Biological Medicine คืออะไร

ชวนรู้จัก Biological Medicine ศาสตร์ที่ดูแลสุขภาพถึงรากฐาน

account_circle
event
Biological Medicine คืออะไร
Biological Medicine คืออะไร

ทำความรู้จัก “Biological Medicine” หรือ “ชีวการแพทย์” ศาสตร์ที่ดูแลสุขภาพถึงรากฐาน ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพยุคใหม่

ช่วงนี้วงการ Health & Wellness ของบ้านเรากำลังคึกคักจนเป็นที่น่าจับตามอง มีการนำหลักการและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อตอบสนองเทรนด์สุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเทรนด์สุขภาพในยุคนี้ไม่ใช่แค่เยียวยาร่างกายจากความเจ็บป่วยอย่างเดียว แต่มุ่งเน้นไปที่การดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน การป้องกันก่อนโรคจะเกิดขึ้น และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Health) ซึ่งประกอบด้วย ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ

สุดสัปดาห์มีโอกาสได้ไปเยือน AMSEL Biohealth Center (แอมเซล ไบโอเฮลท์ เซ็นเตอร์) ศูนย์สุขภาพแบบองค์รวมแห่งใหม่ย่านกรุงเทพกรีฑา ซึ่งประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ความน่าสนใจของที่นี่คือการหยิบเอาศาสตร์ “ชีวการแพทย์” หรือ “Biological Medicine” มาใช้เป็นหลักในการดูแลสุขภาพ

AMSEL Biohealth Center
AMSEL Biohealth Center

ชีวการแพทย์อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยหลายคน แต่แท้จริงแล้ว ศาสตร์นี้ถูกพัฒนาในต่างประเทศมามากกว่าสิบปี และที่ AMSEL Biohealth Center ก็ได้ร่วมมือกับ ดร.โทมัส ราว (Dr.Thomas Rau) ผู้บุกเบิกด้านชีวการแพทย์ จาก BioMed Center Sonnenberg ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อออกแบบบริการต่างๆ ให้สอดคล้องกับหลักของชีวการแพทย์

แล้ว Biological Medicine คืออะไร มีหลักการอะไรบ้างที่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพยุคใหม่ เราจะพาไปหาคำตอบกัน

Biological Medicine (ชีวการแพทย์) คืออะไร

คุณวศิน ดลรึเดช ผู้ร่วมก่อตั้ง AMSEL Biohealth Center และดร.โทมัส ราว (Dr.Thomas Rau)

ดร.โทมัส ราว อธิบายว่า จากประสบการณ์ของเขาพบว่า ภายใต้อาการเจ็บป่วยต่างๆ มีหลายปัญหาซุกซ่อนอยู่ เมื่อสืบสาวไปถึงเบื้องหลังของโรคต่างๆ จะพบว่าหลายโรคเกิดจากความไม่สมดุลบางอย่างภายในร่างกาย ซึ่งความไม่สมดุลและปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นก่อนที่อาการเจ็บป่วยจะแสดงออกมาเสียอีก

หากเราแค่รักษาตามอาการหรือพยายามกดอาการไว้ มันอาจจะหยุดยั้งความเจ็บป่วยได้แค่ชั่วคราว แต่ไม่ได้ฟื้นฟูเยียวยาร่างกายอย่างยั่งยืน ดังนั้นชีวการแพทย์จึงมองว่าการดูแลรักษาต้องลงลึกถึงต้นตอของปัญหา ฟื้นฟูร่างกายถึงรากฐาน ไม่ใช่แค่รักษาตามอาการ แต่เยียวยาสุขภาพให้ดีขึ้น แข็งแรงขึ้นในระยะยาว โดยปกติร่างกายจะมีการเยียวยาตัวเองอยู่แล้ว แต่ปัจจัยต่างๆ เช่น มลภาวะ และ ไลฟ์สไตล์ ส่งผลให้การฟื้นฟูเยียวยาทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้ชีวการแพทย์จึงต้องการช่วยให้ร่างกายเยียวยาตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทั้งหมดก็คือหลักการโดยรวมของ Biological Medicine

3 เสาหลักของชีวการแพทย์

ชีวการแพทย์เชื่อว่ามีปัจจัยหลัก 3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งจะพัฒนาไปเป็น 3 เสาหลักของศาสตร์นี้ ได้แก่

เสาต้นที่ 1 Detoxification

ทุกวันนี้คนเราได้รับมลพิษจากหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางอากาศ มลพิษในสิ่งแวดล้อม สารพิษที่ปนเปื้อนในอาหาร หรือแม้แต่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทั้งหมดล้วนแล้วแต่รบกวนระบบต่างๆ ภายในร่างกาย สะสมภายในร่างกายและเป็นเหตุให้ร่างกายอ่อนแอลงได้ เสาหลักต้นแรกจึงเป็นการขจัดสารพิษและกำจัดของเสียที่ตกค้างภายในร่างกาย

เสาต้นที่ 2 Immune and Intestinal Health

เมื่อระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายก็ไม่สามารถปกป้องตัวเองจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ดังนั้นหลักการหนึ่งของชีวการแพทย์จึงมุ่งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง มีการบำบัดรักษาและฟื้นฟูลำไส้ เพื่อให้แบคทีเรียในลำไส้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะลำไส้ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม

เสาต้นที่ 3 Rejuvenation

เสาต้นสุดท้ายคือการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ เพราะเซลล์แต่ละเซลล์รู้วิธีการฟื้นฟูตัวเองอยู่แล้ว แต่ไลฟ์สไตล์ของเรารวมไปถึงปัจจัยภายนอกก็ส่งผลให้การฟื้นฟูเซลล์ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ชีวการแพทย์จึงต้องการช่วยเหลือให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น

วิธีการบำบัดรักษาสุขภาพแบบองค์รวม

จากหลักการที่กล่าวไปข้างต้น ปัญหาหลายปัญหาสะสมอยู่ภายใต้อาการเจ็บป่วยของเรา ชีวการแพทย์จึงต้องการจะแก้ปัญหาทั้งหมดที่ต้นตอ โดยหยิบเอาวิธีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Approach) มาแก้ไขปัญหาเหล่านั้น เสริมสร้างสุขภาพที่ดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ

แนวทางการบำบัดรักษาตามแบบชีวการแพทย์จะเป็นไปแบบรายบุคคล เจาะจงปัญหาของแต่ละบุคคลแล้วเลือกใช้วิธีการหรือโปรแกรมต่างๆ ให้เหมาะสม ซึ่งดร.โทมัส ราวได้เล่าว่า เขาไปสำรวจการแพทย์ในแขนงต่างๆ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันในชีวการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น แพทย์แผนจีนหรืออายุรเวทต่างๆ ที่มองว่า ร่างกายประกอบขึ้นจากหลายมิติ ทั้งกายภาพ เคมี และพลังงาน

วิธีการบำบัดในชีวการแพทย์จะสอดคล้องไปกับ 3 เสาหลัก ยกตัวอย่างเช่น การบำบัดด้วยสารอาหารทางหลอดเลือดดำ การบำบัดน้ำเหลืองแบบไม่รุกรานเพื่อกำจัดสารพิษ การบำบัดด้วยเสียง พลังงานบำบัด โยคะเชิงบูรณาการ เป็นต้น เป็นการเสริมสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพได้อย่างลงตัว

ขอขอบคุณ ภาพจาก AMSEL Biohealth Center

Text : Nattakarn Saekhoo

อ่านบทความแฟชั่น & ไลฟ์สไตล์เพิ่มเติมได้ที่

ถอดมายด์เซตสร้าง ‘ความสัมพันธ์ที่เฮลตี้’ ฉบับ เลดี้ปราง

รวมทริคอัปความสุข บูสต์เอเนอร์จี้ และ พัฒนาตัวเอง จากเหล่าคนดัง

ชวนกินตาม มิชลิน ไกด์ เปิดรายชื่อ 20 ร้านใหม่ ที่ได้รับรางวัล บิบ กูร์มองด์ ประจำปี 2568

นั่ง รถไฟ SRT Royal Blossom เปิดประสบการณ์เดินทางหรูหราพรีเมียม

เปิด ตารางสีมงคล 2568 สีเสื้อมงคล โดย หมอช้าง ทศพร! เสริมความเฮงตลอดปี

Personal Color กับ สีมงคล : คอมโบตามหาสีที่ใช่ ใส่แล้วลุคปัง ดวงรุ่ง

แจกโพยแต่งตัวตาม อนงค์ จาก หนึ่งในร้อย สาวสวย รวย เปรี้ยวแห่งพระนคร

เช็กลิสต์ 8 โรงแรมระดับ 3 MICHELIN Key การันตีประสบการณ์สุดพิเศษ

รวมไฮไลต์ห้ามพลาดใน Ocean Park Hong Kong แลนด์มาร์กที่รวมทั้งสวนสนุก สวนสัตว์ สวนน้ำ และโรงแรมหรู

แจกไอเดียตะลุยภูเก็ต ดื่มด่ำศิลปวัฒนธรรม สัมผัสเสน่ห์ทะเลใต้ ลิ้มรสอาหารไทยอร่อยเลิศ

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up