Clinique เปิดตัว Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Cream

ในเดือนกันยายนนี้แบรนด์ Clinique (คลีนิกข์) ได้ Launch ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยใหม่ Clinique Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Cream ที่หลายคนน่าจะได้เห็นกันแล้ว สุดสัปดาห์จึงถือโอกาสเรียบเรียงบทสัมภาษณ์บางส่วนของทีมผู้บริหารมาฝากค่ะ …บอกเลยว่ากว่าไอเท็มนี้พิเศษและน่าสนใจมากจริงๆ

สำหรับ Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting Cream นับว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ล่าสุดในกลุ่มลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging) ที่ล้ำสมัยที่สุดของคลีนิกข์ มาพร้อมสาร CL1870 Peptide Complex™ เอกสิทธิ์เฉพาะของคลีนิกข์ที่ช่วยรับมือกับริ้วรอย ผนวกเข้ากับ Hyaluronic Acid สูตรเฉพาะที่มีโมเลกุลสองขนาด เพื่อเติมและกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้อย่างยาวนาน และส่วนผสมของ Soybean Seed Extract ที่มี Lysophosphaditic Acid หรือ LPA ที่ช่วยให้ผิวแลดูสุขภาพดี ถือว่าเป็นไอเท็มตัวเด็ดที่มาเติมเต็มผลิตภัณฑ์กลุ่ม Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting ที่ก่อนหน้านี้มี Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting Eye Cream และ Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting Serum

ความพิเศษของ Clinique Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Cream ของมันต้องมี

ผู้บริหาร Clinique คนแรกที่เราได้พูดคุยคือ Janet Pardo – Sr. VP Product Development ซึ่งได้ให้คำตอบกับเราว่า Clinique Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Cream ดียังไง ทำไมสาวๆ ถึงต้องมี “มันยากสำหรับเราที่จะพูด แต่เมื่อคุณเห็นผิวตัวเองจากกระจก จากสูตรและส่วนผสมต่างๆ จะรู้สึกได้ว่ามันเวิร์คสำหรับการซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย ทั้งรอยเหี่ยวย่น และริ้วรอยเล็กๆ สิ่งที่เรากำลังพูดคือครีมทำงานกับผิวหน้าของคุณอย่างไร นอกจากนี้ครีมกระปุกนี้ยังให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เหนียวเหนอะหนะหรือหนักหน้า ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผิวดูเปล่งประกาย

“เมื่อเวลาผ่านไปคุณจะเห็นได้ถึงการซ่อมแซมโครงสร้างผิว เมื่อกดผิวจะรู้สึกว่ามันยืดหยุ่นซึ่งแสดงถึงสุขภาพผิวที่ดี ดังนั้นฉันแนะนำว่าคุณควรใช้มันวันละ 2 ครั้งเพื่อผลในระยะยาว ที่ฉันบอกคุณอย่างนี้ได้เพราะฉันรู้จักสูตรของส่วนผสมของครีมตัวนี้ดีและรู้ว่าการทำงานของพวกมันมหัศจรรย์อย่างไร และมันถูกออกแบบมาสำหรับทุกคน และแน่นอนว่าเหมาะกับผิวชาวเอเชีย”

นอกจากนี้ คุณ Janet ยังมองว่าการใช้ครีมกลุ่ม Anti-Aging เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไม่ได้ขึ้นกับอายุ แต่ขึ้นกับปัญหาผิวที่เรามองเห็น ขึ้นกับไลฟ์สไตล์ ขึ้นกับมลภาวะและความเครียดที่เราต้องเผชิญ

“อย่างในประเทศจีนผู้หญิงบางคนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มต่อต้านริ้วรอยในช่วงวัย 20 กว่าๆ ก็คือมันขึ้นกับว่าคุณเห็นสัญญาณของริ้วรอยในกระจกหรือยัง ฉันไม่ค่อยอยากระบุไปที่ตัวเลขอายุ เพราะมันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลจริงๆ มันขึ้นกับปัญหาผิวที่คุณกังวลมากกว่า” คุณ Janet กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน Ida Wong – VP Product Development ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์คลีนิกข์ว่า “ผู้บริโภคมักจะมองหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเสมือน “จอกศักดิ์สิทธิ์” (เชื่อกันว่าน้ำจากจอกศักดิ์สิทธ์ทำให้อ่อนเยาว์) สิ่งนี้เป็นแรงผลักดันให้ทางแบรนด์ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม ที่คลีนิกข์เราพยายามค้นหาและไขว่คว้าสูตรผสมที่เป็นเสมือนจอกศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถใส่ลงในผลิตภัณฑ์ความงามซึ่งให้ความรู้สึกที่ดี สามารถใช้ได้วันละ 2 ครั้งอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ สิ่งที่เราทำไม่ใช่แค่บรรจุส่วนผสมที่มีศักยภาพ แต่ยังรวมถึงการสร้างสูตรที่น่าพึงพอใจและมีความอ่อนโยนพอที่จะใช้ได้อย่างต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ ยังย้ำถึงจุดเด่นที่แตกต่างจากครีมอื่นๆ ในตลาดว่าอยู่ที่ส่วนผสม “ก่อนอื่นต้องบอกว่า Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting Cream มีส่วนผสมของ Peptide complex CL 1870 ของคลีนิกข์ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่อยู่ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Smart Clinical อีกจุดหนึ่งคือการช่วยดูแลปัญหาริ้วรอยแห่งวัยในหลายแขนง ทั้งเรื่องริ้วรอยเล็กๆ และรอยเหี่ยวย่น ซึ่งเป็นปรัชญาการทำงานของคลีนิกข์ที่ไม่ใช่แค่ชะลอวัย

“นอกจากนี้ยังมีสารสกัด Sigeskbeckia orientali ซึ่งเป็นส่วนผสมของ Procollagen ที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น และยังมี Hyaluronic Acid ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเพื่อดูแลผิวมีอายุที่จะแห้งมากขึ้นและปราการปกป้องความชุ่มชื้นอ่อนแอลง มอยส์เจอไรเซอร์ที่เข้มข้นและให้ความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็วและยาวนานจึงสำคัญมาก ซึ่งการทำงานในหลายรูปแบบนี้ทำให้ครีมตัวนี้มีประสิทธิภาพและโดดเด่น”

Smart Clinical Repair Wrinkle Correcting Set — ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting ประกอบด้วย Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting Cream, Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting Serum และ Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting Eye Cream

ถึงตรงนี้คงต้องบอกว่า Smart Clinical Repair™ Wrinkle Correcting Cream เป็นไอเท็มลดเลือนริ้วรอยตัวล่าสุดที่น่าสนใจมากๆ สำหรับผู้หญิงที่มีความกังวลเรื่องริ้วรอยแห่งวัย และนอกจากผลิตภัณฑ์ที่ดีแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือกิจวัตรการดูแลตัวเองที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ

ดังที่ Dr. Heather Hirsch MD, MS หนึ่งในทีมคลีนิกข์ ที่พูดถึงการดูแลตัวเองของผู้หญิงกับวัยหมดประจำเดือนไว้อย่างน่าสนใจว่า “ผู้หญิงเราควรจะพัฒนากิจวัตรการดูแลผิวด้วยสกินแคร์ตั้งแต่เนิ่นๆ และเริ่มผสมผสานสกินแคร์สูตรต่อต้านริ้วรอยแห่งวัยในช่วงกลางสามสิบ เพราะเมื่อเข้าระยะเริ่มของการหมดประจำเดือนและระยะหมดประจำเดือน ชีวิตจะประสบความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งสรีระ ฮอร์โมน และสภาพแวดล้อมซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดอยู่แล้ว การเพิ่มเติมบางอย่างเข้าไปอีก (เช่น ขั้นตอนการดูแลผิว – สุดสัปดาห์) อาจทำให้รู้สึกกดดันยิ่งขึ้น ดังนั้นทำให้กลายเป็นเคยชินตั้งแต่แรกน่าจะดีกว่า”

ขอบคุณข้อมูลและบทสัมภาษณ์จาก Clinique

#BeautyTalk