เรื่องราวกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นและน่าติดตาม สำหรับ ฟากฟ้าคีรีดาว ละครฟอร์มยักษ์ ฉลอง 50 ปี ช่อง 3 จากค่ายเป่าจินจง ที่อาตู่ นพพล โกมารชุน ผู้จัดและผู้กำกับ ทุ่มทุนเพื่อภาพสวย ยกกองไปถ่ายทำกันไกลถึงอินเดียตอนเหนือ แถมยังดัน 3 พระนางหน้าใหม่ฝีมือดี ภณ-ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์, อิน-สาริน รณเกียรติ และ น้ำหวาน ภูริตา สุปินชมภู ปะทะบทบาทเข้มข้นกับนักแสดงคุณภาพระดับตำนาน นก ฉัตรชัย นก สินจัย จอนนี่ แอนโฟเน่ และ ปิ่น เก็จมณี
Exclusive Interview : ภณ อิน น้ำหวาน ทุ่มสุดตัว พิสูจน์ฝีมือ ใน ฟากฟ้าคีรีดาว
เชื่อว่าหลายคนคงติดละครฟากฟ้าคีรีดาว และเชียร์ 3 พระนางกันอยู่ วันนี้สุดสัปดาห์มีสัมภาษณ์พิเศษ ภณ อิน หวาน ถึงการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมาฝากกัน
อยากให้เล่าถึงบทบาทและคาแร็คเตอร์ที่ตัวเองได้รับสักนิดค่ะ
น้ำหวาน: หวาน รับบท ดานิกา ผู้หญิงที่ฝันอยากเปิดร้านอาหาร รักแม่ เป็นผู้หญิงที่สดใส มองโลกในแง่ดี มีความรักให้คนรอบตัวค่ะ
อิน: ผมรับบทเป็น คิรี เด็กสู้ชีวิต เกิดมากับคำว่าขาด ยากจน ขาดพ่อ เพราะว่าโตมากับแม่ ขาดการอบรมเลี้ยงดู แก่นแท้ของคิรีเป็นคนดี แต่ไม่มีคนคอยนำทาง เลยต้องพัฒนาไปเป็นคนที่เลือกทางเดินผิดในชีวิต ต้องบอกว่าคิรี เป็นตัวละครที่แปลกครับ ส่วนใหญ่แล้วจะเห็นตัวละครพัฒนาขึ้นไปในทางดี จากร้ายกลายเป็นดี แต่คิรีพัฒนาลง จากดีกลายเป็นร้ายขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งน่าสนใจมากว่าว่าเขาจะไปสุดที่จุดไหน เขาจะร้ายจริงมั้ย
ภณ: ผมรับบทเป็น สันธรากาศ เป็นคนอารมณ์ร้อน โหยหาความรัก เพราะขาดความรักจากแม่ เขาได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อ มีเหตุการณ์บางอยางที่ทำให้ได้ไปอยู่กับพ่อ และก็ห่างจากแม่ โดยที่เขาก็คอยตามหาแม่ ว่าแม่อยู่ที่ไหน เป็นมุมดราม่าของเขา สันธรากาศชอบการต่อสู้ เป็นคนแมนๆ บู๊ๆ ในเรื่องผมก็จะต้องเจอซีนแอคชั่นเยอะมาก
น้ำหวาน: เรื่องนี้หวานรับบทไม่ไกลจากตัวเอง วัยใกล้เคียงกันมาก เรียนจบ ทำงานสร้างตัวเอง สร้างธุรกิจ เริ่มความรัก เป็นวัยที่ค้นพบตัวเอง บางมุมบทก็ไม่ได้ยากถึงขั้นทำไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ง่ายจนแบบชิล มันมีทั้งยากและและง่ายผสมกันไปตามเนื้อเรื่อง
อิน: ของอินตอนเล่นบทใสๆ อินว่ากว่ายากนะ คือตัวจริงอินก็ไม่ใช่คนใสซื่อคนดีอะไร (หัวเราะ) หยอกครับ จริงๆ ทีแรกคิดว่าบทนี้จะยาก แต่จริงๆ ก็พอรับมือได้ครับ เพราะตัวจริงอินไม่ใช่คนเนิบๆ เราก็ดึงมุมดาร์กของเรามาใช้บ้าง อินชอบบทนี้มากครับ
น้ำหวาน: อินเป็นคนร้าย เล่นเป็นตัวเอง (หัวเราะ)
ภณ: บทของผมยากมากตรงเรื่องการบู๊ ตัวละครชอบการต่อสู้ การต่อยมวย บ้าพลัง เรื่องนี้ผมเลยต้องไปเรียนขี่ม้า ฝึกต่อยมวย ไหนจะต้องมีดราม่ากับพี่นกชาย คุณพ่อของเราในเรื่องอีก ใช้พลังเยอะมาก ทั้งพลังอินเนอร์และพลังการต่อสู้
ในฐานะนักแสดงคิดว่าอะไรคือความน่าสนใจของละครเรื่องนี้
หวาน: ฟากฟ้าคีรีดาว เป็นละครแนวโรแมนติกดราม่าที่บู๊เยอะ ส่วนใหญ่ละครเรื่องอื่นเราจะเห็นการฟาดฟันของผู้หญิงเนอะ แต่นี่ความสนุกคือ การฟาดฟัน การชิงดีชิงเด่นของผู้ชายในเรื่องทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ นั่นก็คือ อินกับภณ และ พี่นกชายกับพี่จอนนี่ ดังนั้นผู้หญิงในเรื่องก็เลยดูซอฟท์ไปเลยค่ะ (ยิ้ม)
รู้มาว่าเรื่องนี้ทุ่มทุนไปถ่ายถึงอินเดียเพื่อให้ได้ภาพสวย เบื้องหลังการทำงานที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างคะ
อิน: เราไปถ่ายทำกันที่เมืองเมืองชิมลา (Shimla) เมืองหลวงของรัฐหิมาจัล (Himachal) แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง 1 ใน 10 ของประเทศอินเดีย และยอดเขากุลมาร์ก (Gulmarg) ในแคชเมียร์ ในอุณหภูมิติดลบหนาวมากกก และก็สวยมากกกก
ภณ: และก็ลำบากกกกมากกกก
หวาน: ลำบากในเรื่องการเดินทางค่ะ ใช้เวลาเดินทางนานมาก กว่าจะไปถึงสถานที่ถ่ายทำ ใช้เวลาถึง 2 วัน นั่งเครื่อง นั่งรถ ต้องพักหนึ่งคืนแล้วค่อยเดินทางต่อ ยิ่งตอนขึ้นเขา ซึ่งเป็นภูเขาน้ำแข็งก็จะลำบากหน่อย คือรถทุกคันต้องใส่โซ่ที่ล้อไม่งั้นจะลื่น อินเดียหนาวกว่าที่คิดไว้มากค่ะ
อิน: อุณหภูมิติดลบสิบ ลบยี่สิบ แล้วความทรมานคือ ฮีทเตอร์ตัวเดียวเก่าๆ จะตัดตอนตี 2 ทุกคืน แล้วมันก็จะหนาว หนาวจนโมโหอะ (หัวเราะ) คือต้องถอดปลั๊กแล้วเสียบใหม่
หวาน: ประมาณว่าไฟต้องแชร์กัน ทุกชั่วโมงครึ่งไฟจะดับ มันเป็นเรื่องปกติของบ้านเมืองเขาที่เราไม่ชิน ส่วนห้องน้ำที่ไปเจอถือว่าโชคดีที่ทีมงานหาห้องน้ำที่โอเคให้ อาหารกินได้ไม่ยาก ทีมงานมีเตรียมน้ำพริก คั่วกลิ้งไปให้ด้วย เพราะกินอาหารอินเดียหลายวันจะเอียนเครื่องเทศ แต่อินนี่สบายมาก เขาชอบอาหารอินเดีย
ภณ: พูดได้ว่าจุดเด่นไม่ใช่แค่เรื่องราวที่เข้มข้นน่าติดตาม แต่โลเคชั่นก็เด่นมาก ภาพสวยมาก ซึ่งอาตู่ทุ่มทุนเพื่อความยิ่งใหญ่ ในฉากที่พี่นก ฉัตรชัยต้องแยกกับผม ฉากนั้นมีทั้งเฮลิคอปเตอร์ รถหรู ปิดสนามบินบนเขาถ่ายทำ และเลือกถ่ายทำในโรงแรมสวยบนยอดเขาที่มีประวัติกว่า 82 ปี เป็นฉากคฤหาสน์ของพี่นก ฉัตรชัย
อิน: ในเมืองไทยก็หาสถานที่สวยงามแปลกตาทั่วเมืองไทยทั้ง เชียงใหม่ เชียงราย เขาค้อ เพชรบูรณ์ ทุกที่ที่ได้ไปทำให้เราค้นพบว่า เมืองไทยสวยมากกก อย่างเขาค้อ ผมรู้ว่าสวยนะ แต่ไม่คิดว่าจะสวยได้ขนาดนี้ สวยเหมือนเมืองนอกเลย
หวาน: หวานและคนส่วนใหญ่จะไปคุ้นกับเขาใหญ่ อยากบอกว่า เขาค้อ ไปแล้วประทับใจมาก สวยมาก ระหว่างทางขับรถกลับตอนกลางวัน เห็นวิวทางชัด สวยมากจนคิดว่าอยู่ต่างประเทศ
มีฉากไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษบางคะ
อิน: อินชอบฉากที่เข้ากับพี่นกหญิง ฉากแม่ลูกที่สัมผัสได้ถึงความรัก ความอบอุ่น พอสั่งคัตทุกคนที่มาเช็คเทป จะชอบกันมาก สัมผัสได้ว่าความอบอุ่นนี้จะไปถึงคนดู เพราะมีความเป็นแม่ลูกสูงมาก แต่คู่นี้ก็เป็นแม่ลูกที่ฟัดเหวี่ยงกันพอตัว แต่ก็จะมีความหวังดี ห่วงใยกันตลอด
หวาน: ชอบฉากของคนอื่นค่ะ (ยิ้ม) ชอบคิรี ฉากที่เห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวละคร จากดีมากกลายเป็นอิน สารินที่ร้าย (หัวเราะ)
อิน: มันจำเป็นนนน แต่ละคนก็มีปมเป็นของตัวเอง คุณอย่ามาว่า ว่าคิรีร้ายเหมือนตัวจริง เดี๋ยวเขาก็เชื่อกันหมด (หัวเราะ)
ภณ: ผมชอบฉากที่ต่อยกับอิน ถ่ายในกรงเหล็ก ฝุ่นเยอะ และร้อนมาก ภาพสวยดีครับ
อิน: ดวลกันสองคน เชื่อมั้ยฉากนี้ไม่มีพลาดเจ็บตัวเลย แต่ไปพลาดฉากอื่น เป็นซีนที่คิรีหนีตายแล้วล้มบนก้อนกรวด เจ็บตัวเลือดออกเลย
ฝากละครกับแฟนสุดสัปดาห์ได้เลยค่ะ อนุญาตให้ขายของเต็มที่
หวาน: ฝากติดตามฟากฟ้าคีรีดาวด้วยนะคะ น่าจะถูกใจใครหลายคน เป็นละครที่ดูง่าย ครบรส มีนักแสดงทั้งรุ่นใหญ่และวัยรุ่น เรื่องราวดำเนินไปอย่างเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้พลาดค่ะ
อิน: ความน่าสนใจของรุ่นใหญ่ เขาไม่ได้มาเพื่อซัพพอร์ทรุ่นเล็กนะครับ เขามีเวย์มีเรื่องราวของเขา ส่วนภณนั้นก็โชว์ซิกส์แพ็กแน่นมากจริงๆ
ภณ: มีฉากถอดเสื้อเยอะพอสมควรครับ เลยฟิตหุ่นหนักมาก ดูแล้วเพลิดเพลินครับ ภาพสวย แสงสวย อารมณ์ทุกตัวละครเข้าถึงบทบาท ทุกคนเต็มที่กับเรื่องนี้มากจริงๆ ครับ
เรื่อง : AuAi Photo: เนาวพจน์ โพธิเกษม
สถานที่และอำนวยความสะดวก : ไทยทีวีสี ช่อง 3
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เรื่องย่อ ฟากฟ้าคีรีดาว 3 พระนางเลือดใหม่ ภณ-น้ำหวาน-อิน ประชันฝีมือดุเดือด
ไบร์ท วชิรวิชญ์ จากตัวประกอบส่งตัวเองเรียน สู่นักแสดงดาวรุ่งดังไกลทั่วเอเชีย
แอลลี่ อชิรญา สาวน้อยมหัศจรรย์ กับเส้นทางศิลปินที่ฝ่าฟันด้วยตัวเอง
นนกุล กับเส้นทางโกอินเตอร์ที่เมืองจีน ตายเอาดาบหน้า ดีกว่าไร้เป้าหมาย