นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢- ดาราไต้หวัน - ดาราชายไต้หวัน - นักแสดงชายไต้หวัน - นักแสดงไต้หวัน - พระเอกไต้หวัน - นายแบบไต้หวัน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ร่วมงานแสดงเกาหลี-ญี่ปุ่น การันตีความฮอตทั่วเอเชีย!

Alternative Textaccount_circle
event
นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢- ดาราไต้หวัน - ดาราชายไต้หวัน - นักแสดงชายไต้หวัน - นักแสดงไต้หวัน - พระเอกไต้หวัน - นายแบบไต้หวัน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢- ดาราไต้หวัน - ดาราชายไต้หวัน - นักแสดงชายไต้หวัน - นักแสดงไต้หวัน - พระเอกไต้หวัน - นายแบบไต้หวัน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

ปังไม่ไหว! นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น เดินหน้าเฉิดฉายทั่วเอเชีย หลังร่วมงานแสดงทั้งในเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น พิสูจน์ความฮอตทั่วเอเชีย!

หากพูดถึงนักแสดงชายไต้หวันแห่งยุคนี้ที่มาแรงแบบไม่ได้หยุดอยู่แค่ในไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น แต่ยังไปไกลในหลายประเทศทั่วเอเชีย หนึ่งในนั้นจะขาดชื่อของสวี่กวงฮั่น (Xu Guanghan หรือ Greg Hsu) นายแบบ นักแสดง นักร้องไต้หวันวัย 32 ปี (เกิดเดือนต.ค. 1990) ไปไม่ได้ โดยสวี่กวงฮั่นเริ่มเข้าวงการบันเทิงไต้หวันตั้งแต่ปี 2013 จากการรับบทนำในซีรี่ย์ไต้หวัน Dive Into Love แต่อันที่จริงสวี่กวางฮั่นเริ่มมาเปรี้ยงปร้างเป็นพลุแตกจริงๆ ในช่วง 5-6 ปีให้หลังมานี้ โดยในปี 2016 สวี่กวางฮั่นได้แสดงในซีรี่ย์ไต้หวัน Miss Jiang, You Talked About Love it และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจาก Golden Bell Awards ครั้งที่ 52

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan  -  Greg Han  -許光漢

หลังจากนั้นสวี่กวงฮั่นก็มีซีรี่ย์ไต้หวันและหนังไต้หวันออกมากวาดความปังอีกเพียบ เช่น My Dear Boy (2017-2018), A Sun (2019), Nowhere Man (2019) ออริจินัลซีรี่ย์ไต้หวันเรื่องแรกของ NETFLIX ซึ่งนับเป็นซีรี่ย์ภาษาจีนกลางเรื่องแรกที่ร่วมมือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ รายนี้ด้วย และผลงานชิ้นโบแดงของสวี่กวงฮั่นที่ต้องยกขึ้นหิ้งเลยคือ ซีรี่ย์ไต้หวันแนวโรแมนติก/ดราม่า Someday or One Day (2019-2020) ที่ขึ้นแท่นเป็นซีรี่ย์ไต้หวันที่มีคะแนนวิจารณ์สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของปี 2020 และฮ็อตฮิตเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมทั้งในไต้หวันและจีน รวมไปถึงเกาหลีใต้ที่ทำให้สวี่กวงฮั่นมีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ชาวเกาหลี จนได้จัดงานแฟนมีตติ้งของเขาในเกาหลีด้วย ยิ่งไปกว่านั้นซีรี่ย์ไต้หวันเรื่อง Someday or One Day ยังถูกนำไปรีเมคในเวอร์ชั่นของแดนกิมจิที่ใช้ชื่อเรื่องว่า A Time Called You เวลาเพรียกหาเธอ โดยมีอันฮโยซอบ (Ahn Hyo-Seop), จอนยอบิน (Jeon Yeo-Bin), คังฮุน (Kang Hoon) รับบทนำที่เพิ่งจะออนแอร์ไปเมื่อเดือนก.ย. 2023

 สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢

นอกจากจะได้จัดงานแฟนมีตติ้ง และร่วมงานประกาศรางวัลอื่นๆ รายการต่างๆ ในเกาหลีใต้แล้ว สวี่กวงฮั่นยังได้ร่วมแสดงในมินิซีรี่ย์เกาหลีแนวอาชญกรรมเรื่อง No Way Out (ชื่อเกาหลี 노 웨이 아웃) ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมในที่สาธารณะที่มีค่าหัวสูงถึง 2 พันล้านวอน! และเป้าหมายของการลอบสังหารครั้งนี้คือ อาชญากรสุดโฉดที่กำลังจะได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก!?! โดยในเรื่องนี้สวี่กวงฮั่นรับบทเป็นนักฆ่าลูกครึ่งเกาหลี-ไต้หวัน ร่วมงานกับนักแสดงเกาหลีตัวท็อป นำทีมโดยอีซอนกยุน (Lee Sun-kyun), ยูแจมยอง (Yoo Jae-myung), คิมมูยอล (Kim Mu-yeol) และอีกวางซู (Lee Kwang-soo) ซึ่งกำลังถ่ายทำกันอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในฝั่งแดนกิมจิเท่านั้น แต่ยังบุกไปต่อที่แดนปลาดิบอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสวี่กวงฮั่นได้ร่วมแสดงนำในหนังญี่ปุ่นเรื่อง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในฝั่งแดนกิมจิเท่านั้น แต่ยังบุกไปต่อที่แดนปลาดิบอย่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสวี่กวงฮั่นได้ร่วมแสดงนำในหนังญี่ปุ่นแนวโรแมนติกชวนซึ้งเรื่อง Seishun18x2 Kimi e to Tsuzuku Michi (ชื่อญี่ปุ่น 青春18×2 君へと続く道) ประกบคู่กับนักแสดงหญิงญี่ปุ่นวัยรุ่น คายะ คิโยฮาระ (Kiyohara Kaya) วัย 21 ปี จากเรื่อง Okaeri Mone (2021), Fight Song (2022) เป็นต้น จะเป็นอย่างไรไปติดตามตัวอย่างหนังได้ที่อินสตาแกรมทางการของหนังเรื่องนี้ seishun18x2 กันได้เลยจ้า วางแพลนว่าจะฉายเดือนพ.ค. 2024

นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan  -  Greg Han  -許光漢- Seishun18x2 Kimi e to Tsuzuku Michi - 青春18×2 君へと続く道)
นักแสดงไต้หวันสวี่กวงฮั่น - สวี่กวงฮั่น - Xu Guanghan - Greg Han -許光漢- Seishun18x2 Kimi e to Tsuzuku Michi - 青春18×2 君へと続く道)

รูปจาก : 許光漢GregHan/seishun18x2

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

5 ซีรี่ย์จีนยังไม่ได้ออนแอร์ของหลิวอวี่หนิง ฉายแววปังทุกเรื่อง!

8 บทบาทอาชีพรับใช้ชาติของหวงจิ่งอวี๋ ทั้งจอเงินและจอแก้ว กี่เรื่องก็กวาดคำชมเรียบ!!

My Precious ซีรี่ย์จีนเรื่องที่ 2 ของหวงจื่อเทาในปี 2023!!

ตามเก็บซีรี่ย์จีน Gourmet in Tang Dynasty 2 ภาคของ 2 คู่พระ-นางชวนจิ้น!

The Heart ซีรี่ย์จีนแนวการแพทย์กับบทคุณหมอครั้งแรกของจ้าวโย่วถิง!

3 ซีรี่ย์จีนของจางหลิงเฮ่อในปี2023 มาครบทั้งบทพระเอกและบทสมทบ!

อีซูซุเปิดตัว ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ เหนือลิมิต…พิชิตโลก ตอกย้ำเจ้าตลาดรถปิกอัพเมืองไทย

account_circle
event

อีซูซุเจ้าตลาดรถปิกอัพเมืองไทย เปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก “NEW! ISUZU D-MAX” UNLOCK YOUR POTENTIAL ปลดล็อกนิยามใหม่แห่งปิกอัพ จัดเต็มทุกไลน์อัพ มาพร้อมดีไซน์ใหม่ สะกดทุกสายตา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมกระตุ้นตลาดรถยนต์ปลายปี ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ รวมทั้งผู้จำหน่ายอีซูซุ ลูกค้าพิเศษ “อีซูซุ ซูเปอร์แฟน” และสื่อมวลชนหลากหลายสาขาที่มาร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 1,000 คน ณ ICON HALL ชั้น 7 ศูนย์การค้า ICON SIAM

การเปิดตัวรถปิกอัพรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณจุติพงศ์ บุญสูง ประธานกรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด มร. ชินสุเกะ มินามิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท   อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศญี่ปุ่น) มร. ยูโซ โนะอุจิ รองประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท มิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) มร. ชิเงรุ วากะบายาชิ รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มยานยนต์และโมบิลิตี้ บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) และ มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมเปิดตัว “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก “NEW! ISUZU D-MAX” UNLOCK YOUR POTENTIAL สุดอลังการ ด้วยเทคนิค 3D ครั้งแรกที่สมจริงและจัดเต็มทั้ง ภาพ แสง สี เสียง สุดล้ำ ให้ผู้ร่วมงานได้ปลดล็อกทุกความท้าทาย ตื่นเต้น เร้าใจ ทั้งงาน นับเป็นการตอกย้ำความเป็นรถปิกอัพอันดับ 1 ของเมืองไทย ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตและกิจกรรมที่หลากหลายของผู้ใช้รถยุคใหม่อย่างแท้จริง

ภายในงานเต็มไปด้วยความตื่นตาตื่นใจกับไลน์อัพรถปิกอัพรุ่นใหม่จัดเต็มถึง 11 คัน ของ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก “NEW! ISUZU D-MAX” UNLOCK YOUR POTENTIAL นำโดย “ใหม่! อีซูซุ วี-ครอส 4×4” ปลดล็อกทุกความท้าทายกับความแข็งแกร่ง ตอบโจทย์สายออฟโรด พร้อมลุยทุกกิจกรรม ต่อด้วย “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู” ตอบโจทย์ Urban Lifestyle วิถีชีวิตคนเมืองพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับ TOP CLASS และ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู” ปลดล็อกศักยภาพใหม่ ไปได้ไกลกว่า รวมถึงรุ่น “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บโฟร์” และ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์ สเปซแค็บ” ตอบโจทย์สาย Outdoor Activity

มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “อีซูซุ มุ่งมั่นในการพัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ด้วย “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก ดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก มาพร้อมสีส้มใหม่ Namibu Orange Mica (ส้ม นามิบู ไมก้า) ด้านหน้าใหม่ตั้งแต่ฝากระโปรงจดกันชนหน้า พร้อมออกแบบ Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ ฝาท้ายและชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่ ภายในเพิ่มความโดดเด่นสุดพิเศษด้วย “Miura” Design (“มิอุระ” ดีไซน์) หรูหรามีมิติ เพิ่มการขับขี่ให้สนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift อีกทั้งยังมีหน้าจอ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบ Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID ใหม่ขนาด 7 นิ้ว แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน ยกระดับความสะดวกสบายให้กับ   ผู้ขับขี่ และยังมาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย มั่นใจทุกการเดินทางด้วย ใหม่ล่าสุด! ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D Imaging Stereo Camera ที่กว้างขึ้นและแม่นยำขึ้น พร้อม ใหม่! ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย (Rear Cross Traffic Brake) 

ด้วยราคาคุ้มค่าเงิน ตั้งแต่ 540,000 – 1,264,000 บาท รถรุ่นใหม่นี้นอกจากจะตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายทั้งส่วนตัวและเพื่อการพาณิชย์แล้ว แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันเหนือชั้นของรถอีซูซุ คือ ความแข็งแกร่งทนทาน ความเชื่อถือได้ อะไหล่หาง่าย และบำรุงรักษาได้ง่าย ซึ่งล้วนเป็นคุณลักษณะสำคัญที่ครองใจผู้ใช้รถชาวไทยได้เป็นเวลายาวนาน อีซูซุขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้รถอีซูซุเป็นอย่างดีเสมอมา และเรามั่นใจว่ารถปิกอัพ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก จะสร้างความพอใจสูงสุดให้ผู้ใช้รถชาวไทยอย่างแน่นอน”

This image has an empty alt attribute; its file name is 1-%E0%B8%A1%E0%B8%A3.-%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4-%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B0-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97-%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%8B%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%8C-%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94-900x600.jpg

พบกับ “ใหม่! อีซูซุ ดีแมคซ์” เหนือลิมิต…พิชิตโลก ได้ ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม เป็นต้นไป ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

ฮวังมินฮยอน โซโล่ มินิคอนเสิร์ต จัดโชว์พิเศษโต๊ะริม สุดจึ้ง

account_circle
event

ฮวังมินฮยอน โซโล่ มินิคอนเสิร์ต จัดโชว์พิเศษ โต๊ะริม สุดจึ้ง สะกดทุกหัวใจ ขอให้ฮวังโดอย่าป่วยเพื่อกลับมาเจอกันอีก

เล่นเอาใจละลายตกอยู่ในภวังค์กันเมื่อนักร้องหนุ่มผู้เพียบพร้อมด้วยรูปลักษณ์แถมภาพลักษณ์สุดละมุน ฮวังมินฮยอน ร่ายมนต์สะกดหัวใจ ฮวังโด (Hwangdo : ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของ ฮวังมินฮยอน) จนแทบลืมหายใจกันตลอดงาน “2023 ฮวัง มินฮยอน โซโล่ มินิ-คอนเสิร์ต <อันเวล> อิน แบงคอก” (2023 HWANG MIN HYUN MINI CONCERT <UNVEIL> IN BANGKOK)  โดยผู้จัดใจดีทั้งสาม ได้แก่ บริษัท ดับบลิวพี 24 กรุ๊ป จำกัด (WP24 Group Co.,Ltd.), บริษัท อะชิ แอคทิเวชั่น และ บริษัท ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด (CHAN ACTIVATION CO., LTD.) และ บริษัท พีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) จำกัด (PCCW OTT THAILAND) หรือ Viu Thailand

เสียงกรี๊ดจากเหล่าฮวังโด จากทุกที่มารวมตัวกันแน่นขนัดอินดอร์ สเตเดียม หัวหมากดังสั่นหวั่นไหว ทันทีที่ VCR เปิดตัวฉายขึ้นบนเวที ก่อนที่เพลงไตเติ้ล Hidden Side จะนำพาทุกคนพบกับ ฮวังมินฮยอน ที่มาในชุดสุดเท่พร้อมทีมแดนเซอร์ ก่อนสาดคาริสม่าไม่ยั้งตั้งแต่เวทีแรก จากนั้นคุณเจมิกซ์ เจริญ แซ่จู พิธีกรก็ออกมากล่าวเปิดงาน “2023 ฮวัง มินฮยอน โซโล่ มินิ-คอนเสิร์ต <อันเวล> อิน แบงคอก” อย่างเป็นทางการ และปล่อยคิวให้ มินฮยอน โชว์พลังเสียงใส่เต็มทุกอารมณ์เข้าถึงทุกความรู้สึกในเพลง Honest ต่อเป็นเพลงที่สอง พอหลุดจากภวังค์มาได้เหล่า ฮวังโดก็โดน มินฮยอน มาบอกคำรักแสนหวานแบบใกล้ชิดติดข้างหูกับเพลง Earphone

 “สวัสดีครับ ผม ฮวังมินฮยอน ครับ คิดถึงมากๆ นะครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่มินิ-คอนเสิร์ต UNVEIL IN BANGKOK นะครับ” แล้วเข้าสู่ช่วงพูดคุยกัน งานนี้ล่ามคนเก่ง คุณยูคอนยอง รับหน้าที่คอยสื่อสารให้เช่นเคย คำถามแรกเกี่ยวกับเพลง Hidden Side ที่ดูไม่เหมือนเดิม ซึ่ง มินฮยอน อธิบายว่า “ผมเปิดตัวด้วยเพลง Hidden Side ในมินิอัลบั้มของผม และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นความแตกต่าง จึงมีการอาเร้นจ์ใหม่โดยใส่เครื่องสายลงไปครับ” และการได้มาโซโล่คอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ ก็ทำให้ มินฮยอน รู้สึกว่า “ไม่ได้มานานมาก นี่เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกหลังการเกิดขึ้นมาของ ฮวังโด ด้วย ตื่นเต้น ดีใจมากๆ ที่ได้มาพบกับทุกคนวันนี้ครับ” เห็น มินฮยอน ทำงานหนักขนาดนี้ จะเหนื่อยขนาดไหน เจ้าตัวบอกว่า “ตั้งใจถ่ายทำเรื่อง Lovely Liar คนไทยคงได้ดูกัน ซึ่งได้ถ่ายทำเสร็จไปแล้วช่วงกลางเดือนสิงหาคม และได้เริ่มถ่ายทำเรื่องใหม่แล้ว 

ถึงแม้จะยุ่งขนาดไหนก็ต้องหาเวลาเตรียมตัวเพื่อให้เหล่าฮวังโดได้มีความสุขกัน ได้เห็นฮวังโดมีความสุขแบบนี้ ผมก็มีความสุขเช่นเดียวกันครับ” แต่อยากรู้จังว่าที่มาของชื่อคอนเสิร์ตคืออะไร? มินฮยอน เผยว่า “<UNVEIL> คือการโชว์สิ่งใหม่ ผมได้เตรียมเวทีใหม่ๆ มาให้ทุกคนเพียบเลย หวังว่าจะสนุกไปด้วยกันนะครับ” ได้ข่าวว่ามาครั้งนี้ไม่ได้มามือเปล่า แต่ มินฮยอน เตรียมของขวัญมามอบให้กับทุกคนด้วย “ผมเตรียมของขวัญเป็นพัดเล็กๆ มาให้ทุกคนครับ ตัวผมเองเป็นคนขี้ร้อนก็เลยมีพัดติดตัวอยู่เสมอ กรุงเทพฯ เป็นเมืองร้อนด้วย เลยเตรียมพัดมาเพื่อฮวังโดจะได้คลายร้อน  แล้วก็อยากให้ถือพัดนี้บ่อยๆ นะครับ”

          เข้าสู่ช่วง TIMING GAME  ที่มินฮยอน สารภาพว่าเล่นเกมทีไรแพ้ทุกที ซึ่ง เกมนี้มีบททดสอบ 4 บท มาท้าทายความจำ ถ้ามินฮยอนทำได้ 3 บทขึ้นไป ถือว่าชนะ แต่ถ้าได้ไม่ถึง จะมีบทลงโทษสำหรับผู้แพ้ เกมที่จัดมาก็มีทั้งทายชื่อเพลง ร้องต่อเพลงที่เปิด แต่เกมที่ถูกใจกันมากก็เป็นเกมต่อบทละคร ผลผ่านบททดสอบแค่ 2 ใน 4 บท จึงถือว่าแพ้ แต่ ฮวังโด จะยอมให้ชนะ แต่พอรู้ว่าบทลงโทษเป็นอะไรน่าสนุกกว่า จึงปรับให้แพ้ แล้วเราก็ได้เห็น มินฮยอน ใส่ที่คาดผมสัตว์โลกน่ารัก แล้วเต้นตามเพลงซึ่งผลการโหวตที่คาดผมกระต่ายหูยาวชนะ มินฮยอน เลยต้องสวมพร้อมเต้นสุดคิ้วท์ในเพลง Betcha เรียกเสียงกรี๊ดได้ถล่มทลาย ก่อนโดนทำโทษเพิ่มด้วยที่คาดผมหูกระต่ายกับเพลง Super Shy ที่คนโดนลงโทษดูจะแฮปปี้เหมือนกัน

         

 มาถึงเวทีสุดเซอร์ไพร้ส์กับเพลงฮิตติดหูคนไทยอย่าง Melt (โต๊ะริม) ที่ มินฮยอน ตั้งใจฝึกซ้อมมากๆ จนร้องได้สำเนียงไทยชัดเว่อร์ เป็น โต๊ะริม เวอร์ชั่นคนเกาหลีคัฟเวอร์ที่เพราะเกินบรรยาย จากเพลงโต๊ะริม มินฮยอน ก็ชวนไปฟังเพลงรักสุดซึ้งอย่าง Tree ที่พาทุกคนเข้าสู่โลกของ ซอยุล ในเรื่อง Alchemy of Souls สลับจากการฟังเพลงมาชม VCR ที่ มินฮยอน ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งในอดีต ปัจจุบัน และสิ่งที่อยากทำในอนาคต รวมถึงความรู้สึกที่มีต่อ ฮวังโด ทุกคน และแล้วหนุ่มหล่อละมุนก็ขอเผยความเซ็กซี่ที่ซ่อนอยู่ในตัวตนอีกด้านหนึ่งกับเพลงที่ทุกคนรอคอย Perfect Type  ซึ่งทั้งเสื้อผ้าหน้าผมและเพอร์ฟอร์มบนเวทีมีความเซ็กซี่ในทุกองศา สมกับเป็นเพลงที่บ่งบอกความเป็น ฮวังมินฮยอน ได้ดีที่สุด ก่อนต่อด้วยเพลง CUBE ที่เพิ่มดีกรีความเซ็กซี่ขึ้นอีกระดับ

           จากนั้นพักพูดคุยเรื่องการซ้อมร้องเพลงไทยและซีรีส์เรื่อง Lovely Liar ที่กำลังฉายอยู่ในเมืองไทย “ผมรู้สึกสำเนียงไทยยากอยู่ครับ แต่โชคดีตอนซ้อมมีผู้ช่ำชองภาษาไทยคอยซ้อมให้ บวกกับเป็นเพลงที่ติดหูมาก เลยสนุกมากๆ ครับ” ส่วนเรื่องซีรีส์ มินฮยอน สปอยล์ให้นิดหนึ่ง “ตอนที่ 11 จะเป็นการคลี่คลายปมของตัวละคร โดฮา อยากให้จับตาดูกันให้ดีนะครับ” ก่อนจะเข้าสู่ช่วงที่ มินฮยอน จะรับบทเป็นดีเจเสียงนุ่ม เข้าสู่ช่วง ‘Music Album’ ในคอนเซ็ปต์ให้คำปรึกษากับน้องนักเรียน ม.5 โดยปลอบใจด้วยการร้องเพลงเพราะๆ 4 เพลงรวดด้วยเสียงหวานๆของดีเจ เริ่มจาก Consolation เพลงที่คอยปลอบโยนหัวใจในช่วงวัยรุ่น ตามติดด้วยเพลง Beautiful เพลงประกอบซีรีส์ดังที่ฟังแล้วเคลิ้มกันทั้งอินดอร์ ตัวบ่งชี้ว่าวัยรุ่นคือช่วงเวลาที่สวยงามเพียงใด และเพลงโปรดของมินฮยอน อย่าง Twenty-five,Twenty-one ที่สะท้อนช่วงวัย 20 ต้นๆ ได้ดีและอยากร้องให้ ฮวังโด ฟังมากๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง Amusement Park ที่มินฮยอนชอบมากและดีใจที่ได้ร้องสดๆ ให้ ฮวังโด ฟัง

This image has an empty alt attribute; its file name is KR1_4735-400x600.jpg

         แล้วก็มาถึงช่วงสุดท้ายที่มินฮยอน มาในชุดสบายๆ ดูน่ารัก “ในที่สุดก็มาถึงช่วงนี้จนได้ นี่จะเป็นเพลงสุดท้ายเพื่อฮวังโด ผู้เป็นเหมือนจักรวาลของผมครับ” แล้วเพลง Universe ก็พาฮวังโดทุกคนเข้าสู่ห้วงจักรวาลของมินฮยอน สลับกลับมาชม ENDING VCR ที่เผยภาพบรรยากาศการทำงานหนักของ มินฮยอน ผู้ซึ่งมุ่งมั่นสร้างผลงานเพื่อตอบแทนทุกๆ ความรักที่ได้รับจากฮวังโด ก่อนที่ มินฮยอน จะมาในเพลง Crossword ที่แสนจะสดใส “Universe เป็นเพลงที่ผมชอบมาก ครั้งนี้ใส่ทำนองเปียโนเข้าไปด้วย เป็นยังไงบ้างครับ เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่ผมชอบมากๆ เลย และได้ใช้ช่วงเวลานี้กับฮวังโด หวังว่า ฮวังโด จะเก็บช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ไว้นะครับ” จากนั้น มินฮยอน ก็ขอถ่ายรูปร่วมกับ ฮวังโด เป็นที่ระลึก แต่โดนเซอร์ไพรส์ด้วยโปรเจ็คท์น่ารักๆ

ก่อนจะหันมาเจอแผ่นป้ายสโลแกนนับพันที่เขียนว่า “황도의 세상을 완벽하고 사랑만 가득하게 만들어줘서 고마워요” (ขอบคุณที่ทำให้โลกของฮวังโดสมบูรณ์แบบและเต็มไปด้วยความรัก) เจอแบบนี้เข้าไป มินฮยอน ถึงกับรู้สึกผิดที่มาเมืองไทยช้าไป “ขอบคุณที่มอบความรักความอบอุ่นให้ผมขนาดนี้นะครับ จะกลับไปทำงานให้หลากหลายจะได้กลับมาเจอฮวังโดอีกนะครับ อย่าเจ็บ อย่าป่วยกันนะครับ แล้วกลับมาเจอกันอีกในหน้าร้อนนะครับ” และแล้วเพลงสุดท้าย Smile ก็ดังขึ้น เพลงจังหวะสดใสน่ารักๆ ที่ถูกเลือกมาเป็นเพลงบอกลา แต่กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขของทุกคน “ไว้เจอกันอีกนะครับ รักนะครับ!” มินฮยอน กล่าวเป็นภาษาไทยพร้อมโบกมือลา ก่อนหน้าจอบนเวทีจะขึ้นตัวอักษรลายมือ ฮวังมินฮยอน ที่เขียนว่า “Love Hwangdo” เป็นการจากลาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม อิ่มเอมความสุขกันถ้วนหน้า

#황민현 #HWANGMINHYUN #UNVEIL_IN_BKK #PLEDISENTERTAINMENT #CHANACTIVATION #WP24Group #ACHIACTIVATION #THECONCERT

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

the other side โซโล่อัลบั้มแรก ที่บันทึกเรื่องราวและก้นบึ้งความรู้สึกตลอด 10 ปี ของมาร์ค ต้วน

ลาซาด้า

ลาซาด้า นำร่องกรีนโลจิสติกส์ฮับแห่งแรกในไทยเปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง

Alternative Textaccount_circle
event
ลาซาด้า
ลาซาด้า

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ นำร่องกรีนโลจิสติกส์ฮับแห่งแรกในไทยเปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง มุ่งใช้พลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง รามอินทรา นำร่องโลจิสติกส์ฮับที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งแรกในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ยั่งยืนและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคม โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับการดำเนินงานภายในศูนย์ฯ การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า ซึ่งทำให้การขนส่งกว่า 70% ของศูนย์ฯ เป็นการใช้พลังงานสะอาด และชุดยูนิฟอร์มสำหรับตัวแทนจัดส่งสินค้าที่ผลิตจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิล

ลาซาด้า

งานเปิดตัวศูนย์ฯ ได้จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยมีทีมผู้บริหารลาซาด้าร่วมงาน ได้แก่ เจมส์ มาร์แชนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า ประเทศไทย และณัฏฐพล เกรียงชัยเวทย์ รองประธานอาวุโสฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า ประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารจาก สวอพ แอนด์ โก (Swap & Go) พันธมิตรผู้ให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า นำโดยอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด

ศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้งของลาซาด้าครอบคลุมพื้นที่การจัดส่งสินค้าในบริเวณแขวงท่าแร้งและแขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน โดยการเปิดศูนย์ฯ แห่งนี้จะช่วยให้ลูกค้าของลาซาด้าได้รับสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ของลาซาด้าโดยรวม

ลาซาด้า

ศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง นับเป็นหนึ่งในโครงการด้านโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนของลาซาด้า กรุ๊ป สะท้อนแนวทางการดำเนินงานของบริษัทในการใช้อีคอมเมิร์ซเป็นพลังขับเคลื่อน เพื่อยกระดับชุมชน ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน และบริหารจัดการผลกระทบของธุรกิจที่มีต่อสิ่งแวดล้อม จากรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ประจำปี 2566 ลาซาด้าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) โดยรวมลงถึง 10% ในระดับภูมิภาค เมื่อเทียบกับกรอบเวลาการรายงานในปีงบประมาณ 2565

ทิกิสต์ อัสเซฟา

เบอร์ลินมาราธอนต้องจารึก! ทิกิสต์ อัสเซฟา สวม ADIZERO ADIOS PRO EVO 1

Alternative Textaccount_circle
event
ทิกิสต์ อัสเซฟา
ทิกิสต์ อัสเซฟา

เบอร์ลินมาราธอนต้องจารึก! ทิกิสต์ อัสเซฟา นักกีฬาอาดิดาสสร้างประวัติศาสตร์โลกบทใหม่ พร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้เมื่อสวม ADIZERO ADIOS PRO EVO 1

จากผลการแข่งขันเบอร์ลินมาราธอนวันก่อน ทำให้ ทิกิสต์ อัสเซฟา (Tigist Assefa) กลายเป็นนักวิ่งมาราธอนหญิงที่ดีที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา กับชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ด้วยการบันทึกสถิติใหม่ของโลกที่เวลา 2:11:53 ชั่วโมง อีกทั้งเธอยังสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์พร้อมกับทำลายสถิติเดิมกว่า นาที กับ ADIZERO Adios Pro Evo 1 รองเท้าวิ่งทำความเร็วรุ่นล่าสุดจากอาดิดาส

สำหรับ ADIZERO Adios Pro Evo 1 ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นในห้องปฏิบัติการเพื่อให้เกิดเป็นรองเท้าที่สามารถพลิกโฉมการกำหนดฟอร์มการวิ่ง (Running Economy) ซึ่งการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้ของทิกิสต์แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของนักกีฬาอาดิดาสเมื่อได้สวมรองเท้าที่เป็นตัวกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรม โดยก่อนหน้านี้ ปาเรส เจปเชียร์เชียร์ (Pares Jepchirchir) ก็ได้คว้าชัยบนถนนนิวคาสเซิล พร้อมปฏิวัติการแข่งขันการวิ่งสายถนนกับผลงานอันแสนโดดเด่น ในการแข่งขันฮาล์ฟมาราธอนรายการใหญ่ที่สุดของโลก จนเกิดเป็นสองประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของรองเท้าวิ่งที่เบาที่สุดและเร็วที่สุดของอาดิดาส ซึ่งสถิติดังกล่าวจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะในการแข่งขันมาราธอนหลักของโลกรายการอื่นๆ ประจำฤดูกาลนี้รวมถึงนิวยอร์กมาราธอนที่กำลังจะมาถึง เหล่านักกีฬาของอาดิดาสก็จะสวมใส่สุดยอดรองเท้าวิ่งคู่นี้ลงสนามด้วยเช่นกัน

ทิกิสต์ อัสเซฟา

ทิกิสต์ อัสเซฟา ให้สัมภาษณ์ถึงการจารึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้ว่า “การแข่งขันเบอร์ลินมาราธอนมีความหมายกับฉันมาก และหลังจากที่ได้คว้าชัยชนะในปีที่แล้ว ฉันได้เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีเพื่อการแข่งขันในวันนี้ โดยฉันได้ฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเพื่อให้ฉันวิ่งได้เร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ ซึ่งฉันต้องขอขอบคุณทุกแรงเชียร์จากมวลชนตลอดเส้นทางการแข่งขัน รวมถึงพันธมิตรคนสำคัญอย่างอาดิดาสที่ได้มอบ ADIZERO Adios Pro Evo 1 รองเท้าแข่งขันที่เบาที่สุด ซึ่งช่วยเพิ่มพลังให้ฉันในทุกย่างก้าวและทำให้ฉันสามารถบันทึกสถิติโลกครั้งใหม่ได้สำเร็จ มันเป็นความสุขที่เปี่ยมล้นจริงๆ”

อัลแบร์โต อุนชินี มังกาเนลลี (Alberto Uncini Manganeli) ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์รองเท้าวิ่ง และการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือด้านกีฬา (Running & Credibility Sports) ของอาดิดาส กล่าวว่า “พวกเราขอแสดงความยินดีกับทิกิสต์กับความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้ การได้เห็นเธอทำลายสถิติโลกด้วยรองเท้า ADIZERO Adios Pro Evo 1 ทำให้เราตื่นเต้นจนเกินบรรยายเลยทีเดียว โดยพวกเราชาวอาดิดาสเกิดมาพร้อมกับความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะเป็นผู้ชนะ และรองเท้าคู่นี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามอันไม่มีที่สิ้นสุดของเราในการรังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้กับนักกีฬา เพื่อผลักดันขอบเขตของความเป็นไปได้ในการช่วยให้เหล่านักกีฬาวิ่งได้เร็วกว่าที่เคยวิ่งมา และการที่ทิกิสต์ยืนอยู่บนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวันนี้ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงผลลัพธ์ของความทุ่มเท ความเชื่อมั่น และความเพียรพยายามเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี”

นอกจากการที่ทิกิสต์สามารถป้องกันแชมป์เบอร์ลินมาราธอนได้สำเร็จ เธอยังได้แสดงให้เห็นว่าเธอคือนักวิ่งมาราธอนหญิงที่ดีที่สุดในโลกตัวจริง ด้วยการเอาชนะการแข่งขันรายการนี้สองครั้งติดต่อกัน โดยปีก่อนเธอทำเวลาอยู่ที่ 2:15:37 ชั่วโมง และถูกบันทึกว่าเป็นนักวิ่งมาราธอนหญิงที่วิ่งเร็วอันดับสามของโลก แต่สำหรับในปีนี้เธอได้ทำลายสถิติโลกและบันทึกเวลาใหม่ของเธอได้อย่างไม่น่าเชื่อด้วยเวลาที่เร็วกว่าเดิมถึง 2 นาที 11 วินาที

ทิกิสต์ อัสเซฟา

นอกจากนี้ ชีลา ชิปคิรุย (Sheila Chepkirui) ยังได้ขึ้นโพเดียมด้วยรองเท้า ADIZERO Adios Pro Evo 1 ด้วยเช่นกัน กับการจบอันดับที่สองด้วยเวลา 2:17:49 ชั่วโมง ซึ่งเธอเคยคว้าชัยในการแข่งขันเบอร์ลินฮาล์ฟมาราธอนเมื่อปีที่แล้วด้วยเวลา 65:02 นาที

ติดตามข่าวสารรองเท้าวิ่งตระกูล ADIZERO ได้ที่ช่องทาง

  • อินสตาแกรม @adidasthailand 
  • เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/adidasTH 
  • แฮชแท็ก #ADIZERO #adidasThailand และ @adidasrunning
ฟูจิฟิล์ม

ฟูจิฟิล์ม เดินหน้าแคมเปญยุติวัณโรคด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ล้ำสมัย

Alternative Textaccount_circle
event
ฟูจิฟิล์ม
ฟูจิฟิล์ม

ฟูจิฟิล์ม เดินหน้าแคมเปญยุติวัณโรคด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ล้ำสมัยตอกย้ำปณิธานในการสร้างสุขภาวะที่ดีขึ้นให้แก่คนทั่วโลก

กลุ่มบริษัทฟูจิฟิล์มเดินหน้าจับมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วโลกเพื่อเร่งยุติการแพร่ระบาดของวัณโรคด้วยการมุ่งเน้นโครงการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ ล่าสุดบริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้าน One Stop, Total Healthcare Solution เปิดตัววิดีโอ “Efforts to End Tuberculosis” สะท้อนให้เห็นถึงพยายามของฟูจิฟิล์มในการร่วมมือกับประเทศทั่วโลกเพื่อยุติวัณโรค แม้แต่ในประเทศไทย ฟูจิฟิล์มก็ได้ผนึกกำลังกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญของการยุติวัณโรคเช่นกัน ซึ่งวิดีโอดังกล่าวนับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นขององค์กรที่ไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง

ภายใต้พันธกิจในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้สังคมผ่านการร่วมแก้ไขความท้าทายด้านสุขภาพทั่วโลก ฟูจิฟิล์ม ตระหนักถึงความเร่งด่วนในการยุติการแพร่ระบาดของวัณโรค ภัยร้ายที่กระทบประชากรกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ทั้งยังเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนจำนวนมหาศาลตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ฟูจิฟิล์มจึงเดินหน้าใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสุขภาพมาต่อยอดเพื่อร่วมเป็นกลไกในการต่อสู้กับโรคร้ายดังกล่าว

วัณโรค เป็นภัยสุขภาพร้ายแรง โดยเป็นหนึ่งในสามโรคติดต่อที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก ทุก ๆ ปี มีผู้ป่วยวัณโรคมากกว่า 10 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 1.5 ล้านคน จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าทุก ๆ วัน จะมีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคเกือบ 4,400 ราย และติดเชื้อกว่า 30,000 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับโรคที่สามารถป้องกันและรักษาได้ ทั้งนี้ เกือบ 90% ของผู้ป่วยวัณโรคอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาและราวครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อในพื้นที่เหล่านี้ ไม่สามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองและการรักษาอย่างเหมาะสม

ฟูจิฟิล์ม

ด้วยเหตุนี้ ฟูจิฟิล์ม จึงมุ่งมั่นยกระดับการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติในการยุติวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2030 ด้วยการนำเสนออุปกรณ์เอกซเรย์แบบพกพาขนาดกะทัดรัดที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจคัดกรองวัณโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและเข้าถึงยากมร.โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า “ฟูจิฟิล์ม ก้าวสู่ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1936 ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟิล์มเอกซเรย์ที่เป็นที่ยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลก เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสุขภาวะที่ดีแก่คนทั่วโลก และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขภาพให้ครอบคลุมอย่างระบบจัดเก็บภาพและข้อมูลทางการแพทย์ PACS (Picture Archiving Communication System) รวมถึงเทคโนโลยี MRI และ CT Scan มาเสริมทัพให้โซลูชันการวินิจฉัยทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มครบวงจรมากยิ่งขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเครื่องมือเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ขั้นสูง ก็ยิ่งยกระดับการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้ฟูจิฟิล์มก้าวเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพในฐานะผู้ให้บริการ Total Healthcare Solution ชั้นนำอย่างแท้จริง เป้าหมายหลักของเราคือการยกระดับด้านการแพทย์และสุขภาพให้สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในการยุติวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2030 เราจึงเร่งเดินหน้าต่อสู้กับวัณโรค โดยมุ่งเน้นที่การตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ ผ่านนวัตกรรมอันล้ำสมัยของเรา”
การตรวจพบการติดเชื้อตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นหัวใจสำคัญของการยุติการแพร่ระบาดของวัณโรคตามแผน SDGs ภายในปี ค.ศ. 2030 โดยเครื่องเอกซเรย์ FDR Xair ของฟูจิฟิล์ม ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยบรรลุเป้าหมายนี้ ด้วยขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา และทำงานได้ด้วยแบตเตอรี่ในตัว ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถทำการตรวจคัดกรองวัณโรคในพื้นที่ห่างไกลได้ ฟูจิฟิล์ม ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อดำเนินโครงการตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHOในการใช้ระบบเอกซเรย์เพื่อตรวจคัดกรองวัณโรคและขยายการคัดกรองวัณโรคในภูมิภาคที่มีความเสี่ยงให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

มร.โซ มารูโอะ กล่าวเสริมว่า “ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ ฟูจิฟิล์มจะยังเดินหน้ารับมือกับความท้าทายเพื่อยกระดับบริการสาธารณสุขที่ทั่วถึงและมีคุณภาพ ผ่านการร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในขับเคลื่อนการตรวจวินิจฉัยและคัดกรองวัณโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ เรายังทำงานร่วมกับองค์กรไม่แสวงหากำไร “STOP TB Partnership ที่จัดตั้งขึ้นโดยสำนักงานบริการโครงการแห่งสหประชาชาติ (UNOPS) เพื่อสนับสนุนการคัดกรองวัณโรคในกลุ่มประชากรในถิ่นทุรกันดาร การดำเนินงานทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์และสุขภาพของฟูจิฟิล์ม เราพร้อมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย เวียดนาม และประเทศไทย และอีกหลากหลายประเทศทั่วโลก โครงการคัดกรองวัณโรคในอินเดียและอีกหลากหลายโครงการเพื่อสังคมในไทยนับเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จของเรา”

ในอินเดีย โครงการตรวจคัดกรองวัณโรคซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่สองในอินเดียของฟูจิฟิล์ม อินเดีย ตั้งเป้าคัดกรองประชากรมากกว่า 5 ล้านคน ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของรัฐบาลอินเดียในการทำให้ประเทศปลอดวัณโรคภายในปี ค.ศ. 2025 โดยฟูจิฟิล์ม อินเดีย ลงพื้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของวัณโรค พร้อมให้บริการตรวจคัดกรองวัณโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์แบบพกพาที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้ได้ผลการวินิจฉัยที่รวดเร็ว

สำหรับในประเทศไทย ฟูจิฟิล์มมีแผนเชิงคุณค่าแห่งความยั่งยืน 2030 (SVP2030) และหนึ่งในเป้าหมายหลักคือการยกระดับมาตรฐานทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสุขภาวะที่ดีขึ้นของคนไทยทั่วประเทศ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ร่วมมือกับพันธมิตร มูลนิธิ และสถานพยาบาลเพื่อเสริมแกร่งบริการสาธารณสุข โดยใช้โซลูชันทางการแพทย์ขั้นสูงที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ตั้งแต่โรงพยาบาลในเมืองไปจนถึงสถานพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล “นับตั้งแต่ที่บริษัทก่อตั้งขึ้นที่ประเทศไทยในปี ค.ศ. 1989 ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจในวงการแพทย์ ในฐานะองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ฟูจิฟิล์มมุ่งมั่นอย่างจริงจังที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคมของประเทศไทย โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ ที่ไม่ใช่แค่สร้างผลกระทบต่อตัวบุคคล แต่ยังสร้างผลเสียต่อสังคมในวงกว้าง เพื่อช่วยให้คนใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการตรวจคัดกรองวัณโรค เพื่อให้สอดคล้องกับแผน SVP2030 ของเรา โดยเรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ คืนกลับสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับสุขภาวะของคนไทยให้ดีขึ้นเทียบเท่าระดับสากล” มร.มารูโอะ กล่าว

โซลูชันด้านการแพทย์และสุขภาพแบบครบวงจรของฟูจิฟิล์ม ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างสุขภาวะที่ดีแก่สังคมด้วยนวัตกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพล้ำสมัย นอกจากแคมเปญในการยุติวัณโรคแล้ว วิสัยทัศน์ของฟูจิฟิล์มยังครอบคลุมอีก 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาทางสังคมและความยั่งยืน ฟูจิฟิล์มยังคงแน่วแน่ในการสร้างสุขภาวะที่ดีสำหรับทุกคนอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน ไม่ว่าจะที่อินเดียหรือประเทศไทย ฟูจิฟิล์มจะไม่หยุดยั้งพัฒนานวัตกรรมที่ล้ำสมัยเพื่อช่วยเหลือสังคมและสร้างโลกที่น่าอยู่ให้แก่ทุกคน

HONOR

เปิดตัวแล้ววันนี้ HONOR X6a และ HONOR X5 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น

Alternative Textaccount_circle
event
HONOR
HONOR

เปิดตัวแล้ววันนี้ HONOR X6a และ HONOR X5 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น จัดเต็มความคุ้มค่า ด้วยแบตใหญ่กว่าไหลลื่นได้ทั้งวัน เริ่มต้น 3,499 บาท

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลกเปิดตัว HONOR X6a และ HONOR X5 Plus ในตระกูล X Series ทลายขีดจำกัดของสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กด้วยนวัตกรรมเหนือระดับด้วยขุมพลังแบตใหญ่กว่าไหลลื่นได้ทั้งวัน พร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ตอกย้ำการส่งมอบความคุ้มค่าและมาตรฐานนวัตกรรมที่เหนือระดับแก่ผู้บริโภค ด้วยราคาเปิดตัวเพียง 3,999 บาท สำหรับ HONOR X6a และ 3,499 บาท สำหรับ HONOR X5 Plus ลุยเจาะตลาดผู้ใช้งานทั่วไปด้วยฟีเจอร์ที่      ครบครันในราคาที่เอื้อมถึงได้ ตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้งาน โดยเปิดวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศไทยให้แฟนๆ HONOR ได้สัมผัสประสบการณ์ไหลลื่นไม่มีสะดุดตั้งแต่วันพุธที่ 27 กันยายน นี้

HONOR

แบตใหญ่กว่าไหลลื่นได้ทั้งวัน ไม่สะดุดทุกการใช้งาน 

สมาร์ทโฟนราคาประหยัด HONOR X6a โดดเด่นด้วยขุมพลังแบตเตอรี่ขนาด 5,200 mAh สะท้อนคอนเซปท์ “แบตใหญ่กว่าไหลลื่นได้ทั้งวัน” โดยสำหรับการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง สามารถเล่นวิดีโอติดต่อกันได้ยาวนานถึง 17 ชั่วโมง หรือเล่นแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง TikTok ได้เต็มอิ่มตลอด 13 ชั่วโมงไม่มีสะดุด หรือหากจำเป็นต้องเดินทางไกลเป็นระยะเวลานาน ยังสามารถฟังเพลงได้ติดต่อกันถึง 15 ชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลว่า       แบตจะหมดก่อนถึงที่หมาย นอกจากนี้ หากลืมชาร์จแบตเตอรี่ก่อนออกจากบ้าน ทาง HONOR ยังคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้งานและตอบรับวิถีชีวิตที่เร่งด่วนในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี HONOR SuperCharge 22.5W ที่สามารถชาร์จได้รวดเร็วถึง 31% ภายในเวลาเพียง 20 นาที เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานได้อย่างไร้กังวลตลอดวัน

HONOR

จัดเต็มทุกฟีเจอร์ความบันเทิง สนุกกับทุกไลฟ์สไตล์ได้ด้วยราคาสุดคุ้มค่า 

HONOR X6a จัดเต็มหน้าจอแสดงผลขนาด 6.56 นิ้ว โค้งมนสี่ด้าน อีกทั้งยังผสานหน้าจอไหนลื่นด้วยอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 90 Hz พกพาสะดวกด้วยขนาดบางเฉียบเพียง 8.35 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนักเบาเพียง 188 กรัม นอกจากนี้ สมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวยังผสานเทคโนโลยีถนอมสายตา Dynamic Dimming ที่ช่วยปรับแสงหน้าจอให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ทำให้สายตาไม่เมื่อยล้าจากการใช้งานต่อเนื่อง ตอกย้ำจุดแข็งของ HONOR ที่ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและฟีเจอร์อย่างต่อเนื่องเพื่อสอดรับพฤติกรรมของผู้ใช้งานยุคปัจจุบัน ทำงานด้วยซอฟต์แวร์ MagicOS 7.1 รันบน Android 13 เติมเต็มทุกอรรถรสความบันเทิงได้อย่างไม่มีสะดุด

นอกจากนี้ HONOR X6a ยังผสานฟีเจอร์กล้องระดับท็อปให้สร้างสรรค์ภาพถ่ายราวกับสมาร์ทโฟนราคาหลักหมื่น โดยกล้องหลักจัดเต็มด้วยความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4 และ เลนส์ Depth  2 ล้านพิกเซล f/2.4 ซึ่งไม่ค่อยมีให้เห็นในสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กในราคาไม่ถึง 4,000 บาท รวมถึงสเปคกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยสำคัญให้เก็บภาพทุกโมเมนต์ พร้อมสร้างคอนเทนต์ที่น่าจดจำเพื่อแชร์เพื่อนฝูง ครอบครัว หรือคนรัก ด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว

HONOR

เขย่าวงการสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 3,499 บาท พร้อมให้สัมผัสแล้ววันนี้! 

HONOR X6a เซอร์ไพรส์วงการสมาร์ทโฟนด้วยการเปิดราคาอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึงที่ 3,999 บาท ด้วยความจุมากถึง 128GB+4GB ซึ่งมาพร้อมสเปคที่อัดแน่น โดยจะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 27 กันยายน ซึ่งมีสีให้เลือกได้แก่ Midnight Black และ Sky Silver ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย HONOR ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม พร้อมกันนี้ นอกจาก HONOR X6a แล้ว ทางแบรนด์ยังเปิดตัวน้องเล็กอย่าง HONOR X5 Plus ซึ่งจัดเต็มสเปคที่อัดแน่นไม่แพ้กัน ด้วยแบตเตอรี่ใหญ่จุใจขนาด 5,200 mAh และ       รีเฟรชเรท 90Hz อีกทั้งยังเสริมด้วยกล้องหลักสูงถึง 50 ล้านพิกเซล เท่ากับรุ่น HONOR X6a พร้อมความจุขนาด 64GB+4GB โดยสำหรับรุ่น HONOR X5 Plus นี้ มี 2 สีให้เลือกสรรได้แก่ Midnight Black และ Cyan Lake ซึ่งแฟนๆ HONOR สามารถสัมผัสความคุ้มค่าได้แล้ววันนี้ในราคา 3,499 บาท เท่านั้น! สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook HONOR Thailand

Marshall

Marshall ชวนทุกคนที่รักการฟังเพลง เปิดประสบการณ์ฟังเพลงแบบชิดติดขอบเวที

Alternative Textaccount_circle
event
Marshall
Marshall

Marshall ชวนทุกคนที่รักการฟังเพลงมาเปิดประสบการณ์ฟังเพลงแบบชิดติดขอบเวทีพร้อมเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดกับ Motif II A.N.C.

Marshall ชวนทุกคนที่รักการฟังเพลงมาอัพเกรดหูฟังตัวใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดกว่าหูฟังทุกๆ รุ่น กับ Motif II A.N.C. ด้วยแพ็คเกจและเคสชาร์จที่เล็กกระทัดรัดพร้อมพกพาไปด้วยทุก ๆ ที่ สามารถฟังเพลงได้นานถึง 30 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่ช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอก แต่ยังสามารถเปิดรับฟังเสียงภายนอก หรือ พูดคุยกับคนรอบ และยังรองรับ Bluetooth® BT LE Audio เพื่อการเชื่อมต่อหูฟังมีเสถียรภาพมากขึ้น การฟังเพลงจะไม่ติดขัด และ การประสานเสียงจะยังคงเป็นจังหวะเดียวกัน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแอพลิเคชั่น Marshall ที่รองรับอย่างมีทั้งเครื่อง iphone และ android

Marshall

Marshall มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านที่ซื้อหูฟัง Motif II A.N.C ช่องทางออนไลน์ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือร้านคู่ค้าพันธมิตร ของบริษัทแอช เอเชีย อินเตอเนชั่นแนล จำกัด

ในระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 (3 วัน) รับสิทธิพิเศษ ดังนี้ 

  • การขยายระยะเวลารับประกันสินค้าเป็น 15 เดือนทันที เมื่อคุณลงทะเบียนรับประกันสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด
  • การบริการรับ-ส่งสินค้าแบบพิเศษถึงหน้าประตูบ้าน (Door to Door service) สำหรับการส่งซ่อมหรือเคลมสินค้า
Marshall
เป๊ปซี่โค

ผนึกกำลัง ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด จัดกิจกรรม One Suntory Helping Hands

Alternative Textaccount_circle
event
เป๊ปซี่โค
เป๊ปซี่โค

ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ผนึกกำลัง ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จัดกิจกรรม One Suntory Helping Hands การตอบแทนกลับคืนสู่สังคม

สองบริษัทชั้นนำในเครือซันโทรี่ นำโดย บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์สินค้าของซันโทรี่และเป๊ปซี่โคในประเทศไทย และ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ซุปไก่สกัด แบรนด์รังนกแท้ และแบรนด์แพลนท์เบสสกัด ร่วมกันจัดกิจกรรม “One Suntory Helping Hands” เป็นครั้งแรก โดยพนักงานของทั้งสองบริษัทระดมทุนได้กว่า 600,000 บาท เพื่อจัดหาตู้ทำน้ำเย็นที่มีระบบกรองน้ำให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนในจังหวัดระยอง สระบุรี และฉะเชิงเทรา และนำพนักงานจิตอาสาลงพื้นที่จัดกิจกรรมดี ๆ พร้อมกันนี้ยังมอบเงินอีกส่วนที่ได้จากการระดมทุนให้แก่ธนาคารนมแม่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ภายใต้มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก เพื่อช่วยเหลือเด็กที่ยากไร้

เป๊ปซี่โค

นางสาวเพียงจิต ศรีประสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เริ่มจัดกิจกรรม ‘Helping Hands’ ขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2560 และได้จัดกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้พนักงานได้แสดงพลังจิตอาสาในการช่วยเหลือสังคม สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับประเทศที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ สอดคล้องกับค่านิยมองค์กร ‘การตอบแทนกลับคืนสู่สังคม’ (Giving Back to Society) ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้พนักงานจัดกิจกรรมระดมทุน เพื่อนำไปช่วยเหลือโรงเรียนที่ด้อยโอกาสและองค์กรการกุศลในพื้นที่  สำหรับการจัดกิจกรรม ‘Helping Hands ครั้งที่ 7’ ในปี 2566 นี้ เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม ‘One Suntory Helping Hands’ เป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้ง 2 บริษัทในเครือ   ซันโทรี่ ที่ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมไทย”

กิจกรรม “One Suntory Helping Hands” ในปีนี้จัดขึ้นโดยพนักงานของ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย และ ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) เริ่มจากการจัดกิจกรรมมากมายเพื่อระดมทุนในงาน“Bring & Buy” ภายใต้ธีม “พี่ชื่นบาน น้องชื่นใจ”  อาทิ การออกบูธขายของต่างๆ ของเพื่อนพนักงาน การประมูลสินค้า และการขายสลากการกุศล ซึ่งสามารถระดมทุนได้กว่า 600,000 บาท โดยเงินส่วนหนึ่งนำไปจัดซื้อตู้ทำน้ำเย็นที่มีระบบกรองน้ำเพื่อมอบให้ 6 โรงเรียน ได้แก่  1) โรงเรียนบ้านปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง 2) โรงเรียนบ้านห้วยปราบ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง 3) โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 9 อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง  4) โรงเรียนวัดหนองผักชี อ.หนองแค จ.สระบุรี 5) โรงเรียนบึงเทพยา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา 6) โรงเรียนคลองสะบัดจาก อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ รวมถึงเปลี่ยนไส้กรองน้ำให้แก่ โรงเรียน โรงพยาบาล ศูนย์การศึกษาพิเศษ และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทักษะชีวิต อีก 13 แห่งในจังหวัดสระบุรีด้วย  สถานที่เหล่านี้ขาดแคลนทุนทรัพย์ในจัดหาน้ำดื่มสะอาด การบริจาคตู้ทำน้ำเย็นที่มีระบบกรองน้ำและไส้กรองน้ำในครั้งนี้ จึงช่วยให้ประชาชนได้มีน้ำดื่มสะอาดไว้บริโภค ซึ่งถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย และ ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย)  ยังได้นำเงินระดมทุนอีกส่วนหนึ่งไปบริจาคให้กับธนาคารนมแม่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ภายใต้มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก เพื่อสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทารกเกิดก่อนกำหนดและทารกที่เจ็บป่วย

เป๊ปซี่โค

นางสาวณัฏฐณิชา วรวรรณเศรษฐ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายสนับสนุนการบริหารงานในองค์กร ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด ประเทศไทยและอินโดไชน่า กล่าวว่า “ในนามของบริษัทซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม ‘One Suntory Helping Hands’ เป็นครั้งแรก เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ จัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การร่วมมือกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดโครงการ ‘แบรนด์..พลังเลือดใหม่ ต่อพลังชีวิต’ (BRAND’S Young Blood) เชิญชวนนิสิตนักศึกษาร่วมบริจาคโลหิต  รวมถึงการมอบผลิตภัณฑ์แบรนด์ให้กับโรงพยาบาลและมูลนิธิต่างๆ ภายใต้โครงการ ‘สร้างสุขภาพดีไปกับแบรนด์’ ดังนั้น การได้มาทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกันกับซันโทรี่ เป๊ปซี่โค ประเทศไทย จึงถือเป็นการผนึกกำลังจิตอาสาครั้งสำคัญ ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมได้มากกว่าเดิม รวมถึงตอกย้ำค่านิยมองค์กรของซันโทรี่ กรุ๊ป ‘การตอบแทนกลับคืนสู่สังคม’ (Giving Back to Society) ได้อย่างชัดเจน”

Go Back Lover - 竹马天降都是你- หลี่อวิ๋นรุ่ย - Li Yunrui -李昀锐- สวีรั่วหาน - Xu Ruohan -徐若晗- ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเปิดกล้อง - ซีรี่ย์จีนรอออนแอร์ - นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีน - นักแสดงหญิงจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - พระเอกจีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ดาราหญิงจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

เปิดกล้องแล้ว! Go Back Lover ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกเรื่องใหม่ของหลี่อวิ๋นรุ่ย-สวีรั่วหาน

Alternative Textaccount_circle
event
Go Back Lover - 竹马天降都是你- หลี่อวิ๋นรุ่ย - Li Yunrui -李昀锐- สวีรั่วหาน - Xu Ruohan -徐若晗- ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเปิดกล้อง - ซีรี่ย์จีนรอออนแอร์ - นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีน - นักแสดงหญิงจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - พระเอกจีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ดาราหญิงจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน
Go Back Lover - 竹马天降都是你- หลี่อวิ๋นรุ่ย - Li Yunrui -李昀锐- สวีรั่วหาน - Xu Ruohan -徐若晗- ซีรี่ย์จีน - ซีรี่ย์จีนเปิดกล้อง - ซีรี่ย์จีนรอออนแอร์ - นักแสดงจีน - นักแสดงชายจีน - นักแสดงหญิงจีน - พระเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกซีรี่ย์จีน - นางเอกจีน - พระเอกจีน - ดาราจีน - ดาราชายจีน - ดาราหญิงจีน - ข่าวจีน - บันเทิงจีน

สุดฯ พาซูมอิน Go Back Lover ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกเรื่องใหม่ที่นำทีมคู่พระ-นางโดยหลี่อวิ๋นรุ่ย – สวีรั่วหาน หลังเปิดกล้องอย่างเป็นทางการแล้ว!

เรียกว่าส่งต่อความปังกันแบบต่อเนื่องจริงๆ ค่ะ สำหรับนักแสดงหญิงจีนวัยรุ่น สวีรั่วหาน (Xu Ruohan) วัย 25 ปี (เกิดวันที่ 27 ก.พ. 1998) ที่สุดฯ เชื่อว่าคอซีรี่ย์จีนน่าจะคุ้นเคยกันดีจากผลงานแนวโรแมนติก อาทิ Perfect and Casual หรือชื่อไทย ลุ้นรักคู่รักกำมะลอ (2020) ที่ประกบคู่กับเว่ยเจ๋อหมิง (Wei Zheming), ซีรี่ย์จีนแนววัยรุ่น/สร้างแรงบันดาลใจ Out With a Bang สู้สุดใจไปให้ถึงฝัน (2022) ที่สวีรั่วหานรับบทนางเอกคู่กับจางเจียงหมิน (Zhang Jiangmin)

นอกจากนี้ยังมี The Forbidden Flower บุปผาแห่งรัก ซีรี่ย์จีนแนวโรแมนติกที่ออนแอร์ไปเมื่อช่วงต้นปี 2023 ที่สวีรั่วหานประกบคู่กับเจอร์รี่ เหยียน หรือ เหยียนเฉิงซวี่ (Jerry Yan/Yan Chengxu) เจ้าของบทเต้าหมิงซื่อในซีรี่ย์ไต้หวัน Meteor Garden รักใสๆ หัวใจสี่ดวง (2001-2002) บอกเล่าเรื่องราวของเหอหร่าน เด็กสาววัย 18 ปีที่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตได้พบกับเซียวหาน นักทำสวนสุดขรึมที่กำลังเผชิญกับการปล่อยวางอดีตไม่ได้ และเกือบสูญเสียความมั่นใจในชีวิตที่มีต่ออนาคต หลังจากพวกเขาได้เจอกัน เหอหร่านก็มองเห็นเสน่ห์อันเหลือล้นของเซียวหาน ทั้งน้ำเสียง หุ่น หน้าตาของเขาช่างเพอร์เฟ็กต์ จนเธออยากให้เขามาเป็นแบบในการวาดภาพให้ หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น เหอหร่านและเซียวหานก็ค่อยๆ รู้สึกดีต่อกัน ก่อเกิดเป็นความโรแมนติก อบอุ่นที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่า อีกฝ่ายต่างเติมเต็มส่วนที่ขาดหายในชีวิตให้แก่กันและกัน ทำให้เซียวหานเริ่มกลับมามีความมั่นใจและมีความหวังในชีวิตในอนาคตมากขึ้น และได้รับความรักที่ตราตรึง ยากจะลืมเลือน! ซึ่งหลังจากซีรี่ย์จีน The Forbidden Flower บุปผาแห่งรักออนแอร์ก็ได้กระแสตอบรับดีมากจากแฟนๆ ใครพลาดไปตามเก็บได้ที่ WeTV นะคะ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2023 สวีรั่วหานก็ได้เปิดกล้องถ่ายทำซีรี่ย์จีนเรื่องใหม่ที่เธอประกบคู่กับหลี่อวิ๋นรุ่ย (Li Yunrui) นักร้อง นักแสดงชายจีนวัย 27 ปี (เกิดวันที่ 24 ส.ค. 1996) ที่เคยเข้าร่วมแข่งขันในรายการเซอร์ไวเวิลจีน CHUANG 2019 และก่อนหน้านี้เคยฝากฝีมือมาแล้วในซีรี่ย์จีนเรื่อง The Oath of Love คุณคือคำปฏิญาณแห่งรัก (2022), Love Like the Galaxy ดาราจักรรักลำนำใจ (2022), Accidentally Meow On You เหมียวเหมียวเกี่ยวใจให้เจอรัก (2022) เป็นต้น โดยทั้งคู่ได้ประกบคู่กันในซีรี่ย์จีนเรื่อง Go Back Lover (ชื่อจีน 竹马天降都是你)

Go Back Lover - 竹马天降都是你-   หลี่อวิ๋นรุ่ย - Li Yunrui -李昀锐- สวีรั่วหาน  -  Xu Ruohan -徐若晗

ในเรื่องGo Back Loverเป็นซีรี่ย์จีนที่ดัดแปลงบทจากนิยายจีนเรื่อง Strawberry Seal บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเสิ่นซิงรั่ว นักเรียนชั้นม. 5 ที่ต้องย้ายโรงเรียนมาแบบกลางคัน และได้มาอยู่อาศัยในบ้านของเพื่อนสนิทของพ่อ ซึ่งที่นั่นเองเสิ่นซิงรั่วได้เจอกับลูกชายของเพื่อนพ่ออย่าง ลู่ซิงเหยียน ทั้งคู่ทั้งอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน อีกทั้งยังเรียนห้องเดียวกันอีก ในช่วงระยะเวลาปีครึ่งหลังจากที่พวกเขาทั้งสองได้ใช้เวลาร่วมกันเรื่อยๆ จากการเป็นคู่กัดก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

Go Back Lover - 竹马天降都是你-   หลี่อวิ๋นรุ่ย - Li Yunrui -李昀锐- สวีรั่วหาน  -  Xu Ruohan -徐若晗
Go Back Lover - 竹马天降都是你- หลี่อวิ๋นรุ่ย - Li Yunrui -李昀锐- สวีรั่วหาน - Xu Ruohan -徐若晗

นอกจากสวีรั่วหานที่มารับบทเสิ่นซิงรั่ว และหลี่อวิ๋นรุ่ยที่มารับบทเป็นลู่ซิงเหยียนแล้ว ยังมีนักแสดงอีกหลายคู่ร่วมเสริมทัพด้วย ไม่ว่าจะเป็นเริ่นซื่อหาว (Ren Shihao), หวังอี้จิ่น (Wang Yijin), เซี่ยฮ่าวหรัน (Xia Haoran), ต้วนอวี้ (Duan Yu) เป็นต้น แฟนๆ ปักหมุดรอติดตามความฟินของพวกเขากันได้ในซีรี่ย์จีนGo Back Loverนะคะ

Go Back Lover - 竹马天降都是你
Go Back Lover - 竹马天降都是你
 竹马天降都是你
竹马天降都是你

รูปจาก : 竹马天降都是你

เรื่องโดย : Lizhu

อัพเดตข่าวบันเทิงจีน ซีรี่ย์จีน ดาราจีนได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

8 บทบาทอาชีพรับใช้ชาติของหวงจิ่งอวี๋ ทั้งจอเงินและจอแก้ว กี่เรื่องก็กวาดคำชมเรียบ!!

My Precious ซีรี่ย์จีนเรื่องที่ 2 ของหวงจื่อเทาในปี 2023!!

ตามเก็บซีรี่ย์จีน Gourmet in Tang Dynasty 2 ภาคของ 2 คู่พระ-นางชวนจิ้น!

The Heart ซีรี่ย์จีนแนวการแพทย์กับบทคุณหมอครั้งแรกของจ้าวโย่วถิง!

3 ซีรี่ย์จีนของจางหลิงเฮ่อในปี2023 มาครบทั้งบทพระเอกและบทสมทบ!

ส่อง 4 พระเอกจีนตัวท็อป รวมตัวในซีรี่ย์จีน อุ่นหัวใจด้วยไฟรัก !

4 มินิซีรี่ย์จีนเดือนก.ย.2023 ดูฟินแบบสั้นๆ ฉบับคนมีเวลาน้อย!

3 ซีรี่ย์จีนแนวรักวัยรุ่นของโจวอี้หราน สดใส ดูฟิน กระชุ่มกระชวยหัวใจ!

The Kidnapping Day, วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023

Exclusive Interview กับนักแสดงนำซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video เรื่อง The Kidnapping Day (วันลักพาตัว)

Alternative Textaccount_circle
event
The Kidnapping Day, วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023
The Kidnapping Day, วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023

The Kidnapping Day เป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์เกาหลีที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ชมกัน กำลังสนุกมาก ซึ่งสุดสัปดาห์ก็มีโอกาสได้ร่วมสัมภาษณ์พิเศษนักแสดงนำทั้งสามคนของเรื่องอย่าง ยุนคเยซัง พัคซองฮุน และคิมชินรกมา โดยทั้งสามคนก็ได้เปิดเผยถึงการแสดงในเรื่องนี้แล้วแอบมีคำถามเกี่ยวกับเมืองไทยด้วย

The Kidnapping Day กับเรื่องราวจากปากของนักแสดง

ตอนที่อ่านบทซีรีส์เรื่องนี้ครั้งแรกว่ารู้สึกอย่างไร และอะไรทำให้คุณตัดสินใจตอบรับแสดงในซีรีส์เรื่องนี้

ยุนคเยซัง : ผมคิดว่าการที่เนื้อเรื่องพูดถึงเด็กหญิงที่เป็นอัจฉริยะกับผู้ชายที่ไม่ค่อยฉลาดนัก มันน่าสนใจมากเลยครับ โครงเรื่องให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่ ตอนนั้นผมตื่นเต้นมากที่จะได้รับโอกาสให้สร้างความสนุกเพลิดเพลินให้กับคนดูในซีรีส์เรื่องนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์หลายเรื่องที่มีแนวทางเฉพาะตัว และผมก็รู้สึกอยากรู้มากว่าคนดูจะมองเห็นผมยังไงถ้าผมได้แสดงเป็นตัวละครที่มีบุคลิกแบบนี้

พัคซองฮุน : ตอนที่ผมได้อ่านบท “The Kidnapping Day” ครั้งแรก ผมคิดว่ามันน่าสนใจมากๆ และก็รู้สึกถูกดึงดูดด้วยเนื้อเรื่องที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมตกลงรับบทอย่างรวดเร็วเพราะผมคิดว่ามันจะทำให้ผมได้สร้างผลงานในรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของเคมีแปลกประหลาดระหว่างโจรลักพาตัวเงอะงะกับเด็กหญิงอัจฉริยะ

คิมชินรก : ฉันว่ามันเป็นซีรีส์ที่มีการหักมุมเยอะมากๆ และดำเนินเรื่องเร็วดีค่ะ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในเรื่องก็น่าสนใจ ที่สำคัญที่สุดคือตัวละคร “ซอฮเยอึน” ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่างความจริงและคำลวง เป็นตัวละครที่น่าประทับใจมากๆ เลยค่ะ

The Kidnapping Day, วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023
คุณรับบทเป็นในซีรีส์เรื่องนี้ ตัวละครของคุณเป็นคนแบบไหน และคุณคิดว่าบทบาทที่คุณได้รับมีความพิเศษอย่างไร

ยุนคเยซัง : เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยมีความรู้มากนัก ผู้ชายที่มีลูกสาวป่วยและไม่มีอะไรที่เขาจะทำเพื่อเธอไม่ได้  ผู้ชายที่รักลูกมากจนตัดสินใจผิด แต่เขาก็รู้ว่าผิดและพยายามจะทำสิ่งที่ถูกต้อง ผมพยายามทำความเข้าใจตัวตนที่บริสุทธิ์และไม่เหมือนใครของตัวละครตัวนี้อย่างลึกซึ้ง ผมทำการทดลองหลายอย่าง และพูดคุยกับทีมงานหลายครั้ง เพื่อแสดงออกมาโดยไม่ทำให้คนดูเกิดความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ

พัคซองฮุน : ผมรู้ว่านักสืบส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวเพราะต้องทำภารกิจลับและการสืบสวนมากมาย แต่ผมก็พยายามจะแสดงความเป็นซังยุนออกมาผ่านทรงผมและเสื้อผ้า เพื่อให้เห็นถึงความใส่ใจในการจัดการตัวเองของเขา  การใส่ชุดธรรมดาแทนชุดเครื่องแบบตำรวจก็ด้วยเหมือนกัน หากคุณตั้งใจดูทั้งเคมีระหว่างคิมมยองจุน (รับบทโดย ยุนคเยซัง) กับ ชเวโรฮี (รับบทโดย ยูนา) รวมถึงตัวละครซังยุนด้วย คุณจะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับซีรีส์มากยิ่งขึ้น เสน่ห์ของตัวละครของซังยุนที่ผมเล่นในครั้งนี้เป็นคนละเอียดถี่ถ้วนและสงบเยือกเย็น แต่ผมคิดว่าเบื้องหลังของเขามีด้านที่เข้าอกเข้าใจมนุษย์อยู่ด้วย

คิมชินรก : ซอฮเยอึนเป็นอดีตภรรยาของมยองจุน และเป็นบุคคลที่วางแผนการลักพาตัว ในขณะที่ซีรีส์ดำเนินไป เนื้อเรื่องจะค่อยๆ คลี่คลายให้เราเห็นว่าเพราะอะไรตัวละครตัวนี้จึงแยกทางกับมยองจุน ทำไมเธอจึงวางแผนการลักพาตัว และทำไมเธอถึงเลือกลักพาตัวโรฮี แต่เราจะยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จ ฉันรู้สึกว่าส่วนผสมระหว่างความจริงและคำโกหก รวมถึงการที่เราไม่สามารถจะตัดสินได้อย่างชัดเจนว่าอะไรดีหรือชั่ว คือเรื่องพิเศษมากๆ ในตัวละครตัวนี้

ในการเล่นซีรีส์เรื่องนี้ อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดที่คุณให้ความสำคัญและเตรียมตัวเป็นพิเศษก่อนมากองถ่าย 

ยุนคเยซัง: มันเป็นการสร้างตัวละครที่ยากมากครับเพราะว่ามันเป็นเรื่องของคนคนหนึ่งเลย แต่ผมคิดว่าถ้าผมแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของตัวละครมากกว่าความโง่เขลาของเขา คนดูจะรู้สึกโอเคและสามารถติดตามเรื่องราวได้จนจบ ดังนั้นผมเลยพยายามกำหนดรายละเอียดเรื่องน้ำเสียงและพฤติกรรมของเขาเป็นพิเศษ ผมอยากจะแสดงฉากตลกให้ธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมคิดว่าการแสดงออกผ่านท่าทางให้เป็นธรรมชาติและลื่นไหลเหมือนน้ำ น่าจะดีกว่าการพยายามแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมามากเกินไป แต่ผมก็คิดว่าคงจะดีถ้าจะแทรกโมเมนต์ที่ดูเหมือนการ์ตูนไว้บ้างในบางตอนของซีรีส์

พัคซองฮุน: เนื่องจากผมได้รับบทเป็นตัวละครในสายอาชีพคล้ายๆ กัน (ตำรวจ) ติดต่อกันหลายเรื่อง ผมก็เลยกังวลว่าจะสร้างความแตกต่างให้กับบทนี้ได้ยังไงบ้าง แต่สุดท้ายผมก็คิดว่าคำตอบคงอยู่ในบท ผมก็เลยพยายามที่จะยึดอยู่กับบทเป็นหลักครับ

คิมชินรก: ในฐานะคิมชินรก ฉันพอจะเข้าใจซอฮเยอึนนะคะว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจทำแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่สามารถเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอ บางครั้งการที่ต้องเล่นเป็นตัวละครที่คุณไม่สามารถทำใจให้เห็นด้วยได้ มันก็ทำให้นักแสดงเผลอมองตัวละครของตัวเองเป็นคนอื่นหรือเป็นวัตถุ ซึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับนักแสดงเองในการระวังไม่ให้เกิดช่วงเวลาแบบนั้น

วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023
นอกจากความสนุกแล้ว คุณคิดว่า The Kidnapping Day  มีข้อคิดหรือแมสเสจอะไรที่เชื่อว่าผู้ชมจะได้รับบ้าง

ยุนคเยซัง: ความหมายของครอบครัวครับ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ บทบาท ความรับผิดชอบในครอบครัว…หลายเรื่องเลยครับ แล้วก็เป็นเรื่องที่สำคัญทั้งหมดเลยด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรัก นี่คือสิ่งที่ผมใส่ใจที่สุดในขณะที่แสดงและอ่านบท

พัคซองฮุน: ผมคิดว่าในยุคนี้มีครอบครัวรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นผมก็เลยหวังว่านี่จะเป็นโอกาสดีสำหรับคนดูที่จะได้คิดถึงความหมายของครอบครัวผ่าน  “The Kidnapping Day” กันครับ

คิมชินรก: ในบรรดาคำพูดทั้งหมดของตัวละครมยองจุน มีประโยคหนึ่งที่บอกว่า “เด็กๆ ไม่ใช่ตัวอย่างในห้องทดลอง” ซึ่งต้องการจะสื่อว่าสังคมหรือผู้ใหญ่ควรจะเลี้ยงดูเด็กให้ปลอดภัย และควรจะเคารพเด็กๆ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ฉันคิดว่านั่นคือข้อความที่ผู้ชมจะได้รับค่ะ

อยากให้แต่ละคนเลือก 3 คำที่อธิบายเหตุผลที่ไม่ควรพลาดชมเรื่องนี้ และเพราะอะไรที่ต้องเป็นคำนี้

ยุนคเยซัง: “ตลก, หักมุม, ความรัก”

ตลก เพราะมันตลกมากจนคุณสงสัยว่าทำไมเวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้

ความรัก เพราะมันเป็นเรื่องราวที่กินใจ

หักมุม เพราะคุณจะไม่รู้จนกว่าจะถึงตอนจบ

พัคซองฮุน: “ตลก, คู่หู, ลุ้นระทึก”

The Kidnapping Day เป็นซีรีส์ที่ประกอบรวมเรื่องราวหลายแนวรวมไว้ด้วยกันเหมือนเป็นเซ็ตของขวัญที่มีของหลายอย่างอยู่ในนั้น คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับความสนุกหลายแบบเลยครับ

คิมชินรก: “เร็ว, หักมุม, เคมี!”

เพราะว่าซีรีส์เรื่องนี้มีพล็อตและการดำเนินเรื่องที่เร็ว มีการหักมุมตลอด แค่ชั่วพริบตาก็มีเรื่องใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว! นอกจากนี้ ฉันคิดว่ามันคงจะน่าเสียดายมากๆ เลยค่ะถ้าคุณพลาดการรับ-ส่งบทสนทนาที่ตรงไปตรงมาสุดๆ ระหว่างมยองจุนกับโรฮี

สามารถลักพาตัวใครก็ได้ 1 คน มาเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทย คุณอยากพาตัวใครมา

ยุนคเยซัง: ภรรยาของผมเลยครับ เพราะผมอยากจะให้เราทั้งคู่ได้พักผ่อนและเยียวยากันและกัน

คิมชินรก: สามีของฉันค่ะ?!

บอกเหตุผลหน่อยว่าทำไมเราถึงควรสมัคร Prime Video Thailand เพื่อมาดูซีรีส์เรื่องนี้ และฝากบอกรักแฟนๆ ชาวไทยหน่อย

ยุนคเยซัง: ซีรีส์เรื่องนี้มีการผสมผสานระหว่างซีรีส์หลากหลายแนวเข้าด้วยกัน ทำให้ไม่น่าเบื่อเลยครับ นอกจากนี้ เรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว อารมณ์ความรู้สึกของพวกเขา และทุกๆอย่าง เมื่อมันมารวมกันแล้ว ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมากๆ ผมเชื่อว่าคุณจะสนุกที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ และในขณะเดียวกันก็ได้รับข้อคิดบางอย่างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังด้วยครับ

พัคซองฮุน: อยากให้จับตาดูเรื่องราวที่คาดไม่ถึงที่จะเกิดขึ้นเมื่อตัวละครแต่ละตัวซึ่งมีบุคลิกที่ชัดเจนมาพบกันให้ดีๆ ครับ รอติดตามได้เลย

คิมชินรก: มันจะเป็นซีรีส์ที่สดใหม่มากๆ เลยค่ะ ทั้งบทสนทนาที่ตอบโต้กันไปมาระหว่างตัวละครผู้ใหญ่กับเด็ก เรื่องหักมุมในแต่ละตอน ไปจนถึงความลับที่ถูกเปิดเผยในท้ายที่สุด รวมถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นในซีรีส์ อยากให้รอติดตามกันนะคะ!

จากในตัวอย่างซีรีส์  แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการลักพาตัวและฆาตกรรม  แต่ดูเหมือนว่าผู้ชมจะได้เห็นความตลกด้วย ระหว่างฉากตลกกับฉากจริงจัง คุณคิดว่าฉากไหนท้าทายมากกว่ากัน อะไรคือสิ่งท้าทายหรือสิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการแสดงอารมณ์ในซีรีส์นี้

ยุนคเยซัง: ฉากตลกแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมพยายามจะนึกว่าจุดไหนบ้างที่คนดูจะมองว่าตลก และต้องแสดงออกมาให้ถูกจังหวะด้วย ผมใช้เวลาคิดและจัดการเรื่องนี้เยอะมาก เพราะถ้าพลาดไปคงไม่ตลก และบรรยากาศในเรื่องก็จะพัง ผมให้ความสำคัญเป็นพิเศษเรื่องการแสดงความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่ที่ลูกกำลังป่วย ผมตั้งใจกับการสร้างตัวละครนี้มากๆ ครับ

The Kidnapping Day, วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023
แฟน ๆ ซีรีส์ต่างคุ้นชินกับภาพลักษณ์ของคุณในมาดที่ดูมีความสุขุม เคร่งขรึม แต่บทบาทในเรื่องนี้ดูจะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง อยากรู้ความท้าทายของคุณในการถ่ายทอดบทบาทนี้

ยุนคเยซัง: ไม่ว่าจะต้องเจอกับตัวละครไหน การแสดงก็เป็นเรื่องยากทุกๆ ครั้งเลยครับ ผมอยากจะดูเป็นธรรมชาติโดยเน้นไปที่ตัวตนของตัวละครมยองจุนเป็นหลัก และผสมบางส่วนที่เป็นยุนคเยซังลงไป แต่สำหรับงานนี้ ผมรู้สึกสนุกไปกับทุกช่วงเวลาก็เพราะโรฮีเลยครับ

คุณเตรียมตัวเองยังไงบ้างในการรับบทครั้งนี้

ยุนคเยซัง: ปกติผมจะต้องจำกัดอาหารทุกครั้งก่อนจะเริ่มแสดง แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกว่าต้องเพิ่มน้ำหนักขึ้นไปอีก เพราะว่าอยากแสดงให้เห็นอดีตของตัวละครอย่างเป็นธรรมชาติผ่านภาพลักษณ์ภายนอกของเขา งานนี้ผมเลยกินเยอะแบบสบายใจเลยครับ! ผมแฮปปี้มาก! แล้วหลังจากนั้นผมก็ลดน้ำหนัก 13 กิโลฯ ทันที่ที่ถ่ายเสร็จเลย

ดูจากพล็อตแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนแนวคิด Stockholm syndrome ในฐานะที่คุณรับบทโจรลักพาตัวที่มีเหตุผลอันเจ็บปวดเบื้องหลัง คุณตีความตัวละครของคุณยังไง และคุณเลือกที่จะแสดงด้านไหนของตัวละครคิมมยองจุนออกมาให้ผู้ชมได้เห็น

ยุนคเยซัง: ผมคิดว่าเราแต่ละคนมีเหตุผลของตัวเองครับ ผมก็เลยพยายามที่จะแสดงสถานการณ์ที่ตัวละครต้องเจอออกมาให้ผู้ชมได้เห็น แต่อาชญากรรมก็คืออาชญากรรม และเป็นสิ่งยอมรับไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามนะครับ

คุณมักจะได้เล่นเป็นตัวละครที่ดูเท่และมีเสน่ห์ แต่คราวนี้ ตัวละครของคุณเป็นพ่อจอมซุ่มซ่ามที่กลายเป็นโจรลักพาตัว สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการเล่นบทบาทพ่อในเรื่องนี้คืออะไร คุณเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับกับตัวละครได้ยังไงบ้าง

ยุนคเยซัง: ผมพยายามใส่ความพิเศษของมยองจุนลงไปอย่างเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่ความเป็นมยองจุนที่มีร่างกายกำยำแข็งแรง ความรู้ที่อาจจะไม่มากนักของเขา ผมยาวๆของเขา คำพูดของเขา ฯลฯ แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่จุดจุดเดียว ผมหวังว่าตัวตนของเขาจะแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ผ่านองค์ประกอบต่างๆ ที่หลอมรวมเข้าด้วยกัน

ในฐานะนักแสดงรุ่นพี่ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับนักแสดงรุ่นน้องยูนา (ซึ่งได้รับเลือกจากการออดิชั่นของผู้สมัครถึง 500 คน) จากการทำงานร่วมกัน? คุณอยากจะชื่นชมเธอในเรื่องอะไรบ้าง? หรือคุณพอจะบอกเราได้ไหมว่าการได้ร่วมงานกับเธอเป็นอย่างไร และเคมีระหว่างคุณกับเธอเป็นอย่างไรบ้าง? คุณสร้างสายสัมพันธ์กับเธออย่างไร? ได้ซื้อของขวัญและขนมของเธอด้วยไหม

ยุนคเยซัง: ยูนาเก่งที่สุดเลยครับ ซีรีส์เรื่องนี้จะพิสูจน์ให้เห็นในจุดนี้ สิ่งเดียวที่ผมพูดได้เกี่ยวกับการทำงานร่วมกับเธอคือมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก การได้เห็นยูนาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผม… เธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ

The Kidnapping Day, วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023
อะไรคือเรื่องท้าทายที่สุดในการแสดงร่วมกับนักแสดงเด็ก คุณมีโมเมนต์ไหนบ้างที่น่าจดจำระหว่างการถ่ายทำร่วมกับเธอ

ยุนคเยซัง: ในเรื่องจะมีฉากสะเทือนอารมณ์ของยูนาอยู่ฉากนึง ซึ่งอยู่ในช่วงครึ่งหลังของซีรีส์ครับ ผมจะแทบรอวันที่ผู้ชมได้ดูฉากนั้นไม่ไหวแล้ว มันเป็นฉากที่ทำให้ผมตกใจ (ในทางที่ดี) และก็สร้างแรงบันดาลใจให้ผมมากๆ

3 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับ The Kidnapping Day ที่ถ้าคนดูที่รู้แล้วจะสนุกไปกับซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งกว่าเดิม คืออะไรบ้าง

ยุนคเยซัง: เรื่องแรกคือสาเหตุการลักพาตัวครับ เรื่องที่สองคือใครเป็นฆาตกร และเรื่องสุดท้ายก็คือความฉลาดของโรฮี

พัคซองฮุน: ยุนคเยซัง ยูนา และคิมชินรกครับ ผมแน่ใจว่าแค่ได้ดูนักแสดงทั้งสามคนนี้แสดง คุณก็สนุกสุดๆ แล้วล่ะครับ

สิ่งที่คุณประทับใจมากที่สุดในการทำงานในโปรเจ็กต์นี้คืออะไร?

ยุนคเยซัง: ความสามารถของของนักแสดงยูนาครับ ผมรู้สึกว่าอายุไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับนักแสดง ผมรู้สึกดีและได้รับแรงกระตุ้นที่ดีมากๆ และก็หวังด้วยว่าสักวันเราจะได้พบกันและแสดงร่วมกันอีก

พัคซองฮุน: ทักษะการแสดงของบรรดานักแสดงเด็กที่ร่วมแสดงในซีรีส์ครับ ผมดูการแสดงของพวกเขาแล้วรู้สึกชื่นชมมากๆ ผมกล้าพนันเลยว่าพวกเขาจะเติบโตเป็นนักแสดงที่ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต

ในปีนี้คุณได้แสดงในซีรีส์หลายเรื่อง ตัวละครตัวนี้แตกต่างจากตัวละครก่อนหน้าของคุณยังไงบ้าง (เช่นตัวละคร Jae-won จากเรื่อง Not Others) และอะไรคือสิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นหรือต้องรอจับตาดูในซีรีส์เรื่องนี้

พัคซองฮุน: ผมคิดว่าในฐานะนักแสดง การที่เรามีโอกาสได้เล่นเป็นตัวละครที่แตกต่างกันในแต่ละงานคือความโชคดีมากๆ อย่างหนึ่งเลยครับ มีผู้ชมที่ชื่นชอบซีรีส์เรื่องก่อนๆ ของผม และชอบตัวละครของผม มันจึงเป็นแรงผลักดันให้ผมทำงานและก้าวต่อไปข้างหน้า บางครั้งเราก็ได้บทตัวร้าย บางครั้งก็ได้บทคนดี แต่ที่แน่ๆ คือนักแสดงจะได้เจอกับผู้ชมด้วยใบหน้าและตัวละครใหม่ๆ ที่ต่างออกไปเสมอ ดังนั้นผมจึงหวังว่าคุณจะได้เห็นและรู้สึกเห็นอกเห็นใจตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง ใน “Not Others” ซีรีส์เรื่องที่แล้ว ผมรับบทเป็นอึนแจวอน หัวหน้าสถานีตำรวจ ในคราวนี้ผมก็ได้รับบทบาทตำรวจเหมือนกัน แต่เป็นตำรวจที่มีหน้าที่เป็นนักสืบ เขาเป็นผู้นำในการคลี่คลายคดีและมีบทแอ็คชั่นด้วยในหลายตอน ดังนั้นผมก็เลยคิดว่ามันเป็นบทมีเสน่ห์และมีการเคลื่อนไหวมากกว่า

ในระหว่างการถ่ายทำในกองถ่าย อะไรที่ทำให้คุณมีความสุขที่สุด และอะไรที่ทำให้คุณพารานอยด์ได้มากที่สุด

พัคซองฮุน: ผมไม่ได้เจอเรื่องชวนพารานอยด์อะไรเลยครับ ผมสนุกไปกับช่วงเวลาที่อยู่ในกองถ่ายมากๆ นอกจากนี้ผลงานก็ออกมาเสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยความพยายามของนักแสดงและทีมงานทุกคน และผมก็รู้สึกดีใจมากๆ ตอนที่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ออกมา

The Kidnapping Day, วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023
ที่ผ่านมาคุณได้แสดงในบทบาทที่หลากหลายมาก อยากรู้ว่าคุณใช้เกณฑ์อะไรในการเลือกรับงานแสดงแต่ละครั้ง?

คิมชินรก: เกณฑ์ของฉันคือ ฉันจะคิดว่าการรับบทนี้จะมีอะไรใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้และเข้าใจในฐานะมนุษย์ไหม หรือจะมีอะไรที่ฉันสามารถท้าทายตัวเองในด้านการแสดงได้หรือเปล่า

ที่ผ่านมาคุณเคยรับบทเป็นตัวละครที่หลากหลายและแสดงออกมาได้ดีเสมอ อยากทราบว่าตัวละครของคุณในซีรีส์เรื่องนี้ แตกต่างจากตัวละครตัวอื่นๆ ที่ผ่านมาของคุณอย่างไรบ้าง?

คิมชินรก: ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่ประเมินสิ่งที่เป็นจริงและเท็จปะปนกัน ไม่ใช่แค่ในสายตาของคนอื่นเท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมถึงตัวเธอเองด้วย ทั้งคำพูด การกระทำ การตัดสินใจ และอารมณ์ความรู้สึกของเธอ มันจริงทุกขณะเลย แต่สิ่งเหล่านั้นมันจริงหรือเท็จกันแน่ นั่นแหละที่ไม่ชัดเจน

คาแรคเตอร์ของคุณในเรื่องนี้ดูลึกลับมาก และดูเหมือนว่าจะเป็นตัวละครสำคัญที่ส่งผลต่อเรื่องราวด้วย อยากให้ช่วยบอกใบ้เกี่ยวกับตัวละครนี้สักหน่อยว่าเป็นคนยังไง และส่วนตัวคุณคิดว่าตัวละครซอฮเยอึนมีความเหมือนหรือแตกต่างกับตัวจริงของคุณยังไงบ้าง

คิมชินรก: การเล่าที่มาที่ไปของตัวละครซอฮเยอึนอาจจะเป็นการสปอยล์ซีรีส์ทั้งเรื่องได้เลยค่ะ (หัวเราะ) ฉันคิดว่าเธอเป็นตัวละครที่สำคัญมากในแง่ของการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวฉันเป็นคนที่มักจะระวังไม่ให้ตัวเองรู้สึกทุกข์นานเกินไป แต่ซอฮเยอึนกลับจมดิ่งอยู่กับความทุกข์ของตัวเอง ซึ่งการที่เธอหมกมุ่นอยู่กับความทุกข์นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้ตัวละครตัวนี้มีสีสันและน่าสนใจ

The Kidnapping Day, วันลักพาตัว, ยุนคเยซัง, พัคซองฮุน, คิมชินรก, ซีรีส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ส์เกาหลีใน Prime Video, ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video, Prime Video, ซีรีส์เกาหลี, ซีรี่ส์เกาหลี, ซีรี่ย์เกาหลี, ซีรีส์เกาหลี 2023, ซีรี่ส์เกาหลี 2023, ซีรี่ย์เกาหลี 2023

.

.

TEXT : ImJinah

PHOTO : Prime Video

.

.

.

อัพเดตข่าวบันเทิงเอเชีย ซีรี่ย์เอเชีย ดาราเอเชีย ไอดอลเอเชียได้อีกเพียบที่สุดสัปดาห์ค่ะ

สัมภาษณ์พิเศษ พัคแฮจิน – อิมจียอน – พัคซองอุง : สามนักแสดงซีรีส์เกาหลีเรื่อง The Killing Vote

จับเข่าคุยกับ โจ๊ก โซคูล & มาร์ช จุฑาวุฒิ ถึงเบื้องหลังความฮาของ “ภารกิจฮาแหกเกาะ” ออริจินัลเรื่องแรกของไทยจาก Prime Video

คิมแทฮีเปิดใจถึงการกลับมารับบทแม่อีกครั้งใน Lies Hidden in My Garden

Exclusive Interview นักแสดง Tale of the Nine Tailed 1938 การกลับมาแบบสุดปัง คิมบอมเผยซีซั่นนี้ความสัมพันธ์ของพี่น้องอียอนและอีรังจะเป็นแบบไหน?!?

ยูอินนาพูดถึงมุมมองที่มีต่อความรัก และบทบาทโค้ชด้านการออกเดทในซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง True to Love !!!

สัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ 5 สมาชิกรายการ Jinny’s Kitchen กับเรื่องลับๆ เบื้องหลังการถ่ายทำ!

สัมภาษณ์พิเศษนักแสดง Curtain Call จองจีโซแชร์โมเมนต์ที่ได้มาเจอกับฮาจีวอนในรอบ 9 ปี

Lies Hidden in My Garden & Battle for Happiness ลง Prime Video จับตาการกลับมาของคิมแตฮี-อิมจียอน-อีเอล!

5 เหตุผลที่เราไม่ควรพลาด ซีรี่ย์เกาหลี Island #สัมภาษณ์ส่งตรงจากโซล!

ส่องคาแร็กเตอร์ตัวละครของเรื่อง Island ซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video ใครรับบทเป็นอะไรบ้าง?!?

สาวกเกาหลีเตรียมจด! ลิสต์หนังและซีรี่ย์เกาหลีใน Prime Video เรื่องเก่าและเรื่องใหม่สุดปังเพียบ!

ติ่งน้อยร้อยแอปฯ ! แอปสตรีมมิ่งใหม่มาอีกแล้ว Prime Video เปิดตัวเอาใจคอเกาหลีด้วยซีรี่ย์เกาหลี ANNA

คิมแจยองอวยพัคมินยองสมกับเป็น “รอมคอมควีน” สอนเรื่องสกินชิพและความรู้สึกของพัคมินยองเกี่ยวกับฉายานี้!

ซูจี กลับมาแล้ว รับบทสุดท้าทายในซีรี่ย์เกาหลี ANNA มาพร้อม 2 ลุคที่ต่างกันสุดขั้ว!

ชาอึนอูพลิกบทบาทครั้งสำคัญใน Island และ Decibel กับเบื้องหลังความทุ่มเทเพื่อการแสดง!

ฟาร์มาแคร์

ผู้บริหารฟาร์มาแคร์เผยทิศทางธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่อยากแนะนำคนยุคดิจิทัล

Alternative Textaccount_circle
event
ฟาร์มาแคร์
ฟาร์มาแคร์

บริษัท ฟาร์มาแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวใหม่ภายใต้แบรนด์ Nature’s Way กับ ลูทีนและซีแซนทีน ไวต้ากัมมี่ส์ ที่กำลังจะบุกตลาดไทยในปีนี้ เพื่อตอบรับเทรนด์การดูแลสุขภาพหลังสถานการณ์โควิด 19 ที่ผู้บริโภคหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น รวมทั้งให้ความสนใจกับการหาข้อมูลสุขภาพก่อนตัดสินใจ

เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ฟาร์มาแคร์ (ประเทศไทย)จำกัด ได้จัดงานอีเวนต์เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากแบรนด์ Nature’s Way ให้กับผู้จัดจำหน่ายและผู้ที่สนใจ โดยมุ่งเน้นการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพื่อวางแนวทางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องข้อมูลและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งมีแนวโน้มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพอย่างระมัดระวังมากขึ้นก่อนตัดสินใจ

ในโอกาสนี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณลีลาวดี ทองตัน Country Manager ของบริษัท ฟาร์มาแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Nature’s Way จากประเทศออสเตรเลียถึงเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนไทย ทิศทางของตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทย ตลอดจนผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของบริษัทที่นำเข้ามาทำตลาดให้คนไทยได้รู้จัก อย่าง ลูทีนและซีแซนทีน

ฟาร์มาแคร์
คุณลีลาวดี ทองตัน Country Manager ของบริษัท ฟาร์มาแคร์ (ประเทศไทย) จำกัด

เหตุผลที่เลือกนำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มลูทีนและซีแซนทีนเข้ามาในตลาดไทย

ทั้งนี้ หลังจากที่ได้ทดลองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์เนเจอร์สเวย์ (Nature’s Way) จากประเทศออสเตรเลีย รู้สึกชื่นชอบในคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของการดูแลดวงตา รวมทั้งคุณภาพแบรนด์ของออสเตรเลีย จึงได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของลูทีนและซีแซนทีน เข้ามา เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพดวงตาของคนไทยที่หลายคนอาจมองข้าม เพราะดวงตาเป็นอวัยวะหนึ่งที่มักไม่ได้รับการดูแลใส่ใจเท่าที่ควร บางครั้งเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาแล้วจึงค่อยหันกลับมาดูแลใส่ใจซึ่งอาจจะสายเกินไป 

การที่โลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีออนไลน์ทำให้ผู้คนมีปัญหาทางด้านสายตาเพิ่มมากขึ้นจากแสงสีฟ้า จากข้อมูล Asia Pacific Eye Health Supplement Market คาดว่าตลาดของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับดวงตาในเอเชียแปซิฟิกจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 6.2% จากปี 2020-2027 ซึ่งมีแนวโน้มมูลค่าการเติบโตถึง 593.12 ล้านดอลลาร์ ในปี 2027

รู้จักลูทีนและซีแซนทีน

สำหรับ ลูทีนและซีแซนทีน เป็นสารสีในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ที่พบได้บริเวณจอประสาทตา (Macular) แต่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถผลิตขึ้นเอง พบมากในดอกดาวเรือง ซึ่งนำมาสกัดเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงสายตา สารสกัดดอกดาวเรือง Lute-gen® ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพสูงที่ผ่านกระบวนผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP / Non-GMO ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นที่ยอมรับ

จากงานวิจัยที่ปรากฎใน International Journal of Ophthalmology Research ปี 2022 ที่มีการศึกษาเกี่ยวกับ การเสริมลูทีนและซีแซนทีน ส่งผลต่อความหนาแน่นของเม็ดสีที่จอประสาทตาในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี เปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก ภายในระยะเวลา 180 วัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับลูทีนและซีแซนทีน มีความหนาแน่นของสารสีที่จอประสาทตาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก การเพิ่มขึ้นของระดับ MPOD (Macular pigment optical density) มีส่วนช่วยให้ลดความเสี่ยงของการทำลายเซลล์จอประสาทตาจากอนุมูลอิระ เช่น แสงแดด แสงสีฟ้าจากจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือ เนื่องจากลูทีนและซีแซนทีนมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในดวงตา

ฟาร์มาแคร์

อ้างอิงข้อมูลวิจัย : (PDF) The effects of lutein and zeaxanthin (Lute-gen®) supplementation, with and without natural mixed carotenoids on macular pigment optical density in healthy adult subjects: A randomized, double-blind, placebo-controlled study (researchgate.net)

ข้อแนะนำในการเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อให้ได้ประโยชน์และปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

การเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควรเลือกที่มีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ ปฎิบัติตามคำแนะนำบนฉลากสินค้าอย่างเคร่งรัด และสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพ โรคประจำตัว หรือสตรีมีครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพื่อให้ได้ประโยชน์และปลอดภัย

‘ALLIE รักผิว รักษ์โลก’

‘ALLIE รักผิว รักษ์โลก’ ร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวริมทะเลอย่างยั่งยืน

account_circle
event
‘ALLIE รักผิว รักษ์โลก’
‘ALLIE รักผิว รักษ์โลก’

บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งมั่นสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตามคอนเซ็ป ALLIE think sustainability, be beautiful “ความงาม เพื่อโลกที่ยั่งยืน”

‘ALLIE รักผิว รักษ์โลก’

ครั้งนี้ ALLIE ร่วมสนับสนุนการท่องเที่ยวริมทะเลเนื่องในวัน National Beach Day “วันชายหาดแห่งชาติ” (30 สิงหาคม 2566) โดยคณะทีมผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ พร้อมด้วยคุณน้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน ศิลปินวัยรุ่นต้นแบบคนรักธรรมชาติ ร่วมทำกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์วิถีชุมชน และความสวยงามของชายหาด ณ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง

อัตสึชิ ซูมิโนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้เราได้มาทำกิจกรรมเพื่อ ‘ชุมชนยั่งยืน’ ที่วิสาหกิจชุมชนแตนบาติก ด้วยการทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ เป็นการสนับสนุนรายได้ให้กับชุมชน อีกทั้งกระบวนการทำผ้ามัดย้อมก็ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการใช้น้ำทะเล และใช้สีจากธรรมชาติมาสร้างสรรค์เป็นของใช้ ของที่ระลึก สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ทั้งนี้ยังได้ทำกิจกรรมเพื่อ ‘ธรรมชาติยั่งยืน’ โดยการร่วมทำความสะอาดชายหาด ณ ริมหาดพลา ต.พลา อ. บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้หาดสวยงามน่าท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังพฤติกรรมการท่องเที่ยวใน แหล่งธรรมชาติที่ดี ภายใต้แนวคิดมาให้น้อยเก็บ(ขยะและความทรงจำ)กลับให้เยอะ เพื่อให้ชายหาดสะอาดสวยงาม ไม่เป็นอันตรายกับสัตว์ในท้องทะเลอีกด้วย  ผมหวังว่าการมาทำกิจกรรมของคาเนโบ และ ALLIE ในวันนี้จะเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ช่วยเผยแพร่ผ้ามัดย้อมบาติก ที่เป็นของที่ระลึกจากชุมชน และช่วยเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวและความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ชายหาดพลาแห่งนี้”

น้ำหนึ่ง-มิลิน ดอกเทียน กล่าวว่า “สำหรับน้ำหนึ่งที่จบการศึกษามาจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลยทำให้สนใจในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ วันนี้รู้สึกยินดีมากๆ และเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้มาร่วมทำกิจกรรมกับแบรนด์กันแดด ALLIE เพื่อสนับสนุนทั้ง ‘ชุมชน’ และ ‘ธรรมชาติ’ ผ่านการท่องเที่ยวสถานที่ที่น่าสนใจในจังหวัดระยองแห่งนี้ค่ะ”

พบกับความงามรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด “ความงาม เพื่อโลกที่ยั่งยืน” ผ่านกิจกรรม “Think Sustainability Action” ร่วมส่งต่อแนวคิดเพื่อความยั่งยืนในครั้งต่อ ๆ ไปกับ ALLIE ที่มีประสิทธิภาพในการกันแดดสูงสุด ด้วย SPF 50+ PA++++ นอกจากนี้ยังกันน้ำ กันเหงื่อ ทนทานแม้เกิดการเสียดสีของเสื้อผ้า พร้อมกับเป็นมิตรต่อท้องทะเลและสิ่งแลดล้อม ปกป้องผิวที่คุณรัก ให้ทุกกิจกรรมไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป

ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่

Guerlain รังสรรค์น้ำหอมคอลเล็กชั่น Aqua Allegoria Forte เผย 3 กลิ่นใหม่ตระกูล Woody เป็นครั้งแรก

มุมมองการทำธุรกิจแบบผู้หญิงและวิธีสงบใจ จาก Melanie Gleeson ผู้ก่อตั้ง endota

คุยกับ ดนัย ดีโรจนวงศ์ ผู้พา MISTINE สู่ตลาดโลก พร้อมส่องบิวตี้ไอเท็มสุดเก๋ที่สาวๆ เทใจให้

เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor

เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE

รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์

INNISFREE

สกินแคร์เกาหลี สู่ไอเท็มโดนใจ Hollywood Green Tea Seed Hyaluronic Serum

Alternative Textaccount_circle
event
INNISFREE
INNISFREE

กลายเป็นเรื่องราวสุดไวรัลชั่วข้ามคืนกันเลยทีเดียว หลังจากที่นักร้อง Hollywood เจ้าของเพลง 400 ล้านวิว ออกงานโชว์ตัวพร้อมกับลุคอวดผิวใสดุจกระจก หรือที่เราเรียกกันคุ้นปากว่า Glass Skin Look ทำเอาหลายคนพูดถึงเป็นวงกว้าง และถามถึงไม้เด็ดที่ใช้งัดลุคนี้ ซึ่งเธอก็ได้

สปอยว่าเคล็ดลับคือการเตรียมผิวที่ดีด้วยไอเท็มจากแบรนด์สกินแคร์เกาหลี ทำเอาหลายคนอึ้งในคำตอบจนเว็บไซต์แฟชั่นก็ต้องออกมาเขียนบทความถึงเรื่องนี้

ช่างแต่งหน้าของนักร้องสาวได้ออกมาเปิดเผยวิธีเตรียมผิวหน้าให้ออกมาดูเรียบเนียนไร้รูขุมขน และให้ลุคฉ่ำโกลว์อวบอิ่ม คือการเตรียมผิวด้วย Green Tea Seed Hyaluronic Serum ไอเท็มจากแบรนด์สกินแคร์เกาหลีอย่าง INNISFREE เซรั่มชาเขียวในตำนาน ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นไอเท็มสุดโปรดของนักร้องสาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หากพูดถึงแบรนด์อินนิสฟรีที่อยู่กับคนไทยมายาวนานถึง 8 ปี ก็ต้องนึกถึงสกินแคร์ตัวดังอย่าง Green Tea Seed Hyaluronic Serum เซรั่มให้ความชุ่มชื้นเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว จากการผสมผสานระหว่างกรดไฮยาลูโรนิกและชาเขียว ล็อคความชุ่มชื้นได้มากขึ้นถึง 72 ชั่วโมง ที่มียอดขายมากกว่า 30 ล้านขวด และทุกคนต่างพูดกันว่าเป็นไอเท็มที่ต้องมี

สุดสัปดาห์ก็ไม่พลาดที่จะบอกต่อสกินแคร์ที่ตัวแม่ Hollywood แนะนำ ที่ไม่ว่าใครก็มีผิวหน้าเรียบเนียน ดูชุ่มชื่น จะแต่งหน้าลุคไหนผิวก็ปังแบบนี้ได้ ไปหาตำกันได้แล้วนะ ที่อินนิสฟรีทุกสาขา

STAR HUNTER ENTERTAINMENT จัดเอ็กซ์คลูซีฟโปรเจ็กต์ STAR MARATHON CAMP

account_circle
event

ค่าย STAR HUNTER ENTERTAINMENT จัดเอ็กซ์คลูซีฟโปรเจกต์ STAR MARATHON CAMP เปิดคลาส SuperStar วันที่ 16 – 20 ตุลาคม นี้ กับครูผู้สอนมากประสบการณ์ด้านวงการบันเทิงกว่า 20 ปี การันตีคุณภาพโดย ครูต้า วิทวัส

STAR HUNTER ENTERTAINMENT 
ครูต้า – วิทวัส สังสะกิจ ที่ปรึกษาด้านการผลิต STAR HUNTER และกรรมการผู้จัดการ HUNTER VILLAGE และ คุณโอ๋ ยชญ กรณ์หิรัญ ผบ. STAR HUNTER

เมื่อ 2 หน่วยงาน HUNTER VILLAGE ที่บริหารจัดการด้าน Entertainment Training Hub พื้นที่ของคนมีแพสชันสู่วงการบันเทิง เปิดบริการให้เช่าพื้นที่ในการฝึกซ้อมร้อง เต้น การแสดง ห้องจัดรายการ และกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบครบครัน ร่วมกับ STAR HUNTER ACADEMY สถาบันฝึกฝน พัฒนาศักยภาพของดารานักแสดงและศิลปินนักร้อง ภายในค่าย STAR HUNTER ENTERTAINMENT รวมไปถึงการเปิดเป็นสถาบันฝึกสอนด้าน Entertainment  แก่ผู้สนใจภายนอก บริหารภายใต้ บริษัท STAR HUNTER ENTERTAINMENT จำกัด ได้จัดเอ็กซ์คลูซีฟแคมป์ที่จะทำให้ผู้สมัครมีโอกาสได้พบปะกับผู้จัดซีรีส์ชื่อดัง และครูที่มีประสบการณ์ในด้านสอนการแสดง ร้องเพลง เต้น แบบพิเศษ โดย ครูต้า – วิทวัส สังสะกิจ ที่ปรึกษาด้านการผลิต บริษัท สตาร์ ฮันเตอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ HUNTER VILLAGE ที่มีประสบการณ์การเป็นครูสอนการแสดงให้กับดารานักแสดงและศิลปินนักร้องชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นอาจารย์พิเศษประจำภาควิชาวาทวิทยาและสื่อสารการแสดง คณะนิเทศศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ควบคุม โปรเจ็กต์ STAR MARATHON CAMP ที่จะเปิดแคมป์ในวันที่ 16 – 20 ตุลาคม 2566 ณ HUNTER VILLAGE ชั้น 3 โซน D ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ (MBK Center) สมัครด่วนวันนี้!

ครูต้า – วิทวัส สังสะกิจ เผยว่า… “สำหรับโปรเจกต์ STAR MARATHON CAMP ที่เปิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นการจัดเอ็กซ์คลูซีฟแคมป์ สำหรับบุคคลที่สนใจงานวงการบันเทิง ทั้งด้านการแสดง การเป็นนักร้อง หรือ นักเรียน นักศึกษา ที่อยู่ในช่วงปิดเทอม และอยากหากิจกรรมทำ โดยแคมป์นี้เปิดรับผู้สมัครที่มีอายุ 14 ปีขึ้นไป ซึ่งจะได้ฝึกอบรมเป็นเวลาติดต่อกัน 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม ไปสิ้นสุดในวันที่ 20 ตุลาคม มีคุณครูผู้สอนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินดังมากมาย ที่จะมาร่วม WORKSHOP ซึ่งจะสอนการแสดง ร้องเพลง เต้น ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง/วัน ได้ ครูไก่ – พนิชษ์ภรณ์ เเตงเจริญ มาสอนด้านการแสดง (Acting Coach), ครูเบนซ์ – โฆษิต รัตนวิมล ครูสอนร้องเพลงและการใช้เสียง (Vocal Coach), ครูต้นไม้ – ธนิต มาลัยทอง ครูสอนเต้น (Choreographer) มาให้ความรู้ในคลาส Superstar นี้

และอีก 1 ความพิเศษของแคมป์นี้ ยังมีโอกาสได้พบกับนักแสดงมีชื่อเสียงที่จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์ในวงการบันเทิง โดยวันสุดท้ายจะมีการจัดบรรยากาศการออดิชั่นจริงๆ ให้กับผู้เข้าเรียนทุกท่านได้โชว์ความสามารถทั้งการแสดง ร้องเพลง เต้น ต่อหน้าคณะกรรมการ อาทิ ผู้จัดซีรีส์ ทีมแคสติ้ง แอ็กติ้งโค้ช โมเดลลิ่ง ที่จะมาร่วมชมการแสดง พร้อมมอบ ใบ Certificate จาก STAR HUNTER ACADEMY ให้ในช่วงท้าย และผู้เข้าร่วมแคมป์ครั้งนี้จะได้ถ่ายรูป Profile เพื่อนำไปทำ Port อีกด้วยครับ

STAR MARATHON CAMP รับจำนวนจำกัด! ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 062-165-2196 

อัพเดตและติดตามความเคลื่อนไหวค่าย Star Hunter Entertainment ได้ทาง

Website :                                                           https://starhunterent.com/

Facebook Fanpage :     Star Hunter Entertainment     https://www.facebook.com/starhunterstudio/

Youtube :                  Star Hunter Entertainment       https://youtube.com/@StarHunterEntertainment

Instagram :                @starhunter_entertainment      https://instagram.com/starhunter_entertainment

Twitter :                    @starhunter_ent                    https://twitter.com/starhunter_ent

TikTok :                    @starhunter_ent                    https://www.tiktok.com/@starhunter_ent

อัพเดทช่องทางออฟฟิเชียล HUNTER VILLAGE ได้ทาง

Instagram :                @huntervillage.official             https://instagram.com/huntervillage.official

Twitter :                    @HunterVillage_                   https://x.com/huntervillage_

FWD ประกันชีวิต

FWD ประกันชีวิต ชูแนวคิด “FWD Health Companion” นิยามใหม่แห่งบริการด้านสุขภาพ

account_circle
event
FWD ประกันชีวิต
FWD ประกันชีวิต

FWD ประกันชีวิต สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ด้วยแนวคิด FWD Health Companion ด้วยบริการที่แตกต่าง กับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน พร้อมการบริการด้วยเทคโนโลยีที่สะดวกรวดเร็วระหว่างการเคลม และเคียงข้างแบ่งเบาในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือและกำลังใจ

นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต” หรือ “FWD ประกันชีวิต”) กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และคัดสรรบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยแนวทางการทำงานที่ยึดลูกค้าเป็นหลัก (Customer led) เราจึงคิดในมุมลูกค้า และทำในสิ่งที่แตกต่างออกไปจากเดิม พัฒนาทุกอย่างขึ้นจากการรับฟังและศึกษาข้อมูลลูกค้าในเชิงลึก พบว่าลูกค้าที่ซื้อประกันทุกคนต้องการมีสุขภาพที่ดี และหากเกิดการเจ็บป่วยขึ้น นอกเหนือจากความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังต้องการความสะดวกสบาย และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เราจึงมอบการดูแลที่เหนือกว่าการทำประกัน ภายใต้แนวคิด FWD Health Companion นิยามใหม่แห่งการดูแลสุขภาพทั้งกายใจแบบครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การดูแลแบบ 360 องศา”

นางสาวอลิสา อารีพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากแนวคิด FWD Health Companion เราพร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนเคลม (Pre-Claim) ระหว่างเคลม (Claim) และหลังการเคลม (Post-Claim)

“พร้อมเปิดตัว “FWD MyWell” The ultimate health solutions กับบริการพิเศษที่ส่งเสริมสุขภาพกายใจในเชิงป้องกัน ด้วยการมอบประสบการณ์พิเศษนอกเหนือจากความคุ้มครองตามกรมธรรม์ ครอบคลุมถึง 4 ด้าน ได้แก่
• Live Well นวัตกรรมบริการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน การดูแลด้านการยศาสตร์ (Ergonomics) และการเข้าถึงแพทย์ทางเลือก เช่น การรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม การกดจุด ฝังเข็ม
Future Well นวัตกรรมโปรแกรมการดูแลสุขภาพตั้งแต่เริ่มต้น ด้วยบริการตรวจสุขภาพประจำปี และโปรแกรมการตรวจขั้นสูงที่วิเคราะห์อย่างละเอียดลงลึก เช่น การตรวจวัดอายุและความเสื่อมสภาพของเซลล์ (Telomere Length) โปรแกรมตรวจคัดกรองภาวะสมองเสื่อม (อัลไซเมอร์)
Family Well ห่วงใยทั้งลูกค้าและครอบคลุมไปถึงคนที่รัก (โอนสิทธิ์ให้กันได้) กับบริการตรวจทั้งตา หู ช่องปาก การฉีดวัคซีนป้องกันโรค บริการตรวจความหนาแน่นของกระดูก หรือการทดสอบภูมิแพ้ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลด้วยการจัดสรรโปรแกรมตรวจที่หลากหลาย
Extra Well ครอบคลุมยิ่งขึ้นด้วยสิทธิประโยชน์ส่วนลดพิเศษจากพันธมิตรด้านสุขภาพชั้นนำ อาทิ โปรแกรมการออกกำลังกาย โยคะ พิลาทิส

“และยังมีบริการพิเศษ “FWD Utmost” Where wealth meets well-being เอกสิทธิ์แห่งการดูแลสุขภาพและการใช้ชีวิตเหนือระดับ เพื่อให้ลูกค้าดูแลสุขภาพควบคู่กับการวางแผนการเงิน ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล ด้วยบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้านไลฟ์สไตล์ พร้อมผู้ช่วยส่วนตัว สำหรับลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน
พร้อมด้วย “Mind Strength Support Programme” บริการพิเศษดูแลสุขภาพทางใจที่ให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจสามารถพูดคุยรับคำปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและประเมินความแข็งแกร่งทางใจ พร้อมรับชมวิดีโอ Mind Master Class ซีรีส์เสริมเกราะให้ใจแกร่ง

“นอกจากนี้ เรายังมีบริการพิเศษ FWD Care recovery plan ที่พร้อมแบ่งเบาลูกค้าและครอบครัวในช่วงเวลาที่ต้องการความช่วยเหลือและกำลังใจ หลังการอนุมัติเคลมกรณีเสียชีวิต หรือโรคร้ายแรงระยะรุนแรง หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง กับ 8 บริการช่วยเหลือพิเศษ ที่คัดสรรมาอย่างใส่ใจ เพราะเราคิดอย่างคนที่เข้าใจ และปรับเปลี่ยนมุมมองไปตามความต้องการของลูกค้า”

ผู้ที่สนใจดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.fwd.co.th หรือwww.facebook.com/FWDThailand

*หมายเหตุ – บทความนี้เป็นการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเท่านั้น หากสนใจโปรดตรวจสอบเงื่อนไขกับทางบริษัทอย่างละเอียดอีกครั้ง

ยูนิโคล่ ปรับโฉมร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์

ยูนิโคล่ ปรับโฉมร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ สู่ประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส ฉลองสาขาใหญ่ที่สุดของยูนิโคล่ ประเทศไทย

Alternative Textaccount_circle
event
ยูนิโคล่ ปรับโฉมร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์
ยูนิโคล่ ปรับโฉมร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์

ยูนิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลก ฉลองเปิดร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ โฉมใหม่ มอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสให้ลูกค้าชาวไทย ชูจุดเด่นด้านบริการระดับมาตรฐานของยูนิโคล่ที่เหมือนกันทุกสาขาทั่วโลก และไอเท็มครบครันที่สุด ทั้งไอเทมหลักและคอลเลคชันพิเศษ พร้อมเปิดให้บริการอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน 2566 ที่ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

ยูนิโคล่
ยูนิโคล่

มร. โยชิทาเกะ วาคากุวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยูนิโคล่เข้ามาแนะนำให้ชาวไทยรู้จักตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งสาขาแรกที่เราเลือกแนะนำตัวกับชาวไทยคือที่ยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ นับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และชาวไทยได้คุ้นเคยกับไอเทมไลฟ์แวร์ (LifeWear) ของยูนิโคล่มากขึ้นจากสาขาแรกสู่สาขาต่างๆ ทั่วประเทศ ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับยูนิโคล่ และยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ก็เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญของยูนิโคล่ในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยในด้านความครบครันและหลากหลาย และมีลูกค้าทั้งชาวไทย-ต่างประเทศมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ด้วยความเป็น Global destination ของเซ็นทรัลเวิลด์ จึงนับเป็นสาขาที่มีความสำคัญอย่างมากกับยูนิโคล่ทั้งในด้านการสร้างความรับรู้ของแบรนด์ และการมอบประสบการณ์ให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงไอเทมไลฟ์แวร์ของเรา ยูนิโคล่จึงปรับปรุงร้านยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ครั้งใหญ่ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาเพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ และวันนี้เราพร้อมแล้วที่จะนำเสนอร้าน ยูนิโคล่ที่จะมอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสให้กับทุกท่านที่แวะมาทักทาย ด้วยพื้นที่ร้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกว่า 3,370 ตารางเมตร มอบไลน์อัพของไอเทมไลฟ์แวร์ที่ครบครันที่สุด รวมไปถึงรูปแบบร้านอันน่าตื่นตา และการบริการใหม่ๆ ครั้งแรกในประเทศไทย ยูนิโคล่จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนลองมาสัมผัสความพิเศษที่เราได้คัดสรรมาเพื่อยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์ไปด้วยกัน ตั้งแต่ 28 กันยายนนี้เป็นต้นไปครับ”

ยูนิโคล่

และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์โฉมใหม่หลังจากปิดปรับปรุงไปมากกว่า 6 เดือน ยูนิโคล่ได้สร้างสรรค์แคมเปญเพื่อสะท้อนถึง ประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสจากยูนิโคล่ผ่านทั้งไอเท็มไลฟ์แวร์ และการบริการที่เหนือระดับ เพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้มากกว่า หรือ CELEBRATING WORLD CLASS, YOUR TIME IS NOW ผ่านคนไทยผู้สร้างแรงบันดาลใจจากหลากหลายวงการสู่มาตรฐานระดับเวิลด์คลาส ทั้ง ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์ แบรนด์พรีเซนเตอร์ของยูนิโคล่ ประเทศไทย นักแสดงมากความสามารถผู้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงด้วยฝีมือการแสดงอันโดดเด่น คว้ารางวัลมาแล้วทั้งในและต่างประเทศ, เคน – นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ บรรณาธิการบริหารสำนักข่าว THE STANDARD ผู้ปลุกปั้นสื่อจากประเทศไทย สู่การนำเสนอแง่มุมข่าวสาร และผ่านการทำงานระดับสากลมาอย่างมากมาย ปลา – อัจฉรา บุรารักษ์ ผู้ก่อตั้ง   แบรนด์ และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ไอเบอร์รี่ กรุ๊ป ผู้สร้างสรรค์อาหารที่นำเอาความเป็นไทยยกระดับสู่ความเป็นสากล และ ตอง – กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นักฟุตบอล ตำแหน่งผู้รักษาประตู ผ่านประสบการณ์ระดับสากล นักกีฬาผู้ทุ่มเททั้งในและนอกสนามเพื่อเป้าหมายในการสร้างมาตรฐานให้คนทั่วโลกจดจำนักฟุตบอลไทย

ยูนิโคล่

สัมผัสประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส ให้คุณใช้ชีวิตได้มากกว่า CELEBRATING WORLD CLASS, YOUR TIME IS NOW กับยูนิโคล่ เซ็นทรัลเวิลด์โฉมใหม่ พร้อมกันในวันที่ 28 กันยายน 2566 นี้ เป็นต้นไป ทั้งบริการใหม่ อาทิ Re.UNIQLO Studio, Self Check out, Gift Card และความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ อาทิ ศิลปินชาวไทย อย่าง Shared Toy, YOON PHANNAPAST, BHBH และ JARB ในคอลเลคชัน UTme! Giftcard และของสมนาคุณ หรือ การร่วมมือกับ ยามาซากิ ในการแจกขนมปังถั่วแดงเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่มารอใช้บริการร้านยูนิโคล่ เช่นเดียวกับการเปิดร้านยูนิโคล่ในอดีตที่ประเทศญี่ปุ่นที่จะมีการมอบอาหารเช้าเช่นขนมปัง หรือ เครื่องดื่มเพื่อเป็นของแสดงคำขอบคุณสำหรับลูกค้า

และพบกิจกรรมสุดพิเศษระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2566 ถึง 1 ตุลาคม 2566 นี้ ที่ลาน Central Court (ลานลิฟต์แก้ว) ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบกับความพิเศษมากมาย อาทิ โซนถ่ายภาพ โซนกิจกรรมบูธ UNIQLO APP ให้คุณลุ้นรับกระเป๋า Work & Travel Bag เมื่อร่วมกิจกรรมนอกจากนี้ยังมีไฮไลท์พิเศษ กิจกรรมอัปเดตเทรนด์พิเศษ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2566 – 1 ตุลาคม 2566

นอกจากนี้ ยูนิโคล่ขอส่งผ่านคำขอบคุณคุณลูกค้าทุกท่านผ่านเซ็ตของขวัญสุดพิเศษ 2 เซ็ต ในระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 ที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขาไม่รวมยูนิโคล่ออนไลน์สโตร์ ประกอบไปด้วย;

เซ็ตของขวัญที่ 1 – ขนมปังถั่วแดง จาก ยามาซากิ และน้ำดื่มตราสิงห์ สำหรับร้านยูนิโคล่ 38 สาขา

เซ็ตของขวัญที่ 2 – พัดลายพิเศษ และน้ำดื่มตราสิงห์ สำหรับร้านยูนิโคล่ 25 สาขา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและความพิเศษอื่นๆ ของร้านยูนิโคล่เซ็นทรัลเวิลด์โฉมใหม่ได้ที่ https://s.uniqlo.com/uniqlo-ctw_fb0918

#CelebratingWorldClassYourTimeIsNow #UniqloThailand #UniqloCentralworld

แพทย์แนะ How-to ดูแลสุขภาพหญิงทั้งกาย-ใจ พร้อมทริคเฉพาะสำหรับทุกช่วงวัย

Alternative Textaccount_circle
event

     รพ. วิมุต ผุดแคมเปญใหญ่ “The Power of Women” รับเทรนด์ SHEconomy เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้หญิงไทยทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น พร้อมเชิญแพทย์ให้ความรู้ด้านสุขภาพผู้หญิงทั้งกายใจ

โรงพยาบาลวิมุต เปิดแคมเปญ “The Power of Women” อย่าให้การใช้ชีวิตต้องสะดุดเพราะเรื่องสุขภาพ เร่งส่งต่อพลังความเป็นที่สุดของผู้หญิงด้วยการนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์และบริการเฮลแคร์ในแบบองค์รวมสำหรับผู้หญิงทุกวัย เดินหน้าเจาะตลาดกำลังซื้อผู้หญิง พร้อมหนุนเทรนด์ตัวแม่ (SHEconomy) หรือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยผู้หญิง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์มาแรง

     โดยโรงพยาบาลวิมุต คาดจะมียอดผู้ใช้บริการในกลุ่มผู้หญิงเพิ่มขึ้นอีก 30% หลังปล่อยแคมเปญ พร้อมเร่งปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดและสังคม ชี้ผู้หญิงมีกำลังซื้อมหาศาลและเป็นกลุ่มที่พร้อมลงทุนกับการดูแลร่างกายและจิตใจของตนเองในทุกช่วงของชีวิต โดยเฉพาะในการลงทุนเรื่องสุขภาพ

SHEconomy เมื่อผู้หญิงมีบทบาททางเศรษฐกิจมากขึ้น

The Economist Intelligence Unit องค์กรวิจัยในสหรัฐฯ คาดว่าในปี 2573 กำลังซื้อของผู้หญิงทั่วโลกจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปอยู่ที่ราวๆ 46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ในปี 2557 มีมูลค่าอยู่ที่ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.0% โดยเทรนด์ SHEconomy ที่กำลังมาแรงมีปัจจัยหนุนจาก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ

1) ตลาดผู้หญิงในกลุ่ม Millennials ที่มีกำลังซื้อสูงและกล้าใช้จ่าย

2) บทบาทของผู้หญิงที่เด่นชัดขึ้นในตลาดแรงงาน ทำให้สามารถสร้างรายได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต

3) ผู้หญิงมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจและกำหนดการจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือน

โดยสำหรับในประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจากสำนักทะเบียนกลางยังชี้ว่า สัดส่วนประชากรในไทยมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายมากขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา โดยปี 2565 มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชายราว 1.59 ล้านคน สำหรับภาพรวมจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการในโรงพยาบาลวิมุตนั้น ในปี 2566 จนถึงปัจจุบันพบว่ามีสัดส่วนผู้ใช้บริการเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายสูงถึงประมาณ 20% ซึ่งในปี 2565 ก็มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20% เช่นเดียวกันที่มีผู้ใช้บริการผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่ยังคงเน้นไปที่การตรวจสุขภาพเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็น ศูนย์สูตินรีเวช เป็นอันดับ 2 และแผนกฉุกเฉิน เป็นอันดับ 3 จึงเป็นที่มาของแคมเปญดังกล่าว

The Power of Women

นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า “โรงพยาบาลวิมุตยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้หญิงทุกช่วงวัยผ่านการเปิดตัวแคมเปญ “The Power of Women” เพื่อร่วมขับเคลื่อนที่สุดแห่งพลังและศักยภาพในตัวผู้หญิง ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตที่มีคุณค่าและพัฒนาตนเองในทุกมิติบนรากฐานของสุขภาพกายและใจที่สดใสแข็งแรง ที่รพ. วิมุต เราพร้อมไปด้วยทีมสูตินรีแพทย์และแพทย์ผู้ชำนาญการในสาขาอื่นๆ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมในบรรยากาศส่วนตัวเป็นกันเองและบริการที่ใส่ใจ เราพร้อมดูแลสุขภาพผู้หญิงในแบบองค์รวม (Holistic Care) ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ อาทิ การฉีดวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก การดูแลความพร้อมตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ตลอดจนการมีบุตร การให้คำปรึกษาสำหรับสตรีก่อนแต่งงานและก่อนตั้งครรภ์ บริการฝากครรภ์และคลอดบุตร ทั้งการคลอดธรรมชาติและผ่าตัดคลอด บริการตรวจหาโรคดาวน์ซินโดรม (Down’s syndrome) โดยการเจาะเลือดคัดกรอง (NIPT Test) บริการอัลตราซาวนด์ทั้งแบบ 2 มิติ และ 4 มิติ การตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคมะเร็ง การผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก (MIS) ตลอดจนการดูแลรักษาโรคที่ผู้หญิงสูงวัยต้องเผชิญ เช่น ปัญหาในเรื่องฮอร์โมน โรคกระดูกพรุน หรือมีปัญหาเรื่องทางเดินปัสสาวะ

เตือน “มะเร็งเต้านม-มะเร็งปากมดลูก” คือภัยสุขภาพหญิง

หนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงไทยคือมะเร็ง จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขปี 2565 พบว่า หญิงไทยป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมมากที่สุด จำนวน 38,559 ราย รองลงมาคือ มะเร็งปากมดลูก จำนวน 12,956 ราย โดยโรคมะเร็งเต้านมนับเป็นภัยเงียบใกล้ตัว เนื่องจากในระยะแรกมักจะไม่แสดงอาการ ไม่เจ็บ ไม่ปวด เมื่อพบอาการผิดปกติมักอยู่ในระยะที่ก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นและลุกลามไปทั่วแล้ว ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ซึ่งการคัดกรองและตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะแรกจะช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากที่สุด ส่วนมะเร็งอันดับสองที่พบในหญิงไทยอย่าง “มะเร็งปากมดลูก” ส่วนใหญ่จะพบในผู้หญิงวัย 30 -55 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิด Human Papillomavirus หรือเอชพีวี (HPV) ในระยะแรกจะไม่แสดงอาการผิดปกติหรืออาจมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือตกขาวผิดปกติเรื้อรัง ดังนั้นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอทำให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่มและการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV เป็นวิธีการป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกที่ดีที่สุด

The Power of Women

แพทย์หญิงพรรณลดา ฉันทศาสตร์รัศมี สูตินรีแพทย์ ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิมุต กล่าวถึงโรคมะเร็งในผู้หญิงว่า “ในทุกๆปีมีผู้หญิงจำนวนมากที่ตรวจพบและเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทางนรีเวช ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเต้านมที่พบบ่อยที่สุด มะเร็งปากมดลูกที่พบมากรองลงมา มะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งมดลูก ซึ่งเป็นโรคที่สามารถรักษาได้หากตรวจพบตั้งแต่ในระยะแรก ศูนย์สูตินรีเวช โรงพยาบาลวิมุต เชื่อมั่นว่าวิธีป้องกันการเกิดโรคที่ดีที่สุด คือการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้หญิงตั้งแต่วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ ตลอดไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งไม่เพียงช่วยให้มีสุขภาพดีในระยะยาว แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ด้วย โดยวางแผนการดูแลสุขภาพตาม 3 ช่วงวัยหลัก คือ

1) วัยเด็กก่อนมีประจำเดือน แนะนำให้กินอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เสริมสร้างพัฒนาการให้เหมาะสมแต่ละช่วงวัย นอกจากนี้ยังแนะนำให้รับวัคซีนที่เด็กไทยควรได้รับตามคำแนะนำของแพทย์  โดยเฉพาะวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งที่เกิดจากเชื้อ HPV เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งในช่องปากและลำคอ ซึ่งฉีดได้ทั้งเด็กหญิงและชายตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

2) วัยเจริญพันธุ์ หรือวัยที่มีประจำเดือนแล้ว เมื่อถึงวัยอันสมควรแนะนำให้ตรวจภายใน ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรสังเกตความผิดปกติในร่างกาย หากพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ทันที

3) วัยหมดประจำเดือน วัยนี้ต้องตรวจสุขภาพทุกปี รวมถึงตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรสังเกตสัญญาณเตือนก่อนวัยทอง อาทิ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หงุดหงิดง่าย ร้อนวูบวาบ หมดอารมณ์ทางเพศ เป็นต้น เพื่อให้รู้เท่าทันตนเอง บอกเล่าให้คนใกล้ตัวเข้าใจ และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจไปด้วยกัน”

The Power of Women

แนะผู้หญิง “ดูแลสุขภาพใจ” ควบคู่

นอกจากโรคทางกายแล้ว สุขภาพใจก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของผู้หญิง กรมสุขภาพจิต เผยคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคซึมเศร้าถึง 1.5 ล้านคน โดยในปัจจุบันผู้ป่วยซึมเศร้าในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งองค์การอนามัยโลกชี้ว่าเพศหญิงมีแนวโน้มเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย 2 เท่า เนื่องจากเพศหญิงเป็นเพศที่มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนมากกว่าเพศชาย ทั้งในช่วงที่มีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ ตลอดจนอาการซึมเศร้าหลังคลอด นอกจากนี้ผู้หญิงยังต้องเผชิญความคาดหวังจากสังคมและปัญหาในครอบครัวอีกด้วย

แพทย์หญิงเพ็ญชาญา อติวรรณาพัฒน์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวช ศูนย์สุขภาพใจ โรงพยาบาลวิมุต เผยว่า “สุขภาพใจก็ไม่ต่างกับสุขภาพกายที่ควรเริ่มต้นดูแลตั้งแต่วัยเด็กจนโต โดยมี เทคนิค 4 ล ให้ผู้หญิงทุกคนนำไปปฏิบัติได้ง่ายๆ ดังนี้ ล แรก คือ เลิกคิดลบ คิดบวก พยายามมองด้านดี ๆ ของสิ่งต่าง ๆ ช่วยให้เรามีสติในการจัดการอุปสรรคและปัญหาได้ ล สอง คือ เลิกเปรียบเทียบกับคนรอบตัว เพราะทุกคนมีชีวิตแตกต่างกัน ความสุขและความทุกข์ของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันไปด้วย รวมถึงการมีสติในการใช้โซเชียลมีเดียที่อาจทำให้เรารู้สึกแย่กับตนเองโดยไม่รู้ตัว ล สาม คือ เลือกเพื่อนและคนรอบข้างที่ดีที่พร้อมรับฟัง ปัญหาบางเรื่องเพียงได้มีคนรับฟังและให้กำลังใจก็จะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ ล สี่ คือ เลือกสร้างความสุขให้ตัวเอง ด้วยกิจกรรมที่ชอบเพื่อให้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าและความเครียดในแต่ละวัน”

อมิตา-ทาทา ยัง ตัวแทนผู้หญิงที่ทั้งเก่ง มั่นใจ และเปี่ยมด้วยพรสวรรค์รอบด้าน บอกเคล็ดลับในการดูแลตนเองไว้ว่า “หลายคนอาจทราบว่าเมื่อก่อนทาทามีปัญหาด้านสุขภาพหลายอย่างพร้อมกันเลย ตอนนั้นเราทุกข์มาก ๆ แต่ที่ผ่านมาได้เพราะเราดูแลจิตใจให้เข้มแข็งควบคู่ไปกับการรักษาปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ทาทาอยากจะบอกผู้หญิงทุกคนให้เชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง พยายามพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นในทุกๆ วัน และสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ที่คอยดูแลใส่ใจคนรอบข้างเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ทาทาอยากให้อย่าลืมหันมาใจดีกับตนเองบ้าง อย่าลืมดูแลสุขภาพและดูแลความสุขของตัวเราเองด้วยนะคะ”

นอกจากนี้สุดสัปดาห์ยังได้มีโอกาสสัมภาษณ์แพทย์หญิงทั้ง 2 ท่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจ เพื่อหาคำตอบปัญหาสุขภาพของผู้หญิงในยุคนี้อีกด้วย

วิธีดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจสำหรับ Working Women แบบง่ายๆ

ในเรื่องของสุขภาพกายแพทย์หญิงพรรณลดา ฉันทศาสตร์รัศมี แนะว่า “ปัจจุบันผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เป็น Working Women จะไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองสักเท่าไหร่ สิ่งที่อยากแนะนำให้ทำคือ การหมั่นสังเกตอาการของร่างกายอยู่สม่ำเสมอ หากสังเกตแล้วว่าร่างกายมีความผิดปกติ อยากให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ”

ด้านสุขภาพใจแพทย์หญิงเพ็ญชาญา แนะนำว่า “ในสมัยนี้ผู้หญิงอาจจะต้องแบกรับความรู้สึกที่ถูกคาดหวังมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสมัยก่อนผู้หญิงถูกคาดหวังให้ทำงานในบ้าน แต่ปัจจุบันต้องทำงานทั้งในบ้านและนอกบ้าน และสมัยก่อนบางครอบครัวอาจมีลูกมากถึง 8 คน จึงทำให้พ่อแม่ไม่เกิดความคาดหวังมากเท่าปัจจุบัน แต่สมัยนี้ครอบครัวส่วนใหญ่จะมีลูกประมาณ 2 คน จึงทำให้เกิดความกดดันและความคาดหวังมากยิ่งขึ้นจากญาติผู้ใหญ่ ในบางครอบครัวอาจจะเลี้ยงลูกแบบ Golden child หรือการเลี้ยงลูกแบบฮ่องเต้น้อย องค์หญิงน้อย หรือลูกรักนั่นเอง ซึ่งทำให้ Golden child ต้องถูกบีบบังคับให้มีความแข่งขันสูง ต้องทำงานประสบความสำเร็จ ผิดหวังไม่ได้และต้องทำให้พ่อแม่ภูมิใจ เพราะเป็นคนที่พ่อแม่คาดหวังว่าจะต้องเก่งทุกอย่าง สิ่งนี้จึงส่งผลให้ Working Women หลายคนมีความเครียดในการใช้ชีวิตเพิ่มขึ้นค่ะ”

วิธีเพิ่มพลังบวก ในวันนั้นของเดือน

ในเรื่องของสุขภาพกาย แพทย์หญิงพรรณลดา กล่าวว่า “อาการทางกายเราควรเริ่มต้นปรับตั้งแต่ ด้านอารมณ์ ความคิด ร่วมกับการดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกายอย่างเสมอ จะช่วยลดอาการจากวันนั้นของเดือนได้ดีค่ะ แต่หากสำรวจตัวเองแล้วว่าอาการที่เป็นอยู่มันหนักมากจนรู้สึกว่าทนไม่ไหว หมออยากแนะนำให้เข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำว่าควรใช้ยาอะไรร่วมด้วยเพื่อลดอาการเหล่านั้นค่ะ”

แพทย์หญิงเพ็ญชาญาเสริมในด้านของสุขภาพใจว่า“เนื่องจากการเป็น PMS (Premenstrual Syndrome) คืออาการผิดปกติที่จะเกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือน 1-2 สัปดาห์ ที่นอกจากจะทำให้ร่างกายรู้สึกแปรปรวนแล้ว ร่างกายของสาวๆ หลายคนอาจจะเกิดความรู้สึกร้อนวูบวาบได้ ดังนั้นในเรื่องของอารมณ์ เราควรพยายามหลีกเลี่ยงในการเข้าไปดูอะไรที่เคร่งเครียด ควรเลือกฟังเพลงที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย หรือไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อน หากเราต้องใช้ชีวิตและทำงานต่อ เราควรจะโฟกัสที่งานและเตรียมตัวเองให้พร้อมเพื่อรับมือ นอกจากนี้การเลือกกินอาหารที่ดีและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยได้ค่ะ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ เราไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันนั้นของเดือนก็สามารถทำได้เพื่อเสริมสุขภาพจิตให้ดีได้ค่ะ หากใครที่มีอาการปวดท้องหนัก สิ่งนี้อาจเป็นอุปสรรคที่ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดระหว่างวันได้ เราจึงจำเป็นต้องพกยาพอนสแตนติดตัวเอาไว้ในช่วงนั้น”

ความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ระหว่างผู้หญิงโสดและผู้หญิงมีคู่

แพทย์หญิงพรรณลดา กล่าวถึงโรคทางกายว่า “ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของฮอร์โมนเพศ สำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือมีลูกจะมีความเสี่ยงในเรื่องของมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกน้อยกว่าคนโสด เนื่องจากผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร ฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลง ร่างกายจึงพักการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เกิดในเรื่องของมะเร็ง เพราะหลักการหลักๆ ของสาเหตุการเกิดมะเร็งจะเกิดจากการตกไข่ซ้ำๆ เกือบปี แต่พอตั้งครรภ์แล้วรังไข่และเยื่อบุโพรงมดลูกของสาวๆ จะได้พัก ความเสี่ยงที่จะเกิดจึงน้อยกว่าค่ะ”

ในเรื่องของสุขภาพใจแพทย์หญิงเพ็ญชาญากล่าวว่าในปัจจุบันยังไม่มีวิจัยที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่า ผู้หญิงโสดและผู้หญิงมีคู่มีความเสี่ยงต่างกันค่ะ เพราะความเครียดของทั้งสองสถานะมีได้คนละแบบ แต่ที่มีวิจัยจริงๆ จะไม่ใช่แค่ความเสี่ยงของเพศหญิงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงเพศชายด้วยค่ะ สำหรับคนโสด เมื่อมีอาการป่วยอาจจะมีกำลังใจที่เข้าถึงได้น้อยกว่า จึงทำให้อาจรู้สึกโดดเดี่ยว ทำให้อัตราการเกิดอาการซึมเศร้าและเกิดการทำร้ายร่างกายตัวเองเพิ่มมากขึ้น ส่วนคนที่แต่งงานแล้วอาจจะขึ้นอยู่กับว่าเราได้คู่ชีวิตแบบไหน เพราะบางคู่ชีวิตอาจทำให้อีกคนรู้สึกป่วยทางใจมากขึ้นได้ค่ะ”

สำหรับผู้หญิงคนไหนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง แล้วรู้สึกสนใจอยากตรวจสุขภาพทั้งกายและใจในเบื้องต้นแต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มตรวจจากตรงไหน สุดสัปดาห์รวมการตรวจสุขภาพแบบเฉพาะที่หลักๆ ที่เหมาะกับสาวๆ มาให้แล้วค่ะ

  1. การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (ThinPrep และ HPV), มะเร็งเต้านม (อายุต่ำกว่า 35 ปี)
  2. การตรวจสุขภาพทางเดินอาหาร
  3. การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่
  4. การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
  5. การตรวจภาวะหมดประจำเดือนในวัยทอง (สำหรับผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป)
  6. การตรวจการคัดกรองภาวะกระดูกพรุน (สำหรับผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป)
  7. การเข้ารับคำปรึกษาจากจิตแพทย์ (โรคไบโพลาร์, ภาวะซึมเศร้า, ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด, โรควิตกกังวลในวัยทำงาน)

สุดสัปดาห์เชื่อว่าไม่ว่าเราจะมีอายุที่มากหรือน้อยก็ตาม หากสุขภาพของร่างกายของเราไม่ดี อาจจะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตและการทำงานของเราลดน้อยลงได้ ดังนั้นเราควรรีบสำรวจร่างกายของตัวเองเพื่อป้องกัน รักษา และหันมาใส่ใจตัวเองให้มากขึ้นกันนะคะ

ติดตามอ่านข่าวกิจกรรมและบทความไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

KTIS มุ่งขับเคลื่อนองค์กรด้วย “นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์”

รพ.วิมุต สร้างสุขภาพในฝันหลังวัย 50+ แคมเปญใหญ่ ViMUT Healthy 50 Plus

การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด

dwp ชวนเปิดประสบการณ์แห่งความผ่อนคลายกลางกรุง ที่ Mövenpick BDMS Wellness Resort Bangkok

ริคฟิกซ์หน้าเป๊ะ รักษาริ้วรอยแบบไม่โป๊ะ

หมอเพชร Fiora Clinic กับเทคนิคการเติมเต็ม&ปรับรูปหน้าที่ไม่เหมือนใคร

อัพเดททางเลือกในการดูแลสุขภาพและความงามที่เปิดกว้างขึ้น & ปรับให้เหมาะกับตัวเองได้

การท่องเที่ยวฮ่องกง แจกแพลนเที่ยว 3 อีเวนต์ฮ่องกงมาแรงส่งท้ายปี 2023!

เปิด 30 เมนูเด็ดจาก 10 ร้านที่ต้องแวะชิมก่อนเดินทาง ที่ คิง เพาเวอร์ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


keyboard_arrow_up