The Witch’s Diner รีวิวสรุปเหตุการณ์ ชิม ช้อป ใช้ ในร้านอาหารแม่มด 9/10

The Witch’s Diner ซีรี่ย์เกาหลีแนวดราม่าแฟนตาซี ที่จะทำให้ความปรารถนาของลูกค้าเป็นจริง งานนี้ไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ใช้คำอธิษฐานแลกกับจิตวิญญาณของคนสั่ง!!

ไม่ใช่มาตรการเยียวยาที่เราคุ้นๆ แต่มันคือกฎที่ลูกค้าทุกคนต้องปฏิบัติ เมื่อตัดสินใจเข้ามาใช้บริการที่ “ร้านอาหารแม่มด” ซีรี่ย์เกาหลีแนวดราม่าแฟนตาซี ที่จะทำให้ความปรารถนาของลูกค้าเป็นจริง มื้อนี้ไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ใช้คำอธิษฐานแลกกับจิตวิญญาณของคนสั่ง!!

ปรารถนาอะไร เดินเข้าร้านแล้วปฏิบัติตามนี้

ชิม – เมนูพิเศษ ปรุงตามความชอบของคนขอโดยเฉพาะ
ช้อป – อิ่มเอมกับคำขอที่ปรารถนา ฟีลเดียวกับการฟินเมื่อได้ช้อปปิ้งสิ่งของชิ้นเด็ดที่อยากได้มานาน
ใช้ – จ่ายของสำคัญของชีวิต เป็นสิ่งตอบแทนคืนให้แม่มด ตามแต่นางจะแจ้งมาว่าอยากได้อะไร!!

ไปรู้จักตัวละครในเรื่องกันก่อน

โจฮีรา (ซงจีฮโย) รับบทแม่มดสาวสวย แห่งร้าน The Witch’s Restaurant

เรื่องนี้มี 3 ตัวละครนำเรื่อง คือ โจฮีรา (ซงจีฮโย) แม่มดเจ้าของร้าน The Witch’s Restaurant ที่เปล่งออร่าความร้าย เย็นชา ลึกลับ คือแค่สบตาด้วยก็เสียวสันหลังวาบๆ ยังไงบอกไม่ถูก ซงจีฮโยเล่นดีนะ เราแอบชอบเธอมาตั้งแต่ซีรี่ย์เกาหลีในตำนานอย่าง เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา และยิ่งชอบมากจากรายการ Running Man ดีใจที่เห็นเธอกลับมารับงานแสดง แถมยังได้บทปังๆ แบบนี้ด้วย

จองจิน (นัมจีฮยอน) เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เราเอาใจช่วย และอดรักในความเป็นคนธรรมดาของเธอไม่ได้

คนต่อมาคือ จองจิน (นัมจีฮยอน) ผู้หญิงธรรมดาๆ พบได้ทั่วไป แถมหนักไปทางอาภัพ งานไม่รุ่ง ความรักล้มเหลว จองจินจับพลัดจับผลูมาเจอกับแม่มดโจฮีรา แล้วตัดสินใจมาเป็นผู้จัดการร้านอาหารแห่งนี้ในที่สุด

อีกคนคือ กิลยง (แชจงฮยอบ) หนุ่มม.ปลายหน้าใสใจน่ากราบ ผู้ขาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไปเสียทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน ความฝัน หรือแม้แต่การมีชีวิตดีๆ แบบที่วัยรุ่นคนอื่นเขามีกัน ถึงจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอยู่บ้าง แต่ด้วยความเป็นคนคิดดีทำดี กิลยงจึงยังมองเห็นความสวยงามของชีวิต ซึ่งนั่นก็คือ การได้เข้ามาเป็นเด็กพาร์ทไทม์ในร้านอาหารแม่มดแห่งนี้ เอาจริงๆ แชจงฮยอบ นี่น่าจะเกิดมาเพื่อรับบทคนดี (เกือบ) ไม่มีที่ยืน ทั้งเรื่องนี้ และซีรี่ย์เกาหลี Neverthless ที่ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่เรียกเขาว่า “พี่เตี๋ยว” และเอาใจช่วยให้สมหวังในความรักกันทั้งบ้านทั้งเมือง ทางเรานี่ก็ #ทีมพี่เตี๋ยว แล้ว 1 นะจ๊ะพูดเลย

นอกนั้นก็จะมีนักแสดงรับเชิญ แวะเวียนมาเป็นลูกค้าตลอด 8 อีพี ที่แตกต่างกัน อันเป็นเนื้อหาหลักที่ซีรี่ย์ The Witch’s Diner ตั้งใจสะท้อนปัญหาสังคมในมุมดาร์กๆ ที่มีทั้งความเหลื่อมล้ำ ถูกกลั่นแกล้ง เอาเปรียบ โดนเท ดูแล้วถอนใจตาม หรือแอบยิ้มทั้งน้ำตาบ้างในบางอีพี

ซีรี่ย์เกาหลี The Witch’s Restaurant นี้มี 8 ep. ดูเพลินไม่อยากพัก วันเดียวก็เก็บหมด

ด้วยความที่ธีมหลักของการดำเนินเรื่องอธิบายมาอย่างสนุก และชัดเจนตั้งแต่อีพีแรก (ผ่านฉาก CG ที่ดูไม่เฟก ใช้ได้ในระดับมาตรฐานงานซีรี่ย์เกาหลีแฟนตาซี) อีพีต่อๆ ไปก็เลยดูเข้าใจง่าย และอินกับชีวิตไม่สมหวังของลูกค้าแม่มดที่มาแบบไม่ซ้ำ เช่น

อยากรวย ถ้าถูกหวยก็คงจะดี
เจอเพื่อนแกล้งแล้วอยากเอาคืน
ถูกด้อยค่า จนต้องเกรี้ยวกราดประชดสังคม
โดนผู้ชายเทแล้วอยากให้เค้าซมซานกลับมาหา
ฯลฯ

ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องใกล้ๆ ตัวเราทั้งนั้น ดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะลองคิดถึงความปรารถนาของตัวเอง แล้วมโนไปว่าอยากไปใช้บริการร้าน The Witch’s Diner กับเขาดูบ้าง แต่ แต่ แต่ ทันใดนั้นหน้าใสๆ ของกิลยงก็จะมาดึงสติบอกเราว่า “ลองคิดใหม่ดีๆ ทุกความปรารถนา มันมีราคาที่ต้องจ่ายอยู่นะ” !!

ทำไมต้องดู The Witch’s Diner

สุดฯ ชอบบทสัมภาษณ์ของ นัมจีฮยอน ที่ตอบคำถามนี้ว่า “เรื่องนี้มีดีที่ความน่าขนลุก คือภาพอาจไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่มันเป็นเพราะคำขอหรือแรงปรารถนาของแต่ละคนต่างหาก โดยเฉพาะเมื่อถึงฉากที่พวกเขาต้องจ่ายคืนให้แม่มด มันเป็นช่วงที่ทำให้รู้สึกขนลุกทุกอีพีเลยจริงๆ ค่ะ”

ฝากไว้ให้คิดต่ออีกนิดว่า ผลลัพธ์ของทุกการตัดสินใจ อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันอยู่ที่การกระทำ ขอขีดเส้นใต้ (ด้วยรัก) อีกครั้งว่า

“ทุกการตัดสินใจ มันจะตามมาด้วยราคาที่ต้องจ่าย แต่คนส่วนใหญ่ดันมองแค่ด้านสว่าง เพราะมันทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น ..และมักพลาด !!!”

รีบไปดู The Witch’s Diner นะจ๊ะ นอกจากสนุกคุ้มค่าเวลาที่เสียไปแล้ว ยังได้ข้อคิดดีๆ มาช่วยเตือนสติในการใช้ชีวิตได้อีกแรง

สรุปคะแนน 9/10 หัก 1 เพราะมีน้อยตอนเกินไป ไม่สะใจเรา แต่ใครที่เป็นทีมรวดเดียวจบน่าจะแฮปปี้ เพราะไม่ต้องเป็นหมีแพนด้า ( ถ้าเป็นก็แค่คืนเดียว 555 )

The Witch’s Diner