สุดสัปดาห์มีโอกาสได้ไปพูดคุยกับนักแสดงและผู้กำกับหนังเกาหลีเรื่อง Space Sweepers ก่อนจะฉายในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2021 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องมาพูดคุยผ่านออนไลน์แทน ใดๆ ก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักและเป็นกันเองของนักแสดง แต่ละคนตอบคำถามอย่างสดใสมากกกกก ขัดกับมู้ดของหนังสุด ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจ คือการเปิดใจถึงการโคจรมาเจอกันของนักแสดงซุปตาร์ 2 ประเทศอย่าง ซงจุงกิ และ ริชาร์ด อาร์มิเทจ ซงจุงกิจะพูดถึงการทำงานในครั้งนี้ว่าอย่างไร ตามสุดฯ มาเลยจ้า
ซงจุงกิเผยถึงความประทับใจต่อ ริชาร์ด อาร์มิเทจ
ในเรื่องนี้คุณซงจุงกิได้มาร่วมงานกับคุณริชาร์ด อาร์มิเทจ นักแสดงชาวอังกฤษเป็นยังไงบ้าง มีความประทับใจอะไรจะเล่าให้ฟังไหมคะ?
ซงจุงกิ : ครั้งแรกที่ได้ยินว่านักแสดงริชาร์ด อาร์มิเทจจะร่วมแสดงด้วย ผมรู้สึกตกใจมากเลย เพราะแต่ก่อนผมชอบดูภาพยนตร์เรื่อง The Hobbit มาก รู้สึกดีมากที่นักแสดงจากหนังใหญ่ขนาดนั้นมาร่วมเล่นหนังเกาหลีด้วย พอได้เริ่มถ่ายทำจริง รู้สึกตกหลุมรักคุณริชาร์ดเลย เป็นคนที่เท่ มีความเป็นสุภาพบุรษแบบอังกฤษ มีคาริสม่าเหลือล้น และในฐานะนักแสดงด้วยกัน รู้สึกว่าเป็นคนที่มีความมั่นใจสูง รู้สึกเป็นเกียรติและเป็นการถ่ายทำที่สนุกมากครับ คิดถึงคุณริชาร์ดเลยนะครับเนี่ย (แหมมม มีหยอดความคิดถึงด้วย)
ส่วนคิมแทรี ในเรื่องนี้ต้องมารับบทกัปตันจาง ซึ่งถือว่าเป็นบทนำหญิงเพียงคนเดียวในแก๊ง และยังมีบทบาทในฐานะผู้นำของทีม คุณคิดว่าตัวละครของคุณเป็นผู้นำหญิงแบบไหนและสามารถสร้างแรงบันดาลใจอย่างไรให้กับคนอื่นบ้าง
คิมแทรี : ฉันไม่ได้รู้สึกว่าเพราะเป็นผู้หญิงแล้วต้องพยายามแสดงอะไรออกมาเพิ่มเป็นพิเศษค่ะ แต่รู้สึกว่าเป็นคนเหมือนกัน และเริ่มจากจุดที่ว่าเป็นหนึ่งในครอบครัว Victory ด้วยกัน ฉันไม่ได้รู้สึกว่ากัปตันจางเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำมากมายอะไร แต่ทีม Victory คอยช่วยตามมาอย่างดีมากกว่า ทำให้กัปตันจางเป็นตัวละครที่สามารถมองภาพรวมได้ชัดเจนมากกว่าคนอื่น
ได้ยินมาว่าผู้กำกับได้รับแรงบันดาลใจจากการทำเรื่องนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว อยากให้เล่าแวบแรกที่ได้ฟัง ไอเดียนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
ผู้กำกับโจซองฮี : ตอนแรกเลยเป็นเรื่องที่เพื่อนเล่าให้ฟังเกี่ยวกับขยะอวกาศ เพื่อนพูดถึง facts สนุกๆ หลายอย่างให้ฟัง หลังจากนั้นผมก็ได้นำไปศึกษาต่อ และพบว่าเป็นเนื้อหาที่ถูกเอาไปใส่อย่างสนุกสนานในหลายๆ สื่อไม่ว่าจะเป็นในแอนิเมชั่น เกมส์ หรือหนัง เลยรู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้ในการนำไปพัฒนาเป็นเรื่องราว และได้เริ่มเขียนบทจากตอนนั้นครับ
เนื่องจากผลงานนี้เป็นสื่อเกาหลีเรียกว่าเป็นแนวอวกาศเรื่องแรกของเกาหลีที่คนคาดหวังสูงมากๆ ก็เลยอยากทราบว่าผู้กำกับมีการศึกษาหรือทำการบ้านเรื่องไหนเป็นพิเศษมั้ย
ผู้กำกับโจซองฮี : หนังของเราอาจจะไม่ได้เน้นความเป็นจริงอะไรมากนัก แต่เพื่อให้ถ่ายทอดออกมาอย่างสมเหตุสมผล ก็มีการเบสจากพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ เราได้ศึกษาวิธีการใช้ชีวิตของนักบินอวกาศที่ไปอยู่บนสถานีอวกาศจริงๆ ได้ศึกษาบันทึกของพวกเขา ที่ต้องไปอยู่ไกลบ้านและอาศัยอยู่ในพื้นที่แคบๆ ร่วมกัน ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนอวกาศ เราก็ได้ศึกษาว่าในอนาคตจะมีการสร้างอะไรขึ้นบ้าง หลังจากที่ค้นคว้าทั้งด้านวิทยาศาสตร์และสภาพความรู้สึกแล้ว ผมก็นำข้อมูลส่วนนั้นมาเป็นพื้นฐานในการเขียนบทครับ
นักแสดงทุกคนรู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์ภาพยนตร์แนวอวกาศเรื่องแรกของเกาหลี
ชินซอนกยู : รู้สึกภูมิใจที่ได้ปรากฏและร่วมงานในหนังแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือการได้ร่วมทำงานกับผู้กำกับและเหล่านักแสดง เป็นจุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความหมายกับผมมากครับ
ยูแฮจิน : เป็นเรื่องแรกของเกาหลีเลย ผมรู้สึกพึงพอใจกับผลงานที่ออกมามาก ดีใจที่ได้ร่วมทำผลงานดีๆ แบบนี้ครับ
คิมแทรี : ไม่ว่าจะเป็นก้าวเล็กหรือใหญ่ แต่ในฐานะที่เป็นเรื่องแรก มันเป็นจุดที่ทำให้ตื่นเต้นมากค่ะ ในฐานะนักแสดงฉันมีความสุขมากที่ได้อยู่ในหนังเรื่องนี้ค่ะ
ซงจุงกิ : คิดว่ารู้สึกคล้ายๆ กันทุกคนเลยครับ รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับภาพยนตร์เรื่องแรก ซึ่งเป็นแนวที่ไม่เคยมีใครลองทำมาก่อนสักครั้ง
มีเรื่องเล่าขำๆ จากตอนถ่ายทำเล่าให้ฟังบ้างไหมคะ
ยูแฮจิน : พวกเราพยายามคิดคำตอบของคำถามนี้กันอยู่ครับ มีเรื่องไหนบ้างไหมนะครับ
ชินซอนกยู : สำหรับผมระหว่างถ่ายทำสนุกมาก ได้พูดคุยกันตลอด มีความสุขมาก แต่ที่จำได้แม่นเลยเป็นตอนหลังจากถ่ายทำเสร็จแล้ว ได้ไปแคมปิ้งที่ริมทะเลที่ไม่ค่อยมีคนกับพี่แฮจิน ตอนนั้นสนุกและมีความสุขมากครับ
ยูแฮจิน : เข้าใจคำถามผิดรึเปล่าครับเนี่ย
ซงจุงกิ : ก็นั่นสิครับ
ยูแฮจิน : เขาถามถึงระหว่างถ่ายทำครับ (ทุกคนหัวเราะ คิดดูว่าสนิทกันขนาดไหน ถึงแซวกันแบบนี้ 555+)
ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอความล่มสลายของโลก ที่เสื่อมถอยจนมนุษย์ไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ซึ่งการที่คุณได้มาแสดงเรื่องนี้น่าจะทำให้เล็งเห็นถึงปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นคุณอยากให้ข้อคิดอะไรกับผู้ชมบ้างไหม
ซงจุงกิ : ผมรู้สึกว่า Space Sweepers รวมปัญหาของหลาย ๆ แขนงที่เกิดขึ้นจริงในสถาณการณ์ปัจจุบันครับ ในความเป็นจริงบนอวกาศก็มีขยะลอยไปมาเยอะด้วย เลยเป็นจุดที่ทำให้ผู้กำกับได้เริ่มทำหนังเรื่องนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม หรือ UTS ก็ทำให้ผมนึกถึงปัญหาผู้ลี้ภัย ปัญหาชาติพันธุ์ มีหลายจุดที่คล้ายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้ในหนังจะเป็นปี 2092 แต่ก็มีส่วนคล้ายกับโลกปัจจุบันมาก ตัวผมรู้สึกแบบนั้นก็เลยคิดว่าผู้ชมน่าจะสัมผัสถึงสิ่งเหล่านี้เช่นกันครับ
คิมแทรี : ถ้าฟังเส้นเรื่องของหนังพวกเราแบบเผินๆ จะรู้สึกว่ามันน่ารักมากค่ะ มนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่บนโลกได้ ก็เลยออกไปนอกอวกาศ ทำให้เกิดขยะอวกาศและภารโรงอวกาศตามมา ภารโรงอวกาศต่อสู้กันเพื่อหาเงิน เป็นโครงเรื่องที่น่ารักมาก แต่ถ้าเราลองมองลึกลงไป มนุษย์เองเป็นคนที่ทำให้ที่อยู่ของตัวเองสกปรก และเหมือนจะพูดเรื่องของการไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วย คิดว่าเป็นหนังที่พอดูจบอย่างสนุกสนานแล้ว ก็ยังมีจุดที่สามารถนำมาไตร่ตรองต่อได้เยอะค่ะ
สิบปีที่แล้วผู้กำกับเคยร่วมงานกับคุณซงจุงกิมาก่อน ทำไมถึงเลือกนักแสดงซงจุงกิอีกครั้งหนึ่ง
ผู้กำกับโจซองฮี : ผมมีความรู้สึกที่อยากจะทำงานร่วมกับนักแสดงซงจุงกิเสมอ รู้สึกว่าเป็นโชคครั้งใหญ่ที่ได้ร่วมงานกันผ่านหนังเรื่องนี้ ถ้าถามถึงสาเหตุที่เลือกนักแสดงซงจุงกิแล้ว เอาจริงๆ ผมรู้สึกว่านักแสดงซงจุงกิต่างหากที่เป็นคนเลือกผลงานนี้ เลยทำให้ได้ร่วมงานกันครับ
นักแสดงในเรื่องมีค่อนข้างเยอะ มีทั้งนักแสดงเกาหลีและก็นักแสดงต่างชาติด้วย มีวิธีกำกับการแสดงของนักแสดงในเรื่องอย่างไร และปรับการแสดงพวกเขาให้เข้ากันยังไง แม้ว่าจะพูดกันคนละภาษาเลย
ผู้กำกับโจซองฮี : เวลาถ่ายทำก็จะคุยกันผ่านล่ามอยู่แล้ว พอต้องผ่านล่าม บางทีสิ่งที่อยากจะสื่อสารก็อาจจะต่างออกไป ก็เลยพยายามจะพูดให้ชัดเจนและง่ายที่สุด ถ้ายังไม่ได้อีก ก็จะใช้ท่าทางอธิบายหรือสาธิตให้ดูเลยว่าทำยังไงบ้าง ใช้วิธีการคุยกับนักแสดงแบบนั้นครับ
นักแสดงคนไหนที่ทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์ ที่สุดระหว่างการถ่ายทำ
ผู้กำกับโจซองฮี : นักแสดงทุกคนทำให้เซอร์ไพรส์ทุกวันเลย ต่างแสดงมุมใหม่ๆ ที่หลากหลายและสมบูรณ์แบบออกมาได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก รู้สึกขอบคุณนักแสดงทุกคนมากที่ทำให้ผมเซอร์ไพรส์ตลอด โดยเฉพาะนักแสดงเด็กสองคน ตอนนี้อาจจะยังบอกชื่อในหนังไม่ได้ (เพราะเดี๋ยวจะสปอยล์) ตอนแรกผมคิดว่าพวกเขาจะไม่ค่อยมีสมาธิในกองถ่าย แต่ว่าเอาเข้าจริงแล้วมีความอดทนสูงมาก ถึงแม้จะต้องถ่ายทำกันเป็นเวลานาน ทำให้ผมเซอร์ไพรส์และรู้สึกโล่งใจมากครับ
นอกจากเซอร์ไพรส์แล้ว รู้สึกประทับใจกับการได้มาร่วมงานกับนักแสดงแต่ละคนไหมคะ
ผู้กำกับโจซองฮี : นักแสดงหลักทั้งสี่คนใน Space Sweepers เป็นนักแสดงดัง เป็นบิ๊กสตาร์ในเกาหลี เลยรู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานด้วย อีกอย่างหนึ่งที่ขอบคุณมาก ๆ คือ การถ่ายหนังเรื่องนี้ค่อนข้างมีกระบวนการที่ยุ่งยากมาก มีหลายช่วงที่สภาพแวดล้อมในกองอาจจะไม่เอื้อให้นักแสดงสามารถซึมซับอินไปกับตัวละครได้อย่างสบาย ๆ แต่ทุกคนก็อดทนและสามารถใช้สมาธิในการแสดงได้ รู้สึกขอบคุณมากเลยครับ
ก่อนหน้า Space Sweepers มีหนังอวกาศที่เจ๋งๆ มากมาย มีหนังอวกาศเรื่องไหนที่ชอบหรือโปรดเป็นพิเศษ
ชินซอนกยู : ผมชอบ Guardians of the Galaxy ครับ
คิมแทรี : ฉันก็เคยดู Guardians of the Galaxy เหมือนกันค่ะ (หัวเราะ) และก็ชอบ Gravity ค่ะ
ซงจุงกิ : ผมชอบ Contact ของผู้กำกับ Denis Villeneuve ครับ ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเป็นหนังอวกาศได้ไหม ผมดูแล้วร้องไห้หนักมาก เป็นหนัง sci-fi เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก สนุกมากเลยครับ
ยูแฮจิน : ผมก็ชอบ Contact เหมือนกันครับ แล้วก็ชอบ Mars ด้วย
ตอนนี้วงการหนังของเกาหลีกำลังไปได้ดีในระดับโลกเลยคิดว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้ทั่วโลกได้เห็นมิติไหนของวงการหนังเกาหลีบ้าง
ผู้กำกับโจซองฮี : ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่า มันเลยยุคที่วัฒนธรรมจะแพร่กระจายไปแค่ทางใดทางหนึ่งแล้ว ผมคิดว่าเราอยู่ในช่วงที่วัฒนธรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหนัง ดนตรี ละคร ภาษา สัญชาติกำลังถูกผสมผสานเข้าด้วยกัน ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มความหลากหลายให้กับคอนเทนต์ของเอเชีย ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้สามารถแสดงสิ่งเหล่านี้ออกมาได้อย่างดีพอครับ
ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย
ยูแฮจิน : เป็นหนังที่เราตั้งใจและใช้เวลาทำนานมาก การถ่ายทำก็ใช้เวลานาน แต่ในส่วนของ Post-Production ผู้กำกับและฝ่ายเทคนิคก็ทุ่มเทกันมาก ทำออกมาอย่างสนุกและเท่ หวังว่าจะรักหนังของพวกเรากันนะครับ ขอบคุณครับ
ชินซอนกยู : Space Sweepers หนังที่น่าตื่นตาและน่ารักมากกำลังจะเปิดตัวในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้แล้วครับ ฝากทุกคนช่วยชมหนังเรื่องนี้กันด้วย หวังว่าทุกคนจะได้รับความสนุกและความสุขไปครับ
คิมแทรี : ฉันเคยอยู่ประเทศไทยประมาณ 1 เดือน เลยเป็นสถานที่ที่มีความหมายสำหรับฉันมากค่ะ รู้สึกดีใจที่หนังของเราจะได้ไปพบกับทุกคนผ่านทาง Netflix คิดว่าเป็นหนังที่เหมาะกับการรับชมพร้อมกับครอบครัวมากค่ะ หวังว่าทุกคนจะชมหนังเรื่องนี้อยากสนุกกันค่ะ
ซงจุงกิ : เวลาผมได้พักทีไร ก็อยากจะไปกรุงเทพฯ เสมอเลย เป็นสถานที่ๆ ผมชอบมากครับ แต่ด้วยสถานการณ์ทั่วโลกตอนนี้ทำให้ไปไม่ได้ รู้สึกเสียดายมาก ผมรู้สึกผิดด้วยซ้ำที่จะถามว่าทุกคนสบายดีไหม เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่แน่ใจว่าที่ไทยเป็นยังไงบ้าง อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพ และหวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นความสุขเล็กๆ ให้กับทุกคนในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ ถึงแม้จะแค่ 2 ชั่วโมงก็ตามครับ ขอบคุณครับ
พูดเลยว่าเหล่านักแสดงมาเล่าขนาดนี้ก็อยากดูแบบสุดๆ ไหนคิมแทรีกับซงจุงกิยังพูดถึงเรื่องราวของตัวเองกับประเทศไทยด้วย ตอนฟังสุดฯ รู้สึกดีใจและแอบน้ำตาจะไหล คิดถึงทุกคนเลยเนอะ
TEXT : ImJinah
PHOTO : Netflix, Getty Images
Source : Netflix
เรื่องบันเทิงเกาหลีต้องที่สุดฯ
ส่องเรื่องราวการถ่ายทำ Space Sweepers จากงานแถลงข่าวก่อนจะได้ชมความมันส์
6 เหตุผลทำไมถึงต้องรอชมหนังเรื่อง Space Sweepers หนังไซไฟอวกาศของเกาหลี!
กุมภาพันธ์เดือนแห่งซงจุงกิ จัดให้หายคิดถึง ทั้งหนังและซีรี่ย์เกาหลี แถมบทปังน่าหวีด!
ซงจุงกิ กว่าจะเป็นสามีแห่งชาติ ไม่ใช่เรื่องง่าย #HappyJoongKiDay
Netflix เอาใจคอเกาหลี จัดซีรี่ย์ – หนังเกาหลีส่งท้ายปี 2020 เพียบ!
ส่องค่ายใหม่ซงจุงกิ ดึงนักแสดงสมทบที่สร้างผลงานเยี่ยมในปี 2020 ร่วมชายคา!
JTBC ประกาศสงครามซีรี่ย์เกาหลี! เผยไลน์อัพและนักแสดงที่จะลงจอปี 2021!