นิสัยรักการอ่านส่งให้ “ลีกาชิง” พลิกชีวิตจากคนเรียนไม่จบกลายเป็นมหาเศรษฐีฮ่องกง

Alternative Textaccount_circle
event

ลีกาชิง มหาเศรษฐีชาวฮ่องกงที่ได้รับฉายาว่า Superman ของวงการธุรกิจ นักธุรกิจและนักลงทุนผู้ทรงอิธิพลแห่งเอเชีย จากเด็กที่ไม่มีโอกาสได้เรียนแต่มุ่งมั่นพัฒนาตัวเองผ่านประสบการณ์จริงและการอ่าน จนกลายเป็นมหาเศรษฐีผู้ครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2558

เหลย์ก๊าเส่ง (Li Ka-shing)

ลีกาชิง เติบโตในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนก่อนที่เขาและครอบครัวจะย้ายมาตั้งรกรากในฮ่องกงช่วงปี 1940 แต่การอพยพครอบครัวมายังแผ่นดินใหม่และสร้างเนื้อสร้างตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลังย้ายมาฮ่องกงได้เพียงแค่ 3 ปี พ่อของลีกาชิงก็เสียชีวิตด้วยโรควัณโรค ทำให้ลีกาชิงในวัย 15 ปีต้องลาออกจากโรงเรียนมาทำหน้าที่เสาหลักของครอบครัว

เขาเริ่มทำงานในโรงงานพลาสติกในตำแหน่งเซลล์แมนขายสายนาฬิกาและเข็มขัด ซึ่งเขาทำงานกว่า 16 ชั่วโมงต่อวัน ความทุ่มเทครั้งนั้นทำให้ลีกาชิงได้รับประสบการณ์มากมายจนสามารถก่อตั้งบริษัท Cheung Kong ของตัวเองได้ในปี 1950 และขยายธุรกิจไปสู่การส่งออกดอกไม้พลาสติกไปยังตลาดอเมริกา ซึ่งบริษัทของเขาก็เติบโตไปได้ด้วยดีจนมีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมหาศาล

ปัจจุบันบริษัท Cheung Kong กลายเป็นบริษัทที่มีการลงทุนจากนานาชาติ มีสาขากระจายตัวอยู่ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก พร้อมด้วยพนักงานกว่า 240,000 คน

หากศึกษาประวัติของมหาเศรษฐีคนนี้ดีๆ นอกจากความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ความขยันขันแข็ง ความกตัญญู จะพบว่าอีกหนึ่งอุปนิสัยที่ทำให้ลีกาชิงสามารถพัฒนาตัวเองจนมาสู่จุดที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามได้ นั่นคือ “นิสัยรักการอ่าน”

เนื่องด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ลีกาชิงไม่มีโอกาสได้เรียนสูงนัก แต่เขาก็ยังคงขวนขวายหาความรู้อยู่เสมอทั้งจากในและนอกที่ทำงาน สมัยที่เขาเริ่มทำงานใหม่ๆ เขามักจะซื้อหนังสือจากร้านหนังสือมือสองเพื่ออ่านหาความรู้และเมื่ออ่านจบก็นำไปแลกเปลี่ยนเป็นเล่มใหม่ แสดงให้เห็นว่าลีกาชิงไม่หยุดที่จะหาความรู้เลย แม้กระทั่งตอนที่เขาประสบความสำเร็จเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในฮ่องกง ลีกาชิงก็ยังคงมีนิสัยรักการอ่านอยู่ โดยเขามักจะอ่านหนังสือก่อนนอนทุกๆ คืน

ลีกาชิงกล่าวว่าการอ่านหนังสือช่วยทำให้เขามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และเท่าทันโลก ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจริง เพราะลีกาชิงเป็นนักธุรกิจรายใหญ่ที่ตัดสินใจซื้อหุ้นของ Facebook หลังจากฟังรายละเอียดได้เพียง 5 นาที เรียกได้ว่าแม้จะเป็นนักธุรกิจรุ่นอาวุโสแต่ก็มีวิสัยทัศน์ที่ทันสมัยและเข้าใจความเป็นไปของโลกยุคดิจิตอลไม่แพ้คนรุ่นใหม่เลย

ชีวิตของลีกาชิงนับเป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าการอ่านหนังสือช่วยเปิดโลกและเติมเต็มความรู้ให้ตัวเอง ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จได้  

การส่งต่อหนังสือดีๆ ให้กับเด็กในระดับประถมและมัธยม เพื่อให้พวกเขาได้มีโอกาสเปิดโลกและสั่งสมคลังความรู้ตั้งแต่เด็ก นับเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรอบรู้และเท่าทันโลก อันเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จ ดังเช่นที่โครงการส่งความรู้ สร้างความสุข ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการบริจาคหนังสือดีๆ ร่วมกับโครงการได้ โดยติดตามรายละเอียดที่ QR Code ด้านล่างนี้

โครงการ ส่งความรู้ สร้างความสุข

**หมายเหตุ – ภาพประกอบจากโครงการ “ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี2” โครงการเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัทอมรินทร์ พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และการสนับสนุนจากกระทรวงศึกษาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และร้านนายอินทร์ซึ่งมีการคัดหนังสือคุณภาพพร้อมชั้นวางจัดส่งไปยัง  50 โรงเรียนกระจายไปยังจังหวัดในพื้นที่ใหม่ ให้ครอบคลุมกว่า  80%  ทั่วประเทศ

ลีกาชิง ลีกาซิง

อภิชาติ โตดิลกเวชช์ ที่ปรึกษากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

ร่วมกิจกรรม ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี2

ลีกาชิง ลีกาซิง

พรหมพันธุ์ กองพลพรหม ผู้จัดการสำนักงาน

สำนักกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัดมหาชน

ร่วมกิจกรรม ส่งความรู้ สร้างความสุข ปี 2

ข้อมูลบางส่วนจาก BUSINESS INSIDER, Forbes, The Famous People

ภาพประกอบ Getty Image 

Text: Seasons

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ขึ้นเหนือ เพื่อให้เด็กอ่านอย่างมีความสุข # ส่งความรู้สร้างความสุข ปี2

ส่งความรู้สร้างความสุข ปี2 เก่ง – ธชย กับแรงบันดาลใจ มีหนังสือ มีโอกาส

นุ่น – พริม ทูตการอ่าน “ส่งความรู้สร้างความสุขปี2” มาบอกเคล็ดลับ อ่านอย่างมีความสุข

ใกล้ไกลเราไม่หวั่น “ส่งความรู้สร้างความสุขปี 2” ต้องเดินสายทั่วไทยไม่หยุดยั้ง

ส่งความรู้สร้างความสุขปี 2 ปลุกแรงบันดาลใจให้รักการอ่าน

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up