มีนา-เมษานี้…หนีร้อนกรุงเทพฯ ไปเสพงาน ‘อาร์ตริมอ่าวฯ’ ที่ฮ่องกงกันให้ฉ่ำ! ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนตัวยงของอีเวนต์ชั้นนำ หรือกำลังตั้งตารอคอยกิจกรรมใหม่ๆ งานจัดแสดงศิลปะตลอดสองฝั่งอ่าววิคตอเรีย ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป ก็จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

ฤดูใบไม้ผลิในฮ่อกง…ฤดูกาลแห่งศิลปะเวียนกลับมาถึงอีกครั้งพร้อมกองทัพงานอีเวนต์สุดสร้างสรรค์ อาทิ งานศิลปะจัดวางจากทาง teamLab ที่จะมาสะกดทุกสายตาที่เดินผ่าน หรืออีเวนต์ประจำปีที่หลายคนรอคอยอย่าง Art Basel Hong Kong ที่จะมาทำให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำไปกับงานศิลปะตลอดสองฝั่งของอ่าววิคตอเรีย

อีเวนต์ใหม่แกะกล่อง

teamLab “Continuous” ณ งาน Art@Harbour 2024

เริ่มเส้นทางการชมงานอาร์ตริมอ่าวฯ กันด้วย งานศิลปะจัดวางสุดล้ำสะเทือนวงการ ภายใต้ชื่อ “Continuous” จาก teamLab ที่ยกทัพโครงสร้างรูปไข่เรืองแสงหลายร้อยชิ้น มาแต่งแต้มให้ริมอ่าวมีชีวิตชีวา โดดเด่นไปด้วยแสง สี และเสียงที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามจังหวะการสัมผัสของนักท่องเที่ยว ณ เซ็นทรัล ฮาร์เบอร์ฟรอนต์ โดยงานจัดแสดงนี้เป็นส่วนหนึ่งของงาน Art@Harbour 2024 (25 มีนาคม-2 มิถุนายน) ที่จัดโดยกรมสันทนาการและวัฒนธรรม (Leisure and Cultural Services Department: LCSD)

“Ephemeral” ณ งาน WestK FunFest

จากนั้น ร่วมชื่นชมศิลปะดิจิทัลที่สาดแสงเรืองรองสวยงามตลอดทางเดินริมน้ำย่านจิมซาจุ่ย เต็มอิ่มต่อเนื่องไปจนถึงยามค่ำคืนที่งาน  WestK FunFest (16 มีนาคม – 7 เมษายน) ที่จัดแสดงโลกของ “bubble-tecture” โครงสร้างเป่าลมขนาดยักษ์ที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน ศิลปะจัดวางเสมือนจริงขนาดใหญ่ที่คว้ารางวัลมาเป็นตัวการันตี

ComplexCon Hong Kong

หากคุณอินวัฒนธรรมป๊อป ต้องห้ามพลาดงานนี้ ComplexCon Hong Kong (22-24 มีนาคม) โดยเด็ดขาด! เทศกาลนี้คัดสรรชิ้นงานจัดแสดงมาอย่างเชี่ยวชาญ มีทั้งแบรนด์ดังและศิลปินที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เพื่อรังสรรค์ประสบการณ์ที่ทำให้ทุกคนลืมไม่ลง ผสมผสานแฟชั่น สนีกเกอร์ ศิลปะ อาหาร ดนตรี แรงบันดาลใจ และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่งาน AsiaWorld Expo ซึ่งอยู่ห่างจาก สนามบินนานาชาติฮ่องกงเพียงไม่กี่นาที

การกลับมาของอีเวนต์ศิลปะห้ามพลาด

Art Basel Hong Kong

แน่นอนว่าทุกท่านน่าจะรู้จักกับเทศกาลศิลปะอย่าง Art Basel Hong Kong กันดีอยู่แล้ว สำหรับปีนี้ งานจะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมและ นิทรรศการฮ่องกง ระหว่างวันที่ 30-28 มีนาคม ยกผลงานของแกลเลอรีดังระดับโลกมากว่า 240 แห่ง และงานศิลปะจัดวางขนาดใหญ่ 16 ชิ้น

Art Central

ร่วมต้อนรับการกลับมาในรอบสี่ปีของ Art Central (27-31 มีนาคม) ที่เซ็นทรัล ฮาร์เบอร์ฟรอนต์ จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัยที่ก้าวข้าม ขีดจำกัดจากแกลเลอรีหัวก้าวหน้าที่ทรงพลังที่สุดของภูมิภาค พร้อมเปิดตัวโซนจัดแสดงใหม่ภายใต้ชื่อ “Neo” สำหรับจัดแสดงผลงานผู้จัดแสดงงานครั้งแรกโดยเฉพาะ

พิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง

หากความคลาสสิกคือสิ่งที่ท่านตามหา ขอให้แวะมาที่เขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตก ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านสุดคูลที่ใครๆ ก็ต้องหลงรัก มาร่วมชมผลงานนิทรรศการ “Botticelli to Van Gogh”  ซึ่งจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ พระราชวังฮ่องกง (จนถึงวันที่ 11 เมษายน) จากนั้นไปต่อกันที่ M+ เพื่อชม “Noir & Blanc” นิทรรศกาลขาวดำสุดแสนประทับใจที่พร้อมทัชหัวใจของทุกคน (เปิดให้เข้าชมวันที่ 16 มีนาคม)

ศูนย์การค้า Harbour City

Harbour City ร่วมมือกับ CamilleWalala ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่โด่งดังในด้านงานศิลปะสเกลใหญ่และการใช้สีสันสดใสผสมผสานกับงานสตรีทอาร์ตและ Immersive 3D รังสรรค์ผลงานอินสตอเลชันในที่สาธารณะอย่าง “A-MAZE” บริเวณ Terrace of Ocean Terminal Deck และ  HKCitySign ภาพเพนท์พื้นทางเดินของ Grand Steps  ซึ่งหากมองในองศาที่ถูกต้องจะเห็นป็นคำว่า “ฮ่องกง”

นอกจากนี้ กิจกรรม Arts in Hong Kong Harbour Tour ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวฮ่องกง จะเปิดโอกาสให้ทุกท่านได้เต็มอิ่มกับความมหัศจรรย์ของศิลปะที่จัดแสดงตลอดริมน้ำกันแบบใกล้ชิด ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Discoverhongkong.com

อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่สะดวกแวะมาช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราในฐานะจุดหมายปลายทางด้านศิลปะชั้นนำ ของเอเชีย ฮ่องกงพร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ทั้งสร้างสรรค์และน่าตื่นเต้นให้กับทุกคนตลอดทั้งปี หากพร้อมแล้วก็จองทริปมาเปิดประสบการณ์สุดอาร์ตไปกับเรากันได้เลย!

ข้อมูลและภาพจาก MSL ตัวแทนประชาสัมพันธ์ของ ตัวแทนของ HKTB

ดีนี่ เปิดตัว “ดีนี่  ดีลักซ์” เอาใจวัยซิลเวอร์ ส่ง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ซักผ้า และ โลชั่น ตอบรับเทรนด์สังคมสูงวัยมาแรง  

เพราะเข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มซิลเวอร์ เจน ที่มองหาผลิตภัณฑ์อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวบอบบางไม่ต่างจากผิวเด็ก ดีนี่ (D-nee) ที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและใส่ใจเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ จึงได้ริเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ดีนี่ ดีลักซ์” เอาใจวัยซิลเวอร์ (ผู้สูงอายุ) ด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเพื่อทุกคนในครอบครัวรวมถึงผู้สูงวัย กับผลิตภัณฑ์ ซักผ้า ดีนี่ ดีลักซ์ ซักสะอาด สุดอ่อนโยน หมดปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ และ ผลิตภัณฑ์ โลชั่น ดีนี่ ดีลักซ์  ฟื้นฟูและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นยาวนาน

โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก พ.ญ. ชนิกานต์ เทพรส  แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย(American Board of Anti-Aging) ร่วมพูดคุยถึงสภาพผิวของผู้สูงวัย และการดูแลตัวเอง พร้อมด้วย “โต๋” ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร และคุณแม่ ธนภรณ์ เวชสุภาพร ณ โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ

ศิริสุภา อาจสัญจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยติดอันดับ 3 ของประเทศในเอเชียที่ก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย* และคาดว่าอีกไม่เกิน 15 ปีข้างหน้าจะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super aged society) เมื่อสัดส่วนของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี สูงถึง 28% ของประชากรทั้งหมด

“ดีนี่ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก และแบรนด์ที่ใส่ใจเรื่องนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบรับความต้องการของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จึงขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มผู้สูงอายุ พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบความต้องการของผู้ใหญ่กลุ่ม SILVER AGE ซึ่งมักพบปัญหาจากปัจจัยของอายุที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยระบบการทำงานของร่างกายและผิวที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งแห้งและระคายเคืองง่ายขึ้น รวมถึงการมีกลิ่นกายผู้สูงวัย หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ติดเสื้อผ้า ทำให้เริ่มมองหาสินค้าที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้ ทั้งยังต้องมีความอ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิวด้วยเช่นกัน  

“ทั้งนี้จากข้อมูลอินไซด์ของผู้บริโภคกลุ่ม SILVER AGE พบว่า  ผู้ใหญ่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวก็เปลี่ยนแปลงไป ผิวอ่อนแอไม่ต่างกับผิววัยแรกเกิดที่ต้องการการบำรุง ทำให้ผู้สูงวัยหลายๆ คน หันกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก แบรนด์ดีนี่จึงเห็นโอกาส และต้องการให้กลุ่มลูกค้าสูงวัยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและตอบความต้องการของกลุ่มนี้โดยเฉพาะ จึงศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าดีนี่ ดีลักซ์ ที่พัฒนาสูตรขึ้นมาสำหรับกลุ่มผู้สูงวัยโดยเฉพาะ หมดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ ด้วยคุณสมบัติของสารสกัดจากลูกพลับญี่ปุ่น ซึ่งพบว่ามีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นได้ดีที่สุด และผลิตภัณฑ์โลชั่น บำรุงผิวกาย ดีนี่ ดีลักซ์ ที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมที่เสี่ยงต่อการก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เหมาะกับสภาพผิวของกลุ่มผู้สูงวัย หรือผิวแพ้ง่ายที่ไวต่อการระคายเคือง” 

ใหม่ ! ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ดีนี่ ดีลักซ์ ซักสะอาด สูตรอ่อนโยน ขจัดคราบฝังลึกด้วยเอนไซม์สารสกัดจากธรรมชาติ ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถย่อยสลายได้ ปราศจากสารเคมีอันตราย เช่น พาราเบน สีสังเคราะห์ สารฟอกขาว โดย ดีนี่ ดีลักซ์ มีส่วนผสมของออร์แกนิค อโลเวร่า ผสานสารสกัดจากลูกพลับญี่ปุ่น (Persimmon Extract)  ที่มีคุณสมบัติช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ  เช่น กลิ่นอับ กลิ่นตัว กลิ่นเหงื่อ กลิ่นปัสสาวะ กลิ่นน้ำมันนวด กลิ่นน้ำมันใส่ผม และหมดกังวล 6 คราบฝังแน่น ได้แก่ คราบอาหาร ชากาแฟ น้ำลาย น้ำมัน ปัสสาวะ และอุจจาระ มีให้เลือก 2 กลิ่น ได้แก่ Morning Delight (สีฟ้า) หอมสะอาดเหมือนแดดยามเช้า และ Beauty Dream (สีชมพู) หอมสดชื่นฝันดี ขนาด 1,100 มล. พร้อมหัวจุกเปิดปิดใช้สะดวก ราคา 209 บาท

ใหม่ ! ผลิตภัณฑ์โลชั่น บำรุงผิวกาย ดีนี่ ดีลักซ์ บอกลาปัญหาผิวแห้ง ผิวระคายเคือง ขาดความชุ่มชื้น ด้วยโลชั่นที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนามาเพื่อผิวบอบบางโดยเฉพาะ มีส่วนผสมของไฮยาลูรอน 8 ชนิด  และเซราไมด์ 3 ชนิด ช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีวิตามินอีให้ผิวเนียนนุ่ม และชุ่มชื้นพิเศษยาวนาน อ่อนโยนและปลอดภัยต่อผิว เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ขวดปั้มใช้สะดวก ขนาด 450 มล. ราคา 279 บาท  

ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ดีนี่ ดีลักซ์ และ โลชั่น    ดีนี่ ดีลักซ์ วางจำหน่ายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ททั่วประเทศ ร้านค้าออนไลน์ และ LINE @NEOdealDD  ติดตามกิจกรรมและเคล็ดลับดี ๆ  หรือสมัครสมาชิก D-nee club เพื่อรับข่าวสารสิทธิประโยชน์ และร่วมกิจกรรมสนุก ๆ ได้ทาง เฟซบุ๊ก www.facebook/Dneethailand

*ข้อมูลจากนีลเส็น ประเทศไทย *

หายหน้าหายตาไปนานกับนักแสดงสาวมากความสามารถ เปมี่ -เปรมินทร์ ทับแก้ว ฉายา “ซูฉี” เมืองไทย กลับมาเจอกันอีกทีในงานเปิดW Ploenchit Wellness Center ที่มาพร้อมกับความดูดีเปล่งประกายออร่าจึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปถามถึงเคล็ดลับการดูแลตัวเองแบบปังๆ มาแชร์กัน ซึ่งภายในงาน นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการฯ ได้อัพเดทเทรนด์ดูแลสุขภาพด้วยเวชศาสตร์เชิงป้องกันที่อยู่ในกระแสความสนใจและได้รับความนิยมสูงในบ้านเรา

เปมี่ – เปรมินทร์ ทับแก้ว ดาราสาวสวย เล่าว่า ที่หายหน้าไปเพราะไปทุ่มเทเวลาให้กับการเรียนอย่างหนักตอนนี้เพิ่งเรียนจบปริญญาโทด้านการจัดการการบิน สถาบันการบินพลเรือนได้ไม่นาน เลยเริ่มกลับมารับงานในวงการบันเทิงและถ่ายแบบต่างๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งการทำงานประจำไปด้วยในตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้างานออกงานตามเวลาออฟฟิศทั่วไป และทำงานในวงการไปด้วย ทำให้มีเวลาในการดูแลตัวเองน้อยลงกว่าเดิมมาก

เลือกการดูแลร่างกายแบบองค์รวม สร้างสมดุลสุขภาพที่ดี

“ส่วนตัวไม่เคยรู้จักพวกศาสตร์เชิงการป้องกันและชะลอวัยมาก่อน แต่เห็นว่าเป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพแนวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม ทำให้รู้สึกสนใจและศึกษาข้อมูลมากขึ้น  จึงได้เข้าปรึกษาและรับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในโปรแกรมที่เหมาะสมกับตัวเองจากแพทย์ผู้ชำนาญการ ร่วมกับรับคำแนะนำในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ช่วย

ส่วนเรื่องการลงทุนด้านสุขภาพมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะพอเราทำงานหนัก ทำงานประจำและรับงานในวงการควบคู่กันไปด้วย ก็จะอ่อนเพลียมากขึ้น ถ้าไม่รีบดูแลร่างกายก็จะทำให้ป่วย และเสียโอกาสที่จะทำสิ่งต่างๆ เพราะสุขภาพที่ดีและสมดุลจะเป็นพื้นฐานสำคัญให้เราทำสิ่งต่างๆ ได้อีกมากมาย” เปมี่เล่าถึงประสบการณ์ด้านสุขภาพของตัวเอง

ศาสตร์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อม…เมกะเทรนด์มาแรงทั่วโลก            

ทิ้งท้ายด้วยการอัปเดตเทรนด์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม จาก นพ.พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ แพทย์ผู้อำนวยการ W9 Wellness Center คลินิกดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและฟื้นฟูความเสื่อม กล่าวว่า “การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันแบบรายบุคคลได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 5 ปีมานี้ เนื่องจากทุกคนตระหนักว่า หากปล่อยให้เกิดอาการเจ็บป่วย จะส่งผลต่อการใช้ชีวิต คนรอบข้าง รวมถึงการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลต่อสุขภาพ ประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปมากทำให้เกิดศาสตร์ใหม่ๆ ที่ช่วยในการวินิฉัยโรค การรักษา รวมถึงการดูแลสุขภาพองค์รวมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค”

นอกจากนี้ ที่นี่ยังดูแลสุขภาพเชิงป้องกันร่วมกับให้คำแนะนำเพื่อปรับการใช้ชีวิต (Lifestyle Modification) ที่เป็นวิธีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยองค์ความรู้ในเชิง Wellness ทั้งการใช้อาหารเป็นยา การกินให้ถูกหลัก การนอนและพักผ่อนให้เพียงพอ การควบคุมความเครียด และการปรับสมดุลชีวิตในด้านต่างๆ เพื่อสร้างสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

สนใจการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อการป้องกันก่อนเกิดโรค สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://w9wellness.com

ผ่านไปแล้วกับงานเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ BFF Bond With Beauty: เพื่อนสนิทสายบิวตี้ ตอกย้ำภาพลักษณ์ “ผู้บุกเบิกร้านมัลติแบรนด์เพื่อความงามและไลฟ์สไตล์ครบวงจรระดับลักชัวรี่ในประเทศไทย” พร้อมเปิดตัววิดีโอชุดพิเศษ “นิยามของคำว่าเพื่อนสนิท

เพื่อนสนิทสายบิวตี้ – BFF Best Friend Forever

“BFF” ร้านมัลติแบรนด์ ผู้จัดจำหน่ายสกินแคร์ เครื่องสำอาง และสินค้าไลฟ์สไตล์ นิช และลักชัวรี่ ภายใต้บริษัท โอซี เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเวทีเสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ “BFF Bond with Beauty: เพื่อนสนิทสายบิวตี้” นำโดย คุณศจิกา ทองสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอซี เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และผู้ก่อตั้ง BFF พร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ 2 ท่าน ผู้ซึ่งสนใจและชื่นชอบการดูแลสุขภาพและความงามระดับลักชัวรี่ และเป็นลูกค้าคนสำคัญที่ใช้บริการร้าน “BFF” มาอย่างยาวนาน ได้แก่ คุณปัฐมาวดี นิสภกุล และคุณนุชนรินทร์ ศิลปรักษ์ ร่วมการเสวนาดังกล่าวด้วย

โดยภายในงาน ยังมีการนำเสนอข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับบริษัทฯ แนะนำไลน์ผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับความงาม สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรี่จาก “BFF” พร้อมกันนี้ ยังมีการเปิดตัววิดีโอชุดพิเศษ “นิยามของคำว่าเพื่อนสนิท เพื่อนสนิทสายบิวตี้ – BFF Best Friend Forever” ซึ่งจะออกอากาศทางสื่อออนไลน์ทั่วประเทศในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2567 เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าทั้งหญิงและชายที่อยู่ในกลุ่มมีรายได้สูงและมีความสนใจในผลิตภัณฑ์และบริการด้านความงามและไลฟ์ไตล์ ตอกย้ำภาพลักษณ์ของ BFF ในฐานะ “ผู้บุกเบิกร้าน มัลติแบรนด์เพื่อความงามและไลฟ์สไตล์ครบวงจรระดับลักชัวรี่ในประเทศไทย (The First Prestigious Multi-label Beaty Store in Thailand)”   

คุณศจิกา ทองสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอซี เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และผู้ก่อตั้ง BFF ร้านมัลติแบรนด์ ผู้จัดจำหน่ายสกินแคร์ เครื่องสำอาง และสินค้าไลฟ์สไตล์ นิช และลักชัวรี่ เปิดเผยว่า “ปัจจุบัน ตลาดต่างๆ ในอุตสาหกรรมความงามในประเทศไทย อาทิ สกินแคร์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม ฯลฯ ได้เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลจากการที่ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการหันมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อการดูแลตัวเองมากขึ้น ภายหลังสถานการณ์ของโรคระบาดที่ได้คลี่คลายลงมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถปิดยอดรายรับรวมของปีที่แล้วได้กว่า 362 ล้านบาท เติบโตขึ้น 29% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสัดส่วนรายได้ที่มากที่สุดของเรามาจากธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้ามาจัดจำหน่ายในตลาดประเทศไทย

“โดยในปัจจุบัน BFF มีธุรกิจร้านมัลติแบรนด์ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เมคอัพ อาหารเสริม และสินค้าไลฟ์สไตล์ระดับลักชัวรี่ ถึง 58 แบรนด์ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ 111SKIN, Evidens de Beaute, CellCosmet, Philip B, Oribe และอีกมากมาย ซึ่งเปิดให้บริการมากถึง 8 สาขาทั่วกรุงเทพฯ รวมถึงช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์ ทั้งเว็บไซต์อีคอมเมอร์ซของ bffbangkok.com, Facebook, LINE OA, Instagram และ TikTok ร้าน Official Store ของ BFF ทาง Lazada และ Central Online นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจคลินิกเพื่อสุขภาพ ความงาม และการชะลอวัย ภายใต้ชื่อ ‘The Wellness by BFF’ ด้วย”  

ความประทับใจจากลูกค้า

คุณปัฐมาวดี นิสภกุล หรือคุณแคช ลูกค้าระดับ Diamond ของ BFF แขกรับเชิญพิเศษท่านแรกในการเสวนาพิเศษหัวข้อ “BFF Bond With Beauty: เพื่อนสนิทสายบิวตี้” กล่าวถึง BFF ว่า “ดิฉันทำธุรกิจร้านอาหารซึ่งถือว่าเป็นสายงานบริการที่เราจะต้องพบปะกับลูกค้าและผู้คนมากมาย ทำให้ต้องหมั่นดูแลตัวเองให้สวยงามดูดี มีบุคลิกที่ดี และมีสุขภาพแข็งแรง เพื่อให้เราต้อนรับแขกทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมเยือนร้านอาหารของเราได้อย่างมั่นใจ โดยส่วนตัวแล้ว ดิฉันมีความชื่นชอบผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง BFF ถือว่าเป็นร้านมัลติแบรนด์เจ้าแรกในประเทศไทยที่สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างตรงใจ

“ดิฉันเป็นลูกค้าของ BFF มากกว่า 6 ปีแล้ว และตลอดเวลาที่ผ่านมา ดิฉันได้รับความสะดวกสบายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ด้านความงามและอาหารเสริมจากแบรนด์ต่างๆ ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้เลยยกเว้นที่ BFF เท่านั้น ไม่เพียงแต่สินค้าด้านความงามเท่านั้น ดิฉันยังใช้ผลิตภัณฑ์อีกมากมายหลายประเภทจากร้าน BFF เรียกว่าน้อง BA แนะนำอะไร ก็ซื้อทุกอย่างเลยค่ะ โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นท็อปลิสในใจที่ชอบมากเป็นพิเศษก็จะเป็นซีรีส์ 111SKIN Black Diamond เกือบทุกตัว ถ้าพูดถึงความประทับใจที่มีต่อ BFF ดิฉันคิดว่า BFF เป็นเหมือนเพื่อนสาวที่ช่วยอัพเดตเทรนด์ความสวย ช่วยให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ และช่วยแก้ปัญหาที่เรากังวลใจในด้านบิวตี้ได้ สิ่งสำคัญที่ BFF ได้มอบให้กับดิฉันมาตลอดคือการให้บริการที่ดีที่สุด ทำให้เรารู้สึกสบายใจเวลาซื้อของด้วยการดูแลอย่างใส่ใจเหมือนเป็นคนพิเศษค่ะ”

คุณนุชนรินทร์ ศิลปรักษ์ หรือคุณนุช ลูกค้าระดับ Diamond ของ BFF แขกรับเชิญ พิเศษอีกท่านซึ่งมาร่วมพูดคุยในการเสวนา กล่าวเสริมว่า “นุชเป็นคนที่สนใจด้านบิวตี้และเวลเนสมาตั้งแต่อายุยังน้อยๆ แล้วค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากแบรนด์ที่หาซื้อยากในเมืองไทย มีส่วนผสมสำคัญต่างๆ ที่น่าสนใจ และเหมาะสมกับสภาพผิวของนุชเอง ตั้งแต่ที่นุชได้เข้ามารู้จักกับ BFF เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก็ได้รับความสะดวกสบายจากร้านมัลติแบรนด์ซึ่งมีผลิตภัณฑ์นิช และลักชัวรี่ จากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ที่หลากหลายจากทั่วโลก โดยเป็นแบรนด์ที่สามารถหาซื้อได้ที่ BFF ที่เดียวเท่านั้นค่ะ โดยส่วนตัว นุชจะมีผลิตภัณฑ์หลายตัวจากร้าน BFF ที่ใช้อยู่เป็นประจำ อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ดูเเลผิวหน้าจาก 111SKIN, CellCosmet และ Evidens ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เป็นท็อปลิสในใจเลยค่ะ แต่ถ้าจะให้เป็นท็อปที่สุดจริงๆ ก็คือแบรนด์ 111SKIN เพราะมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมายตามแต่ปัญหาของผิว โดยตัวที่นุชชอบที่สุด คือ 111SKIN Repair Serum กับ 111SKIN Supplement ค่ะ

“ในส่วนของความประทับใจที่มีต่อ BFF คือจากที่นุชเป็นลูกค้ามานาน 5-6 ปีแล้ว แต่พันธสัญญาในการบริการลูกค้าอย่างดีเยี่ยมของ BFF ไม่เคยยิ่งหย่อนไปกว่าเดิมเลย โดย BFF ได้มอบความจริงใจในการขายสินค้าให้กับนุชตลอดมา ทำให้เชื่อใจได้ว่า BFF ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ส่วนตัวนุชยังรู้สึกประทับใจในพนักงานทุกคนที่ให้บริการอย่างมี Service Mind ค่ะ การเป็นลูกค้าของ BFF ทำให้เรารู้สึกเป็นคนพิเศษ ได้เป็นส่วนหนึ่งของคอมมิวนิตี้สำหรับผู้ที่รักความงามและการดูแลตัวเองซึ่ง BFF ได้สร้างขึ้นมา โดยเป็นแพล็ตฟอร์มที่มีกิจกรรมต่างๆ ให้เราเข้ามาอัพเดทเรื่องความสวยความงามอยู่ตลอดเวลา ไปจนถึงการแชร์ความรู้ คำแนะนำต่างๆ และตามติดเทรนด์ความงามใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กับ BFF”

คุณศจิกา ยังได้แชร์เคล็ดลับในการดูแลผิวพรรณและทิปส์ต่างๆ ในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการที่หลากหลายของทุกคน “สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทุกคนในการดูแลผิวพรรณและสุขภาพความงามมีอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน อย่างแรกคือการสังเกตตัวเอง เราจำเป็นจะต้องรู้ว่าสภาพผิวตัวเองเป็นแบบไหน มีปัญหาอะไรบ้างที่พบอยู่ประจำ เราจะได้ป้องกันได้ก่อนปัญหาจะเกิด และมีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่เราแพ้หรือไม่ ในส่วนที่สองคือการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ด้านความงามต่างๆ โดยในปัจจุบัน เราสามารถท่องอินเตอร์เน็ตเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย การหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อเท็จจริงต่างๆ จึงสามารถทำได้ทุกเวลาในชีวิตประจำวัน และการที่เรายิ่งมีความรู้มากๆ เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ด้านความงาม หรือเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และส่วนผสมต่างๆ ก็จะช่วยเอื้อประโยชน์ให้เรานำความรู้เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับการดูแลตัวเองและคนที่เรารักได้ดียิ่งขึ้น

“นอกจากนี้ ข้อปฏิบัติพื้นฐานที่ใครๆ ก็รู้กันแต่ทำไม่ค่อยได้ ก็ยังเป็นสิ่งที่ใช้ได้อยู่เสมอ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมกันแดด พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก รับประทานอาหารที่ดี ออกกำลังกาย ดื่มน้ำให้เพียงพอ ล้างหน้าให้สะอาด และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเสมอ เป็นต้น ลองทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นกิจวัตรและจะเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพ ผิวพรรณ และอารมณ์ที่แจ่มใสขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ การพบแพทย์เพื่อใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดูแลตัวเอง รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ดีและรับประทานอาหารเสริม ก็จะยิ่งช่วยให้เราเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเราได้ค่ะ”

พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัววิดีโอชุดพิเศษ “นิยามของคำว่าเพื่อนสนิท เพื่อนสนิทสายบิวตี้ – BFF Best Friend Forever” ที่สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า “เพราะเราเชื่อว่าทุกคนนั้นล้วนมีเพื่อนสนิทเรื่องความงามอยู่ใกล้ตัวเสมอ เพื่อนที่มาในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ความงาม เพื่อนที่มอบแต่สิ่งที่ดีให้ เพื่อนที่เข้าใจสิ่งที่คุณต้องการ และทุกคนต่างมองหาเพื่อนสนิทชิ้นถัดๆ ไป…BFF พร้อมจะยืนอยู่ตรงนั้นในฐานะเพื่อนสนิทของสาวๆ ทุกคน” ซึ่งวิดีโอดังกล่าวจะออกอากาศทางสื่อออนไลน์ทั่วประเทศในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2567 เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าที่มีรายได้สูงและสนใจในผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อความงามและสุขภาพในระดับนิช และลักชัวรี่ โดยเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์และศักยภาพอันแข็งแกร่งของ BFF

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ BFFกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ bffbangkok.com ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์ พร้อมกิจกรรมและโปรโมชั่นสุดพิเศษจาก BFF ได้ที่ช่องทางออนไลน์ต่างๆ อาทิ Facebook:   bffluxury Instagram: @bff_bkk