ถ้าให้นึกถึงนางเอกนักบู๊ประจำช่อง 7 สุดฯ เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากดาราสาวเจ้าบทบาทจาะละครเรื่องเล็บครุฑ… ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม ด้วยความที่เจอเธอคนนี้กี่ครั้งก็ยังสวย มีออร่า อยู่เสมอ ทั้งๆ ที่รับบทบู๊ ต้องเข้าป่า บุกน้ำ ลุยไฟ สารพัด สุดฯ เลยแอบไปขอเคล็ดลับความงาม และการดูแลตัวเองของสาวยุ้ย มาฝากสาวๆ กันจ้า
เคล็ดลับความสวยของสาว ยุ้ย จีรนันท์ นางเอกนักบู๊
-ขอเคล็ดลับการดูแลตัวเองของคุณยุ้ยว่า ทำอย่างไรให้ผิวพรรณดีตลอด ทั้งๆ ที่แสดงละครแอ็คชั่นบ่อย
“เวลายุ้ยแสดงละครบู๊ บางฉากต้องออกแดดตลอดเวลา ฉะนั้นต้องไม่ลืมที่จะดูแลตัวเองค่ะ กันแดดจะต้องลงทั้งหน้า จะเห็นว่าเวลาเล่นบทบู๊ รองพื้นจะค่อนข้างไม่อยู่ เพราะยุ้ยจะอัดกันแดดเยอะมาก ก็ต้องปล่อยค่ะ ไม่สวยช่างมัน เราต้องเซฟตัวเองก่อน ต้องยอมเหนอะ เพราะถ้าไม่ทานี่ ผิวจะไหม้กว่านี้มากค่ะ
“ช่วงหลังยุ้ยดูแลตัวเองมากขึ้น ทานอาหารมีประโยชน์ ทานวิตามิน และดื่มน้ำเยอะๆ ก็จะช่วยเรื่องผิวพรรณได้ จริงๆ ยุ้ยเป็นคนพักผ่อนน้อยมากนะคะ เพราะนาฬิกาชีวิตเปลี่ยนตั้งแต่ทำงาน บางทีก็นอนไม่หลับ เพราะนอนดึกจนชิน สำหรับบางคนพอนอนไม่หลับจะหยิบมือถือมาเล่น แต่ยุ้ยจะพยายามไม่จับโทรศัพท์ เพราะมันจะทำให้เราอยากดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย ยิ่งนอนไม่หลับเข้าไปใหญ่ เพราะฉะนั้นจะเก็บมือถือเลย แล้วก็ตั้งใจนอน เดี๋ยวมันก็หลับเอง”
-ตั้งแต่เข้าวงการจนตอนนี้ ไม่เคยเห็นคุณยุ้ยมีช่วงอ้วนเลย หุ่นผอมเพรียวตลอด ขอเคล็ดลับการดูแลรูปร่างบ้างได้ไหมคะ
“ยุ้ยเคยอ้วนนะคะ ตอนเล่นละครเรื่อง “ผักบุ้งกับกุ้งนาง” และ “พระจันทร์ลายพยัคฆ์” หนักสุด 56 กิโลกรัม ช่วงนั้นที่อ้วนเพราะว่าทำงานหนักมาก แล้วชะล่าใจว่ายังอายุน้อย คงไม่อ้วน อยากกินอะไรก็กิน ไม่ได้ดูแลตัวเอง ปรากฏว่าอ้วนมากเลย จนผู้ใหญ่บอกถ้าไม่ลดน้ำหนักก็ไม่ต้องเป็นนางเอกแล้ว ตอนนั้นเครียดมาก
“พยายามปรับพฤติกรรมการกิน เช่น จากที่เคยซื้อขนมห่อใหญ่ก็เปลี่ยนมาซื้อห่อเล็กๆ เพราะยังเลิกไม่ได้ก็ขอกินห่อเล็กๆ แทน จากที่เคยสั่งกาแฟคาปูชิโน่ก็เปลี่ยนมาเป็นกาแฟดำ ค่อยๆ ลด ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลี่ยน แล้วก็ออกกำลังกายมากขึ้น เช่น วิ่ง คาร์ดิโอ ทำให้น้ำหนักลดลงมาเยอะ ประมาณ 7-8 กิโลกรัม
“ตอนนี้น้ำหนักยุ้ยอยู่ 48 กิโลกรัม และค่อนข้างคงที่ เพราะไม่ชะล่าใจเหมือนเมื่อก่อน วันไหนที่รู้สึกว่ากินเยอะ ก็ออกกำลังกายเยอะหน่อย แล้วพรุ่งนี้ก็กินน้อยหน่อย ส่วนเรื่องการกินในชีวิตประจำวัน ยุ้ยจะไม่ได้มีตารางการกินที่เคร่งครัดมาก แค่งดแป้งในมื้อเย็น กินแต่ผลไม้หรืออย่างอื่นที่ไม่ใช่แป้ง ส่วนมื้อเช้าและกลางวันกินอาหารครบหมู่ตามปกติ เพราะต้องทำงาน ใช้พลังงานเยอะ
“เวลาเข้าฟิตเนสยุ้ยจะคาร์ดิโอประมาณครึ่งชั่วโมง เล่นเลทเทรนนิ่งกระชับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เช่น ต้นแขน ต้นขา สะโพก ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง ที่ไม่เน้นคาร์ดิโอมากเพราะผอมอยู่แล้ว อยากจะเน้นเรื่องความกระชับมากกว่า ธันย์ก็จะคอยเป็นเทรนเนอร์ให้ คอยแนะนำว่าควรเล่นอย่างไร บางวันก็เปิดยูทูปเล่นเองอยู่บ้านบ้าง ว่ายน้ำบ้าง คือออกกำลังกายเบสิค แต่เน้นสม่ำเสมอค่ะ”
-คุณยุ้ยทำงานหนักตลอด มีวิธีดูแลสุขภาพกายและใจอย่างไรให้พร้อมลุยอยู่เสมอ
“ยุ้ยเป็นคนใช้ธรรมะในการดำเนินชีวิตค่ะ ถ้าไม่เหนื่อยเกินไปก็จะสวดมนต์แทบทุกคืน ถ้าช่วงไหนเหนื่อย ไม่ไหวจริงๆ ก็จะเป็นบทสั้นหน่อย ถ้ามีโอกาสก็จะนั่งสมาธิ
“เวลายุ้ยรับละครที่เครียดมากๆ ยุ้ยจะนั่งสมาธิตลอด เพื่อผ่อนคลายตัวเอง เพราะเวลาเราร้องไห้ทั้งวัน สุขภาพจิตเราจะแย่ เพราะทุกครั้งที่เรามีน้ำตาก็เหมือนกับหัวใจมันทุกข์ไปด้วย การนั่งสมาธิ อยู่กับตัวเอง จะช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลายขึ้น สามารถแยกแยะและดึงสติกลับมาว่านั่นคือการแสดง
“จริงๆ การทำสมาธิไม่ยากเลยนะคะ แค่หาที่เงียบๆ นั่งหลับตาแล้วก็คิดว่าวันนี้เราทำอะไร สิ่งไหนที่ดี สิ่งไหนที่ไม่ดี สิ่งไหนที่เราอยากแก้ไข อะไรที่เราอยากปรับปรุงหรือพัฒนา การทบทวนตัวเองจะช่วยให่เราไม่ฟุ้งซ่านไปกับคนอื่น แล้วค่อยๆ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกลึกๆ การอยู่กับตัวเองแค่ 5-10 นาที จะช่วยให้รู้สึกใจเบาขึ้น ไม่เครียด”
-ทราบมาว่าคุณยุ้ยเก็บเงินค่อนข้างเก่ง อยากได้คำแนะนำสำหรับสาวๆ ที่อยากจะเริ่มเก็บออมบ้างได้ไหมคะ
“ยุ้ยเป็นคนวางแผนการใช้เงินมาตั้งแต่ยุ้ยเริ่มมีรายได้ เพราะยุ้ยเป็นเสาหลักของครอบครัว พอได้เงินจากละครเรื่องหนึ่งมา ก็จะแบ่งว่าจะต้องเก็บไว้ใช้ต่อเดือนเท่าไหร่ เพื่อจะมีใช้จ่ายไปจนถึงเวลาที่ได้เงินจากละครเรื่องต่อไป และวางแผนว่าเราจะต้องผ่อนบ้าน-ผ่อนรถเดือนละเท่าไหร่ แบ่งอีกส่วนส่งตากับยาย ส่งแม่ ส่งหลานที่ต้องเรียน แล้วแบ่งส่วนที่จะเก็บไว้ใช้ในอนาคตหรือในยามที่เราเจ็บป่วย คือต้องแบ่งเงินเป็นส่วนๆ ค่ะ
“ในเรื่องของการเก็บออม ยุ้ยจะเน้นในเรื่องของการซื้อกองทุน ซื้อสลาก หรือฝากประจำ ข้อดีคือเป็นการบังคับตัวเองไปในตัว เพราะไม่อย่างนั้นเราจะเก็บไม่ได้
“สำหรับผู้หญิงต้องมีกิเลสอยู่แล้ว เวลาเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าลดราคาก็อยากได้ แต่ก็จะพยายามมีสติ ทบทวนว่าถ้าซื้อมาแล้วใช้ไม่คุ้มค่าก็เก็บไว้ก่อนดีกว่า เก็บเงินไว้ส่งบ้านก่อนดีกว่าไหม เหมือนพยายามอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ทำให้ตอนนี้มีครบหมดแล้ว ในอนาคตก็จะสบายแล้ว เพราะไม่มีภาระใหญ่ๆ แล้ว ได้เงินมาเท่าไหร่ก็จะเก็บอย่างเดียว เพราะมีความรู้สึกว่าถ้าอายุเยอะกว่านี้อยากทำงานน้อยกว่านี้ มีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น และอยากไปเที่ยวบ้าง แต่ว่างานก็คงไม่ทิ้ง เพราะยุ้ยเป็นคนที่อยู่เฉยไม่ได้ กองถ่ายหยุด 3 วัน ยุ้ยก็เบื่อแล้ว อยากมาทำงาน อยากตื่นขึ้นมาแล้วคิดว่าวันนี้จะไปไหน วันนี้จะทำอะไร ชอบทำอะไรที่มีจุดหมายค่ะ”
-อยากให้ฝากผลงาน “เล็บครุฑ” กับแฟนๆ ค่ะ
“เรื่องนี้หลักๆ ก็ยังคงความเป็นนางเอกนักบู๊ แต่จะมีเรื่องความโรแมนติก และเรื่องราวดราม่าผสมเข้ามาด้วย ยุ้ยห่างจากบทบู๊ไป 4 ปี ก็เหมือนกลับมารื้อฟื้นใหม่ กลับมาทำให้ดูเก่งเหมือนเดิมด้วยอายุที่มากขึ้น (หัวเราะ) ในกองถ่ายเรื่องนี้จะต้องมีการทำเวิร์คช็อปและมีพี่สตั๊นท์คอยดูแล ยุ้ยให้ความสำคัญกับการเวิร์คช็อปและการซ้อมมาก เพราะอยากให้ภาพออกมาสวยสมจริง ต้องขอบคุณกองถ่ายและพี่ๆ สตั๊น รวมถึงพี่เลี้ยงที่คอยดูแลเรื่องความปลอดภัยและคอยช่วยเหลือตลอด
“สำหรับฉากที่ประทับใจในเรื่องนี้จะเป็นฉากเปิดตัวค่ะ เพราะเป็นฉากที่มีทั้งความหวาดเสียว ซึ่งใช้เวลาถ่ายกันยาวนาน และมีฉากกุ๊กกิ๊กด้วย ซึ่งยุ้ยกับซีเป็นคนออกแบบกันเองว่าเราอยากให้มี ไม่อย่างนั้นมันจะหนักไป ดุเดือดไป เราพระเอกนางเอกไม่ใช่โจรที่จะมาฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง กลายเป็นฉากที่ได้โชว์บทบู๊แต่แฝงความฟินความน่ารัก
“อยากฝากแฟนๆ ติดตามละครเล็บครุฑด้วยค่ะ นอกจากจะได้ความสนุกสนาน ความบันเทิง ความสะใจแล้ว ก็ยังได้แง่คิดในเรื่องของความรัก ความเสียสละ ความดี ความชั่ว ซึ่งจะได้รับรู้ถึงจุดจบและบทสรุปของมันอย่างแน่นอนค่ะ”
เรียบเรียง mewyyahh
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่
แอ๊คชั่นอินเตอร์สมจริง! เล็บครุฑ ละครใหม่จากช่อง 7
เรื่องย่อ เล็บครุฑ ซี ศิวัฒน์ – ยุ้ย จีรนันท์ นำทีมบู๊สุดเดือด
นางเอกนักบู๊ ทั้งลีลาสวย ทั้งทะมัดทะแมง ใครโดนใจคนดูสุดๆ
ละคร ช่อง 7 ปี 2561 จ่อคิวออนแอร์ ปีนี้ได้ดูแน่
ส่อง นางเอกช่อง 7 รุ่นใหม่ ใครปังบ้างนะ