ศิลปินสาวเจ้าเสน่ห์กับรอยยิ้มสะกดทุกสายตา “ทิฟฟานี่ ยัง” ( Tiffany Young ) กลับมาพร้อมก้าวใหม่ที่ท้าทายในฐานะศิลปินเดี่ยวระดับอินเตอร์ ซึ่งถ้าใครที่ได้ฟังผลงานเพลงใหม่ของเธอแล้วต้องยกนิ้วให้ในความเป็นมืออาชีพ เรียกว่าคัมแบ็กคราวนี้ทิฟฟานี่มาครบทั้งความสวยเป๊ะและความสามารถสุดปังจริงๆ
ไม่นานมานี้ทิฟฟานี่เพิ่งบินตรงข้ามทวีปจากอเมริกามาประเทศไทยตามคำเชิญของบริษัท เฟโอห์ จำกัด ซึ่งจับมือกับต้นสังกัด Transparent Arts สหรัฐอเมริกา ลงคิวตารางทัวร์จัดงาน “ทิฟฟานี่ ยัง เอเชีย แฟน มีตติ้ง ทัวร์ อิน แบงคอก 2018” งานนี้ประทับใจทั้งศิลปินและแฟนคลับ ก่อนเดินทางกลับทิฟฟานี่มีเวลาช่วงสั้นๆ ให้สุดสัปดาห์ ได้อัพเดตชีวิตที่แอลเอและผลงานใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยว บอกเลยว่า ไม่ว่าเธอจะเป็น”ทิฟฟานี่ ยัง” หรือ “ทิฟฟานี่ เกิร์ลสเจเนอเรชั่น” สิ่งหนึ่งที่ยังมีอยู่ในตัวผู้หญิงคนนี้คือ ความทุ่มเทกับทุกงาน ทุกโอกาสที่เข้ามา รวมถึงความน่ารักและเป็นกันเองที่ยังคงมีอยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยน
“ฉันมาเมืองไทยหลายครั้งแล้วค่ะ แต่ครั้งนี้มาคนเดียวในฐานะศิลปินเดี่ยว รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเป็นการกลับมาทำการแสดงครั้งแรกหลังจากที่ ฉันห่างจากการแสดงบนเวทีมากกว่า 1 ปี และที่สำคัญคือ ฉันได้ร้องเพลงที่ตัวเองเขียนด้วย (ยิ้ม) ฉันคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองไทยเลยค่ะ คิดถึงมากที่สุดคือแฟนเพลง การที่ได้อยู่ในฮอลล์ที่เต็มไปด้วยแฟนๆ ที่รอคอยจะได้ชมการแสดงของฉันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมาก ยิ่งแฟนๆ ทำแฟนโปรเจ็กต์ที่เป็นวิดีโอให้ชมในงาน ฉันดูแล้วยิ่งเข้าใจและรับรู้ได้ถึงความรักที่แฟนๆ มีให้ ทำให้รู้ว่ามีคนที่รักและรอฉันกลับมา รอชมการแสดงของฉัน และรอฟังเพลงของฉันเยอะมากจริงๆ”

สมกับการรอคอยกับ ทิฟฟานี่ ยัง เอเชีย แฟน มีตติ้ง ทัวร์ อิน แบงคอก 2018 บอกเลยงานนี้แฟนๆ ของสาวทิฟฟานี่ต่างฟินกันไปอีกนาน
“งานนี้ทั้งฉันและทีมงานช่วยกันเพื่อทำให้โชว์นี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เพื่ออยากให้คนที่รักฉันประทับใจ ซึ่งก็คือแฟนๆ ที่เปรียบเสมือนครอบครัวของฉัน ในงานคืนนั้นฉันรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ถูกรักมากๆ ฉันตื่นเต้นและมีความสุขที่ได้เห็นแฟนๆ มีความสุขไปกับฉัน (สุดสัปดาห์ : เห็นว่าคุณร้องไห้เลย) ใช่ค่ะ ตื่นเช้ามาฉันนั่งดูวิดีโอคลิปบรรยากาศงานแฟนโปรเจ็กต์ที่แฟนคลับทำให้ ฉันรู้สึกดีที่หลังจากเสร็จงานแล้วฉันกลับไปพร้อมความรักและความเข้มแข็ง ตอนที่ฉันอยู่แอลเอหากต้องเจอเรื่องเสียใจหรือไม่สบายใจ ฉันจะย้อนกลับมามองภาพที่น่าจดจำในวันนั้น เพื่อเป็นกำลังใจให้ฉันเข้มแข็งและมีแรงก้าวต่อไป”
เริ่มใหม่จากศูนย์กับการกลับไปเป็นศิลปินฝึกหัดอีกครั้ง
“ทุกอย่างมักจะยากในช่วงเริ่มแรก ฉันใช้เวลากว่า 2 ปีที่จะเป็นศิลปินเดี่ยวได้ ไปออดิชั่นด้วยตนเอง ชีวิตที่แอลเอกับเกาหลีแน่นอนว่าต่างกันอยู่แล้ว พอเกิร์ลสเจเนอเรชั่นจบการโปรโมต ฉันก็บินกลับแอลเอเพื่อเตรียมตัวเข้าโรงเรียน กลับไปใช้ชีวิตเป็นศิลปินฝึกหัดอีกครั้ง ฉันเข้าคลาสตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงบ่ายโมง เสร็จแล้วก็ซ้อม สำหรับการเดบิวต์เป็นศิลปินสากลของฉันเพิ่งเริ่มต้นได้ 3 เดือนเท่านั้น เมื่อก่อนฉันจะอยู่เบื้องหน้าซะเยอะ อยู่บนเวที ถ่ายแฟชั่น แต่ตอนนี้มีโอกาสได้ทำเบื้องหลังด้วย เริ่มจากขั้นตอนการผลิตก่อน ฉันคอนโทรลทุกอย่างด้วยตนเอง สร้างสรรค์งานใหม่ในฐานะ ทิฟฟานี่ ยัง”
เพลงแรกที่ร้องและแต่งเอง
“Over My Skin คือเพลงแรกของการเป็นศิลปินเดี่ยวของฉัน และเป็นครั้งแรกที่ฉันมีเพลงที่เขียนเอง เลยยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมาก เพลงนี้พูดถึงการที่เรารู้สึกดีกับตัวเอง ทำอะไรที่ตัวเองพอใจ และเป็นตัวเองมากที่สุด เพลงนี้ฉันใช้เวลาทำงานประมาณ 8 เดือน เป็นการทำงานที่รู้สึกสนุก สบาย ผ่อนคลาย ฉันสามารถถ่ายทอดความเป็นตัวเองมากกว่าที่เคยทำมา รู้สึกว่าเป็นงานของฉันจริงๆ ส่วนเพลง Teach You ออกมาเป็นเพลงที่ 2 ซึ่งเพลงนี้ฉันทำงานร่วมกับแคมเปญของแบรนด์ H&M ถ้าจำกันได้ในเพลง Over My Skin คาแร็กเตอร์ในเอ็มวีฉันเป็น Professor T เป็นคอนเซ็ปต์เหมือนฉันได้สอน แต่ Teach You เป็นเพลงที่พูดถึงอาการอกหัก ตัว Professor T จึงกลับมาอีกครั้ง ทำนองว่าฉันจะสอนเธอนะว่าต้องดูแลฉันยังไง ปฎิบัติกับฉันยังไง”
Girls’ Generation Forever
“ไม่ว่าอย่างไรฉันก็ยังคงเป็นทิฟฟานี่ เกิร์ลสเจเนอเรชั่น ฉันไม่สามารถลบความเป็นเกิร์ลสเจเนอเรชั่นออกไปจากตัวฉันได้ แม้ว่าวันนี้ฉันจะไม่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวงแล้ว แต่ Girls’ Generation คือครอบครัวที่ฉันรักและผูกพัน เพื่อนๆ ทุกคนคอยให้กำลังใจและซัพพอร์ตฉันอยู่ตลอด เวลาที่ฉันเหนื่อยก็จะคิดถึงเพื่อนๆ ในวงเป็นคนแรกๆ ถึงแม้จะไม่ได้คุยกันอะไรมาก เพียงแค่ส่ง Emoji เราก็เข้าใจกันแล้ว (ยิ้ม) ”
“ถามว่าจะเรียกแฟนคลับของ Tiffany young ว่าอย่างไรดี ฉันขอเสนอชื่อ ‘YOUNG ONE’ เพราะว่าพ้องกับชื่อของฉัน และออกเสียงคล้ายกับภาษาเกาหลีว่า ‘ยองวอน’ ความหมายลึกซึ้งและโรแมนติกดีค่ะ ที่ผ่านมาแฟนๆ คอยให้กำลังใจตลอด ตอนนี้หัวใจของฉันเต็มไปด้วยความสุข จึงอยากขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ สัญญาว่าจะกลับมาประเทศไทยอีกแน่นอน เพราะฉันรักชาวไทยค่ะ”