หยิ่น อานันท์ หว่อง คือหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ไทย-ฮ่องกง นักแสดงนำจากซีรีส์ “กลรักรุ่นพี่” ที่ได้รับความนิยมจนกระแสพีคติดเทรนด์ทวิตเตอร์โลก ส่งให้ “หยิ่น” ขึ้นแท่นนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่งของวงการบันเทิง
นอกจากความหน้าตาดี ชายหนุ่มวัย 22 ปี คนนี้ยังมีทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิต เรียนเก่ง มีความมุ่งมั่น เหตุผลในการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงของหยิ่น ไม่ได้หวังอะไรมาก เขาเพียงต้องการหารายได้ เพื่อมาเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว หวังให้พ่อ แม่ และยาย มีชีวิตที่สุขสบายขึ้น
หยิ่น อานันท์ กับเหตุผลของลูกชายที่ตัดสินใจ เข้าวงการเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
ทำความรู้จัก หยิ่น อานันท์ หว่อง
หยิ่น: ผมเป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกงครับ คุณแม่เป็นคนไทย คุณพ่อเป็นชาวฮ่องกง ตอนนี้อายุ 21 ย่าง 22 ปี เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ กำลังจะขึ้นปี 4 ไม่ใช่เด็กเรียนเด็กเนิร์ด แต่อยากได้เกรดดีๆ ผมลุ้นให้ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ซึ่งต้องได้ 3.60 ขึ้นไป ตอนนี้เกรดเฉลี่ยผมอยู่ที่ 3.61 ผมคิดว่าตัวเองน่าจะเป็นคนประเภทหัวดีแต่ขี้ลืม (หัวเราะ) คือเข้าใจอะไรในจุดหนึ่งแล้วก็จริง แต่ผ่านไปสักพักก็จะลืม ดังนั้นเวลาเรียนผมจะค่อนข้างตั้งใจเรียนให้เข้าใจ เพราะถึงแม้จะลืมไป พอกลับมาทบทวนใหม่ก็จะจำได้ครับ
เส้นทางในวงการบันเทิงของหยิ่น
ผมเริ่มจากทำกิจกรรมมหา’ลัย โครงการ Open House แนะนำข้อมูลมหา’ลัยให้กับน้องๆ แล้วรูปผมก็ถูกแชร์ไปเยอะ จากนั้นก็มีสินค้าต่างๆ ติดต่อให้รีวิว ไม่ได้มีงานแสดงอะไร จนกระทั่งมีโปรเจ็กท์ซีรีส์ En Of Love รักวุ่นๆ ของหนุ่มวิศวะ เข้ามาให้ลองทำ ซึ่งทั้งหมดมี 3 เรื่อง ผมกับพี่วอร์จะอยู่ในเรื่อง “กลรักรุ่นพี่” (Love Mechanics) เรียกว่าเป็นงานแสดงเรื่องแรกในชีวิตเลย ซึ่งตอนรับเล่นก็ไม่รู้หรอกว่าจะได้เล่นเป็นบทนำ ผมเล่นบทอะไรก็ได้ ไม่คิดมากเลย
ตอนรับเล่นผมไม่ได้อธิบายอะไรให้ครอบครัวฟังมาก ว่าจะเล่นซีรีส์วายเป็นแบบนี้ๆ นะ แม่ค่อนข้างโอเคทุกอย่างกับผม จะให้ผมตัดสินใจเอง แต่พ่ออยากให้เน้นเรื่องเรียน ด้วยความที่ท่านทำงานเป็นผู้จัดการโรงงาน เป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดเป็นระบบ เลยอยากให้ลูกทำงานที่มั่นคง ถ้าทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย พ่อกลัวว่าลูกจะเครียดจะกดดัน เพราะดาราที่ต่างประเทศมักจะกดดันจนเครียด หลายคนเป็นโรคซึมเศร้า แต่ผมก็บอกท่านว่า ไม่รู้ว่าผมจะดังหรือเปล่า ผมยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น ที่รับเล่นเพราะมองว่ามันเป็นโอกาส
ในเรื่องกลรักรุ่นพี่ ผมเล่นเป็น “วี” รุ่นพี่ปี 3 เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูง ขี้สงสาร รักเพื่อน มีมาดเข้มๆ หน่อย ออกไปทางโมโหร้าย ใครแตะเพื่อนเดี๋ยวเข้าไปเคลียร์เอง ชีวิตจริงผมก็เป็นขี้สงสาร รักเพื่อนนะ แต่ไม่ได้ห้าวหาญพร้อมบวกเหมือนวี (หัวเราะ) ซีรีส์จบแล้ว ใครยังไม่ได้ดู ดูย้อนหลังได้นะครับ ใครดูแล้วก็ดูอีกได้ครับ
ลูก(ผู้)ชายหัวเรี่ยวหัวแรง
เหตุผลหนึ่งที่ผมรับเล่นซีรีส์เพื่อจะได้มีรายได้มาดูแลตัวเองและครอบครัวด้วย เรียกว่าซีรีส์ “กลรักรุ่นพี่” เปลี่ยนชีวิตผมไปเยอะเลย คือครอบครัวผมฐานะไม่ค่อยดีครับ รายได้จากการทำงานในวงการบันเทิงผมสามารถส่งเงินให้ที่บ้านใช้ได้ ยายกับแม่ผมมีความสุขขึ้น
ต้องเท้าความไปตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง ครอบครัวผมล้มละลาย พ่อเริ่มต้นทำธุรกิจเสื้อผ้า มีหน้าร้านอยู่ในห้าง พอเจอวิกฤตเศรษฐกิจ ด้วยความที่พ่อกู้เงินมาทำธุรกิจ แล้วระบบธุรกิจคือต้องขายของออกไป เพื่อจะได้มีเงินหมุนเวียนเข้ามา แต่ธุรกิจมันไปต่อไม่ได้ ทำให้เป็นหนี้เป็นสิน จากที่พ่อเคยเป็นเจ้าของกิจการ ก็มาต้องเป็นพนักงานบริษัท แต่พอจะไปสมัครงานส่วนใหญ่จะไม่รับคนอายุเยอะเข้าทำงาน พ่อก็เลยต้องย้ายกลับไปทำงานที่ฮ่องกงบ้านเกิด ส่งเงินมาให้ผมเรียน อย่างน้อยอยู่ที่โน่นยังมีญาติๆ คอยช่วยเหลือดูแลกัน ด้านญาติๆ ก็ช่วยส่งค่าเล่าเรียนมาให้ ซึ่งพอเรียนจบผมก็จะทยอยคืนให้
ชีวิตผมจะอยู่กับยายเป็นหลัก แม่ทำสวนครับ การทำสวนจะเหนื่อยมาก แล้วต้องเดินทางไปๆกลับๆ จนบางทีแม่ก็จะพักแถวสวนเลย ภาพที่ผมจำได้ไม่ลืมคือยายร้องไห้เพราะเรื่องเงิน ซึ่งผมไม่อยากเห็นภาพนั้นอีกแล้ว
ตอนนี้รายได้ของผมอาจจะยังไม่พอจะช่วยให้พ่อกับแม่หยุดทำงานได้ แต่อย่างน้อยสภาพคล่องทางการเงินของครอบครัวก็ดีขึ้น ผมพอมีเงินให้ยายกับแม่ใช้จ่ายได้สบายขึ้น ไม่ต้องร้องไห้กับเรื่องเงินอีก ความฝันของผมที่ต้องทำให้สำเร็จคือ อยากทำให้ทุกคนในบ้านมีชีวิตที่สุขสบาย ไม่ต้องทำงานหนักแล้วทั้งพ่อและแม่ ผมหวังให้พ่อไม่ต้องทำงาน และกลับมาอยู่เมืองไทยพร้อมหน้าพร้อมตา ผมจะเป็นคนดูแลทุกคนเอง อีกนิดนึงครับ เร็วๆ นี้ พ่อต้องกลับมาอยู่กับพวกเรา ผมต้องทำได้แน่นอนครับ
ติดตามบทสัมภาษณ์ หยิ่น-วอร์แบบเต็มๆ ได้ใน นิตยสารสุดสัปดาห์ ฉบับพิเศษ สิงหาคม พบกันที่ทุกร้านหนังสือทั่วไทย
Text: AuAi Photo: Sudsapda
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ไบร์ท วชิรวิชญ์ จากตัวประกอบส่งตัวเองเรียน สู่นักแสดงดาวรุ่งดังไกลทั่วเอเชีย
Exclusive Interview: ก้าวใหม่ของ มิว ศุภศิษฏ์ บนเส้นทางดนตรีที่เคยฝันไว้
มิว ศุภศิษฏ์ เด็กเรียนหัวกะทิสู่นักแสดงอนาคตไกล และปริญญาเอกที่จะคว้ามาให้ได้
หมอเจษ เจษฏ์พิพัฒ อุ้มรักเกมลวง นอกจอโปรไฟล์ไม่ธรรมดา หล่อ เรียนดี ทายาทตลาดรังสิต
สุดฯ แยกพัฒนาการ หมาก ปริญ สุภารัตน์ จากนักกีฬายูโดระดับประเทศ สู่สามีแห่งชาติที่มีแต่คนแอบรัก
นนกุล กับเส้นทางโกอินเตอร์ที่เมืองจีน ตายเอาดาบหน้า ดีกว่าไร้เป้าหมาย