ถ้าพูดถึงศรีลังกา หลายๆ คนก็จะต้องนึกถึงวัดกันใช่ไหมล่ะคะ สุดฯ บอกเลยว่าขอให้ลบภาพนั้นออกไปจากหัว เพราะศรีลังกาอัดแน่นไปด้วยที่เที่ยวที่ค่อนข้างหลากหลาย แถมโดดเด่นอย่างมากในเรื่องธรรมชาติที่เงียบสงบ อาหารก็อร่อย คนศรีลังกาก็น่ารัก ใครที่อยากจะไปลองเที่ยวศรีลังกาแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง สุดสัปดาห์มี ที่เที่ยวศรีลังกา มาแนะนำค่ะ
6 ที่เที่ยวศรีลังกา ที่ต้องไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต
สำหรับทริปศรีลังกาในครั้งนี้ ทาง KTC ยกขบวนพาสื่อมวลชนไปทัวร์ศรีลังกาหลากหลายเมือง เรียกว่าไปครั้งเดียว เราได้เห็นศรีลังกาในหลากหลายมุม และแอบกระซิบว่ายังได้อะไรดีๆ กลับมาอีกด้วย
ศรีลังกาเป็นประเทศทื่มีความสงบ ร่มรื่น ผู้คนต่างอยู่กันอย่างเรียบง่าย มีความใช้ชีวิตกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะแตกต่างจากบ้านเราที่มีความเร่งรีบกว่าหน่อย สุดฯ บอกเลยว่าคนศรีลังกาน่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส อ่อนน้อม ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวสุดๆ แถมยังพูดภาษาอังกฤษกันได้ดี ที่เที่ยวที่ศรีลังกาก็สวยมาก ยังคงความเป็นธรรมชาติค่อนข้างสูง สุดฯ เจอทะเลค่อนข้างเยอะแม้แต่ในเมืองหลวงอย่างโคลัมโบก็มีทะเล ซึ่งไม่ได้เป็นทะเลธรรมดา ยังเป็นทะเลที่สวย น้ำใส ยิ่งในยามเย็นที่ท้องทะเลสีฟ้างามหยอกล้อกับแสงอาทิตย์ ยิ่งสวยจับใจ
อย่างที่สุดฯ ได้เกริ่นไว้ว่าที่เที่ยวที่ศรีลังกาค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ทำให้สุดฯ พบว่าตวามเข้าใจที่ว่ามาถึงจะเจอวัดวาอาราม หรือสถานที่ทางศาสนาต่างๆ นั้น สุดฯ คิดผิดถนัด ศรีลังกามีอะไรที่น่าค้นหากว่านั้นอีกเยอะ
เมืองกอลล์
ที่เที่ยวแรกที่สุดฯ จะมาแนะนำ เป็นที่เที่ยวแนวชายทะเลที่มีกลิ่นอายประวัติศาสตร์ซุกซ่อนอยู่ นั่นคือ เมืองกอลล์ เมืองชายทะเลที่สวยและมีเสน่ห์แห่งศรีลังกา เป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยแวะพักระหว่างเสด็จประพาสยุโรปครั้งแรก โดยมีสถานที่ไฮไลท์ที่เก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ของศรีลังกาไว้ในหลายส่วน เช่น ประภาคารกอลล์ จุดชมวิวยอดนิยมของศรีลังกาที่หันหน้าออกสู่ทะเลที่มีสีเขียวมรกต โดยเป็นสถาปัตยกรรมในสไตล์ยุโรปที่มีอายุเก่าแก่ถึง 168 ปี สุดฯ มีโอกาสได้ขึ้นไปชมวิวมา สวยมาก ทะเลใส ยิ่งไปช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก ยิ่งเพิ่มความสวยงามขึ้นไปอีก
นอกจากประภาคารแล้ว บริเวณใกล้ๆ กันยังมีสุเหร่ามีรา ที่มีอายุราว 300 ปี เป็นมัสยิดที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในกอลล์ และป้อมปราการเมืองกอลล์ ที่สร้างขึ้นครั้งแรกโดยชาวโปรตุเกสสมัยเข้าปกครองศรีลังกาในปี ค.ศ. 16 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคม ปัจจุบันป้อมปราการแห่งนี้เป็นป้อมใหญ่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในเอเชีย และได้ถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของ UNESCO ด้วย ถ้าเราไปบนสุดของป้อมปราการ เราจะสามารถเห็นวิวของเมืองกอลล์ได้ค่อนข้างกว้าง สถาปัตยกรรมค่อนข้างสวย ลมข้างบนเย็นด้วย โดยทั้งสามสถานที่ที่สุดฯ กล่าวไป จะอยู่ใกล้ๆ กัน เราสามารถนั่งรถตุ๊ก ตุ๊ก ซึ่งเป็นพาหนะสุดชิคและสุดฮิตของชาวศรีลังกา ผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์ทั้งสามได้ แถมตลอดข้างทางยังมีร้านค้า คาเฟ่ให้แวะชิลได้อีก
ชมการตกปลาไม้ค้ำที่เมืองค็อกคาลา
ด้วยความที่เป็นประเทศที่มีชายฝั่งทะเลเยอะ คนที่นี่เลยทำอาชีพประมงกันค่อนข้างมาก ซึ่งวิธีตกปลาของชาวศรีลังกาก็ไม่เหมือนใคร เพราะจะมีการใช้ไม้ค้ำที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2 เมตร โดยชาวประมงจะขึ้นไปนั่งทรงตัวอยู่บนไม้ค้ำแล้วทำการตกปลา สุดฯ ไปเห็นมากับตาแล้ว รู้สึกแปลกใหม่ ตอนแรกสงสัยว่าจะตกได้ไหม สรุปตกปลาได้จริงๆ แอบได้ยินมาว่าการตกปลาแบบนี้ไม่ใช่แค่การตกปลาธรรมดา กลายเป็นมรดกตกทอดของวงศ์ตระกูลด้วยนะ แบบเสานี้เป็นของครอบครัวนี้ ส่งต่อให้รุ่นลูกต่อไป
ล่องเรือชมวาฬและโลมาที่เมืองมิริสซ่า
ศรีลังกาเป็นอีกประเทศที่มีโลมาและวาฬให้เราล่องเรือไปชมได้ โดยสามารถล่องเรือชมสัตว์ทั้งสองชนิดได้ที่เมืองมิริสซ่า ซึ่งถ้าเราโชคดีอาจจะมีโอกาสได้เจอกับวาฬสีน้ำเงิน ซึ่งสุดฯ ได้เห็นจ้า ตอนแรกดีใจปลื้มปริ่มมาก หลังจากวาฬพ่นน้ำอยู่รอบๆ เรือเราสักพักใหญ่ ในที่สุดเจ้าวาฬก็ว่ายน้ำขึ้นมาให้เราได้ยลโฉม แบบมาไวเคลมไวมาก แต่ก็เห็นตัวนะจ๊ะ มีความตัวใหญ่
ส่วนเจ้าโลมาก็น่ารักเช่นกัน ได้เห็นหลายตัวเลย เรียกว่ามากันทั้งฝูง แถมทะเลก็สวย มีความสงบ ระหว่างล่องเรือก็จะผ่านภูเขาหรือเกาะบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นทะเลกว้างๆ มากกว่า ในฐานะที่สุดฯ เคยมีโอกาสได้ล่องเรือทั้งในประเทศไทยและศรีลังกามาแล้ว สุดฯ ว่ามีความแตกต่างกัน ที่ไทยเราจะเจอภูเขาและเกาะค่อนข้างเยอะ แต่ศรีลังกาให้ฟีลลิ่งล่องเรือในทะเลจริงๆ มองไปเจอแต่ทะเล สัมผัสได้ถึงความเป็นมหาสมุทร แถมบางจุดยังมีน้ำ 2 สีด้วยนะ คือสีอ่อนกับเข้ม ซึ่งสีอ่อนจะเป็นที่น้ำตื้นกว่าสีเข้มนั่นเอง แถมคลื่นที่ศรีลังกาจะค่อนข้างใหญ่ เหมาะกับคนที่รักการเล่นเซิร์ฟมากๆ คลื่นลูกใหญ่จริงๆ แม้แต่ตามริมชายหาดคลื่นยังใหญ่เลยจ้า
อุทยานแห่งชาติยาลา
ดูสัตว์น้ำแล้ว ถึงเวลาไปดูสัตว์บกกันบ้าง ที่ศรีลังกามีอุทยานแห่งชาติยาลา ที่เป็นซาฟารีใหญ่ มีสัตว์หายากค่อนข้างเยอะ ที่นี่เหมาะกับการเริ่มต้นการท่องเที่ยวสไตล์ซาฟารี ใครที่รักสายนี้ต้องลองไปสัมผัสสักครั้ง โดยสัตว์หายากที่นี่ก็มีทั้ง เสือดาว ช้าง จระเข้ กวางดาว หมูป่า ควายป่าและนกกว่า 130 สายพันธุ์ เราจะได้นั่งรถจิ๊ปทัวร์รอบซาฟารี มีความลุยและผจญภัย ลืมภาพการดูสัตว์แบบเดิมๆ ไปได้ ที่นี่เราเหมือนทะลุเข้าที่อยู่อาศัยของสัตว์เลย เพราะตลอดทางมีแต่ต้นไม้ พื้นดินโล่งกว้าง และสายน้ำ ที่เหมือนกับตามซีรี่ย์หรือภาพยนตร์เลย สนุกมาก ได้เจอสัตว์เยอะ ทำให้อยากไปทัวร์ซาฟารีที่แอฟริกาขึ้นมาเลย
วัดคงคาราม
มาศรีลังกาทั้งทีก็ต้องเข้าวัดทำบุญกันสิจ๊ะ วัดที่สุดฯ จะแนะนำคือวัดคงคาราม หนึ่งในวัดนิกายสยามวงศ์ที่มีชื่อเสียง ด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และศิลปะภายในวัดมีความโดดเด่น เพราะเป็นแบบผสมผสานระหว่างศรีลังกา อินเดีย ไทยและจีน พระอุโบสถตั้งอยู่กลางน้ำประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีทองสดใส
วัดแห่งนี้ถึงแม้จะอยู่ในตัวเมือง แต่มีความร่มรื่นและเงียบสงบ ตอนสุดฯ เข้าไปในวัดก็รู้สึกสงบทันทีโดยที่ไม่ต้องพยายาม ภายในวัดจะมีทั้งอุโบสถและต้นโพธิ์ที่มีความเชื่อกันว่าถ้าใครได้ใบโพธิ์จากที่นี่กลับมาบูชาจะเป็นสิริมงคลต่อชีวิต นอกจากนี้สุดฯ ยังมีโอกาสได้ร่วมพิธีรับพระธาตุโดยจะนำพระธาตุมาเทินบนศีรษะเพื่อระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามความเชื่อที่ว่า “หากท่านใดได้ทำพิธีมงคลบูชารับพระธาตุนี้ จะทำให้หมดเคราะห์ ตัดกรรม และโชคดีตลอดไป”
โคลัมโบ
มาถึงโคลัมโบเมืองหลวงของประเทศศรีลังกากันบ้าง ด้วยความที่เป็นเมืองหลวง รถรา รวมไปถึงการใช้ชีวิตของคนที่นี่ก็จะคึกคักกว่าทุกเมือง เพราะมีผู้คนหนาแน่นกว่า ถึงกระนั้นก็มีทะเลให้เราดูนะจ๊ะ ความน่าสนใจที่สุดฯ แอบว้าวมากๆ คือ มีรางรถไฟอยู่ติดกับทะเล กรี๊ดดด คิดภาพเรานั่งรถไฟ แล้วมองออกนอกหน้าต่างไปเจอทะเลตลอดทางจะฟินขนาดไหน นี่ขนาดสุดฯ นั่งรถมองข้ามทางรถไฟไป ยังรู้สึกถึงความสดชื่น ยิ่งช่วงที่พระอาทิตย์กำลังค่อยๆ ลับขอบฟ้า เป็นภาพที่สวยงามมาก ตอนนั้นสุดฯ รู้สึกตัวเองเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีตเลย เพราะโคลัมโบมีความเป็นเมืองหลวงที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเราห่างหายจากความรู้สึกเช่นนี้ไปนานแล้ว
นอกจากความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในศรีลังกาแล้ว ด้วยความที่ผู้คนที่นี่มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ค่อยหวือหวา บวกกับสภาพแวดล้อมในประเทศมีความเป็นธรรมชาติสูงมาก ทำให้ตอนที่สุดฯ ไปเที่ยว ได้มีโอกาสหยุดคิดอะไรเยอะมากจริงๆ ช่วงเวลาที่ได้มอง 2 ข้างทางของที่ศรีลังกา ทำให้เราได้เห็นวิถีการใช้ชีวิตของผู้คน ไปพร้อมกับได้ศึกษาวัฒนธรรมและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างไทยกับศรีลังกา ได้ตกผลึกอะไรหลายอย่าง
สุดฯ กลับมาถึงเมืองไทย รู้สึกว่าจิตใจของตัวเองสงบขึ้น ทั้งที่เข้าวัดแค่วัดเดียวนะ แต่กลับสงบมาก นั่นหมายความว่าความสงบ อาจจะไม่จำเป็นต้องเข้าวัดเสมอไป แต่เราสามารถสงบใจได้ด้วยการเจอสถานที่ฮีลลิ่งดีๆ สักที ที่ทำให้เราใช้ชีวิตแตกต่างจากเดิม จากชีวิตเร่งรีบก็ลองสโลว์ไลฟ์ดูบ้าง บางทีเราอาจจะต้องพาตัวเองไปในที่ที่แตกต่างจากเดิมบ้าง ลองเปลี่ยนสภาพแวดล้อมในชีวิตบ้าง ซึ่งทริปศรีลังกาทำให้รู้สึกตัวเองใจเย็นขึ้น ปล่อยวางได้มากขึ้น และมีความสบายใจในการใช้ชีวิตอย่างประหลาด คนรอบตัวยังแอบทักเลยว่าตั้งแต่สุดฯ กลับจากศรีลังกามีความนิ่งขึ้นนะ
เรียกว่าเป็นการไปเที่ยวที่ได้อะไรกลับมามากกว่าการไปเห็นที่เที่ยวสวยๆ แต่คือการที่เราได้ทัศนคติดีๆ ในการใช้ชีวิตกลับมา นี่แหละศรีลังกาในความทรงจำของเรา
TEXT : ImJinah
PHOTO : ImJinah
ที่เที่ยวที่น่าไปโดน
ภูเก็ตต้องไปโดนสักครั้งในชีวิต! ที่เที่ยวภูเก็ต ครบทุกรส แหล่งพักผ่อนที่ดีที่เราคู่ควร
KTC เตรียมเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ ที่จะชวนให้ได้ค้นพบมุมมองที่ไม่เคยเห็นของศรีลังกา
สามย่านมิตรทาวน์ มีอะไรดี ทำไมมีแต่คนเช็คอิน?!
รีชาร์จร่างกายที่ THANN Wellness Destination ที่พักครบวงจรระดับลักชูรี่ ที่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำ