สัมภาษณ์คิมเซจอง ทริปภูเก็ตในความทรงจำ ทั้งใจยกให้ปูผัดผงกะหรี่ แย้มเบื้องหลัง Business Proposal!

คิมเซจองเดินทางมาประเทศไทยเพื่อจัดงานแฟนมีตติ้ง “2022 SEJEONG’S SESANG DIARY in BANGKOK” งานนี้สุดสัปดาห์ก็เลยมีโอกาสได้ สัมภาษณ์คิมเซจอง แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งได้คุยกันยาวมากกกก ถามคิมเซจองไปหลายเรื่องเลย แล้วคิมเซจองก็ตอบหมดไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตั้งแต่สมัยเดบิวต์ เรื่องการทำงาน ยันความประทับใจในประเทศไทย เป็นการพูดคุยที่สนุกและเอนจอยกันมาก เชื่อว่าพอทุกคนได้อ่านบทสัมภาษณ์จะเห็นความน่ารักและความคุยสนุกของคิมเซจองออกมาผ่านตัวอักษรเลย

SEJEONG, 세정, Business Proposal, 사내맞선, Kim Se Jeong, 김세정, นางเอกเกาหลี, ไอดอลนักแสดง, ไอดอลเกาหลี, Kim Se Jeong, Kim Se Jeong Interview

สัมภาษณ์คิมเซจอง แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เปิดหมดเปลือกทุกเรื่อง

จำวินาทีที่ได้เดบิวต์ครั้งแรกได้มั้ยคะ ตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้างเมื่อทำตามความฝันสำเร็จ

ตั้งแต่เดบิวต์จนถึงตอนนี้ อาจจะไม่น่าเชื่อนะคะ ฉันยังไม่เชื่อว่ามันเป็นจริงเลยค่ะ จริงๆ นะคะ เวลาทำงานไปเรื่อยๆ บางทีก็คิดว่า “อ่า ฉันเป็นศิลปินนี่ เราเดบิวต์แล้วหนิ” มีหลายครั้งที่ฉันสงสัยว่าทำไมฉันถึงใช้ชีวิตแบบนี้ ดูเหมือนจะมีหลายช่วงเวลาที่ฉันยังไม่รู้สึกจริงๆ แต่เมื่อมองย้อนกลับไป มันเป็นเพียงช่วงเวลาที่รู้สึกขอบคุณ ยังมีความรู้สึกไม่เชื่อว่าเป็นความจริงอยู่ตลอด ฉันจึงรู้สึกว่าต้องทำงานหนักต่อไปค่ะ

แฟนๆ ต่างชื่นชมว่าคุณมีพลังบวกอยู่เสมอ อะไรที่ทำให้คุณมีพลังดีๆ เหล่านั้นมอบให้ทุกคนเสมอคะ

ทั้งหมดที่ฉันสามารถพูดได้อย่างมั่นใจคือ ถ้าได้รับมามาก ฉันก็ตอบแทนให้มากค่ะ ถ้าสำหรับคนไม่ดีหรือร้ายมา ก็ร้ายกลับไปเหมือนกันค่ะ แต่ว่าคนที่ได้รับพลังดีๆ จากฉัน ก็จะมอบแต่สิ่งดีๆ มาให้ฉันตอบกลับเท่านั้นเหมือนกันค่ะ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยพยายามให้เท่ากับที่ได้รับมา แล้วก็เลยได้รับเอเนอร์จี้ที่ดีไปแบบนี้กลับมา ถ้าได้รับเอเนอร์จี้ที่ดี ก็อาจจะเป็นเพราะฉันได้มอบเอเนอร์จี้ของตัวเองให้ทุกคนเหมือนกันค่ะ

นอกจากคุณจะเป็นนักร้อง ยังแต่งเพลงเองด้วย ปกติเอาแรงบันดาลใจจากการแต่งเพลงมาจากไหนคะ

ก่อนอื่นคือฉันใช้กระดาษโน้ตเยอะมากค่ะ เพราะฉะนั้นถ้ามีไอเดียที่ผุดขึ้นมาในกระดาษโน้ต หรือแม้แต่คำศัพท์เล็กๆ ฉันก็จะพยายามเขียนให้ได้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน ถ้าฉันรู้สึกอะไรขึ้นมาในแต่ละวัน ซึ่งแต่ละวันก็รู้สึกไม่เหมือนกัน ฉันก็จะเขียนออกมาแบบคล้ายๆ ไดอารี่ค่ะ นอกจากนั้นแค่ได้ยินเสียงแบบ ติ้ยง (เสียงสปริง) ก็รู้สึกเหมือนเสียงสปริง หรือเสียงแบบ ฮง ก็จะรู้สึก เหมือนเสียงลม หรือเสียงปลาวาฬร้อง เวลาได้เสียงแบบนี้ แล้วรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจค่ะ

สัมภาษณ์คิมเซจอง, 구구단, 아이오아이, SEJEONG, 세정, I.O.I, A Business Proposal, Business Proposal, 사내맞선, คิมเซจอง, Kim Se Jeong, 김세정, นางเอกเกาหลี, ไอดอลนักแสดง, ไอดอลเกาหลี, เซจอง I.O.I, เซจอง gugugdan, gugugdan, Kim Se Jeong, Kim Se Jeong Interview, เซจอง

ความสนุกหรือความสุขในการเป็นนักร้องและนักแสดงสำหรับคุณคืออะไร

อย่างแรกคือความสุขที่สนุกของทั้งสองอย่างมันยากมากค่ะ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยไม่สามารถวางใจได้ เลยทำให้ได้นึกถึงความรู้สึกที่อยากจะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทั้ง 2 อย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงและการแสดง ไม่ว่าจะทำงานด้านไหน ฉันก็ไม่มีหยุดพักหรือหยุดพัฒนาตัวเองเลยค่ะ

ข้อดีของการเป็นนักร้องอย่างแรกก็คือ สามารถเจอแฟนๆ ได้แบบต่อหน้า และรู้สึกถึงความรักที่แฟนๆ มีให้ได้ด้วยตัวเอง ฉันว่าเป็นข้อดีที่ใหญ่ที่สุดเลยค่ะ ฉันเองก็รู้สึกขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความรักกับฉัน และอยากจะแสดงความรักออกมาให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะเวลาที่ได้เจอกับเซซัง (ชื่อแฟนคลับ) เซซังทุกคนทำเพื่อฉันมากขนาดไหน ความจริงใจมากมายที่เซซังมอบให้ ฉันรู้สึกได้ค่ะ ไม่ใช่แค่เป็นคนที่ชอบฉัน แต่รวมถึงการมอบส่วนนึงของตัวเองให้กับฉันด้วย ก็รู้สึกได้ว่าคือความรักสินะ ฉันรู้สึกได้ถึงขนาดที่ว่าไปที่ไหนก็รู้สึกว่าได้รับความรักอยู่ตลอด ชีวิตนักร้องก็เลยมีความสุขแบบนี้ค่ะ

และในฐานะนักแสดง ที่เกาหลีจะมีเหมือนการเล่นคำว่า “ต้องเรียนรู้จึงจะเป็นนักแสดง” ในชีวิตก็มีแต่เรื่องยากๆ เข้ามาเสมอ สิ่งที่ต้องเรียนรู้ก็เต็มไปหมดใช่มั้ยล่ะค่ะ แต่การแสดงนั้น ถ้าจะให้สื่อออกมา ก็จะต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นการที่ได้ผ่านขั้นตอนของการสำรวจ จัดระเบียบ และสื่อออกมา สำหรับฉันในฐานะนักแสดง มันเป็นอะไรที่สนุกมากเลยค่ะ

เล่าเบื้องหลังสนุกๆ ในการถ่ายทำ Business Proposal มีโมเมนต์อะไรที่คนไม่ค่อยรู้มั้ยคะ

จริงๆ แล้วมีเบื้องหลังเผยแพร่ออกไปเยอะมาก ก็เลยคิดหนักมากเลยค่ะว่าจะพูดอะไรดี ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว เวลาอยู่ในกองถ่ายพี่ฮโยซอบเต้นเยอะกว่าที่คิดค่ะ เป็นภาพที่คาดไม่ถึงจริงๆ ตอนแรกฉันก็ตกใจเหมือนกันค่ะ มีตอนที่ตกใจที่พี่เขาเต้นแบบนี้เยอะมาก และก็มีฉากจูบมากมายด้วย ช่วงเวลานั้นฉันจำได้ว่าพวกเราเกร็งกันมากค่ะ ถึงแม้จะทำแบบนั้นไปแล้ว แต่ก็ยังกลับมาเกร็งอีกตลอด ตรงกันข้าม ฉากจูบแรกมันเกร็งมาก ก็เลยทำเป็นไม่เกร็งค่ะ หลังจากนั้นพี่เขาก็บอกว่าคิดว่าฉันไม่เกร็งจริงๆ และหลังจากนั้นเขาก็บอกอีกค่ะ ว่าเพราะอายมากก็เลยทำเป็นไม่เกร็งเหมือนกัน

มีวิธีแสดงยังไงให้เคมีตรงกับพระเอกหรือนักแสดงคนอื่นคะ

ก่อนอื่นเลย ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เคมีถึงจะออกมาอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ เวลาไปที่สถานถ่ายทำ ก็พยายามที่จะพูดคุยเรื่องดีๆ ให้ได้มากที่สุด ยิ่งกว่านั้นคือสิ่งที่รู้สึกขอบคุณ ในการแสดงมันจะมีจุดร่วมกันอยู่ใช่มั้ยคะ พอเริ่มพูดคุยเรื่องการแสดงก็จะสนิทกันเองค่ะ ทำไมถึงเริ่มเป็นนักแสดง ทำไมถึงชอบการแสดง ในอนาคตอยากแสดงแบบไหน ถ้าลองคุยกันไปเรื่อยๆ ก็จะสนิทกัน และถ้าจะให้หาวิธีในการแสดงของฉัน ฉันคิดว่าฉันหาพ้อยต์ของความเหมือนของบท กับนักแสดงคนนี้ให้ได้มากที่สุดครับ เพื่อจะได้รักนักแสดงคนนี้พอๆ กับรักบทบาทนี้ และนักแสดงคนนี้ก็รักบทนี้ให้มากเหมือนกัน จะหาจุดซิงค์มากมายเลยค่ะ

ผลงานต่อไปหรือบทบาทต่อไปที่อยากลองคือบทแบบไหนคะ

ในอนาคตฉันก็อยากจะท้าทายกับบทบาทที่ฉันไม่เคยได้เล่นมาก่อนมากๆ ค่ะ ฉันรับบทที่สดใสร่าเริงมาเยอะแล้ว ตรงกันข้าม ฉันอยากจะลองเล่นบทที่ดาร์กๆ หรือว่าบทตัวร้าย และอยากลองแสดงแนวเมโลดราม่าแบบจริงๆ จังๆ ดูค่ะ

คุณมีฉายาเยอะมาก เช่น ก็อดเซจอง ศิลปินทุกสภาพอากาศ เอมม่า สโตนเกาหลี หรือแม้กระทั่งรอมคอมควีน ชอบฉายาไหนที่สุดคะ

ไม่รู้ว่าเข้ากับคำว่าถูกใจมั้ย ยังไงก็ตาม ฉันชอบฉายา “ก็อดเซจอง” มากค่ะ เหตุผลก็คือมันทำให้ฉันได้หันกลับมามอง แล้วก็ทำให้ฉันได้สำนึกผิดค่ะ ด้วยความที่ฉันเองก็อยากจะโชว์ให้ดูในฐานะก็อดเซจอง ตอนทำการแสดงก็อยากให้คนนี้พูดถึงก็อดเซจอง ตอนโชว์การแสดงให้ดู ก็อยากได้ยินว่าก็อดเซจอง อยากฟังคำนี้เพื่อช่วยเพิ่มความตั้งใจนั้น จริงๆ แล้ว ถึงแม้ตอนนี้ฉันยังรับฉายานี้ไม่ได้จริงๆ เพราะฉันไม่ใช่ก็อดเซจองค่ะ เป็นเพียงคิมเซจองธรรมดา แต่เพราะคำนี้ ดูเหมือนว่าจะทำให้ฉันพัฒนาขึ้นได้ในอนาคต ฉันชอบคำว่าก็อดเซจองมากๆ เลยค่ะ

คุณเข้าวงการมา 6 ปีแล้ว มองย้อนกลับไปคิดว่าตัวเองมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างมั้ยคะ

สิ่งที่เปลี่ยนไปทีละนิดก็คือ มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นอยู่นิดหน่อย มี Know how เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่อยากบอกเพื่อนๆ ที่จะเดินไปด้วยกัน หรือสิ่งที่อยากจะช่วยเหลือกันก็มีเยอะขึ้นมากเลยค่ะ ไม่ใช่เพราะว่าฉันเป็นคนที่ดีขึ้น แต่ในฐานะของคนที่ต้องเดินไปด้วยกัน ในฐานะเพื่อน ก็สามารถพูดคุยเรื่องดีๆ ของกันและกันได้เยอะใช่มั้ยล่ะค่ะ ฉันรู้สึกว่าหลายอย่างเหล่านั้นมันค่อยๆ สะสมขึ้นเรื่อยๆ ฉันอยากจะแบ่งปันเรื่องราวดีๆ กับเพื่อนที่อยู่ในวงการบันเทิงนี้ และอยากจะทำให้เวทีดีๆ ด้วยกันค่ะ

ก่อนที่จะมาจัดแฟนมีตติ้งที่ไทยในครั้งนี้ คุณเพิ่งมาเที่ยวประเทศไทยกับครอบครัว ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง และทริปในไทยเป็นยังไงบ้าง

ก่อนอื่นเลย ฉันรู้สึกว่าเป็นเมืองที่สวยและผู้คนใจดีค่ะ ในบรรดาข้อความที่ฉันเขียนเอาไว้ตอนนั้น คือแสงไฟที่ไม่หนาแน่นมันดีมากเลยค่ะ เป็นความรู้สึกของฉันที่ภูเก็ตน่ะค่ะ แบบว่าถ้าใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองไปเรื่อยๆ ก็จะรู้สึกว่าวิวตอนกลางคืนที่เปล่งประกายมันสวยมากเลย ถ้าพูดถึงวิวกลางคืนก็จะวิบวับวิบวับ ฉันก็จะคิดว่ามันต้องสวย แต่วิวกลางคืนที่เห็นที่ภูเก็ตนั้นเป็นวิวที่เหมือนดาวค่ะ มันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น รู้สึกว่าเป็นวิวกลางคืนที่สามารถสัมผัสได้เฉพาะที่ภูเก็ตค่ะ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยลืมความรู้สึกในตอนนั้นไม่ได้ ก็เลยรู้สึกดีมากค่ะ

และก็รู้สึกถึงความใจดีของผู้คนอยู่ตลอด จากคำพูดภาษาไทย หรือตอนที่เขาปฏิบัติต่อฉันจริงๆ แฟนๆ ไม่ได้บอกหรือสื่อถึงความรักกับฉันก่อน แต่พูดแบบใจเย็นก่อน เพื่อที่ฉันจะได้รู้สึก จากนั้นพอเห็นว่าเขาสื่อออกมา ฉันรู้สึกได้ว่าเซซังเป็นคนใจดีกันมากเลยสินะ

ก่อนที่จะมาประเทศไทย รู้มั้ยว่ามีแฟนที่ไทยเยอะมากตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ และรู้สึกยังไงบ้างที่มีแฟนๆ มากมายขนาดนี้

ก็แค่อยากขอบคุณมากค่ะ แต่ว่าการพูดคำว่าขอบคุณ ไม่สามารถคืนความรักให้ได้เท่าที่ได้รับมาเลยค่ะ เพราะฉะนั้นฉันก็เลยอยากจะมอบความรักให้เท่าที่ได้รับ ฉันจะต้องโชว์ให้ดูด้วยตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าจะต้องตอบแทนให้มากขึ้น ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยมากๆ จริงๆ แล้วฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะว่าพวกเราจะมาเจอกัน เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่กว่าเดิมค่ะ ช่วยรอกันอีกหน่อยนะคะ

โชว์พูดภาษาไทยให้แฟนๆ ฟังหน่อยค่ะ

คิดถึง “เซซังไทย” ที่สุด รักนะค่า

ในฐานะที่เคยมาเที่ยวประเทศไทยมาก่อน ได้ลองอาหารไทยอะไรไปบ้าง และชอบเมนูไหนสุด มีเมนูไหนที่ยังไม่ได้ลองและอยากลองมั้ยคะ

ฉันชอบปูผัดผงกะหรี่มากเลยค่ะ ปกติแล้วฉันชอบปูมากอยู่แล้ว มะพร้าวกับกะทิ แกงกะหรี่เองก็ชอบอยู่แล้ว พอสองอย่างนั้นเอามารวมกันแล้ว เป็นอาหารที่ชอบที่สุดเลยค่ะ ปูผัดผงกะหรี่ ถ้าทำแบบต้นตำรับ ก็จะต้องทำเป็นปูนิ่มใช่มั้ยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นตอนที่เคี้ยวปูนิ่มที่มันนุ่มๆ ความชุ่มฉ่ำของเนื้อก็จะออกมา แล้วก็คลุกกับแกงกะหรี่ มันอร่อยมากๆ เลยค่ะ ฉันชอบปูผัดผงกะหรี่มากๆ ค่ะ

และสิ่งที่ฉันอยากลองกินก็คือ ฉันเคยกินต้มยำกุ้งมาเยอะมากๆ เกือบทุกร้านอาจจะเค็มไปนิดอะค่ะ เพราะฉะนั้นก็เลยอยากไปร้านต้มยำกุ้งที่อร่อยมากๆ อยากจะลองสัมผัสว่าต้มยำกุ้งมันเป็นรสชาติแบบนี้สินะ อยากลองมากๆ เลยค่ะ

สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อยค่ะ

ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณแฟนๆ ชาวไทย ที่รอกันมาเป็นเวลานานนะคะ ฉันจะโชว์ผลงานการแสดงและการแสดงบนบนเวที มาให้ได้ดูเยอะๆ เลยค่ะ เวลามาพบเจอแฟนๆ ต่างชาติ สิ่งที่อยากทำมากที่สุดคือสบตากันค่ะ ในสายตาของคนเราจะมีความจริงใจอยู่เสมอ มีความรู้สึกที่ก้าวข้ามผ่านความต่างของภาษาได้ พอจะได้เจอกับเซซังไทย อยากมอบความรักแบบไหนให้ดี ฉันเลยอยากมองไปทีละคนๆ แบบนี้ค่ะ คิดถึงมากๆ ขอบคุณที่มาเจอกันนะคะ ต่อไปก็จะมอบความรักให้มากกว่าเดิม ขอบคุณค่ะ

บอกเลยว่าคิมเซจองน่ารักมากจริงๆ โดนตกแรงมากไม่ไหว ในจอมีเสน่ห์ยังไง นอกจอก็มีเสน่ห์อย่างนั้น อยากบอกว่าอ่านบทสัมภาษณ์เป็นตัวอักษรก็ฟินแล้ว แอบกระซิบว่ารอติดตามคลิปสัมภาษณ์ได้เลย จะได้เห็นความน่ารักของคิมเซจองทะลุจอเลยจ้า

TEXT : ImJinah

PHOTO : Chanikarn Chitithum