สิวอุดตัน สิวอักเสบ และอีกสารพัดสิว ล้วนเป็นปัญหาผิวกวนใจอันดับต้นๆ ของคนทุกเพศ ทุกวัย วันนี้สุดสัปดาห์เลยจะพาไปพูดคุยกับกูรูเรื่อง สิว อย่าง “คุณหมอผักบุ้ง – พญ.ชนิศา ชำนาญวาด” แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและความงาม ผู้บริหาร Chanisa Clinic (ชนิศาคลินิก) ซึ่งคุณหมอจะมาตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับสิวตั้งแต่ต้นตอยันวิธีการรักษาเลยทีเดียว ใครที่สงสัยว่า สิวเกิดจากอะไร และเพราะอะไรสิวถึงไม่หายสักที วันนี้เรามีความรู้ดีๆ จากคุณหมอมาฝากค่ะ

เคสสิวที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง สาเหตุคืออะไร

ถ้าแบ่งตามลักษณะแล้ว สิว มีทั้งหมด 5 ชนิด คือ สิวอุดตัน สิวหัวเปิด สิวหัวปิด สิวหัวช้าง และสิวอักเสบ ซึ่งก็ต้องให้แพทย์ตรวจประเมินอย่างละเอียดอีกทีว่าเป็นสิวในระยะไหน และมีปริมาณสิวมากน้อยแค่ไหน จากการพูดคุยกับคุณหมอผักบุ้ง เราขอยกตัวอย่าง 2 เคสสิวที่พบได้บ่อยมาเล่าให้ฟัง

• สิวฮอร์โมน : เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย
  “ปัจจุบันเคสที่พบบ่อยจะเป็นสิวฮอร์โมน ซึ่งเกิดได้ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน เพราะปัจจัยอยู่ที่ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวมีชื่อว่า ‘เทสโทสเทอโรน’ บางคนเป็นสิวในช่วงวัยรุ่น แปลว่าอาจจะมีฮอร์โมนตัวนี้ค่อนข้างสูง ส่วนวัยที่เริ่มอายุเยอะขึ้นแล้ว แต่ยังเป็นสิวอยู่ สิวก็จะขึ้นในบริเวณ U-Zone (บริเวณกรอบหน้า รอบปาก) ส่วนใหญ่สาเหตุก็จะเกิดจากความเครียด พักผ่อนน้อย หรือว่าฮอร์โมนในร่างกายผิดเพี้ยน ส่วนใหญ่จะค่อนข้างเรื้อรัง เป็นสิวที่ดื้อยา ใช้การรักษาด้วยการทายาทั่วไปก็ไม่หาย อาจจะต้องเข้ามาพบแพทย์เพื่อรักษา”

• ถุงน้ำในรังไข่ : อันตรายภายใต้สิวเรื้อรัง
  “ถ้าเป็นสิวมากกว่า 3 เดือนแล้วยังไม่ดีขึ้น ปรับการรักษาโดยใช้เลเซอร์มากกว่า 10 ครั้งก็ยังไม่ดีขึ้น อันนี้อาจจะต้องคิดแล้วว่าเรามีซีสต์ ช็อกโกแลตซีสต์ หรืออะไรในร่างกายรึเปล่า หรือไปดูในกลุ่มโรคที่เรียกว่า PCOS ซึ่งก็คือถุงน้ำในรังไข่ พวกนี้มันจะเชื่อมโยงกับสิว ถ้าเป็นเคสแบบนี้อาจจะต้องมาพิจารณาว่า จำเป็นต้องไปอัลตราซาวด์ดูว่ามีซีสต์หรืออะไรในช่องท้องร่วมด้วยไหม”

พฤติกรรมต้องห้ามของคนเป็นสิว

บางทีที่คุณเป็นสิวไม่หายสักที อาจจะไม่ได้เป็นเพราะฮอร์โมนเท่านั้น แต่ปัจจัยเรื่องพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็ส่งผลต่อสิวของคุณเช่นกัน ซึ่งวัยรุ่นที่เป็นสิวบางเคสแค่เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับไลฟ์สไตล์ก็ดีขึ้นแล้ว และนี่คือ 3 พฤติกรรมต้องห้ามที่คนเป็นสิวควรหลีกเลี่ยงให้เร็วที่สุด

• แคะ แกะ เกาสิว
  “หากเป็นสิว เบื้องต้นเลยต้องงดแคะ แกะ เกาสิว คนส่วนใหญ่ที่เป็นแล้วไม่หายเพราะชอบแกะสิว บีบ กด เอาพวกคอตตอนบัดไปถู หรือว่าปัจจุบันจะมีพวกเครื่องนวดหน้าหรือเครื่องขัดหน้าซึ่งมีแรงไปขูดผิว ก็จะทำให้สิวอักเสบหายได้ช้า”

• นอนดึก
  “ถ้าลดการนอนดึก ปรับพฤติกรรมตรงนี้ ก็จะช่วยปัญหาสิวได้”

• กินของมัน ของหวาน
  “แนะนำให้งดของมัน ของทอด งดน้ำตาล เพราะพวกนี้เป็นสาเหตุของการเกิดสิว หลีกเลี่ยงของพวกนี้แล้วไปกินพวกอาหารคลีน หรือว่าคีโต ก็จะช่วยลดการเกิดสิวในอนาคตได้ แล้วก็แนะนำให้ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ”

สกินแคร์แบบไหนที่คนเป็นสิวยังใช้ได้

เชื่อว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัย เพราะถึงจะเป็นสิวอยู่ เราก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้สกินแคร์กับเครื่องสำอางบ้าง ซึ่งคุณหมอก็ได้ให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับสกินแคร์ที่คนเป็นสิวยังใช้ได้ ดังนี้

• ผลิตภัณฑ์และครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่สูงมาก
  “สำหรับเคสที่เป็นสิวแนะนำว่าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี SPF ไม่สูงมาก เพราะถ้า SPF สูงเกินไป มันจะทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เข้มข้นมาก แล้วก็มีโอกาสจะไปอุดตันผิว ทำให้เกิดสิวเรื้อรัง”

• ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของยีสต์
  “พวกผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคต่างๆ ก็ต้องมาดูว่ามันมีส่วนผสมของยีสต์รึเปล่า สิวมันเกิดจากตัวเชื้อ Malassezia furfur พวกนี้มันชอบกินยีสต์เป็นอาหาร ถ้าผลิตภัณฑ์พวกนี้มีส่วนผสมของยีสต์ หรือแพลงก์ตอนรวมอยู่ด้วย พอเราทาเข้าไปก็เหมือนเราไปให้อาหารสิว ในช่วงแรกถ้ามีสิวอุดตัน สิวอักเสบอยู่ ก็ไม่แนะนำให้ทา แต่ถ้าสิวดีขึ้นแล้ว เหลือแต่รอยดำรอยแดงก็สามารถทาได้ค่ะ”

• ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว
  “ถ้าให้หมอแนะนำ มันไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับว่ามันเหมาะกับสภาพผิวมากกว่า อย่างเคสที่ผิวแห้ง เราจะแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมอยส์เจอไรเซอร์เยอะ พวกนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี แต่ในเคสผิวมัน พื้นฐานเดิมผิวจะผลิตน้ำมันค่อนข้างสูงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีออยล์เยอะหรือมีความเข้มข้นของมอยส์เจอไรเซอร์เยอะเกินไป เพราะพวกนี้จะไปอุดตันตามรูขุมขน ทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น”

วิธี รักษาสิว

ปัจจุบันมีวิธี รักษาสิว มากมายให้เลือกตามความเหมาะสมกับสภาพปัญหา สภาพผิว และงบประมาณ ซึ่ง 3 วิธีต่อไปนี้ก็เป็นวิธีรักษาสิวที่ได้รับความนิยมมาก ทั้งนี้ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

• ทายา
  “การทายาในกลุ่มของยาลดสิว เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมันบนผิว ลดการผลิตน้ำมัน ทำให้ต่อมไขมันฟีบลง ก็จะทำให้หน้าแห้งขึ้น พอหน้าแห้งขึ้นก็ลดโอกาสการเกิดสิว หรือว่าทายาในกลุ่มยาละลายหัวสิว ยาฆ่าเชื้อสิว หรือในกลุ่มของยาลดรอย ยาในกลุ่ม Salicylic acid, Retin A หรือ Retinol แต่ในเคสที่เป็นเรื้อรัง ทายาอย่างเดียวอาจไม่พอ”

• กินยา
  “การกินยาในกลุ่มวิตามิน เอ ช่วยในเรื่องการลดสิวได้ แต่การกินวิตามิน เอ เยอะๆ จะมีผลข้างเคียงค่อนข้างสูง ดังนั้นคนที่กำลังตั้งครรภ์หรือแพลนจะตั้งครรภ์ห้ามกินวิตามิน เอ เพราะมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ นอกจากนี้ก็มีการกินพวกโพรไบโอติกส์ เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้สิวมันไม่กระจายไปเยอะขึ้น แล้วก็ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดการเกิดสิวได้”

• เลเซอร์
  “ในเคสที่เป็นเรื้อรัง คือเป็นสิวมากกว่า 3 เดือนไม่หายสักที ทั้งๆ ที่ทายาตลอด ปรับพฤติกรรมก็แล้ว กินยาก็แล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้น อันนี้ก็ต้องพิจารณาว่าอาจจะต้องใช้เลเซอร์เข้ามาช่วย”

เลือกคลินิก รักษาสิว ให้เห็นผลดี น่าเชื่อถือ

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการรักษาสิวคือ การเลือกคลินิกรักษาสิวที่น่าเชื่อถือ มั่นใจได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ซึ่งการเลือกคลินิกสามารถดูได้จาก 3 ปัจจัยเบื้องต้น ดังนี้

“คลินิกได้มาตรฐานโดยอาจจะดูว่าคลินิกสะอาด ดูมีมาตรฐาน มีใบอนุญาตประกอบการที่ตรวจสอบได้ติดไว้ให้เห็นชัดเจนหรือไม่  ที่สำคัญทีมแพทย์ที่ประจำในคลินิกนั้นๆ เป็นแพทย์จริงที่มีใบประกอบวิชาชีพจริงไหม ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของแพทยสภา สุดท้ายตัวยาที่ใช้หรือว่าขั้นตอนการทำหัตถการไว้วางใจได้ไหม สำหรับการทำหัตถการต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น ส่วนตัวยาและอุปกรณ์ต้องได้มาตรฐาน ซึ่งในปัจจุบันหลายๆ บริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายมีเว็บไซต์ให้ตรวจสอบ ซึ่งผู้รับบริการควรศึกษาหาข้อมูลเพื่อความมั่นใจ”

การ รักษาสิว ที่ Chanisa Clinic แตกต่างอย่างไร

“ปัจจุบันเรามีโปรแกรมรักษาสิวโดยเฉพาะ เป็น Acne Fast Track อันนี้ประกอบด้วย 6 ขั้นตอนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ทรีตเมนต์ไปจนถึงเลเซอร์ โดยมีทรีตเมนต์ช่วยลดความมันบนใบหน้า ลดการอักเสบของสิว จากนั้นจะมีการเลือกใช้เลเซอร์เฉพาะบุคคล ซึ่งต้องวินิจฉัยว่า เคสที่เข้ามาเป็นแบบไหน ถ้าเป็นสิวอักเสบ เราจะเลือกใช้เลเซอร์ตัวหนึ่ง ถ้าเป็นรอยสิว ก็จะเลือกใช้เลเซอร์อีกตัว ถ้าเป็นรอยดำก็จะเลือกใช้เลเซอร์ลดเม็ดสี และหลังจากสิวดีขึ้นก็อาจจะมีปัญหาเรื่องหลุมสิวตามมา ตรงนี้เราก็จะรักษาในอีกโปรแกรมหนึ่ง”

“และอย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่า การกินวิตามิน เอ เยอะๆ จะมีผลข้างเคียงค่อนข้างสูง ดังนั้นเราเลยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ซึ่งกำลังจะออกเร็วๆ นี้ค่ะ”

ทำความรู้จัก Chanisa Clinic คลินิกความงามในปริมณฑล

ขอปิดท้ายด้วยการทำความรู้จัก Chanisa Clinic (ชนิศาคลินิก) คลินิกความงามที่ขยายสาขาในปริมณฑลกันสักหน่อยค่ะ Chanisa Clinic มีจุดเด่นอะไร และเพราะอะไรถึงทำให้ที่นี่ได้รับความไว้วางใจในการดูแลรักษาสิว เรามาฟังจากคุณหมอกันเลย

“ตอนแรกแถวปริมณฑลยังไม่ค่อยมีคลินิกที่มีมาตรฐาน เทคโนโลยีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงตัวยาที่มีคุณภาพก็ยังไม่ค่อยมี ไม่เหมือนคลินิกที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เราก็เลยอยากให้แถบปริมณฑลมีคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือที่ได้คุณภาพ รวมถึงการบริการที่เป็นทีมเวิร์ค มีความเชี่ยวชาญ เลยเกิดเป็น Chanisa Clinic ขึ้นมาค่ะ ซึ่งปัจจุบัน Chanisa Clinic มีทั้งหมด 3 สาขา อยู่ในเขตปริมณฑลหมดเลย”

“จุดเด่นของเราคือ คลินิกของเราไม่มีเซลล์ ผู้รับบริการทุกคนต้องได้พบแพทย์ และแพทย์จะเป็นคนแนะนำการรักษาให้ เราจะไม่ให้ผู้รับบริการเดินเข้ามาแล้วเจอเซลล์มาจิ้มเลือกคอร์ส ที่คลินิกของเราคุณหมอจะแนะนำโปรแกรมการรักษาให้ เป็นทีมแพทย์ที่มีความชำนาญ วินิจฉัยแบบตรงไปตรงมา ให้คำแนะนำที่จริงใจ และวางแผนการรักษาในระยะยาวให้ผู้รับบริการแต่ละคน”

เชื่อว่าข้อมูลความรู้ที่ได้จากคุณหมอในวันนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับใครหลายคนที่กำลังเผชิญปัญหาสิวอยู่นะคะ ทั้งเรื่องการปรับพฤติกรรมและการใช้สกินแคร์ ไปจนถึงการดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญ หากใครที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Chanisa Clinic ทั้ง 3 สาขาเลยค่ะ

Chanisa Clinic ชนิศาคลินิก 3 สาขา

• สาขา สวนหลวง – พุทธสาคร
• สาขา พุทธมณฑล สาย 2 – บางแวก
• สาขา The Fourth – พุทธมณฑล สาย 4

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เพจ Facebook : Chanisa Clinic ชนิศาคลินิก