ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เกิดข่าวสนั่นเอเชีย เมื่อแฟนเก่าของ คิมฮยอนจุง ออกมาแฉว่าเขาทำร้ายร่างกาย จนถึงขั้นมีการแจ้งความ ทำให้เส้นทางในวงการบันเทิงที่กำลังไปได้ดีของคิมฮยอนจุงพังลง ก่อนที่ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริง แต่ทว่าชีวิตของคิมฮยอนจุงก็เปลี่ยนไปแล้ว
คิมฮยอนจุง กับการปรากฏตัวในรายการวาไรตี้รอบ 3 ปี
คิมฮยอนจุง เป็นไอดอลนักแสดงที่โด่งดังมาก วง SS501 ที่เขาเป็นหนึ่งในสมาชิก วงนี้ถือว่าเป็นวงดังในยุค 10 กว่าปีที่แล้ว แถมตัวคิมฮยอนจุงยังหันไปเป็นนักแสดง และประสบความสำเร็จจากบทพระเอกและพระรอง
เรียกว่าถ้ายุคนั้นถามว่าดาราเกาหลีคนไหนที่ดังมาก ทั้งในเกาหลีและมีฐานแฟนคลับอยู่ในต่างประเทศ หนึ่งในนั้นก็ต้องมีชื่อของ “คิมฮยอนจุง” แต่ชีวิตที่ดูเหมือนจะโรยโดยกลีบกุหลาบก็เป็นอันสะดุดลง เมื่อแฟนเก่าของคิมฮยอนจุงออกมาแฉว่าเขาทำร้ายร่างกายเธอเมื่อปี 2014 ก่อนจะที่จะมีการออกมาเปิดเผยเรื่องการทำร้ายร่างกายออกมาเรื่อยๆ ทั้งยังมีการอ้างเรื่องการตั้งครรภ์ แล้วโดนบังคับให้ทำแท้ง
นอกจากนี้ ในปี 2014 แฟนเก่าได้มีการยื่นเรื่องแจ้งความและฟ้องร้อง ก่อนจะมีการถอนฟ้องไป โดยคิมฮยอนจุงได้ชดเชยเงินให้แฟนเก่าจำนวน 600 ล้านวอน ก่อนปี 2015 ก็มีการออกมาแฉเรื่องต่างๆ และมีการยื่นฟ้องอีกครั้ง เรียกว่าเรื่องนี้ได้กลายเป็นมหากาพย์เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ใช่แฟนเก่าที่ยื่นฟ้องคิมฮยอนจุง คิมฮยอนจุงยังยื่นฟ้องแฟนเก่าฐานหมิ่นประมาท
แน่นอนว่าข่าวนี้ทำให้คิมฮยอนจุงกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างหนัก จะพูดว่าเขาแทบหมดอนาคตในวงการเลยก็ว่าได้ ก่อนที่ต่อมาได้มีการเปิดว่า คิมฮยอนจุงชนะคดีแล้ว โดยผลออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 โดยมีการระบุว่า แชทที่ฝ่ายหญิงเอามาแฉเป็นของปลอม ส่วนเรื่องท้องแล้วแท้ง ก็มีรายงานข่าวว่าเธอไม่ได้ท้องจริง และไม่มีหลักฐานว่าเธอแท้งจากการที่ถูกคิมฮยอนจุงทำร้ายร่างกาย รวมถึงการบังคับทำแท้งด้วย
ถึงกระนั้นแม้ความจริงจะถูกเปิดเผยออกมา แต่คิมฮยอนจุงก็ได้รับผลกระทบจากข่าวนี้มายาวนานถึง 6 ปี โดยคิมฮยอนจุงได้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ Ask Us Anything Fortune Teller เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรายการที่ให้ทุกคนมาแชร์ความกังวลและรับคำแนะนำจากพิธีกร
คิมฮยอนจุงเล่าว่าเมื่อก่อนเขาเป็นคนสดใสร่าเริง แต่ปัจจุบันเขาใช้ชีวิตอย่างแคร์สายตาผู้คนว่าจะมองตัวเองอย่างไร รู้สึกเหมือนตัวเองตัวเล็กมาก มีความรู้สึกหดหู่ และตั้งคำถามว่าจะใช้ชีวิตอย่างสดใสอย่างไร ทุกวันนี้แม้เขาจะรู้สึกสบายใจเวลาอยู่กับครอบครัว แต่เวลาอยู่กับคนแปลกหน้า จะรู้สึกกังวล แถมฮยอนจุงยังบอกอีกว่าเขาไม่สามารถไปเจอเพื่อนในวงการได้ เพราะคนอื่นอาจจะได้รับผลกระทบก็ได้
เมื่อพิธีกรพูดถึงเรื่องราวเมื่อ 6 ปีก่อน คิมฮยอนจุงก็ได้กล่าวว่า แน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดได้ว่าตัวเองไม่ได้ผิด
แม้ดูเหมือนคิมฮยอนจุงจะหายหน้าหายตาไปเลย แต่เขายังทำงานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นผลงานการแสดงเรื่อง When Time Stopped เมื่อปี 2018 นอกจากนี้เขายังเปิดเผยว่าได้เล่นภาพยนตร์อินดี้เรื่องนึงชื่อเรื่องว่า Indian Pink ซึ่งตอนแรกคิมฮยอนจุงปฏิเสธบทนี้ แต่ผู้กำกับให้ความมั่นใจกับเขา และผลงานนี้ยังทำให้คิมฮยอนจุงได้รางวัลจากเทศกาลหนังอินดี้ของอเมริกาอีกด้วย
นอกจากเรื่องข่าวคราว การใช้ชีวิตในปัจจุบัน และผลงานแล้ว คิมฮยอนจุงยังได้พูดถึงข่าวที่เขาได้ช่วยชีวิตชายคนหนึ่งไว้ว่า เขาไปดำน้ำเลยได้เรียนรู้วิธี CPR เขาเล่าว่าตอนทำ CPR ให้ชายคนนั้น เขาไม่ตอบสนองอะไร จนตัวเองรู้สึกกลัว โชคดีที่ชายคนนั้นฟื้นขึ้นมา แต่เขารู้สึกเขินอายเลยรีบออกจากตรงนั้น แล้วได้รับการติดต่อมาทีหลัง ซึ่งชายคนนั้นเป็นคนติดต่อไปหานักข่าว ทำให้มีข่าวนี้ออกมา
ต่อมาในวันที่ 5 มกราคม คิมฮยอนจุงก็ได้เปิดใจถึงการเข้าร่วมรายการในอินสตาแกรมมีใจความประมาณว่า เขากังวลที่จะไปออกรายการ แต่รู้สึกขอบคุณพิธีกรทั้งสองคนที่ทำให้เขาได้ถ่ายทำอย่างสบายใจ และได้ปลดปล่อยความกังวลของตัวเองออกไป เวลาเพียงแค่ 15 นาทีไม่สามารถทำให้เขาแสดงความในใจออกมาได้หมด แต่ก็อยากจะขอบคุณอยู่ดีที่หลายคนให้โอกาสเขาได้พูดและให้คำแนะนำกับเขา
TEXT : ImJinah
PHOTO : KBSjoy, Instagram(@hyunjoong860606), Dispatch, 헤네치아,
CLIP : 크랩 KLAB, MBCkpop, ytkiss, 현중이의 하루
Source : KBS Joy, 동아닷컴, 매일경제, 스포츠경향, sedaily
ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ฮีชอล – ชินดงยอบ เผยความจริงอีกด้านเกี่ยวกับ ซอลลี่ ที่โดนวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด!
เมื่อมรดกของคูฮารา – ซอลลี่ กลายเป็นประเด็น หลังมีรายงานว่าครอบครัวที่เคยทอดทิ้งต้องการมรดก
พี่ชายคูฮารา เรียกร้องให้ลงโทษชเวจงบอม เผยน้องสาวได้รับความเจ็บปวดมาก!