account_circle
ปัญหาฮอตฮิตที่สร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคนคงหนีไม่พ้นเรื่องของ ‘สิวหน้าร้อน’ หรือ ‘สิวผด’ ที่ขึ้นมาบนผิวหน้าอย่างแน่นอน
หน้าร้อนวนมาทีไร ปัญหาฮอตฮิตที่สร้างความกังวลใจให้กับใครหลายคนคงหนีไม่พ้นเรื่องของ ‘สิวหน้าร้อน’ หรือ ‘สิวผิด’ ที่ขึ้นมาบนผิวหน้าอย่างแน่นอน ด้วยอากาศร้อน แสงรังสี UV ที่มีความเข้มข้นสูง เมื่อเข้ามากระทบชั้นผิวของเราแล้ว มักจะทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้นน้อยลง ผิวหน้าแห้งกร้าน จนเกิดการกระตุ้นการสร้างน้ำมันออกมาชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป และทำให้มีโอกาสเกิดสิวและสิวผดได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาสิวหน้าร้อน สิวผดขึ้นเยอะ จนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในใบหน้า แต่งหน้าได้ยาก ชวนมาดูต้นตอของการเกิดสิวผิด พร้อมแนะนำ 5 รูทีน วิธีการดูแลผิวในหน้าร้อนให้ห่างไกลจากสิวผดเจ้าปัญหากัน!
ลักษณะของสิวผดเป็นอย่างไร
หลายคนอาจจะยังสับสนว่า สิวผดที่ขึ้นในหน้าร้อนต่างจากสิวชนิดอื่นๆ อย่างไร โดยสิวผดนั้นจะมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ ที่มองด้วยตาเปล่าในกระจกอาจจะไม่ได้เห็นชัดมาก แต่เมื่อใช้มือลูบผิวหน้าจะสัมผัสได้ถึงความไม่เรียบเนียน บางคนอาจจะรู้สึกคัน หรือคะคายเคืองร่วมด้วย ซึ่งสิวผดถือว่าเป็น ‘สิวเทียม’เพราะมาจากการอุดตันของเหงื่อในรูขุมขนจึงเป็นผดนูนขึ้นมา ต่างจาก ‘สิวจริง’อย่างสิวอักเสบ สิวอุดตันที่จะเกิดจากการอุดตันของไขมันนั่นเอง
สาเหตุของการเกิดสิวผดในหน้าร้อน
แล้วทำไมในช่วงหน้าร้อน หรือฤดูร้อนสิวผดจึงขึ้นมากกว่าปกติ? มาดูต้นตอของการเกิดสิวผดในหน้าร้อนกันเลย!
1) อากาศร้อนจัดและค่ารังสี UV ที่สูงมาก
ช่วงหน้าร้อน หรือฤดูร้อนเป็นฤดูที่มีค่ารังสี UV สูงมาก ทำให้รังสีมาตกกระทบกับใบหน้ามากกว่าฤดูอื่นๆ ผิวหน้าจึงเจอความร้อนมากกว่าปกติ ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นให้ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันทำงานให้ทำงานหนักมากขึ้น จนเกิดเป็นสิวผดขึ้นมาบนใบหน้า โดยเฉพาะที่หน้าผากหรือโหนกแก้ม เพราะเป็นบริเวณที่โดนแสงแดดมากที่สุดของใบหน้านั่นเอง
2) อากาศร้อนมาพร้อมกับความชื้นที่มากขึ้น
แน่นอนว่าเมื่ออากาศร้อนจัดๆ อากาศก็ย่อมมีความชื้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ให้แบคทีเรียและเชื้อราเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จึงเกิดโอกาสเกิดสิวผดหรือสิงหน้าร้อนได้ง่ายขึ้นมากกว่าปกติ
3) การล้างหน้าบ่อยๆ
อากาศร้อนและมลภาวะต่างๆ ทำให้เรารู้สึกว่าใบหน้ามีความมัน และเหงื่อออกมากกว่าปกติ หลายๆ คนแก้ปัญหาด้วยการล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าบ่อยๆ เพื่อขจัดความมันออก ซึ่งบอกเลยว่า เป็นสิวผิดขึ้นมาง่ายกว่าเดิม ทางที่ดีที่สุด ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า และควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เป็นวิธีที่ผิด! เพราะยิ่งล้างหน้าด้วยสารเคมี อาจทำให้ผิวหน้าของเราเกิดความระคายเคือง จนเกิด
4) การแต่งหน้าบ่อยๆ หรือล้างเครื่องสำอางออกไม่หมด
อากาศร้อนเหงื่อของเราจะออกมากกว่าปกติอยู่แล้ว เมื่อแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางหลายๆ ชิ้นที่มีหลายเนื้อ หลายส่วนประกอบ บวกกับเข้าไปผสมกับเหงื่อที่ไหลออกมาจากรูขุมขน ก็อาจทำให้เครื่องสำอางเข้าไปอุดตันในชั้นผิวของเรา ยิ่งหากแต่งหน้าจัดๆ แล้วล้างออกได้ไม่หมดจดด้วยแล้ว โอกาสการเกิดสิวผดยิ่งขึ้นทวีคูณเลย
สิวผด สิวหน้าร้อนกระทบกับสุขภาพผิวหน้าอย่างไร
แม้สิวผด หรือสิวหน้าร้อนนั้นจะมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ ที่มองด้วยตาเปล่าแล้วเห็นไม่ชัดมาก แต่หากปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่รักษาหรือดูแลให้ถูกวิธีอาจกระทบกับสุขภาพผิวหน้าในระยะยาวได้ เช่น
- รูขุมขนที่กว้างขึ้นจากการเกิดสิวผด อาจทำให้สิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียเข้าสู่รูขุมขน และอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อของผิวหนัง
- สิวผดที่อักเสบ อาจส่งผลให้เกิดแผลหรือแผลเป็นจนทำให้ผิวหนังดูไม่เรียบเนียนได้
- สิวผดที่ปล่อยไว้นานๆ โดยไม่ได้รับการรักษาให้ถูกวิธี อาจรวมตัวกับเชื้อโรค แบคทีเรียจนกลายเป็นสิวหนองในภายหลังขึ้นมาได้
รวม 5 รูทีนดูแลผิวหน้าให้ห่างไกลสิวผดในหน้าร้อน!
ได้รู้ลักษณะและต้นตอของการเกิดสิวผดในหน้าร้อนกันไปแล้ว สเต็ปต่อไปก็ถึงคราวของการหาวิธียับยั้งการเกิดสิวผดนี้กัน มาดู 5 รูทีนปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ที่ทำตามได้ง่ายๆ รับรองว่าทำตามครบแล้ว ผิวจะกลับมาเรียบเนียน ห่างไกลสิวผดในหน้าร้อนแน่นอน
1. งดหรือหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า
อย่างที่เราบอกไปว่าการแต่งหน้าบ่อยๆ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดการสิวผดในช่วงหน้าร้อน เพราะเครื่องสำอางบางอย่างอาจทำให้รูขุมขนกว้างเปิดรับเอาแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกเข้ามาในผิวได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การไม่แต่งหน้ายังทำให้ไม่มีอะไรไปปิดกั้นรูขุมขุม ชั้รผิวจึงหายใจได้ดีขึ้น และช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนอีกด้วย
2. ใช้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดหน้าทุกๆ วัย
คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอาง หรือคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวมีความจำเป็นมาก หากอยากห่างไกลจากการเกิดสิวผด หรือสิวหน้าร้อน ด้วยการล้างหน้าแบบปกติ อาจไม่เพียงพอต่อการกำจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย รวมถึงเครื่องสำอางที่เราใช้อยู่ทุกๆ วัน สำหรับคนที่แต่งหน้าอยู่บ่อยๆ หรือต้องออกไปเชิญมลภาวะ จึงควรจะใช่คลีนซิ่ง (Cleansing) โดยนอกจากจะสามารถช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจดแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการเกิดอุดตันที่รูขุมขน ช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย
3. ทาครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบีได้อย่างครอบคลุม
หน้าร้อนแสงแดดเข้มข้นสูงขนาดนี้ ห้ามลืมทาครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบีได้อย่างครอบคลุมเป็นประจำทุกๆ วันอย่างเด็ดขาด โดยควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ และค่า PA (+) ขึ้นไปมีคุณสมบัติที่สามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้ เลือก Texture ให้เหมาะสมต่อสภาพผิว เช็กสารสกัดที่เสี่ยงต่อการแพ้เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดปัญหาผิวอื่นๆ ตามมา นอกจากนี้ปริมาณที่ทาก็ควรเพียงพอ โดยควรทาอย่างน้อย 2 ข้อนิ้ว ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
4. ใช้ผลิตภัณฑ์หรือสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
เพื่อไม่ให้ผิวแห้งจนเกินไป ควรใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นและรักษาสมดุลของน้ำมันในผิวเอาไว้ เช่น การเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่เป็นสูตรมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว หรือจะเลือกใช้เป็นสเปรย์น้ำแร่ก็ช่วยเติมความชุ่มชื้นระหว่างวันก็ได้เหมือนกัน
5. ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนพักผ่อนและการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการ เป็นสิ่งที่ส่งผลต่อกระบวนการทำงานของร่างกาย ส่งผลต่อระดับฮอร์โมน มีส่วนสำคัญในการทำงานของชั้นผิว หากอยากลดโอกาสการเกิดสิวผด รวมถึง ลดความหมองคล้ำ จึงขอแนะนำให้ความสำคัญกับการพักผ่อนและการดื่มน้ำ ควรนอนพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมงขึ้นไป และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อให้เซลล์ในชั้นผิวทำงานได้แบบเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
การดูแลผิวหน้าที่ดี ควรเริ่มต้นดูแลตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อน การดื่มน้ำให้เพียงพอ บวกกับการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าให้เหมาะสม เช่น คลีนซิ่ง ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจกระตุ้นให้ผิวหน้าอ่อนไหวและระคายเคืองได้ง่ายขึ้นในช่วงหน้าร้อน อย่างการแต่งหน้าและการล้างหน้าที่ผิดวิธีด้วย! หากใครทำครบทุกวิธี กลายเป็นรูทีนสม่ำเสมอได้ รับรองห่างไกลปัญหาสิวผด สิวหน้าร้อนแบบหายห่วง
สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้าคู่ใจ ไว้ใช้ระหว่างทำรูทีนบูสต์ผิวให้แข็งแรง เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์คลีนซิ่ง สูตรน้ำของ BIODERMA มาพร้อมสารสกัดอ่อนโยนและเนื้อสัมผัสที่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขนให้สะอาดล้ำลึก โดยมีให้เลือกกว่า 3 สูตร ทั้ง Bioderma Sensibio H2O และ Bioderma Hydrabio H2O ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นคนผิวมัน ผิวแพ้ง่าย ผิวผสม เป็นคนที่แต่งหน้าบ่อย หรือคนที่ไม่แต่งหน้าก็สามารถใช้ได้ หมดกังวลเรื่องปัญหาสิวผดกวนใจ ไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าได้อย่างเต็มที่เลย!