ต่อ ธนภพ – เฟิร์น นพจิรา ทุ่มสุดตัวให้หมดใจเพื่อ ‘หัวใจศิลา’

Alternative Textaccount_circle
event

การเติบโตในเส้นทางนักแสดง

เรื่องนี้ได้รับคำชมเรื่องการแสดงมากๆ

ต่อ:       “จริงๆ งานนี้ผมกดดันเหมือนกันนะ แล้วผมก็พยายามจะหาจุดที่… ถ้าใครดูงานผม ผมจะพยายามทำให้ตัวละครตัวนั้นมันดูมีบางอย่างที่มันเหมือนลายเซ็นผมฝังไว้ เราก็พยายามหาในมู้ดศิลาว่านี่แหละลายเซ็นธนภพเวอร์ชั่นศิลาคือจุดนี้”

เฟิร์น:    “เฟิร์นก็ทำการบ้านหนักมากค่ะ เรียนการแสดงเพิ่มเติมแบบตัวต่อตัว ทำการบ้านของตัวละครนี้ เตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เพื่อจะทำงานออกมาให้ดี เฟิร์นโชคดีมากค่ะ ที่นักแสดงทุกคนช่วยซัพพอร์ตเรา ช่วยผลักดันให้ศักยภาพของเราดีขึ้น แล้วอย่างพี่ต่อ ด้วยความที่ร่วมงานกันครั้งแรก มีโอกาสได้เวิร์คช็อปกันก่อน เฟิร์นรู้สึกว่าพี่ต่อเหมือนครูทางการแสดงอีกคนหนึ่ง เป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้เรามีการแสดงที่ดีขึ้น ซึ่งพาร์ทเนอร์ในการแสดงสำคัญกับเรามากจริงๆ นะคะ  พี่เขาช่วยลดช่องว่างในการทำงาน ทำให้เราไม่กดดันหรือตื่นเต้นเวลาที่จะเข้าฉากด้วยกัน ช่วยให้เรารู้สึกอินไปกับบทได้ดีค่ะ”

ต่อ:       “ต้องขอบคุณโอกาสที่ช่วยให้ผมได้ซึมซับจากรุ่นใหญ่มาเยอะมากครับ ผมว่าการแสดงของรุ่นใหญ่มันทรงพลังในมุมที่เรารู้สึกว่ามันน่าค้นหา แล้วมันทำให้เรียนรู้และก็โตขึ้น แล้วเรื่องนี้ก็เจอรุ่นใหญ่ระดับเทพ งานหินครับ พี่แอน-สิเรียม กับ พี่นุ่น-ศิรพันธ์ สองคนนี้คือทำให้เราเรียนรู้ว่า เราไม่เคยเจอคนที่เราแสดงด้วยแล้วรู้สึกว่าเราตัวเล็กขนาดนี้มานานมากแล้ว สองคนนี้แตกต่างกันอย่างชัดเจน สมมติจะเล่นกับพี่นุ่นต้องเตรียมตัวแบบหนึ่ง แต่ถ้าเล่นกับพี่แอนต้องเตรียมตัวอีกแบบหนึ่ง

“พี่นุ่นจะเป็นคนที่มีร่างซ้อมกับร่างจริง ซึ่งร่างซ้อมเขาจะมีลูกล่อลูกชนในแบบที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งอันนี้เราต้องมีสติแล้ว แต่พอเขาเปิดโหมดร่างจริง แอคชั่นจริงปุ๊บ อันนี้เราไม่สามารถยืนตรงได้อะ ต้องตั้งรับดีๆ พี่นุ่นมาแรงมาก จนผมรู้สึกตัวเพราะเราไม่รู้จะรับยังไง จนถึงจุดนึง เราต้องแหกตัวเองออกมาว่า ไม่ได้ เราจะตัวเล็กไม่ได้ ก็ใหญ่เท่ากันนี่แหละ มา! ก็ต้องใจสู้ครับไปครับ (หัวเราะ)

“พี่แอนเป็นสายบดขยี้  ทุกคนเวลาดูพี่แอนเล่นละครจะบอกว่า ได้ยินชัดทุกคำ ทุกจังหวะที่เขาพูดออกมา มันแฝงไปด้วยความหมาย ซึ่งอันนี้ข้อดีคือ อยากเล่นดีตามพี่แอนก็ต้องจับจังหวะตรงนั้นให้ได้ เขาหันมากี่ขยักก็เก็บรีแอคให้หมด มันจะเป็นเรื่องความละเอียดบางอย่างที่เขาเน้นซะจนผมแบบ โอ๊ย…  พี่แอนเล่นลึกไปแล้ว

“มันเป็นโชคดีของผมครับที่ทุกครั้งที่ทำงานมันไม่ใช่แค่ทำงาน แต่ผมได้เรียนจากอาจารย์ใหม่ๆ ตลอด อย่างพี่ต้อม-พลวัฒน์ มนูประเสริฐ ที่เล่นเป็นพ่อนางเอก ก็กลายเป็นพ่อแห่งชาติไปแล้ว เป็นพ่อของทุกคน เรสโคจรมาเจอกันบ่อยครับ ช่วงแรกๆ ที่ผมยังไม่ชินกอง ก็จะเรียกหาพี่ต้อม” (หัวเราะ)

เฟิร์น:     “การได้เล่นเรื่องนี้นับโอกาสที่ดีมาก โอกาสทำให้เราได้เติบโตและพัฒนาตัวเอง โอกาสทำให้เราได้มาเจอนักแสดงเก่งๆ ที่เราชื่นชอบ เราใฝ่ฝันว่าเราอยากจะทำงานด้วยมาตลอดค่ะ”

ต่อ ธนภพ

เบื้องหน้าหนักหน่วง เบื้องหลังเฮฮา

เบื้องหน้าและเบื้องหลังการทำงานเป็นอย่างไรบ้าง เม้าท์ให้ฟังหน่อย

เฟิร์น:    “เบื้องหลังการทำงานมีแต่ความฮาค่ะ สนุกมาก ตลกมาก อย่างพี่แอน เวลาเล่นด้วยเราจะกลัวมากในฉาก แต่ตัดภาพมาเบื้องหลัง พี่แอนเป็นคนตลกมาก โก๊ะๆ ฮาๆ คือคนละเรื่องเลย เป็นมนุษย์แม่ที่ความเป็นแม่ อยากวิ่งเข้าไปกอดอะ เล่นกับลูกวัยรุ่น แซวลูก พี่แอนจะชอบแซวพี่ไต้ฝุ่น ชอบแซวพี่ต่อเรื่องหุ่นอะไรอย่างงี้ แม่ขอถ่ายรูปหน่อย

“อย่างพี่ต่อก็จะมีความกวนๆ ชอบแหย่ๆ พอถามเขาอะไรเขาก็จะนิ่งๆ ไม่ตอบบ้าง แล้วก็จะแบบ อะหยอกๆ หลอกเล่น แนวๆ นั้น พี่ไต้ฝุ่นก็ตลก พูดเก่งมาก นี่พวกเราว่าจะรอพี่ไต้ฝุ่นเอากีต้าร์มาเล่นในกองอยู่นะคะ พี่เบน (เรวิญานันท์ ทาเกิด) ก็เป็นคนสวยที่โก๊ะ ฮา เข้าฉากด้วยกันบ่อย ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญของหนูเลย ทำร้ายจิตใจกันบ่อยมาก แต่จริงๆ เวลาอยู่ด้วยกันคือสนุกเลยค่ะ เวลาเข้าฉากด้วยกันต้องตั้งสตินิดนึง เพื่อจะได้ไม่ให้หลุด

ต่อ:       “(หัวเราะ) บอกเลยหลังกล้องรั่วกันมาก โดยเฉพาะพี่แอน ผมว่านี่คือจุดที่มีสีสันที่สุดในกอง คือพี่แอนพร้อมเล่นกับทุกคน แล้วทุกคนอยากเล่นกับเขาอะ แล้วเขามีความเป็นกันเอง มีความอบอุ่น มีอะไรหลายๆ อย่างที่แบบ ไม่รู้จะคุยกับใคร คุยกับพี่แอนก็แล้วกัน เป็นคนใจดีมากๆ นิสัยนางเอกเลย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมต้องเตรียมตัวเวลาเล่นกับพี่แอน เพราะว่าพอหลังกล้องเรารักพี่แอนมาก แต่พอหน้ากล้องเราต้องเกลียดเขามาก ตอนเล่นต้องแบบมีสติว่าเราเกลียดเขาอยู่นะ”

 

ร่วมงานกับนางเอกน้องใหม่เป็นอย่างไรบ้างคะ

ต่อ:         “จริงๆ ผมถูกใจน้องจากวันแคสท์ คือเป็นสายเดียวกันอะ เราไม่ใช่คนเก่ง แต่เรารู้ตัวว่าเราเป็นคนพยายาม เป็นคนสู้ รู้ว่าเราไม่เก่งเท่าคนอื่น แต่ไม่เป็นไร เราจะพยายามเก่งให้เท่าคนอื่นให้ได้ ซึ่งเฟิร์นมีสิ่งนั้น แล้วมันทำให้ตอนที่แคสท์รู้สึกเหมือนเราเจอตัวเอง นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่บอกทีมว่าอยากทำงานกับคนแบบนี้ คือทางทีมให้ผมมีสิทธิ์ออกความเห็นด้วยครับ เพราะเราต้องไปแคสท์ทุกคนที่มาแคสท์บทนางเอก แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่เป็นคนเคาะ ซึ่งก็เลือกเฟิร์นกัน

แล้วเฟิร์นล่ะ ได้ร่วมงานกับพี่ต่อเป็นอย่างไรบ้าง 

เฟิร์น:    “พี่ต่อเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีมาก ช่วยให้บรรยกาศทำงานง่ายขึ้น ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเกร็ง จนเข้าถึงตัวละครไม่ได้ เราอาศัยเวลาในกองพูดคุยกัน ถามกันโน่นนี่นั่น พอเริ่มคุ้นกันเลยทำให้เราสบายใจมากขึ้น หรือถ้าช่วงไหนที่เฟิร์นรู้สึกว่า เล่นไม่ถึงเลย เล่นไม่ดีเลย ก็จะถามความเห็นพี่ต่อว่ายังไง เขาก็จะคอมเมนท์ตรงๆ ว่า เมื่อกี้พี่รู้สึกอย่างนี้ๆ นะ พอมันมีการคอมเมนท์ที่มันเกิดขึ้นจริง เราก็ปรับให้ดีขึ้นได้ เพราะว่ายังไง สุดท้ายแล้วก็เพื่อละครที่ดีที่สุด เพื่อให้คนดูสนุกที่สุด”

ละครดังไกลไปถึงเมืองจีนและประเทศเพื่อนบ้านเลยนะ

ต่อ: พอละครออนแอร์ฟีดแบ็กมันก็ดีเกินที่เราคาดไว้มากๆ อได้ออกไปประเทศจีนและยังมีอีกหลายประเทศเพื่อนบ้าน รู้สึกว่ายิ่งเกินคาดมากขึ้นไปอีก มีแฟนต่างประเทศมาติดตามผลงาน ดูละคร ในฐานะนักแสดงเราก็ดีใจ 

อย่างให้เล่าซีนเด็ดประทับใจให้ฟังนิดนึงคะ

เฟิร์น:     มีอยู่ 2 พาร์ทที่ชอบ คือเวลาเล่นกับคุณพ่อ (พี่ต้อม-พลวัฒน์) พี่ต้อมเล่นเป็นพ่อได้จนหนูเชื่อว่าเขาเป็นพ่อจริงๆ ตอนเล่นด้วยกัน สิ่งที่เขาส่งมาคือความรัก ความห่วงใยจากพ่อคนหนึ่งจริงๆ เล่นกับพี่ต้อมแล้วรู้สึกสบายใจทุกครั้งเลยค่ะ (ยิ้ม)

“อีกพาร์ทที่สำคัญคงเป็นซีนกับพี่ต่อนี่แหละค่ะ ส่วนใหญ่เวลาเจอกับพี่ต่อหลังๆ คนดูจะไม่เห็นความอมยิ้มเท่าไรหรอก เพราะเจอกันด้วยอารมณ์ ดราม่า ปะทะกัน ต่างคนต่างมีเหตุผลของกันและกัน มันมีซีนที่เหมือนเราจะตัดใจจากเขาต่อหน้า แต่ในใจรักเขามาก แล้วซีนนั้นเหมือนหนูเล่นไม่ได้ ผู้กำกับเข้ามาบอกว่า เหมือนไม่รักกันเลยอะ แล้วอยู่ๆ อีกเทคหนึ่งถัดมา อารมณ์มันมาจากไหนไม่รู้ เราก็กระโดดไปหาเขา เขาก็กระโดดมาหาเรา มันเลยเป็นซีนที่เฟิร์นรู้สึกว่า มันอิมแพคมากค่ะ”

เฟิร์น:     “มันมีซีนที่พระเอกกับนางเอกจูบกันครั้งที่สอง ก็คือฉากตกน้ำแล้วตบจูบๆ คือครั้งแรกมันเป็นจูบที่น่ารักมากๆ แต่ครั้งที่สองตอนที่ถ่ายมันมีปัญหา จนต้องยกกอง คือเราซ้อมกันหนักมาก เพื่อจะตกน้ำให้ธรรมชาติแล้วโอเค แล้วผมทำเฟิร์นตกน้ำก่อนถ่ายจริง

ตอนนั้นเราเหลือเวลาถ่ายอีกประมาณ 15 นาที แต่ไม่มีเสื้อผ้าชุดที่สอง สรุปวันนั้นไม่ได้ถ่ายฉากตกน้ำ มันเป็นอุบัติเหตุที่เราไม่ได้ตั้งใจ เป็นภาพฝังใจผมมาก เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ว่า เต็มที่เวลาซ้อมน่ะใช่ แต่ต้องมีสติด้วย ตอนนั้นเราซ้อมๆๆ จนเผลอเล่นจริง แล้วก็พลาดก่อนเขาสั่งแอ็คชั่น แต่พอออนแอร์ มันเป็นอีกหนึ่งซีนที่คนดูอินมากครับ

ต่อ: “มีอีกซีนที่ศิลาต้องไปง้อนางเอก มันเป็นมันมุมง้อที่เหมือนจะไม่ง้อ อันนี้เป็นซีนที่ดีไซน์กันเอง ถ้าตัดมาแล้วได้ใช้แบบที่ดีไซน์กันจริงๆ อะ โคตรน่ารักเลย น่ารักอะไรขนาดน้านนน ขนาดผมเล่นเองยังต้องกลั้นขำอะ แม้ละครเรื่องนี้มีซีนดราม่าเยอะมาก แต่พอน่ารัก ก็สุดนะ ซึ่งผมจะไม่ยอมปล่อยผ่านไปแน่ๆ แล้วขอขายหน่อยครับว่า ซีนนี้ผมคิดได้ตรงนั้นพอดี ผู้กำกับไม่ได้บรีฟ เล่นเองเลย”

เฟิร์น:    “เฟิร์นคิดว่าบางคนก็อาจจะรู้แล้วว่าหัวใจศิลาเวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ อาจจะเดาได้แล้วว่าเรื่องเป็นยังไง แต่เฟิร์นขอบอก บางอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ขนาดนักแสดงเองก็ยังลุ้นอยู่ว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบไหน เพราะตอนนี้เรื่องมันก็ขยายไปเยอะมาก คิดว่าน่าจะเซอร์ไพร้ส์แฟนๆ ได้ดี เพราะแค่ฉากเปิดตัว เฟิร์นว่าคนดูน่าจะรู้สึกแล้วแหละว่ามันต่างกันมาก เพราะฉะนั้นก็อยากให้เปิดใจรับเวอร์ชั่นใหม่ อยากให้ดูกัน ฟินจิ้น มัน เชือดเฉือนแน่นอนค่ะ”

ต่อ:         “กว่าบทสัมภาษณ์นี้จะออก ละครก็น่าดำเนินมาครึ่งค่อนเรื่องแล้ว ขอบคุณทุกกระแสตอบรับ เพิ่งเข้าใจว่าละครเรตติ้งที่ขึ้นเรื่อยๆ มันภูมิใจ มันหายเหนื่อย ยังไงก็ขอฝากหัวใจศิลา ทุกวันจันทร์-อังคาร 21.20 น. ก็จะยังคงคุณภาพและความเข้มข้นต่อไปเรื่อยๆ ก็อยากให้ช่วยให้กำลังใจพวกเรา อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนนะครับ”

Text: AuAi Photo: Sudsapda

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ต่อ-ธนภพ กับชีวิตหลังเป็นพี่ยิม ผมฆ่าไผ่-ฮอร์โมนได้แล้ว

ต่อ-ธนภพ ผู้ชายคนนี้เป็นได้หลายบทบาท

 

สุดสัปดาห์

keyboard_arrow_up