ช่วงปีมานี้เทรนด์น้ำหอมมาแรงมาก และหนึ่งในแบรนด์ที่คนรักน้ำหอมสาย Niche ชื่นชอบก็คือ Le Labo ( เลอ ลาโบ ) น้ำหอมที่มีต้นกำเนิดจากฝรั่งเศสแต่ไปเติบโตที่นิวยอร์ก นอกจาก Brand Story ที่น่าสนใจแล้ว ทางแบรนด์ยังมีไฮไลต์ที่ทุกคนต่างรอคอย สิ่งนั้นคืออะไร ตาม สุดสัปดาห์ มาทำความรู้จักกันค่ะ
![Le Labo City Exclusive](https://sudsapda.com/app/uploads/2023/08/LLCITY_12-800x600.jpg)
รู้จัก Le Labo กับกลิ่นหอมแห่งจินตนาการ
Le Labo เป็นแบรนด์น้ำหอมที่กำเนิด ณ เมืองกราสส์ ฝรั่งเศส แต่ไปเติบโตที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา (Was born in Le Grasse but raised in New York) โดยเปิดช็อปแรกในนิวยอร์คเมื่อปี 2006 กับคอนเซ็ปต์ร้านในแบบฉบับ Wabi-Sabi ที่โอบรับความงามในความไม่สมบูรณ์แบบ นำเสนอน้ำหอมแนว Slow perfumery ที่ปรุงกลิ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างละเมียดละไม มากกว่าการออกตามซีซั่น และให้ลูกค้าค่อยๆ ทำความรู้จักน้ำหอมก่อนตัดสินใจ
![Le Labo](https://sudsapda.com/app/uploads/2023/08/3-1.jpg)
ให้ความสำคัญกับความเป็น Craftsmanship หรือความประณีตของงานมือ สามารถ Personalization ฉลากน้ำหอมของตัวเองได้ โดยทางร้านจะระบุวันที่และเมืองที่เราซื้อน้ำหอมขวดนั้นมา พร้อมพิมพ์ข้อความเฉพาะที่เราต้องการ
นอกจากนี้ยังเป็นน้ำหอมแบบ Genderless ที่ทุกกลิ่นสามารถใช้ได้ในทุกเพศตามความชอบ ไม่มีแบ่งกลิ่นสำหรับชายหญิง และเป็น Claimless ที่ไม่มีการเคลมสรรพคุณอะไรมากมาย เพื่อเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้ใช้จิตนาการกับกลิ่นของ Le Labo ได้อย่างอิสระ
สุดท้ายน้ำหอมแบรนด์นี้เป็นน้ำหอม Vegan ที่ได้รับ B Corp Certification ซึ่งเป็นเซอร์ฯ ระดับโลกด้วย
พบ Le Labo City Exclusive ตลอดเดือนกันยายน
เป็นเรื่องน่ายินดีที่ปี 2023 นี้แบรนด์ Le Labo ได้เข้ามาเปิดบูทีคในเมืองไทยแล้วที่ชั้น 1 สยามพารากอน โดยมาพร้อมการตกแต่งในคอนเซ็ปต์ Wabi-Sabi สุดเท่ด้วยของ Second hand อิมพอร์ตจากต่างประเทศที่แม้จะไม่สมบูรณ์แบบแต่เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากคนรักน้ำหอมชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่ตามสะสมน้ำหอมแบรนด์นี้
![Le Labo](https://sudsapda.com/app/uploads/2023/08/1-1.jpg)
ข่าวดีสำหรับนักสะสมน้ำหอม! ในเดือนกันยายนนี้จะมีการวางขายน้ำหอมคอลเล็คชั่นพิเศษของแบรนด์ที่เรียกว่า City Exclusive ที่เป็นกลิ่นที่มีขายเฉพาะในเมืองนั้นๆ เท่านั้น เช่น เมืองโตเกียวจะมีกลิ่นพิเศษที่ชื่อว่า GAIAC 10 ซึ่งขายเฉพาะที่โตเกียวเท่านั้น แต่เฉพาะในเดือนกันยายนของทุกปีนอกจาก Classic Collection 17 กลิ่นแล้ว ทาง เลอ ลาโบ จะวางขาย City Exclusive 16 กลิ่นจากทั่วโลกในทุกช็อปและทางออนไลน์ด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะไปช้อปกลิ่นที่ชอบจากคอลฯ นี้โดยไม่ต้องบินไปถึงเมืองนั้นๆ
นอกจากนี้ ช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน จะเป็นช่วงที่มีการวางขาย คอลเล็คชั่น City Exclusive ไซส์ตัวอย่างให้เราได้ทดลองสัมผัสกลิ่นต่างๆ จากทั่วโลก และ Le Labo Discovery Set ที่รวมทุกกลิ่นในไซส์ทดลองมาไว้ในเซ็ตเดียวกัน
![Le Labo City Exclusive](https://sudsapda.com/app/uploads/2023/08/5.jpg)
City Exclusive ประกอบด้วย
Gaiac 10 (Tokyo) ให้กลิ่นหอมเข้มจากเนื้อไม้และโน้ตกลิ่นมัสก์ที่ต่างกัน 4 ระดับ เจือกลิ่นไม้ซีดาร์และกำยาน
Vanille 44 (Paris) กลิ่นหอมแอมเบอร์อ่อนๆ เจือกลิ่นกำยาน กลิ่นไม้ ที่แฝงความเซ็กซี่เหมือนที่เคยอยู่บนเสื้อสเว็ตเตอร์แคชเมียร์สุดพรีเมียม ก่อนจะเผยกลิ่นวานิลลาบูร์บงนุ่มนวลที่ซ่อนอยู่
Cedrat 37 (Berlin) ผสมผสานกลิ่น Cedrat และขิงที่ให้ความเปรี้ยวและสดชื่น เคลือบด้วยเบสแนวเย้ายวนอย่างไม้หอม มัสก์ และโน้ตจากอำพันทะเล (Ambergris) กลายเป็นกลิ่นที่สนุกสนาน ทนทาน และให้ความรู้สึกอิสระ
![เลอ ลาโบ](https://sudsapda.com/app/uploads/2023/08/6-1.jpg)
Tabac 28 (Miami) กลิ่นนุ่มลึกของยาสูบผสานกลิ่นไมกฤษณาหอมหรูและไม้ซีดาร์หอมเด่น รวมทั้งไม้ Gaiac และเหล้ารัมโทนอบอุ่นที่ห่อหุ้มอยู่ในกลิ่นกระวาน เป็นการผสมกันของความรู้สึกเย้ายวน มอดไหม้ และปลุกเร้าในคราวเดียวกัน
Mousse De Chene 30 (Amsterdam) กลิ่นมอสและพิมเสนจับคู่กับบูสเตอร์สังเคราะห์กลิ่นหอมแหลมอย่างคริสตัลมอส Clearwood อบเชย Pimento Bay และพริกไทยสีชมพู เป็นกลิ่นที่เย้ายวน ชัดเจน และทรงพลัง
Citron 28 (Seoul) ท็อปโน้ตเป็นกลิ่นเลมอน ขิง มะลิ ตามด้วยกลิ่นไม้ซีดาร์และมัสก์ กลายเป็นสมดุลระหว่างความมีเอกลักษณ์และขนบของกลิ่นแบบดั้งเดิม
Musc 25 (Los Angeles) กลิ่นหอมชวนฝันของมัสก์หนักๆ เจือกลิ่นแนว Aldehydic ที่หอมเหมือนไม้และแป้ง ให้ความรู้สึกเจิดจ้าร้อนแรง ทว่าแอบแฝงความมืดมนของกลิ่นเย้ายวนของหญ้าแฝก อำพันทะเล มัสก์ และไขชะมด
![เลอ ลาโบ](https://sudsapda.com/app/uploads/2023/08/2-1.jpg)
Tubereuse 40 (New York) กลิ่นทิวป์โรสที่เปิดด้วยกลิ่นมะกรูด ส้มเขียวหวาน และดอกส้ม ก่อนจะเผยกลิ่นกลางของแมกไม้และดอกไม้สีขาวนานาพรรณ ตามด้วยกลิ่นทิวป์โรส จากนั้นจึงเป็นไม้หอมอย่างซีดาร์และไม้จันทน์คลอเคลียไปกับโอ๊คมอส มัสก์ และ Ambrette กลายเป็นกลิ่นที่เข้มข้น บริสุทธิ์ และสุขสม
Bigarade 18 (Hong Kong) เป็นกลิ่นที่ผสานความขัดแย้งไว้อย่างลงตัว เพราะเป็นแนวคลาสสิคที่ไม่สุดด้วยการผสานความสดใสทรงพลังเอาไว้ กับกลิ่นของมะกรูด กลีบดอกเนโรลี ผสมกับมัสก์ แล้วหยอดด้วยกลิ่นไม้หอม กลายเป็นความดุดันที่เบาสบาย คลาสสิคแต่ร่วมสมัย บางเบาทว่าติดทน
Poivre 23 (London) กลิ่นพริกไทย Bourbon Pepper ที่มาพร้อมความอบอุ่น เผ็ดร้อน และอบอวลในโทนของแอมเบอร์ ซึ่งเป็นโทนกลิ่นที่จะพบได้ในลอนดอนเกือบตลอดทั้งปี
Baie Rose 26 (Chicago) สื่อถึงท้วงทำนองแจ๊สด้วยกล่นแหลมฉุนของพริกไทยสีชมพู กานพลู ไม้ซีดาร์ และอัลดี้ไฮด์ ไล่ไปสู่กลิ่นหอมของกุหลาบจากเมืองกราสส์ ก่อนปิดท้ายด้วยกลิ่นมัสก์อันประณีตและเครื่องเทศ
Aldehyde 44 (Dallas) กลิ่นที่ให้ความรู้สึกสะอาดไม่เหมือนใครของ Aldehyde ผสมกลิ่นดอกไม้อย่างนาร์ซิซัส มะลิ และทิวป์โรส เบสโน้ตเป็นกลิ่นมัสก์และวานิลลาที่น่าหลงใหล
![เลอ ลาโบ น้ำหอม](https://sudsapda.com/app/uploads/2023/08/7.jpg)
Limette 37 (San Francisco) เปิดด้วยกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่น โปร่งสบายของผิวมะกรูด ก่อนสัมผัสความอบอุ่นของมะลิ Petit Grain และกานพลู ที่ขมวดความนุ่มนวลของกลิ่นหญ้าแฝก ถั่วตองก้า และมัสก์เข้าด้วยกัน ให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น ผ่อนคลาย คล้ายยามท่องเที่ยวไปใต้แสงแดดของเมืองซานฟรานซิสโก
Cuir 28 (Dubai) กลิ่นเสื้อหนัง ไม้ และมัสก์ให้บุคลิกทรงพลัง ดุดัน ดิบเท่ แต่ชวนจดจำด้วยหัวน้ำหอมกลิ่นวานิลลาแท้ที่ผสานเจือปนไปกับกลิ่นหนังสัตว์และพื้นถนนที่ให้ความหอมนุ่มลึกสไตล์กลิ่นโทนแอมเบอร์ที่ดึงดูดใจในตอนท้าย
Benjoin 19 (Moscow) สะท้อนตัวตนของเมืองแห่งวรรณกรรมด้วยกลิ่นกำยาน ผสานกับแอมเบอร์ ไม้ซีดาร์ และมัสก์ ถ่ายทอดประสบการณ์ทรงพลัง ชวนลุ่มหลง ไม่ยอมจำนนต่อกฎเกณฑ์
Myrrhe 55 (Shanghai – กลิ่นใหม่) เป็นกลิ่นกำยานที่มีกลิ่นของชะเอมเทศเข้มข้นแฝงอยู่ ตามด้วยกลิ่นรองอย่างกลิ่นมะลิ พิมเสน ที่อยู่บนเบสของไม้หอม แอมเบอร์กริส และมัสก์
ใครสนใจไปทดลองกลิ่นใหม่ๆ กันได้ที่ เลอ ลาโบ บูทีค ชั้น 1 สยามพารากอน หรือ lelabofragrances.com
![เลอ ลาโบ](https://sudsapda.com/app/uploads/2023/08/4-1.jpg)
Text & Image: Nicharee W.
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก เลอ ลาโบ
ติดตามบทความด้านสุขภาพและความงามที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่
เจาะลึกเรื่อง Hair Care กับ Beng Lee ผู้บริหาร ORIBE
เข้าถึงความงามแบบฉบับเกาหลีกับ Angela Jia Kim ผู้เขียน Radical Radiance และผู้ก่อตั้ง Savor
รู้จักปรัชญาความงามและเทคนิคการดูแลผิวแบบญี่ปุ่น กับ Yasushi Ishibashi ผู้ก่อตั้งแบรนด์
รีวิว & รีชาร์จกายใจไปกับ RXV Wellness Village
Divana Thai Med การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแพทย์แผนไทยกับศาสตร์สปาบำบัด
VERSO SKINCARE แบรนด์ดังจากสวีเดนปักธงในไทยแล้วที่ FIRSTER BY KING POWER