แจ็คสัน หวัง ผู้ชายเพอร์เฟ็กต์ กับความสามารถที่ถ่ายทอดจาก DNA ชายหนุ่มที่เติบโตมาอย่างคุณภาพ ภายใต้การอบรมที่ดีงามจากคุณพ่อริกกี้ และคุณแม่โซเฟีย ไม่แปลกที่เลยที่เขาเป็นสุภาพบุรุษ มารยาทดี และมีทัศนคติในการใช้ชีวิตที่ดีมากๆ
ครอบครัวนักกีฬา
แจ็คสัน หวัง หรือ หวังเจียเอ๋อร์ เติบโตมาในครอบครัวนักกีฬา คุณพ่อริกกี้เป็นนักกีฬาฟันดาบทีมชาติจีน เจ้าของเหรียญทองฟันดาบเอเชี่ยนเกมส์คนแรกของจีน และเป็นโค้ชกีฬาฟันดาบทีมชาติฮ่องกง คุณแม่โซเฟียเป็นนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติจีน คุณตาโจวหย่งชาง คือศาสตราจารย์แพทย์คนสำคัญของจีน เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอัลตร้าซาวด์คนแรกของจีน และเป็นผู้เขียนตำราทางการแพทย์ที่ใช้เรียนกันในปัจจุบัน
คุณพ่อคุณแม่ของแจ็คสันทุ่มเททำงานและดูแลลูกๆ อย่างดี เพื่อส่งให้แจ็คสันและพี่ชายเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ เพื่อปูพื้นฐานให้ลูกมีอนาคตที่ดี แจ็คสันเข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติอเมริกัน (American International School) ซึ่งเขาพูดได้ถึง 6 ภาษา คือภาษาจีนกวางตุ้ง ภาษาจีนกลาง ภาษาเกาหลี ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาญี่ปุ่น และความที่เป็นครอบครัวนักกีฬา แจ็คสัน หวัง จึงก้าวเข้าสู่การเป็นนักกีฬาฟันดาบตามคุณพ่อ และเข้าแข่งระดับเยาวชนทีมชาติ คว้าเหรียญรางวัลมามากมาย
จากมือที่ถือดาบเปลี่ยนมาจับไมค์
เส้นทางนักกีฬาของแจ็คสัน หวัง เรียกว่ากำลังไปได้ดี เนื่องจากเขาได้รับค่าตอบแทนมากมายจากอาชีพนี้ และยังได้ทุนในการเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วย แต่เขายังมีอีกความฝันหนึ่งที่อยากทำให้สำเร็จ นั่นคือเขารักดนตรีและเสียงเพลงมากๆ และฝันว่าอยากจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง แจ็คสันตัดสินใจไปออดิชั่นกับค่าย JYP Entertainment โดยที่ไม่บอกคุณพ่อคุณแม่ จนเมื่อออดิชั่นผ่าน จึงตัดสินใจบอกว่าตัวเองต้องการที่จะไปเป็นเด็กฝึกหัดที่เกาหลี แน่นอนว่าเขาถูกปฏิเสธ คุณพ่อจึงยื่นข้อเสนอที่ท้าทายให้แจ็คสันหนึ่งข้อ คือเขาต้องแข่งฟันดาบประเภทเยาวชนทีมชาติให้ได้เหรียญทอง จึงจะให้ไป
แจ็คสันเกือบจะพลาดโอกาสนั้น เพราะก่อนวันแข่งเขาได้รับบาดเจ็บ แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ยอมแพ้ จึงสู้ยิบตา ในที่สุดก็ชนะคู่แข่งแบบเส้นยาแดงผ่าแปด หลังจากได้เหรียญทอง แจ็คสันถามถึงสัญญานั้นกับคุณพ่อทันที สีหน้าผิดหวังของคุณพ่อ ทำให้เขาเกือบล้มเลิกความตั้งใจ แต่ในที่สุด คุณพ่อและคุณแม่ก็อนุญาตให้เขาเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ เพื่อเป็นศิลปินฝึกหัด
ในวัยเพียง 17 ปี แจ็คสันต้องจากครอบครัวไปเป็นศิลปินฝึกหัดที่เกาหลี เดินทางออกจากบ้านโดยไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร มีเพียงกระเป๋าเดินทาง 3 ใบ ที่อัดแน่นไปด้วยความฝัน แม้คุณพ่อคุณแม่จะไม่เห็นด้วยสักเท่าไรที่แจ็คสันจะเปลี่ยนเส้นทางจากนักกีฬาที่กำลังไปได้ดี แต่ก็ช่วยจัดกระเป๋าเดินทางให้ลูกเพื่อไปทำตามความฝัน และจากนั้นบทบาทใหม่ในชีวิตก็เริ่มต้นขึ้น
ในระหว่างที่อยู่เกาหลี ไม่ว่าจะทุกข์ใจ ไม่สบายใจ หรือรู้สึกว่าตัวเองยังดีไม่พอ แจ็คสันไม่เคยปริปากบอกคุณพ่อคุณแม่ “ผมสบายดี ผมไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไร” คือประโยคที่แจ็คสันมักจะบอก เพราะเป็นวิธีเดียวในตอนนั้นที่เขาจะทำได้ในฐานะลูกของพ่อแม่ นั่นคือการทำให้ท่านทั้งสองสบายใจที่สุด
แจ็คสันจะคอยบอกกับตัวเองว่าเสมอว่า “ค่อยๆ ก้าวเดินทีละก้าว ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ พออะไรๆ ชินแล้วเราก็จะไม่เศร้า จนถึงวันที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน จะไปที่ไหน ผมจะไม่มีวันลืมจุดเริ่มต้น ไม่ลืมว่ามาจากที่ไหน ทุกวันนี้ผมยังเป็นผม ยังเป็นคนเดิมที่มีความฝัน เพียงแต่มือที่เคยถือดาบมันได้เปลี่ยนเป็นไมโครโฟนไปแล้ว”
แจ็คสัน หวัง ผู้ชายเพอร์เฟ็กต์ ลูกชายของพ่อแม่
แจ็คสัน รักคุณพ่อคุณแม่มาก หลังจากหมดสัญญากับต้นสังกัดเดิมเขาก็ตัดสินใจย้ายกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับคุณพ่อคุณแม่เพื่อที่จะทำหน้าที่ลูกอย่างเต็มที่ โดยแจ็คสันเคยให้สัมภาษณ์ถึงครอบครัวว่า เขาตัดสินใจกลับใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่ที่ปักกิ่งแล้ว โดยพ่อแม่อยู่ชั้นบนของคอนโด ส่วนเขาอยู่ชั้นล่างลงมา กว่า 10 ปีแล้วที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่ ในช่วงเวลาเหล่านั้นทำให้ได้คิดอะไรมากมาย แล้วก็ค้นพบว่า ไม่ว่ายังไง ชีวิตเราคงไม่สามารถได้อะไรไปหมดทุกสิ่ง
ความฝันที่วางไว้ก็สำเร็จไปหลายอย่าง ก็รู้สึกขอบคุณมากๆแล้ว พ่อแม่นับวันยิ่งอายุมากขึ้น ตอนนี้ควรเป็นเวลาที่เขาจะเป็นคนที่ดูแลปกป้องพ่อแม่แล้ว พ่อแม่เลี้ยงดูมาถึงตอนนี้ ก็เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องเป็นฝ่ายดูแลพ่อแม่บ้าง
เรื่อง: AuAi Photo: Sophiawang328
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
แจ็คสันให้สัมภาษณ์สื่อ เปิดเผยถึงช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้กับความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
แจ็คสัน หวัง จากนักกีฬาทีมชาติ สู่เส้นทางศิลปิน-ผู้บริหารที่นำพา TEAM WANG ไปไกลระดับโลก