ช่วงปีที่ผ่านมากระแสเพลงอินดี้มาแรงมาก จนหลายเพลงทะยานขึ้นสู่อันดับท็อปของหลายชาร์ตเพลงดัง รวมไปถึงศิลปินอินดี้สาวอย่าง อิ้งค์ วรันธร เปานิล (INK WARUNToRN) จากค่าย Boxx Music ในเครือ Music Move Entertainment ที่ส่งบทเพลงใน ep album แรกของเธอขึ้นไปครองอันดับสูงๆ ได้หลายเพลง ไม่ว่าจะเป็น เหงา เหงา (Insomnia), ฉันต้องคิดถึงเธอแบบไหน (Cloudy), เกี่ยวกันไหม (You?) และล่าสุดกับเพลง ยังรู้สึก (Old Feelings)
หลายคนคงสงสัยว่าสาวหน้าหวานคนนี้เป็นใคร และเข้ามาสู่แวดวงเพลงได้อย่างไร หากย้อนไปเมื่อปี 2558 คอหนังอินดี้ที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่อง “Snap แค่…ได้คิดถึง” คงคุ้นหน้าคุ้นตาของอิ้งค์กันบ้าง เพราะเธอคือผึ้ง นางเอกของเรื่อง แต่ถ้าย้อนไปปีลึกกว่านั้น อิ้งค์คือหนึ่งในสมาชิกวง Chilli White Choc เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังในสังกัดกามิกาเซ่ ที่วัยรุ่นยุค 2000 หลายคนคงยังพอจำกันได้ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่างทำให้เธอต้องลาออกจากการเป็นสมาชิกวง
ทว่าอิ้งค์ยังคงก้าวตามความฝันด้วยการเรียนร้องเพลงและฝึกฝนมาตลอด ที่สำคัญเธอยังมุ่งมั่นด้านนี้จนเรียนจบปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับสอง สาขาสาขาดุริยางคศิลป์ตะวันตก เอกขับร้องคลาสสิค จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยพื้นฐานการทำงานและความสามารถระดับนี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่อิ้งค์จะก้าวมาเป็นเจ้าของเพลงดังในวันนี้
สุดฯ : เล่าถึง EP อัลบั้มแรกในชีวิตของ อิ้งค์ วรันธร ให้ฟังหน่อย
อิ้งค์ : Bliss เป็นอีพีอัลบั้มที่มีความเป็นอิ้งค์ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมามากๆ เหมือนรวบรวมความเป็นเราอยู่ในนั้นเลย เพลง 5 เพลง คือตัวอิงค์ในแต่ละพาร์ต คนที่เคยฟังจะสังเกตได้ว่าทุกเพลงไม่ใช่เพลงเศร้าที่เศร้าแบบร้องไห้ฟูมฟาย แต่เป็นเพลงเศร้าที่มีความหม่น เพราะส่วนตัวอิ้งค์เวลาเศร้าไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย สมมติว่าอกหักหรือผิดหวังในเรื่องอะไรก็แล้วแต่ จะเป็นคนที่มีสติ ถึงจะเฟล จะดาวน์ แต่จะไม่จมอยู่กับมัน
อีกอย่างอิ้งค์เป็นคนที่ชอบตั้งคำถาม จะมีคำถามกับทุกอย่างในทุกความรู้สึก อย่างเพรงแรก เหงา (Insomnia) ก็ตั้งคำถามกับบางคนว่าเหงาเหมือนกันบ้างไหม เพลง Snap ที่เล่าถึงคนที่เราชอบก็ถามว่าอยากหยุดเวลาไว้ได้ไหม ส่วนเพลงฉันต้องคิดถึงเธอแบบไหน (Cloudy) คำถามก็อยู่ในชื่อเพลงอยู่แล้ว อยากถามเขาว่าที่คุยกันทุกวันสรุปว่าเป็นยังไงเหรอ
และเพลง เกี่ยวกันไหม (You?) ก็ถามว่าที่เป็นแบบนี้มันเกี่ยวกันกับเธอหรือเปล่า สุดท้ายเพลง ยังรู้สึก (Old Feelings) คือการตั้งคำถามกับตัวเองว่ายังรู้สึกกับเธออยู่หรือเปล่า
สุดฯ : แล้วแต่ละเพลงของอิ้งค์ได้แรงบันดาลใจมาจากไหนบ้าง
อิ้งค์ : เพลง “เหงา เหงา” ทำในช่วงที่อิ้งค์เพิ่งเล่นหนังเรื่อง Snap เสร็จ แล้วยังคงติดอยู่กับความรู้สึกของตัวละครที่เราเล่นว่าตอนที่ตอนที่ห่างจากพระเอกเขาต้องรู้สึกแบบนี้แน่เลย เป็นความรู้สึกที่เวลาเห็นอันนั้นอันนี้ก็คิดถึงเรื่องเก่าๆ ก็เลยคุยกับพี่ๆ ว่าทำเพลงออกมาประมาณนี้ได้ไหม ส่วนเพลง “Snap” เป็นช่วงที่อิ้งค์รู้สึกว่าอยากทำเพลงที่มีจังหวะมากขึ้น อยากให้ตัวเองดูสดใส เลยเอาช่วงเวลาอินเลิฟตอนมัธยมมาเป็นแรงบันดาลใจ จึงออกมาเป็นเพลงที่มีความกรุ๊งกริ๊งโลกสีชมพูมาก
เพลง “ฉันต้องคิดถึงเธอแบบไหน” เกิดจากตอนนั้นเพื่อนรอบตัวมีปัญหาเรื่องแบบนี้หมดเลย เหมือนตอบตัวเองไม่ได้ว่าที่คุยกันอยู่นี่คืออะไร สาเหตุก็เพราะทุกคนอยู่กับโลกโซเชียลที่มาไวไปไว ก็เลยเกิดปัญหา อิ้งค์ก็เลยทำเป็นเพลงนี้ขึ้นมา แต่พอมาเป็นเพลง “เกี่ยวกันไหม” อิ้งค์รู้สึกว่ามีเพลงเศร้ามาเยอะแล้ว ไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าเราเป็นคนเศร้าหรือขี้เหงา เลยคิดว่าต้องมีเพลงจังหวะสดใสๆ มาเปลี่ยนมุมมองนิดหนึ่ง เลยเกิดเป็นเพลง เกี่ยวกันไหม ที่สดใสมาก แถมยังมีความเป็นโดโจซิตี้ที่อิ้งค์ชอบเบาๆ ด้วย
ส่วนเพลง “ยังรู้สึก” เป็นเพลงที่ทำให้อิ้งค์รู้สึกว่าได้ปลดล็อกความสามารถตัวเองมาก เพราะไม่เคยคิดว่าจะแต่งเพลงได้ พอเพลงนี้เราได้ช่วยกันแต่งกับพี่แทน ลิปตา ก็ค่อนข้างภูมิใจค่ะ
สุดฯ : หลายชาร์ตบอกว่าเพลงของอิ้งค์อยู่ในหมวดอินดี้ จริงๆ แล้วอิ้งค์รู้สึกยังไงกับคำว่า “อินดี้”
อิ้งค์ไม่รู้ว่าอะไรคืออินดี้นะ บางคนอาจจะมองว่าเพลงที่ไม่ได้อยู่ในค่ายก็เรียกว่าอินดี้ หรือบางคนอาจจะมองว่าเพลงที่ฟังยากคือเพลงอินดี้ แต่อิงค์กลับรู้สึกว่าเพลงอินดี้ส่วนใหญ่ฟังง่ายมาก แถมยังมีความเท่ด้วย
คือบางคนอาจจะปิดตัวเองจากคำว่าอินดี้อยู่ เพราะอิงค์เองก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ไม่ดูหนังอินดี้ ไม่ฟังเพลงอินดี้มาก่อนเลย เพรารู้สึกว่าจะฟังได้เหรอ จะดูรู้เรื่องไหม แต่พอได้เข้ามาสัมผัสกับตัวเอง ได้เล่นหนังอินดี้ ได้อยู่ในวงการเพลงอินดี้ ก็รู้สึกว่าเราเข้าใจผิดมาตลอด เพราะจริงๆ แล้วความอินดี้ไม่ได้เข้าถึงยาก และยังมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่เยอะเลย
สุดฯ : หลังออกอัลบั้มนี้มามีคนรู้จักอิงค์เยอะขึ้นไหม
อิงค์ : เยอะขึ้นค่ะ อย่างตอนที่เปิดขายอีพีอัลบั้มที่งาน Cat Expo อิ้งค์ประเมินกับพี่ที่ค่ายว่าทำแค่ 500 แผ่นก็ไม่น่าจะหมด แต่พี่เขาทำมาประมาณ 600 แผ่น ปรากฏว่าขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรก แล้วมีพรีออร์เดอร์มาด้วย ก็เลยรู้สึกว่ามีคนชอบเราเยอะขึ้น และดีใจทุกครั้งที่ได้รับพลังแบบนี้ เพราะทำให้รู้ว่าสิ่งที่เราทำมีคนเห็น จะได้ตั้งใจทำต่อไปค่ะ (ยิ้ม)
สุดฯ : สุดท้ายเป้าหมายของการทำงานเพลงของอิ้งค์คืออะไร
อิ้งค์ : เอาจริงๆ ตอนนี้อิ้งค์รู้สึกสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่มากๆ แล้ว แต่ถ้าถามว่าเป้าหมายสูงสุดในการเป็นนักร้องคืออะไร สำหรับอิ้งค์ไม่ใช่เงินทอง ชื่อเสียง แต่เป็นเป็นการทำเพลงแล้วยังมีคนฟังอยู่แล้วขยายวงกว้างขึ้น และสุดท้ายคืออยากให้เพลงของเราเปลี่ยนแปลงชีวิตของใครบางคนให้ดีขึ้นได้ ซึ่งนั่นน่าจะเป็นจุดสูงสุดในชีวิตของศิลปินทุกคน
หลายครั้งที่อิ้งค์ได้มีโอกาสร่วมกับพี่ๆ ทำงานการกุศลที่อาจจะไม่ได้เงินเลย แต่ได้ความรู้สึกดีๆ กลับมา อย่างปีที่แล้วก็ไปเปิดคอนเสิร์ต Hurt for Heart ที่เชียงใหม่ เป็นการร้องเพลงเศร้าในวันวาเลนไทน์ เพื่อรวบรวมเงินไปช่วยคนที่เป็นโรคหัวใจและตอนนี้ก็กำลังปั้นโครงการการกุศลกับพี่ครีเอทีฟอยู่ อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่เราทำด้วยใจ ซึ่งอิ้งค์จะรู้สึกดีใจทุกครั้งที่เสียงเพลงของเราสามารถช่วยคนอื่นได้ไม่มากก็น้อย
เรื่องราวดีๆ ที่สุดฯ อยากนำเสนอยังมีอีกเยอะ อย่าลืมกดติดตาม www.instagram.com/sudsapda และ www.facebook.com/sudsapdafanclub นะคะ จะได้ไม่พลาด