"ส่งความรู้สร้างความสุขปี2" นุ่น - พริม เดินสายสร้างแรงบันดาลใจให้อ่านอย่างมีความสุข

ใกล้ไกลไม่มีหวั่น โครงการ “ส่งความรู้สร้างความสุขปี2” พร้อมเดินทางไปปลูกฝังให้เด็กๆ ทั่วประเทศได้อ่านหนังสือดีๆ ล่าสุด นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา และพริม-พริมา พันธุ์เจริญ สองนักแสดงสาวในฐานะ “ทูตการอ่าน” ก็ไปร่วมกิจกรรม SCHOOL ROADSHOW ที่ 2 โรงเรียนในเขตพื้นที่ภาคอีสาน สุดฯ ขอปรบมือให้กับความร่วมมือที่จะมุ่งมั่นทำสิ่งดีๆ ระหว่างบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และร้านนายอินทร์ #งานนี้ดีต้องชื่นชมแอนด์แชร์

โดยนุ่น-ศิรพันธ์ เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่ โรงเรียนอนุบาลบ้านเหนือเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ส่วนพริม-พริมา รับอาสาไปที่โรงเรียนบ้านโดท่างาม จังหวัดมหาสารคาม ทั้งคู่ต่างร่วมแชร์ประสบการณ์สร้างแรงบันดาลใจรักการอ่านและเล่านิทานที่สอดแทรกความรู้และให้ข้อคิดดีๆให้กับน้องๆ ในบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เล่าว่า “อยากขอบคุณที่เชิญมาเป็นทูตการอ่านและร่วมโครงการส่งความรู้สร้างความสุขปี 2 ในครั้งนี้ นุ่นคิดว่าจะทำให้น้องๆได้เห็นว่าการอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่สนุกและยังได้รับความรู้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วนุ่นเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังชอบอ่านหนังสือเพราะรู้สึกว่าการอ่านเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้เราสามารถนำเอาความรู้จากเรื่องต่างๆมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ อย่างน้องๆ ที่อาจจะยังไม่คุ้นเคย นุ่นจะแนะนำว่าลองอ่านสัก 15 นาทีดูก่อน เพราะมันเป็นเวลาที่ดีสำหรับการเริ่มต้น อยากแนะนำให้ทุกๆ คนเริ่มทำได้เลย อ่านทุกวันๆ แล้วจะเริ่มเคยชิน เริ่มมีสมาธิ ซึ่งอย่าเพิ่งเชื่อที่นุ่นพูดนะคะ ต้องไปลองทำดูเอง แล้วจะรู้ว่ามันมีความมหัศจรรย์ของเลข 15 นาทีซ่อนอยู่ในทุกๆ ครั้งที่เราอ่านหนังสือค่ะ”

ส่วนสาวพริม-พริมา พันธุ์เจริญ บอกว่า “รู้สึกดีใจมากที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ส่งความรู้สร้างความสุขปี2” โดยเฉพาะในช่วงกิจกรรม Booktalk ที่มีน้องๆ มาร่วมกิจกรรมกันเยอะมาก ส่วนตัวของพริมแล้วจะอ่านหนังสือเป็นเล่มแบบผ่านๆ ให้พอรู้เนื้อหาคร่าวๆ ก่อนรอบนึง หรือถ้าเป็นบทละครที่ต้องใช้ความจำ ก็จะอ่านภาพรวมแล้วมาเน้นจุดสำคัญอีกครั้งจะช่วยให้เราจำได้ดี ส่วนตัวแล้วพริมจะชอบอ่านหนังสืออ่านเล่นที่ให้ข้อคิดดีๆ เพราะอ่านง่ายและสามารถนำคำแนะนำจากในหนังสือมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

“จริงๆแล้วการอ่านหนังสือวันละ 15 นาที ไม่ใช่เวลาที่เยอะเลย แต่ถ้าน้องๆอ่านสะสมไปทุกวัน ก็จะทำให้เป็นคนที่มีความรู้แบบที่ไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ เพราะมันจะเก็บเป็นความรู้ติดตัวไว้ตลอด เมื่อเวลาผ่านไปก็สามารถนำออกมาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ยิ่งเรามีเยอะมากแค่ไหน ก็สามารถนำเอาออกมาใช้ได้เยอะเท่านั้น อยากให้น้องๆ เริ่มต้นด้วยการอ่านหนังสือวันละ 15 นาทีดูนะคะ”

แบบนี้สินะ ที่เรียกว่าเป็นนักอ่านตัวจริงที่เยาวชนรุ่นใหม่ควรลอกเลียนแบบเป็นอย่างยิ่ง ส่วนกิจกรรม SCHOOL ROADSHOW ของโครงการ”ส่งความรู้สร้างความสุขปี 2″ ยังเดินสายไปพร้อมๆ กับผู้บริหารโครงการและ “ทูตการอ่าน” ในอีกหลายโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง สุดฯ จะตามติดมาเล่าให้ฟังเป็นระยะๆ หรือสามารถติดตามได้อีกช่องทาง ที่แฟนเพจ The Happy Read จะได้ไม่พลาดกิจกรรมดีมีสาระตลอดทั้งปีนี้นะจ๊ะ