ปัจจุบันมีนวัตกรรมความงามเพื่อการยกกระชับผิวออกมามากมายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่มีความกังวลเรื่องปัญหาผิวหย่อนคล้อย ซึ่ง EMFACE คือหนึ่งในวัตกรรมใหม่ในวงการยกกระชับที่เพิ่งมีการเปิดตัวในเมืองไทยในปี 2023
Introduction:
EMFACE (EMFACE by BLT Aesthetics) คือนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการยกกระชับและมีส่วนช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนขึ้น โดยการทำงานของคลื่นพลังงาน 2 แบบ คือ HIFES™ (High Intensity Facial Electrical Stimulation) และคลื่นพลังงาน Synchronized RF ซึ่งลงลึกสู่ชั้นกล้ามเนื้อช่วยทำให้เกิดการยกกระชับจากภายในสู่ภายนอก ผิวหน้าจึงแลดูอ่อนกว่าวัยขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม จึงไม่เจ็บตัวและไม่ต้องมีระยะเวลาพักฟื้น อีกทั้งใช้เวลาในการทำน้อย (ครั้งละ 20 นาที 4 ครั้ง เว้นห่างกัน 1 สัปดาห์) จึงเป็นที่สนใจในแวดวงความงามอย่างมาก
Innovation & Result:
อย่างที่กล่าวไปว่านวัตกรรม EMFACE เป็นอะไรที่ค่อนข้างใหม่และเป็นที่สนใจในแวดวงความงามอย่างมาก เราจึงได้ขอพูดคุยกับคุณหมอคนดัง พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แห่ง KKC Clinic ซึ่งเป็นคลินิกกลุ่มแรกๆ ที่มีเครื่อง EMFACE ไว้บริการ ถึงนวัตกรรมตัวนี้พร้อมข้อแนะนำต่างๆ
โดย พญ.ของขวัญได้เล่าถึงการยกกระชับใบหน้าว่ามีปัจจัยหลักๆ คือ คอลลาเจน ซึ่งเทคโนโลยีที่ดูแลในส่วนนี้ เช่น อัลเทอร่าหรือเทอร์มาจ สองคือ กล้ามเนื้อ ซึ่งการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าจะมีอยู่ 2 อย่าง คือกล้ามเนื้อดึงขึ้นและกล้ามเนื้อดึงลง ซึ่งควรจะต้องทำงานบาลานซ์กัน แต่ในคนที่มีปัญหาหน้าตก คล้อย ย้อยลงมาก็เพราะกล้ามเนื้อดึงลงทำงานเยอะกว่ากล้ามเนื้อดึงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเลือกในการรักษาคือการใช้สารลดเลือนริ้วรอยเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อดึงลง แต่สำหรับ EMFACE ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้จะไปทำงานกับกล้ามเนื้อดึงขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า HIFES™ ในการกระตุ้นกล้ามเนื้อ เสมือนกล้ามเนื้อได้ออกกำลังกาย เมื่อกล้ามเนื้อดึงขึ้นแข็งแรงขึ้นก็จะได้ในส่วนของการลิฟติ้ง ซึ่งตอนนี้เป็นเครื่องเดียวที่สามารถทำงานกับกล้ามเนื้อดึงขึ้นได้ และการที่เครื่องนี้มีพลังงาน RF ด้วยจึงได้ในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย
พญ.ของขวัญย้ำว่าแม้หัตถการนี้จะไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรือบาดแผล (Non-invasive) แต่ต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น เพราะต้องแม่นยำอะนาโตมี (Anatomy) กล้ามเนื้อบนใบหน้า เพราะหากแปะแผ่นอุปกรณ์ผิดตำแหน่งไปโดนกล้ามเนื้อดึงลงก็อาจให้ผลตรงกันข้าม ดังนั้นจึงควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และทำการรักษาโดยแพทย์เท่านั้น
สำหรับคนที่ดูแลตัวเองด้วยเทคโนโลยีหลากหลายแบบอาจมีคำถามว่าควรเลือกทำอะไร หรือทำร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่ ในเรื่องนี้ พญ.ของขวัญอธิบายว่า หัตถการแต่ละอย่างก็ทำงานกับผิวคนละชั้น แก้ปัญหาผิวคนละแบบ ซึ่งเวลาที่ผิวคนเรามีปัญหาจากวัยที่เพิ่มขึ้น ปัญหาไม่ได้เกิดที่ผิวหนังชั้นใดชั้นหนึ่ง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่ในขั้นตอนการรักษาควรปรึกษาแพทย์ว่าปัญหาและงบประมาณของเราเหมาะกับอะไรบ้าง รวมทั้งวางแผนการรักษาให้เหมาะสมด้วยว่าควรทำอะไรก่อนหลัง และเว้นระยะห่างจากกันเท่าไหร่
Experience:
ในส่วนของประสบการณ์ในการทดลองทำ EMFACE ต้องบอกว่ารู้สึกแปลกใหม่ เพราะเป็นหัตถการที่ใช้เวลาน้อยและมีขั้นตอนแตกต่างจากเทคโนโลยียกกระชับอื่นๆ ที่เคยทดลองทำ โดยจะมีการแปะแผ่นสติ๊กเกอร์ลงบนผิวบริเวณหน้าผากและแก้ม จากนั้นเมื่อครื่องเริ่มทำงานจะรู้สึกอุ่นๆ มีการสั่นและบีบตัวของกล้ามเนื้อหน้าเป็นระยะ ทำ 20 นาทีเสร็จ ไม่มีการใช้เข็มและไม่มีการยิงพลังงานร้อนจัดจึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บและไม่ต้องทายาชา ไม่ต้องเสียเวลารอยาชาออกฤทธิ์ (เป็นประสบการณ์ส่วนบุคคลจากการทดลองโปรแกรม)
ในส่วนของการดูแลหลังทำ พญ.ของขวัญแนะนำว่าสามารถดูแลผิวตามปกติ ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เช่น นอนเพียงพอ รับประทานอาหารครบหมู่ ดื่มน้ำเพียงพอ งดแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เครียด ฯลฯ
ขอบคุณ พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แห่ง KKC Clinic สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel: 092 350 3501-9
ภาพ EMFACE by BTL Aesthetics, KKC Clinic
TAGS: #Emface #kkclinic #หมอของขวัญ #doctorkatekate
ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่
หรูมาก! Clarins SkinSuites เซ็นทรัลชิดลม มาพร้อมทรีตเมนต์ Precious สุดเลอค่า
ผ่อนคลายไปกับ Jet Lag Recovery Treatment @ สปา อินเตอร์คอนติเนนตัล
เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE
เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor
รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์
รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village
Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด