เป็นอีกหนึ่งละครรีเมคที่ถูกจับตามอง และลุ้นกันว่าใครจะมาเป็นพระเอกของเรื่อง จนกระทั่งรู้ข่าวว่าพระเอกของเรื่องคือ ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร ผู้ซึ่งมีพัฒนาการทางแสดงพีคขึ้นเรื่อยๆ เมื่อละครออนแอร์ ธนภพกับการขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวครั้งแรก ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ งานนี้อินเนอร์มาเต็ม ทั้งแอ็คติ้ง สีหน้า แววตา และเมื่อไรที่มีซีนกับนางเอกน้องใหม่ เฟิร์น-นพจิรา ฤกษ์ขจรนามกุล บอกเลยว่าในความตบจูบ และปะทะคารมนั้น มีความฟินสูงมาก แถมละครเรื่องนี้ก็ดังไกลไปถึงเมืองจีนเลยทีเดียว
ต่อ-เฟิร์นทุ่มสุดตัวในหัวใจศิลา
บทและคาแร็คเตอร์หนักหน่วงมากเรื่องนี้
ต่อ: “ถ้าให้เล่าให้เข้าใจง่ายๆ คือ “ศิลา” เป็นเด็กมีปม โดนทารุณกรรมทั้งร่างกายทั้งจิตใจมาตั้งแต่เด็ก เหมือนเกิดมาผิดที่ เพราะแม่เป็นภรรยาน้อย เลยได้รับการปฏิบัติในวัยเด็กไม่เหมือนคนทั่วไป พอเป็นลูกบ้านเล็กบ้านน้อย มาอยู่บ้านเดียวกับเมียหลวง ก็โดนกดขี่ รังแก จนรุนแรงไปถึงจุดศิลาที่โดนฆ่า แต่ดันรอด มันคือความเจ็บที่ไม่มีใครเข้าใจศิลา”
เฟิร์น: “เรื่องนี้เฟิร์นรับบทเป็น “มินตรา” เป็นลูกของผู้หญิงคนหนึ่งในบ้าน ซึ่งพ่อก็รับมาเลี้ยง เราก็เลยได้อยู่แม่ไม่แท้และพี่สาวต่างแม่ ประมาณว่าในเรื่องจะมีความเป็นลูกรักลูกชัง แต่เราก็รักครอบครัวนี้ ต่อสถานการณ์พลิกผัน ครอบครัวเราลำบาก ก็กลายเป็นมินตราที่ดูแลทุกคน มินตราเป็นคนที่คิดบวก รั ไม่ว่าตัวเองจะต้องเสียใจหรือต้องเหนื่อยแค่ไหน แต่ขอแค่ครอบครัวมีความสุขก็พอ”
เรียกว่าเป็นความท้าทายใหม่ในการแสดงเลยมั้ยคะ
เฟิร์น: “มากๆ เลยค่ะ เฟิร์นเล่นละครกับช่อง ONE เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 4 แล้วค่ะ ซึ่งถ้าเทียบกับคนอื่นถือว่าเรายังใหม่ ตอนแรกพอรู้ว่าจะได้เล่นเรื่องนี้ เฟิร์นก็ตื่นเต้น และกดดันมาก เพราะเรื่องนี้เราได้เจอนักแสดงที่มีฝีมือมาก อย่างต่อ-ธนภพ เขาก็มีรางวัลการันตีอยู่แล้ว พี่นุ่น-ศิรพันธ์ พี่แอน-สิเรียม นี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เราเป็นน้องใหม่ที่ได้รับโอกาสที่ดีมาก ในความกดดันนั้นเราคิดเลยว่า ต้องไม่เป็นจุดบอดหรือเป็นตัวถ่วงในละครเรื่องนี้เด็ดขาด
ต่อ: “การที่จะเล่าเรื่องเจาะเข้าไปในชีวิตคนที่มีปมเบอร์นั้น มันเข้มข้นมากๆ ต้องทำการบ้านหนักครับ กว่าจะได้สายตาของศิลาที่หลายๆ คนเห็นแล้วก็พูดถึงว่า “แค้นอะไรขนาดนั้น…” มันต้องเล่นข้างใน มันอึดอัด เหมือนพร้อมระเบิด แต่ว่าเราต้องเล่นเป็นระเบิดที่ต้องรอจังหวะ บทนี้เหนื่อยและโหดมากจริงๆ
“แรกๆ ก็ดราม่ามากจนติดมาในชีวิตประจำวัน มันยังปล่อยไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็พยายามปล่อย ไม่งั้นจะทรมานตัวเอง ตอนนี้ผมต้องพยายามหาจุดที่พอคัทปั๊บ ชิลล์ เพราะละครมันไม่เหมือนซีรี่ส์ ซีรี่ส์ถ่ายวันนึงไม่ถึง 10 ซีน ละครคือเป็นสองเท่า แล้ววันไหนที่เราโดนดราม่าเยอะๆแล้วคัทตัวเองไม่ได้ เราจะแย่ เลยเป็นสาเหตุที่พยายามต้องเข้าไวออกไว เล่นเสร็จคือจบ
“เอาจริงๆ ต้องนับเป็นละครเรื่องแรก ที่ได้รับความเชื่อใจให้แบกทั้งเส้นเรื่อง รู้สึกภูมิใจ ฟีดแบ็กมันยังไม่ถึงกับดีเว่อร์วัง แต่ผมพอใจกับสิ่งที่ออกมา แฮ็ปปี้มาก และพอเรามาลุยละครเยอะขึ้น คนติดตามเรามากขึ้นจริงๆ ผมเลยรู้ซึ้งถึงคำหนึ่งที่ ผู้บริหารช่อง ONE เคยพูดกับผมว่า ‘ต่อ welcome to the real world’ คือมัน Real World จริงๆ นะครับ พอละครออนแอร์ปั๊บ เรารู้สึกเลยว่านี่คือโลกความเป็นจริง มันกว้างกว่าโลกที่เราเคยอยู่อีก ปกติเราจะทำงานแบบที่เรารู้ว่าทำให้ใครดู แต่อันนี้ เราไม่รู้ว่าใครจะยอมดูบ้าง มันต่างกัน รีแอคชั่นของคนดูก็ต่างกัน รู้สึกดีสุดๆ คือทำให้คนดูเชื่อได้ในความเป็นศิลาของเราได้”
“พูดแล้วคนจะไม่เชื่อเลยว่า เรื่องนี้ผมมีการพูดคุยกับพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) มา 4 ปีแล้ว ด้วยพล็อตเรื่องที่มันยังไม่ลงตัว แล้วก็ด้วยตารางงานของผมเอง 4 ปีที่เราเคยคุยกันว่าเราจะทำละครบางอย่างที่เป็นโทนแบบนี้ แต่มันยังไม่ลงล็อก จนสุดท้ายแล้ว ปีนี้แหละที่เรามาถ่ายทำเป็นปีที่ 4 ของการคุยกัน ด้วยจังหวะหลายๆ อย่างถึงเวลา เลือดข้นฯ ช่วยส่งผมด้วยแหละ ส่งผมทำให้ผมรู้สึกโตขึ้น แล้วครั้งนี้มันจะโตขึ้นอีก ผมเลยรู้สึกว่า เราอยากชาเลนจ์ตัวเองไปอีกระดับ”
ศิลา VS ธนภพ เหมือนและต่างกันอย่างไร
ต่อ: “ศิลาค่อนข้างมีความเหมือนธนภพมาก หนึ่งคือความตรง ศิลาไม่ใช่คนที่พร้อมจะเก็บ สองคือ เกลียดใครแล้วผมเกลียดเลย รักใครแล้วผมรักจริงๆ ไม่ว่าเขาจะทำผิดผมก็รัก แต่ถ้าผมเกลียดใครแล้วผมเกลียดจริงๆ เลยนะ แล้วก็เรื่องความรักครอบครัว คือศิลาเหลือน้าแหม่มคนเดียวในชีวิต นี่คือหัวใจของเรา ห้ามแตะ เดี๋ยวมันจะมีซีนที่น้าเราโดนแตะ จะได้เห็นว่าศิลาจะทำอะไร
“อีกจุดที่เหมือนศิลาคือ เป็นคนแข็งนอกอ่อนใน ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนอ่อนไหวมากๆ คนหนึ่งเลย แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้ชาย แล้วก็ด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่ทุกวันนี้เราเป็น มันมีหลายๆ จุดที่ทำให้ต้องเข้มแข็ง แต่ธนภพไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นนะเหมือนศิลานะ ธนภพเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วครับ (หัวเราะ)”
มินตรา VS นพจิรา เหมือนและต่างกันอย่างไร
เฟิร์น: “มินตราเหมือนเฟิร์นมากตรงที่รักครอบครัว เฟิร์นเข้าใจตัวมินตรามากๆ บางคนอาจจะรู้สึกว่าทำไมคนคนหนึ่งถึงยอมถูกกระทำขนาดนี้ แต่เฟิร์นรู้สึกว่า มินตราเขาแค่ต้องการความรักสักหน่อย อยากได้รับสนใจสักนิดจากคนที่เป็นแม่ ถึงไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่มินตราก็รักในบุญคุณ แล้วเรารู้สึกว่ามันตรงกับเฟิร์น คำว่า ‘ครอบครัว’ มันยิ่งใหญ่ เราทำทุกอย่างได้เพื่อครอบครัว ความอดทน และยอมไม่ได้ที่ครอบครัวจะต้องไปเสี่ยงกับคนที่ไม่ดี
“ส่วนที่ไม่เหมือน น่าจะเป็นตัวมินตราเป็นคนคิดมากค่ะ ด้วยความที่มินตราต้องรับผิดชอบกับครอบครัว เขาเลยต้องเป็นผู้นำ เวลาอ่านบท เราจะอ่านด้วยความเป็นเราก่อน แล้วค่อยอ่านด้วยความเป็นตัวละคร บางอย่างเฟิร์นก็รู้สึกว่า ถ้าเป็นเฟิร์น เฟิร์นก็คงไม่ทน ไม่ยอม แต่สำหรับมินตราจิตใจเขาดี ใจกว้าง เขาสามารถให้อภัย เขาคิดบวกจริงๆ”
อ่านต่อหน้าถัดไป