#SudsapdaBeauty ขอตอบรับกระแส Thai Beauty ที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยรีวิว ครีมกันแดดแบรนด์ไทย ที่ดังมากอย่าง MISTINE และ HER HYNESS

…เจ้าแรกดังมานานจนตอนนี้ครองใจสาวจีนไปเต็มๆ ส่วนแบรนด์หลังเพิ่งมาแต่ก็แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ทั้งสองแบรนด์ดียังไง ทำไมปัง สุดสัปดาห์จะมาเฉลย

MISTINE ส่ง ครีมกันแดดแบรนด์ไทย ครองใจ พส.จีน

สำหรับแบรนด์ MISTINE (มิสทิน หรือที่เรามักเรียกติดปากกันว่า มิสทีน) ไม่ต้องพูดกันเยอะเรื่องความโด่งดัง สมัยก่อนเป็นสินค้าขายตรงดังระดับประเทศ ปัจจุบันเป็นแบรนด์ไทยที่ดังมากในจีน โดยเฉพาะครีมกันแดดที่ทางแบรนด์เลือกเป็นสินค้าเรือธง (Flagship Product) ในการบุกเบิกตลาดและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สร้างสถิติขึ้นเป็นครีมกันแดดยอดขายอันดับ 1 ในหลายแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และพาสินค้าอื่นๆ ไปครองใจพส.จีนกันเป็นขบวน ไม่ว่าจะเป็นคุชชั่น ลิปจุ่ม ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์

ครีมกันแดดที่เป็นตำนานและทุกคนรู้จักกันดีคงหนีไม่พ้นรุ่นคลาสสิคอย่าง กันแดดมิสทีนฝาส้ม (บางคนก็เรียกฝาเหลือง) และทางแบรนด์ยังแตกไลน์รุ่นอื่นๆ ออกมาอีกเพียบ เช่น กันแดดสูตรสำหรับเด็ก กันแดดสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย กันแดดสูตรลดเลือนริ้วรอย กันแดดสูตรเมคอัพเบส ฯลฯ แต่ละตัวก็มีเนื้อและคุณสมบัติต่างกันไป ตั้งแต่เนื้อเบามาก ปานกลาง เนื้อหนักขึ้นมาหน่อย ให้เลือกใช้กันตามสภาพผิวและความชอบ

จากที่ได้ลองใช้ กันแดดของมิสทีนคุณภาพดีหลายรุ่น ซึ่งเรื่องคุณภาพนั้นการันตีได้จากความนิยมในจีน โดย คุณดนัย ดีโรจนวงศ์ ผู้บริหารใหญ่ Mistine เคยให้สัมภาษณ์กับสุดสัปดาห์ว่า “ชาวจีนกังวลกับการใช้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ แปลว่าเมื่อเราบอกว่าสินค้าดี ใส่อะไรไปเท่าไหร่ ถ้าเขาเอาไปตรวจสอบต้องได้ตามนั้นเป๊ะๆ” ดังนั้นถ้ากันแดดมิสทีนได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีนที่จริงจังเรื่องคุณภาพ น่าจะแปลได้ว่าของเขาแน่จริง (อ่านบทสัมภาษณ์คุณดนัยฉบับเต็ม คลิกที่นี่)

นอกจากนี้ในเรื่องของแพ็คเกจจิ้ง ต้องบอกว่าช่วงหลังมิสทีนปรับได้ดีมาก มีความอินเตอร์ ดูเรียบเก๋ น่าใช้ จุดที่ชอบเป็นพิเศษคือ การจัด Typo บนกล่องที่ลงตัวและสื่อสารถึงตัวสินค้าได้ดี มีรายละเอียดครบทั้งชื่อสินค้า รุ่น คุณสมบัติ ส่วนผสม และอื่นๆ แต่ดูสะอาดตา ส่วนตัวหลอดก็มาในคอนเซปต์เดียวกัน เรียบๆ เน้น Typo (ยกเว้นสูตรสำหรับเด็กที่ขวดเป็นรูปดาวน่ารัก)

รีวิวครีมกันแดด MISTINE

ในที่นี้จะขอพูดถึงตัวที่ได้ลองแล้วชอบที่สุด คือ Mistine Aqua Base Ultra Protection Essence Skin Care Sunscreen SPF50+ PA++++ เป็นกันแดด Aqua base สูตรลดเลือนริ้วรอยสำหรับผิวแพ้ง่าย

ประเภทของกันแดด – กันแดดมิสทีนสูตรนี้เป็นประเภท Hybrid จากส่วนผสมข้างกล่องมีสารกันแดดหลายตัว ทั้งแบบ Chemical, Physical และ Hybrid (เช่น สารกันแดดกลุ่ม Chemical: Octocrylene, Homosalate, Butyl Methoxydibenzoylmethane, Ethylhexyl Salicylate, Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine กลุ่ม Hybrid: Methylene Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol, กลุ่ม Physical: Titanium Dioxide)

เนื้อกันแดด – เนื้อเอสเซนส์บางเบา เกลี่ยง่าย แห้งไว แต่ไม่ได้ทำให้ผิวรู้สึกแห้ง คือทาแล้วรู้สึกชุ่มชื้นแต่ไม่เหนอะ ไม่หนัก ไม่เหนียว และไม่แห้งเกินไป สบายผิวกำลังดี

สี – เนื้อครีมกันแดดเป็นสีขาวทึบ รู้สึกว่าทาแล้วโทนอัพขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่วอก ไม่ลอย

อื่นๆ – รุ่นนี้ผสมสารบำรุงมาหลายตัว เช่น 3% Nicotinamide, 4-Butylresorcinol, Glabridin, Lichochalcone สามตัวแรกช่วยเรื่องเม็ดสี ส่วนตัวหลังช่วยต้านอนุมูลอิสระ มีสารที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น เช่น Butylene Glycol ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี 4 ชนิดที่เป็นอันตรายต่อปะการัง และมาในขวดหัวปั๊ม กดง่าย ไม่ปนเปื้อน

สรุป – กันแดดขวดนี้น่าจะตรงใจคนชอบผลิตภัณฑ์แบบ All in one ขวดเดียวครบทั้งกันแดดและบำรุง ส่วนตัวผิวเริ่มแห้งตามวัยแต่ไม่ถึงกับแห้งมากจึงชอบกันมิสทีนรุ่นนี้ตรงความสบายผิว มีสารบำรุงในตัว ชุ่มชื้นแต่ไม่มัน ไม่หนา ไม่วอก

HER HYNESS กันแดดเนื้อดีที่ชาวเน็ตเลิฟ

เป็นอีกแบรนด์ที่ดังมากในโลกออนไลน์ทั้งกันแดดและสกินแคร์ ต้องบอกว่าทางเราตัดสินใจลองกันแดดของ Her Hyness จากการแนะนำของเพื่อนฝรั่งที่เล่าว่าใช้กันแดดแบรนด์ไทยของ Her Hyness อยู่ เพราะชอบเนื้อสัมผัส …โอเค ถ้าพูดขนาดนี้ เราเป็นคนไทยจะพลาดของดีเมืองไทยได้ยังไง ต้องลองแล้วละ

สำหรับกันแดดของ Her Hyness ตอนนี้ออกมา 2 รุ่น คือ รุ่นแรกขวดสีชมพูตัวดัง Her Hyness Royal Hya Water Sunscreen SPF50+ PA++++ และรุ่นใหม่ที่ออกมาทีหลัง Her Hyness Hexapeptide Anti-ageing Super Dry Touch Sunscreen SPF50+ PA++++ กันแดดสูตรแอนไทเอจจิ้งขวดสีส้มชมพู

สองสูตรนี้มีจุดต่างใหญ่ๆ คือ เนื้อและคุณสมบัติ สูตรดั้งเดิมเป็นเนื้อครีมที่จะเปลี่ยนเป็นเนื้อ Watery เมื่อทา เน้นการปกป้องและให้ความชุ่มชื้น เหมาะกับการใช้ประจำวัน ส่วนสูตรใหม่เป็นเนื้อ Silky ที่จะหนักขึ้นมาหน่อย แต่ก็มาพร้อมการปกป้องที่แน่นขึ้น ติดทนขึ้น กันน้ำ และมีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องแอนไทเอจจิ้ง เหมาะกับกิจกรรมเอ๊าต์ดอร์

ทั้ง 2 สูตรมาในแพ็คเกจที่ระบุข้อมูลสินค้าและข้อมูลสำคัญครบถ้วน เด่นชัด อ่านแล้วเข้าใจง่ายว่าผลิตภัณฑ์นี้คืออะไร มีคุณสมบัติอะไร ฯลฯ ใช้ได้แบบไม่มีข้อสงสัยในใจ

รีวิวครีมกันแดด Her Hyness

สำหรับในบทความนี้จะ รีวิวครีมกันแดด Her Hyness Royal Hya Water Sunscreen SPF50+ PA++++ รุ่นขวดชมพู ซึ่งได้ลองแล้วชอบกว่า

ประเภทของกันแดด – เป็นสูตรไฮบริดที่รวมข้อดีของกันแดดสูตร Chemical และ Physical เข้าด้วยกัน โดยจากส่วนผสมหลักข้างกล่องมีทั้งส่วนผสมของ Chemical และ Physical (เช่น สารกันแดดกลุ่ม Chemical:  Butyl Methoxydibenzoylmethane, Octocrylene, Ethylhexyl Salicylate, กลุ่ม Physical: Titanium Dioxide, Zinc Oxide)

เนื้อกันแดด – รักในความเนื้อเบามากกก เป็นเนื้อครีมที่จะเปลี่ยนเป็นเนื้อ Watery เมื่อทาลงบนผิว ซึมง่าย เบาสบายผิวขั้นสุด และให้ความชุ่มชื้นแบบกำลังดี ไม่เหนียว ไม่มันเลย ไม่แปลกที่เพื่อนฝรั่งจะเลิฟ

สี – เนื้อสีขาวแต่ทาแล้วจะซึมลงไปกับผิว รู้สึกว่าเนื้อโปร่งแสงและเบามาก ไม่กวนเมคอัพแม้แต่น้อย ทั้งในเรื่องความเป็นคราบและสี

อื่นๆ – มีส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและบำรุง เช่น Sodium Hyaluronate, Royal Jelly, Hydroxyethyl Urea, Niacinamide ไม่มีกลิ่นน้ำหอม เป็นสินค้าคลีนบิวตี้และไม่ทดลองกับสัตว์ ปราศจากสารเคมีรุนแรงที่เป็นอันตราย (ทั้งหมดนี้ระบุอยู่ที่กล่องเลย ข้อมูลครบถ้วนจริงๆ) และมาในหัวปั๊มกดใช้ง่าย สะอาด ไม่ปนเปื้อน

สรุป – ไม่แปลกใจที่ครีมกันแดดของเขาโด่งดังและเพื่อนชาวต่างชาติของเราเลือกใช้ เพราะมีจุดเด่นที่เนื้อกันแดดเบาสบายผิวจริงๆ ไม่วอก ไม่ลอย แถมยังชุ่มชื้นแต่ไม่มัน ไม่เหนียว ซึมไว ทาแล้วโปร่งแสงเกือบๆ จะ Invisible แต่งหน้าตามได้แทบจะทันที เหมาะจะใช้ในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ

ขอสรุปว่าพอได้ลองใช้จริงแล้วชอบทั้ง 2 ตัว ตอนนี้อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วทั้งคู่ ใช้สลับกันในชีวิตประจำวัน วันไหนรู้สึกหน้าแห้งหน่อยจัดกันแดดมิสทีนขวดขาว วันไหนผิวปกติใช้กันแดด Her Hyness ขวดชมพู

ทั้งหมดนี้คือความปังของ ครีมกันแดดแบรนด์ไทย ทั้ง 2 แบรนด์ที่ดังไกลถึงต่างแดน ใครรีๆ รอๆ ที่จะลองแนะนำค่ะ …แล้วจะรู้ว่าเขาทำถึง!

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับครีมกันแดดแต่ละประเภท

กันแดดแบบ Chemical – เป็นกันแดดที่ใช้หลักการดูดซับรังสียูวีแล้วเปลี่ยนเป็นความร้อน ข้อดีคือราคาไม่สูง หาได้ง่ายในท้องตลาด เนื้อบางเบา สีอ่อน ข้อเสียคือต้องทาซ้ำทุก 1-2 ชั่วโมงหากออกแดด

สารในกันแดดกลุ่ม Chemical เช่น Octinoxate, Avobenzone (Butyl Methoxydibenzoylmethane), Homosalate, Octocrylene, Oxybenzone (Benzophenone-3), Octisalate (Ethylhexyl Salicylate), Ethylhexyl Methoxycinnamate

ครีมกันแดดแบบ Physical – ทำงานแบบสะท้อนรังสียูวีออกไป ข้อดีคือโอกาสแพ้หรือระคายเคืองน้อยกว่า ไม่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ ปกป้องผิวได้ดี ข้อเสียคือเนื้อจะหนักกว่า

ส่วนผสมในกลุ่มนี้คือ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide (เป็นสารกันแดดเพียง 2 ตัวที่ FDA ของสหรัฐอเมริกาให้การรับรองมายาวนาน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าสารกันแดดตัวอื่นที่ FDA ยังไม่รับรองจะไม่ปลอดภัยเสมอไป เพราะยังมีการถกเถียงกันว่า FDA คุมเข้มเกินไปหรือไม่ เนื่องจากสารบางตัวทางยุโรปและประเทศอื่นๆ ให้การรับรองและใช้มานานแล้ว โดยขณะนี้กำลังมีความพยายามยื่นขอการรับรองสารกันแดด Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Chemical เพิ่มเติมอยู่ ซึ่งจะทราบผลประมาณเดือนมีนาคม 2026 – อ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าว CBS News ของสหรัฐอเมริกา)

กันแดดแบบ Hybrid – เป็นกันแดดที่ผสมข้อดีและลดข้อเสียระหว่าง Chemical กับ Physical คือทำงานแบบทั้งดูดซับและสะท้อนรังสียูวี เนื้อจะเบากว่าแบบ Physical ปัจจุบันหลายแบรนด์เลือกใช้สูตรนี้เพื่อการปกป้องที่ดีขึ้นและเนื้อสัมผัสที่น่าใช้ยิ่งขึ้น

ส่วนผสมในกันแดดแบบ Hybrid อาจมีทั้งส่วนผสมในกลุ่ม Physical และ Chemical ร่วมกัน และส่วนผสมที่มีคุณสมบัติสะท้อนและดูดซับในตัวเอง เช่น Methylene Bis-Benzotriazolyl Tetramethylbutylphenol

*หมายเหตุ – การรีวิวเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล ผลลัพธ์และความรู้สึกอาจแตกต่างไปตามสภาพผิว ความชอบ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

Text/Images: Nicharee W.

ติดตามอ่านบทความในแวดวงความงามเพิ่มเติมได้ที่นี่

รู้จัก Coty บริษัทผู้พลิกโฉมวงการน้ำหอมตั้งแต่ปี 1904 หรือเมื่อ 120 ปีก่อน!

คุยกับ ดนัย ดีโรจนวงศ์ ผู้พา MISTINE สู่ตลาดโลก พร้อมส่องบิวตี้ไอเท็มสุดเก๋ที่สาวๆ เทใจให้

คุยเรื่องความงามทั้งภายนอกและภายใน กับ “จองแซมุล” มาสเตอร์บิวตี้ตัวจริง

เจาะเทคโนโลยีในลิปสติกรุ่นล่าสุด Rough Star Vibrant จาก KANEBO #สวยฉ่ำไม่ตกร่อง

BSC EXTREME CAVIAR PHYTOCELLTEC NANO SERUM นวัตกรรมสกินแคร์ไทยที่ครองใจ

สัมผัสน้ำหอมกลิ่นใหม่ L’Art & La Matière TOBACCO HONEY จาก Guerlain

รีวิว Sela Sea Sanctuary Spa สปาแห่งใหม่ในหัวหิน …ดีไซน์สวย นวดสบาย ที่สุดแห่งความผ่อน

#SudsapdaBeauty ชวนทำความรู้จัก MENARD แบรนด์ความงามสุดหรูจากญี่ปุ่นที่เน้นคุณภาพและงานวิจัยอย่างจริงจัง มีผลิตภัณฑ์หลายไลน์ และล่าสุดได้เปิดตัวไอเท็มระดับไฮเอนด์ในเมืองไทย

Get to know…

MENARD เป็นแบรนด์ความงามจากญี่ปุ่นที่ก่อตั้งมานานกว่า 65 ปี มี MENARD Facial Salon (จำหน่ายสินค้าและบริการนวดหน้า) เฉพาะในญี่ปุ่นถึง 2,800 แห่ง และเป็นบริษัทที่ยังถือครองโดยตระกูลผู้ก่อตั้งมาจนถึงทุกวันนี้ จึงยังคงความเป็นญี่ปุ่นไว้อย่างเต็มที่ทั้งด้านความทุ่มเทในการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพ และปรัชญาการทำงานที่เชื่อว่า “เครื่องสำอางเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นสิ่งที่ใช้โดยตรงกับผิว และบริษัทไม่ได้ส่งมอบแค่สินค้าแต่ส่งมอบความจริงใจและความงามที่แท้จริง” ดังนั้น แนวทางการตลาดของบริษัทจึงเน้นที่คุณภาพของสินค้าเพื่อให้ผู้ใช้บอกต่อมากกว่าการโฆษณา โดยมีผลิตภัณฑ์เด่นๆ หลายไลน์สำหรับลูกค้าทุกกลุ่มทุกช่วงวัย

What’s new?

ในเดือนมีนาคม 2568 นี้ ทางแบรนด์ MENARD ได้จัดงานแนะนำสกินแคร์ใหม่ของแบรนด์ AUTHENT LIQUID ซึ่งได้เปิดตัวในญี่ปุ่นไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยผลิตภัณฑ์นี้เป็นทั้งโลชั่นและอิมัลชั่นในตัว เป็นผลลัพธ์จากงานวิจัยด้านสเต็มเซลล์และผิวของบริษัทที่ต้องการนำเสนอวิธีดูแลผิวที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังเข้าด้วยกัน และยังมีเทคโนโลยี Skin Auto-Purification ตามแนวทางในการวิจัยของ MENARD ที่วิจัยพัฒนาเรื่องผิวพรรณจาก 3 หลักการ คือ Regeneration (การฟื้นฟู) , Auto-Purification (การทำความสะอาด) และ Anti-Aging (การชะลอวัย)

>> AUTHENT LIQUID เป็นสกินแคร์ที่เน้นงานวิจัย – เป็นโลชั่นและอิมัลชั่นในตัว – ควรใช้ในปริมาณที่แนะนำ

Special…

ในวันงานเปิดตัวทางผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย โดย กันตวรรณ์ โวธท์ ผู้อำนวนการ บ.ลักซ์ซิคอน บิวเต้ จำกัด ได้เชิญทีมงานจากญี่ปุ่น พร้อมด้วย หน่อย – บุษกร วงศ์พัวพัน นักแสดงชื่อดังที่เป็นลูกค้าตัวจริง มาร่วมแชร์ข้อมูลและประสบการณ์ดีๆ ที่มีกับ MENARD

หน่อย บุษกร เล่าว่า “รู้จักแบรนด์นี้ตอนไปญี่ปุ่น เพื่อนแนะนำว่าเป็นแบรนด์ที่ดีมาก แต่ไม่ค่อยโฆษณา มาเห็นอีกทีในเมืองไทยเมื่อสัก 5-6 ปีก่อน ก็เลยได้ลองใช้ เริ่มจาก Cleansing Massage ที่เป็นทั้งคลีนซิ่งและนวดหน้าในตัว โดยใช้ตามปริมาณที่ทางแบรนด์แนะนำเป็นประจำ ช่างแต่งหน้าที่ไม่ได้เจอนานก็ทักว่าผิวดูแข็งแรงขึ้นค่ะ”

ด้าน กันตวรรณ์ โวธท์ เน้นย้ำว่า “การได้รู้จักกับแบรนด์ MENARD เป็นการค้นพบว่าการใช้ Cosmetics คุณภาพสูงนั้นให้ผลอย่างไร และเมื่อตัดสินใจทำธุรกิจร่วมกัน ได้ไปเยือนบริษัทที่ญี่ปุ่น ได้เห็น Research Center ก็ยิ่งเห็นถึงความแน่วแน่ในการศึกษาวิจัยของแบรนด์”

ปิดท้ายด้วยการแชร์แรงบันดาลใจในการดูแลผิวพรรณจากทีมงานจากญี่ปุ่นว่า “ในขณะที่เพื่อนๆ ของฉันเรียนรู้วิธีแต่งหน้า ฉันเรียนรู้การคลีนผิวให้สะอาดเพื่อให้ซึมซับการบำรุงได้ดีขึ้นค่ะ”

Text: Nicharee W.

Images: บ.ลักซ์ซิคอน บิวเต้ จำกัด

ติดตามอ่านบทความในแวดวงความงามเพิ่มเติมได้ที่นี่

อัปเดต เมคอัพผิวโกลว์ กับรองพื้น&ลิปสติกรุ่นใหม่ จาก DECORTÉ

รวม ลิปบำรุงสีสวยฉ่ำ แท่งเดียวจบครบทั้งสีสันและความชุ่มชื้น

เจาะ ครีมกันแดดแบรนด์ไทย MISTINE & HER HYNESS ดียังไง เด็ดแค่ไหน ทำไมปังมาก

รู้จัก Coty บริษัทผู้พลิกโฉมวงการน้ำหอมตั้งแต่ปี 1904 หรือเมื่อ 120 ปีก่อน!

คุยกับ ดนัย ดีโรจนวงศ์ ผู้พา MISTINE สู่ตลาดโลก พร้อมส่องบิวตี้ไอเท็มสุดเก๋ที่สาวๆ เทใจให้

คุยเรื่องความงามทั้งภายนอกและภายใน กับ “จองแซมุล” มาสเตอร์บิวตี้ตัวจริง

เจาะเทคโนโลยีในลิปสติกรุ่นล่าสุด Rough Star Vibrant จาก KANEBO #สวยฉ่ำไม่ตกร่อง

BSC EXTREME CAVIAR PHYTOCELLTEC NANO SERUM นวัตกรรมสกินแคร์ไทยที่ครองใจ

 #SudsapdaBeauty ชวนอัปเดตไอเท็มเพิ่มความโกลว์จากแบรนด์ดังสัญชาติญี่ปุ่น DECORTÉ ที่คราวนี้จัด เมคอัพผิวโกลว์ เป็นรองพื้น&ลิปสติกรุ่นใหม่ มอบความโกลว์สุดใจมาให้คนรักการแต่งหน้าได้ใช้กัน

Get to know…

DECORTÉ แบรนด์เครื่องสำอางหรูจากญี่ปุ่นที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1970 หรือ 55 ปีมาแล้ว อยู่ในเครือบริษัท KOSÉ มีผลิตภัณฑ์ยอดนิยมทั้งสกินแคร์และเมคอัพ เป็นแบรนด์แรกที่พัฒนา Liposome ในสกินแคร์ ซึ่งต่อมากลายเป็นส่วนผสมในสกินแคร์หลายตัวของแบรนด์ เช่น Moisture Liposome  

What’s new?

ในเดือนมีนาคม 2568 ทางแบรนด์จัดงานแนะนำ 2 เมคอัพผิวโกลว์ ใหม่จากญี่ปุ่นให้กับลูกค้าชาวไทย คือ รองพื้นรุ่น ZEN WEAR GLOW และ ลิปสติกรุ่น ROUGE DECORÉ CREAM GLOW

ZEN WEAR GLOW – รองพื้นเนื้อลิควิดที่ได้แรงบันดาลใจจากแนวคิด ZEN และหมึกซูมิ ซึ่งสะท้อนออกมาในแง่ความละเอียดประณีต เนื้อรองพื้นละเอียด บางเบา ติดทน และให้ฟินิชแบบโกลว์ ด้วย 3D Glow Triplex ที่ผสาน Glowing Polymer, Luster Oil และ 3D Hold Structure มีส่วนผสมบำรุงผิว 12 ชนิด รวมถึงสารสกัดผลบ๊วยญี่ปุ่นที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและความดูกระจ่างใส ให้การปกปิดระดับปานกลาง-สูง มีทั้งหมด 10 เฉดสีในโทน Warm, Cool และ Neutral

>> ฟินิชแบบโกลว์สวย – การปกปิดปานกลางถึงสูง – ติดทน ไม่เป็นคราบ – ถ้าออกข้างนอกแนะนำลงแป้งฝุ่นทับ

ROUGE DECORÉ CREAM GLOW – ลิปครีมเนื้อนุ่มมาก แทบละลายทันทีที่สัมผัสริมฝีปาก ให้ความรู้สึกเบาสบายผิว มีส่วนผสมของสารบำรุงที่ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้น มีทั้งหหมด 19 เฉดสีสำหรับผิวทุกอันเดอร์โทน จุดเด่นคือ Hemoglo Red เม็ดสีสีแดงที่ผลิตขึ้นด้วยเทคนิคการบดเฉพาะของ DECORTÉ ที่ทำให้เฉดสีดูสวยมีเอกลักษณ์

>> ลิปเนื้อนุ่มมาก ทาง่าย – ชุ่มชื้นมากแต่เบาสบายผิวปาก – ฟินิชโกลว์และวาวทำให้ปากดูอิ่ม – มีสีให้เลือกเยอะ บางสีกลบขอบปากได้ดี – คนปากแห้งพกลิปรุ่นนี้แท่งเดียวได้ เพราะทั้งให้สีสันและความชุ่มชื้น

Special..

งานนี้ Mr.Hirokazu Kunikyo Makeup Artist จากแบรนด์ DECORTÉ ผู้มากประสบการณ์จากญี่ปุ่น มาสาธิตเทคนิคการแต่งหน้ากับผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ ซึ่งสุดสัปดาห์เก็บเทคนิคที่น่าสนใจมาฝาก

เทคนิคลงรองพื้นให้ผิวโกลว์สุดใจ

• กดรองพื้น 1 ปั๊มบนมือ
• เอาฟองน้ำแตะเนื้อรองพื้นแล้วแตะลงบนผิวหน้าในจุดที่ต้องการให้โกลว์ที่สุด หรือโหนกแก้ม
• เมื่อแต่งแต้มจุดที่ต้องการให้โกลว์จนพอใจแล้ว ให้ใช้รองพื้นส่วนที่เหลือบนฟองน้ำแตะไปยังส่วนอื่นๆ เช่น กรอบหน้า
• ทำอีกด้านเหมือนกัน จากนั้นตามด้วยคอนซีลเลอร์บางๆ ในจุดที่ต้องการปกปิด
• ตามด้วยแป้งฝุ่นเบาๆ เฉพาะในจุดที่ไม่ต้องการให้โกลว์หรือเงาเกินไป เช่น กรอบหน้า หรือจุดที่มันง่าย เพื่อไม่ให้แป้งกลบความโกลว์ของผิว และช่วยให้ผิวหน้าดูมีมิติ

Noted: หากผิวแห้งให้เติมความชุ่มชื้นก่อน, สำหรับรองพื้นตัวนี้มีความโกลว์อยู่แล้ว นำให้เลี่ยงเมคอัพเบส

– รองพื้น ZEN WEAR GLOW 30 ml ราคา 1,900 บาท , ฟองน้ำ ราคา 280 บาท และลิปสติก ROUGE DECORÉ CREAM GLOW ราคา 1,350 บาท มีจำหน่ายที่เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลชิดลม, สยามพารากอน, สยามทาคาชิยามา และเซ็นทรัลภูเก็ต และทาง Central Online

Text และภาพบางส่วน: Nicharee W.
ภาพ: DECORÉ

ติดตามอ่านบทความในแวดวงความงามเพิ่มเติมได้ที่นี่

รวม ลิปบำรุงสีสวยฉ่ำ แท่งเดียวจบครบทั้งสีสันและความชุ่มชื้น

เจาะ ครีมกันแดดแบรนด์ไทย MISTINE & HER HYNESS ดียังไง เด็ดแค่ไหน ทำไมปังมาก

รู้จัก Coty บริษัทผู้พลิกโฉมวงการน้ำหอมตั้งแต่ปี 1904 หรือเมื่อ 120 ปีก่อน!

คุยกับ ดนัย ดีโรจนวงศ์ ผู้พา MISTINE สู่ตลาดโลก พร้อมส่องบิวตี้ไอเท็มสุดเก๋ที่สาวๆ เทใจให้

คุยเรื่องความงามทั้งภายนอกและภายใน กับ “จองแซมุล” มาสเตอร์บิวตี้ตัวจริง

เจาะเทคโนโลยีในลิปสติกรุ่นล่าสุด Rough Star Vibrant จาก KANEBO #สวยฉ่ำไม่ตกร่อง

BSC EXTREME CAVIAR PHYTOCELLTEC NANO SERUM นวัตกรรมสกินแคร์ไทยที่ครองใจ