ทุกอย่างในชีวิตเริ่มจากความคิดที่เป็นระเบียบ วิธีจัดระบบที่จะทำให้ชีวิตเราไม่ยุ่งเหยิงอีกต่อไป

เพราะแต่ละวันชีวิตเราไม่ได้มีเรื่องที่ต้องทำแค่อย่างเดียว ภาวะ “เยอะจนไม่รู้จะทำอะไรก่อน” จึงเกิดขึ้นได้กับทุกคน และนั่นคือเหตุผลที่สุดฯไปสืบเสาะจนเจอเล่มนี้… ทุกอย่างในชีวิตเริ่มจากความคิดที่เป็นระเบียบ มันดีจนต้องรีบเอามาบอกต่อคุณผู้อ่านเลยละค่า

ก่อนอื่นต้องบอกว่า การจัดระเบียบความคิดนั้นเป็นทักษะที่เราต้องใช้กันทุกคน และทุกวันเสียด้วยนะคะ ที่เห็นได้ชัดมากก็ได้แก่ นักเรียน นักศึกษา พนักงานบริษัท ผู้บริหาร แต่ที่หลายคนมักคาดไม่ถึงคือ เรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงาน หรือการเรียนในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านที่คุณแม่บ้านต้องทำให้เสร็จในแต่ละวัน หรือแม้แต่การรักษาสัมพันธภาพของคู่รักนั้นก็ยังต้องใช้เทคนิคนี้เหมือนกัน นั่นคือหนึ่งในเหตุผลที่ผู้เขียน – พักจูฮวัน ผู้บริหารสถาบันวิจัยการจัดระเบียบความคิด ตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า ทุกอย่างในชีวิตเริ่มจากความคิดที่เป็นระเบียบ

เนื้อหาในเล่มจะแบ่งเป็น 7 บทใหญ่ๆ และในแต่ละบทก็จะแบ่งเป็นหัวข้อย่อยๆอีกที ประมาณนี้

บทแรก

พูดถึงภาพรวมกันก่อน ว่าด้วยความสำคัญของการจัดระเบียบความคิด ทักษะนี้สำคัญสำหรับใคร คนที่จัดระเบียบความคิดเก่งๆมีลักษณะแบบไหน

บทที่ 2

อะไรคือเหตุผลที่เราจัดระเบียบความคิดไม่ได้ มันมีเครื่องมือหรือเทคนิคอะไรที่ช่วยเราได้บ้าง

บทที่ 3

วิธีจัดการความคิดที่ซับซ้อนด้วยการใช้ Mandala Art , Mind Map และ Logic Tree 3 อธิบายได้เห็นภาพ และเข้าใจง่าย พอลองทำตามแบบที่หนังสือสอนไว้ แล้วพบว่า เออ มันก็ไม่ได้ยากนี่แฮะ ชวนให้มีกำลังใจอ่านเทคนิคต่อๆไป

บทที่ 4

บทนี้อธิบายว่า การวางแผนก็คือการจัดระเบียบความคิดอย่างหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้เราแก้ปัญหาต่างๆได้ เครื่องมือที่ใช้จัดระเบียบความคิดในบทนี้คือ Brainstorming, Brainwriting และ Question Map แต่ที่เราชอบที่สุดคือ การสอน “วิธีเขียนแผนงานในหน้าเดียว” สำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ ชีวิตมนุษย์เงินเดือน เทคนิคบทนี้ชัดเจน ใช้ได้จริงสุดๆ

บทที่ 5

เทคนิคจัดระเบียบความคิดจากการอ่าน บทนี้เหมาะมากสำหรับหนอนหนังสือ นักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ต้องทำวิจัยค้นคว้า เพราะคุณจะพบว่า วิธีที่อ่านหนังสือได้มาก ได้เร็ว และจำได้ มันมีอยู่จริง โดยปรับวิธีการอ่านให้เป็นแบบที่ “สมองชอบ”

บทที่ 6

สังเกตดูนะคะ คนที่พูดเก่ง มีประเด็นชัดเจน นั่นแหละคือคนที่จัดระเบียบความคิดได้ดี เพราะเมื่อเราจัดระเบียบความคิดได้ ก็จะได้ทักษะการพูดเป็นของแถม ทั้งการพูดต่อหน้าสาธารณชน การพูดในที่ประชุม หรือการขายงานกับลูกค้า ในทางกลับกัน เคยเจอใช่ไหมคะ คนที่ได้รับการติดป้าย “พูดไม่รู้เรื่อง” “งงมาก” จากทุกชั้นทุกแผนกที่เคยได้ดีลกันมา นั่นแหละค่ะ ปัญหาของเขาอาจจะไม่ได้มาจากการพูด(อย่างเดียว) แต่มาจากการจัดระเบียบความคิดไม่ได้นั่นเอง

บทสุดท้าย

การจัดระเบียบความคิดช่วยเปลี่ยนชีวิตเราได้ เครื่องมือในบทนี้ได้แก่ การเขียนไดอะรี่ กราฟชีวิต และ Bucket List อันนี้เป็นเรื่องของตัวใครตัวมัน ทำก็ได้ ไม่ทำก็ไม่เป็นไร แต่บอกได้แค่ว่า ของแบบนี้มันมาจากข้างใน ถ้าเราหมั่นทำทุกวัน สมองเราได้ฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ รู้ตัวอีกที ทักษะการจัดระเบียบความคิดของเราก็จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียวค่ะ

สุดฯรีวิว

ปก (เป็นคนตัดสินหนังสือจากหน้าปกค่ะ ยกโทษให้ด้วยค่ะ >.<) มีความมินิมัล ขณะเดียวกันก็ทันสมัย ถือไปไหนก็ไม่เชย ส่วนเนื้อในก็มีความคล้ายกับปกในเรื่องของความกระชับ เข้าใจง่าย ไม่เวิ่นเว้อ คนเขียนแบ่งเนื้อหาเป็นบทๆ ชัดเจน สำนวนแปลก็ไม่มีสะดุดตะกุกตะกัก

การนำไปใช้ได้จริง เป็นอีกสิ่งที่เราจะคิดถึงเสมอเวลาอ่านหนังสือฮาวทู แล้วเราก็พบว่า เล่มนี้คุ้มมาก เพราะถ้าพูดถึงการแจกเทคนิค เขาก็จัดเต็มวิธีในการจัดระเบียบความคิดมาให้ถึง 13 วิธี และอธิบายได้ชัดเจนว่า วิธีไหนมีประโยชน์กับสถานการณ์แบบใด ทำให้เราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับไลฟสไตล์ของเรา (ถ้าไม่ไหว ไม่ต้องใช้หมดก็ได้จ้า >.<)

ฉะนั้น เล่มนี้สุดฯให้ 10 – 10 – 10 ไปเลยจ้า