พาส่อง 3 บิวตี้ไอเท็มเกาหลี ยอดฮิตมาแรง ที่ยูทูบเบอร์นิยมใช้

ต้องยอมรับว่าเทรนด์บิวตี้เกาหลีตกสาวๆ ได้เยอะจริงๆ แต่ไม่ใช่แค่เมคอัพนะคะ เพราะ บิวตี้ไอเท็มเกาหลี อื่นก็ดังไม่แพ้กัน ซึ่งในบรรดาไอเท็มเหล่านี้ จะมีบางอย่างที่ไม่ค่อยเห็นคนไทยใช้กันมากนัก แต่กลับปังมากในเกาหลี นอกจากจะขึ้นไปติดอันดับขายดีอยู่บ่อยๆ แล้ว บิวตี้ยูทูบเบอร์เกาหลียังนิยมใช้+รีวิวกันด้วย จะมีไอเท็มไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ

หมายเหตุ : ราคาสินค้าทั้งหมดอ้างอิงจากเว็บไซต์ Olive Young Korea ณ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564

3 บิวตี้ไอเท็มเกาหลี ที่ยูทูบเบอร์นิยมใช้

Toner Pad

Toner Pad บิวตี้ไอเท็มเกาหลี

จริงๆ แล้ว โทนเนอร์แพด (Toner Pad – 토너 패드) หรือ โทนเนอร์แบบแผ่น ก็เป็นโทนเนอร์เหมือนที่เราคุ้นเคยกัน เพียงแต่เป็นโทนเนอร์ที่มาในรูปแบบแผ่น ใช้งานง่ายและสะดวกมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องพกสำลี ซึ่งหน้าที่หลักๆ ของโทนเนอร์คือช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่เหลือตกค้างหลังจากการล้างทำความสะอาดใบหน้า รวมทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวให้มีความสมดุลมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมก่อนขั้นตอนการทาครีมบำรุง ทำให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้นค่ะ

ในบ้านเราสาวๆ หลายคนก็ชอบใช้โทนเนอร์แบบนี้นะคะ แต่ยังไม่ถึงกับเป็นที่นิยมในวงกว้าง แต่ในเกาหลีจะใช้ บิวตี้ไอเท็มเกาหลี อันนี้กันค่อนข้างเยอะมาก ซึ่งไม่ใช่แค่โทนเนอร์เท่านั้นที่มีในรูปแบบของแผ่น สกินแคร์เกาหลีอื่นๆ ก็มีเป็นรูปแบบแผ่นเหมือนกันค่ะ

ไม่ว่าจะเป็น Moisture Up Pad, Pore Pad, Tightening Pad, Clearing Pad, Tone-up Pad, Calming Pad ฯลฯ เรียกได้ว่ามาแทบทุกชนิดของสกินแคร์เลยทีเดียว สำหรับโทนเนอร์แพดแบรนด์เกาหลีจะมีไอเท็มไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกันเลยค่า

goodal (구달) : Green Tangerine Vita C Toner Pad

Green Tangerine Vita C Toner Pad

Green Tangerine Vita C Toner Pad จากแบรนด์ goodal นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสกินแคร์เกาหลีที่ฮิตสุดๆ การันตีด้วยรางวัลอันดับ 2 จาก Olive Young Awards ปี 2020 ในประเภท skin/toner และรางวัลอื่นๆ อีก 5 รางวัลค่ะ ปังได้อีกกก

ซึ่งโทนเนอร์ตัวนี้มีส่วนผสมของสารสกัดจากส้มของเกาะเชจู (Green Tangerine) 1,000 ppm ซึ่งเป็นวิตามินซีจากธรรมชาติ และมีกรดผลไม้จากธรรมชาติอย่างเลม่อน บิลเบอร์รี่ อ้อย ที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส อีกทั้งยังมี Hyaluronic Acid มวลโมเลกุลต่ำ ที่ทำให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้นยาวนานขึ้น

นอกจากจะใช้เป็นโทนเนอร์เพื่อเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าแล้ว ยังสามารถใช้ขจัดสิ่งสกปรกที่เหลือตกค้างหลังล้างหน้าได้อีกด้วย เนื่องจากความเป็นกรดผลไม้อ่อนๆ จะช่วยขัดผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวรู้สึกนุ่มลื่น หรือจะวางทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาที เพื่อเป็นชีทมาสก์ก็ยังได้

ที่สำคัญคือโทนเนอร์ตัวนี้ผ่านการทดสอบการระคายเคืองทางผิวหนังมาแล้วว่าเป็นสูตรอ่อนโยนด้วยค่ะ ขนาด 70 แผ่น (140 ml) ราคา 24,000 วอน (ประมาณ 650 บาท)

Bring Green (브링그린) : Artemisia Calming pH Balanced Toner Pad

Artemisia Calming pH Balanced Toner Pad

ต่อกันที่ Artemisia Calming pH Balanced Toner Pad จากแบรนด์ Bring Green ด้วยส่วนผสมหลักคือสารสกัดจากสมุนไพรชั้นสูงอย่าง Artemisia Capillaris Extract มากถึง 50% ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของผิว

นอกจากนี้ยังมี Camellia Sinensis Leaf Extract (Green Tea) และ Madecassoside ที่ช่วยในการปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง รักษาสมดุลผิว อีกทั้งยังบำรุงผิวและฟื้นฟูผิวให้รู้สึกสดชื่นและชุ่มชื้น

ซึ่งโทนเนอร์ตัวนี้ก็ผ่านการทดสอบการระคายเคืองทางผิวหนังมาแล้วเช่นกัน สาวๆ สามารถใช้โทนเนอร์แพดเช็ดเบาๆ ทั่วใบหน้าหลังขั้นตอนการทำความสะอาดผิว โดยใช้ได้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็นเลยค่ะ ขนาด 75 แผ่น (150 กรัม) ราคา 13,600 วอน (ประมาณ 370 บาท)

Fation (파티온) : Aqua Biome Toner Pad

Aqua Biome Toner Pad

Aqua Biome Toner Pad จากแบรนด์ Fation ตัวนี้ได้รับรางวัล Allure Korea Best of Beauty Award 2020 ประเภท Toner Pad มาแล้วค่ะ ด้วยส่วนผสมของ Althaea Rosea Root Extract ที่ช่วยคืนความอ่อนนุ่มและปลอบประโลมผิว รวมทั้งยังมี Sodium Hyaluronate ที่ช่วยเรื่องการเก็บกักความชุ่มชื้น รวมทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้วย

ซึ่งโทนเนอร์ตัวนี้เป็นสกินแคร์เกาหลีที่ทางแบรนด์เคลมว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง อีกทั้งผ่านการทดสอบไฮโป-อัลเลอร์เจนิก (Hypo-Allergenic) มาแล้ว (ส่วนมากเราจะเห็นการทดสอบไฮโป-อัลเลอร์เจนิกในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กมากกว่า) นอกจากนี้ ตัว Pad ยังผ่านการรับรองจาก OEKO-TEX มาแล้วว่าอ่อนโยนกับผิวสุดๆ โดยสามารถใช้เป็นโทนเนอร์หลังขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า หรือจะแปะทิ้งไว้บนผิวคล้ายๆ ชีทมาสก์ก็ได้เช่นกันค่ะ ขนาด 80 แผ่น (170 ml) ราคา 22,000 วอน (ประมาณ 600 บาท)

Ampoule

Ampoule บิวตี้ไอเท็มเกาหลี

แอมพูล (Ampoule) หรือที่สาวเกาหลีเรียกกันว่า แอมพึล (앰플) เป็น บิวตี้ไอเท็มเกาหลี ที่เริ่มเข้ามาในไทยตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งก็ยังไม่ค่อยแมสในบ้านเราเท่าไหร่ แต่สำหรับในเกาหลีนั้น แอมพูลเป็นสกินแคร์เกาหลีที่สาวๆ ใช้กันเยอะมาก แถมยังเป็น Favorite Item ของยูทูบเบอร์เกาหลีหลายคนเลยค่ะ โดยแอมพูลจะมีลักษณะคล้ายๆ Essence และ Serum แต่มีความเข้มข้นสูงกว่ามาก ในขณะที่เนื้อสัมผัสค่อนข้างจะบางเบา เหมาะสำหรับใช้ในวันที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน ซึ่งราคาก็จะสูงตามไปด้วยค่ะ

การใช้งานแอมพูลก็สามารถใช้ได้หลายรูปแบบ จะใช้เป็นสกินแคร์เดี่ยวๆ ก็ได้ จะผสมกับครีมบำรุงอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพก็ได้ หรือจะใช้มาสก์หน้าก็ยังได้ รวมทั้งยังสามารถผสมในรองพื้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นได้อีกด้วย โดยตัวแอมพูลเองก็มีหลายสูตรให้เลือกตามความเหมาะสมกับปัญหาผิวของสาวๆ แต่ละคน สำหรับแอมพูลแบรนด์เกาหลีจะมีตัวไหนน่าสนใจบ้าง มาดูพร้อมกันเลยค่ะ

Dermatory (더마토리) : Pro Hyal Shot Moisture Ampoule Special Set

Pro Hyal Shot Moisture Ampoule Special Set

เริ่มด้วยแอมพูลที่เป็น Product of the Year 2020 ของ Risabae บิวตี้ยูทูบเบอร์เกาหลีชื่อดัง ที่มียอด Subscribers มากถึง 2.26 ล้าน กับ Pro Hyal Shot Moisture Ampoule Special Set จากแบรนด์ Dermatory ที่เน้นเรื่องช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งมาพร้อมกับลูกเล่นพิเศษเล็กๆ น้อยๆ เพราะแอมพูลตัวนี้มาเป็นเซ็ตค่ะ สิ่งแรกคือ Moisture Ampoule ที่มี Sodium Hyaluronate มากถึง 3,000 ppm ที่ช่วยเรื่องคืนความชุ่มชื้น และยังมี Ceramide NP 500 ppm ที่ทางแบรนด์ระบุว่าช่วยป้องกันผิวขาดน้ำ อีกสิ่งหนึ่งในเซ็ตนี้คือ Pro Hyal Shot 100% Hyaluron Cube ที่ระบุว่าเป็น Hyaluronic Acid เข้มข้น 100% ในรูปแบบก้อน! โดยจะใช้ตัวแอมพูลเดี่ยวๆ หลังจากขั้นตอนโทนเนอร์ หรือจะใช้แอมพูล (ตัวนี้หรือตัวอื่นๆ) คู่กับ Hyaluron Cube ก็ได้ค่ะ

Dermatory Ampoule

วิธีการใช้คือ ฉีกฝาเพื่อเปิด Hyaluron Cube ออก แล้วหยิบ Cube มาวางบนฝ่ามือ จากนั้นหยดแอมพูลลงบน Cube ในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อให้ Cube ละลาย ก่อนจะแตะและนวดลงบนผิวเบาๆ ซึ่งในเซ็ตประกอบไปด้วยแอมพูลขนาด 20 ml 1 ขวด และ Hyaluron Cube ขนาด 30 mg อีก 2 ก้อน ราคา 26,000 วอน (ประมาณ 700 บาท) และมี Hyaluron Cube แยกขายแบบเซ็ต 4 ก้อน ราคาเซ็ตละ 12,000 วอน (ประมาณ 320 บาท)

ma:nyo (마녀공장) : Bifida Biome Complex Ampoule

Bifida Biome Complex Ampoule

Bifida Biome Complex Ampoule จากแบรนด์ ma:nyo ตัวนี้ เป็นแอมพูลที่ได้อันดับ 1 จาก Olive Young Awards ปี 2020 ด้าน Anti-aging เลยค่ะ นอกจากนี้ยังได้รางวัล The Winner ด้าน Ampoule ใน unpa. Beauty review (언니의 파우치 리뷰) ปี 2020 และได้รับ Editor’s Pick จาก Get Excited (Singles) Magazine อีกด้วย

โดยเป็นแอมพูลที่มีส่วนผสมหลักคือ Bifida Ferment Lysate ซึ่งเป็นสารที่ช่วยฟื้นฟูผิว อีกทั้งยังซ่อมแซมและบำรุงผิวได้ล้ำลึก นอกจากนี้ยังมี Lactobacillus Ferment Lysate, Hyaluronic Acid และ Sodium Hyaluronate ที่ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ลดเลือนริ้วรอย ทั้งยังช่วยปกป้องริ้วรอยก่อนวัยด้วย โดยใช้บำรุงผิวหน้าหลังขั้นตอนการลงโทนเนอร์ ขนาด 30 ml ราคา 23,000 วอน (ประมาณ 600 บาท)

ROUND LAB (라운드랩) : 1025 Dokdo Ampoule

1025 Dokdo Ampoule

สำหรับแบรนด์ ROUND LAB หลายคนอาจจะคุ้นตากับโทนเนอร์ 1025 Dokdo Toner จากแบรนด์นี้ ซึ่งเป็นสกินแคร์เกาหลีที่กวาดรางวัลมาเพียบ ส่วน 1025 Dokdo Ampoule ตัวนี้ แม้จะไม่ได้กวาดรางวัลมามากมายเท่าโทนเนอร์ แต่ก็เป็นแอมพูลที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวผิวบอบบางแพ้ง่าย

เพราะได้ผ่านการทดสอบการระคายเคืองทางผิวหนัง (Skin Irritation Test) จาก INNODERM Skin Science Expert (이노덤 피부과학연구소) มาแล้ว อีกทั้งยังได้รับการการันตีว่าเป็นผลิตภัณฑ์ Clean Beauty* จาก Olive Young อีกด้วย เหมาะกับสาวๆ ที่รักธรรมชาติสุดๆ ไปเลยค่ะ

แอมพูลตัวนี้เป็นแอมพูลที่ทางแบรนด์บอกว่ามีคุณสมบัติช่วยเรื่องความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว และป้องกันผิวขาดน้ำ ตัว Texture มีลักษณะเป็นเจลที่ทาไปแล้วจะแตกตัวเป็นน้ำ สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย อีกทั้งยังมี Hyaluronic Acid มวลโมเลกุลต่ำและเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว

และยังมีแร่ธาตุจากน้ำทะเลลึกของเกาะอุลลึง (อุลลึงโด) มากถึง 72 ชนิดอีกด้วย สำหรับวิธีการใช้ จะใช้แอมพูลตัวนี้บำรุงผิวหน้าหลังขั้นตอนการลงโทนเนอร์ค่ะ ขนาด 45 กรัม ราคา 18,900 วอน (ประมาณ 500 บาท)

(*Clean Beauty เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายหรือระคายเคืองต่อผิว ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างในผิว โดยส่วนประกอบที่ใช้จะมาจากธรรมชาติ ซึ่งต้องบอกบนฉลากทั้งหมด และต้องตรวจสอบได้ ทำให้มีความปลอดภัยและสะอาดกว่าผลิตภัณฑ์ Organic ไปอีกขั้น รวมทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและย่อยสลายได้ทั้งหมด บางแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรนานาชาติจะยิ่งพิถีพิถันมากขึ้นไปอีก เพราะสามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกวัตถุดิบไปจนถึงกระบวนการผลิตเลยค่ะ)

Tone-Up Cream

Tone-Up Cream บิวตี้ไอเท็มเกาหลี

โทนอัพครีม (Tone–Up Cream – 톤업크림) เป็นอีกหนึ่ง บิวตี้ไอเท็มเกาหลี ที่บิวตี้ยูทูบเบอร์หลายคนนิยมใช้กัน โดยเฉพาะในวันที่แต่งหน้าลุคใสๆ เบาๆ แบบ Makeup no makeup หรือลุคธรรมชาติแบบ Natural Makeup โดยโทนอัพครีมนี้จะช่วยปรับผิวให้ดูขาวสว่างกระจ่างใสขึ้นหลังจากทา และช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น

นอกจากนี้ ด้วยความที่โทนอัพครีมจะมีความเป็นครีมบำรุงอยู่ ทำให้ผิวยังคงดูชุ่มชื้น ดูโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยบางแบรนด์อาจนำโทนอัพครีมไปผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์มากขึ้นแบบ All in one เช่น Tone-Up Primer, Tone-Up Sun Cream, Tone-Up Cushion ฯลฯ ซึ่งโทนอัพครีมเหล่านี้ก็มีออกมาให้เลือกหลายแบรนด์เลยค่ะ มาดูกันว่าจะมีโทนอัพครีมแบรนด์เกาหลีตัวไหนน่าสนใจบ้าง

COSNORI (코스노리) : Whitening Dress Tone-Up Cream

Whitening Dress Tone-Up Cream

Whitening Dress Tone-Up Cream จากแบรนด์ COSNORI การันตีด้วยยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ใน Olive Young (ปี 2020) แถมยังได้รางวัล Hwa-hae Beauty Awards (화해 뷰티 어워드) ประเภทโทนอัพครีม รวมถึงรางวัลอื่นๆ อีกเพียบ

โทนอัพครีมตัวนี้จะช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยเนื้อครีมเบาบางทำให้ดูกลมกลืนไปกับผิว ให้ฟินิชลุคที่แมตต์ แต่ไม่แห้ง ไม่เลอะแมสก์ ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถกันน้ำกันเหงื่อได้

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Niacinamide ที่ช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังผ่านการทดสอบทางเทคนิคจาก Skin Research Center (피부임상연구센타) ว่าติดทนนาน สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้าและทั่วร่างกาย โดยใช้ในขั้นตอนสุดท้ายของสกินแคร์

และเนื่องจากโทนอัพครีมนี้เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทสกินแคร์ จึงสามารถใช้ทาบำรุงก่อนนอนได้ด้วย โดยใช้ในขั้นตอนเดียวกับการทาครีมปกติเลยค่ะ ขนาด 50 ml ราคา 14,400 วอน (ประมาณ 400 บาท)

peripera (페리페라) : Milk Blur Tone Up Cream

หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์ peripera มาบ้าง ซึ่งแบรนด์นี้ก็ไม่ได้มีแค่เมคอัพที่โดนใจสาวๆ แต่สกินแคร์ก็ดีงามไม่แพ้กันค่ะ โดย Milk Blur Tone Up Cream นี้ จะมีส่วนผสมของ Vegetable Clean Milk อย่าง Soy Milk, Oat Kernel (Oatmeal) Extract และ Rice Extract ช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูสว่างขึ้น และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว อีกทั้งยังช่วยให้ผิวรู้สึกยืดหยุ่นและชุ่มชื้น เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ

ซึ่งทางแบรนด์บอกว่าโทนอัพครีมตัวนี้จะช่วยปรับสีผิวได้เหมือนใช้ฟิลเตอร์เลยทีเดียว โดยจะมี 2 สูตร คือ Pure และ Velvet ค่ะ

สูตร Pure Tone Up สามารถใช้เป็นสกินแคร์ได้ทุกวัน ช่วยปรับให้ผิวดูสว่างขึ้น แต่ยังคงความชุ่มชื้น ดูเป็นธรรมชาติ ราวกับใช้ pure filter!

และสูตร Velvet Tone Up จะเป็นเนื้อบางเบา แต่ปกปิด ให้ผิวรู้สึกนุ่มลื่นเรียบเนียน ช่วยเบลอรูขุมขน ปกปิดผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ราวกับใช้ blur filter แถมยังมีกันแดด SPF 50+ PA++++ อีกด้วย นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบการระคายเคืองทางผิวหนังจาก P&K Skin Research Center (피엔케이피부임상연구센타) มาแล้วด้วยค่ะ ขนาด 60 ml ราคา 10,000 วอน (ประมาณ 270 บาท)

SOME BY MI (썸바이미) : V10 Vitamin Tone-Up Cream

V10 Vitamin Tone-Up Cream

มาถึงตัวสุดท้าย V10 Vitamin Tone-Up Cream จากแบรนด์ SOME BY MI มี Vitamin Tree Fruit Extracts มากถึง 700,000 ppm และมี มี Vitamin Essence 10 ชนิด ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส และยังช่วยบำรุงพร้อมฟื้นฟูผิว เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า

เป็นโทนอัพครีมที่ช่วยปรับโทนสีผิวแบบที่ไม่ขาวเกินไป เพราะเป็น Pinky Tone-Up ทำให้ผิวดูโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี Niacinamide และ Adenosine ที่ช่วยทำให้ผิวดูสว่างขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง และยังช่วยลดเลือนริ้วรอย อีกทั้งไม่มีสารเคมี 20 ชนิดที่ทำร้ายผิว จึงอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว

ใช้ได้ทั้งกับใบหน้าและร่างกาย เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่เหนอะหนะ โดยสามารถใช้โทนอัพครีมเพียงตัวเดียวในการแต่งหน้าแบบเบาๆ หรือจะใช้คู่กับรองพื้นสีเข้มเพื่อปรับสีรองพื้น รวมทั้งใช้เป็นเมคอัพเบสก็ได้เช่นกันค่ะ ขนาด 50 ml ราคา 15,000 วอน (ประมาณ 400 บาท)

TEXT : Choi Ah-Hyun

REF : Olive Young Korea

PHOTO : 다영 DAYEONG / ARANG makeup artist (Arang 아랑) / 소윤Soyoon / PONY Syndrome / goodal : Olive Young Korea / Bring Green : Olive Young Korea / Fation : Olive Young Korea / Risabae / 조효진 HYOJIN / 로즈하ROSEHA / Minsco 민스코 / Dermatory : Olive Young Korea 1 , 2 / ma:nyo / Round Lab : Olive Young Korea / areumsongee아름송이 / 소윤Soyoon / 보로리 BORORI / PONY Syndrome / COSNORI : Olive Young Korea / peripera : Olive Young Korea / SOME BY MI : Olive Young Korea