มีน พีรวิชญ์ จากเด็กหลอดแก้ว จากตัวประกอบ สู่เส้นทางนักแสดงอนาคตไกล

Alternative Textaccount_circle
event

จากวัยรุ่นธรรมดาๆ ที่ก้าวเข้ามาในวงการบันเทิง ด้วยบทบาทการเป็นนักแสดงสมทบเล็กๆ แต่ด้วยความพยายาม และไม่ยอมแพ้ วันนี้ด้วยกระแส ‘Love by Chance บังเอิญรัก เดอะซีรี่ส์’ มีน พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร กลายเป็นนักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง ที่มีแฟนคลับทั้งในเมืองไทยและต่างชาติ นอกจากความหล่ออปป้าที่เห็นแล้วใจละลาย อยากให้ลองทำความรู้จักหนุ่มคนนี้ให้ผ่านบทสัมภาษณ์ แล้วคุณจะตกหลุมรักเขาแบบตั้งใจไม่ต้องบังเอิญกันเลยทีเดียว

ลูกชายคนเดียวจากเด็กหลอดแก้ว

“ผมขอเล่าตั้งแต่ผมเกิดเลยได้ไหมครับคือครอบครัวผมอยู่ที่ฉะเชิงเทรา แต่ผมเกิดกรุงเทพฯ ครับ คือพ่อแม่ผมมีลูกยากมาก มีผมก็ตอนสามสิบปลายๆ จะสี่สิบแล้ว แม่อยากมีลูกมาก ทำกิ๊ฟ 4-5 รอบไม่ติด ช่วงนั้นวิวัฒนาการเด็กหลอดแก้วเพิ่งได้รับการยอมรับ เลยไปทำเด็กหลอดแก้ว แล้วได้ผมมา เรียกว่ากว่าพ่อแม่จะมีเราคือยากมากครับ ยิ่งเป็นลูกคนเดียวด้วย คนมักจะคิดว่าพ่อแม่ต้องหวง สปอยล์มาก แต่ไม่เลยครับ พ่อแม่เลี้ยงผมแบบอิสระก็จริงให้คิดเอง อยากทำอะไรทำ แต่ต้องบอกและทำในสิ่งที่ถูกที่ควร อยากจะได้อะไร ผมต้องบอกเหตุผล ถ้ามันยังไม่ใช่พ่อกับแม่ก็ไม่ให้ ซึ่งผมว่าการเลี้ยงด้วยเหตุและผลของพ่อแม่ ทำให้ผมกล้าที่จะคิดเอง ขณะเดียวกันก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร”

ลูกเจ้าของร้านเกม แต่ไม่ติดเกม

“พ่อแม่ผมเปิดร้านเกมครับ ได้ยินแบบนี้หลายคนมักคิดว่าผมน่าจะเป็นเด็กติดเกม แต่… ไม่เลยครับ คือผมก็เล่นนะครับ แต่ถ้าอยู่คนเดียวผมจะไม่ค่อยเล่น ถ้ามีเพื่อนถึงจะเล่น เพื่อนๆ ในห้องผมเลิกเรียนก็จะไปเล่นเกม ไปเจอพ่อแม่ผมทุกเย็น(หัวเราะ)ส่วนผมไปเตะบอล ทำกิจกรรมอย่างอื่น จนแม่บอกว่าเพื่อนๆ มาเป็นลูกแม่กันหมดแล้วนะ คือที่ร้านจะปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้วครับ กำหนดอายุ กำหนดเวลา พ่อแม่ก็จะช่วยดู แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่เขาเล่นได้อิสระ บางคนมาอยู่ที่ร้านนานมากแบบ 2 วันไม่กลับก็มี พ่อแม่ผมจะชอบคุยกับคนที่มาเล่นที่ร้านเหมือนลูกเหมือนหลาน ก็จะถามว่า อยู่นานไม่กลับบ้านเหรอ ต้องพักบ้างนะ ต้องนอนบ้างนะ

“พ่อกับแม่ทำให้ผมรู้ว่าผมว่าเกมเล่นได้นะ แต่ต้องรับผิดชอบภาระหน้าที่ของตัวเอง ทำการบ้าน อ่านหนังสือให้เรียบร้อยก่อน และที่สำคัญต้องมีลิมิต กำหนดเวลาให้ตัวเอง เล่นแค่วันละ 1 ชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง ไม่ใช่ใช้ชีวิตอยู่เกมทั้งวันทั้งคืน คุณต้องมีกิจกรรมอย่างอื่นทำด้วย

“เพื่อนผมส่วนใหญ่เล่นกัน 4-5 ชั่วโมง ผมเล่นแค่ 1-2 ชั่วโมงพอ จากนั้นก็ไปเตะบอล แบ่งเวลาทำอย่างอื่นด้วย หลายคนอาจจะมองว่าเดี๋ยวนี้คนที่แข่งเกมประสบความสำเร็จ ได้รางวัลสูง เลยอยากเป็นแบบนั้น หมกตัวอยู่ในร้านเกม เพราะคิดว่าแข่งเกมแล้วรวย แต่ผมมองว่า น้อยคนนะครับที่จะไปประสบความสำเร็จอยู่จุดในนั้น สร้างตัวได้จากเกม ซึ่งเขาต้องผ่านอะไรมากเยอะมาก และเขาก็ทำอย่างจริงจังมาก ถามตัวเองก่อนว่าพร้อมจะเอาทั้งชีวิตมาทิ้งกับคอมพ์ เกม อินเตอร์เน็ตเพื่อให้ถึงจุดนั้นจริงๆ ใช่ไหม โลกเรามีสิ่งที่น่าสนใจให้ทำอีกมากนะครับ

 

 

เด็กเรียนสายกิจกรรม

“บ้านผมอยู่ในอำเภอเมือง ฉะเชิงเทราครับ จะมีความเป็นเมืองก็ไม่ใช่ ต่างจังหวัดก็ไม่เชิง มันผสมๆกันน่ะครับ เสาร์อาทิตย์หรือปิดเทอมผมก็เข้ากรุงเทพฯ มาสยามมาเรียนพิเศษครับ ถ้าวันธรรมดาเลิกเรียนเตะบอล กินขนม เรียนพิเศษตอนเด็กๆ ผมค่อนข้างเรียนดี มีความรับผิดชอบ และตั้งใจเรียน ช่วงประถม-ม.ต้น สอบได้ที่ 1-2 จนได้ทุกเรียนฟรี พอขึ้นม.ปลาย เริ่มโต ผมเริ่มมีความรู้สึกว่านอกจากตั้งใจเรียนให้ดีแล้ว ผมอยากหาประสบการณ์ด้านอื่นๆ เพราะเรารู้แล้วว่าถ้าเรียนจริงจัง ผลดีจะออกมาเป็นแบบนี้ ดังนั้นเลยผันตัวมาทำกิจกรรม อะไรทำได้ทำผมทำหมด เล่นกีฬา เล่นดนตรี เข้าค่าย เป็นประธานนักเรียน ประธานสภาเด็กและเยาวชนเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา

“ช่วงที่ผมเป็นประธานนักเรียน เรารู้ว่าเด็กๆ ในโรงเรียนชอบดนตรีกันเยอะ หลายคนมีความสามารถ แต่ยังขาดพื้นที่ในการแสดงออก ผมเลยไปยื่นเรื่องและคุยกับศโรงเรียนให้สนับสนุนกิจกรรมทางดนตรี ซึ่งเป็นเรื่องยาก เพราะทางโรงเรียนค่อนข้างเคร่งเรื่องเรียนแต่ผลสุดท้ายโครงการของผมก็อนุมัติผ่าน ได้มีการจัดประกวดดนตรี จัดแข่งบอลเป็นลีกในโรงเรียน และตอนที่เป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรายังได้ทำกิจกรรมถนนเด็กเดิน ให้จิตอาสามาออกบูท ให้เด็กๆมาทำกิจกรรมด้วย ผมอยากให้นักเรียนมีประสบการณ์ดีๆ นอกจากตำราเรียน

“แม้ผมจะทำกิจกรรมเยอะช่วงม.ปลาย แต่ผมยังตั้งใจเรียนเหมือนเดิมเพราะรู้ว่าเราต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย ผมเตรียมตัวอย่างดี อ่านหนังสือหนักมาก เรียนที่โรงเรียนด้วย เข้ามาเรียนพิเศษที่กรุงเทพฯด้วย เรียนทุกคอร์สของอาจารย์ดังๆ นี่ผมไปหมด ผมสอบตรงเข้าโครงการจิตอาสาและประชาธิปไตย ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งต้องใช้ทั้งเกรดและยื่นพอร์ตกิจกรรม ผลสอบออกมาคือผมติดคณะวารสารศาสตร์ ดีใจมากครับ”

 

มีน-พีรวิชญ์ กับความสำเร็จที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เส้นทางในวงการที่บังเอิญไม่ใช่เรื่องง่าย

“ผู้จัดการส่วนตัวของผม ทักเข้ามาในไอจีครับ ตอนนั้นผมเรียนอยู่ประมาณ ม. 4 ม. 5 ทีแรกก็ลังเลจะเชื่อดีหรือไม่เชื่อดี ตอนที่พี่เขาทักมาเราว่างๆ อยู่ เลยลองไปแคสต์เลิฟซิคเดอะซีรี่ส์ ซีซั่น 2 ผ่านเข้ารอบลึก ได้เข้าไปอยู่เรียลลิตี้ มีช่วงแอร์ไทม์อยู่บ้าง แต่ในซีรี่ส์ไม่ค่อยเด่นเท่าไร เรียกว่าเป็นเพียงตัวประกอบก็ได้

ช่วงถ่ายทำผมนั่งรถตู้สาธารณะเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้า ถ้าเลิกดึกเกิน 2 ทุ่ม รถตู้จะหมด ผมต้องเหมาแท็กซี่ประมาณพันกว่าบาทเพื่อกลับบ้าน บางทีนัดมา 6 โมงเช้า แต่เขาบอกผิดจริงๆ ต้องเป็น 6 โมงเย็นก็ต้องรอ พอถึงเวลา ค่ำแล้วถ่ายทำไม่ทัน เรายังไม่ได้เข้าซีนเลย ต้องยกกองไม่ได้ถ่ายก็มี รู้สึกเสียกำลังใจนิดนึงครับ

“ถามว่าคุ้มมั้ยต้องเดินทางไกลๆ เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ไม่คุ้มหรอกครับ แต่ผมรู้สึกสนุกมากกว่า ได้เรียนรู้งานไปด้วย ได้รู้จักเพื่อนๆ นักแสดง ตอนนั้นผมไม่ได้ถึงเรื่องเงินเป็นหลัก แม้จะเป็นตัวประกอบเล็กๆ ก็ขอลองมาทำก่อน มาเพื่อให้รู้ว่าเป็นยังไง ผมไม่เคยคิดว่า “เมื่อไรจะถึงวันของเรา” แต่คิดว่า “ต้องทำอย่างไรจะถึงวันของเรา” ผมชอบนั่งดูเวลาคนทำงาน คนนี้เล่นดีทำอย่างไร คนนี้มีแฟนคลับรักมากมาย ทีมงานเอ็นดู เขาทำตัวอย่างไร ผมไม่นั่งรอเวลารอโอกาสเฉยๆ แต่พยายามพัฒนาตัวเองให้ดี

“หลังจากเลิฟซิค 2 ระหว่างทางก็เริ่มมีงานบ้าง มีงานหนัง เอ็มวี ถ่ายแบบ งานโฆษณา เล่นซีรี่ส์มาเรื่อยๆ อย่าง Make It Right the Series รักออกเดิน เป็นนักแสดงสมทบ และมาเล่นเป็นนักแสดงหลัก ในซีรีส์วัยรุ่น เรื่องครั้งนั้น… ไม่ลืมทั้ง ช่อง28 ช่อง3SD เล่นคู่กับน้องลิลลี่-อภิชญา

“ผมวิ่งแคสต์งานโฆษณาเยอะมาก ร่วมๆ 50 งาน ช่วงแรกที่ไปแคสต์ไม่ได้งานเลยครับ คือแคสต์ 10 งานได้สัก 1 ถือว่าเก่งแล้ว แต่พอแคสต์ได้สักงาน ผมว่าหลังจากนั้นจะได้เรื่อยๆ ผมพูดจริงๆ นะ เหมือนได้ครั้งหนึ่งแล้วกำลังใจมา เวลาไปแคสต์อยากให้มั่นใจ เราต้องชายน์ ต้องคิดว่าเราเก่ง เราดูดี ตรงนี้ช่วยได้มาก”

อปป้าหน้าหล่อแม่ทัพถือธงธรรมศาสตร์ จุดพลุแจ้งเกิดชั่วข้ามคืน 

“ผลงานในวงการที่ผ่านมาทำให้ผมเป็นที่รู้จักบ้าง แต่งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์72 ทำให้ผมเป็นรู้จักในวงกว้างผ่านโลกโซเชียล คือผมเป็นผู้ถือธงของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช็อตถือธงเรียกว่าเปลี่ยนชีวิตเลย รูปนั้นคนแชร์เยอะมากทั้งเฟซบุ๊ก ไอจี ทวิตเตอร์ ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร งงมาก ตกใจมาก รู้แต่ว่าเพื่อนแคปรูปส่งมาให้ดูว่าเห็นหน้าบ่อยมาก คนแชร์เยอะ คือตอนนั้นคนจะรู้จักและเสิร์ชกูเกิ้ลชื่อว่า มีนถือธง มีนเกรี้ยวกราด เขาบอกว่าลุคถือธงของผมในวันนั้น ดูเกรี้ยวกราดมาก (หัวเราะ)

“ในความเกรี้ยวกราดของรูปถือธงที่ถูกแชร์ ผมขอเล่าเบื้องหลังว่า ก่อนหน้าที่จะมาซ้อมเดินขบวน ผมไปเที่ยวงานฟูลมูนกับเพื่อนๆ มา 4-5 วัน ไม่ได้นอนเต็มที่ กลับมาถึงกรุงเทพฯ ตอนเช้า ผมก็มาซ้อมเดินเลย มาเจอแดดแรง บวกกับความอึน มึนๆ ซ่อนอยู่

จริงๆ ภายใต้ลุคเกรี้ยวกราดถือธงนั้น ผมกำลังพยายามทรงตัวครับให้ยืนได้อยู่ครับ (หัวเราะ)  หลังจากเป็นที่รู้จักจากการเป็นมีนถือธง งานในวงการก็เข้ามาเยอะขึ้น มีงานโฆษณาเยอะขึ้น ถ่ายแบบ ออกรายการทอล์คกะเทย ทูไนท์ ช่วงหอเจี๊ยะ พี่ป๋อมแป๋มมาสัมภาษณ์ ก็ทำให้เราเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก”

‘บังเอิญรัก’ บังเอิญคนจะดัง

“อีกผลงานที่ทำให้ผมมีชื่อเสียงมากในวงกว้าง มีโอกาสดีๆ เข้ามาอีกมากมาย ก็คือการได้เข้ามาเป็นนักแสดงในซีรี่ส์บังเอิญรัก Love By Chance ผมว่ามันเป็นดวงและเรื่องบังเอิญมากครับ เพราะผมเกือบจะไม่ได้เล่นเรื่องนี้แล้ว ด้วยคิว ไหนจะเรื่องเรียน เกิดความลังเลว่าจะรับหรือไม่รับ ทีมให้ลองเอาบทไปอ่านก่อนค่อยตัดสินใจ พออ่านแล้ว เออ… บทสนุกมาก อยากลองเล่น เลยปรึกษาพ่อกับแม่ ซึ่งท่านไม่บังคับ อยากให้ผมเลือกเอง

ถามว่าตอนนั้นผมเข้าใจในความเป็นซีรีส์วายแค่ไหน ผมเข้าใจในระดับหนึ่งนะ เพราะตอนเล่นเลิฟซิคนั่นก็เป็นซีรี่ส์วาย Make It Right the Series รักออกเดิน ก็วาย แต่บทผมเล่นคู่ชายหญิง

“วันแรกผมเจอนักเขียนก่อน ตอนที่ผมรับเล่น เขาได้นักแสดงและมีการเวิร์คช็อปบ้างแล้ว ขาดตัวแสดงอีก 1-2 ตัว ซึ่งผมคือหนึ่งในตัวละครที่ขาด พอซีรี่ส์ออนแอร์ฟีดแบ็คดีมาก ผมเคยเห็นนักแสดงคนอื่นๆ มีแฟนคลับรุมล้อม มีคนรักมากมาย วันนั้นเราได้แต่มองเขา แต่วันนี้กลายเป็นเราได้รับโอกาสนั้น มันก็งงๆ ถึงเวลาจริงก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนะครับ เอาแล้วไงๆ จะยังไงดีล่ะ (ยิ้ม)

“ผมถึงกับต้องกลับไปนั่งคิดเลยนะว่า เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร ต้องปรับตัวอย่างไร จะคีพคาแรคเตอร์ตัวละคร ซึ่งบท ‘ติณณ์’ เป็นคนที่เกรี้ยวกราด เหยียดคน ชอบข่มชอบด่า ไม่ยุ่งกับใคร ซึ่งตัวจริงเราใช่คนแบบนั้นเลย ผมเป็นคนเฮฮา ซึ่งพอซีรี่ส์จบไปแล้ว ตัวตนเราก็ยังอยู่กับเราตลอดไป เราอยู่กับเพื่อน กับครอบครัวเป็นคนแบบไหน กับแฟนคลับผมก็จะเป็นแบบนั้น ฉะนั้นผมขอเป็นตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งแฟนคลับก็รักในแบบที่เราเป็นเรานี่แหละครับ”

 

ขวัญใจสายวาย

ซีรี่ส์วายชายรักชาย เลิฟซีนจิ้นๆจะเป็นหรือไม่เป็น

“ส่วนตัวผมเลยนะ บทโรแมนติกเลิฟซีนชายกับชาย เล่นง่ายกว่าชายกับหญิงครับ เล่นกับนักแสดงผู้หญิง เราจะมีความเกรงใจ ต้องให้เกียรติเขา เราจะกังวลว่าเขาจะไม่สบายใจมั้ย สำหรับเลิฟซีนชายชาย คู่ของผมเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานาน เข้าใจกัน เวลาเล่นเลยสนิทใจ ไม่มีตะขิดตะขวงใจ ตอนเล่นหน้าเซ็ตไม่รู้สึกเขินหรืออะไรนะ แต่ตอนออนแอร์ผมก็ไม่กล้าดูซีนตัวเองเล่น มันก็จะเขินๆ หน่อย

“พ่อแม่ผมก็ดูนะ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร มีบอกกว่าอย่างน้อยคู่ผมก็เลิฟซีนก็เยอะเท่าอีกคู่เนอะ จะมีอีกมั้ยเนี่ย (หัวเราะ) พ่อผมเขาไม่อินนะ ไม่ได้สงสัยว่าลูกจะเบี่ยงเบน เป็นหรือไม่เป็น เราสนิทกัน ชิลๆ เข้าใจกันมาก แต่แม่ดูแล้วอินมากครับ วันหนึ่งผมกลับไปนอนบ้าน แม่มานั่งข้างๆ เตียงถามผมว่า “มีนๆ แม่ถามจริงๆ มีนเป็นหรือเปล่าเนี่ย” “มีอะไรบอกแม่ได้นะ แม่รับได้ทุกอย่าง” ถามผมแบบนี้อยู่ 3 รอบ (หัวเราะ) จนผมต้องตอบจริงจังให้แม่สบายใจว่า แม่… ไม่ได้เป็นจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่แม่ ช่วงที่ซีรี่ส์ออนแอร์ คนที่รู้จักส่วนตัว เพื่อนๆ ก็แซวขำๆ เล่นซีรี่ส์วายจะเปลี่ยนใจมั้ย จะติดใจมั้ยหลายคนชอบถามว่า ใช่มั้ยๆ เป็นป่าวว่ะ อยากบอกว่า สเปคผมชอบผู้หญิงครับ

 

“แต่ในแง่มุมอื่นซีรี่ส์วายก็เปลี่ยนผมไปหลายอย่างเลยนะครับ ผมได้รับโอกาสดีในการทำงาน มีงานหลากหลายให้ทำ ช่วงงานพีคๆ ก็จะพักผ่อนน้อย ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเอง แต่งหน้าทุกวัน เป็นแบบนี้เกินครึ่งปีแล้ว อาการโรคภูมิแพ้เลยกำเริบ แพ้นั่นแพ้นี่ได้ง่าย ผดผื่นขึ้น สิวขึ้น มีช่วงที่ผมเครียดหลายเรื่อง ไหนจะงาน ไหนจะเรียน ไม่มีเวลาให้ตัวเอง อยู่ปี 3 แล้วเรียนหนักมากๆ มันเครียดจนอยากจะร้องไห้ แต่แสดงออกไม่ได้ ไม่มีแม้เวลาสำหรับการร้องไห้เลย ต้องทำงาน ต้องยิ้ม ผมใช้เวลาร้องไห้ในรถ ขับรถถึงที่หมายแล้วเช็ดน้ำ ไปเรียนไปทำงานต่อ

“ตอนนั้นผมรู้สึกว่าเราทำสิ่งนี้เพราะอะไร มีความสุขใช่มั้ย มันเกิดคำถามเพราะผมตั้งรับไม่ไหว สุดท้ายผมก็มาคิดได้ว่า ผมอยากเป็นนักแสดง เป็นศิลปิน มีหน้าที่มอบความสุขให้คนอื่น แต่ถ้าตัวผมเองยังไม่มีความสุข ผมจะมอบความสุขให้ใครได้ ฉะนั้นเราต้องปล่อยวางหลายๆ เรื่องที่แบกไว้อยู่ เลือกที่จะมีความสุขกับตัวเอง เลือกทำในสิ่งที่ชอบ ทำหน้าที่ของตัวเองให้เพอร์เฟคที่สุด และแบ่งปันความสุขให้คนอื่นๆ”

เป้าหมายในวงการบันเทิง

“กว่าผมจะมาถึงจุดนี้ผ่านบททดสอบมาเยอะเหมือนกัน การที่ผมมีโอกาสได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง อาจจะเป็นความบังเอิญ หรือดวง แต่การที่เราจะประสบความสำเร็จ ต้องมาจากความพยายามและตั้งใจ ในเมื่อผมได้โอกาสได้ทำงานในวงการนี้ ผมอยากลองหาประสบการณ์หลากหลายให้ตัวเอง สำหรับเป้าหมายระยะยาว คือความมั่นคง อยากทำงานในวงการนี้ยาวๆ สร้างผลงานดีๆ มีคนรู้จักทุกกลุ่มในวงกว้าง นี่คือ ‘มีน นักแสดง’นะ อีกหนึ่งเป้าหมายคือ ทำงานเบื้องหลัง มีโปรดักชั่นเฮ้าส์ ผมเองก็เรียนด้านฟิล์มมาด้วย จะได้ใช้วิชาที่เรียนมาทำงานได้ด้วย

“ถัดจากนี้ยังมีงานอีกหลายโปรเจ็กต์เลยครับ ที่อขยากฝากให้ช่วยติดตาม อย่าง Kiss boys เป็นโปรเจคทเรียลลิตี้ทางออนไลน์ของเด็ก 5 คนจากหลายสังกัด ที่จะทำให้รู้ว่าศิลปินใช้ชีวิตกันอย่างไร กินอยู่อย่างไร ไม่มีสคริปท์จะมีไปต่างประเทศเพื่อไปเผยแพร่วัฒนธรรม แล้วก็จะมีมิสชั่นให้ทำ ติดตามได้ทุกช่องทาง ทั้ง เฟซบุ๊ก ไอจี Youtubeทวิตเตอร์ พิมพ์คำว่า KissboysTh ครับ

“นอกจากนั้นก็มีรายการรีวิวเวอร์ ช่อง28 ช่อง3SDมีผม ก้อย-อรัชพร และเรียวตะ โอมิ เป็นพิธีกรสลับกัน เราจะรีวิวทุกอย่าง ที่พัก ที่กิน ตั้งแต่หรูหรา ไปจนถึงแนวติดดิน รับชมกันได้ทุกวันเสาร์ 14.00 น. งานแสดงก็มี มูฟวีออนทีวี ช่องโมโน เรื่อง BLOOD VALENTINE เล่นกับพี่ลูกเกด ซึ่งในเรื่องเป็นนักฆ่า แล้วเราไปรักลูกสาวเขา ซึ่งกฎของนักฆ่าห้ามมีความรัก พี่ลูกเกดเลยตามฆ่าเรา อีกเรื่องคือ Touchdown Kiss วัยร้ายคว้าใจพิชิตฝัน ด้านซีรี่ส์ติดตามกันได้ยาวๆ ถึงปีหน้าเลยครับ งานอื่นๆ ที่ยังไม่เคยทำเลยก็คือภาพยนตร์ และอยากลองมีซิงเกิ้ลเป็นของตัวเอง ถ้ามีโอกาสก็อยากลองครับ”

คนรักมีน

“ขอบคุณแฟนคลับตามให้กำลังใจทุกงานครับ เป็นหนึ่งในความประทับใจสำหรับการเข้ามาทำงานในวงการ ต้องขอบคุณทั้งแฟนคลับไทยและต่างชาติมากๆ เวลาไปต่างประเทศอย่างฮ่องกง หรือจีน เขาดีใจมากที่ได้เจอเรา มารอที่สนามบิน จนการ์ด 10-20 คนรับไม่อยู่ อยากสัมผัสเรา ก็จะมีดึงบ้าง กระชากบ้าง อยากให้ของแต่กลัวไม่ถึงก็โยนมากระแทกที่หัวเราบ้าง (หัวเราะ) ดีนะเป็นตุ๊กตา ซึ่งเขาก็ขอโทษ บางคนจะให้แหวนอยากใส่ให้ด้วย คว้ามือปุ๊บใส่ให้เลย ็

ผมอยากจะฝากบอกแฟนๆ ว่าเวลามาเจอกันไม่ต้องซื้อของมาให้ก็ได้ โดยเฉพาะของราคาแพง แค่มาเจอกันผมก็ดีใจแล้ว บางคนให้ของราคาสูงถึง 5-6 หลัก เกรงใจมาก บางคนถามผมบอกว่าอยากได้รองเท้าแบบนี้มั้ย เปิดดูแล้วคือรู้เลยว่าแพง อย่าซื้อของมาให้ผมแล้วตัวเองต้องลำบากกันนะครับ ถึงจะไม่ลำบากก็เถอะ และผมไม่สามารถเลือกได้ด้วยว่าอยากได้แบบไหน  ของไม่สำคัญเลยครับ แค่ทุกคนมอบความรักให้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ”

Text: AuAi Ph0: เติมสิทธิ์ ศิริพานิชย์

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ 

เปิดใจคุยกับ แบมแบม GOT7 ลูกกตัญญูที่ทำเพื่อครอบครัว

Mark GOT7 ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักมาก

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up