ปรากฏการณ์ It's Okay Not To Be Okay ปังไปหมดตั้งแต่เรื่องยันสิ่งของในฉาก!

ถ้าถามถึงซีรี่ย์เกาหลีที่ฮ็อตมากในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2020 ก็ต้องยกให้ It’s Okay Not To Be Okay ซีรี่ย์เกาหลีที่เนื้อเรื่องแปลกใหม่จากเรื่องอื่นๆ ที่จะเต็มไปด้วยความเข้มข้น และรับความนิยมมาก ความปังแผ่ไปยันสิ่งของในฉาก

6 ปรากฏการณ์ของ It’s Okay Not To Be Okay

ซีรี่ย์เกาหลีเรื่องIt’s Okay Not To Be Okay เลือกหยิบเรื่องราวเกี่ยวกับโรคทางจิตใจมานำเสนอ เรียกว่าเป็นซีรี่ย์เกาหลีน้อยเรื่องที่จะเอาเรื่องโรคทางจิตเวชมาเป็นธีมใหญ่ แล้วขยายเป็นเรื่องราวต่างๆ บอกเลยว่ามีพาร์ทโรแมนติก คอเมดี้ หลอน ดราม่า แบบครบรส ฟินอยู่ดีๆ หัวเราะอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้ขึ้นมาก็มี ความไม่ซ้ำใครของเรื่อง ทำให้ซีรี่ย์ได้รับความนิยมมาก

กระแสซีรี่ย์

แม้ It’s Okay Not To Be Okay จะครองเรตติ้งโดยเฉลี่ยประมาณ 5% ซึ่งถือว่าไม่เยอะมากเมื่อเทียบกับซีรี่ย์เกาหลีช่องเคเบิ้ลดังๆ เรื่องอื่นๆ แต่ซีรี่ย์กลับมีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้น ทั้งการติดอันดับเสิร์ชในเว็บไซต์ของเกาหลีบ่อยๆ หรือการติดอันดับเป็นที่กล่าวถึงทางโลกออนไลน์อันดับ 1 ทั้งซีรี่ย์และนักแสดงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ซึ่งสอดคล้องกับการที่สื่อเกาหลีเคยนำเสนอว่าช่วงหลังๆ คนเกาหลีดูทีวีน้อยลง ไหนจะกระแสในต่างประเทศที่ดีงามมียอดเข้าชมพุ่งสูงสุดในปี 2020 ในไทยก็ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทุกตอน บอกเลยว่าขึ้นลิสต์ซีรี่ย์เกาหลีดังในปี 2020 ไปเรียบร้อย

นักแสดงปังมาก

อย่างที่บอกไปว่านอกจากเรื่องจะดัง นักแสดงในเรื่องก็ปัง ทั้ง คิมซูฮยอน ซอเยจี และโอจองเซ ต่างได้รับคำชื่นชมในฝีมือการแสดงอันสุดยอดและกลายเป็นที่รักของแฟนๆ อย่างคิมซูฮยอน เรารู้ๆ กันอยู่แล้วว่าเขาดังมากกกก แต่ซอเยจีแจ้งเกิดแบบสุดๆ จากเรื่องนี้ เพราะซอเยจีปรากฏตัวด้วยลุคแฟชั่นจัดเต็ม ไหนจะน้ำเสียงทุ้มไม่เหมือนใคร ไปจนถึงการแสดงที่บอกเลยเอาอยู่ทุกอารมณ์ ทำให้ตอนนี้ซอเยจีกลายเป็นที่รักของผู้ชมไปเรียบร้อย หลงซอเยจีกันเป็นแถบ

ในเกาหลีโอจองเซค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่ในไทยอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อ (แต่คุ้นหน้านะ) ถึงกระนั้นบอกเลยเรื่องนี้ทำให้มีแฟนชาวไทยเลิฟและอวยโอจองเซกันเยอะมาก ตอนนี้กลายเป็นนักแสดงสมทบที่ถูกพูดถึงแบบสุดๆ เรียกว่างานฝีมือและทัศนคติที่ดีของโอจองเซทำให้เขาเอาชนะใจผู้ชมได้สำเร็จแบบไม่มีอะไรมากั้น

แฟชั่นของโกมุนยอง

ความปังในเรื่องแฟชั่นของโกมุนยอง เป็นอะไรที่ถูกจับตามองมาตั้งแต่ช่องปล่อยภาพออกมาเรียกน้ำย่อยแล้ว เพราะนานๆ ทีเราจะเห็นนางเอกแต่งเต็มสักที แล้วประเด็นแต่งออกมาปังมากด้วยไง แล้วแต่ละชุดที่โกมุนยองใส่ แพงๆ ทั้งนั้นแม่ แต่ละสัปดาห์เราเลยได้เห็นการตามหาไอเท็มแฟชั่นของขุ่นแม่โกมุนยองตลอด แม้แต่เอวซอเยจีก็ยังเป็นประเด็น #ยอม

นิทาน

ไม่ใช่แค่งานแฟชั่น ในเรื่องยังมีการหยิบนิทานมาเป็นตัวแทนในการเล่าเรื่องด้วย ทั้งในตอนแรกที่มีการเล่าเรื่องราวออกมาเป็นภาพนิทาน หรือการหยิบอาชีพของนางเอกที่เป็นนักเขียนวรรณกรรมเด็กมาผูกกับเรื่อง ทำให้มีการหยิบยกนิทานที่นางเอกแต่งมาแทน Message บางอย่าง ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ชม เพราะเป็นการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ ลึกซึ้ง และยังทำให้ฉุกคิดได้หลายอย่าง จนถึงขนาดที่มีการเอานิทานในเรื่องมาขายเลยจ้าทาง http://mg.gmarket.co.kr/Item?goodscode=1830580718 สามารถจัดส่งข้ามประเทศได้ด้วย แต่นิทานเป็นภาษาเกาหลีน้า โดยเรื่องเด็กชายผู้โตมากับฝันร้าย (The Teenaged Boy Who Grew Up Eating Nightmares) และเด็กน้อยซอมบี้ (The Zombie Child) จะวางขายเป็นเซ็ต ราคา 21,600 วอน หรือ 588 บาท ในขณะที่เรื่องเจ้าหมาในวันใบไม้ผลิ (A Spring Day’s Dog) ราคา 10,200 วอน หรือ 294 บาทค่าาาา (ยังไม่รวมค่าส่งมาไทย)

ตุ๊กตา

มีนิทานขายแล้ว ยังมีตุ๊กตามังแทขาย และไดโนเสาร์โกกิลดงที่ปรากฏตัวในเรื่องก็มีด้วยจ้า มีผู้ชมแห่กันไปจองเพียบจนขายหมดในพริบตา มีข่าวแว่วว่าจะนำออกมาจำหน่ายอีกครั้งในเกาหลีใต้ด้วย #ปังไม่ไหว งานอินอะเนอะ เผื่อมีมังแทแล้วจะไม่ฝันร้ายบ้าง หรือเจ้าตุ๊กตาไดโนเสาร์ก็น่ารักมาก

เรื่องราวในซีรี่ย์ที่นำไปปรับใช้กับชีวิตจริงได้

อีกหนึ่งเรื่องที่เป็นที่พูดถึงค่อนข้างเยอะ คือ Message และ บทละครที่มีความหมายอย่างลึกซึ้ง หลายคนที่ดูเรื่องนี้ต่างพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่ได้ฉุกคิดผ่านการชมซีรี่ย์ ได้กลับมามองย้อนดูตัวเอง และคนรอบข้าง ได้เข้าใจในเรื่องจิตใจหรือเรื่องทางจิตวิทยามากขึ้น แถมยังนำไปปรับใช้ในชีวิตได้อีกต่างหาก ทั้งวิธีการเข้าใจตัวเอง การเยียวยาตัวเองที่เรื่องพยายามจะบอก เช่น การแสดงความรู้สึกออกมา การใช้วิธีอ้อมกอดผีเสื้อ หายใจลึกๆ 3 ครั้ง การพยายามไปเที่ยวเพื่อปลดปล่อยตัวเอง หรือการกินอาหารให้อิ่มท้อง เป็นต้น เรียกว่าเป็นซีรี่ย์ที่นำเสนอเรื่องใกล้ตัวที่เราอาจจะลืมเลือนไปได้ดีจริงๆ