สัมภาษณ์ F4 THAILAND เปิดใจ 4 หนุ่มผู้สร้างตำนานบทใหม่ ไบร์ท วิน ดิว นานิ

สัมภาษณ์ F4 THAILAND พูดคุยถึงซีรีส์ที่หลายๆ คนรอคอย กับไบร์ท วิน ดิว นานิ สี่หนุ่มผู้จะมาสร้างตำนานบทใหม่ให้กับซีรีส์ F4 เวอร์ชั่นไทย การันตีทั้งฝีมือและความหล่อ ขอบอกเลยว่าน่า CF ที่สุดดด

สัมภาษณ์ F4 THAILAND เปิดใจ 4 หนุ่มผู้สร้างตำนานบทใหม่ ไบร์ท วิน ดิว นานิ

เมื่อเอ่ยชื่อ F4 ไม่รู้ว่าภาพที่ปรากฏในหัวหรือการอธิบายความที่มีต่อตัวละครหนุ่มหล่อทั้ง 4 คนของคุณเป็นแบบไหน แต่เชื่อว่า F4 เวอร์ชั่นไทยที่กำลังจะออกอากาศในเวลาอันใกล้นี้น่าจะมีแง่มุมความต่างให้ได้เห็น อย่างน้อยก็ในแง่ของการตีความตัวละครว่า เหตุผลกลใดจึงมีการแสดงออกที่น่าหยิกด้วยความหมั่นไส้ ไปจนถึงน่าส่งนิ้วรูปหัวใจเพราะน่ารักได้ขนาดนั้น

แน่นอนว่าคนที่จะอธิบายให้เราได้รู้จักตัวตนของรุ่นพี่ ม.6 ทั้งสี่ที่รู้จักกันดีในชื่อ F4 “กลุ่มนักเรียนไฮโซสุดหล่อลูกชายเจ้าของธุรกิจมูลค่าหลายหมื่นล้านที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโรงเรียน คอยกลั่นแกล้งทุกคนที่ขวางหูขวางตา ผู้คิดเกมบ้าๆ ด้วยการติดใบแดงคนที่เห็นต่างจากพวกเขา” ได้ดีที่สุดน่าจะเป็นนักแสดงผู้รับบทดังกล่าวอย่าง ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ดิว-จิรวรรตน์ สุทธิวณิชศักดิ์ และนานิ-หิรัญกฤษฎิ์ ช่างคำ

พฤติกรรมในเรื่องอาจทำให้เกิดความเคืองใจ แต่นอกจอความน่ารักสดใสของพวกเขาทั้ง 4 นั้นการันตีว่าควรค่าแก่การ CF ที่สุด ประมาณว่าถ้าเป็นสินค้าก็ Confirm ตกลงรับสินค้า ขอเลขบัญชีหน่อยค่า…. พร้อมโอนทันที !!!

อยากให้เล่าถึงบทที่แต่ละคนได้รับ และคาแร็กเตอร์ตัวละครให้ฟังหน่อยครับ

วิน        ผมรับบท กวิน ครับ คาแร็กเตอร์ออกแนวเป็นคุณชายหน่อยๆ เป็นเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์ และคาซาโนวา คอยหว่านเสน่ห์คนนั้นคนนี้ไปทั่ว (เพิ่มเติมข้อมูล กวิน สืบเชื้อสายจากตระกูลดัง วางตัวดีมาก บุคลิกดี เป็นสุภาพบุรุษ เทคแคร์สาวๆ เป็นอย่างดี แม้จะเจ้าชู้มากแต่ก็ทำให้ทุกคนมีความสุขกับความสัมพันธ์อันสั้นได้เสมอ เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ มีอดีตที่ไม่ดีเกี่ยวกับความรัก จึงไม่เชื่อในความรัก และไม่สามารถก้าวผ่านปมในใจของตัวเองได้) ตามนั้นเลยครับ

นานิ      ผมรับบท เอ็มเจ เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูง แคร์คำว่าแก๊ง F4 มากที่สุด และเป็นคนที่รักเพื่อนมากที่สุดในกลุ่มก็ว่าได้ (เพิ่มเติมข้อมูล เอ็มเจ เป็นลูกชายเจ้าพ่อธุรกิจสีเทา เฮฮาร่าเริง เลือดร้อน เป็นสีสันของกลุ่ม เจ้าชู้ตัวพ่อ จีบสาวเชิงรุกกว่าทุกคนในกลุ่ม รักเพื่อน สำหรับเขามิตรภาพสำคัญที่สุด พร้อมช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างเพื่อนทุกสถานการณ์) แต่ตัวจริงผมเลือดไม่ค่อยร้อนนะครับ (หัวเราะ)

ไบร์ท     ไปเถียงคนเขียนบทอีก (หัวเราะ) แต่ก็จริงนะ เท่าที่เราถ่ายทำมาก็รู้สึกว่าเอ็มเจไม่ได้เลือดร้อนมาก (ตอนที่สุดสัปดาห์สัมภาษณ์ ซีรีส์ถ่ายทำไปได้แล้วประมาณครึ่งเรื่อง)

นานิ       ผมว่าเอ็มเจเป็นเหมือนพี่ที่โตสุดในกลุ่ม คอยดูสถานการณ์ของกลุ่มว่าเป็นอย่างไร คอยช่วยเหลือเพื่อนๆ และเป็นคนเฮฮาร่าเริง

ตามคาแร็กเตอร์ เอ็มเจ ที่วางไว้ระบุว่า “เจ้าชู้ตัวพ่อ”

นานิ     ไม่ค่อยนะครับ (หัวเราะ) เอาเป็นว่ามีความเจ้าชู้ แต่ไม่เท่ากวิน ตัวกวินจะมีความแพรวพราวกว่า

รู้สึกสะดุดกับคำว่า “จีบสาวเชิงรุก”

นานิ    คงเป็นเพราะว่าเขาเป็นคนแนวเปิดเผย ไม่อ้อมค้อมครับ

อะ ไบร์ทบ้าง

ไบร์ท      ผมรับบท ธาม ครับ เป็นคนที่รักเพื่อน หลงตัวเอง เอาตัวเองเป็นใหญ่ เป็นศูนย์กลางของโลก (เพิ่มเติมข้อมูล ธาม เป็นคนอารมณ์ร้อน กุมอำนาจเหนือทุกสิ่งในโรงเรียน สาเหตุเกิดจากขาดความรักจากพ่อแม่ จึงแสดงออกด้านอ่อนโยนไม่เก่ง แต่จริงๆ แล้วอ่อนไหว และรักเพื่อน) เขาเป็นคนที่แสดงออกไม่เป็น อ่อนไหวเรื่องความรักมากที่สุดในบรรดาทั้งหมด

ดิว        ส่วนผมรับบท เร็น ครับ เป็นคนเงียบๆ ช่างสังเกต พูดน้อย แต่เวลาได้พูดก็พูดตรง เป็นคนคิดก่อนพูด พูดออกไปคำเดียว แต่มีหลายความหมายในคำนั้น ชอบวาดรูป ไม่ค่อยเอาตัวเองไปอยู่กับปัญหา เพราะไม่อยากทำให้ใครเดือดร้อน (เพิ่มเติมข้อมูล เร็น  เป็นคนเงียบๆ ไม่เจ้าชู้ ไม่เลือดร้อน ต่างจาก F4 คนอื่นโดยสิ้นเชิง คาดเดาการกระทำและความคิดได้ยาก ค่อนข้างสุดโต่ง และทำอะไรตามใจตัวเองเสมอ แต่ทำเมื่อไม่ส่งผลเสียต่อผู้อื่นหรือคนที่เขารัก ชอบสังเกตพฤติกรรมคนรอบตัว และคาดเดาได้อย่างแม่นยำ ทำอะไรอ้อมๆ แทนการเข้าไปพูดตรงๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ เพราะสามารถเดาการตัดสินใจของคนรอบตัวได้)

ตามบทในขณะที่เพื่อนคนอื่นดูเจ้าชู้ แต่เร็นไม่เป็นแบบนั้น

ดิว           ไม่ครับ

ไบร์ท       ไม่มีใครรู้มากกว่า เก็บเงียบ (หัวเราะ)

ดิว          (หัวเราะ) แต่ถ้าเขาชอบผู้หญิงคนไหน อยากทำอะไรให้ก็จะทำเลย ไม่ปรึกษาใคร ไม่บอกใคร เป็นคนช่างสังเกต เขาพยายามมองว่า ก่อนหน้านี้คนนี้ไปเจออะไรมา แล้วหลังจากนี้เหตุการณ์น่าจะเป็นอย่างไร ก่อนที่เร็นจะทำอะไรเขาจะคิดก่อนว่าสิ่งที่ตามมาจะเป็นแบบไหน ถ้าไม่ดีก็จะไม่เข้าไปยุ่ง

เคยได้คุยกับทางผู้กำกับไหมว่าทำไมถึงเลือกให้แต่ละคนรับบทบาทนั้นๆ อย่างวิน บทกวินคือเป็นคนเจ้าชู้มาก ขณะที่วินก็ไม่ได้ดูเป็นคนเจ้าชู้…

ไบร์ท      (หัวเราะนำ แล้วแซวพี่อี๊ด ฝ่ายดูแลศิลปิน ที่กำลังกลั้นขำ)

วิน          นั่นสิ ทำไมพี่โอถึงให้ผมรับบทนี้นะ หรือเขามองขาด (หัวเราะ) ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วผมได้แคสต์หลายตัวนะครับ ทั้งบทธามและเร็น แต่พี่โอคงมองเห็นว่าผมมีคาแร็กเตอร์ที่เทียบเคียงแล้วดูใกล้เคียงตัวละครที่สุด ตอนแรกผมอยากเล่นเป็นเร็น เพราะรู้สึกว่าต่างจากตัวผมมาก คิดว่าถ้าได้เล่นคงท้าทายมาก แต่พอได้บทกวินก็ชอบครับ

นานิ        คิดว่าด้วยคาแร็กเตอร์ที่ทำให้ผมได้รับบทเอ็มเจ ผมอาจจะดูดุๆ ห้าวๆ เลยดูเหมาะที่จะมีพ่อทำธุรกิจสีเทาและมีลูกน้องเป็นร้อยคน ตอนไปแคสต์ผมมัดผมไปด้วยเลยดูเป็นมาเฟียหน่อยๆ จริงๆ เขาก็ให้ผมแคสต์หลายบทและถามว่าชอบบทไหน ผมตอบว่าชอบบทเอ็มเจเพราะรู้สึกว่าท้าทาย ดูฉูดฉาด มีความเท่ และมีความมั่นใจ ซึ่งห่างจากตัวผม

ไบร์ท      ผมจำไม่ได้ว่าพี่โอให้ผมรับบทธามเพราะอะไร เพราะเวลาผ่านมานานแล้วเหมือนกัน เราเริ่มแคสต์กันตอนเดือนกุมภาพันธุ์ปี 2563 โน่นเลย สำหรับผมมองว่าธาม ไม่ใช่คนที่มีความเป็นผู้นำสูงสุด เขาแค่เด็กสุดเพื่อนเลยตามใจ ตอนเด็กๆ เคยเล่นพาวเวอร์เรนเจอร์กับเพื่อนไหมครับ มันจะมีคนหนึ่งที่อยากเป็นสีแดง ทั้งที่จริงๆ แล้วสีแดงไม่ใช่หัวหน้ากลุ่ม

สีแดงคือคนที่เอาแต่ใจตัวเองที่สุดในกลุ่ม ซึ่งธาม เป็นแบบนั้น ไม่ใช่คนที่น่านับถือที่สุด โตที่สุด หรือเก่งที่สุดหรอกผมว่า…เอ๊ะ หรือว่าพี่โอให้ผมรับบทธามเพราะดูเป็นคนที่เอาแต่ใจที่สุดนะ (หัวเราะ) จริงๆ น่าจะเป็นที่บุคลิกภายนอก เหมือนพี่โอจะเคยบอกว่าบุคลิกภายนอกของผมไม่ต้องปรับ ดูเป็นคนโผงผาง หัวร้อน เข้ากับบท

ดิว          ตอนที่ผมไปแคสต์พี่โอให้บทเร็นบทเดียว แต่แคสต์หลายรอบ เขาบอกว่าน่าจะเล่นบทอื่นไม่ได้ (หัวเราะ) เหมือนว่าตอนเล่นให้ดูผมเล่นไม่ค่อยได้ วิธีการแคสต์ของพี่โอคือชวนคุย ถามเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วให้เราพูดต่อ พอคุยไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าผมมีความคล้ายเร็น แต่เป็นเร็นที่ยังไม่โต มีส่วนที่ดูใกล้เคียงและปรับให้เป็นเร็นได้ และบอกว่าผมมีความแปลก เช่น ตลกแบบแปลกๆ คือขำในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ขำ โมโหในเรื่องที่ไม่ควรโมโห หรือมีจุดเดือดที่คนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ

ก่อนหน้านี้เคยดู F4 กันมาก่อนไหมครับ

ไบร์ท          เคยดูครับ ดูตอนเป็นเด็ก จำได้ว่าเป็น F4 เวอร์ชั่นไต้หวันที่บูมมากๆ ผมยังจำเพลงได้ พอรู้ว่าเราจะได้รับโอกาสมาแสดงเรื่องนี้ก็ดีใจ มันเป็นซีรีส์ที่โด่งดังมากๆ ทุกประเทศที่เคยทำก็ประสบความสำเร็จ

ดิว           ผมเคยดู เคยได้ยินชื่อ แต่ถามว่าเรื่องราวในซีรีส์เป็นอย่างไร จำไม่ได้แล้ว พอรู้ว่าได้เล่นก็กลับไปย้อนดู ไปดูว่าเราเล่นเป็นคนไหนนะ ผมได้ดูเวอร์ชั่นล่าสุด น่าจะเป็นของจีนครับ

นานิ         ผมก็เคยดู แต่นานมากแล้ว คุณแม่ชอบดู หน้าห้องน้ำผมมีรูปจากตู้สติกเกอร์ F4 ติดอยู่ แล้วติดอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ผมยังเด็ก แล้วรูปที่ติดอยู่ดันเป็นรูปของแวนเนส (อู๋ เจี้ยนหาว หนึ่งในนักแสดง F4 เวอร์ชั่นไต้หวัน) ผมก็ดูว่าเขาเท่ดี จนวันหนึ่งได้มาแคสต์และได้รับการเลือกให้แสดงเรื่องนี้ ก็ไม่คิดว่าเราจะได้รับบทเดียวกัน ตอนแม่รู้ว่าผมได้เล่นแม่กรี๊ด ดีใจ ถามว่าได้เป็นตัวไหน พอบอกว่าเป็นตัวที่แวนเนสเคยแสดงแม่บอกว่าทำไมไม่เป็นบทเร็น เพราะแม่ชอบเร็น (หัวเราะ)

วิน          ผมเคยได้ยินชื่อ แต่เข้าใจว่า F4 เป็นชื่อวงดนตรี จนรู้ว่าทางค่ายเราจะเอามาทำถึงรู้ว่าเป็นซีรีส์ แล้วก็กลับไปย้อนดู

ตอนมีข่าวว่าจะสร้าง F4 เวอร์ชั่นไทยมีกระแสทั้งด้านบวกและด้านลบ ประเด็นลบพูดถึงเนื้อหาของเรื่องที่มีการบูลลี่ พวกเราเองมีความคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้ครับ

ไบร์ท       เท่าที่ผมได้อ่านบทและได้ทำการบ้านกันมาก็อยากให้ดูกันก่อนครับ ทุกตัวละคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ทุกอย่างที่เขาทำมันมีที่มาที่ไป ผมเชื่อว่าทั้งทีมเขียนบทและทีมโปรดัคชั่นตั้งใจทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด ทันสมัยที่สุด เข้ากับสังคมปัจจุบันที่สุด อยากให้ทุกคนลองเปิดใจรับชมกันครับ

นานิ         เยี่ยมครับ ถูกต้องตามที่ไบร์ทพูด อย่างเรื่องการบูลลี่มันมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น มันจะมีสตอรี่ของมัน ถึงแม้ว่าคนที่ชอบบูลลี่คนอื่นจะดูไม่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าวันหนึ่งเขาจะกลับตัวเป็นคนดีไม่ได้

ไบร์ท         เฮ้ย สปอยล์ละ (หัวเราะ) เอาเป็นว่ามาทำความรู้จักพวกเขาก่อน ไม่ว่าจะธามหรือ F4 เราไม่ใช่คนที่แสดงออกเก่งหรือทำให้ทุกคนเข้าใจเราได้ แต่อยากให้ลองมาดูเรื่องนี้กันก่อน พอดูจบแล้วคุณจะเข้าใจ F4 มากขึ้น

วิน              ก็อยากให้มาดูกันครับ ดูว่าที่มาของพวกเขาเป็นอย่างไรและสุดท้ายจะจบอย่างไร

ดิว              ทุกอย่างมันมีเหตุและผลของมัน

ไบร์ท           จะบอกว่าครบรสมากๆ ทั้ง 16 ตอนนี่เรียกว่าแทบไม่ได้หายใจกันเลยทีเดียว ผมเข้าใจนะที่ทุกคนรู้สึก อาจจะเคยดูเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้กันมาและมีความรู้สึกต่างๆ ต่อเรื่องนี้ แต่เวอร์ชั่นของเราก็เป็นในแบบของเรา เรื่องราวมันคือผู้ชาย 4 คนที่บ้านรวยนั่นแหละ แต่เนื้อเรื่องข้างในมีความเปลี่ยนไป อยากให้ลองดูกันก่อนครับ

ถ้าหลังจากนี้จะมีคู่จิ้นดิว–นานิ เหมือนคู่ไบร์ท–วิน จะรู้สึกอย่างไรเนี่ย

ดิว–นานิ   (หัวเราะ)

ไบร์ท      ได้หมดเลยครับ เอาที่มีความสุขกันเลย ไบร์ท–นานิ ดิว–นานิ วิน–ดิว วิน–นานิ หรือวิน–ตู ไบร์ท–ตู หรือจะวินทีม ไบร์ททีม นานิทีม ดิวทีม ก็ได้เลย

สมัยเป็นนักเรียนแต่ละคนเคยถูกบูลลี่บ้างไหม

นานิ            ผมคิดว่าทุกคนน่าจะเคยเจอ แต่อาจจะมองว่าเป็นการแกล้งของเพื่อน ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับว่าเราหรือว่าใครสามารถรับได้แค่ไหน ถามว่าผมเคยบูลลี่เพื่อนไหม ยอมรับว่าเคย มันก็คือการที่เราแกล้งเพื่อน แต่ถามว่าเพื่อนคนนั้นเคยแกล้งเราไหม ก็เคย แต่ถ้ามองในเชิงของความเป็นเพื่อนเราต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้โกรธกัน เพราะแกล้งกันสนุกๆ แต่พอเราโตขึ้น เริ่มมีวุฒิภาวะ เราก็ได้รู้ว่าบางสิ่งบางอย่างที่ทำไปมันก็ไม่ถูกต้อง พอรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก ก็ไม่ทำอีก

วิน             ผมว่าด้วยวัยที่ยังเด็กก็ต้องเคยกันบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตอบรับหรือแก้ไขปัญหาตอนนั้นอย่างไร ตอนนี้เราโตขึ้นก็เข้าใจอะไรมากขึ้น ในวัยที่เรามีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้นเราสามารถมองเห็นได้แล้วว่าควรทำหรือไม่ควรทำ

ไบร์ท         ผมเองเรียนโรงเรียนชายล้วน การแกล้งกันถือได้ว่าเป็นกิจวัตรประจำวันเลย แต่ตอนที่ผมโดนตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกบูลลี่ มองว่าเพื่อนเล่นกัน อาจจะเป็นเพราะว่าสนิทกับเพื่อนอยู่แล้ว และเราต่างฝ่ายก็แกล้งกันไปแกล้งกันมาตามประสาเด็กๆ แต่พอโตขึ้นมา ได้เข้าสังคมทำงาน ได้เจอคนมากขึ้น ได้เห็นอะไรมากขึ้น รู้อะไรมากขึ้น เรียกว่าอะไรที่เราไม่อยากให้คนอื่นมาทำกับเรา เราก็อย่าไปทำคนอื่น

ดิว             ผมเองก็คิดว่าทุกคนน่าจะเคยผ่านเรื่องบูลลี่มา หลายครั้งมันก็เกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เราทำไปโดยไม่รู้ว่าแต่ละคนมีจุดอ่อนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีจุดอ่อนเรื่องนี้ แต่เราไม่รู้ เรามองเป็นเรื่องตลก พอเราไปทำกับเขา เขาก็รู้สึกว่าเรากำลังบูลลี่เขาอยู่ ก็ไม่ปฏิเสธว่าที่ผ่านมาเราอาจจะเคยทำ แต่ด้วยยุคสมัยและวุฒิภาวะที่โตขึ้น ความรู้ที่มากขึ้น ก็ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรทำ การเอาใจเขามาใส่ใจเราจะทำให้เราประพฤติตนดีขึ้น

อยากให้ฝากเรื่องการบูลลี่กันในสังคม โดยเฉพาะคนที่ยังมองการบูลลี่ว่าเป็นเพียงการแกล้งกันสนุกๆ เท่านั้น เผื่อว่าจะช่วยลดทอนปัญหานี้ได้บ้าง

วิน        อย่างที่ดิวพูด ผมว่าการเอาใจเขามาใส่ใจเราสำคัญที่สุด ถ้าคิดว่าเราเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้างเราก็คงไม่ชอบเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็เอาความรู้สึกนั้นมาคิดว่าถ้าเราทำไปแล้วทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีและไม่สบายใจจะทำทำไม

นานิ     เราต้องใส่ใจคนอื่น แคร์ และคิดก่อนทำ อย่างที่ดิวพูดไปเมื่อกี้ว่าบางเรื่องเราอาจจะบูลลี่ไปโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว แต่มันก็ทำให้คนที่เราไปทำเขาได้รับผลกระทบ ก่อนจะทำอะไรต้องคิดเยอะๆ นึกถึงจิตใจคนอื่นให้มากๆ อะไรที่เราไม่ชอบก็อย่าไปทำกับคนอื่นแค่นั้นเอง

ดิว    เราไม่รู้หรอกว่าชีวิตของคนแต่ละคนผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง และเรื่องราวเหล่านั้นมันทำให้เขามีจุดอ่อนอย่างไร บางทีเราอาจจะไปทำให้เขาไม่พอใจโดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่พอใจ แต่ผมเชื่อว่าแต่ละคนไม่ใช่ว่าอยู่ๆ เขาจะเกิดความไม่พอใจขึ้นมาหรอก มันต้องมีเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจเขาจริงๆ พยายามคิดเยอะๆ และพฤติกรรมใดที่เสี่ยงให้คนอื่นไม่สบายใจก็หลีกเลี่ยงที่จะทำดีกว่า

ไบร์ท  ผมฝากถึงคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่กำลังถูกบูลลี่ก็แล้วกันครับ เราอาจจะเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนตัวเองได้ เรื่องนี้มันขึ้นอยู่ที่มุมมองของเรา วันนี้เราอาจจะยังทำไม่ได้ ไม่เป็นไร แต่วันหนึ่งเราจะต้องเข้มแข็งขึ้นได้ ผมเป็นกำลังใจให้ครับ

Text: สหัสวรรษ / Photo:  เติมสิทธิ์

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไบร์ท วชิรวิชญ์ จากตัวประกอบส่งตัวเองเรียน สู่นักแสดงดาวรุ่งดังไกลทั่วเอเชีย

วิน เมธวิน ลูกชายที่เลือกตามใจพ่อแม่ มากกว่าทำตามหัวใจตัวเอง