KFC BONE TIE

ครั้งแรกของโลก! KFC BONE TIE ขนมขัดฟันแปรรูปจากกระดูกไก่

Alternative Textaccount_circle
event
KFC BONE TIE
KFC BONE TIE

ครั้งแรกของโลก! KFC BONE TIE ขนมขัดฟันแปรรูปจากกระดูกไก่ KFC กระดูกไก่ KFC เดียวที่น้องเคี้ยวได้ เซอร์ไพรส์วันมะหมาโลก

ไหน ๆ มีทาสคนไหนเคยถูกสายตาเว้าวอนของน้อน ๆ 4 ขามาวิงวอนเวลามีของกินบ้าง? แล้วยิ่งเป็นไก่ทอดร้อน ๆ ของผู้พัน จะมีน้องหมาที่ไหนอดใจไหว?! แต่บางคนอาจยังไม่ทราบว่า ความเป็นจริงแล้ว การให้น้องหมาแทะกระดูกไก่เป็นอันตรายกับน้อง ๆ โรงพยาบาลสัตว์หลายแห่งก็ออกมาเตือนว่า เศษกระดูกเล็ก ๆ อาจเข้าไปทิ่มแทงอวัยวะภายใน หรืออุดตันลำไส้ ทำให้น้องหมาติดเชื้อจากแบคทีเรียได้ ถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่เล็กเลย

KFC BONE TIE

วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา คือ“วันมะหมาโลก” หรือ International Dog Day ปีนี้ KFC เล่นใหญ่แบบแบรนด์ตัวพ่อวงการไก่ทอด จับมือกับ Momo & Friends ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการตระหนักรู้ถึงอันตรายของกระดูกไก่กับน้องหมา ผลิต “KFC BONE TIE” ขนมขัดฟันแปรรูปที่ผลิตจากกระดูกไก่ KFC แจกกันแบบฟรี ๆ เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้นุดหยุดให้กระดูกไก่กับน้องหมา และหันมาให้ขนมขัดฟันที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแทน ซึ่งความพิเศษคือ KFC BONE TIE แปรรูปมาจากกระดูกไก่ KFC ช่วยขัดฟันและคราบ มีโปรตีนสูง ไม่ทิ่มอวัยวะ แถมยังดีไซน์พิเศษ ขึ้นรูปเป็นโบว์ผู้พันแซนเดอร์ส น่ารักเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของผู้พันแบบไม่ซ้ำใครและหาไม่ได้จากที่ไหน! เพราะ KFC BONE TIE ไม่มีขาย แต่แจกฟรี ในวันมะหมาโลก เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา เฉพาะที่ KFC สาขาเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ ซึ่งเป็นห้าง Pet-friendly และกิจกรรมบนเพจ KFC Thailand ผู้พันขอขอบคุณเหล่าทาสที่ได้พาน้อนๆ มากันแบบไม่ขาดสาย แถมยังร่วมสนุกลุ้นรับฟรีกันแบบล้นหลามจนไวรัลกันไปทั้งโซเชียล!

KFC BONE TIE

ซูเฮล ลิมบาดะ (Suhayl Limbada), ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าว “ในฐานะ KFC แบรนด์ไก่ทอดต้นเรื่องที่ยั่วน้ำลายน้องหมา อ้อนขอจนทำให้หลายคนอาจใจอ่อนให้กระดูกน้องหมาไป วันมะหมาโลกปีนี้ เราจึงตั้งใจรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ว่าการให้กระดูกไก่สุกเป็นอันตรายกับน้องหมา และส่งต่อความปรารถนาดีไปยังคนรักน้องหมาทั่วประเทศ ด้วย KFC Bone Tie ขนมขัดฟันจากกระดูกไก่ KFC เป็นครั้งแรกของโลก! และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคที่สาขา KFC ในห้าง Pet-friendly อย่างเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ แฟชั่นไอซ์แลนด์และเมกาบางนา ได้มีส่วนร่วมในการหย่อนกระดูกไก่หลังทานเสร็จแล้ว เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ Upcycle เศษอาหาร และผลิต KFC BONE TIE อีกด้วย”

KFC BONE TIE

ภาคย์ วรรณศิริ, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ ของวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า
“แบรนด์ KFC และทีมความคิดสร้างสรรค์ของ Wunderman Thompson ประเทศไทย ได้ร่วมกันคิดค้น KFC BONE TIE ขนมขัดฟันแปรรูปจากกระดูกไก่ KFC ร่วมมือกับผู้ผลิตขนมสุนัขชั้นนำอย่าง Momo & Friends ใส่ความเป็นแบรนด์ KFC เข้าไปด้วยการขึ้นรูปขนมขัดฟันเป็นโบว์ผู้พัน แฝงกิมมิคเล็ก ๆ เป็นชื่อแบรนด์ไว้ที่หางโบว์ได้อย่างน่ารักและเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับผู้พัน และร่วมกับ Gluta Story คอนเทนต์ครีเอเตอร์กับแก๊งน้องหมาชื่อดัง สื่อสารแคมเปญผ่านหนังโฆษณาสุดน่ารัก ที่ใคร ๆ เห็นก็ต้องร้องงู้ยยยยและไวรัลกันไปทั้งโซเซียล! หนึ่งในแคมเปญโฆษณาที่หลายคนอยากดูจนจบ” 

KFC BONE TIE

นอกจากนี้ แคมเปญนี้ยังช่วยระดมทุนให้กับมูลนิธิเดอะวอยซ์ (เสียงจากเรา) เปิดให้ทุกคนที่ร่วมสนุกรับ KFC BONE TIE ได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือน้องหมาตัวอื่น ๆ อีกด้วย ด้วยการสแกน QR code บริจาคเงินตามอัธยาศัยให้กับมูลนิธิได้โดยตรง ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญดี ๆ ที่ไวรัลไปทั้งโซเซียล หากใครสนใจร่วมบริจาคสมทบทุน สามารถเข้าไปบริจาคโดยตรงได้ที่เว็บไซต์มูลนิธิเดอะวอยซ์ (เสียงจากเรา)

ใครเป็นแฟน KFC เรายังมีเรื่องดี ๆ สนุก ๆ อีกหลายอย่างรอทุกคนอยู่ อย่าพลาดกดติดตามอัปเดตต่าง ๆ ของพวก เราได้ที่ Instagram kfcthailandFacebook KFC และ Twitter KFC Thailand

โตโยต้าชัวร์

โตโยต้าชัวร์ กรุงไทย แนะ 5 เหตุผลทำไมต้องรีบซื้อรถมือสองตอนนี้ !

Alternative Textaccount_circle
event
โตโยต้าชัวร์
โตโยต้าชัวร์

ตลาดรถมือสองคึกคัก! “โตโยต้าชัวร์ กรุงไทย” แนะ 5 เหตุผลทำไมต้องรีบซื้อรถมือสองตอนนี้! ชี้ “โอกาสทอง” สำหรับคนเล็งรถมือสองสภาพดีในราคาสุดคุ้ม

โตโยต้า ชัวร์ กรุงไทย ผู้แทนจำหน่ายรถมือสองคุณภาพดียอดขายอันดับหนึ่งภายใต้มาตรฐานแบรนด์โตโยต้า ชัวร์ เผย 5 เหตุผลสำคัญทำไมช่วงนี้ ถึงเป็นโอกาสที่เหมาะเจาะและคุ้มที่สุดในการออกรถมือสอง ด้วยตลาดที่กำลังคึกคักขั้นสุด พร้อมดอกเบี้ยต่ำ 2.99% ผ่อน 7 ปี แถมมีรถใหม่ ๆ คุณภาพเยี่ยมเข้ามาให้ลูกค้าเลือกซื้อแบบไม่ต้องรออีกเพียบ โตโยต้า ชัวร์ กรุงไทย ชี้ 5 ข้อดีของการออกรถมือสองตอนนี้ที่มีความพิเศษมากกว่าแค่เรื่องราคาแน่นอน จะมีอะไรบ้าง รีบไปส่องและจับจองรถก่อนจะไม่ทันความคุ้มรอบนี้!

1. ราคาถูกกว่าปีที่แล้วถึง 20% – 30% — “โตโยต้า ชัวร์ กรุงไทย” เผยว่าจริง ๆ แล้วรถมือสองมีราคาดีต่อเนื่องตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากรถมือหนึ่งขาดตลาดไปหลายเดือนเมื่อปี 2565 และยิ่งในปีนี้มีรถที่ถูกยึดเยอะกว่าปีก่อน ทำให้ราคาก็ตกลงมาอีกครั้งหนึ่ง เรียกได้ว่าสองปัจจัยนี้ทำให้การซื้อรถมือสองในช่วงหน้าฝนปีนี้ดีและคุ้มที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะราคาลงมาจากปีที่แล้วถึง 20 – 30 % เช่น Mitsubishi Expander เมื่อปี 2565 ราคาอยู่ที่ประมาณ 589,000 บาทแต่ตอนนี้ลงมาอยู่ที่ราว 539,000 บาท เป็นต้น

2. ราคาจ่อปรับขึ้นช่วงปลายปี — สำหรับใครที่เล็งจะซื้อรถมือสองก็ต้องรีบตัดสินใจด่วน ๆ เพราะ “โตโยต้า ชัวร์ กรุงไทย” เปิดเผยว่าทุกปีราคาจะทยอยปรับขึ้นในช่วงปลายปีและต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าราคารถจะปรับขึ้นราว 10-15% ในช่วงปลายปีและต้นปีให้สอดคล้องกับดีมานด์และกำลังซื้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงดังกล่าว เรียกได้ว่าราคาสวย ๆ แบบคุ้มเกินคุ้มในช่วงหน้าฝนปีนี้ถือว่าหายากมากจริง ๆ

3. มีรถสภาพเยี่ยมให้เลือกเพียบ — ช่วงนี้ตลาดรถมือสองมีรถสภาพดีให้ลูกค้าได้เลือกสรรมากมายหลายรุ่น ส่วนหนึ่งมาจากซัพพลายที่กลับมาเพราะรถที่ยึดมาจากไฟแนนซ์เริ่มทยอยเข้าตลาด โดย “โตโยต้า ชัวร์ กรุงไทย” ชี้ว่าในตลาดตอนนี้มีรถจำนวนมากทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ถือเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้า ซึ่งลูกค้าบุคคลและองค์กรสามารถใช้บริการซื้อรถจากผู้จำหน่ายรถมือสองที่ได้มาตรฐานเพื่อรับบริการที่สะดวกสบายและน่าเชื่อถือ พร้อมบริการหลังการขายที่ครบวงจร เพื่อความอุ่นใจในทุก ๆ ขั้นตอนของการซื้อรถมือสองนั่นเอง

4. ผ่อนสบายด้วยดอกเบี้ยต่ำ — อีกหนึ่งข้อดีที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับการออกรถมือสองในช่วงกลางปีนี้คือ อัตราดอกเบี้ยยังต่ำมาก แต่พิเศษเฉพาะที่ โตโยต้าชัวร์ กรุงไทย รับดอกเบี้ย 2.99% ผ่อน 7 ปี ซึ่งปัจจุบันในตลาดแข่งกันที่ประมาณ 5.25% ต่อปี ผ่อน 5 ปี ช่วยให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถสภาพเยี่ยมได้ง่าย ๆ ผ่านการผ่อนสบาย ๆ ในหลักพัน “โตโยต้า ชัวร์ กรุงไทย” จึงมองว่าการตัดสินใจเลือกซื้อรถในช่วงนี้เป็นโอกาสที่ดีและคุ้มสุด ๆ ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นในปีหน้าราว 0.5%

5. มีรถทันใช้แบบไม่ต้องรอ! — เป็นที่รู้กันว่าใครจะออกรถใหม่ป้ายแดงช่วงนี้จะต้องรอพักใหญ่ ทั้งการรอลุ้นผลการอนุมัติสินเชื่อ แถมยังต้องรอรถจากบริษัทอีก ไม่เหมือนกับคนจะซื้อรถมือสอง เพราะซัพพลายจัดเต็มมาก ตอนนี้วงการคึกคักมีรถพร้อมส่งมอบแบบไม่ต้องรอนาน และมีการรับประกันเหมือนรถป้ายแดง (สำหรับรถใหม่ ๆ) พร้อมออกรถได้เลย แถมหลาย ๆ บริษัทชั้นนำยังมอบบริการไฟแนนซ์ทั่วประเทศที่สะดวกสบาย พร้อมจัดส่งรถฟรีทั่วประเทศอีกด้วย

โตโยต้าชัวร์

รู้อย่างนี้แล้วใครที่กำลังเล็งรถรุ่นไหนไว้ก็อย่ารอช้า รีบตัดสินใจและคว้าโอกาสทองครั้งนี้ไว้ให้ทัน! สำหรับใครที่ยังใหม่กับการซื้อรถมือสอง “โตโยต้าชัวร์ กรุงไทย” แนะให้ติดต่อผู้แทนจำหน่ายรถมือสองที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน และพร้อมมอบบริการหลังการขายที่ครบวงจร รวมถึงควรทดลองขับรถก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อความมั่นใจและที่สำคัญคือเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถนั่นเอง

นิสสัน คิกส์

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ สีสุดเทรนดี้ “ไทเทเนียม กากี” ในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซล 2023

Alternative Textaccount_circle
event
นิสสัน คิกส์
นิสสัน คิกส์

เปิดตัว นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ สีสุดเทรนดี้ “ไทเทเนียม กากี” ในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซล 2023 นิสสันนำรถยอดนิยมครบทุกรุ่นโชว์ในงาน พร้อมอัดโปรโมชั่นพิเศษ “โปรใหญ่ SAY YES!” หลากหลายทางเลือกตรงใจลูกค้า ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% หรือผ่อนนานสุด 84 เดือน

นิสสัน เปิดตัว นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ สีพิเศษ ไทเทเนียม กากี ครั้งแรกกับรถยนต์สีอินเทรนด์ ร่วมสร้างสีสันในงานบิ๊ก มอเตอร์เซล 2023 ระหว่าง 25 สิงหาคม – 3 กันยายน นี้ ที่ไบเทค บางนา สนองความต้องการของลูกค้า พร้อมเติมแอคทีฟไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่รักการผจญภัยและการใช้ชีวิตกลางแจ้ง

นอกจากนี้ นิสสันยังนำรถยนต์รุ่นอื่น ๆ มาให้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด อาทิ นิสสัน อัลเมร่า รถสปอร์ตซีดานรุ่นล่าสุด นิสสันเทอร์ร่า รถเอสยูวีหรูสำหรับทุกคนในครอบครัว และนิสสัน นาวารา รถกระบะอเนกประสงค์ยอดนิยม

มาซาโอะ สึสึมิ รองประธานสายงานการตลาด การขาย บริการหลังการขาย และพัฒนาเครือข่าย ผู้จำหน่าย นิสสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “นิสสันรับฟังลูกค้าอยู่เสมอ และเพื่อสร้างสรรค์การเดินทางให้น่าประทับใจ สะท้อนตัวตนของลูกค้า สีไทเทเนียม กากี ซึ่งเป็นสีพิเศษในนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ และได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เปิดตัว โดยมีลูกค้าชาวไทยให้ความสนใจ เราจึงได้แนะนำสีไทเทเนียม กากี กับรถเอสยูวียอดนิยม เป็นครั้งแรก ตอกย้ำจุดยืนของการเป็นรถยนต์ที่ใช่ ช่วยเพิ่มความสนุกในการขับขี่ และเติมเต็มความต้องการของลูกค้า ให้ได้รับประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้โดยที่ไม่ต้องชาร์จ”

นิสสัน คิกส์

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ไทเทเนียม กากี ออกแบบมาสำหรับคนรุ่นใหม่ที่นิยมการใช้ชีวิตกึ่งผจญภัย และรักการเดินทาง สีภายนอกในโทนกากีเป็นสีที่สื่อถึงธรรมชาติ การผจญภัย ความอบอุ่น และการผ่อนคลาย รวมถึงสะท้อนบุคลิกแอคทีฟไลฟ์สไตล์ที่ชอบใช้ชีวิตกลางแจ้ง

นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ สี ไทเทเนียม กากี มีเฉพาะรุ่น VL และผลิตจำนวนจำกัด 100 คัน โดยมีราคาจำหน่ายที่ 920,000 บาท

นอกจากนี้ นิสสัน และ THULE ยังได้ร่วมกันมอบข้อเสนอพิเศษด้วยชุดตกแต่งราคาพิเศษเพื่อยกระดับประสบการณ์ในการการทำกิจกรรมกลางแจ้งใกล้ชิดธรรมชาติ อาทิ สปอยเลอร์หลัง สเกิร์ตรอบคัน จาก นิสสัน รวมถึงแร็คหลังคาบรรทุกสัมภาระ และกล่องเก็บสัมภาระจาก THULE

ขณะที่จุดเด่นของรถยังคงเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจากนิสสัน ขับสนุกพร้อมสัมผัสได้ถึงประสบการณ์การขับขี่เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถ ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จ อัตราเร่งที่ทันใจจากแรงบิดสูงสุดถึง 280 นิวตันเมตร (Nm) แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาด 2.06 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ให้ประสิทธิภาพและกำลังมากขึ้น มาพร้อมอัตราประหยัดน้ำมันเมื่อขับขี่ในเมือง สูงสุด 26.3 กิโลเมตร/ลิตร*

นิสสัน คิกส์

คอมแพคเอสยูวีรุ่นนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นมากมาย อาทิ Wireless Charger** เอาใจลูกค้ายุคดิจิทัล พวงมาลัยบุเสริมวัสดุบุนุ่ม เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ “อี-เพดัล สเต็ป” (e-Pedal Step) ที่สามารถเร่ง และชะลอความเร็วได้ในคันเร่งเดียว และยังมั่นใจทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงรอบคัน 360 Safety Shield เพิ่มความสะดวกสบายด้วย NissanConnect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android Auto** และ Apple CarPlay

ในงานนี้ นิสสันยังยกขบวนรถยอดนิยมครบทุกรุ่นมาจัดแสดง ได้แก่ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ คอมแพคซีดานที่ “แรงจริง จัดให้” ด้วยเครื่องยนต์ HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 152 นิวตันเมตร (Nm) ให้อัตราเร่งที่แรง และรวดเร็วให้ทุกการเดินทางสนุกเต็มพิกัด รูปลักษณ์ปราดเปรียวโดดเด่นสะดุดตามากขึ้นด้วยกระจังหน้าคอนเซปต์ Next-generation V-motion มาพร้อมเทคโนโลยี NissanConnect Services เพื่อการเชื่อมต่อไร้สายระหว่างผู้ขับขี่และรถผ่านสมาร์ทโฟน แอพพลิเคชัน เสริมด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายจากรถพรีเมียมสู่คอมแพคซีดาน อาทิ เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS) เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA) และเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW) รวมถึงการติดตั้งฟังก์ชั่น SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันทีผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เมื่อเกิดเหตุต่างๆ

นิสสัน เทอร์ร่า รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียมรุ่นล่าสุด มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกและภายในที่สปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะรุ่นล่าสุด นิสสัน เทอร์ร่า สปอร์ต ที่เพิ่มความเท่มีสไตล์ด้วยชุดแต่งสีดำรอบคัน ครบครันทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยและความบันเทิง รวมทั้งห้องโดยสารที่กว้างขวาง ทำให้นิสสัน เทอร์ร่า สปอร์ต เป็นเอสยูวีที่ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว เครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ให้การขับขี่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน ทั้งยังสามารถรองรับน้ำมันดีเซลได้ทุกชนิดทั้ง B7, B10 และ B20 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ไปได้ทุกเส้นทาง อุ่นใจกับ ‘360 Degree Safety Shield’ เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน ระบบความบันเทิงระดับไฮเอนด์ด้วยเครื่องเสียงจาก Bose Premium Audio พร้อมลำโพงคุณภาพสูง 8 ตัว จอสัมผัสขนาด 11 นิ้วและการเชื่อมต่อสมาร์ททีวีหรือ HDMi เพิ่มความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารด้านหลัง

นิสสัน คิกส์

นิสสัน นาวารา รถกระบะที่ทุกรุ่นทนถึงใจ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้งาน ทั้งการขับขี่แบบไลฟ์สไตล์หรือการใช้งานที่ต้องการความทนทาน ไม่ว่าจะเป็น นิสสัน นาวารา แบบซิงเกิลแค็บ ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ต้องการรถกระบะใช้งานหนัก และวางไจได้ ด้วยโครงสร้างโมโนเฟรมแชสซีทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน (Fully Boxed Frame) พร้อมรองรับทุกการบรรทุกหนัก ที่มีพื้นที่บรรทุกของได้อย่างจุใจ หรือ นิสสัน นาวารา PRO-4X และ นิสสัน นาวารา คาลิเบอร์ แบล็คอิดิชั่น ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ขับขี่สนุกกับทุกการเดินทาง การผจญภัย และการใช้งานทั่วไป

นิสสัน นาวารา มากับสมรรถนะทรงพลัง เครื่องยนต์ทรงพลัง YS23DDTT แบบ 4 สูบ DOHC เทอร์โบคู่ ความจุ 2.3 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 190 hp (Ps) และแรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตันเมตร (Nm) เกียร์ออโตเมติก 7 สปีด ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบแมนนวล (M mode) ได้เพื่อความสนุกสนานในการขับขี่ที่ควบคุมได้ดังใจ รวมทั้งยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ในด้านประโยชน์การใช้งาน และความสะดวก เช่น ฝาท้ายที่ช่วยผ่อนแรงในการเปิด-ปิดและขนของที่กระบะได้สะดวก รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก

พิเศษในงาน บิ๊ก มอเตอร์ เซล 2023 นิสสันจัดโปรโมชั่นพิเศษ “โปรใหญ่ SAY YES!” ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น กับข้อเสนอพิเศษหลากหลายที่จัดขึ้นให้ตรงตามความต้องการลูกค้าของรถแต่ละรุ่น โดยมีข้อเสนอตั้งแต่ดาวน์ต่ำ ผ่อนสบาย และผ่อนนาน ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยเริ่มต้น 0% ไปจนถึงผ่อนนาน 84 เดือน

นอกจากนี้ลูกค้ายังอุ่นใจได้กับข้อเสนอพิเศษอื่นๆ*** เช่น โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ นิสสัน พรีเมี่ยม วารันตี ค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี/100,000 กิโลเมตร Roadside Service Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง (5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร) ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผู้จำหน่ายนิสสันในงาน และทั่วประเทศ หรือดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์ https://nissan.co.th

Sunshine By My Side - 骄阳伴我- ซีรี่ย์จีนของเซียวจ้าน - เซียวจ้าน - Xiao Zhan - Sean Xiao - 肖战- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นักแสดงชายจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

Sunshine By My Side ซีรี่ย์จีนเรื่องที่ 3 ของเซียวจ้านปี 2023 ทีมเมียพลาดไม่ได้!

Alternative Textaccount_circle
event
Sunshine By My Side - 骄阳伴我- ซีรี่ย์จีนของเซียวจ้าน - เซียวจ้าน - Xiao Zhan - Sean Xiao - 肖战- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นักแสดงชายจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
Sunshine By My Side - 骄阳伴我- ซีรี่ย์จีนของเซียวจ้าน - เซียวจ้าน - Xiao Zhan - Sean Xiao - 肖战- ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนแนวปัจจุบัน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นักแสดงชายจีน - ดาราชายจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ ชวนดู Sunshine By My Side ซีรี่ย์จีนเรื่องที่ 3 ของเซียวจ้านในปี 2023 แท็กทีมนางเอกคู่จิ้นคนใหม่ ไป๋ไป่เหอ ส่งต่อเรื่องราวชวนละมุนใจรับต้นเดือนก.ย.นี้!

เรียกว่าฮอตไม่หยุดแบบอะไรก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ ค่ะ สำหรับเซียวจ้าน (Xiao Zhan หรือ Sean Xiao) นักแสดง ไอดอลชายจีนสมาชิกวง X NINE วัย 31 ปี (เกิดเดือนต.ค. 1991) เจ้าของผลงานซีรี่ย์จีนสุดปังที่คอซีรี่ย์จีนคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค Oh! My Emperor โอ้ ฝ่าบาทที่รัก ซีซั่น 1-2 (2018), ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/มิตรภาพ The Untamed ปรมาจารย์ลัทธิมาร (2019), The Wolf หมาป่าจอมราชันย์ (2020), Douluo Continent ตํานานจอมยุทธ์ภูตถังซาน (2021), Ace Troops กองกำลังประจัญบาน (2021-2022), The Oath of Love คุณคือคำปฏิญาณแห่งรัก (2022) เป็นต้น

นอกจากซีรี่ย์จีนที่ออนแอร์ไปปีก่อนๆ หน้านี้แล้ว ในปี 2023 นี้ก็บอกเลยว่า ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของเซียวจ้านที่แฟนคลับชื่นใจหนักมาก เพราะมีซีรี่ย์จีนของเซียวจ้านทยอยลงจอออนแอร์แบบไม่ขาดสายตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นมา โดยซีรี่ย์จีนเรื่องแรกของเซียวจ้านในปีนี้คือ ซีรี่ย์จีนแนวพีเรียด/วัยรุ่น/สร้างแรงบันดาลใจ Where Dreams Begin วันที่ฝันเริ่มต้น ที่ออกอากาศทาง WeTV และ CCTV ของจีนช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเซียวจ้านแท็กทีมรุ่นพี่สุดซี้ หลี่ชิ่น (Li Qin) นางเอกจีนมากฝีมือจากเรื่อง Joy Of Life หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร (2019), The Song of Glory เพลงรักเพชฌฆาต (2020), My Dear Guardian ภารกิจลับ ภารกิจรัก (2021), Thousand Years For You รักข้ามสหัสวรรษ (2022) ฯลฯ ถ่ายทอดเรื่องราวที่มีพื้นเรื่องอยู่ในช่วงการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนและการเปิดประเทศ (ประมาณปี 1970) เรื่องราวของคนหนุ่มสาวในเมืองหลวงกรุงปักกิ่งที่มีความฝันหลากหลาย และมีชะตากรรมที่แตกต่างกัน (คลิกอ่านต่อเรื่องย่อ Where Dreams Begin วันที่ฝันเริ่มต้น ต่อได้ที่นี่ค่ะ)

ซีรี่ย์จีนของเซียวจ้าน   - เซียวจ้าน  - Xiao Zhan -  Sean Xiao  -  肖战-  Where Dreams Begin - วันที่ฝันเริ่มต้น

ต่อด้วยต้นเดือนก.ค. 2023 ก็มีซีรี่ย์จีนของเซียวจ้านอีกเรื่องลงจอ นั่นคือ The Longest Promise ลำนำกระดูกหยก ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/กำลังภายในที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนชื่อดัง จูเหยียน ลำนำกระดูกหยก ของนักเขียนหญิงจีน ชางเยว่ (Cang Yue) โดยบอกเล่าเรื่องราวของพระ-นางที่เริ่มต้นความสัมพันธ์จากการเป็นอาจารย์-ลูกศิษย์ จากความรักนำไปสู่ความเจ็บปวดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง… ที่ในเรื่องนี้เซียวจ้านประกบคู่กับนักแสดงหญิงจีนรุ่นน้อง เหรินหมิ่น (Ren Min) วัย 23 ปี (เกิดเดือนธ.ค. 1999) ที่เคยฝากฝีมือมาแล้วในเรื่อง Held in the Lonely Castle วังเดียวดาย (2020) ฯลฯ ซึ่งเรื่อง The Longest Promise ลำนำกระดูกหยก ก็ออกอากาศทาง WeTV เช่นกัน แฟนๆ ที่พลาดไปสามารถไปตามเก็บย้อนหลังกันได้จ้า

ซีรี่ย์จีนของเซียวจ้าน - เซียวจ้าน - Xiao Zhan - Sean Xiao - 肖战-The Longest Promise - ลำนำกระดูกหยก

ล่าสุดในวันที่ 1 ก.ย. นี้ Sunshine By My Side หรือชื่อไทย แสงส่องรักข้างกาย ซีรี่ย์จีนเรื่องที่ 3 ของเซียวจ้านปี 2023 ก็เตรียมออกอากาศเจอกับแฟนๆ แล้วจ้า โดยเป็นซีรี่ย์จีนที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเจี่ยนปิง นางเอกที่เป็นผู้กำกับโฆษณาที่มีชื่อเสียงในวงการ และเซิ่งหยาง พระเอกที่เป็นน้องใหม่ในการเข้าสู่สังคมการทำงาน ทั้งสองคนบังเอิญเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง คนหนึ่งเพิ่งจะจบความสัมพันธ์ชีวิตคู่ ส่วนอีกคนกำลังรอความรักที่ไม่สมหวัง ทั้งสองคนค่อยๆ ถูกดึงดูดเข้าหากันทีละน้อยๆ และนี่คือจุดเริ่มต้นเส้นทางความรักสุดโรแมนติกและเติบโตไปพร้อมๆ กัน โดยในเรื่องSunshine By My Side แสงส่องรักข้างกาย เซียวจ้านรับบทคู่กับนางเอกจีนรุ่นพี่ ไป๋ไป่เหอ (Bai Baihe) วัย 39 ปี เจ้าของผลงานเรื่อง Grow Up (2015), Only Side by Side with You (2018) ฯลฯ ไปติดตามได้ที่ iQIYI และ WeTV นะคะ

Sunshine By My Side  -  แสงส่องรักข้างกาย - 骄阳伴我

รูปจาก : 电视剧骄阳伴我/肖战工作室

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

โอเรียนท์

โอเรียนท์ แบมบิโน่ (ORIENT Bambino) รุ่นใหม่ที่ผสมผสานความคลาสสิค

Alternative Textaccount_circle
event
โอเรียนท์
โอเรียนท์

โอเรียนท์ แบมบิโน่ (ORIENT Bambino) รุ่นใหม่ที่ผสมผสานความคลาสสิคเข้าไว้กับหน้าปัดสีสันสดใสได้อย่างลงตัว ที่สมบูรณ์แบบสำหรับส่วมใส่ในทุกโอกาส

โอเรียนท์ (ORIENT) เปิดตัวรุ่นยอดนิยมอย่างแบมบิโน่ (Bambino) มาพร้อมกับสีหน้าปัดใหม่ถึงสีสี่     ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างสีสันที่มีสไตล์กับความคลาสสิค และรูปแบบของหน้าปัดอันเรียบง่ายในแบบนาฬิกาสามเข็มพร้อมกับการจับคู่สายหนังที่สวยงามและลงตัว ทำให้นาฬิกาอัตโนมัติรุ่นใหม่นี้เป็นเรือนเวลาที่สมบูรณ์แบบสำหรับส่วมใส่ในทุกโอกาส

ซีรีย์แบมบิโน่เป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ ซึ่งได้รับความนิยมจากทั่วทุกมุมโลกโดยเป็นเสมือนกับสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของโอเรียนท์ และเป็นที่รับรู้กันว่านาฬิกาซีรีย์นี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความคลาสสิคที่นำเสนอผ่านทางหน้าปัด กระจกรูปทรงโดมแบบเรโทรและดีไซน์อันอ่อนช้อยกับขาที่เพียวบางของตัวเรือน

นาฬิการุ่นใหม่มาพร้อมกับหน้าปัดและโทนสีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้แก่ สีเขียวอ่อน สีกรมท่า                 สีฟ้าครามและสีบรอนซ์ ซึ่งสร้างความสวยงามและน่าประทับใจให้กับนาฬิกาสไตล์คลาสสิคอย่างแบมบิโน่

เข็มและหลักชั่วโมงถูกออกแบบให้เป็นสีทองและทองชมพูเพื่อความเข้ากันกับหน้าปัดที่ดึงดูดสายตา โทนสีหน้าปัดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ซึ่งกำลังมองหานาฬิกาอัตโนมัติที่ให้ทั้งความหรูหราและสไตล์ลำลอง

นอกจากสีของหน้าปัดแล้วสายนาฬิกาก็ยังมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากสายทั่วไป ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีสีที่เข้ากันกับสีของหน้าปัดไม่ว่าจะเป็น รุ่นหน้าปัดสีเขียวอ่อน ที่จับคู่กับสายสีน้ำตาลคาเมลในส่วนผิวสัมผัสด้านหน้าและสีน้ำตาลเข้มที่บริเวณขอบด้านข้างและด้านหลัง รุ่นหน้าปัดสีกรมท่า กับสายสีเบจที่หุ้มด้วย  สีน้ำเงินบริเวณขอบด้านข้างและด้านหลัง รุ่นหน้าปัดสีฟ้าคราม กับสายสีเบจที่หุ้มด้วยหนังสีเทาบริเวณขอบด้านข้างและด้านหลังและหน้าปัดสีบรอนซ์ ที่มากับสายสีน้ำตาลทั้งเส้น ความประณีตละเอียดอ่อนในการใช้สีของหน้าปัดและสาย   ทำให้นาฬิการุ่นนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการจับคู่กับการแต่งกายในแบบลำลองทั้งชายและหญิง รวมถึงเป็นเรือนเวลาที่สมบูรณ์แบบและสามารถเข้ากันได้กับทุกสไตล์

โอเรียนท์ แบมบิโน่รุ่นใหม่นี้บอกเวลาและวันที่ผ่านการทำงานของเครื่องอัตโนมัติ in-house รหัส F6724 ที่ขึ้นลานผ่านเม็ดมะยม มอบความเที่ยงตรงในช่วง +25/-15 วินาทีต่อวันและสามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 40 ชั่วโมงจึงทำให้เป็นเรือนเวลาที่ลงตัวสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

โอเรียนท์

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

  • คอลเลกชัน : คลาสสิก
  • ชื่อรุ่น : Orient Bambino
  • อ้างอิง : RA-AC0P01E , RA-AC0P02L , RA-AC0P03L , RA-AC0P04Y
  • กลไก : อัตโนมัติ (ไขลานด้วยมือ) , เครื่องกลไกอินเฮาส์ คาลิเบอร์ F6724 ผลิตในประเทศญี่ปุ่น
  • สำรองพลังงาน : 40 ชม
  • ความแม่นยำ : +25 วินาที  ถึง – 15 วินาที / วัน
  • วัสดุตัวเรือน (สี) : สเตนเลสสตีล /  สเตนเลสสตีลสีโรสโกลด์ และขอบหน้าปัดสีโรสโกลด์
  • ขนาดตัวเรือน :  ยาว 49.0 มม. / กว้าง 42.0 มม. / หนา 12.0 มม
  • กระจกหน้า : คริสตัลแบบโค้ง
  • สายนาฬิกา : สายหนังสังเคราะห์สีคาเมล  / สายหนังสีเบจ/  สายหนังสีเบจ /  สายหนังสังเคราะห์สีน้ำตาล
  • หัวเข็มขัด : กว้าง 22 มม
  • สีของหน้าปัด :  สีเขียวอ่อน , สีกรมท่า , สีฟ้าคราม , สีบรอนซ์
  • คุณสมบัติอื่นๆ : กันน้ำได้ 30 เมตร  พร้อมเข็มแฮ็คเข็มวินาที , ทับทิมกันสึก 22 เม็ด และช่องบอกวันที่
  • ราคา 12,000 – 12,500 บาท

สนใจเลือกชมได้ที่ แผนกนาฬิกาศูนย์การค้าสยามพารากอน, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน, บางแค , ห้างสรรพสินค้าสยามทาคาชิมายะ (ไอคอน สยาม), ห้างสรรพสินค้าโรบินสันพระรามเก้า,  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม, ลาดพร้าว , อีสต์วิลล์ , UKT Showroom ถนนเพชรบุรี 15 และร้านนาฬิกาตัวแทนจำหน่าย

Call Me by Fire - 披荆斩棘- เจฟ ซาเตอร์- ดาราจีน - ศิลปินจีน - ดาราไต้หวัน- นักร้องจีน - นักร้องไทย - รายการวาไรตี้จีน - วาไรตี้จีน- รายการจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

Call Me by Fire วาไรตี้จีนมาแรงรวมศิลปินชาย 32 คนแข่งโชว์สุดปัง เจฟ ซาเตอร์ ร่วมแจมด้วย!

Alternative Textaccount_circle
event
Call Me by Fire - 披荆斩棘- เจฟ ซาเตอร์- ดาราจีน - ศิลปินจีน - ดาราไต้หวัน- นักร้องจีน - นักร้องไทย - รายการวาไรตี้จีน - วาไรตี้จีน- รายการจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
Call Me by Fire - 披荆斩棘- เจฟ ซาเตอร์- ดาราจีน - ศิลปินจีน - ดาราไต้หวัน- นักร้องจีน - นักร้องไทย - รายการวาไรตี้จีน - วาไรตี้จีน- รายการจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

พลาดไม่ได้!?! Call Me by Fire ซีซั่น 3 อีกหนึ่งรายการวาไรตี้จีนสุดร้อนแรงที่รวมเหล่าศิลปินชาย 32 คนมาแข่งโชว์ทำเพลงสุดปัง ปีนี้ตัวแทนเด็กไทย เจฟ ซาเตอร์ ร่วมจอยด้วย!

นอกจากซีรี่ย์จีนที่มาแบบต่อเนื่อง และร้อนแรงแบบไม่มีพักแล้ว สำหรับใครที่เป็นสายรายการวาไรตี้จีน สุดฯ บอกเลยว่า ปี 2023 นี้เป็นอีกหนึ่งปีที่มีรายการจีนน่าดูๆ ออนแอร์เยอะมาก-ก-ก ซึ่งหนึ่งในรายการที่สุดฯ บอกเลยว่า พลาดไม่ได้โดยเฉพาะสาวๆ เพราะนี่เป็นรายการที่นอกจากจะรวมเหล่าศิลปินชายไว้เยอะมากๆ แล้ว ยังมีหมดตั้งแต่ซุปตาร์รุ่นใหญ่ขวัญใจเด็กยุค 90 กระทั่งนักร้องรุ่นใหม่ นั่นคือ รายการ Call Me by Fire หรือชื่อจีน 披荆斩棘

ก่อนที่สุดฯ จะพาไปส่องว่ามีหนุ่มคนไหน ขอพูดถึงรายการCall Me by Fireให้หลายๆ คนที่อาจจะยังไม่เคยดูได้รู้จักกันก่อนค่ะ สำหรับรายการCall Me by Fireเป็นรายการที่นำเหล่าศิลปินชายจากทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ฮ่องกง และอาจรวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชียมาร่วมกันแข่งขันทำโชว์ เพื่อโชว์ฝีมือทั้งด้านการร้อง เต้น จากทั้งหมด 30 กว่าคนจะถูกคัดเหลือเพียง 17 คน โดยรายการนี้เริ่มออกอากาศซีซั่นแรกเมื่อปี 2021 โดยซีซั่นแรกมีศิลปินจีน อาทิ เจอร์รี่ เหยียน (Jerry Yan/Jerry F4), จางอวิ๋นหลง (Zhang Yunlong), ลีซึงฮยอน (Lee Seung-Hyun) ฯลฯ ต่อมาในซีซั่น 2 ที่ออกอากาศในปี 2022 ก็มีคนดังอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นซูโหย่วเผิง (Su Youpeng), หลิวข่ายเวย (Liu Kaiwei), อู๋เจี้ยนหาว (Wu Jianhao/Vanness Wu), พ่านเหว่ยป๋อ (Pan Weibo), ไมค์ พิรัชต์ (MikeAngelo), หวังต้าลู่ (Wang Dalu), ฟางอี้หลุน (Fang Yilun) ฯลฯ

ล่าสุดในปี 2023 นี้รายการCall Me by Fireซีซั่น 3 ที่เริ่มออกอากาศไปเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาทาง MangoTV โดยในปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่พิเศษไม่แพ้ซีซั่นก่อนๆ เพราะขนทัพศิลปินตั้งแต่รุ่นใหญ่ยันรุ่นเล็กที่เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดี นำทีมโดยหลินจื้ออิ่ง (Lin Zhiying) นักแสดง นักร้องไต้หวันชื่อดังวัย 48 ปี พระเอกซีรี่ย์ไต้หวัน My Lucky Star ฝากรักมากับดาว (2007) ที่ก่อนหน้านี้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ แต่ก็ผ่านพ้นวิกฤติชีวิตครั้งใหญ่ กระทั่งหายดีและกลับมาให้แฟนๆ หายคิดถึงกัน, หลานเจิ้งหลง (Lan Zhenglong) นักแสดง นายแบบไต้หวันวัย 44 ปีที่ก่อนหน้านี้หายหน้าหายตาไปนาน ผลงานก่อนหน้านี้ เช่น The Outsiders (2004) ฯลฯ, ถังอวี่เจ๋อ (Tang Yuzhe) วัย 38 ปี นักแสดง นักร้องไต้หวันจากเรื่อง Hanazakarino Kimitachihe ปิ๊งรักสลับขั้ว (2006) ฯลฯ ที่มารวมตัวกัน ซึ่งบอกเลยว่าเป็นภาพที่หาได้ยากมากๆ เลยละจ้า

Call Me by Fire -  披荆斩棘

นอกจากนี้ยังมีเว่ยเจ๋อหมิง (Wei Zheming) พระเอกซีรี่ย์จีนหน้าใสจากผลงานสุดฮิต เช่น Perfect And Casual ลุ้นรักคู่รักกำมะลอ (2020), Unforgettable Love รักนี้ไม่ลืมเลือน (2021) ฯลฯ, เคนนี่ ควาน (Kenny Kwan) นักร้อง นักแสดงฮ่องกง, จางหย่วน (Zhang Yuan), หูปิง (Hu Bing) นักแสดง นายแบบจีน, ลู่อี้ (Lu Yi) นักแสดงชายจีน, เจิ้งเจียอิ่ง (Zheng Jiaying) นักแสดง นักร้องฮ่องกงรุ่นใหญ่หรือเจ้าของบทองค์ชายแปดในซีรี่ย์จีน Scarlet Heart เจาะมิติพิชิตบัลลังก์ (2011) และอื่นๆ อีกเพียบ

Call Me by Fire -  披荆斩棘
Call Me by Fire -  披荆斩棘
Call Me by Fire -  披荆斩棘
Call Me by Fire -  披荆斩棘
  披荆斩棘

ปิดท้ายด้วย 3 หนุ่มฮอตรุ่นใหม่ที่นำทีมโดยหม่าป๋อเชียน (Ma Boqian/Victor Ma) แร็ปเปอร์จีนสุดหล่อที่อายุน้อยที่สุดของรายการ, ป๋อหย่วน (Bo Yuan) ไอดอลจีนอดีตสมาชิกวง INTO1 และที่ต้องพูดถึงเลยคือ เจฟ วรกมล ชาเตอร์ หรือ เจฟ ซาเตอร์ นักร้อง นักแสดงตัวแทนเด็กไทยที่ไปร่วมรายการในปีนี้ด้วย ซึ่งโชว์แรกก็ปังไม่ไหวแล้ว ใครไม่อยากรีบไปตามดู ตามเชียร์หนุ่มเจฟกันได้ที่ MangoTV นะคะ

Call Me by Fire - 披荆斩棘- เจฟ ซาเตอร์
披荆斩棘-   เจฟ ซาเตอร์
披荆斩棘- เจฟ ซาเตอร์

รูปจาก : 披荆斩棘

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

AION

AION รุกธุรกิจรถไฟฟ้าอาเซียนเต็มสูบจ่อเปิดตัว AION Y Plus

Alternative Textaccount_circle
event
AION
AION

AION ผนึกกำลัง 7 พันธมิตร รุกธุรกิจรถไฟฟ้าอาเซียนเต็มสูบจ่อเปิดตัว “AION Y Plus” ประเดิมรุ่นแรก 9 กันยายนนี้

บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Aion) จัดพิธีลงนามความร่วมมือ ณ ห้อง The Glass House บ้านปาร์คนายเลิศ เพื่อก่อตั้งความร่วมมือพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาวกับ 7 ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ชั้นนำจาก 4 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ Gold Integrate (ประเทศไทย), AIONIC (ประเทศไทย), V Group AI ( ประเทศไทย), Harmony Auto (ประเทศไทย), 99 เมียนมาร์ (เมียนมาร์), Harmony Auto (เวียดนาม), EV HUB PRE LTD (สิงคโปร์)

โดยแขกผู้เกียรติที่เข้าร่วมพิธีลงนามครั้งนี้ ได้แก่ นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรในอาเซียน โดยมีสื่อมวลชนไทยเข้าร่วมงานมากกว่า 100 ราย รวมจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 100 คน เพื่อเป็นสักขีพยานในช่วงเวลาสำคัญนี้

AION

AION แบรนด์รถไฟฟ้า Top3 เปิดเกมรุกเมืองไทยมุ่งสู่ตลาดใหญ่ในอาเซียน

พิธีลงนามระหว่าง AION กับตัวแทนจำหน่ายชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงการเปิดรอบพรีวิวสำหรับสื่อมวลชนให้ได้มาสัมผัสรถยนต์ไฟฟ้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้ ถือเป็นงานใหญ่ครั้งแรกของแบรนด์ AION ในประเทศไทย เพื่อการส่งเสริมแบรนด์อย่างเป็นทางการและการเปิดตัวกลยุทธ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่ตลาดอาเซียน โดยมีแผนเปิดตัวรุ่น AION Y Plus ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ประสิทธิภาพสูงรุ่นแรกของ Aion สู่ตลาดอาเซียน โดยประเดิมเปิดตัวที่ตลาดเมืองไทยเพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสเทคโนโลยีขั้นสูงระดับเอ็กซ์คลูซีฟเป็นกลุ่มแรก

นายโอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปริมาณการขายของ AION ติดอันดับ Top 3 ของโลกในกลุ่มตลาดที่เกี่ยวข้อง โดยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของกลยุทธ์การพัฒนาและเติบโตในต่างประเทศของแบรนด์ ซึ่ง AION ไม่เพียงเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการรุกตลาดระดับภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังมีแผนการสร้างสำนักงานใหญ่ของ AION ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เมืองไทยเป็นแห่งแรกอีกด้วย เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนการดำเนินงานหลักในตลาดนี้ และจะยังคงขยายฐานการดำเนินงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต ภารกิจของ Aion คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์พลังงานทางเลืออกใหม่ระดับไฮเอนด์ บนมาตรฐานระดับโลกสู่ผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ขับเคลื่อน ด้วยยานยนต์พลังงานใหม่อันชาญฉลาดแก่ผู้บริโภค”

AION

เปิดรอบพรีวิว AION Y Plus สินค้าดาวเด่น รีวิวล้นหลาม

งานนี้ AION ยังได้เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น AION Y Plus ที่พร้อมออกจำหน่ายในประเทศไทยเป็นรุ่นแรก ชูคุณภาพที่เหนือกว่าด้วยรูปลักษณ์ที่หรูหรา ห้องโดยสารขนาดใหญ่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และประสิทธิภาพการขับขี่ขั้นสูง ภายในงาน ผู้บริหารจาก AION รวมถึงตัวแทนจากอาเซียน พันธมิตร และสื่อมวลชนในประเทศไทยมากกว่า 100 ราย ได้ร่วมกันสัมผัสประสบการณ์ AION Y Plus โดยหลังจากที่เหล่าสื่อมวลชนได้มาสัมผัสรถจริง ต่างมีเสียงชื่นชม AION Y Plus อย่างล้นหลาม ทั้งในเรื่องรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและฟังชันก์การใช้งานหลากหลายที่น่าดึงดูดใจ ในขณะเดียวกัน ยังได้เปิดประสบการณ์ สัมผัสเสน่ห์ของแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าและการขับขี่อันชาญฉลาด โดยบริษัทฯ กำหนดแผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ในวันที่ 9 กันยายน 2566 เพื่อรุกตลาดรถยนต์พลังงาน ทางเลือกใหม่ของประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ

แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับไฮเอนด์สู่การเปลี่ยนแปลงและยกระดับตลาดอาเซียน

AION จะทำงานร่วมกับผู้จัดจำหน่ายชั้นนำในอาเซียน รวมถึงตลาดในประเทศไทยเพื่อสำรวจช่องทางและรูปแบบการบริการ โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อให้สามารถการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และแนวคิดการบริการที่ล้ำสมัยของ AION ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเข้าถึงผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงจากจีนซึ่งมีความเป็น “อัจฉริยะ” ที่แท้จริง และส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยและรวมถึงภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม

AION

การบูรณาการ “การวิจัย การผลิต การจัดจำหน่ายและการตลาด” หนุนแบรนด์พลังงานใหม่ ของจีนเป็นผู้นำระดับโลก

การวางผังตลาดในไทยถือเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งสำหรับ GAC AION ในการดำเนินกลยุทธ์รุกตลาดอาเซียน และเป็นมาตรการอีกประการหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายในระดับโลก โดยในอนาคต GAC AION จะยังคงขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ ต่อไป ผ่านการตั้งฐานการดำเนินงานในไทยอย่างมั่นคง และบูรณาการ “การวิจัย การผลิต การจัดจำหน่ายและการตลาด” สู่โลก พร้อมกับการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อช่วยให้แบรนด์พลังงานใหม่ของจีนก้าวเป็นผู้นำระดับโลก

อินิชิเอทีฟ

อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย จับมือ พาร์ทเนอร์ พัฒนาพื้นที่เกษตร

Alternative Textaccount_circle
event
อินิชิเอทีฟ
อินิชิเอทีฟ

อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย (Initiative Thailand) จับมือ ลูกค้า พาร์ทเนอร์ เข้าพัฒนาพื้นที่เกษตร โรงเรียนรวมราษฎร์สามัคคี เสริมแนวคิดความยั่งยืน ขับเคลื่อนสังคมและชุมชนให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างสร้างสรรค์ผ่านโครงการ “Initiative Blue Day: โครงการป้ายต่อความสุข” ปีที่สอง

อินิชิเอทีฟ

อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย (Initiative Thailand) นำโดย ดร.สร เกียรติคณารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ และ บีพีเอ็น ประเทศไทย จับมือพาร์ทเนอร์สำคัญ คือ Plan B Media และเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ จ.ปทุมธานี  พร้อมลูกค้าใจดีอีกมากมาย ได้แก่  ผลิตภัณฑ์คอนกรีตซีแพ็ค, ไส้กรอก BKP, อาหารสำเร็จรูปและซอสโรซ่า, น้ำผลไม้มาลี, เครื่องดื่มแมนซั่ม, กะทิอัมพวา, ป๊อปคอร์นและ ของเล่นจากเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป, สานต่อกิจกรรม CSI (Corporate Social Innovation) หรือ “Initiative Blue Day: โครงการป้ายต่อความสุข” ภายใต้ธีมปีนี้ “รวมราษฎร์ รวมรัก ปลูกผักให้น้อง” เพื่อช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ณ โรงเรียนรวมราษฎร์สามัคคี ย่านลำลูกกา ปทุมธานี โดยได้เข้าปรับปรุงพื้นที่เกษตรของโรงเรียน ส่งเสริมการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมสันทนาการ และเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่เด็กๆ จำนวนกว่า 500 คน สู่ความมั่นคงทางอาหารด้วยการมีวัตถุดิบสดคุณภาพสูง ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น ผักสด เห็ด เนื้อปลา เนื้อไก่ เพื่อนำมาประกอบอาหารกลางวันของโรงเรียน อีกทั้งเสริมองค์ความรู้ทางการเกษตรที่สามารถนำไปขยายผลต่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้อย่างยั่งยืนซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดเริ่มต้นของ Initiative Blue Day

อินิชิเอทีฟ

ปีนี้คือปีที่ของสองของโครงการ Initiative Blue Day เราได้จับมือ เพื่อนพนักงาน พาร์ทเนอร์ คู่ค้า และลูกค้าอีกครั้งในการวางรากฐานการพัฒนาชุมชนผ่านหลักการแบ่งปันองค์ความรู้ ปัจจัยความสำเร็จ แนวคิด และร่วมลงมือปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่สังคมมากที่สุด ตอกย้ำภาพลักษณ์ของเราในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญด้านสังคมและพร้อมที่จะผลักดันสภาพความเป็นอยู่ของชุมชนให้น่าอยู่และยั่งยืนพร้อมขับเคลื่อนเยาวชนผ่านองค์ความรู้ที่เรามี ทั้งหมดนี้คืออีกหนึ่งพันธกิจที่เรามุ่งมั่นนอกจากการเป็นมีเดียพาร์ตเนอร์ชั้นนำที่ไว้วางใจอย่างต่อเนื่องของลูกค้าในไทย และระดับโลก เสริมให้เราเป็นมีเดียเอเยนซี่หนึ่งเดียวที่นำองค์ความรู้ของเรา ความสามัคคีของทีมไปส่งต่อสิ่งดี ๆ พร้อม ๆ กับการทำงานเพื่อลูกค้าและสังคมที่เรารัก” ดร.สร กล่าว

อินิชิเอทีฟ
OPPO

OPPO ส่งเสริมอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับสังคม สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน

Alternative Textaccount_circle
event
OPPO
OPPO

OPPO ส่งเสริมอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับสังคม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนและโลกผ่านนวัตกรรมอันทรงคุณค่า

OPPO ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ตอกย้ำพันธกิจ “Technology for Mankind, Kindness for the World” ผ่าน OPPO Inspiration Challenge Regional Demo Event ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ตามด้วยรอบชิงชนะเลิศที่จะจัดขึ้นที่สิงคโปร์ในปลายปีนี้ ในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร OPPO ได้ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทั่วโลกสามารถแก้ไขปัญหาสังคมที่เร่งด่วนในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมนวัตกรรมที่ทรงคุณค่าไปด้วย 

โครงการ Inspiration Challenge เป็นรากฐานสำคัญของความพยายามในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) ของ OPPO โดยส่งเสริมความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างสิ่งที่ดียิ่งขึ้น ความท้าทายในปีนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์ 2 ประเภท ได้แก่ “Inspiration for the People” และ “Inspiration for the Planet” ซึ่งสอดคล้องกับ Brand Proposition อย่าง “Inspiration Ahead” และการอุทิศตนเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา OPPO ได้พัฒนาด้านความยั่งยืนขององค์กรมากมายจากความสำเร็จของ Inspiration Challenge ปี 2022 ซึ่งมีการนำข้อเสนอโครงการยอดนิยม 18 โครงการมาปรับใช้ โดย OPPO จะยังคงพยายามสานต่อแรงขับเคลื่อนนี้ต่อไป

แนวคิดที่สร้างความแตกต่าง

OPPO Inspiration Challenge ปี 2023 ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีข้อเสนอโครงการทางนวัตกรรมกว่า 687 รายการจาก 66 ประเทศทั่วเอเชียที่ส่งมาจากกลุ่มผู้มีความสามารถที่หลากหลายนี้ ทีมชั้นนำ 5 ทีมจากแต่ละภูมิภาค รวมทั้งหมด 15 ทีม จะเข้าร่วมค่าย Acceleration Camp โดยมีส่วนร่วมในการสนทนาเชิงลึกกับผู้บริหารของ OPPO และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค

OPPO
Flint’s biodegradable paper battery

หนึ่งในข้อเสนอโครงการที่น่าสนใจที่สุด ได้แก่ Flint Paper Battery ของสิงคโปร์ โดย Flint ซึ่งเป็นองค์กรที่นำโดยเยาวชนซึ่งร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำของสิงคโปร์เพื่อสร้างแบตเตอรี่กระดาษ คณะกรรมการที่ปรึกษาประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และนักนวัตกรรม ซึ่งคอยให้คำแนะนำที่จำเป็นในการพัฒนาแนวคิดนี้ แบตเตอรี่กระดาษที่พัฒนาโดย Flint นำเสนอโซลูชันการจัดเก็บพลังงานที่ยั่งยืนและปลอดภัยแก่อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยสามารถย่อยสลายได้ ใช้งานได้หลากหลาย และช่วยแก้ไขปัญหาที่สำคัญภายในอุตสาหกรรม

สิ่งที่ทำให้แบตเตอรี่กระดาษของ Flint แตกต่างจากโซลูชันในตลาดอื่นๆ คือความสามารถในการผลิตโดยใช้วิธีการเดียวกันกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบดั้งเดิม สิ่งนี้ทำให้ต้นทุนการผลิตที่ลดลง อัตราการใช้งานที่รวดเร็วขึ้น และโอกาสในการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น Flint ตั้งเป้าที่จะสร้างประโยชน์ให้กับทั้งโลกและมนุษยชาติ โดยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสู่โลกหมุนเวียนด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่กระดาษ

OPPO
Backyard Creators’ non-invasive hearing device, Impulse

ในขณะเดียวกัน Backyard Creators ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมที่มาจากอินเดีย ได้พัฒนา Impulse ซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมใส่ภายนอกที่ช่วยให้ผู้ที่สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิดสามารถได้ยินอีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าตัด เนื่องจากเครื่องช่วยฟังอาจมีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงได้ Backyard Creators จึงพยายามลดอุปสรรคในการเข้าถึงอุปกรณ์สำคัญที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับชีวิตของผู้คนกว่า 70 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะนี้ทั่วโลก ท้ายที่สุดแล้ว เราจะสามารถเห็นอนาคตที่ไม่มีเด็กคนใดหูหนวกเนื่องมาจากข้อจำกัดทางการเงินผ่านอุปกรณ์ช่วยฟังที่ราคาไม่แพงและไม่ต้องผ่าตัด

แม้ว่า Impulse จะประสบความสำเร็จในการสร้างแรงกระเพื่อมที่สำคัญต่อชีวิตของผู้ป่วยมากกว่า 50 รายที่สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการผลิตและความสามารถในการปรับขนาดที่สำคัญ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางในการช่วยเหลือบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือได้มากขึ้น ด้วยความตระหนักถึงความจำเป็นในการมีส่วนร่วมกับสตาร์ทอัพที่มีความคิดเหมือนกันมากขึ้น ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการขยายขนาดได้ เช่น ความคุ้มค่าและความพร้อมของทรัพยากร ผู้สร้าง Backyard Creators และผู้เข้ารอบสุดท้ายอย่าง Flint ได้หารือเกี่ยวกับแนวคิดในการขับเคลื่อน Impulse ด้วย Flint Paper Battery ที่ OPPO Inspiration Challenge Regional Demo ในกรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนนี้

OPPO
ERTIGO App Interface showing recommended exercises to address Office Syndrome

Benew Tech จากประเทศไทยยังได้แบ่งปันสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ใน ERTIGO ซึ่งเป็นโปรแกรมการบำบัดออนไลน์เพื่อป้องกันอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดเรื้อรัง ทั้งหมดนี้ทำได้ผ่านโซลูชันแอปพลิเคชันบนมือถือที่มีแอนิเมชั่นการดูแลตนเองเชิงโต้ตอบตามหลักสรีระศาสตร์ การตรวจสุขภาพกล้ามเนื้อและท่าทางโดยใช้ AI และการเล่นเกม ซึ่งเชื่อมต่อกับคลินิกกายภาพบำบัดสำหรับแผนการดูแลตนเองเฉพาะบุคคล ปัญหาหลักประการหนึ่งที่นำไปสู่การกำหนดแนวความคิดของ ERTIGO คือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า 80% ของพนักงานเผชิญกับภาวะออฟฟิศซินโดรมซึ่งมักจะนำไปสู่ประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำและปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง โดย ERTIGO ช่วยให้การรักษา การฟื้นฟู และการป้องกันเข้าถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับทุกคนรวมถึงผู้สูงอายุ เมื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของ OPPO Inspiration Challenge ปี 2023 แล้ว ERTIGO กำลังมองหาการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญของ OPPO ผู้มีประสบการณ์หลายปีในการวิจัยและพัฒนาอัลกอริธึมของแอปพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยให้ Benew Tech สามารถใช้ความรู้เพื่อพัฒนาแอปฯ ต่อไป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการมองเห็นโซลูชันทั่วโลก และลดความไม่เท่าเทียมกันด้านการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม

OPPO
Representatives from Flint, Backyard Creators and Benew Tech presenting at the OPPO Inspiration Challenge 2023

ในขณะที่ Flint, Backyard Creators และ Benew Tech มาจากหลายประเทศ ต่างก็จัดการกับปัญหาที่แตกต่างกันอย่างมากในเรื่องประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ค่าใช้จ่ายสูงในการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด และผู้ที่เจ็บป่วยอาการออฟฟิศซินโดรม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะจัดการกับปัญหาร่วมกับ OPPO มุ่งหน้าผ่านการใช้เทคโนโลยีช่วยพัฒนามนุษยชาติ OPPO ตั้งตารอที่จะมอบ ‘Inspiration Ahead’ ผ่านความท้าทายด้านแรงบันดาลใจนี้และในอนาคต โดยกระตุ้นให้เกิดผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนแก่คนรุ่นใหม่

ความมุ่งมั่นของ OPPO สู่ความยั่งยืน

OPPO Inspiration Challenge เป็นเพียงหนึ่งในโครงการริเริ่มมากมายที่นำโดย OPPO ที่ไม่เพียงแต่จะมีความยั่งยืนมากขึ้นในฐานะบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ผ่านนวัตกรรม เมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่งาน MWC 2023 OPPO ได้เผยแพร่รายงาน OPPO Climate Action Report: Climate Pledges and Low Carbon Development Strategy รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า OPPO ให้คำมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี 2593 ด้วยการสนับสนุนทางเทคนิคจาก Deloitte ที่ปรึกษาระดับโลก รายงานสรุปประเด็นสำคัญ 5 ประการที่ OPPO จะดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ได้แก่ การผลิตที่มีคาร์บอนต่ำ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การลงทุนทางเลือกที่สร้างคาร์บอนน้อยลง การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอน และความร่วมมือด้านมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 ความมุ่งมั่นของบริษัทต่อความยั่งยืนแสดงให้เห็นเพิ่มเติมผ่านรายงานความยั่งยืนประจำปี 2022 ซึ่งเผยแพร่ในวันสิ่งแวดล้อมโลกในวันที่ 5 มิถุนายนปีนี้ ตั้งแต่ปี 2020 OPPO ได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนในแต่ละปีเพื่อเปิดเผยแผนงานและความคืบหน้าเชิงปฏิบัติสู่เป้าหมายความยั่งยืนต่อสาธารณะ รายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าที่สำคัญของ OPPO ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของ OPPO ในการสร้างความยั่งยืนในฐานะพลเมืององค์กรระดับโลก ประเด็นสำคัญ 5 ประการของรายงานมุ่งเน้นไปที่การดำเนินงานและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การปกป้องสิ่งแวดล้อม การดูแลพนักงาน นวัตกรรมที่ทรงคุณค่า และการมีส่วนร่วมของระบบนิเวศ 

เมื่อปีที่แล้ว OPPO ได้เปิดตัว OPPO AndesBrain (Binhaiwan Bay) IDC ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่สร้างขึ้นเองแห่งแรกของแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลกที่ใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% โดยตั้งแต่ปี 2022 ศูนย์ข้อมูลได้ใช้พลังงานหมุนเวียน 6.176 กิกะวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซได้ 3,600 tCO2e นอกเหนือจากการใช้พลังงานทดแทน 100% แล้ว OPPO AndesBrain IDC ยังได้สำรวจและใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำที่ล้ำหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ดังนั้น OPPO AndesBrain IDC จึงเป็นตัวอย่างของความทุ่มเทของแบรนด์ในการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมทางธุรกิจ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และลงทุนระยะยาวในการรักษาโลก

นอกเหนือจากรายงานความยั่งยืนและศูนย์ข้อมูลแล้ว OPPO ยังมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนผ่านการบูรณาการทางดิจิทัลในทุกกลุ่มอายุ เนื่องจากปัจจุบันนี้ เด็กๆ มีพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ตโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การแนะนำวิธีการใช้สมาร์ตโฟนให้ถูกวิธีจึงเป็นเรื่องจำเป็น ดังนั้นในปีที่แล้ว OPPO จึงได้เปิดตัว ColorOS13 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Kids Space ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ใช้แอปเกมมากเกินไป และสำหรับผู้ใช้สูงอายุ โหมด Simple บนสมาร์ตโฟน OPPO ก็ยังช่วยมอบประสบการณ์ที่ใช้งานได้ง่ายด้วยไอคอนและแบบอักษรที่ใหญ่ขึ้น และเดสก์ท็อปที่เรียบง่าย 

เส้นทางสู่ความยั่งยืนย่อมต้องพบกับความท้าทาย แต่ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของ OPPO ที่มีต่อ “Technology for Mankind, Kindness for the World” จะช่วยขับเคลื่อนแนวปฏิบัติ CSR ในระยะยาว ด้วยการส่งเสริมนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ใช้ และสร้างประโยชน์ให้กับโลก โดย OPPO จะยังคงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อไป 

สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ OPPO และ Inspiration Challenge ได้ทาง https://www.oppo.com/en/proposal/  

MQDC

บินลัดฟ้าเปิดโลกการออกแบบ! MQDC พาทีมผู้ชนะศึกษาดูงานที่ ปีนัง

Alternative Textaccount_circle
event
MQDC
MQDC

บินลัดฟ้าเปิดโลกการออกแบบ! MQDC พาทีมผู้ชนะโครงการออกแบบสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “MQDC Design Competition 2023” ศึกษาดูงานการออกแบบพื้นที่สาธารณะและเที่ยวเทศกาลจอร์จทาวน์ที่ “ปีนัง”เก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจ-นำความรู้ใหม่ปรับใช้กับบริบทเมืองไทย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) ร่วมกับ สภาคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (CDAST) ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการออกแบบเมืองไทย ด้วยการจัดเวทีประกวดผลงานออกแบบพื้นที่สาธารณะ “MQDC Design Competition 2023” ในหัวข้อ “RE-imagining Thai Social Space: City Festival as Design Intervention” เพื่อเฟ้นหาสุดยอดผลงานออกแบบพื้นที่สาธารณะของเมืองและพื้นที่กึ่งสาธารณะสำหรับเมืองยุคใหม่ โดยโครงการในปีนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ด้วยจำนวนผู้สมัครมากที่สุดในประเทศไทยถึง 1,222 คน ร่วมชิงเงินรางวัลและทริปศึกษาดูงานต่างประเทศรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

MQDC

เวทีดังกล่าวถือเป็นการเปิดโอกาสครั้งสำคัญให้ทั้งนักศึกษาออกแบบและบุคคลทั่วไปได้ตีโจทย์การสร้างสรรค์สเปซที่จะมาปลุกเมืองให้คึกคัก พร้อมดึงอัตลักษณ์ของชุมชน โดยความท้าทายของโจทย์ คือการอิงสเกลจากพื้นที่จริงย่านสุขุมวิทใต้ กรุงเทพฯ และสถานที่สำคัญในจังหวัดอื่น ๆ และหลังจากคัดเลือกอย่างเข้มข้น ผลงานออกแบบที่คว้ารางวัลชนะเลิศได้แก่ ทีม A222 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับผลงาน “ลานละคร” และทีมบุคคลทั่วไป ได้แก่ ทีม B124 กับผลงาน “อ้อ-มา-กา-เสะ” ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนทีมละ 200,000 บาท พร้อมโอกาสพิเศษในการบินลัดฟ้าไปศึกษาดูงานออกแบบพื้นที่สาธารณะที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซียถึง 5 วันเต็ม ร่วมตะลุยชมเทศกาลและสถาปัตยกรรมอันงดงาม เพื่อเสาะหาแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ผลงานการออกแบบที่สามารถนำมาปรับใช้กับบริบทของสังคมไทยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ต่อไปในอนาคต

ทริปดูงานตลอด 4 คืน 5 วันที่เมืองแห่งมรดกโลกในครั้งนี้ ทั้งสองทีมนักศึกษาและบุคคลทั่วไปได้เยี่ยมชมศิลปะและการออกแบบหลากหลายแขนง เริ่มต้นทริปสุดพิเศษด้วยการพักที่จอร์จทาวน์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่เปี่ยมด้วยศิลปวัฒนธรรมสุดตระการตา ตลอดทั้ง 5 วัน ผู้ร่วมทริปได้เดินทางเยี่ยมชมแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง ไม่ว่าจะเป็น “หอนาฬิกาควีนวิกตอเรีย” พร้อมชมป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซียอย่าง “ป้อมคอร์นวอลลิส” ต่อด้วยการดื่มด่ำกับความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่ “ศาลาว่าการเมืองปีนัง (Penang Town Hall)” และ “City Hall Penang” ซึ่งเป็นสำนักงานของรัฐบาลท้องถิ่นปีนัง โดยอาคารเหล่านี้ตั้งอยู่ในพื้นที่แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบบริติชเอ็มไพร์ เนื่องจากสร้างขึ้นในช่วงที่อยู่ภายใต้อาณานิคมอังกฤษนั่นเอง

MQDC

เหล่าทีมผู้ชนะยังได้เปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นกับการชมวิวรอบเมืองปีนังบน “เรนโบว์สกายวอร์ก” สัมผัสทัศนียภาพแบบพาโนรามา นอกจากนี้ยังได้สัมผัสเสน่ห์ของท้องถิ่นด้วยการนั่งรถสามล้อ ดื่มด่ำกับความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์ที่หมู่บ้านชาวประมง พร้อมชมวัตถุโบราณที่ “คฤหาสน์เปอรานากัน” และ “บลูแมนชันหรือคฤหาสน์เฉิงฟัตเจ๋อ” ทั้งยังได้สนุกสนานกับเทศกาลจอร์จทาวน์ (George Town Festival) เต็มอิ่มกับการแสดงเชิงศิลปะ ตลอดจนพูดคุยกับประธานและผู้จัดงานเทศกาลจอร์จทาวน์ พร้อมปิดท้ายทริปด้วยการชม “ฮาบิแทต ปีนัง ฮิลล์” ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่เปี่ยมจิตวิญญาณและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชน ตลอดทั้ง 5 วัน เหล่านักออกแบบได้สร้างความทรงจำแสนประทับใจและเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจมากมายจากการเจาะลึกการออกแบบพื้นที่สาธารณะที่เปี่ยมสเน่ห์และมนต์ขลังในปีนัง ก่อนเดินทางกลับไทยอย่างสวัสดิภาพ

ตัวแทนผู้ชนะประเภทบุคคลทั่วไปจากทีม B124 นายศักดิธัช พิทักษ์กชกร กล่าวถึงการได้สัมผัสศิลปะและวัฒนธรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเมืองปีนังว่า “ดีใจมาก ๆ ที่ได้มีโอกาสมาเยือนเมืองมรดกโลกของยูเนสโกอย่างปีนัง ได้ซึมซับวัฒนธรรมและศิลปะท้องถิ่นที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพราะเป็นการผสมผสานของหลายเชื้อชาติ เราได้แรงบันดาลใจในการเบลนด์ความงามและอัตลักษณ์ของหลากหลายวัฒนธรรมในผลงานต่อ ๆ ไปของเรา”

MQDC

ด้าน นายชยพล สิทธิกรวรกุล ตัวแทนจากทีม A222 ผู้ชนะเลิศในประเภทนักศึกษาที่ได้มาร่วมทริปที่ปีนัง เล่าถึงความประทับใจและประสบการณ์ที่ได้รับจากการดูงานออกแบบในครั้งนี้ว่า “ทริปนี้ถือเป็นการเปิดโลกและสปาร์กไอเดียการออกแบบใหม่ ๆ ได้ดีมาก ๆ อย่างการได้เข้าร่วมเทศกาลจอร์จทาวน์ เราเห็นอย่างชัดเจนว่าเมืองดึงฟังก์ชันของพื้นที่สาธารณะมาปรับใช้กับการจัดเทศกาลอย่างไรเพื่อทำให้ชุมชนคึกคักและดึงการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน นอกจากนี้ ส่วนตัวเราชื่นชมการใช้สตรีทอาร์ตและกราฟฟิตี้มาเป็นกิมมิคของเมือง ชอบไอเดียของการใช้ศิลปะมากระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจท้องถิ่น อยากจะบอกต่องานประกวดดี ๆ อย่าง MQDC Design Competition เพราะเราเชื่อว่าการประกวดออกแบบ Public Space ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็นการพัฒนาสังคมเมืองของประเทศไทยได้จริง”

MQDC และพันธมิตร เตรียมต่อยอดจากความสำเร็จของเวทีประกวดในครั้งนี้ พร้อมเดินหน้าโครงการออกแบบเชิงสร้างสรรค์อีกหลากหลายโครงการในอนาคต เพื่อเปิดเวทีให้นักออกแบบรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมกับการพัฒนาชุมชนเมือง ปลุกเมืองให้คึกคักและนำรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ติดตามชมผลงานการออกแบบพื้นที่สร้างสรรค์ “City Festival” ที่ได้รับรางวัลทั้งหมดจากโครงการ พร้อมติดตามอัปเดตล่าสุดของโครงการประกวด ตลอดจนการประกาศรับสมัครในครั้งต่อไปได้ที่ Facebook: MQDC Design Competition 2023

Incomparable Beauty - 无与伦比的美丽- เฉินเสี่ยว - Chen Xiao - 陈晓- กู่ลี่นาจา - Gulinazha - 古力娜扎- นักแสดงซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีน - นักแสดงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ดาราจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

ซีรี่ย์จีน Incomparable Beauty เรื่องราวของอดีตคู่รักที่กลับมาเจอกันอีกเพื่อพิสูจน์รักแท้!

Alternative Textaccount_circle
event
Incomparable Beauty - 无与伦比的美丽- เฉินเสี่ยว - Chen Xiao - 陈晓- กู่ลี่นาจา - Gulinazha - 古力娜扎- นักแสดงซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีน - นักแสดงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ดาราจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
Incomparable Beauty - 无与伦比的美丽- เฉินเสี่ยว - Chen Xiao - 陈晓- กู่ลี่นาจา - Gulinazha - 古力娜扎- นักแสดงซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีน - นักแสดงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ดาราจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ ชวนดูซีรี่ย์จีน Incomparable Beauty อีกหนึ่งเรื่องราวความรักที่ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว จากคนรักกลายเป็นอดีตคู่รักที่ได้หวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง!

จัดเต็มยันท้ายเดือนจริงๆ ค่ะ สำหรับวงการซีรี่ย์จีนที่ในเดือนส.ค. 2023 เดือนเดียวส่งซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่ๆ ลงจอแล้วไม่ต่ำกว่า 7 เรื่องตลอดทั้งเดือน ไม่ว่าจะเป็นซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่น You Are Desire เธอคือฝันหวานละมุน, Sweet Games รักเธอล้นใจ 25 ชั่วโมง, ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก Love You Seven Times เจ็ดชาติภพ หนึ่งปรารถนา, The Legend of Zhuohua ขุนนางหญิงยอดเสน่หา, Wrong Carriage Right Groom ชุลมุนรักสลับเกี้ยว เป็นต้น ล่าสุด 28 ส.ค. นี้ ก็เตรียมมีอีกหนึ่งซีรี่ย์จีนลงจอด้วย นั่นคือ Incomparable Beauty

Incomparable Beauty - 无与伦比的美丽-  เฉินเสี่ยว  -  Chen Xiao  -  陈晓- กู่ลี่นาจา  - Gulinazha  -  古力娜扎

สำหรับซีรี่ย์จีนIncomparable Beautyเป็นซีรี่ย์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคนหนุ่มสาวหลายคนที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับชีวิตที่เกิดวิกฤตทั้งเรื่องการงาน ความรักในช่วงวัย 30 ปี โดยมีจุดเริ่มจากการมาโคจรเจอกันของสวี่เหย้า นักธุรกิจด้านอินเทอร์เน็ตที่ประสบความสำเร็จหน้าใหม่ และอดีตภรรยาของเขา อวี๋เจียเอิน ที่ต้องมาร่วมกันในโปรเจ็กต์ใหม่ ในการทำงานทั้งสวี่เหย้าและอวี๋เจียเอินช่วยเหลือกันและกันเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม จางชิง เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าของอวี๋เจียเอินกำลังเผชิญกับปัญหาการงานที่มาถึงจุดพลิกผัน และการกลัวแต่งงานและไม่ต้องการมีลูก ทำให้ความรักระหว่างจางชิงและคนรักของของเธอ ห่าวเฉินฉือ กำลังเข้าสู่ช่วงที่ต้องทดสอบความรักระหว่างพวกเขาว่าจะเดินหน้าต่อไปได้หรือจะต้องจบลงแค่นี้ ขณะเดียวกัน หลี่เนี่ยนฮวน ลูกพี่ลูกน้องของสวี่เหย้าและเพื่อนรักของอวี๋เจียเอินหลังจากต้องเผชิญกับเส้นทางชีวิตคู่ที่ล้มเหลว ก็เข้าสู่เส้นทางชีวิตที่ถูกพ่อแม่บงการไว้ให้ โดยเข้าสู่สังคมการทำงานใหม่ และได้พบรักกับหนุ่มรุ่นน้อง จ้าวอ๋าง ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มเธอกลายเป็นคนใหม่ที่มีชีวิตชีวาและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

Incomparable Beauty - 无与伦比的美丽- เฉินเสี่ยว - Chen Xiao - 陈晓- กู่ลี่นาจา - Gulinazha - 古力娜扎- นักแสดงซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีน - นักแสดงจีน - ซีรี่ย์จีนปี 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ดาราจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกครึ่งปีหลัง 2023 - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สำหรับซีรี่ย์จีนIncomparable Beautyได้นักแสดงจีนชื่อดังอย่างเฉินเสี่ยว (Chen Xiao) นักแสดงชายจีนวัย 36 ปี (เกิดเดือนก.ค. 1987) เจ้าของผลงานซีรี่ย์จีนสุดฮิต เช่น ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/ดราม่า Legend of Lu Zhen ตำนานลู่เจิน (2013), The Condor Heros มังกรหยก ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีย์ (2014), Nothing Gold Can Stay (2017), Above The Clouds ลิขิตรักเมืองมายา (2017), A Dream Of Splendor สามบุปผาลิขิตฝัน (2022), ซีรี่ย์จีนแนวตำรวจ/อาชญากรรม Being A Hero ฮีโร่ ล่าทรชน (2022) เป็นต้น มาประกบคู่กับกู่ลี่นาจา (Gulinazha) นักแสดงหญิงจีนวัย 31 ปี (เกิดเดือนพ.ค. 1992) ที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีน Fighter of the Destiny (2017), Weaving a Tale of Love (2021), Twelve Legends (2021), Dancing In The Storm (2021) เป็นต้น

无与伦比的美丽-  เฉินเสี่ยว  -  Chen Xiao  -  陈晓
กู่ลี่นาจา - Gulinazha - 古力娜扎

นอกจากเฉินเสี่ยวกับกู่ลี่นาจา ในเรื่องIncomparable Beautyยังมีอีก 4 นักแสดงจาก 2 คู่รองมาร่วมกันส่งต่อความเข้มข้นในแต่ละเส้นทางความรักด้วย โดยคู่รองคู่แรกได้หลิ่วเหยียน (Liu Yan) มารับบทจางชิง คู่กับจ้าวต๋า (Zhao Da) ที่มารับบทห่าวเฉินฉือ ส่วนอีกคู่ได้เฉินเสี่ยวอวิ๋น (Chen Xiaoyun) มารับบทหลี่เนี่ยนฮวน คู่กับเฉินซีจวิ้น (Chen Xijun) ที่มารับททเป็นจ้าวอ๋าง ซึ่งทั้ง 3 คู่ต่างก็มีเส้นเรื่องความรักที่ต้องเผชิญต่างกันออกไป สำหรับใครที่เป็นแฟนซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกแบบฉบับคนวัยทำงาน 30+ ห้ามพลาดซีรี่ย์จีนIncomparable Beautyนะคะ จะออนแอร์ 28 ส.ค. นี้แล้ว

 无与伦比的美丽-  เฉินเสี่ยว  -  Chen Xiao  -  陈晓- กู่ลี่นาจา  - Gulinazha  -  古力娜扎
Incomparable Beauty - 无与伦比的美丽-  เฉินเสี่ยว  -  Chen Xiao  -  陈晓- กู่ลี่นาจา  - Gulinazha  -  古力娜扎

รูปจาก : 电视剧无与伦比的美丽

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

Le Labo City Exclusive

เตรียมพบกับ Le Labo City Exclusive ตลอดเดือนกันยายนนี้ ที่สยามพารากอน

account_circle
event
Le Labo City Exclusive
Le Labo City Exclusive

ช่วงปีมานี้เทรนด์น้ำหอมมาแรงมาก และหนึ่งในแบรนด์ที่คนรักน้ำหอมสาย Niche ชื่นชอบก็คือ Le Labo ( เลอ ลาโบ ) น้ำหอมที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสแต่ไปเติบโตที่นิวยอร์ก นอกจาก Brand Story ที่น่าสนใจแล้ว ทางแบรนด์ยังมีไฮไลต์ที่ทุกคนต่างรอคอย สิ่งนั้นคืออะไร ตาม สุดสัปดาห์ มาทำความรู้จักกันค่ะ

Le Labo City Exclusive
คอลเล็คชั่น City Exclusive

รู้จัก Le Labo กับกลิ่นหอมแห่งจินตนาการ

Le Labo เป็นแบรนด์น้ำหอมที่กำเนิด ณ เมืองกราสส์ ฝรั่งเศส แต่ไปเติบโตที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (Was born in Le Grasse but raised in New York) โดยเปิดช็อปแรกในนิวยอร์คเมื่อปี 2006 กับคอนเซ็ปต์ร้านในแบบฉบับ Wabi-Sabi ที่โอบรับความงามในความไม่สมบูรณ์แบบ นำเสนอน้ำหอมแนว Slow perfumery ที่ปรุงกลิ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างละเมียดละไม มากกว่าการออกตามซีซั่น และให้ลูกค้าค่อยๆ ทำความรู้จักน้ำหอมก่อนตัดสินใจ

Le Labo
บรรยากาศเท่ๆ ของ เลอ ลาโบ สยามพารากอน

ให้ความสำคัญกับความเป็น Craftsmanship หรือความประณีตของงานมือ สามารถ Personalization ฉลากน้ำหอมของตัวเองได้ โดยทางร้านจะระบุวันที่และเมืองที่เราซื้อน้ำหอมขวดนั้นมา พร้อมพิมพ์ข้อความเฉพาะที่เราต้องการ

นอกจากนี้ยังเป็นน้ำหอมแบบ Genderless ที่ทุกกลิ่นสามารถใช้ได้ในทุกเพศตามความชอบ ไม่มีแบ่งกลิ่นสำหรับชายหญิง และเป็น Claimless ที่ไม่มีการเคลมสรรพคุณอะไรมากมาย เพื่อเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้ใช้จิตนาการกับกลิ่นของ Le Labo ได้อย่างอิสระ

สุดท้ายน้ำหอมแบรนด์นี้เป็นน้ำหอม Vegan ที่ได้รับ B Corp Certification ซึ่งเป็นเซอร์ฯ ระดับโลกด้วย

พบ Le Labo City Exclusive ตลอดเดือนกันยายน

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ปี 2023 นี้แบรนด์ Le Labo ได้เข้ามาเปิดบูทีคในเมืองไทยแล้วที่ชั้น 1 สยามพารากอน โดยมาพร้อมการตกแต่งในคอนเซ็ปต์ Wabi-Sabi สุดเท่ด้วยของ Second hand อิมพอร์ตจากต่างประเทศที่แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากคนรักน้ำหอมชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่ตามสะสมน้ำหอมแบรนด์นี้

Le Labo
ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ second hand สุดแนว

ข่าวดีสำหรับนักสะสมน้ำหอม! ในเดือนกันยายนนี้จะมีการวางขายน้ำหอมคอลเล็คชั่นพิเศษของแบรนด์ที่เรียกว่า City Exclusive ที่เป็นกลิ่นที่มีขายเฉพาะในเมืองนั้นๆ เท่านั้น เช่น เมืองโตเกียวจะมีกลิ่นพิเศษที่ชื่อว่า GAIAC 10 ซึ่งขายเฉพาะที่โตเกียวเท่านั้น แต่เฉพาะในเดือนกันยายนของทุกปีนอกจาก Classic Collection 17 กลิ่นแล้ว ทาง เลอ ลาโบ จะวางขาย City Exclusive 16 กลิ่นจากทั่วโลกในทุกช็อปและทางออนไลน์ด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะไปช้อปกลิ่นที่ชอบจากคอลฯ นี้โดยไม่ต้องบินไปถึงเมืองนั้นๆ

นอกจากนี้ ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน จะเป็นช่วงที่มีการวางขาย คอลเล็คชั่น City Exclusive ไซส์ตัวอย่างให้เราได้ทดลองสัมผัสกลิ่นต่างๆ จากทั่วโลก และ Le Labo Discovery Set ที่รวมทุกกลิ่นในไซส์ทดลองมาไว้ในเซ็ตเดียวกัน

Le Labo City Exclusive
Le Labo Discovery Set

City Exclusive ประกอบด้วย

Gaiac 10 (Tokyo) ให้กลิ่นหอมเข้มจากเนื้อไม้และโน้ตกลิ่นมัสก์ที่ต่างกัน 4 ระดับ เจือกลิ่นไม้ซีดาร์และกำยาน

Vanille 44 (Paris) กลิ่นหอมแอมเบอร์อ่อนๆ เจือกลิ่นกำยาน กลิ่นไม้ ที่แฝงความเซ็กซี่เหมือนที่เคยอยู่บนเสื้อสเว็ตเตอร์แคชเมียร์สุดพรีเมียม ก่อนจะเผยกลิ่นวานิลลาบูร์บงนุ่มนวลที่ซ่อนอยู่

Cedrat 37 (Berlin) ผสมผสานกลิ่น Cedrat และขิงที่ให้ความเปรี้ยวและสดชื่น เคลือบด้วยเบสแนวเย้ายวนอย่างไม้หอม มัสก์ และโน้ตจากอำพันทะเล (Ambergris) กลายเป็นกลิ่นที่สนุกสนาน ทนทาน และให้ความรู้สึกอิสระ

เลอ ลาโบ

Tabac 28 (Miami) กลิ่นนุ่มลึกของยาสูบผสานกลิ่นไมกฤษณาหอมหรูและไม้ซีดาร์หอมเด่น รวมทั้งไม้ Gaiac และเหล้ารัมโทนอบอุ่นที่ห่อหุ้มอยู่ในกลิ่นกระวาน เป็นการผสมกันของความรู้สึกเย้ายวน มอดไหม้ และปลุกเร้าในคราวเดียวกัน

Mousse De Chene 30 (Amsterdam) กลิ่นมอสและพิมเสนจับคู่กับบูสเตอร์สังเคราะห์กลิ่นหอมแหลมอย่างคริสตัลมอส Clearwood อบเชย Pimento Bay และพริกไทยสีชมพู เป็นกลิ่นที่เย้ายวน ชัดเจน และทรงพลัง

Citron 28 (Seoul) ท็อปโน้ตเป็นกลิ่นเลมอน ขิง มะลิ ตามด้วยกลิ่นไม้ซีดาร์และมัสก์ กลายเป็นสมดุลระหว่างความมีเอกลักษณ์และขนบของกลิ่นแบบดั้งเดิม

Musc 25 (Los Angeles) กลิ่นหอมชวนฝันของมัสก์หนักๆ เจือกลิ่นแนว Aldehydic ที่หอมเหมือนไม้และแป้ง ให้ความรู้สึกเจิดจ้าร้อนแรง ทว่าแอบแฝงความมืดมนของกลิ่นเย้ายวนของหญ้าแฝก อำพันทะเล มัสก์ และไขชะมด

เลอ ลาโบ

Tubereuse 40 (New York) กลิ่นทิวป์โรสที่เปิดด้วยกลิ่นมะกรูด ส้มเขียวหวาน และดอกส้ม ก่อนจะเผยกลิ่นกลางของแมกไม้และดอกไม้สีขาวนานาพรรณ ตามด้วยกลิ่นทิวป์โรส จากนั้นจึงเป็นไม้หอมอย่างซีดาร์และไม้จันทน์คลอเคลียไปกับโอ๊คมอส มัสก์ และ Ambrette กลายเป็นกลิ่นที่เข้มข้น บริสุทธิ์ และสุขสม

Bigarade 18 (Hong Kong) เป็นกลิ่นที่ผสานความขัดแย้งไว้อย่างลงตัว เพราะเป็นแนวคลาสสิคที่ไม่สุดด้วยการผสานความสดใสทรงพลังเอาไว้ กับกลิ่นของมะกรูด กลีบดอกเนโรลี ผสมกับมัสก์ แล้วหยอดด้วยกลิ่นไม้หอม กลายเป็นความดุดันที่เบาสบาย คลาสสิคแต่ร่วมสมัย บางเบาทว่าติดทน

Poivre 23 (London) กลิ่นพริกไทย Bourbon Pepper  ที่มาพร้อมความอบอุ่น เผ็ดร้อน และอบอวลในโทนของแอมเบอร์ ซึ่งเป็นโทนกลิ่นที่จะพบได้ในลอนดอนเกือบตลอดทั้งปี

Baie Rose 26 (Chicago) สื่อถึงท้วงทำนองแจ๊สด้วยกล่นแหลมฉุนของพริกไทยสีชมพู กานพลู ไม้ซีดาร์ และอัลดี้ไฮด์ ไล่ไปสู่กลิ่นหอมของกุหลาบจากเมืองกราสส์ ก่อนปิดท้ายด้วยกลิ่นมัสก์อันประณีตและเครื่องเทศ

Aldehyde 44 (Dallas) กลิ่นที่ให้ความรู้สึกสะอาดไม่เหมือนใครของ Aldehyde ผสมกลิ่นดอกไม้อย่างนาร์ซิซัส มะลิ และทิวป์โรส เบสโน้ตเป็นกลิ่นมัสก์และวานิลลาที่น่าหลงใหล

เลอ ลาโบ น้ำหอม

Limette 37 (San Francisco) เปิดด้วยกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่น โปร่งสบายของผิวมะกรูด ก่อนสัมผัสความอบอุ่นของมะลิ Petit Grain และกานพลู ที่ขมวดความนุ่มนวลของกลิ่นหญ้าแฝก ถั่วตองก้า และมัสก์เข้าด้วยกัน ให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น ผ่อนคลาย คล้ายยามท่องเที่ยวไปใต้แสงแดดของเมืองซานฟรานซิสโก

Cuir 28 (Dubai) กลิ่นเสื้อหนัง ไม้ และมัสก์ให้บุคลิกทรงพลัง ดุดัน ดิบเท่ แต่ชวนจดจำด้วยหัวน้ำหอมกลิ่นวานิลลาแท้ที่ผสานเจือปนไปกับกลิ่นหนังสัตว์และพื้นถนนที่ให้ความหอมนุ่มลึกสไตล์กลิ่นโทนแอมเบอร์ที่ดึงดูดใจในตอนท้าย

Benjoin 19 (Moscow) สะท้อนตัวตนของเมืองแห่งวรรณกรรมด้วยกลิ่นกำยาน ผสานกับแอมเบอร์ ไม้ซีดาร์ และมัสก์  ถ่ายทอดประสบการณ์ทรงพลัง ชวนลุ่มหลง ไม่ยอมจำนนต่อกฎเกณฑ์

Myrrhe 55 (Shanghai – กลิ่นใหม่) เป็นกลิ่นกำยานที่มีกลิ่นของชะเอมเทศเข้มข้นแฝงอยู่ ตามด้วยกลิ่นรองอย่างกลิ่นมะลิ พิมเสน ที่อยู่บนเบสของไม้หอม แอมเบอร์กริส และมัสก์

ใครสนใจไปทดลองกลิ่นใหม่ๆ กันได้ที่ เลอ ลาโบ บูทีค ชั้น 1 สยามพารากอน หรือ lelabofragrances.com

เลอ ลาโบ

Text & Image: Nicharee W.

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก เลอ ลาโบ

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village

Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

รีวิวทรีตเมนต์  Nano Shiso Therapy @ THANN Sanctuary Spa

กระเป๋าเป้สะพายหลัง

กระเป๋าเป้สะพายหลัง จากหนุ่มน้อย ชาร์ลี สปริง

Alternative Textaccount_circle
event
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
กระเป๋าเป้สะพายหลัง

ใช้เมื่อไรก็คูลเมื่อนั้น สำหรับเป้สะพายหลังแบบหนุ่ม ‘ชาร์ลี สปริง’ (Charlie Spring) จากซีรีส์ เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น (Heartstopper) จากทั้งสองซีซั่น กับแบรนด์ Fjallraven (ฟยัลราเว่น) หรือ กระเป๋าเป้สะพายหลัง Kanken (คองเก้น) แบรนด์สวีเดนยอดฮิต ที่ตอนนี้มีสีใหม่ รุ่นใหม่ อัปเดตแน่นมาก แบบหูจับหนังก็มา สายทอสีรุ้งสะท้อนแนว LGBTQ ก็มี มีแบบให้เลือกกันจุกๆกันไปเลย

กระเป๋าเป้สะพายหลัง
ซีรีส์อังกฤษเรื่อง Heartstopper นำแสดงโดย Kit Connor ในบทหนุ่มนักกีฬาอย่าง ‘นิค เนลสัน’ และ Joe Locke ในบทหนุ่ม ‘ชาร์ลี สปริง’
ซีรีส์ดีต่อใจจากช่อง Netflix เรื่อง Heartstopper นี้ ต่อยอดมาจากผลงานวาด-เขียนหนังสือชื่อเดียวกัน ของ Alice Oseman
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
Alice Oseman ผู้เขียนเรื่อง Heartstopper (คนซ้ายมือ) และ นักแสดงหนุ่ม Joe Locke ผู้รับบท ‘ชาร์ลี สปริง’ (คนขวามือ) ต่างสะพายกระเป๋าสะพายหลังแบรนด์ ฟยัลราเว่น (Fjallraven)
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
ตัวอย่างกระเป๋าแบรนด์สวีเดนนาม ฟยัลราเว่น (Fjallraven) หรือเรียกสั้นๆง่ายๆว่า กระเป๋าคองเก้น (Kanken) ในหลากหลากสีสัน และรูปทรง
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
Heartstopper Season 1-2
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
ฉากเปิดตัวหนุ่ม Charlie Spring พร้อมกระเป๋าเป้คองเก้น (Kanken) กระเป๋าเป้สะพายหลัง ใบเด่นในซีรีส์ Heartstopper ซีซั่น 1
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
จากฉากในซีรีส์ Heartstopper ซีซั่น 2 กระเป๋าเป้ Kanken ของหนุ่มชาร์ลี สปริง
ตัวอย่างกระเป๋าสะพายหลัง Kanken สไตล์ทูโทนสองเฉดสีในใบเดียวกัน
ตัวอย่าง กระเป๋าสะพายหลัง Kanken แบบสายจับและสายสะพายทอลายสีรุ้ง
Tree-Kanken คือรุ่นที่ สายรักษ์โลกต้องถูกใจ กับการเลือกใช้วัสดุทดแทนชีวภาพช่วยลดปัญหามลพิษ
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
รุ่นคลาสสิคของ กระเป๋า Fjallraven Kanken Classic
ตัวกระเป๋ามาในรูปทรงสี่เหลี่ยม กับโลโก้ทรงกลทที่มีรูป ‘Arctic Fox’ สีแดงภายใน
ใบนี้มาในลูกเล่นสายสะพายและหูจับสีสดตัดกับตัวกระเป๋าเป้
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
Fjallraven Kanken Rainbow มาในลูกเล่นสายสะพายและหูจับทอสีรุ้ง
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
ส่วนกระเป๋า Fjallraven Re-Kanken เป้รักษ์โลกรุ่นนี้ 95% ทำมาจากขวดน้ำพลาสติก (รีไซเคิลโพลีเอสเตอร์) โดยทางองค์กรฟยัลราเว่น ได้พัฒนาขั้นตอนกระบวนการผลิตและการย้อมผ้าใช้เทคโนโลยี SpinDye ขั้นสูง สามารถลดปริมาณของการใช้น้ำได้น้อยลงถึง 75% สารเคมีในการย้อมสีน้อยลง 67% และพลังงานน้อยลง 39%
มาในไอเดียคุมโทนสีล้วนสีเดียวเต็มๆใบ ไม่เว้นแม้แต่โลโก้ทรงกลมรูปสุนัขจิ้งจอกก็ยังปรับให้ดูสีกลมกลืนกับตัวกระเป๋า Fjallraven Re-Kanken Backpacks
Fjallraven Tree Kanken รุ่นนี้ ใช้วัสดุทดแทนชีวภาพ ใช้เนื้อผ้าที่จะช่วยลดปัญหามลพิษ ผ้าหลักและผ้าด้านในทำจากเส้นใยไม้สนสวีเดนแท้ (Swedish Pine Weave) ไม้ที่นำมาผลิตผ่านการรับรองขององค์กรจัดการป่าไม้ FSC ป่าสนและต้นสนในสวีเดน (มีการปลูกป่าทดแทนทุกครั้งที่นำต้นไม้มาใช้)
กระเป๋าสะพายหลัง Fjallraven Kanken Re-Wool
กระเป๋าสะพายหลัง Fjallraven Kanken Re-Wool ลายสก็อต
ใครชอบแบบยกระดับ แนะนำ กระเป๋า Fjallraven Kanken No.2 Classic Backpack ที่มีการใส่รายละเอียดวัสดุหนังลงบริเวณหูจับ โลโก้ทรงกลม และแถบริมก้นกระเป๋า
ตัวกระเป๋าหลักทำจากผ้าทอแน่นสุดทน G-1000 HeavyDuty กันน้ำ และความสกปรก รวมถึงความชื้นวัตกรรมผ้าที่โด่งดังของแบรนด์ Fjallraven ส่วนหูจับ โลโก้ คือวัสดุหนัง
แบบตกแต่งช่องกระเป๋าเยอะๆ กระเป๋า Fjallraven Samlaren Kanken Bag
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
Fjallraven Samlaren Kanken Bag
สไตล์สองสีในใบเดียวกัน Fjallraven Kanken Art Classic
กระเป๋าเป้สะพายหลัง
ใครชอบลายสนุกๆแนะนำ กระเป๋า Fjallraven Kanken Art Classic ใบนี้
Fjallraven Kanken Art Classic มักนำเวนอลวดลายพิเศษใหม่ๆเสมอ
กระเป๋าFjallraven Kanken Totepack คือสาวนผสมระหว่างกระเป๋าเป้สะพายหลังและกระเป๋าโท้ทสะพายไหล่
Fjallraven Kanken Totepack Bag

Text : Mmm

Photo : https://www.fjallraven.com/

www.fjallraven.co.th

IG FjallravenOfficial , IG aliceosemanart , IG joelocke03 , IG heartstoppertv

เรื่องราวที่น่าสนใจอื่นๆ

ไฟแต่งห้องซีรีส์ Heartstopper จาก 3 หนุ่ม ชาร์ลี-นิค-เทา

ไอเท็มลายปลาวาฬ ดีไซน์น่ารักได้ใจ ทนายสาวอูยองอู

รองเท้าส้นสูงมีดีไซน์ สไตล์ Seo Hee Soo ซีรี่ย์เกาหลี MINE !

รองเท้ามุนคังแท It’s okay to not be okay แบรนด์นี้รักเลย

Kim Dali Style รวมไอเท็มสร้างลุคลูกคุณ จาก Dali and Cocky Prince

แฟชั่นเสื้อเชิ้ตลาย สไตล์คุณชาย Dali and Cocky Prince

Slipper Loafers สไตล์สองหนุ่ม The Devil Judge

ไอเท็มลายหน้ายิ้ม สำหรับหนุ่มปราณ แค่เพื่อนครับเพื่อน

กระเป๋าไนลอนสะพายข้าง แบบ 2 หนุ่มYoun’s Stay

รองเท้าสนีกเกอร์สีสดใส ใส่วิ่งรอบ Youn’s Stay

เสื้อฮู้ดสีสด สไตล์โมโมจิ If You Kiss Me At That Time

แฟชั่นกระเป๋าไนลอน แบรนด์ดัง ดีไซน์ใหม่ สไตล์โดนๆ

ถุงขยะแชมเปี้ยน

ถุงขยะแชมเปี้ยน Champion Bags จัดกิจกรรม แชะ&โชว์ “หอมกลิ่น ก็ฟินได้”

Alternative Textaccount_circle
event
ถุงขยะแชมเปี้ยน
ถุงขยะแชมเปี้ยน

ถุงขยะแชมเปี้ยน Champion Bags จัดกิจกรรม แชะ&โชว์ “หอมกลิ่น ก็ฟินได้” โดยส่งรูปคู่ กับ รถไฟฟ้า BTS ขบวน ถุงขยะแชมเปี้ยน กลิ่นคาปูชิโน่

แชะ&โชว์ “หอมกลิ่น ก็ฟินได้” กติกาการร่วมกิจกรรม

  1. กด Like เพจ championbagsofficial พร้อมเปิด – ตั้งค่าโพสต์เป็นสาธารณะ
  2. ส่งรูปคู่ กับ รถไฟฟ้า BTS ขบวน ถุงขยะแชมเปี้ยน กลิ่นคาปูชิโน่ หอมกลิ่นก็ฟินได้ ผ่านคอมเมนท์บนโพสต์กิจกรรม พร้อมติดแฮชแท็ก #หอมกลิ่นก็ฟินได้ 200 ท่านแรก รับฟรี ถุงม้วนแชมเปี้ยน กลิ่นคาปูชิโน่ 2 ม้วน (ขนาด 18×20 นิ้ว,24×28 นิ้ว) มูลค่า 118 บาท
  3. ระยะเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วัน 21 สิงหาคม พ.ศ. 2566 – วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ.2566

เงื่อนไขกิจกรรม:

  1. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทำถูกต้องครบถ้วน ตามกติกาและเงื่อนไขเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์รับของรางวัลข้างต้น
  2. บริษัทขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้โชคดี 1 ท่าน ต่อ 1 รางวัลตลอดแคมเปญเท่านั้น
  3. บริษัทฯ จะติดต่อผู้โชคดีเพื่อส่งรางวัล หลังจากประกาศผล ในวันที่ 11 ตุลาคม 2566 ผ่านช่องทาง Facebook
  4. ของรางวัลไม่สามารถโอนสิทธิ์ แลก หรือเปลี่ยนเป็นเงินสด หรือของรางวัลอื่นได้
  5. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีสิทธิ์รับรางวัลจะต้องเป็นผู้ที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
  6. การตัดสินจากคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

กินรี เรสซิ่ง

กินรี เรสซิ่ง เดินหน้าประกาศศักดาระดับเวทีโลกต่อยอดความสำเร็จอีกครั้ง

Alternative Textaccount_circle
event
กินรี เรสซิ่ง
กินรี เรสซิ่ง

“กินรี เรสซิ่ง” เดินหน้าประกาศศักดาระดับเวทีโลกต่อยอดความสำเร็จอีกครั้ง ในการแข่งขัน “F1 In Schools World Finals ครั้งที่ 18”

เมื่อปีที่ผ่านมา ในการแข่งขัน The F1 in School ประเทศอังกฤษ ภายใต้ชื่อทีม “กินรี เรสซิ่ง” สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยการคว้ารางวัลสำคัญคือ “Sustainability Award” รางวัลการใช้พลังอย่างยั่งยืน  พร้อมอันดับการทำความเร็วที่เหนือชั้น

ร่วมส่งแรงใจเชียร์เยาวชนไทย “กินรี เรสซิ่ง” สร้างชื่อให้ประเทศไทยอีกครั้ง  ในการแข่งขัน “F1 in School World Final 2023” ณ ประเทศสิงคโปร์ ในระหว่างวันที่ 8-15 กันยายน 2566 ซึ่งมีทีมเข้าแข่งขันกว่า 68 ทีม จากตัวแทนทั่วโลก

การแข่งขันประลองความเร็วที่วัดกับที่ความรอบรู้ทางวิทยาการ

จุดเริ่มต้นของThe F1 in School ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติสำหรับเยาวชนอายุ 12-19 ปี โดยเป็นการรวมกลุ่ม 3-6 คนทำงานเป็นทีม เกิดขึ้นในชั้นเรียน ซึ่งเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ของนักเรียนเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบและสร้างสรรค์รถแข่งขนาดเล็ก F1 ที่เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สิ่งสำคัญหลักๆในการออกแบบและประดิษฐ์รถแข่ง F1 ก็คือการใช้ความรู้ในการคำนวณพลศาสตร์ของไหลหรือ CFD เพื่อจำลองแรงต้านของอากาศ โดยการแข่งขันมีการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1999 ซึ่งก็มีนักเรียนจากหลายประเทศทั่วโลกที่สร้างทีมขึ้นมาเพื่อเข้าแข่งขัน โดยในปี 2021 ทีมนักเรียนตัวแทนจากประเทศออสเตรเลียได้สร้างสถิติที่ดีที่สุดด้วยการนำรถแข่งที่ประดิษฐ์มาในการเข้าแข่งขันและคว้าอันดับที่ 1 ไปได้ด้วยความเร็ว 0.916 วินาที โดยทีมผู้ชนะเลิศได้รับทุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษด้วย

กินรี เรสซิ่ง เด็กไทยที่นำความเร็วก้าวไกลในระดับโลก

เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา กินรี เรสซิ่ง ซึ่งเป็นเยาวชนไทยในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ (Singapore International School of Bangkok : SISB) และโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี (Shrewsbury International School) ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทน 1 ใน 2 ของประเทศไทยในการเข้าร่วมการแข่งขันFormula 1 (F1) in Schools Challenge รอบ World Final ครั้งที่ 17  ร่วมกับทีมเยาวชนนานาชาติ 40 ทีมจาก 26 ประเทศในวันที่ 12 กรกฎาคม 2565  ณ เมืองซิลเวอร์สโตน นอร์แธมป์ตันเชอร์ ประเทศอังกฤษ โดยทางทีมได้โชว์ความสามารถในการพัฒนาการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAD) การผลิตโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAM) และการคำนวณพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ (CFD) เพื่อสร้างรถแข่ง F1 ขนาดเล็กให้มีความเร็วสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นอกจากนี้ทางทีมก็ยังได้พัฒนาเว็บและการเขียนโปรแกรม เพื่อใช้ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำไปใช้ในการสร้างแบรนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการโฆษณาทีมที่มีผลทางด้านการตลาด นอกจากนี้ทางทีม กินรี เรสซิ่ง ก็ยังหาทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างรถแข่ง F1 รวมถึงค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆที่จำเป็นสำหรับการเข้าแข่งขันอีกด้วย

ความคิดสร้างสรรค์สุดล้ำ ปัจจัยสำคัญในการสร้างความสำเร็จ

เมื่อปีที่แล้ว ทีม กินรี เรสซิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย จิรัชย์ พัวพงษ์พัน, โทนี่ แสงสุพรรณ,  วรินทร์ เพชรชำลิ, ปัทเมณี จินะดิษฐ์ และ รวิพัชร์ รอดโพธิ์ทอง สร้างความฮือฮาด้วยการคว้ารางวัลสำคัญคือ Sustainability Award รางวัลการใช้พลังอย่างยั่งยืนจากการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลจากธรรมชาติในกระบวนการผลิต เนื่องจากมองว่าประเทศไทยมีปัญหาสิ่งแวดล้อมและการผลิตรถแข่งขนาดเล็กก็เป็นการแสดงจุดยืนและความมุ่งมั่นเชิงสัญลักษณ์ในการแก้ไขปัญหามลภาวะ โดยทางทีมกินรีใช้วิธีรีไซเคิลขวดเพื่อเป็นวัสดุหลักในการขึ้นแบบ 3 มิติและใช้ในการพิมพ์ชิ้นส่วนสำหรับรถ ส่วนสิ่งที่ถือเป็นที่สุดของความคิดสร้างสรรค์และทำให้ทีมกินรีได้รับคำชมอย่างมากก็คือการนำคาร์บอนจากท่อไอเสียรถยนต์มาผสมกับ bio-resin เพื่อผลิตชิ้นส่วนที่ช่วยลดน้ำหนักของรถและเป็นการลดลภาวะไปในตัว

กินรี เรสซิ่ง

ผลการแข่งขันจากการผลิตรถ F1 ขนาดเล็กที่โดดเด่นเกินวัยนี้ทำให้ทีม กินรี เรสซิ่ง รั้งอันดับที่ 3 ในหมวดเวลารวมของการแข่งรถและอยู่ในลำดับที่ 9 ในการเข้ารอบคัดเลือกและได้รับเข้ารอบน็อคเอาท์ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศคะแนนรวมคือทีมไฮดรอน (Hydron) จากประเทศออสเตรเลีย ส่วนในปีนี้การแข่งขันF1 In Schools World Finals ครั้งที่ 18 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 ถึง 12 กันยายนที่จะถึงนี้ โดยสถานที่ที่ใช้ในการแข่งขันคือ Resorts World Sentosa สถานที่ท่องเที่ยวและที่พักตากอากาศชื่อดังของประเทศสิงคโปร์ โดยในปีนี้มีทีมนักเรียนเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันหลายทีม ซึ่ง กินรี เรสซิ่ง ได้เป้าเอาไว้ว่าจะคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองให้ได้

กินรี เรสซิ่ง

การวางแผน ยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในการแข่งขัน

จิรัชย์ พัวพงษ์พันธ์ (จิจิ) ที่รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมและออกแบบรถเผยว่า “ผมเป็นคนางแผนการทำงานให้กับทีม, แบ่งงาน และคอยติดตามงานจากสมาชิกภายในทีม” สิ่งที่ จิรัชย์ มองว่าสำคัญมากก็คือการช่วยดังคนอื่นที่มีเวลาเข้ามาช่วยงานในกรณ๊ที่สมขิกคนอื่นติดขัดทำงานไม่ทัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำของเขาได้เป็นอย่างดี “สำหรับงานออกแบบผมใช้โปรแกรมออกแบบสามมิติชื่อ fusion 360 ช่วงการออกแบบ ผมจะทำการค้นคว้างานออกแบบด้านอากาศพลศาสตร์ เพื่อนำมาใช้กับการออกแบบรถ หลังจากนั้นก็จะนำงานออกแบบรถไปทดสอบอากาศพลศาสตร์ หลังจากออกแบบซึ่งก็ต้องมีการปรับปรุงหลายครั้งจนเป็นที่พอใจแล้วก็จะส่งงานให้กับฝ่ายผลิตเพื่อไปผลิตรถจริงต่อไป” สิ่งที่ จิรัชย์ ได้รับจากการแข่งขันนอกจากการนำทักษะและความรู้จากการศึกษาไปต่อยอดแล้วก็ยังอยู่ที่การทำงานเป็นทีมด้วย “การได้เห็นความคิดสร้างสรรค์และพรสวรรค์จากทีมเยาวชนจากต่างประเทศก็ทำให้เราอยากพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นด้วย” เขากล่าวเสริม

กินรี เรสซิ่ง

จิรัชย์ แสดงความเห็นว่าในปีที่ผ่านมาทางทีมได้พัฒนาไปมาก โดยเริ่มจากการเรียนรู้ในการแบ่งงานให้ทีมมีความสมดุลที่ดีไม่ต่างจากการผลิตรถที่ความเหมาะสมลงตัวในทุกระบบคือสิ่งสำคัญที่สุดและการได้สมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาก็ทำให้งานออกแบบดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย โดยในปีนี้ทางทีม กินรี เรสซิ่ง ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะชนดะรางวัล Sustainability Awards อีกครั้ง รวมถึงรางวัล Fastest Car และติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกด้วย

กินรี เรสซิ่ง

โทนี่ แสงสุพรรณ รับหน้าที่เป็น ดีไซน์ เอนจิเนียร์ หรือผู้ออกแบบทางด้านวิศวกรรม ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญต่อทีมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเขามีหน้าที่ในการพัฒนาและออกแบบรถเพื่อนำไปผลิตให้ออกมาในสภาพที่สมบูรณ์แบบพร้อมลงแข่งมากที่สุด โดย โทนี่ เผยว่าเวทีนี้เป็นการแข่งขันระดับโลก ซึ่งสิ่งที่ทำให้ โทนี่ ได้เรียนรู้นอกเหนือไปจากงานออกแบบและพัฒนารถก็คือการได้เรียนรู้วัฒนธรรมของผู้เข้าแข่งขันทีมอื่น ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน ส่วนการแบ่งงานก็ถือว่าสำคัญมากเพราะการทำงานเป็นทีมจะช่วยในเรื่องพัฒนาการด้านการสื่อสารของตัวเองกับหัวหน้าทีมและสมาชิกในทีม เพื่อให้มีระเบียบวินัยในการทำงานและส่งงาน การทำงานในลักษณะนี้ทำให้ โทนี่ ที่พูดไม่ค่อยเก่งพูดเก่งขึ้น ซึ่งถือเป็นผลพลอยได้ที่ดีมากๆจากการทำงานเป็นทีม

กินรี เรสซิ่ง

วรินทร เพชรชำลิ (ภัทร) รับหน้าที่ประกอบชิ้นส่วนรถ F1 ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญและท้าทายความสามารถเป็นอย่างมาก “ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาผมได้นำทักษะที่ผมได้เรียนรู้มาจากปีก่อนมาพัฒนาและต่อยอดในสิ่งที่ผมสนใจและผลิตรถอีกคันในปีนี้ ผมได้พัฒนาทักษะหลายๆด้านยกตัวอย่างเช่นทักษะในเรื่องการมีทีมเวิร์ครายการเข้าหาสังคมแถมยังได้พัฒนาทักษะทางวิศวะกรรมต่างๆอย่างเช่นการใช้เครื่องมือช่างต่างๆที่ทำให้รถมันออกมามีคุณภาพมากที่สุดครับ ผมยังได้เรียนรู้ว่าวัสดุต่างๆ ที่ถูกนำมาผลิตรถแต่ละแบบ มีกรรมวิธีเเละขั้นตอนอย่างไรบ้าง” นี่คือพัฒนาการทางเชิงช่างที่ ภัทร ได้พัฒนาความสามารถของตัวเองจากการเรียนรู้ระบบการทำงานและการแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว

กินรี เรสซิ่ง

สมาชิกใหม่กับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ

โจเซฟ (Jiaen Yang) เป็นสมาชิกใหม่ที่เข้ามารับผิดชอบในตำแหน่งออกแบบกราฟฟิก โดย โจเซฟ เข้ามาอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่อายุ 12 ปีจนในตอนนี้เขาอาศัยอยู่ในไทยมานาน 5 ปีแล้ว โดยเจ้าตัวมองว่าไทยเป็นประเทศที่ยังมีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพทางด้านต่างๆได้อีกมากในเวทีโลกและการเป็นตัวแทนเยาวชนไทยของเขาก็จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพนั้นให้ปรากฎสู่สายตาชาวโลกได้ “ผมมีหน้าที่ในการออกแบบกราฟฟิกเพื่อให้ข้อมูลของทีมถูกนำเสนอออกมาได้ง่ายต่อการสื่อสารมากที่สุด นอกจากนี้ผมก็ยังรับหน้าที่ในส่วนของงาน pit boot ซึ่งจะตั้งอยู่ในงานแข่งขันที่ประเทศสิงคโปร์ด้วย” โจเซฟ เผย โดยเป้าหมายของเขาในตอนนี้ก็คือการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งเป็นความสุขของ โจเซฟ มากที่สุดแล้วไม่ว่าผลของการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม

จิรนุช ชัยพัฒน์ธนกิจ (จิ๊บ) เป็นสมาชิกคนใหม่ของทีม กินรี เรสซิ่ง เช่นกัน โดยหน้าที่ของ จิ๊บ ก็คือผู้จัดการฝ่ายการตลาดและฝ่าย โซเชียล มีเดีย ซึ่งถือเป็นสื่อที่จำเป็นอย่างมากในการประชาสัมพันธ์และโปรโมทผลงานรวมถึงศักยภาพของทีม “หน้าที่สำคัญของหนูก็คือการติดต่อหาสปอนเซอร์และพาร์ทเนอร์ตามบริษัทต่างๆ ส่วนการดูแลช่องทางในการพีอาร์ผ่านสื่อต่างๆก็ทำให้ผู้คนรู้จักทีมกินรีมากขึ้น” จิ๊บ พูดถึงหน้าที่ภายในทีมของเธอ โดย จิ๊บ เชื่อว่าในปีนี้ทีมจะสร้างผลงานได้ดีมากกว่าปีที่แล้ว เพราะเธอเห็นถึงความมุ่งมั่นของเพื่อนร่วมทีมที่จะคว้าชัยชนะ นอกจากนี้ทางทีมก็หวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทยที่สวยงามกับชาวต่างชาติที่มาร่วมงานด้วย โดยการเรียนรู้งานก่อนเข้าทีมเพียงสองเดือน ซึ่งถือว่าสั้นมากๆทำให้ จิ๊บ เติบโตในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็นทีม, การรับผิดชอบต่องานของตัวเองและการแบกรับความกดดันจากการบริหารเวลาในการทำงานที่จำกัด

กินรี เรสซิ่ง

ตำแหน่งในทีมกินรีของ นันท์นภัส บัตรสมบูรณ์ หรือ มิ้น คือผู้จัดการด้านการเงินและการตลาด นอกจากนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการเปรียบเทียบและติดต่อร้านค้าเพื่อหาสินค้าคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับการผลิตของช่ำร่วย อีกทั้งยังดูแลการใช้จ่ายของทีมเพื่อให้อยู่ในงบประมาณด้วย โดย มิ้น เผยว่าก่อนเข้าทีมทาง จิจิ หัวหน้าทีมได้ทำการสัมภาษณ์เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเธอเพื่อที่จะละลายพฤติกรรมและสร้างความเป็นกันเอง “โครงงานนี้เป็นโครงงานที่ใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี หนูและทุกคนในทีมทุ่มเทเป็นอย่างมาก ก็คาดหวังว่าจะได้รางวัล Sponsorship & Marketing Award หรือไม่ก็ใดรางวัลหนึ่งจากการแข่งขันครั้งนี้ นอกจากนี้ก็ยังหวังว่าจะได้เปิดโอกาสสู่โลกกว้าง ได้ประสบการ์ณดีๆ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และ ได้เจอเพื่อนๆจากหลายประเทศอีกด้วย” มิ้น แสดงความเห็น

นอกจากการเรียนรู้ในวิชาเฉพาะทางอย่าง วิศวกรรมศาสตร์ และ ฟิสิกส์ ที่นำมาประยุกต์เพื่อสร้างรถ F1 ให้มีศักยภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว มิ้นก็ยังมีความเห็นคล้ายเพื่อนร่วมทีมที่ว่าการติดต่อสื่อสารและการทำการตลาดเพื่อหาทุนมาสานฝันด้วยตัวเองถือเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจและสามารถนำไปใช้เป็นทักษะไปใช้ประโยชน์ในอนาคตได้ด้วย

เป้าหมายที่มากกว่าการเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ของทีม กินรี เรสซิ่ง

แน่นอนว่าในทุกการแข่งขัน เป้าหมายที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนฝันอยากจะได้สัมผัสก็คือการคว้าอันดับ 1 มาครองให้ได้ แต่สิ่งนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะการได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง, การนำความรู้ทางวิทยาการด้านต่างๆที่ได้จากในห้องเรียนและนอกห้องเรียนไปจนถึงการเอาชนะใจตัวเองให้ได้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญกว่ามาก ทั้งหมดนี้คือการเรียนรู้ที่จะเติบโตทางด้านจิตใจและการรู้แพ้รู้ชนะ แต่ถึงจะอย่างไรก็ตามทางทีมกนรีก็มีจุดมุ่งหมายร่วมกันก็คือการที่จะคว้ารางวัล คือ Sustainability Award มาครองให้ได้อีกครั้ง, การได้ติด 10 อันดับแรกของรถที่วิ่งเร็วที่สุด รวมถึงการคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศรอบ Knock Out

ดูจากความมุ่งมั่นและความตั้งใจแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าความฝันและเป้าหมายที่ทางทีม กินรี เรสซิ่ง ได้วางเอาไว้อยู่ไม่ไกลจากความเป็นจริงเลย https://www.facebook.com/Kinnareeracing2023

The Village x Kloset

The Dreamer Set by The Village x Kloset

account_circle
event
The Village x Kloset
The Village x Kloset

พบ The Dreamer Set by The Village x Kloset ยลโฉมผลงานคอลแลบที่ Unpack ทุกความฝัน เมื่อตัวแม่วงการแฟชั่น x แบรนด์อสังหาฯ อารียา พรอพเพอร์ตี้ ครีเอตดรีมเซตสุดเก๋เป็นครั้งแรก!

ช่วงหลังๆ มานี้ ถ้าเอ่ยชื่อ “อารียา พรอพเพอร์ตี้” ก็ชวนให้นึกถึงแคมเปญมาร์เก็ตติ้งสุดครีเอทีฟและหลากหลายโครงการบ้านที่มีความยูนีคขั้นสุด ทุกโครงการสามารถเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี จากการที่
อารียาฯ มุ่งมั่นในการเป็น “Lifestyle Property Developer” พร้อมเดินหน้าเป็นผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่
มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้คนอย่างเต็มตัว

อารียา พรอพเพอร์ตี้

ล่าสุดขอมาสร้างปรากฎการณ์สุดเซอร์ไพรส์ทั้งวงการแฟชั่น และอสังหาฯ ด้วยการควงแขนแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ชื่อดังอย่าง “Kloset” เพื่อร่วมครีเอตเอ็กซ์คลูซีฟคอลเล็คชัน เพื่ออินสไปร์ให้ผู้อยู่อาศัยให้ลุกขึ้นมาทำตามฝันได้อย่างเต็มที่ กับโครงการ The Village by Areeya Property พร้อมผลงานคอลแลบในชื่อ “The Dreamer Set”

การที่สองแบรนด์มาจับมือกันเนรมิตคอลเล็คชัน “The Dreamer Set by The Village x Kloset” เกิดจาก
คาแรกเตอร์และไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ที่เป็นแฟน ๆ ของ Kloset กับคนที่อยู่บ้านของ The Village นั้นมีความคล้ายกันมาก ทั้งสองกลุ่มเป็นคนที่เปี่ยมด้วยแพชชั่น ทั้งยังมี Hobbies ที่หลากหลาย โปรเจ็กต์นี้ จึงมาพร้อมไอเท็มเอ็กซ์คลูซีฟที่เตรียมซัพพอร์ตทุกความฝันของทุกคนให้กลายเป็นจริง เพื่อใช้ชีวิตภายใต้คอนเซปต์ ‘Live Your Dream Life’ โดยกิมมิคแสนเก๋จะอยู่ที่แต่ละเซตถูกแพ็กอยู่ในกระเป๋าใบสวยลวดลายสุดพิเศษที่ Kloset ครีเอตขึ้นเฉพาะสำหรับงานคอลแลบนี้เท่านั้น เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้ที่จะได้ครอบครองบ้าน The Village นั่นเอง ตัวกระเป๋าและลายปรินต์ได้แรงบันดาลใจจากบ้าน The Village ในสไตล์ American Cottage แสนอบอุ่น เพียบพร้อมด้วยพื้นที่ซึ่งแบ่งสัดส่วนอย่างลงตัวสามารถซัพพอร์ตทุกกิจกรรม ที่พร้อมจะปลุกพลังของเหล่าดรีมเมอร์ผู้เปี่ยมพลังและความฝัน

อารียา พรอพเพอร์ตี้

การอินสไปร์ให้ผู้ที่อยู่อาศัยลุกขึ้นมาทำตามความฝันหรือ ‘Live Your Dream Life’ ทำให้แบรนด์ได้ออกแบบกระเป๋า 3 ใบ เป็นตัวแทนของ 3 ความฝันที่ถูกเก็บซ่อนไว้ โดยไอเท็มทั้ง 3 มีความสวย หวาน และตอบโจทย์การใช้งานจริง ลวดลายที่ออกแบบขึ้นใหม่เก็บดีเทลของไลฟ์สไตล์สาวยุคใหม่ไว้อย่างครบถ้วน เมื่อเหล่าดรีมเมอร์ได้รับ The Dreamer Set ไป ก็จะเปรียบเสมือนได้ Unpack ความฝันที่เคยพับเก็บไว้ และกลับมาสานฝันให้เป็นความจริงด้วยกระเป๋าใบนี้นั่นเอง

ผลงานเอ็กซ์คลูซีฟในครั้งนี้นับเป็นการสร้าง Brand Experience ที่จับต้องได้ที่ต่อยอดจากแคมเปญ ‘Unpack Your Dream’ ได้อย่างสนุกสนานและน่าสนใจ ภายในกระเป๋า 3 ใบมีไอเท็มสุดพรีเมียมลวดลายที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อแคมเปญนี้โดยเฉพาะ ได้แก่

• The Gardener: ชวนคนชอบทำสว – จัดดอกไม้มา Unpack กระเป๋า Tote ใบเก๋ที่บรรจุอุปกรณ์ทำสวนสุด
พรีเมียม พร้อมด้วยผ้ากันเปื้อนสีเขียวเข้าชุดกัน พร้อมสร้างพื้นที่สีเขียวทั้งในและนอกบ้าน

• The Baker: ให้สายทำขนมได้ฟินกับกระเป๋าเก็บอุณหภูมิลายลิมิเต็ดที่เปิดแล้วหอมกลิ่นขนมอบอวลไปทั่วบ้าน ด้วยจานอบขนม ผ้ากันเปื้อน และผ้าโพกผม มาในพาเลตสีโอลด์โรสสวยเก๋สไตล์สาว Kloset

The Village x Kloset

• The Painter: สายอาร์ตต้องถูกใจกับกระเป๋าไม้ใบใหญ่ที่เปิดออกมาเป็นอุปกรณ์สีครบเซต พร้อมด้วยจานสี และสมุดสเก็ตช์ภาพ ชวนให้หยิบพู่กันมาเปิดสตูดิโอส่วนตัวภายในบ้าน

The Village x Kloset

อารียา พรอพเพอร์ตี้ ขอชวนสาวก Kloset และสายแฟชั่นมา Unpack Your Dream เปิดกระเป๋าความฝันกันที่โครงการ The Village บ้านสไตล์ American Cottage ที่เปี่ยมด้วยพื้นที่ใช้สอยและมีห้องนอนถึง 4 ห้องนอน มากพอที่จะแบ่งสัดส่วนเป็นห้องที่รองรับทุกกิจกรรมหรือ Hobbies ที่ชอบ

นอกจากนี้ บางโลเคชันยังมีพื้นที่รอบบ้านสูงสุด 360 องศา พร้อมปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเป็น Gallery หรือ Workshop เล็ก ๆ ได้ ซึ่งพื้นที่สุดพิเศษนี้เรียกว่า Dream Space และ Dream Corner กับ 5 โครงการ* ได้แก่ The Village ชัยพฤกษ์-วงแหวน, The Village บางนา-วงแหวนฯ 4, The Village วงแหวนฯ-ลำลูกกา, The Village แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ และ The Village รามอินทรา-หทัยราษฎร์ ราคาเริ่ม เพียง 2.99 – 4.69 ล้านบาท* ดูรายละเอียดหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.areeya.co.th LINE: @Areeyahome โทร 1797 (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

The Village x Kloset
ติดตามอ่านบทความด้านความงามและไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

พูดคุยถึงคุณภาพชีวิตที่ดี&นวัตกรรมล้ำๆ กับ Gareth Pope ผู้บริหาร lululemon

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์ THREE

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor Beauty

VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER

CELEBRATING CHANTECAILLE 25 YEAR

เฮยยิน

ร้านอาหารจีน เฮยยิน เปิดโซนใหม่ พร้อมแนะนำชุด Dim Sum Afternoon Tea

Alternative Textaccount_circle
event
เฮยยิน
เฮยยิน

ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ขยายร้านเปิดโซนใหม่ พร้อมแนะนำชุด “Dim Sum Afternoon Tea” สุดพรีเมียมในราคาเริ่มต้น 588++ – 1,088++ บาท

ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ต่อยอดความสำเร็จในการให้บริการความอร่อย ด้วยการขยายพื้นที่ร้านโดยเปิดโซนใหม่บริเวณด้านหน้า เพิ่มเติมที่นั่งเพื่อความสะดวกสบายแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และขยายเวลาการให้บริการติ่มซำ พร้อมเปิดตัว “Dim Sum Afternoon Tea” เมนูติ่มซำสไตล์กวางตุ้งที่รังสรรค์จากวัตถุดิบชั้นเลิศโดยฝีมือเชฟแจ็คกี้ ชาน เชฟชาวฮ่องกงที่มากด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี รับประทานคู่กับน้ำชาสุดพรีเมียมที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ในราคาชุดละ 588++ บาท สำหรับ 1 ท่าน และ 1,088++ บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เปิดประสบการณ์สุดพิเศษกับเมนูติ่มซำและชุดน้ำชายามบ่ายที่ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ในช่วงเวลา 15.00 – 17.00 น. กับ “Dim Sum Afternoon Tea” ที่คัดสรรชาคุณภาพดี (เลือกได้ 1 รายการ) ได้แก่ ชาหลงจิ่ง ชาผู้เอ๋อร์สุกอายุ 10 ปี ชาอู่หลงหอมหมื่นลี้ ชาอู๋อี่เหยียนฉา ชาอู่หลงกุหลาบ ชาทิกวนอิม ชามะลิไข่มุก เก๊กฮวยขาวดอกตูมหังโจว ชาดอกไม้ ชาเขียวข้าวคั่ว ชาสุ่ยเซียน และชาอู่หลงคั่ว พร้อมด้วยติ่มซำซิกเนเจอร์สุดพรีเมียมที่สีสันหน้าตาน่ารับประทานและรสชาติอร่อย โดยมี 3 เซตให้เลือก แต่ละเซตประกอบด้วยติ่มซำ 8 ชิ้น พร้อมเครื่องดื่มชาร้อน 1 รายการ/ ท่าน

เฮยยิน
  • เซต A “Pleasing” ประกอบด้วย ขนมอบเซี่ยงจาหมูแดงคุโรบูตะ เผือกทอดทะเล ถ้วยทองฟรุ๊ตสลัดทะเล ทาร์ตไข่โบราณ เกี๊ยวหอยเชลล์กุ้งซอส XO ฮะเก๋าปลาทองนำโชค ถุงเงินไส้กุ้งสีแดง และสาหร่ายม้วนกุ้งเนื้อปู
เฮยยิน
  • เซต B “Daydream” ประกอบด้วย ก๋วยเตี๋ยวหลอดห่อปอเปี๊ยะไส้กุ้ง ขนมผักกาดเจี๋ยน ห่ามสุ่ยเกาะ ขนมพายพุทราจีนลูกเกด ขนมจีบเนื้อปูกุ้ง ซาลาเปาลาวาทรายทอง ถุงเงินไส้กุ้งสีชาโคล และเกี๊ยวสอดไส้เนื้อปูผักป๋วยเล้ง
เฮยยิน
  • เซต C “Enchanting” ประกอบด้วย ซาลาเปาอบไส้หมูแดงคุโรบูตะ ขนมเปี๊ยะฮ่องกงไส้หมูหยองไข่แดงเค็ม ปอเปี๊ยะทะเลชีส วุ้นดอกหอมหมื่นลี้มะม่วงหวาน เกี๊ยวหมูกุ้งนึ่ง เกี๊ยวเห็ดรวมมิตรซอสเห็ดทรัฟเฟิล ฮะเก๋าปลาทองนำโชค และขนมจีบกุ้งหมูกังป๋วย

เพิ่มความรื่นรมย์ในช่วงเวลายามบ่ายกับเมนูชาและติ่มซำสไตล์กวางตุ้งสุดพรีเมียมบริเวณโซนด้านหน้าร้านในบรรยากาศที่ตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์โมเดิร์นไชนีส สะท้อนความทันสมัยผ่านการใช้สีเขียวเข้ม ลายรั้วเป็นรูปคลื่นน้ำและรวงข้าว เปรียบเสมือนความอุดมสมบูรณ์ และบาร์น้ำที่สวยงาม โดยโซนใหม่นี้สามารถรองรับลูกค้าได้ 28 ที่นั่ง

ร้านอาหารจีน “เฮยยิน” ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ เปิดให้บริการ 3 ช่วง คือ มื้อกลางวัน เวลา 11.00 – 15.00 น. มื้อบ่ายให้บริการติ่มซำและชุด Afternoon Tea เวลา 15.00 – 17.00 น. และมื้อค่ำ เวลา 18.00 – 22.00 น. พร้อมห้องจัดเลี้ยงส่วนตัว 4 ห้อง (ค่าบริการ 1,000 – 2,000 บาท หากมียอดใช้จ่ายตามที่กำหนด ฟรีค่าบริการห้องส่วนตัว)

สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 080-964-5423 และ LINE: @heiyinbangkok ดูรายละเอียดอื่นๆ และติดตามอัปเดตของร้านได้ที่

Wrong Carriage Right Groom - ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事- เถียนซีเวย - Tian Xiwei -田曦薇- อ๋าวลุ่ยเผิง - Ao Ruipeng -敖瑞鹏 - นางเอกจีน - นางเอกจีนน้องใหม่-ดาราจีน-ดาราหญิงจีน-ดาราหญิงจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีน -นักแสดงหญิงจีน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีน-ซีรี่ย์จีนปี 2023 -ซีรี่ย์จีนแนวรอมคอม - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค -นางเอกจีนรุ่นใหม่ – YOUKU

ฟินต่อไม่มีพัก! เถียนซีเวยควงคู่จิ้นคนใหม่ส่งซีรี่ย์จีน Wrong Carriage Right Groom ทั้งฟิน ทั้งฮา!

Alternative Textaccount_circle
event
Wrong Carriage Right Groom - ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事- เถียนซีเวย - Tian Xiwei -田曦薇- อ๋าวลุ่ยเผิง - Ao Ruipeng -敖瑞鹏 - นางเอกจีน - นางเอกจีนน้องใหม่-ดาราจีน-ดาราหญิงจีน-ดาราหญิงจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีน -นักแสดงหญิงจีน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีน-ซีรี่ย์จีนปี 2023 -ซีรี่ย์จีนแนวรอมคอม - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค -นางเอกจีนรุ่นใหม่ – YOUKU
Wrong Carriage Right Groom - ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事- เถียนซีเวย - Tian Xiwei -田曦薇- อ๋าวลุ่ยเผิง - Ao Ruipeng -敖瑞鹏 - นางเอกจีน - นางเอกจีนน้องใหม่-ดาราจีน-ดาราหญิงจีน-ดาราหญิงจีนวัยรุ่น - นักแสดงจีน -นักแสดงหญิงจีน -ข่าวจีน - บันเทิงจีน - ซีรี่ย์จีน-ซีรี่ย์จีนปี 2023 -ซีรี่ย์จีนแนวรอมคอม - ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติก - ซีรี่ย์จีนครึ่งปีหลัง 2023 - ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค -นางเอกจีนรุ่นใหม่ – YOUKU

ตามกันต่อแบบนันสต็อป! สุดฯ ชวนคอซีรี่ย์จีนตามเก็บ Wrong Carriage Right Groom ซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/โรแมนติก/คอเมดี้ นำทีมโดยนางเอกจีนตาโต เถียนซีเวย พร้อมพระเอกคู่จิ้นคนใหม่ อ๋าวรุ่ยเผิง !

ปลายเดือนส.ค. 2023 สุดฯ เอาใจคอซีรี่ย์จีนกันต่อค่ะ พาทุกคนมาตั้งตารอดูซีรี่ย์จีนแนวย้อนยุค/รอมคอมเรื่องใหม่ที่เตรียมลงจอออนแอร์วันที่ 28 ส.ค. นี้ สำหรับ Wrong Carriage Right Groom หรือชื่อไทย ชุลมุนรักสลับเกี้ยว ของแพลตฟอร์ม YOUKU ที่ดัดแปลงบทมาจากนิยายจีนชื่อดังของนักเขียน สีเจวี้ยน (Xi Juan) เรื่องWrong Carriage,Right Groomและ Please Take a Met โดยบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคุณหนูตระกูลที่ร่ำรวย ตู้ปิงเหยียน และลูกสาวของปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ หลี่อวี้หู ที่ด้วยอุบัติเหตุความบังเอิญ หรือฟ้าลิขิตมาให้ทั้งสองคนขึ้นเกี้ยวผิดในวันแต่งงานของพวกเขา ทำให้เกิดเรื่องราวความรักวุ่นๆ ขึ้นนับตั้งแต่นั้น!

Wrong Carriage Right Groom - ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事- เถียนซีเวย - Tian Xiwei -田曦薇- อ๋าวลุ่ยเผิง - Ao Ruipeng -敖瑞鹏

สำหรับเรื่องย่อของซีรี่ย์จีนWrong Carriage Right Groomชุลมุนรักสลับเกี้ยว เริ่มต้นจากวันหนึ่งในเมืองหยางโจวที่มีหญิงสาว 2 คนจะเข้าพิธีแต่งงานในวันเดียวกัน คนหนึ่งคือ ตู้ปิงเหยียน ส่วนอีกคนคือ หลี่อวี้หู โดยเจ้าบ่าวของตู้ปิงเหยียนคือ ฉีเทียนเหล่ย ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลฉีที่ร่ำรวยที่สุดในหลิวโจว ส่วนเจ้าบ่าวของหลี่อวี้หูคือ หยวนปู้ชวี แม่ทัพใหญ่คนสำคัญของราชวงศ์ แม้ว่าภายนอกหลายคนจะมองว่า ทั้งตู้ปิงเหยียนและหลี่อวี้หูได้คู่ครองที่ดี และจะมีเส้นทางชีวิตรักที่มีความสุข แต่อันที่จริงแล้วคนนอกหารู้ไม่ว่า ฉีเทียนเหล่ยนั้นเป็นผู้ชายที่อ่อนแอ มักจะเจ็บป่วยอยู่บ่อยๆ เขาจึงแค่ต้องการแต่งงานให้จบๆ ไปเท่านั้น ในขณะที่หยวนปู้ชวีนั้นแต่งงานกับอวี้หูก็เพื่อต้องการแก้แค้นเท่านั้น

Wrong Carriage Right Groom - ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事- เถียนซีเวย - Tian Xiwei -田曦薇- อ๋าวรุ่ยเผิง - Ao Ruipeng -敖瑞鹏

ในวันแต่งงานที่ 2 เจ้าสาวกำลังทุกข์ใจอยู่นั้น ก็เกิดฝนตกหนัก ทำให้ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวของทั้งคู่ต้องเข้าไปหลบฝนอยู่ที่วัดเดียวกัน โดยไม่คาดคิดเลยว่า เมื่อตอนที่ฝนซาลงแล้ว ต่างฝ่ายจะขึ้นเกี้ยวผิด และกลายเป็นเจ้าสาวสลับเกี้ยวกันแต่งงานกับเจ้าบ่าวของอีกฝ่าย!?! เส้นทางความรักสลับคู่จึงเริ่มต้นขึ้น กลายเป็นเรื่องราววุ่นๆ แต่เต็มไปด้วยความฟิน จิ้น ฮา ที่บอกเลยว่า พลาดไม่ได้จริงๆ ค่ะ

Wrong Carriage Right Groom - ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事

สำหรับคู่พระ-นางของเรื่องWrong Carriage Right Groomชุลมุนรักสลับเกี้ยวได้ อ๋าวรุ่ยเผิง (Ao Ruipeng) นักแสดงชายจีนวัย 27 ปี (เกิดเดือนต.ค. 1995) ที่ก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือไว้แล้วในซีรี่ย์จีน Beautiful Time With You (2020), Unusual Idol Love สปาร์กรัก หวานใจนาย AI (2021) ที่อ๋าวรุ่ยเผิงรับบทพระเอกของเรื่อง, A Female Student Arrives at the Imperial College ศิษย์สาวป่วนสำนัก (2021), The Blood of Youth ดรุณพเนจรท่องยุทธภพ (2022) เป็นต้น ส่วนนางเอกของเรื่องได้เถียนซีเวย (Tian Xiwei) นักแสดงหญิงจีนรุ่นใหม่วัย 25 ปี (เกิดเดือนต.ค. 1997) ซึ่งผลงานฮิตๆ ของเถียนซีเวยก่อนหน้านี้ที่สุดฯ เชื่อว่า หลายคนน่าจะเคยดูกันมาบ้างแล้ว เช่น Be My Cat วุ่นรักองค์ชายแมวเหมียว (2021), Ms. Cupid In Love ตำนานรักแม่สื่อจอมวุ่น (2022), New Life Begins ป่วนรักวิวาห์ว้าวุ่น (2022) ที่เถียนซีเวยรับบทนางเอกคู่กับไป๋จิ้งถิง (Bai Jingtian), First Love วุ่นนัก โจทย์รักแรก (2022) เป็นต้น

ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事- อ๋าวรุ่ยเผิง - Ao Ruipeng -敖瑞鹏
ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事- เถียนซีเวย - Tian Xiwei -田曦薇

นอกจากคู่พระ-นางแล้ว ยังมีคู่รองที่รับบทโดยจ้าวซุ่นหราน (Zhao Shunran) – ไป๋ปิงเข่อ (Bai Bingke) มาร่วมเสริมทัพความหรรษาในเรื่องWrong Carriage Right Groomชุลมุนรักสลับเกี้ยวด้วย ใครเป็นแฟนซีรี่ย์แนวรอมคอมรอติดตามซีรี่ย์จีนเรื่องนี้ได้ที่ YOUKU วันที่ 28 ส.ค. นี้เป็นต้นไปจ้า

Wrong Carriage Right Groom - ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事- เถียนซีเวย - Tian Xiwei -田曦薇- อ๋าวรุ่ยเผิง - Ao Ruipeng -敖瑞鹏
ชุลมุนรักสลับเกี้ยว - 花轿喜事

รูปจาก : 花轿喜事官微

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

keyboard_arrow_up