนอกประเทศไทยแห่งแรกที่เซี่ยงไฮ้ก็เพื่อสร้างสิทธิบัตร (IP – Intellectual Property) ผมมองว่าในการก้าวสู่ตลาดโลกเราต้องมีจุดยืน การที่เรามีศูนย์วิจัยในจีน ไทย แล้วไปทำงานร่วมกับศูนย์วิจัยที่เยอรมัน รวมเป็น 3 แล็บ จะช่วยให้เราเปิดตัวเข้าสู่ตลาดโลกอย่างสง่าผ่าเผย อย่างเช่นผลิตภัณฑ์กลุ่มกันแดดของเราทุกรายการมีสารสกัดสิทธิบัตรที่เราภูมิใจมาก ชื่อว่า Taremi™ มาจากข้าวหอมมะลิแดงที่ปลูกในภาคอีสานของไทย สิทธิบัตรหรือส่วนผสมที่มาจากท้องถิ่นไทย ทำให้แบรนด์มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์ และมีตัวตน”

สร้างแบรนด์ผ่านกระแส Soft Power ของไทย

“ในส่วนของ Marketing เราสร้างแบรนด์ผ่าน Soft Power ของไทย ทำให้ชาวจีนเกิดความอยากรู้จักแบรนด์ MISTINE อยากลองใช้ แล้วเมื่อใช้แล้วประทับใจในคุณภาพ การยอมรับก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

MISTINE
MISTINE Colorful Thailand Air Cushion

อย่างเช่น คอนเซ็ปต์อิงความเป็นไทย โดยบางคอลเล็กชั่นที่จัดจำหน่ายในประเทศจีน การคิดคอนเซ็ปต์ ชื่อสินค้า หรือแนวทางการทำตลาด จะอิงกับประเทศไทยล้วนๆ อย่างล่าสุดเราเพิ่งเปิดตัวลิปจุ่มที่ได้แรงบันดาลใจจากชาไทยกับกาแฟนมแบบไทยๆ (โอเลี้ยงผสมนม) ซึ่งเป็นเทรนด์ของสีพอดี เพราะเป็นเฉดน้ำตาลครีมมี่ จากแรงบันดาลใจมาสู่ชื่อคอลเล็กชั่น Thai Latte พอมีคำว่าไทยก็มี Soft Power เล็กๆ ติดไปกับตัวสินค้า แล้วด้วยกระแสของชาไทยที่ไปทำตลาดในจีนคือ ชาตรามือ ก็ช่วยกันผลักดัน ทำ Collaborate กัน ในอนาคตจะเราจะไปตั้งม็อคอัพอยู่ที่ร้านชาตรามือด้วย หรือสินค้าใหม่อีกตัวก็เป็นคุชชั่นคอลเล็กชั่น Colorful Siam (MISTINE Colorful Thailand Air Cushion)

MISTINE THAI LATTE
MISTINE THAI LATTE

นอกจากนี้ก็ อิงกระแสวายคัลเจอร์ ในการทำธุรกิจเครื่องสำอางผมขอแบ่งเป็น 2 ฟังก์ชั่น คือฟังก์ชั่นการใช้งาน ซึ่งสินค้าที่คุณภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง และ Emotional Function หรือความรู้สึก ผมมองว่าวายคัลเจอร์เป็นส่วนนี้ เหมือนกับเราชอบซีรีส์เกาหลีแล้วเราซื้อสินค้าของเขา ทั้งเครื่องสำอาง บะหมี่ กิมจิ หรือเสื้อผ้าแฟชั่น ก็มาจากการซึมซับคัลเจอร์” (MISTINE มีการใช้คู่จิ้นทั้งในการเปิดตัวสินค้าในจีน เช่น ลิปคอลเล็กชั่น Thai Latte เชิญพีพี-บิวกิ้นบินไปเปิดตัวที่จีน รวมถึงเชิญคู่จิ้นอื่นๆ มาไลฟ์แนะนำสินค้าอย่างต่อเนื่องทุกเดือน – สุดสัปดาห์)

ปรับแผน Marketing ให้เหมาะกับตลาด

“ผมคิดว่าการเข้าไปในตลาดจีนเราต้องเข้าใจและให้เกียรติวัฒนธรรมและค่านิยมของเขา แล้วเราจะรู้ว่าควรพูดอะไร ไม่ควรพูดอะไร และควรระวังเรื่องอะไร ที่สำคัญต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ ลึกๆ แล้วลูกค้าจีนมีความแตกต่างจากลูกค้าไทยค่อนข้างมาก ชาวจีนกังวลกับการใช้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ แปลว่าเมื่อเราบอกว่าสินค้าดี ใส่อะไรไปเท่าไหร่ ถ้าเขาเอาไปตรวจสอบต้องได้ตามนั้นเป๊ะๆ ถ้าไม่ได้ตามนั้นแบรนด์คุณพังเลย

“ดังนั้นการสร้างกระแสในจีนต้องใช้คำว่าคุณภาพนำ ในทางกลับกันเหตุผลนี้ก็ทำให้นักไลฟ์ท็อปๆ ในจีนให้ความสำคัญกับการเลือกรับรีวิวสินค้ามาก ซึ่งเราก็ได้ไลฟ์สตรีมเมอร์ชื่อดัง คุณออสติน หลี่ มาเป็นไลฟ์สตรีมเมอร์ให้และมีแคมเปญร่วมกัน  แล้วก็มีราชานักไลฟ์ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ขายทุเรียนไทย (6.2 ล้านลูกในวันเดียว) คุณซินปา มาไลฟ์ขาย MISTINE ให้เรา วันนั้น 2 นาที ขายไปกว่า 3 ล้านชิ้น เราจำเป็นต้องทุ่มงบการตลาดไปกับโซเชียลมีเดียและไลฟ์สตรีมเมอร์ เพราะวิถีชีวิตคนจีนเป็นแบบนั้น เขาบริโภคสินค้าทางช่องทางออนไลน์มากกว่า”

From China to Global: Marketing Strategy & New Product Lines

ก่อนการสัมภาษณ์ สุดสัปดาห์ได้ไปชมบูธของ MISTINE ในงาน Cosmoprof CBE ASEAN 2023 แล้วประทับใจกับภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูสวยโก้ในโทนสีขาว สินค้าในแพ็คเกจสวยเก๋ และมีหลากหลายไลน์ที่แตกต่างกันมาก ซึ่งเมื่อพูดคุยกันก็ได้รู้ว่าทางแบรนด์มีการวางแผนพัฒนาไลน์สินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการและรสนิยมของผู้บริโภคในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การนำแบรนด์ไปสู่ระดับ Global

MISTINE
บูธ MISTINE กับภาพลักษณ์เรียบโก้ดูอินเตอร์

“ในงานวันนี้เรามีการเปิดตัวสินค้าของ AMORN APOTHECARY ไลน์เครื่องหอมภายใต้ HOUSE OF MISTINE ที่ตั้งใจจะเจาะเข้าตลาดตะวันออกกลาง การเข้ามาเปิดตัวใน Cosmoprof ครั้งนี้ก็เป็นเวทีหนึ่งที่บอกว่าเราเป็นแบรนด์คุณภาพจากประเทศไทย ไม่ใช่แค่ในไทยนะครับ ในปีที่ผ่านมาเราเข้าไปทุก Cosmoprof ทั้งที่โบโลญญ่า ลาสเวกัส เซี่ยงไฮ้ ปลายปีนี้จะไปที่ฮ่องกง การออกงานต่างๆ และการร่วม Participation กับทุกแพลตฟอร์มการสื่อสาร คือการแต่งตัวเข้าไปสู่ตลาด Global แต่ก็ต้องไปพร้อมกับการพัฒนาสินค้าในทุกด้าน การที่เรามีแล็บของเราเอง และมีโคแลบที่เยอรมัน รวมทั้งการวาง Position สินค้าให้อยู่ในเทรนด์ โดยทำคัลเลอร์เทรนด์กับบริษัท BEAUTYSTREAMS ของฝรั่งเศส ที่ช่วยวางแนวทางโปรดักส์ แพ็คเกจจิ้ง สีสัน จะทำให้เราเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

AMORN APOTHECARY
เครื่องหอมจาก AMORN APOTHECARY

“อีกทั้งเรากำลังศึกษาเรื่อง Green Marketing, Sustainable Marketing ซึ่งจะทำให้เราสามารถเข้าสู่ตลาดโลกได้ ทำให้เราต้องพิถีพิถันมากในการจะพาร์ทเนอร์กับโรงงานที่จะสามารถพาเราไปสู่จุดนั้นได้ “

ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ของแบรนด์ขายตรงอายุ 36 ปี ปรับตัวและทะยานฝ่า Digital Disruption ไปเฉิดฉายในตลาดใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม และกำลังเตรียมพร้อมสำหรับก้าวใหม่ที่ท้ายทายยิ่งขึ้นในตลาดระดับ Global ของแบรนด์ไทยที่ชื่อ MISTINE

…นอกจากเป็นตัวแทนความภาคภูมิใจของสินค้า  Made in Thailand  แล้ว เราเชื่อว่าประสบการณ์ของ MISTINE จะเป็นทั้งแรงบันดาลใจและแนวทางที่มีคุณค่าสำหรับแบรนด์ไทยอื่นๆ ที่อยากเปิดตัวสู่ตลาดโลก ส่วนในฐานะของผู้บริโภคต้องชื่นชมว่าสินค้าที่วางขายในตลาดอินเตอร์ของ MISTINE เก๋มาก น่าใช้มาก อย่าลืมนำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยบ้างนะคะ

ดนัย ดีโรจนวงศ์
บูธ MISTINE ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างมาก

สัมภาษณ์และเรียบเรียง: Nicharee W.

ภาพ: MISTINE

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

The history of Whoo เปิดตัว “แอฟ-ทักษอร” ในฐานะ Friend of Whoo คนแรกของไทยอย่างยิ่งใหญ่!

เตรียมพบกับ Le Labo City Exclusive ตลอดเดือนกันยายนนี้ ที่สยามพารากอน

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง - เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei -魏哲鸣 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน -พระเอกจีน -พระเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงชายจีน -ดาราจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

2 บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง ใน 2 ซีรี่ย์จีนที่มาแรงสุดๆ ในขณะนี้!

Alternative Textaccount_circle
event
บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง - เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei -魏哲鸣 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน -พระเอกจีน -พระเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงชายจีน -ดาราจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง - เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei -魏哲鸣 - ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน -พระเอกจีน -พระเอกซีรี่ย์จีน -นักแสดงชายจีน -ดาราจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ พาตามกรี๊ด 2 บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง นักแสดงหนุ่มขวัญใจสาวๆ ใน 2 ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบันที่มาแรงสุดๆ ในขณะนี้!

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงชายจีนที่สาวๆ กรี๊ดกันหนักมากกับความหล่อเหลาสไตล์อปป้า สำหรับเว่ยเจ๋อหมิง (Wei Zheming หรือ Miles Wei) นักร้อง นักแสดงวัย 33 ปี (เกิดเดือนพ.ค. 1990) ที่สุดฯ เชื่อว่าคอซีรี่ย์จีนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาดีจากหลายๆ บทบาท ทั้งบทพระเอก พระรอง ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์จีนเรื่อง Perfect And Casual ลุ้นรักคู่รักกำมะลอ (2020), Unforgettable Love รักนี้ไม่ลืมเลือน (2021) ที่โด่งดังอย่างมากในไทย รวมไปถึงอีก 2 เรื่องที่เว่ยเจ๋อหมิงรับบทพระเอกและออนแอร์ในปี 2023 นี้อย่าง My Marvellous Fable หนังสือมหัศจรรย์ฤดูร้อน ที่ออนแอร์ทาง MangoTV และ Hello, I’m At Your Service ต่งต่งเอินยอดนักบริการ ที่ออกอากาศทาง iQIYI

ล่าสุดเว่ยเจ๋อหมิงยังได้ร่วมแสดงใน 2 ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบันที่กำลังมาแรงสุดๆ ในช่วงต้นเดือนพ.ย. 2023 นี้ ซึ่งจะมีเรื่องไหนและเว่ยเจ๋อหมิงรับบทเป็นใครบ้าง ตามสุดฯ มาดู 2 บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง กันเลยค่า

  • Rising With the Wind พลิกชะตา ฝ่าเกมธุรกิจ
บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง - เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei -魏哲鸣 - Rising With the Wind - พลิกชะตา ฝ่าเกมธุรกิจ - 我要逆风去

เรื่องแรกที่สุดฯ ขอพูดถึงก่อนเลยคือ ซีรี่ย์จีน Rising With the Wind พลิกชะตา ฝ่าเกมธุรกิจ ที่ออนแอร์ไปวันที่ 30 ต.ค. 2023 ทาง iQIYI โดยเป็นซีรี่ย์ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนในชื่อเรื่องเดียวกันของนักเขียน เว่ยไจ้ (Wei Zai) บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสวีซือ นักลงทุนหนุ่มหล่อที่เปลี่ยนงานจากวาณิชธนกิจในฮ่องกง กลับมาที่แผ่นดินใหญ่เพื่อลงทุนในบริษัทต่างๆ จนได้พบกับเจียงหู ลูกสาวคนเดียวของบริษัทกลุ่มเสื้อผ้า ซึ่งทั้งสองคนเริ่มต้นความสัมพันธ์กันได้ไม่ดีนัก เพราะต่างมีแนวคิดทางธุรกิจที่แตกต่างกัน จนทำให้กระทบกระทั่งกันหลายครั้ง กระทั่งบริษัทของครอบครัวเจียงหูก็ล้มละลาย และคุณหนูเจียงหูก็เปลี่ยนสถานะกลายเป็นอดีตคุณหนูไปในพริบตา

สวีซือที่มีความทะเยอทะยานในอาชีพการงานมาโดยตลอด มุ่งมั่นที่จะชนะแบรนด์รองเท้าที่พ่อของเจียงหูสร้างขึ้นให้ได้ ดังนั้น เจียงหูจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาบริษัทรองเท้าของพ่อเธอเอาไว้ให้ได้ เรื่องราวของธุรกิจที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง อุปสรรคดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมกับความรักระหว่างสวีซือและเจียงหูที่ค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน…

ในเรื่อง Rising With the Wind พลิกชะตา ฝ่าเกมธุรกิจ เว่ยเจ๋อหมิงรับบทเป็นเกาอี้ คนรักในวัยเด็กของนางเอกเจียงหู ที่เกิดในครอบครัวตระกูลร่ำรวย เกาอี้เติบโตมาเป็นนักธุรกิจที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตา การศึกษา และยังควบตำแหน่งรองประธานบริษัทด้วย เพราะเขาต้องแบกรับภาระหน้าที่ดูแลกิจการครอบครัว ทำให้มีบุคลิกเงียบขรึม เย็นชา เก็บตัว ซึ่งเนื่องด้วยเหตุการณ์หนึ่งทำให้เจียงหูโกรธแค้นครอบครัวของเกาอี้และไม่สามารถอภัยให้เขาได้อีกต่อไป…

บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง - เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei -魏哲鸣 - Rising With the Wind - พลิกชะตา ฝ่าเกมธุรกิจ - 我要逆风去
บทบาทของเว่ยเจ๋อหมิง - เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei -魏哲鸣 - Rising With the Wind - พลิกชะตา ฝ่าเกมธุรกิจ - 我要逆风去
  • Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก
 เว่ยเจ๋อหมิง  - Wei Zheming  - Miles Wei -魏哲鸣  - Only For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก - 以爱为营

อีกเรื่องคือ Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก ที่เพิ่งจะออนแอร์เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่กระแสตอบรับก็มาแรงแบบไม่เป็นสองรองใคร โดยเป็นซีรี่ย์จีนที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดัง Cuo Liao ของเชี่ยวเหยา (Qiao Yao) บอกเล่าเรื่องราวความรักของนักข่าวสายการเงินและนักธุรกิจที่เริ่มต้นรู้จักกันจากการได้สัมภาษณ์ และทั้งคู่ต่างสร้างความประทับใจให้แก่กันและกันได้อย่างลึกซึ้ง และเมื่อวันเวลาผ่านไปความรักก็ค่อยๆ ก่อเกิดตัวขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้นอกจากคู่ของพระ-นางที่รับบทโดยดีแลน หวัง (Dylan Wang หรือชื่อจริง หวังเฮ่อตี้/Wang Hedi) และไป๋ลู่ (Bai Lu) แล้ว ยังมีคู่รองอีก 2 คู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคู่ของเว่ยเจ๋อหมิงที่รับบทคู่กับนักแสดงหญิงจีนรุ่นน้อง เสิ่นอวี่เจี๋ย (Shen Yujie) โดยเว่ยเจ๋อหมิงรับบทเป็นอวี้โหยว รองศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย และยังเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพระเอกด้วย เรื่องนี้สุดฯ บอกเลยว่า ใครที่คิดถึงมาดสุดสุขุม อบอุ่นของเว่ยเจ๋อหมิงพลาดไม่ได้จริงๆ ค่ะ ไปตามเก็บพร้อมกันที่ซีรี่ย์จีน Only For Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรักนะคะ

เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei -魏哲鸣 - Only For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก - 以爱为营
เว่ยเจ๋อหมิง - Wei Zheming - Miles Wei -魏哲鸣 - Only For Love - จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก - 以爱为营

รูปจาก : 我要逆风去官微/以爱为营官方微博

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Xifei’s Royal Love in the Palace ที่รวมตัวนักแสดงที่หลายคนคิดถึงไว้เพียบ!

3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ลงจอแย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียต้นเดือนพ.ย. 2023!​

2 ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 ประกบคู่พระเอกสุดฮอตส่งต่อเคมีสาธารณะ!

ซีรี่ย์จีน Rising With the Wind เมื่อความขัดแย้งทางธุรกิจมาพร้อมความรัก!

หลัวอวิ๋นซีคัมแบ็คซีรี่ย์จีน Love Is Panacea ทีมเมียเตรียมฟินให้ใจฟู!!

ซีรี่ย์จีนย้อนยุคของถังเยียน ในรอบ 3 ปี ออร่าเปล่งประกายไม่เปลี่ยน!

Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน - 岁岁青莲- ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคปี 2023 - ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนย้อนยุค -นักแสดงจีน -ดาราจีน -นักแสดงฮ่องกง -นักแสดงไต้หวัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน

ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Xifei’s Royal Love in the Palace ที่รวมตัวนักแสดงที่หลายคนคิดถึงไว้เพียบ!

Alternative Textaccount_circle
event
Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน - 岁岁青莲- ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคปี 2023 - ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนย้อนยุค -นักแสดงจีน -ดาราจีน -นักแสดงฮ่องกง -นักแสดงไต้หวัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน
Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน - 岁岁青莲- ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคปี 2023 - ซีรี่ย์จีน -ซีรี่ย์จีนย้อนยุค -นักแสดงจีน -ดาราจีน -นักแสดงฮ่องกง -นักแสดงไต้หวัน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ ชวนดูซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Xifei’s Royal Love in the Palace ที่รวบรวมนักแสดงทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกงที่หลายคนคิดถึงไว้ในเรื่องเดียว!

อีกหนึ่งซีรี่ย์จีนที่ออนแอร์ในเดือนต.ค. 2023 และน่าติดตามไม่แพ้เรื่องอื่นๆ คือ Xifei’s Royal Love in the Palace หรือชื่อไทย ตำนานรักชิงเหลียน ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/ดราม่าที่ดัดแปลงบทจากนิยายออนไลน์จีนของนักเขียนเจี่ยอวี่ (Jie Yu) ซึ่งเป็นซีรี่ย์ที่ถ่ายทำไปตั้งแต่ช่วงกลางปี 2019 แต่เพิ่งจะได้ฤกษ์มาออนแอร์วันที่ 23 ต.ค. 2023 ที่ผ่านมา โดยเป็นซีรี่ย์จีนที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของเฮ่อเหลียนซิ่นและลั่วชิงเหลียนเป็นเส้นเรื่องหลัก เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นในเมืองฉวี่เหลียง ลั่วชิงเหลียนที่กำลังฝังใจอยู่กับคนรักในวัยเด็กของเธออย่างหลู่เป่ยอี้ แต่เหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อเธอถูกบังคับให้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกเป็นคนรับใช้ในพระราชวัง และบังเอิญได้กลายเป็นนางสนมในวังขององค์ชายสาม เหอเหลียนซิ่น

ขณะที่ลั่วชิงเหลียนและเฮ่อเหลียนซิ่นได้ใช้เวลาร่วมกัน และผ่านพ้นช่วงเวลาขึ้นๆ ลงๆ ไปด้วยกัน ทั้งสองคนก็ค่อยๆ เดินบนทางสายเดียวกัน ร่วมกันรักษาอุดมการณ์ ความมุ่งมั่นเพื่อรักษาธรรมาภิบาลที่ดีเพื่อประเทศชาติ

Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน  - 岁岁青莲

ในเรื่องXifei’s Royal Love in the Palace ตำนานรักชิงเหลียน คู่พระ-นางได้นักแสดง นักร้องไต้หวันรุ่นใหญ่อย่างเหอรุ่นตง (He Rundong หรือ Peter Ho) เจ้าของผลงานซีรี่ย์ไต้หวันสุดฮิตตลอดกาลอย่าง Summer Desire รักฉบับฤดูร้อน (2010) และเหอหงซาน (He Hongshan) นักแสดงหญิงจีนที่เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Ruyi’s Royal Love in the Palace (2018), Legend of the Phoenix ประกาศิตหงสา (2019) เป็นต้น

Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน  - 岁岁青莲
Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน  - 岁岁青莲

นอกจากนี้ยังมีอีก 2 สาวสวยที่หลายคนน่าจะคิดถึงกัน นั่นคือ หวงเซิ่งอี (Huang Shengyi หรือ Eva Huang) นักแสดงหญิงจีนตัวแม่ที่ก่อนหน้านี้มีผลงานจัดจ้านทั้งจอเงินและจอแก้ว อาทิ The Royal Swordsmen (2005), Sword Stained with Royal Blood (2007), ภาพยนตร์ Kung Fu Hustle (2004), The Sorcerer and the White Snake (2011) เป็นต้น ซึ่งถ้าหากใครที่ติดตามหนังจีนมานานน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอดี นอกจากนี้ยังมีนักแสดง นักร้องหญิงฮ่องกงอย่างโจวลี่ฉี (Zhou Liqi หรือ Niki Chow LaiKei) เจ้าของผลงานซีรี่ย์ฮ่องกงสุดคลาสสิก Under the Canopy of Love (2005), The Seventh Day (2008), Rogue Emperor (2016) เป็นต้น ซึ่งนานๆ จะมาร่วมแสดงในซีรี่ย์จีนฝั่งแผ่นดินใหญ่สักที แฟนๆ ไปติดตามกันได้จ้าในซีรี่ย์จีนXifei’s Royal Love in the Palace ตำนานรักชิงเหลียน

Xifei's Royal Love in the Palace -ตำนานรักชิงเหลียน  - 岁岁青莲

รูปจาก : 剧集岁岁青莲

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

ตามเก็บ 2 ซีรี่ย์จีนของซ่งเวยหลงในปี2023 หลังปล่อยผลงานใหม่ชวนลุ้นระทึก!

2 ซีรี่ย์จีนของไป๋จิ้งถิงในปี2023 มาครบทั้งแนวย้อนยุคและปัจจุบัน!

น่าดู! Scent Of Time ซีรี่ย์จีนแนวทะลุมิติที่นางเอกอยู่ในร่างตัวร้าย!

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ร่วมงานแสดงเกาหลี-ญี่ปุ่น การันตีความฮอตทั่วเอเชีย!

5 ซีรี่ย์จีนยังไม่ได้ออนแอร์ของหลิวอวี่หนิง ฉายแววปังทุกเรื่อง!

หวานไม่ไหว! หลินอี-หลิวฮ่าวฉุน ส่งเคมีคู่จิ้นชวนตั้งตารอซีรี่ย์จีน Derailment !

ซูมอิน หวงรื่ออิ๋ง นักแสดงหญิงจีนที่ไม่ว่าจะบทคอเมดี้ ดราม่าก็เอาอยู่!

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

Weaving a Tale of Love 2 - 风起西州- ตำนานรักช่างภูษา - Weaving a Tale of Love -风起霓裳- สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha - นักแสดงจีน - ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - ซีรี่ย์จีนภาคต่อ - ซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023

Weaving a Tale of Love 2 ซีรี่ย์จีนภาคต่อของสวี่เว่ยโจว-กู่ลี่นาจา!

Alternative Textaccount_circle
event
Weaving a Tale of Love 2 - 风起西州- ตำนานรักช่างภูษา - Weaving a Tale of Love -风起霓裳- สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha - นักแสดงจีน - ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - ซีรี่ย์จีนภาคต่อ - ซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023
Weaving a Tale of Love 2 - 风起西州- ตำนานรักช่างภูษา - Weaving a Tale of Love -风起霓裳- สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha - นักแสดงจีน - ดาราจีน - พระเอกจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - คู่จิ้นดาราจีน - ซีรี่ย์จีนภาคต่อ - ซีรี่ย์จีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023

สุดฯ ชวนดู Weaving a Tale of Love 2 ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติกภาคต่อ พระ-นางได้คู่จิ้นคู่เดิม สวี่เว่ยโจว-กู่ลี่นาจา มาร่วมกันสานต่อเคมีสุดปัง!

สำหรับใครที่เป็นแฟนซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก สุดฯ เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยได้รับชม Weaving a Tale of Love หรือชื่อไทย ตำนานรักช่างภูษา ที่ออนแอร์เมื่อปี 2021 กันมาแล้วไม่มากก็น้อย โดยเป็นซีรี่ย์ที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดังเรื่อง ต้าถังหมิงเยว่ (Da Tang Ming Yue) ของนักเขียนหลานอวิ๋นชู (Lan Yunshu) ที่บอกเล่าเรื่องราวของคู่ตี๋หลิวหลี หญิงสาวที่มีพรสวรรค์ด้านการทำเสื้อผ้าจากแม่ของเธอ แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับแม่ของเธอ ทำให้หลิวหลีต้องเอาชีวิตรอดโดยปลอมตัวเป็นชายและใช้ชีวิตแบบนั้นไปสักระยะหนึ่ง จนได้พบกับเผยสิงเจี่ยน ชายหนุ่มที่มีความกล้าหาญ ไหวพริบ ฉลาดหลักแหลมจนได้เป็นศิษย์ของแม่ทัพใหญ่ของราชวงศ์ในสมัยต้าถัง และได้กลายเป็นองครักษ์ขององรัชทายาทด้วย

风起霓裳- สวี่เว่ยโจว  -  ทิมมี่ สวี่  -  Timmy Xu  -  Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา  -  Gulinazha

แต่เรื่องราวภายในราชวงศ์ที่โกลาหลเพราะมีผู้ไม่หวังดีมุ่งหมายจะยึดบัลลังก์จากองค์รัชทายาท ทั้งหลิวหลีและเผยสิงเจี่ยนค่อยๆ ร่วมมือร่วมใจกันปกป้องราชวงศ์และค่อยๆ ช่วยกันตามหาความจริงจนทวงคืนความยุติธรรมให้กับแม่ของหลิวหลีได้สำเร็จ ท้ายที่สุดเผยสิงเจี่ยนและหลิวหลีก็ได้ครองรักกัน… ซึ่งใครที่ยังไม่ได้ดูสามารถไปตามเก็บ Weaving a Tale of Love ตำนานรักช่างภูษาย้อนหลังกันได้ค่า

风起霓裳- สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha

หลังจากส่งความสำเร็จในภาคแรกไปเมื่อปี 2021 เวลาผ่านไปเกือบ 2 ปี ในปี 2023 นี้ ซีรี่ย์จีนWeaving a Tale of Love 2 ก็ได้ฤกษ์ลงจอออนแอร์แล้วจ้าเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2023 โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตหลังแต่งงานของเผยสิงเจี่ยนและคู่ตี๋หลิวหลี ที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตสามีภรรยาที่เข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี หลังจากเผยสิงเจี่ยนถูกลดขั้นจนถูกขับไล่ให้ไปรับตำแหน่งที่เมืองเล็กๆ อย่างซีโจว หลิวหลีก็ติดตามสามีของเธอไป แต่หลังจากเดินทางไปถึงเมืองซีโจว เผยสิงเจี่ยนกลับถูกต่อต้านจากคนในพื้นที่ แต่สองสามีภรรยาก็ไม่ยอมแพ้ มุ่งมั่นทำความดีให้ผู้คนจนได้รับการยอมรับในที่สุด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามกันได้ค่า

สวี่เว่ยโจว  -  ทิมมี่ สวี่  -  Timmy Xu  -  Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา  -  Gulinazha  - Weaving a Tale of Love 2 -  风起西州

ในเรื่องWeaving a Tale of Love 2 ยังได้คู่จิ้นพระ-นางจากภาคแรกมารับบท นั่นคือ สวี่เว่ยโจว (Xu Weizhou หรือ ทิมมี่ สวี่/Timmy Xu) นักร้อง นักแสดงวัย 29 ปี เจ้าของผลงานสุดฮิต เช่น ซีรี่ย์จีนแนววาย Addicted ร้ายนักรักเสพติด (2016), Midsummer Is Full of Hearts รักวุ่นๆ ในฤดูร้อน (2020), City of Streamer วังวนรักหลังม่านเมืองมายา (2022) เป็นต้น มาประกบคู่กับนักแสดงหญิงรุ่นพี่ กู่ลี่นาจา (Gulinazha) วัย 31 ปีที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีน Fighter of the Destiny (2017), Weaving a Tale of Love (2021), Twelve Legends (2021), Dancing In The Storm (2021) เป็นต้น ดังนั้น แฟนๆ ที่ชื่นชอบเคมีของคู่สวี่เว่ยโจวและกู่ลี่นาจาพลาดไม่ได้ทั้ง 2 ภาคเลยนะคะ Weaving a Tale of Love 2 ออนแอร์ทางแพลตฟอร์ม YOUKU จ้า

สวี่เว่ยโจว  -  ทิมมี่ สวี่  -  Timmy Xu  -  Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา  -  Gulinazha  - Weaving a Tale of Love 2 -  风起西州
สวี่เว่ยโจว - ทิมมี่ สวี่ - Timmy Xu - Xu Weizhou - กู่ลี่นาจา - Gulinazha - Weaving a Tale of Love 2 - 风起西州

รูปจาก : 风起西州官微

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ลงจอแย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียต้นเดือนพ.ย. 2023!​

2 ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 ประกบคู่พระเอกสุดฮอตส่งต่อเคมีสาธารณะ!

ซีรี่ย์จีน Rising With the Wind เมื่อความขัดแย้งทางธุรกิจมาพร้อมความรัก!

หลัวอวิ๋นซีคัมแบ็คซีรี่ย์จีน Love Is Panacea ทีมเมียเตรียมฟินให้ใจฟู!!

ซีรี่ย์จีนย้อนยุคของถังเยียน ในรอบ 3 ปี ออร่าเปล่งประกายไม่เปลี่ยน!

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

ซูมอิน หวงรื่ออิ๋ง นักแสดงหญิงจีนที่ไม่ว่าจะบทคอเมดี้ ดราม่าก็เอาอยู่!

ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนเดือนพ.ย. - ซีรี่ย์จีน- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน - นักแสดงซีรี่ย์จีน - พระเอกจีน- พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน- ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ลงจอแย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียต้นเดือนพ.ย. 2023!​

Alternative Textaccount_circle
event
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนเดือนพ.ย. - ซีรี่ย์จีน- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน - นักแสดงซีรี่ย์จีน - พระเอกจีน- พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน- ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค - ซีรี่ย์จีนเดือนพ.ย. - ซีรี่ย์จีน- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - นักแสดงจีน - นักแสดงซีรี่ย์จีน - พระเอกจีน- พระเอกซีรี่ย์จีน - ดาราจีน- ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ พาตามกรี๊ด 3 ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป ทั้งหลัวอวิ๋นซี – หวังเฮ่อตี้ – สวีข่าย หลังทยอยลงจอรับต้นเดือนพ.ย. 2023 แย่งเสียงกรี๊ดทีมเมียแบบไม่มีใครยอมใคร!! มีเรื่องไหนบ้างตามสุดฯ มาดูกันจ้า

  • Love Is Panacea ให้รักเยียวยากัน
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป -  Love Is Panacea -  ให้รักเยียวยากัน - 治愈系恋人

ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป เรื่องแรกสุดฯ ขอเปิดด้วยเรื่อง Love Is Panacea ให้รักเยียวยากัน ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกของหลัวขวัญใจสาวๆ หลัวอวิ๋นซี (Luo Yunxi) เจ้าของผลงานสุดฮิต เช่น And The Winner Is Love ไฟผลาญจันทร์ (2020), Love Is Sweet ครึ่งทางรัก (2020), Till The End of The Moon จันทราอัสดง (2023) ฯลฯ ที่เพิ่งจะออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2023 ประกบคู่กับนักแสดงหญิงจีนรุ่นน้อง จางรั่วหนาน (Zhang Ruonan) ที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีน เช่น Everyone Wants To Meet You ใครๆ ก็อยากพบเธอ (2020), A Date with the Future พบรักที่ปลายสัญญา (2023) เป็นต้น โดยซีรี่ย์เรื่อง Love Is Panacea ให้รักเยียวยากัน บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับซูเหวยอัน นักศึกษาแพทย์ที่มีโรคประจำตัวที่หายาก และได้พบกับกู้อวิ๋นเจิง คุณหมอหนุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมระบบประสาท ทั้งสองคนเริ่มต้นความสัมพันธ์จากการเป็นอาจารย์ลูกศิษย์ที่มักจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก แต่สุดท้ายก็สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ กลายเป็นคู่หูในชีวิตและการทำงาน… ใครยังไม่ได้ตาม ไปเก็บกันได้ที่ YOUKU นะคะ

Luo Yunxi - หลัวอวิ๋นซี -Love Is Panacea - ให้รักเยียวยากัน - 治愈系恋人
  • Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - Only for Love- จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก -以爱为营

ต่อด้วยซีรี่ย์จีนเรื่อง Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก ของอีกหนึ่งความหวังของสาวๆ อย่างหวังเฮ่อตี้ หรือ ดีแลน หวัง (Wang Hedi/Dylan Wang) เจ้าของบทเต้าหมิงซื่อในซีรี่ย์จีนรีเมคจากซีรี่ย์ไต้หวัน Meteor Garden รักใสๆ หัวใจสี่ดวง เวอร์ชั่น 2018 หรือ F4 ที่ออนแอร์ 3 พ.ย. 2023 โดยแท็กทีมนางเอกจีนเคมีสาธารณะอย่างไป๋ลู่ (Bai Lu) จากซีรี่ย์จีนเรื่อง The Legends เจาเหยา จอมมารโลกต้องจำ (2019), One and Only ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม ภาคอดีต (2021), Forever and Ever ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม ภาคปัจจุบัน (2021) เป็นต้น มาร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของนักข่าวสายการเงินและนักธุรกิจที่เริ่มต้นรู้จักกันจากการได้สัมภาษณ์ และทั้งคู่ต่างสร้างความประทับใจให้แก่กันและกันได้อย่างลึกซึ้ง และเมื่อวันเวลาผ่านไปความรักก็ค่อยๆ ก่อเกิดตัวขึ้น… ซึ่งในเรื่อง Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก นอกจากคู่พระ-นางอย่างดีแลน หวังกับไป๋ลู่แล้ว ยังมีคู่รองอีก 2 คู่ที่เคมีน่าตามไม่แพ้กัน นั่นคือคู่ของเว่ยเจ๋อหมิง (Wei Zheming หรือ Miles Wei)เสิ่นอวี่เจี๋ย (Shen Yujie) และหลิวตงชิ่น (Liu Dongqin)เจียงเพ่ยเหยา (Jiang Peiyao) ไปติดตามความสนุกกันเต็มๆ ได้ที่ซีรี่ย์จีน Only for Love จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก นะคะ

Only for Love- จีบให้วุ่นลงทุนด้วยรัก -以爱为营
  • Wonderland of Love พสุธารักเคียงใจ
ซีรี่ย์จีนของพระเอกตัวท็อป - Wonderland of Love - พสุธารักเคียงใจ -乐游原

อีกเรื่องที่ไม่น่าพลาดในช่วงต้นเดือนพ.ย. 2023 นี้ นั่นคือ Wonderland of Love พสุธารักเคียงใจ ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุคที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนในชื่อเรื่องเดียวกันของนักเขียนเจ้าของนามปากกา เฝ่ยหว่อซือฉุน (Fei Wo Si Cun) ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหลี่อี๋ องค์รัชทายาทและชุยหลิน แม่ทัพหญิงที่แอบปลอมตัวเป็นชาย โดยไม่ให้ใครรู้ พวกเขาค่อยๆ เรียนรู้กันและกัน ร่วมกันสู้ศึกต่อกรกับเหล่าศัตรู โดยพระเอกได้สวีข่าย (Xu Kai) พระเอกจาก The Legends เจาเหยา จอมมารโลกต้องจำ (2019), She and Her Perfect Husband กฎล็อกลิขิตรัก (2022) มาประกบคู่กับจิ่งเถียน (Jing Tian) จากเรื่อง The Glory of Tang Dynasty ศึกชิงบัลลังก์ราชวงศ์ถัง ภาค 1-2 (2017), Rattan ครึ่งปีศาจซือเถิง (2021) พร้อมด้วยหลิวอวี่หนิง (Liu Yuning) ก็มาร่วมแสดงด้วย บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องในเดือนพ.ย.นี้ที่พลาดไม่ได้จริงๆ ค่ะ ออนแอร์วันที่ 6 พ.ย.นี้ทาง WeTV

Wonderland of Love - พสุธารักเคียงใจ -乐游原

รูปจาก : 乐游原官微/以爱为营官方微博/电视剧治愈系恋人

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

2 ซีรี่ย์จีนของจงฉู่ซีปี 2023 ประกบคู่พระเอกสุดฮอตส่งต่อเคมีสาธารณะ!

ซีรี่ย์จีน Rising With the Wind เมื่อความขัดแย้งทางธุรกิจมาพร้อมความรัก!

หลัวอวิ๋นซีคัมแบ็คซีรี่ย์จีน Love Is Panacea ทีมเมียเตรียมฟินให้ใจฟู!!

ซีรี่ย์จีนย้อนยุคของถังเยียน ในรอบ 3 ปี ออร่าเปล่งประกายไม่เปลี่ยน!

2 รายการจีนใหม่ปี2023 เปิดตัวสมาชิกตัวท็อปคับคั่ง พลาดแล้วจะเสียดายมาก!

หวานไม่ไหว! หลินอี-หลิวฮ่าวฉุน ส่งเคมีคู่จิ้นชวนตั้งตารอซีรี่ย์จีน Derailment !

สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

ผ่อนคลายไปกับ Jet Lag Recovery Treatment @ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

account_circle
event
สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล
สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

สุดสัปดาห์ พาไปรีวิว Jet Lag Recovery Treatment คอร์สนวดตัว+ศีรษะสุดหรูหราที่ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล บอกเลยว่าไม่ต้องมีอาการเจ็ทแล็กจากการนั่งเครื่องบินก็นวดได้ เพราะมันช่างผ่อนคลายเส้นสายทั่วร่าง เหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศที่ทำงานจนเส้นตึงเป็นอย่างยิ่ง

สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล
บรรยากาศในส่วนต้อนรับ

สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล ตั้งอยู่บนชั้น 36 โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เรียกว่าใจกลางเมืองเลย ใครเหนื่อยล้าจากออฟฟิศ ต้องการการฮีลแบบด่วนๆ นั่งบีทีเอสแว่บมานวดสักแป๊บแล้วค่อยกลับไปทำงานต่อได้สบาย ส่วนใครที่พอมีเวลาแนะนำให้มาตอนเย็นแล้วบวกเวลาอีกสักชั่วโมง เพราะที่นี่เราสามารถใช้ Facilities ของฟิตเนสโรงแรมได้ด้วย เช่น สามารถไปใช้ห้องซาวน่าหรือห้องสตีมก่อนหรือหลังนวดได้ ไหนๆ มาแล้วก็ใช้เวลากับตัวเองให้เต็มที่ ผ่อนคลายให้สุดไปเลย

บรรยากาศบนชั้น 36 ของโรงแรมเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และผ่อนคลาย มองออกไปเห็นวิวกรุงเทพเต็มตา ในช่วงเย็นพอแดดเริ่มโรยแสงพนักงานจะเปิดม่านให้เราชมสีสันของกรุงเทพยามค่ำคืน นวดไปมองวิวสวยๆ ไป ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!

InterContinental Spa
บรรยากาศในส่วนพักผ่อนของสปา

รีวิว Jet Lag Recovery Treatment

สำหรับทรีตเมนต์ที่เราจะรีวิววันนี้คือ Jet Lag Recovery Treatment (120 นาที) ซึ่งเป็นการนวดตัวแบบบาหลีผสานกับการนวดศีรษะแบบอินเดีย ซึ่งไม่ได้เหมาะกับคนที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับหนุ่มสาวทำงานอีกด้วย

การนวดตัวแบบบาหลีเป็นการผสมผสานการนวดแบบกดจุดเข้ากับเทคนิคการนวดน้ำมันที่ช่วยให้เกิดความสมดุลของร่างกาย บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เราชอบที่ Therapist ลงน้ำหนักมือไล่ไปตามเส้นมากกว่าบีบหรือขยำ และจะเบากว่าการรีดเส้นแบบนวดไทย ดังนั้นจึงให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลายเส้นสายที่ตึงจากการทำงานหรือการเดินทางไกลโดยไม่เจ็บเท่า

นวดศีรษะแบบอินเดีย Spa InterContinental
Shirodhara หรือการรินน้ำมันอุ่นลงบนศีรษะ

หลังจากนวดตัวจะเป็นการนวดศีรษะแบบอินเดียผสานกับชิโรดารา (Shirodhara) …ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คร่ำเคร่งกดดันกับการทำงานจนรู้สึกตึงตั้งแต่ไหล่ผ่านคอไปจนถึงศีรษะ อยากแนะนำตัวนี้ เพราะเขาจะรินน้ำมันอุ่นๆ ลงตรงกลางศีรษะและตามแสกผม จากนั้นจะนวดหนังศีรษะด้วยน้ำหนักกำลังดี สลับกับการคลึงด้วยลูกประคบจุ่มน้ำมันอุ่นร้อน (สำหรับบางคนอาจะรู้สึกร้อนไป แจ้งปรับอุณหภูมิได้) ซึ่งทำให้เรารู้สึกสบายหนังศีรษะ คลายความปวดตึงได้ดี คืนนั้นกลับบ้านหลับสบายด้วยค่ะ

นวดศีรษะแบบอินเดีย Spa InterContinental  2
ช่วงคลึงลูกประคบรู้สึกสบายศีรษะมาก

Therapist ที่นวดให้เราน้ำหนักมือดี จังหวะนวดลื่นไหล ในจุดที่ขอให้เน้นก็น้ำหนักมือถึง และสามารถกลับมานวดน้ำหนักปกติในจุดอื่นได้

(สำหรับทรีตเมนต์นี้หลังทำเสร็จศีรษะจะมัน อาจต้องเผื่อเวลาสระผม หรือถ้าไม่รีบไปไหน แนะนำให้เข้าห้องสตีมต่อสัก 10-15 นาที จะได้เสริมให้น้ำมันบำรุงผมและผิวด้วย)

รีวิวสปาในภาพรวม

เราชอบโลเคชั่นใจกลางเมือง เดินทางสะดวก แต่เมื่อเข้าไปในบริเวณสปาจะกลายเป็นบรรยากาศที่สงบ เงียบ และไม่มืดทึมจนเกินไป ห้องนวดสวยงามมองเห็นวิวเมืองจากมุมสูงจึงยังคงความรู้สึกส่วนตัว มีทั้งห้องทรีตเมนต์เดี่ยว ห้องทรีตเมนต์คู่ ห้องทรีตเมนต์แบบคู่พร้อมอ่างจากุชชี่ และห้องนวดไทย ภายในสปากลิ่นหอมสบายใจ ไม่อวลกลิ่นสมุนไพรจนอึดอัด เรียกว่าบรรยากาศ แสง เสียง กลิ่น ล้วนส่งให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจ

นวดศีรษะแบบอินเดีย Spa InterContinental  3
ห้องทรีตเมนต์แบบคู่ พร้อมอ่างจากุชชี่

ผลิตภัณฑ์นวดตัวที่นี่ใช้ของ HARN ซึ่งเป็นแบรนด์ที่การันตีคุณภาพและกลิ่นอยู่แล้ว โดยมีน้ำมันนวด 4 กลิ่นให้เลือก หอมมีเอกลักษณ์ทุกกลิ่นจนเลือกไม่ถูก ถ้าใครตามมานวดก็น่าจะประสบปัญหารักพี่เสียดายน้องเหมือนเรา ส่วนการนวดหน้าใช้ผลิตภัณฑ์จาก ELEMIS

สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล
ห้องทรีตเมนต์เดี่ยว

Jet Lag Recovery Treatment มีให้บริการทุกวันที่ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 23.00 น.  ราคาท่านละ 5,500++ บาท

จองทรีตเมนต์ได้ที่สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โทร: 66 (0) 2 656 0444 ต่อ 6288 และ 6289 อีเมล: [email protected] หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มติมได้ที่ www.bangkok.intercontinental.com  

Text: Nicharee W.

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

ชวนคนรักน้ำหอมทำความรู้จัก Le Labo City Exclusive

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

เลอ ลาโบ

Le Labo เปิดตัว LAVANDE 31 ตีความ “ลาเวนเดอร์” ในมิติใหม่อย่างคาดไม่ถึง ..สมการรอคอยกว่า 2 ปี

account_circle
event
เลอ ลาโบ
เลอ ลาโบ

เลอ ลาโบ เปิดตัว LAVANDE 31 น้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุด ชวนค้นหามิติใหม่แห่งลาเวนเดอร์ที่ยังไม่เคยมีใครได้สัมผัส นับว่าสมการรอคอยกลิ่นใหม่จากแบรนด์นี้กว่า 2 ปี …งานนี้คนรักน้ำหอมต้องไปพิสูจน์!

Le Labo - LAVANDE 31

เมื่อเร็วๆ นี้ เลอ ลาโบ ( Le Labo ) ได้เปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุด LAVANDE 31 เติมเต็ม Classic Collection ที่ทุกคนรอคอยกลิ่นใหม่มากว่า 2 ปี นำเสนอกลิ่นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบไร้เงาดอกลาเวนเดอร์เดิมๆ ที่ทุกคนคุ้นเคย มอบกลิ่นหอมสดชื่นแบบมีมิติชวนค้นหา โดยในอีเวนต์เปิดตัวทางแบรนด์ได้พิสูจน์ความเป็นมิติใหม่ด้วยการให้ผู้ร่วมงานดมกลิ่นน้ำหอมขวดนี้แล้ววาดสิ่งที่รู้สึกออกมา ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้นึกถึงลาเวนเดอร์!

Le Labo - LAVANDE 31
ดิสเพลย์ที่สื่อถึงส่วนผสมใน LAVANDE 31

ทั้งนี้ เพราะ LAVANDE 31 มอบกลิ่นหอมเอกลักษณ์ที่ได้ทลายกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ในจินตนาการแบบเดิมๆ ของทุกคนลงทั้งหมด โดยคัดสรรดอกลาเวนเดอร์แบบตูมเท่านั้น เพื่อสร้างมิติของกลิ่นที่เข้มข้น ผสาน Essential oils จาก Bergamot และ Neroli เติมความสดชื่นบางเบา เพื่อเสริมกลิ่นลาเวนเดอร์อันโดดเด่น โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของกลิ่นฉบับ Le Labo ด้วยกลิ่นโน๊ตในแบบอำพัน (Ambery), มีความ Dirty และกลิ่นหอมแบบมัสกี้ (Musky) ที่ผสมผสานกับ Tonka เพื่อให้น้ำหอมนี้ออกมามีสไตล์ที่คลาสสิกแบบย้อนยุคที่ทั้งสะอาดและเปรอะเปื้อน เพิ่มมิติความน่าค้นหาอยู่ในคราวเดียว เป็นสไตล์ที่น่าจดจำ แต่ก็แฝงไว้ด้วยเอกลักษณ์ในตัวเองที่แตกต่างและแท้จริง

Le Labo - LAVANDE 31
LAVANDE 31 น้ำหอมกลิ่นล่าสุดใน Classic Collection จาก Le Labo

LAVANDE 31 มาพร้อมแรงบันดาลใจล่าสุดอย่างภาพห้องน้ำติดวอลเปเปอร์ของคุณยายที่มีสบู่ก้อนสีม่วงวางอยู่ข้างอ่างล้างหน้า หรือร้านตัดผมแนววินเทจที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์ผสมกับโอ๊คมอสอบอวลไปทั่วทั้งร้าน

Le Labo เปิดตัว LAVANDE 31
การติดฉลากแบบ Handmade อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Le Labo

วางจำหน่ายพร้อมบริการสลักชื่อแบบ Personalized และติดฉลากแบบ Handmade ที่ Le Labo ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดย LAVANDE 31 มาในหลากหลายขนาดตั้งแต่ 1.5 ml. / 15 ml. / 50 ml. ไปจนถึง 100 ml. และ Travel Tube Set ขนาด 10 ml. จำนวน 3 หลอด

เลอ ลาโบ ลาเวอนเดอร์ 31
น้ำหอม Le Labo LAVANDE 31 ขนาด 100 ml. 50 ml. และ 15 ml.

รู้จัก เลอ ลาโบ

Le Labo เป็นน้ำหอมนิชสัญชาติฝรั่งเศสอันโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของความเป็น Slow perfume ที่ไม่กำหนดวันและเวลาในการวางขายน้ำหอมกลิ่นใหม่ ปล่อยวางความรีบร้อนเพื่อเฝ้ารอฤดูกาลแห่งวัตถุดิบให้เบ่งบานในห้วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้รับการคัดสรรมาปรุงน้ำหอมกลิ่นยูนีคไม่เหมือนใครครองใจผู้คนมาแล้วทั่วโลก …ความ Slow perfume นี้เห็นได้จากกลิ่นใหม่ LAVANDE 31 ที่เปิดตัวห่างจากกลิ่นก่อนหน้ากว่า 2 ปีเลยทีเดียว

เลอ ลาโบ
สัมผัสความเท่และมีเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ได้ตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงบรรยากาศด้านใน

นอกจากน้ำหอมใน Classic Collection แล้ว Le Labo ยังมีน้ำหอมในกลุ่ม City Exclusive ที่วางขายเฉพาะเมืองนั้นๆ เช่น เมืองโตเกียวจะมีกลิ่นพิเศษที่ชื่อว่า GAIAC 10 ซึ่งขายเฉพาะที่โตเกียวเท่านั้น แต่เฉพาะในเดือนกันยายนของทุกปี ทาง เลอ ลาโบ จะวางขาย City Exclusive จากทั่วโลกในทุกช็อปและทางออนไลน์ด้วย

Le Labo เปิดตัว LAVANDE 31

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

ชวนคนรักน้ำหอมทำความรู้จัก Le Labo City Exclusive

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

เขื่อน - ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

แง่คิดในการ “วางใจ” และ “ความสมดุล” จาก เขื่อน-ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

account_circle
event
เขื่อน - ภัทรดนัย เสตสุวรรณ
เขื่อน - ภัทรดนัย เสตสุวรรณ

ในโอกาสที่ lululemon จับมือ นักจิตอายุรเวทและเซเลบริตี้ชื่อดังของไทย เขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ จัดอีเวนต์เสริมสร้างสุขภาวะสุดสัปดาห์เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา สุดสัปดาห์จึงได้พูดคุยกับเจ้าตัวเกี่ยวกับการดูแลสุขภาวะจิตใจของคนในยุคนี้ที่ค่อนข้างกดดันจากสภาพแวดล้อมต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดียด้วย

ก่อนอื่นขอพูดถึงกิจกรรมครั้งนี้สักเล็กน้อยว่าได้จัดขึ้นหลังจากที่มีการเผยแพร่รายงานสุขภาวะที่ดีระดับโลก (Global Wellbeing Report) ประจำปี 2566 ของ lululemon ซึ่งชี้ให้เห็นว่า พื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ ทางจิตใจ หรือทางสังคม ล้วนเป็นอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งไม่ให้ผู้คนในประเทศไทยมีสุขภาวะที่ดี รายงานฉบับนี้เผยการค้นพบที่สำคัญ ได้แก่

  • เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ คนไทยมีแนวโน้มที่จะรู้สึกว่าตนมีพื้นที่ทางกายภาพสำหรับออกกำลังกายในละแวกบ้านน้อยกว่า โดย Gen Z เป็นกลุ่มช่วงวัยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง Gen Z เกือบ 3 ใน 4 จึงหันไปเข้าร่วมโครงการส่งเสริมสุขภาพต่างๆ ในคอมมูนิตี้
  • ผู้ชายไทยมากกว่าครึ่งหวังว่าตนจะไม่ถูกมองในแง่ลบเมื่อแสดงออกว่าอยากยกระดับสุขภาพจิตของตนเอง
  • นอกจากนี้ Gen Z กว่า 2 ใน 3 ในประเทศไทยยังหวังที่จะแสดงออกถึงสิ่งที่พวกเขารู้สึกจริงๆ มากกว่าที่จะต้องแสร้งเป็นว่าสบายดี
  • LGBTQ+ ในประเทศไทยค่อนข้างรู้สึกหมดพลังที่จะนึกถึงเรื่องสุขภาวะที่ดีของตนเอง
  • คนไทยมากกว่าครึ่งรู้สึกกดดันที่ต้องแสร้งทำเป็นมีความสุข และเกือบ 3 ใน 5 รู้สึกว่าแรงกดดันที่บังคับให้ต้องทำตามบรรทัดฐานทางสังคมส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต และส่งผลให้เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวทางสังคมและความเหงา
lululemon
เขื่อน – ภัทรดนัย และ ภพ – ไตรภพ เหล่าอุดม แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ lululemon ประเทศไทย

จากรายงานดังกล่าวจะเห็นได้ว่าคนในยุคนี้ค่อนข้างอยู่ในภาวะกดดันจากหลายๆ ด้าน เราจึงได้พูดคุยกับคุณเขื่อนถึงการดูแลและบาลานซ์จิตใจของตัวเองท่ามกลางสภาวะต่างๆ

…มาพบกับแง่คิดดีๆ จากบทสัมภาษณ์ที่จะช่วยจุดประกายเชิงบวกให้กับเรากันค่ะ

ในสังคมไทยที่เราต้องดูแลทั้งคุณพ่อคุณแม่และดูแลครอบครัวตัวเองไปพร้อมกัน (แซนด์วิชเจเนอเรชั่น) คุณมีคำแนะนำอย่างไรในการรับผิดชอบทั้ง 2 ส่วนนี้โดยที่ตัวเองก็ไม่เครียดหรือกดดันจนทำให้ตัวเองไร้สุข

เขื่อนคิดว่าทุกการเลือกของเรามันมาพร้อมผลกระทบ และแน่นอนเมื่อเรามีความรับผิดชอบที่จะต้องดูแลคนอื่น มันก็มาพร้อมผลกระทบคือความเครียดและความกังวลบ้าง จริงๆ ความเครียดความกังวลนี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของมนุษย์นะครับ แค่มีมากมีน้อยและรับมือได้มากหรือน้อยแค่ไหนมากกว่า แต่สิ่งที่เขื่อนพูดและทำตลอดก็คือว่า เราต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อนแล้วค่อยช่วยคนอื่น เพราะถ้าเกิดเราช่วยคนอื่นอย่างเดียว อันนี้เขื่อนไม่ได้เหมารวมนะครับ แต่คนไทยอาจติดนิสัยเอาคนอื่นมาก่อน เพราะจะมีบริบทว่าถ้าเกิดเอาตัวเองมาก่อนปุ๊บจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว จะเป็นกลายเป็นคนไม่น่ารัก แต่อย่าลืมนะครับว่ามันเหมือนน้ำในบ่อ ถ้าเราวิดจนหมดบ่อแล้ว วันที่มันหมดเราก็เติมน้ำให้ตัวเองไม่ได้นะครับ

“เขื่อนจะพูดตลอดเลยว่า ช่วยตัวเองก่อน เขื่อนเชื่อว่า If you want to save everyone, you save no one. ถ้าเราอยากช่วยทุกคน เราจะไม่สามารถช่วยใครได้เลย อันนี้เป็นแนวคิดที่หลายๆ ครั้งพอเราปฏิบัตินะครับ มันอาจจะรู้สึกไม่ดีในตอนแรก เพราะมันทำให้เรารู้สึกเหมือนเราเห็นแก่ตัวหรือเปล่า เราเอาตัวเองมาก่อน เราอย่างงี้อย่างงั้น แต่อย่าลืมนะครับว่าทุกการเปลี่ยนแปลงที่ดีส่วนใหญ่ตอนแรกมันก็ไม่ได้รู้สึกดีครับ แต่ในระยะยาวเขื่อนกล้าคอนเฟิร์มให้เลยว่า ซึ่งเขื่อนเป็นคนคอนเฟิร์มอะไรยากมาก ในระยะยาวคือ Healthy และ Sustainable มากครับ เราช่วยตัวเราเองก่อน แล้วพอเราช่วยตัวเองได้เมื่อไหร่เนี่ย เราจะช่วยคนอื่นได้อีกเยอะมากเลย แล้วการช่วยของเรามันจะแบบไม่ใช่ช่วยเพื่อช่วยอ่ะครับ แต่ช่วยเพราะว่าต้องการจะช่วยแล้วมันมีความหมายจริงๆ

คุณคิดว่าการแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองสำคัญอย่างไร หากเราไม่เคยทำ จะเริ่มต้นอย่างไร

“รายงานสุขภาวะที่ดีระดับโลกของ lululemon ระบุว่า Gen Z 2 ใน 3 ในประเทศไทยหวังว่าพวกเขาจะสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงได้แทนที่จะแสร้งทำเป็นว่าสบายดีอยู่เสมอ ถ้าเกิดให้ top 3 หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตสำหรับเขื่อน คือ

“การ Being Genuine จริงใจ จริงจัง กับความรู้สึกตัวเอง ซึ่งในเมืองไทยก็ค่อนข้างยากเพราะมีบริบทหลายอย่างที่บังคับ ซึ่งคำว่าเกรงใจ อย่างภาษาอังกฤษคำว่าเกรงใจมันไม่มี พอมาเมืองไทยปุ๊บการ Voice เสียงตัวเอง ใช้สิทธิ์ตัวเอง มันมี push back ค่อนข้างเยอะครับ เพราะอาจดูไม่น่ารัก ก้าวร้าว ไม่เห็นแก่ส่วนรวม ซึ่งจริงๆ แล้วทุกอย่างมันคือการบาลานซ์ครับ กินน้ำเยอะไปก็ไม่ดี ได้รับออกซิเจนเยอะไปก็ไม่ดี แต่การ Voice เสียงของตัวเองในแบบที่ safe ทั้งใจตัวเองและเคารพผู้ฟัง บางทีเขื่อนอาจจะใช้คำว่าเคารพนะ เพราะการจะเซฟผู้ฟังตลอดเป็นไปไม่ได้ แต่เราสามารถเคารพผู้ฟังของเราตลอดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากครับ”

เนื่องจากบางความรู้สึกเป็นเชิงลบ อาจทำให้คนลังเลที่จะแสดงออกมา คุณมีคำแนะนำในการสื่อสารความรู้สึกเชิงลบออกมาในแนวทางที่เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร

“เขื่อนจะพูดตลอดเลยครับ อันนี้เรียกว่า constructive criticism ครับ การที่เรา criticize ใครแบบคอมเมนต์ด่าหรือแซะ ไม่เคยเป็นผลดีเลยในแง่ที่เราอยากให้เขาปรับปรุงตัวนะ อันนี้เราแยกคนที่แบบสมควรโดนด่าออกไปเลยนะ เขื่อน assume ว่าเรากำลังพูดอะไร negative กับคนที่เรามีเจตนาดีด้วย

“สำหรับเขื่อน เรียกว่า constructive criticism ก็คือการติ แบบเป็นแซนด์วิชครับ

“หนึ่ง เราบอกเขาก่อนว่า อะไรมันเวิร์ก  เราชื่นชมอะไรในตัวเขา

“สอง อะไรไม่ดีที่เกิดขึ้นให้เรารู้สึกว่าเรารับผิดชอบความรู้สึกตัวเอง คือ ไม่บอกว่าเป็นเขา แต่เรารู้สึกว่า……..

“สาม ตบท้ายด้วยว่า จากที่พูดไป เรา Move forward ยังไงแล้วมัน apply ได้ยังไง

“ยกตัวอย่างเช่น เขื่อนมีนักเรียนคนนึง เป็นนักเรียนปีหนึ่ง เป็นนักจิตบำบัด เราเห็นว่าเขาเอาตัวเองเป็นหลักในจิตบำบัด แล้วบางทีมีพื้นที่คนไข้น้อย เขื่อนก็จะพูดกับเขาว่า เฮ้ย Adam ยูเป็นผู้ฟังที่ดีจริงๆ นะ เห็นได้เลยว่าการฟังของยูค่อนข้างเป็นธรรมชาติมากๆ เลย แต่บางครั้งเขื่อนก็รู้สึกว่าเพราะว่ามันมี culture clash หลายๆ อย่าง การฟังในประเทศของยูกับที่ๆ ยูทำตอนเนี้ยมันอาจจะไม่เหมาะ เราลองช่วยกันหาวิธีฟังได้ไหม ที่จะรู้สึกว่าฟังแล้วยูจะปฏิบัติงานได้ดีกว่านี้หรืออาจจะเข้าใจวัฒนธรรมได้มากขึ้นด้วย อย่างนี้เรียกว่า constructive คือ เขารู้ว่าเขาทำอะไรดี เขารู้ว่าทำอะไรไม่ดี แล้วเขามีข้อมูลเพิ่มเติมว่าเขาสามารถแก้ไขได้อย่างไร

“ถ้าเราหวังดีกับใครแล้วเราด่าเขาเลย ไม่มีใครรู้สึกดีและส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นผลได้แต่ความสะใจมากกว่า เผลอๆ บางทีมันเข้าตัวเองด้วยนะครับ”

คุณมีคำแนะนำในการ “วางใจ” สำหรับคนเจเนอเรชั่นนี้ที่เติบโตมาพร้อมกับโซเชียลมีเดียเพื่อให้ใช้ชีวิตอย่างสมดุลในแบบฉบับของตัวเอง

“เขื่อนว่า Wellbeing ที่ดีที่สุดและเป็นแบบ one size fits all สำหรับทุกคนนั้นไม่มี หน้าที่ของเราคือ ต้องหาให้เจอว่าแบบไหนเหมาะกับเรา อันนี้เหมาะกับเขื่อนก็อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ติดตามเขื่อนอยู่แล้ว อะไรที่เหมาะกับเขาก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับเขื่อน
เราต้องอย่าลืมนะว่าบนโซเชียลมีเดียก็เขาก็อัพในสิ่งที่เขาอยากอัพ ไม่ได้บอกว่าด้านดีหรือไม่ดีนะ มันมีทั้งมุมที่เขาเลือกอัพแล้วก็ไม่อัพ เพราะฉะนั้นมันอยู่ในหน้าที่ของผู้เสพด้วยว่าเสพแล้วเรา critical ได้มากแค่ไหน เราเอามา apply กับตัวเราได้มากแค่ไหน เพราะฉะนั้นทั้งผู้ผลิตและผู้เสพต้อง critical ให้ได้ว่า เอ้ย เรามีการเข้าใจโลกไม่เหมือนกันนะ และเราสามารถ apply กับตัวเราอย่างไร”

ปัจจุบันมีการแนะนำให้จำกัดการเสพสื่อโซเชียลเพื่อสุขภาวะทางอารมณ์ที่ดี คุณมีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร และคุณมีทริคสำหรับคนที่ติดโซเชียลและอยากละลดแต่ยังทำไม่ได้หรือไม่

“อย่างที่เขื่อนบอกไปครับ น้ำกินเยอะไปตับกับไตก็วาย ออกซิเจนที่สูงเกินไปก็เป็นพิษ ทั้งๆ ที่น้ำและออกซิเจนคือสิ่งจำเป็นกับการมีชีวิตมากที่สุด เช่นเดียวกับสารเคตามีนที่ในบางประเทศใช้รักษาภาวะโรคซึมเศร้า แต่ในบางประเทศเป็นยาเสพติด ใครเสพจับเข้าคุก

“ฉะนั้นทุกอย่างอยู่ที่บาลานซ์ ไม่ต่างอะไรกับโซเชียลมีเดียเช่นกันครับ โซเชียลมีเดียจะเล่นให้ดีก็ทำได้เยอะแยะ เดี๋ยวนี้คนสามารถ access research paper, article ส่ง message เตือนภัย หรือจะสร้างความเกลียดใส่กันก็ได้ ดังนั้นคนบาลานซ์ต้องอยู่ที่ตัวเราครับ เราต้องหาความบาลานซ์นั้นให้เจอ

“เขื่อนไม่เชื่อเรื่อง oh I’m on a 7 day social media detox ครับ เพราะมันไม่ sustainable สำหรับเขื่อนอะไรที่ดีคืออะไรที่ sustainable ทำอะไรได้ในระยะยาว โซเชียลมีเดียก็เช่นกันครับ ถ้าอยากทำให้ sustainable เราต้องหาจังหวะที่เล่นแค่นี้ถึงแค่นี้นะ ประมาณนี้นะ ต้องหาจังหวะที่ดีกับตัวเองให้เจอครับ”

ขอ how-to ง่ายๆ ในแบบฉบับคุณเขื่อน สำหรับคนวัยทำงานในการบริหารจัดการชีวิตอย่างมีคุณภาพทั้ง “งาน-สุขภาพกาย-สุขภาพใจ”

“ขอตอบแบบจริงใจแล้วก็จริงจังที่สุดแล้วนะครับ สำหรับเขื่อนคือไม่มีวิธีที่ดีที่สุด

“ไม่มีวิธีที่ดีสุดที่แปลว่า no one has it all, and if they say they do, watch closer เพราะว่าอย่างเขื่อนอย่างนี้ครับ เขื่อนทำงานหนักมาก แล้วก็เลือกที่จะเรียนหนังสือและดูแลครอบครัวไปพร้อมกัน สิ่งที่มากับจุดนี้เลยคือชีวิตสังคมกับชีวิตรักกลายเป็น 0- 5% แต่เขื่อนไม่ได้บอกว่าเพราะทำอย่างนี้เลยไม่มี แต่เขื่อนเลือกเลือกที่จะโอเคในช่วงวัยนี้เรายังไหวนะ ช่วงวัยนี้เรายังสามารถซัพพอร์ตที่บ้านได้ และยังอยากเรียนและทำงานได้ เนี่ยคือคำว่า work life balance ของเขื่อน คือเขื่อนตระหนักและเขื่อนเลือกที่จะบาลานซ์ เป็นสิ่งที่ทำได้และแลกได้

ไม่มีใครสามารถบาลานซ์ชีวิตรัก ชีวิตงาน ชีวิตเงิน ชีวิตเที่ยว ชีวิตสังคมได้เพอร์เฟค และได้นอนอีก 8 ชั่วโมง No way แต่ยูสามารถเลือกได้ว่า เออช่วงนี้ของชีวิตอยากได้อะไร โฟกัสอะไร อะไรที่มันทำได้ อะไรที่ไม่ได้

“ถ้าจะให้ฝากคำแนะนำ เขื่อนมองว่าในยุคปัจจุบันที่ชีวิตกดดันเร่งรีบ เราต้องพยายามหาวิธีสร้างสมดุลของ wellbeing ในสามด้าน คือ Physical, mental และ social ซึ่งเขื่อนว่า 3 มิตินี้ต้องทำไปพร้อมกัน โดยเราอาจจะลองทำผ่านกิจกรรมอย่างการเล่นโยคะ การวิ่ง การทำสมาธิ การเข้าร่วมคอมมูนิตี้เพื่อพูดคุยเรื่องความเป็นอยู่ที่ดี หรือลองหากิจกรรมที่ช่วยเราบริหารจัดการความเครียด ส่งเสริมสุขภาพกายใจ สร้างการมีส่วนร่วมของเราในสังคม ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวครับ”

นี่คือมุมมองหนึ่งต่อคำถามถึงการดูแลจิตใจของตัวเองในสภาวะปัจจุบันจาก เขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ ซึ่งเราหวังว่าผู้อ่านจะสามารถเลือกบางส่วนที่เหมาะกับตัวเองไปปรับใช้ได้ หรืออย่างน้อยก็เป็นแง่คิดหนึ่งที่จะนำไปวิเคราะห์ต่อยอดเพื่อจุดประกายบางอย่างที่จะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต

…ไม่ว่าสภาวะแวดล้อมหรือเงื่อนไขในชีวิตจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยในแต่ละวันอย่าลืมหาเวลาหรือสักห้วงความคิดที่จะคำนึงถึงตัวเองบ้างนะคะ

ขอบคุณ เขื่อน – ภัทรดนัย เสตสุวรรณ และ lululemon สำหรับการสัมภาษณ์บทความดีๆ มา ณ ที่นี้

สัมภาษณ์และเรียบเรียง Nicharee W.

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

10 เคล็ดลับหลับสบาย คลายความหงุดหงิด #ให้การนอนเยียวยาเรา

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

ชวนคนรักน้ำหอมทำความรู้จัก Le Labo City Exclusive

Clarins Beauty Therapist

เคล็ดลับน่ารู้ในการดูแลผิวจาก Dominique Rist ผู้ฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก

account_circle
event
Clarins Beauty Therapist
Clarins Beauty Therapist

พบทริคง่ายๆ ในการดูแลผิวจาก Dominique Rist ผู้ฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก พร้อมพูดคุยถึงสิ่งที่ทำให้ Clarins ใม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

ต้องยอมรับว่าแบรนด์ Clarins (คลาแรงส์) เขาปังเรื่องสปาจริงๆ เพราะมีต้นกำเนิดมาจากสปาชั้นสูงก่อนจะออกโปรดักส์มาตามคำเรียกร้องของลูกค้า ทว่าก็ไม่เคยทิ้งศาสตร์การนวดด้วยมืออันเป็นเอกลักษณ์และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 70 ปี จนถึงวันนี้จึงมีทั้งสกินแคร์และเทคนิคการนวดที่คิดค้นให้สอดรับกันมากมาย และกลายเป็นความโดดเด่นของแบรนด์

Clarins Beauty Therapis - Dominique Rist
Dominique Rist ผู้ฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ “ปรัชญาความงามในแบบฉบับ Clarins”

เมื่อไม่นานมานี้ Dominique Rist หนึ่งในผู้คิดค้นเทคนิคการนวดและฝึกสอน Clarins Beauty Therapist ทั่วโลก ได้เดินทางมาเยือนกรุงเทพฯ และสุดสัปดาห์มีโอกาสร่วมพูดคุยกับเธอ ซึ่งเราสัมผัสได้ถึงความความจริงจังและความเป็นมืออาชีพในฐานะ Clarins International SPA Treatment Director ขั้นสุด อีกทั้งได้รู้จักกับศาสตร์การนวดของแบรนด์มากขึ้นด้วย

“สิ่งที่ทำให้คลาแรงส์ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน นั่นก็คือ Art and Science of Clarins Touch หรือศาสตร์แห่งการสัมผัสแบบเฉพาะอันเป็นหัวใจหลักของคลาแรงส์ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในสปา ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามใช้มือทั้งสองข้างรังสรรค์เทคนิคและท่านวดต่างๆ มากถึง 450 เทคนิค โดยไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองด้วยสองมือที่อ่อนโยนและคล่องแคล่ว ไปจนถึงน้ำหนักและจังหวะความเร็วช้าที่นวดกด ที่ล้วนแต่มีส่วนช่วยในการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองในร่างกาย Dominique กล่าว พร้อมเสริมว่า

“มือของมนุษย์คือสิ่งที่เชื่อมโยงกับร่างกาย เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อสัมผัสผิวหน้าและผิวกายอยู่แล้ว นี่คือเหตุผลที่ทาง Clarins ใช้มือคนในทรีตเมนต์ต่างๆ ของแบรนด์”

คลาแรงส์
การสาธิตทรีตเมนต์ผิวหน้าหลังการพูดคุยของ Dominique Rist

ในการพูดคุยครั้งนี้นอกจากเราจะได้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ “ศาสตร์และศิลป์” ที่ผสานอยู่ในทรีตเมนต์ของ CLARINS รวมถึงความสำเร็จในประเทศไทยที่มีสาขามากที่สุดในโลกกว่า 9 สาขา มี Therapist กว่า 80 คนแล้ว ยังได้เคล็ดลับน่ารู้ดีๆ จากกูรูตัวจริงที่สามารถนำไปปรับใช้ในการดูแลตัวเองได้ และแน่นอนว่าสุดสัปดาห์ต้องไม่พลาดที่จะนำมาฝากคุณผู้อ่านด้วย

เคล็ดลับน่ารู้ในการดูแลผิวจาก Dominique Rist

  • เวลาทาเซรั่มให้เริ่มจากการดมก่อน จากนั้นวอร์มลงผิวด้วยการกดเบาๆ จากกลางหน้าไปด้านนอก แล้วค่อยกดให้แน่นขึ้น (แต่ไม่ควรหนักเกินไป)
  • การทาครีมด้วยการกดเบาๆ ช่วยให้สกินแคร์ซึมซาบได้ดีขึ้น และขอย้ำว่าการกดเบาๆ ก็เพียงพอแล้ว เพราะน้ำหนักที่แรงไปก็ไม่เป็นผลดีกับผิวเช่นกัน
  • การทาครีมย้อนขึ้นอาจทำให้ผิวยืดและมีเส้น โดยเฉพาะเมื่อทำแรงและทำเป็นประจำ
  • การไม่อาบน้ำร้อนคือหนึ่งในวิธีการดูแลผิวที่ดีที่สุด
  • การนวดหน้าสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพราะการกดหรือสัมผัสผิวหน้ามากไปก็ไม่ดีกับผิว อย่างที่หลายคนอาจเคยตั้งข้อสังเกตว่าบางคนไม่ทำอะไรเลยแต่ผิวดูเด็ก นั่นเพราะเขาไม่ยุ่งกับผิวหน้ามากเกินไป
  • ปัจจุบันมีความรู้แบบผิดๆ เผยแพร่ในโลกออนไลน์จำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวัง
คลาแรงส์ สปาสวีท
ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ล้วนมีผลต่อประสบการณ์การดูแลผิว คลาแรงส์จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบห้องทรีตเมนต์ รวมทั้งแสงและเสียง

ขอบคุณ Clarins และ Dominique Rist

ผู้สนใจทรีตเมนต์สามารถจองได้ที่ คลาแรงส์ สกินสวีท ทั้ง 9 สาขา ค้นหาสาขาได้ที่ https://www.clarins.co.th/find-a-store-spa

Text: Nicharee W.

คลาแรงส์ สกินสวีท
คลาแรงส์ สกินสวีท สาขาชิดลม

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

หรูมาก! Clarins SkinSuites เซ็นทรัลชิดลม มาพร้อมทรีตเมนต์ Precious สุดเลอค่า

ผ่อนคลายไปกับ Jet Lag Recovery Treatment @ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

เคล็ดลับหลับสบาย

10 เคล็ดลับหลับสบาย คลายความหงุดหงิด #ให้การนอนเยียวยาเรา

account_circle
event
เคล็ดลับหลับสบาย
เคล็ดลับหลับสบาย

พบ 10 เคล็ดลับหลับสบาย หลับอย่างมีคุณภาพ จากคุณหมอแอมป์ – นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ ที่จะทำให้เราหลับสบาย ร่างกายสดชื่น ออกจากวังวนเครียด-นอนไม่หลับ ด้วยสเต็ปง่ายๆ หลากหลายรูปแบบ

ในยุคนี้ต้องยอมรับว่าการใช้ชีวิตไม่ง่าย นอกจากคนวัยทำงานจะมีความเครียดสูงแล้ว คนวัยอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบจากความเครียดเช่นกัน พอเครียดก็มักจะนอนไม่หลับ ส่งผลให้สมองเหนื่อยล้า อารมณ์ไม่ดี เครียดสะสมวนไป สุดสัปดาห์ ขอพาผู้อ่านออกจาก “วังวนเครียด-นอนไม่หลับ-หงุดหงิด-เครียดกว่าเดิม” ด้วยคำแนะนำดีๆ จาก คุณหมอแอมป์ – นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) ซึ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อการมีสุขภาพดี 

คุณหมอแอมป์ - นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ
คุณหมอแอมป์ – นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ

4 ปัญหาสุขภาพที่จะตามมาเมื่อเรานอนไม่พอ

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันว่า เมื่อนอนไม่พอจะเกิดผลเสียอะไรกับร่างกายเราบ้าง ทำไมเราจึงเพลียและหงุดหงิด แถมเครียดกว่าเดิม!

การประมวลผลและความจำ – การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ มีความสำคัญต่อ Brain Plasticity หรือ ความสามารถของสมองในการปรับตัวกับข้อมูลที่เข้ามา ถ้าเรานอนน้อยเกินไป เราจะไม่สามารถประมวลผลสิ่งที่เราได้เรียนรู้ระหว่างวัน และมีปัญหากับในการจดจำ

การกำจัดของเสียออกจากเซลล์สมอง – การนอนหลับยังมีความสำคัญต่อการกำจัดของเสียออกจากเซลล์สมอง กระบวนการชำระล้างสมอง (Glymphatic system) ซึ่งจะทำได้ดีที่สุดในช่วงนอนหลับลึก (Deep Non-REM Sleep) เพื่อกำจัดเบตาอไมลอยด์ (ß-amyloid) เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ หรือว่าโรคความจำเสื่อม

การเผลาผลาญ – การนอนหลับยังมีบทบาทในการเผาผลาญของร่างกาย การอดนอนทำให้เรามีแนวโน้มกินอาหารเพิ่มขึ้น และการตอบสนองของฮอร์โมนอินซูลินต่อน้ำตาลลดลง ตัวชี้วัดเริ่มแรกของการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2

กระทบต่อการทำงานของร่างกาย – เมื่อคนเรานอนหลับไม่เพียงพอ ความเสี่ยงต่อสุขภาพก็เพิ่มมากขึ้น เช่น อาการซึมเศร้า อาการปวดหัวไมเกรน ความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันทำงานได้น้อยลง เพิ่มโอกาสในการเจ็บป่วยและติดเชื้อ รวมถึง การเกิดอุบัติเหตุ ผิวแก่ก่อนไว หรือแม้แต่แรงขับทางเพศลดลง (Impaired Sexual Health)

10 เคล็ดลับหลับสบาย ตื่นเช้ามาอย่างสดใส

หลังจากเห็นว่าการนอนไม่พอส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง เชื่อว่าทุกคนต้องอยากนอนหลังให้ดีขึ้นแน่ๆ แต่จะทำอย่างไรล่ะ คุณหมอแอมป์มีเคล็ดลับดีๆ มาบอก

เคล็ดลับหลับสบาย

นอนหลับในเวลาเดิมเป็นประจำ

เพื่อให้การนอนหลับสอดคล้องกับ นาฬิกาชีวิต (Biological clock) หรือ วงจรของระบบการทำงานในร่างกายมนุษย์ เราจึงควรนอนหลับให้เพียงพอ ตื่นและเข้านอนเวลาเดิมเป็นประจำทุกวัน

เมื่อถึงเวลานอนร่างกายจะผลิตฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ ‘ฮอร์โมนเมลาโทนิน’ ฮอร์โมนแห่งการนอนหลับ เพื่อทำให้รู้สึกง่วงนอน และ ‘โกรทฮอร์โมน’ ซึ่งเป็นฮอร์โมนชะลอความแก่ ออกมาเพื่อฟื้นฟูร่างกาย การหลั่งฮอร์โมนทั้งหมดนี้สอดคล้องกับ จังหวะเซอร์คาเดียน (Circadian Rhythms) ซึ่งเป็นวงจรในแต่ละวันของร่างกายเรา

การเข้านอนในช่วง 4 ทุ่ม หรือ ช้าที่สุด 5 ทุ่ม ทำให้เข้าถึงช่วงหลับลึกได้ทัน ตอนประมาณ 5 ทุ่ม ถึง ตี 1 ครึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาสูงสุด โดยวัยผู้ใหญ่ควรนอนให้ได้ 7 – 9 ชั่วโมงทุกคืน เพื่อให้การนอนในหนึ่งคืนควรมีจำนวนรอบการนอนประมาณ 4 – 6 รอบ และมีช่วงหลับลึกประมาณ 20% และนอนให้ได้ครบรอบของการนอนหลับ เพื่อให้ตื่นมาสดชื่น

หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน

เมื่อแสงสว่างของวันลดลง ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินออกมา ทำให้เรารู้สึกง่วงและพร้อมเข้าสู่การนอนหลับ  แต่ แสงสีฟ้า (Blue Light) จากจอมือถือ จอคอมพิวเตอร์ จอทีวี กระทบกับคลื่นสมองและยังยั้งการหลั่งของฮอร์โมนเมลาโทนิน ทำให้ไม่รู้สึกง่วงนอน แสงสีฟ้ายังส่งผลให้ระยะเวลาของช่วงหลับลึก (Deep Sleep)  และช่วงนอนหลับฝัน (REM; Rapid Eye Movement) ลดลง ซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญต่อการเรียนรู้และการทำงานของสมอง

ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเข้านอน เพราะแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านี้ ส่งผลให้การนอนหลับยากขึ้นและคุณภาพการนอนลดลง

ปรับการรับประทานอาหาร

แนะนำหลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่ก่อนนอน อาหารที่มีน้ำตาล แป้ง และโซเดียมสูง และแนะนำให้รับประทานมื้อเย็นให้เสร็จก่อน 19.00 น. หรือประมาณ 2 ถึง 4 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน

รวมทั้งหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เพราะคาเฟอีน มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของสมอง ช่วยให้ระบบประสาทตื่นตัว หากจะดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ควรดื่มก่อน 14.00 น. เพราะโดยทั่วไปตับต้องใช้เวลาขับคาเฟอีนออกจากร่างกายประมาณ 8 ชั่วโมง หากดื่มหลัง 14.00 น. ไปแล้ว ร่างกายจะขับคาเฟอีนไม่ทัน และส่งผลให้การนอนแย่ลง

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผลงานวิจัยระบุว่า การสูบบุหรี่ 1 มวนทำให้เราหลับลึกน้อยลงไป 1-2 นาทีเมื่อเทียบกับผู้ไม่สูบบุหรี่ สาเหตุมาจากนิโคตินมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง จึงขัดขวางร่างกายไม่ให้เข้าสู่ช่วงหลับลึก และทำให้นอนหลับยาก ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์นั้น แม้จะสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย แต่การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้านอนจะรบกวนวงจรการนอนหลับ มีผลต่อคลื่นสมอง สมดุลระหว่างช่วงนอนหลับลึก (Deep Sleep)  และช่วงนอนหลับฝัน (REM) ทำให้คุณภาพการนอนหลับเสียไป และการนอนถูกรบกวนมากขึ้น

ทำสมาธิ ลดความเครียด ปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ

อย่าปล่อยให้ความเครียดติดตามคุณไปถึงเตียง และแม้เราจะต้องงดการส่องโซเชียลหรือดูสตรีมมิ่งคลายเครียดสัก 2 ชั่วโมงก่อนนอน แต่ก็ยังมีวิธีอื่นๆ อีกมากมายในการผ่อนคลายโดยไม่ต้องจ้องหน้าจอ เช่น ถักไหมพรม ถักโครเชต์ ร้อยลูกปัด ทำสายคล้องแมส ส่องพระ ระบายสี ต่อจิ๊กซอว์ ไปจนถึงการนั่งสมาธิ เพียงเลือกทำกิจกรรมที่ชอบอย่างน้อย 30 นาทีก่อนเข้านอน จะช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ลมหายใจช้าลงและลึกขึ้น ซึ่งมีการวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเหล่านี้ช่วยให้เราหลับได้ง่ายขึ้น

ออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือบ่าย

รูปแบบการออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อการนอนหลับนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic exercise) แบบแรงต้าน (Resistance Training) หรือการเล่นโยคะ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำส่งผลให้คุณภาพการนอนดีขึ้น อีกทั้งยังลดความเสี่ยงอาการวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของปัญหานอนไม่หลับ (Insomnia)

การออกกำลังกายความหนักระดับปานกลางเพียง 30 นาทีต่อวัน ก็เพียงพอในการบรรเทาความวิตกกังวล และช่วยให้นอนหลับดีขึ้น ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพราะอาจทำให้ร่างกายตื่นตัว หัวใจเต้นเร็ว และนอนหลับได้ยากขึ้น

ปรับสภาพแวดล้อมในห้องนอน

เรื่องนี้สำคัญมากแต่คนไม่ค่อยนึกถึง นั่นคือการปรับสภาพแวดล้อมของห้องนอนให้เหมาะสมกับการนอน โดยปิดแสงไฟให้มืดสนิท เพราะแสงสีฟ้าจากหลอดไฟแอลอีดีหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์จะรบกวนการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน แต่หากหลีกเลี่ยงแสงรบกวนไม่ได้ แนะนำใช้ผ้าปิดตาเพื่อลดความสว่างของแสง หรือปรับเปลี่ยนไปใช้แสงในโทนสีส้มหรือเหลือง ก็ช่วยได้

นอกจากนี้ควรพยายามหลีกเลี่ยงเสียงรบกวน หรือใช้โฟมอุดหู ปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เหมาะสม ที่ประมาณ 23-25 องศาเซลเซียส จะช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น

นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม

ผู้ที่มีภาวะอ้วนมีแนวโน้มมีปัญหาการนอนหลับมากกว่าผู้ที่ไม่อ้วน รวมถึงมีอาการง่วงนอนและรู้สึกเหนื่อยล้าระหว่างวันมากกว่า ปัญหาสุขภาพหลายอย่างที่พบในผู้มีน้ำหนักตัวเกินมักกระทบกับการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea หรือ OSA) ซึ่งเกิดจากการอุดกั้นของช่องทางเดินหายใจ ทำให้นอนหลับไม่ดี ตื่นนอนแล้วไม่สดชื่น มีภาวะกรดไหลย้อน (GERD; Gastroesophageal Reflux Disease) ที่สร้างความรู้สึกแสบร้อนกลางอก และอาการที่มักแย่ขึ้นเมื่อล้มตัวลงนอน โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ที่จะรบกวนการนอนหลับ เป็นต้น

ดังนั้น การรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนหลับ แต่ยังทำให้สุขภาพโดยรวมของเราดีขึ้นอีกด้วย

นอนกลางวัน (Power nap)

หากรู้สึกง่วงระหว่างวัน การนอนกลางวัน หรือ Power nap เหมือนการเติมแบตเตอรี่สำรอง เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า และช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง และยังเป็นการดึงความจำที่รับเข้ามาในช่วงเช้าเข้าไปอยู่ในสมอง เพราะผ่านการนอนสเตจ 1 และ 2 เช่นเดียวกับการนอนตอนกลางคืน เทคนิคคือ งีบหลับประมาณ 25 – 30 นาที แต่อย่านอนกลางวันหลังสี่โมงเย็น เพราะอาจทำให้กลางคืนนอนไม่หลับ

อาหารเสริมบางชนิดช่วยได้

หากใครได้ลองหลายวิธีแล้วแต่ยังนอนหลับได้ไม่ดี การใช้อาหารเสริมบางอย่างก็สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้ แต่การใช้ยาหรือสมุนไพรควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือเภสัชกรก่อนการใช้ทุกครั้ง

หากใครมีปัญหานอนไม่หลับลองสำรวจ เคล็ดลับหลับสบาย จากคุณหมอดูนะคะว่ามีข้อไหนที่เราพอจะปรับพฤติกรรมให้เอื้อต่อการนอนหลับได้บ้าง เริ่มจากเรื่องง่ายๆ ที่เราพอทำได้แล้วค่อยเพิ่มไปทีละส่วนก็ได้ค่ะ

…ขอให้ทุกคนหลับฝันดี หลับลึก หลับสบาย ตื่นมาอย่างสดใสในทุกเช้านะคะ

นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

ขอบคุณข้อมูลจาก นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ นายกสมาคมแพทย์ฟื้นฟูสุขภาพและส่งเสริมการศึกษาโรคอ้วน กรุงเทพ (BARSO), แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine)  และประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก

แหล่งอ้างอิง

1. ตนุพล วิรุฬหการุญ. นอนถูกวิธี สุขภาพดีตลอดชีวิต. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ: อมรินทร์เฮลท์ อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง; 2563

2. Cutolo M, Seriolo B, Craviotto C, Pizzorni C, Sulli A. Circadian rhythms in RA. Ann Rheum Dis. 2003;62(7):593-6.

3. Wilkinson M, Imran SA. Regulation of Growth Hormone Secretion. In: Clinical Neuroendocrinology: An Introduction. Cambridge: Cambridge University Press; 2019. p. 134–53.

4. Beccuti G, Pannain S. Sleep and obesity. Current opinion in clinical nutrition and metabolic care. 2011;14(4):402.

5. Spiegel K, Leproult R, Van Cauter E. Impact of sleep debt on metabolic and endocrine function. The lancet. 1999;354(9188):1435-9.

6. Iliff JJ, Wang M, Liao Y, Plogg BA, Peng W, Gundersen GA, et al. A paravascular pathway facilitates CSF flow through the brain parenchyma and the clearance of interstitial solutes, including amyloid β. Science translational medicine. 2012;4(147):147ra11-ra11.

ภาพ SHUTERSTOCK

เรียบเรียง Nicharee W.

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

ชวนคนรักน้ำหอมทำความรู้จัก Le Labo City Exclusive

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

รู้จัก EMFACE นวัตกรรมใหม่ของวงการยกกระชับผิวหน้า

account_circle
event

ปัจจุบันมีนวัตกรรมความงามเพื่อการยกกระชับผิวออกมามากมายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่มีความกังวลเรื่องปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่ง EMFACE คือหนึ่งในวัตกรรมใหม่ในวงการยกกระชับที่เพิ่งมีการเปิดตัวในเมืองไทยในปี 2023

Introduction:

EMFACE (EMFACE by BLT Aesthetics) คือนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการยกกระชับและมีส่วนช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนขึ้น โดยการทำงานของคลื่นพลังงาน 2 แบบ คือ HIFES™ (High Intensity Facial Electrical Stimulation) และคลื่นพลังงาน Synchronized RF ซึ่งลงลึกสู่ชั้นกล้ามเนื้อช่วยทำให้เกิดการยกกระชับจากภายในสู่ภายนอก ผิวหน้าจึงแลดูอ่อนกว่าวัยขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม จึงไม่เจ็บตัวและไม่ต้องมีระยะเวลาพักฟื้น อีกทั้งใช้เวลาในการทำน้อย (ครั้งละ 20 นาที 4 ครั้ง เว้นห่างกัน 1 สัปดาห์) จึงเป็นที่สนใจในแวดวงความงามอย่างมาก

Innovation & Result:

อย่างที่กล่าวไปว่านวัตกรรม EMFACE เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่และเป็นที่สนใจในแวดวงความงามอย่างมาก เราจึงได้ขอพูดคุยกับคุณหมอคนดัง พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แห่ง KKC Clinic ซึ่งเป็นคลินิกกลุ่มแรกๆ ที่มีเครื่อง EMFACE ไว้บริการ ถึงนวัตกรรมตัวนี้พร้อมข้อแนะนำต่างๆ

โดย พญ.ของขวัญได้เล่าถึงการยกกระชับใบหน้าว่ามีปัจจัยหลักๆ คือ คอลลาเจน ซึ่งเทคโนโลยีที่ดูแลในส่วนนี้ เช่น อัลเทอร่าหรือเทอร์มาจ สองคือ กล้ามเนื้อ ซึ่งการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าจะมีอยู่ 2 อย่าง คือกล้ามเนื้อดึงขึ้นและกล้ามเนื้อดึงลง ซึ่งควรจะต้องทำงานบาลานซ์กัน แต่ในคนที่มีปัญหาหน้าตก คล้อย ย้อยลงมาก็เพราะกล้ามเนื้อดึงลงทำงานเยอะกว่ากล้ามเนื้อดึงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเลือกในการรักษาคือการใช้สารลดเลือนริ้วรอยเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อดึงลง แต่สำหรับ EMFACE ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะไปทำงานกับกล้ามเนื้อดึงขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า HIFES™ ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อ เสมือนกล้ามเนื้อได้ออกกำลังกาย เมื่อกล้ามเนื้อดึงขึ้นแข็งแรงขึ้นก็จะได้ในส่วนของการลิฟติ้ง ซึ่งตอนนี้เป็นเครื่องเดียวที่สามารถทำงานกับกล้ามเนื้อดึงขึ้นได้ และการที่เครื่องนี้มีพลังงาน RF ด้วยจึงได้ในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย

พญ.ของขวัญย้ำว่าแม้หัตถการนี้จะไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือบาดแผล (Non-invasive) แต่ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น เพราะต้องแม่นยำอะนาโตมี (Anatomy) กล้ามเนื้อบนใบหน้า เพราะหากแปะแผ่นอุปกรณ์ผิดตำแหน่งไปโดนกล้ามเนื้อดึงลงก็อาจให้ผลตรงกันข้าม ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และทำการรักษาโดยแพทย์เท่านั้น

สำหรับคนที่ดูแลตัวเองด้วยเทคโนโลยีหลากหลายแบบอาจมีคำถามว่าควรเลือกทำอะไร หรือทำร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่ ในเรื่องนี้ พญ.ของขวัญอธิบายว่า หัตถการแต่ละอย่างก็ทำงานกับผิวคนละชั้น แก้ปัญหาผิวคนละแบบ ซึ่งเวลาที่ผิวคนเรามีปัญหาจากวัยที่เพิ่มขึ้น ปัญหาไม่ได้เกิดที่ผิวหนังชั้นใดชั้นหนึ่ง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่ในขั้นตอนการรักษาควรปรึกษาแพทย์ว่าปัญหาและงบประมาณของเราเหมาะกับอะไรบ้าง รวมทั้งวางแผนการรักษาให้เหมาะสมด้วยว่าควรทำอะไรก่อนหลัง และเว้นระยะห่างจากกันเท่าไหร่

Experience:

ในส่วนของประสบการณ์ในการทดลองทำ EMFACE ต้องบอกว่ารู้สึกแปลกใหม่ เพราะเป็นหัตถการที่ใช้เวลาน้อยและมีขั้นตอนแตกต่างจากเทคโนโลยียกกระชับอื่นๆ ที่เคยทดลองทำ โดยจะมีการแปะแผ่นสติ๊กเกอร์ลงบนผิวบริเวณหน้าผากและแก้ม จากนั้นเมื่อครื่องเริ่มทำงานจะรู้สึกอุ่นๆ มีการสั่นและบีบตัวของกล้ามเนื้อหน้าเป็นระยะ ทำ 20 นาทีเสร็จ ไม่มีการใช้เข็มและไม่มีการยิงพลังงานร้อนจัดจึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บและไม่ต้องทายาชา ไม่ต้องเสียเวลารอยาชาออกฤทธิ์ (เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลจากการทดลองโปรแกรม)

ในส่วนของการดูแลหลังทำ พญ.ของขวัญแนะนำว่าสามารถดูแลผิวตามปกติ ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เช่น นอนเพียงพอ รับประทานอาหารครบหมู่ ดื่มน้ำเพียงพอ งดแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เครียด ฯลฯ

 

ขอบคุณ พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แห่ง KKC Clinic สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel: 092 350 3501-9

ภาพ EMFACE by BTL Aesthetics, KKC Clinic

TAGS: #Emface #kkclinic #หมอของขวัญ #doctorkatekate

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

หรูมาก! Clarins SkinSuites เซ็นทรัลชิดลม มาพร้อมทรีตเมนต์ Precious สุดเลอค่า

ผ่อนคลายไปกับ Jet Lag Recovery Treatment @ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

รู้จักการอาบคลื่นเสียงในคลาส ซาวด์ บาธ by เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

รู้จักการอาบคลื่นเสียงในคลาส ซาวด์ บาธ by เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

Alternative Textaccount_circle
event
รู้จักการอาบคลื่นเสียงในคลาส ซาวด์ บาธ by เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ
รู้จักการอาบคลื่นเสียงในคลาส ซาวด์ บาธ by เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ประเทศไทย เปิดตัว ซาวด์ บาธ (Sound Bath) คลาสใหม่ที่จะรวมอยู่ในคลาสฟิตเนสและสุขภาพ โดย ซาวด์ บาธ เป็นคลาสที่ทางคลับรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นได้พักผ่อน รวมถึงฟื้นฟูจิตใจและร่างกายไปกับการอาบคลื่นเสียงจากคริสตัลโบวล์ ที่จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายตลอดระยะเวลา 45 นาที

ซาวด์ บาธ

จูเลียน เบรา ผู้อำนวยการประจำภูมิภาพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ กล่าวว่า “เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ มุ่งมั่นในการยกระดับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอย่างต่อเนื่อง โดยเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอ คลาสซาวด์บาธ เป็นคลาสถาวรใหม่ล่าสุดของเรา ให้มาเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเติมเต็มบริการ”

ซาวด์ บาธ

เข้าสู่ภาวะสมาธิอันล้ำลึกด้วย ซาวด์ บาธ ของเวอร์จิ้น แอ็คทีฟ

ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การผ่อนคลายด้วยคลื่นเสียงสะท้อนจากเสียงคริสตัลโบวล์ บรรเลงโดยครูฝึกผู้เชี่ยวชาญ คลาสซาวด์บาธนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย สบายใจ ควบคู่ไปกับการยกระดับด้านจิตใจและร่างกายแบบอื่นๆ ด้วยการพาผู้ฝึกไปสู่สภาวะสมาธิอันล้ำลึก เพื่อเติมพลัง ปรับสมดุล และรีเซ็ตจิตใจไปกับคลื่นเสียงเพลง

คลาสซาวด์บาธ เริ่มด้วยการผ่อนคลายร่างกายและการทำใจให้โล่งสบาย ก่อนจะนอนราบบนเสื่อโยคะที่มีผ้าห่มและหมอนรองรับเพื่อปรับให้ร่างกายได้รับความสบายสูงสุด จากนั้นครูผู้สอนจะเริ่มบรรเลง ซาวด์บาธ ผ่านการหมุนวนรอบคริสตัลโบวล์อย่างแผ่วเบา ทำให้เกิดเสียงอันไพเราะพร้อมการสั่นสะเทือนที่กลมกลืนและก้องกังวานไปทั่วพื้นที่ เสียงดังกล่าวจะโอบอุ้มผู้เข้าร่วมแต่ละคนไว้ ทั้งนี้ครูผู้สอนจะรักษาความเงียบ โดยปล่อยให้เสียงเพลงจาก ซาวด์บาธ รักษาร่างกายและฟื้นฟูจิตใจตลอดเซสชัน

ซาวด์ บาธ

จากนั้นจะเรียกอย่างแผ่วเบาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมเปลี่ยนท่าทางขึ้นมานั่งตรงอย่างเชื่องช้าและผ่อนคลาย ที่จะมาพร้อมความเบาสบายของร่างกายและจิตใจ

ครูแพรว ธิดารัตน์ วิระสันติ หัวหน้าฝ่ายพิลาทิสและโยคะ ของ เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “ทุกครั้งที่แพรวเข้าร่วมคลาสโยคะ แพรวมักจะได้รับพลังดี ๆ จากอาจารย์และเพื่อนร่วมคลาสอยู่เสมอ ซึ่งพลังงานเหล่านี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แพรวสอนคลาสโยคะของตัวเองเพื่อส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้กับนักเรียนต่อไป โดย เวอร์จิ้น แอ็คทีฟ เข้าใจดีว่าการเริ่มต้นการเดินทางเพื่อสุขภาพที่ดีอาจฟังดูยากและเหน็ดเหนื่อย ดังนั้น เราจึงเปิดตัวคลาสซาวด์ บาธ เพื่อให้จุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่อาจจะยังใหม่กับกิจกรรมการบำบัด หรือผู้ที่กำลังมองหาพื้นที่พร้อมคำแนะนำในการพักผ่อนและผ่อนคลาย”

ซาวด์บาธ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีสุขภาวะที่ดีขึ้นหรือปรับสมดุลภายในด้วยการฝึกสมาธิ รวมถึงช่วยในการทำสมาธิ ผ่านการเพิ่มจุดโฟกัสภายในจิตใจซึ่งจะช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากส่งเสริมการรับรู้ถึงร่างกายและอารมณ์ของตนเองแล้ว การอาบเสียงที่ผ่อนคลายและกลมกลืนกันยังช่วยเสริมสร้างอารมณ์ที่ดีและลดความรู้สึกเศร้าหรือซึมเศร้าได้ โดยการศึกษาระบุว่าการบำบัดด้วยเสียงอาจส่งผลเชิงบวกต่อการทำงานของการรับรู้ เช่น ความจำและความสนใจ ซึ่งความสงบจาก ซาวด์บาธ ยังช่วยเพิ่มความชัดเจนและปรับโฟกัสทางจิตได้เช่นกัน

อ่านบทความที่เกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่

10 โรคจิตเวช ที่พบบ่อย …รู้ก่อน รักษาเร็ว ลดการสูญเสีย

มัดรวม 7 ท่าขยับร่างกาย สร้าง 7 วัน ห่างไกลหลอดเลือดอุดตัน กับ 60 For 60 Challenge พักทุก 60 นาที มาขยับ 60 วินาที

ผู้บริหารฟาร์มาแคร์เผยทิศทางธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่อยากแนะนำคนยุคดิจิทัล

FWD ประกันชีวิต ชูแนวคิด “FWD Health Companion” นิยามใหม่แห่งบริการด้านสุขภาพ

แพทย์แนะ How-to ดูแลสุขภาพหญิงทั้งกาย-ใจ พร้อมทริคเฉพาะสำหรับทุกช่วงวัย

อัพเดททางเลือกในการดูแลสุขภาพและความงามที่เปิดกว้างขึ้น & ปรับให้เหมาะกับตัวเองได้

อันตรายจาก ไข้เลือดออก ที่ผู้หญิงควรรู้เพื่อดูแลตัวเองและคนรอบตัว

keyboard_arrow_up