เป็นอีกหนึ่งลูกดาราที่เดินตามรอยเท้าคุณพ่อคุณแม่ สำหรับ น้องณิริน ลูกสาว แม่หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ที่ดูจะมีความถนัดและมีใจรักในงานสายบันเทิงพอตัว ตัวแค่นี้ผ่านมาหมดแล้ว ทั้งงานร้องเพลง งานรีวิวสินค้า งานอีเว้นท์ และล่าสุดก็งานแสดงในละคร ระบำมาร ของคุณแม่ (ออนแอร์ 22 สิงหาคม 2561 ทางช่อง 7 HD)
สุดสัปดาห์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์น้องณิรินกับแม่หนิงถึงงานในวงการบันเทิง และวิธีคิด การใช้ชีวิต และการดูแลลูกสาวสุดที่รัก ในฐานะครอบครัวที่เป็นที่รู้จัก …ลองอ่านดูแล้วจะรู้ว่า แม่หนิงเลี้ยงลูกให้เผชิญความจริง ไม่ใช่ไข่ในหินอย่างที่คิด!
- คุณหนิงแบ่งเวลาอย่างไรในการดูแลครอบครัวและรับงาน
“จริงๆ มันดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายแต่เวลาทำจริงๆ ค่อนข้างยากค่ะ เวลามีงานเข้ามา ต้องแพลนเป็นอาทิตย์ไว้ล่วงหน้า จัดลำดับความสำคัญ ว่าอะไรมาก่อน-หลัง แต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในตอนนี้เลยก็คือลูก ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยความที่เค้าอยู่ในวัยเรียนรู้และจดจำ จึงอยากให้เค้าใกล้ตัวและติดตัวเรามากที่สุด มีอะไรต้องอธิบายกันให้เข้าใจ
“ในการรับงานจะบอกข้อจำกัดของเราว่าเป็นแบบนี้นะ เพื่อให้เข้าใจกันตั้งแต่แรก ถ้ารับได้เราก็เต็มที่เลยค่ะ”
- ทำไมยอมให้น้องรับงานแสดงเรื่อง ระบำมาร คะ
“ตอนแรกที่หนิงทำแคสติ้งตัวละครนี้ พี่โน่ (นีโน่ เมทนี บุรณศิริ) เองก็พูดเสียงแข็งว่า ไม่ให้หลานเล่นละครเด็ดขาด ทำงานก็รับเป็นจ็อบๆ ไป อย่าเข้าวงการเป็นเรื่องเป็นราว แต่หลานเนี่ยวิ่งไปขอลุงเองว่า ‘ลุงโน่ เนี่ยคุณแม่เค้าไม่ให้หนูเล่นแล้ว หนูจะเล่นเรื่องนี้ หนูเล่นได้นะ’ แล้วพี่โน่ก็ไม่ได้ถามเรา ก็ไปรับปากเสร็จสรรพ แล้วน้องเป็นเด็กที่จำ แล้วลุงโน่ก็ถามว่าร้องไห้เป็นมั้ย เพราะเรื่องมันจะดราม่ามากในช่วงท้ายๆ น้องก็มาบอกว่า ‘แม่ถ่ายคลิปไปให้ลุงโน่หน่อยนะ ว่าหนูทำได้’ แต่ตอนนั้นก็ยังก๊องแก๊ง ก็เลยแบบ…เล่นก็เล่นค่ะ” (หัวเราะ)
- น้องณิรินเคยรู้บทบาทการเป็นนักแสดงของคุณแม่มาก่อนไหม
แม่หนิง : “หนิงไม่แน่ใจว่าคำว่านักแสดงในความรู้สึกของเค้าคืออะไร แต่เค้ารู้แค่ว่าเวลาไปไหนมาไหนหนิงจะสอนเค้าตั้งแต่เด็กๆ ว่า ‘ณิริน เวลาหนูไปไหนมาไหนเนี่ย คนรู้จักคุณแม่นะ เพราะฉะนั้นเวลาใครทักทายคุณแม่แล้วเค้าทักทายหนู อยากถ่ายรูปหนู หนูต้องเป็นมิตรกับเค้าด้วยนะ เพราะถ้าเราไม่ให้เค้าถ่ายรูป เค้าก็จะเสียใจนะ แล้วน้องณิรินเองก็ไม่อยากเสียใจใช่มั้ยคะ’ อันนี้หนิงเลยไม่แน่ใจว่าน้องรู้มั้ย”
ณิริน : “หนูไม่รู้ค่ะ คุณแม่ไม่ให้หนูดูละคร แต่หนูอยากให้คุณแม่เป็นนักแสดง เพราะจะได้มีแฟนคลับตามคุณแม่แล้วเค้าก็จะได้มารู้จักหนู”
แม่หนิง : “พอรู้ว่าคุณแม่เป็นนักแสดง หนูชอบที่คุณแม่เป็นมั้ยคะ แล้วณิรินรู้มั้ยคุณแม่เป็นตัวร้าย หรือเป็นนางเอก”
ณิริน : “ชอบที่คุณแม่เป็นนักแสดงค่ะ คุณแม่เป็นนางเอกค่ะ”
- พอมาทำงานละครจริงน้องเป็นอย่างไรบ้างคะ มีงอแงประสาเด็กไหม คุณแม่มีวิธีอธิบายอย่างไร
แม่หนิง : “โชคดีมากที่ในกองละครระบำมาร ณิริน เค้าจะมีคู่หูคือ แบงค์ อาทิตย์ น้องแบงค์ก็จะทำตัวเป็นเบบี๋หนักยิ่งกว่านี้ณิริน คือเวลาที่ณิรินเค้าจะงอแง มันต้องใช้จิตวิทยากับเด็กสูงพอสมควร ถ้าเรายิ่งดุ จะยิ่งทำให้เค้ายิ่งเซ็ง และไม่ยอมทำงาน
“เราก็จะเริ่มด้วยการอธิบายว่าณิรินเป็นคนขอเล่นเองนะคะ ฉะนั้นถ้าณิรินกลับบ้านหรืองอแง เท่ากับงานคุณแม่เสีย คนอื่นก็จะว่า จะตำหนิคุณแม่ แล้วคุณแม่ก็จะโดนดุนะคะ คุณแม่ก็มีเจ้านายอีกที อาจจะได้ผลนะคะ แต่กับเด็กก็จะได้แค่แป๊บเดียว พอเริ่มงอแงอีก น้องแบงค์ก็จะคอยงอแงบ้าง จะกลับบ้านบ้าง ณิรินก็จะหันไปพูดกับน้าแบงค์ว่า ‘ไม่ได้นะคะน้าแบงค์ เราต้องมีความรับผิดชอบ’ เหมือนกับว่าเราต้องข้ามไปดุแบงค์แทน เค้าก็จะเห็น แล้วก็จะไม่ทำแบบนั้น แล้วพอเวลาเราเริ่มรู้ว่าเค้าจะงอแง ทุกคนในกองก็จะคอยงอแง ณิรินก็จะคอยบอกทุกคนว่า ‘ไม่ได้ค่ะ ต้องมีความรับผิดชอบนะคะ’ ทำให้งานผ่านไปได้ดีค่ะ” (หัวเราะ)
แม่หนิงหันมาถามณิริน : “ความรับผิดชอบคืออะไรคะลูก”
ณิริน : “ต้องมีความรับผิดชอบค่ะ มันแปลว่าอะไรคะ”
แม่หนิง : “ความรับผิดชอบคือต้องทำงานให้เสร็จใช่มั้ยคะ”
ณิริน : “ใชค่ะ ถึงจะกลับบ้านได้ค่ะ”
แม่หนิง : “ณิรินขอเล่นเองใช่มั้ยคะ ณิรินก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ”
- มีเรื่องน่ารักๆ ขำๆ ในกองถ่ายมาเล่าให้ฟังไหมคะ
แม่หนิง : “มันจะมีฉากช่วงแรกๆ ที่เค้าต้องเล่นแล้วตกบันได แล้วเด็กต้องร้องไห้ เค้าก็ไม่รู้หรอกว่า ตกบันไดจริงๆ ทำยังไง เวลาเราถ่ายเราก็จะใช้เทคนิคในการถ่าย เก็บเฟรมขาก่อน แล้วก็รับตรงหน้าแล้วร้องไห้ เค้าก็ไม่ร้อง ก็เลยต้องให้เราเดินมาแล้วทำเป็นดุเค้า เราก็แบบสงสารลูกมาก …เนี่ยคือเหตุผลที่ไม่อยากให้เค้าเล่น (คุณหนิงหันมาบ่นกับเรา) แต่พอใช้วิธีแบบนี้ซ้ำอีกเทปนึง เค้าก็เริ่มรู้แนวแล้วว่าแม่ได้ไม่ได้ดุเค้าจริงๆ เป็นแค่การแสดง” (หัวเราะ)
ณิริน : “หนูแกล้งน้าแบงค์คนเดียวค่ะ ตอนน้าแบงค์นอน หนูก็เอาลูกอมไปหยอดใส่ปากน้าแบงค์ พอน้าแบงค์ก็ลุกขึ้นมา แล้วหนูก็วิ่งไปนั่งที่ แกล้งบ่อยเลยค่ะ”
- คุณแม่หนิงมองว่าน้องชอบงานประเภทไหนมากที่สุดคะ ดูจากอะไร
แม่หนิง : “หนิงว่าเค้าชอบร้องเพลง เพราะเดี๋ยวเค้าจะมีโอกาสไปร่วมในแคมเปญของ Sing your face off ที่นำเงินไปช่วยมูลนิธิเด็ก งานนั้นเค้าดูมีความสุขมาก แล้วเรียนรู้ได้เร็ว และหนิงมองว่ามันสอนให้เค้ารู้จักนำความสามารถของตัวเองมาทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆ ด้วยค่ะ”
ณิริน : “หนูชอบรีวิวค่ะ รีวิวเครื่องสำอาง กับรีวิวอย่างอื่น มันสนุกค่ะ มันมีกิจกรรมให้เด็กๆ ทำ แล้วคุณแม่ก็บอกว่าให้รีวิวเองเพราะว่าคุณแม่อยากให้หนูทำกิจกรรมแบบไม่ต้องดูโทรศัพท์ เล่นเกม ดูทีวีค่ะ”
แม่หนิง : “เวลาอยู่ด้วยกัน 2 คน หนิงจะไม่ค่อยให้เล่นเกม ดูโทรศัพท์ ดูทีวี ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องหากิจกรรมที่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนเยอะๆ แล้วเค้าไปทำงานกับเรา เค้าก็จะเห็นบางทีเรารีวิว เราเป็นพีธีกร เค้าก็จะ copy ตามเรา เราก็ถ่ายวีดีโอเอาไว้ แล้วเค้าก็จะชอบ มันเป็นอะไรที่สนุก เล่นกันอยู่สองคน ในขณะที่เค้าได้ทำกิจกรรมเหล่านี้เนี่ย สิ่งหนึ่งที่ได้คือ ให้เด็กแสดงความเป็นธรรมชาติของตัวเด็กออกมาให้มากที่สุด แล้วสอนเค้าจากความเป็นธรรมชาติ คือสมมติว่าถ้าเค้าจะพูดจาไม่ดีก็ต้องให้พูดออกมา แล้วสอนให้รู้ว่าผลของมันคืออะไร หนิงจะใช้วิธีสอนลูกแบบนี้ คือจะไม่ไปบอกว่า อันนี้ห้าม อันโน้นห้าม อยากรู้ว่าหม้อร้อนๆ เป็นยังไงให้จิ้มเลย จะได้รู้ว่าร้อนมันเป็นยังไง”
- พอน้องณิรินได้มาเล่นละครครั้งแรกกับคุณแม่ เป็นอย่างไรบ้างคะ
“สนุกค่ะ ไม่ยากค่ะ หนูต้องฝึกร้องไห้ ต้องทำสมาธิก่อนแล้วก็คิดว่าเราอยู่ที่น่ากลัว คุณครูบอกว่าพอร้องไห้เสร็จแล้วก็ต้องคิดต่อ คุณครูบอกว่า ถ้าถ่ายอยู่แล้วมันคัทแล้วเราต้อง continue ไว้ก่อน แล้วถ้ามันยังไม่ผ่านก็จะได้ถ่ายอีก จะได้ไม่ต้องมานั่งบิ้วท์ใหม่ค่ะ แต่ถ้าผ่านแล้วหนูก็จะหยุด และต้องคิดว่ามันคือละคร เราต้องดูว่าอันไหนไม่ดี-อันไหนดี ถ้าในละครอันไหนที่ดี ก็นำมาใช้ได้ค่ะ”
- น้องณิรินชอบอะไรหรือชอบใคร ในกองถ่ายมากที่สุดคะ
“หนูชอบน้าโน้ต กับน้าแบงค์ค่ะ เพราะน้าแบงค์ตลก เวลาตอนหนูหลับก็มาถ่ายรูปหนู ส่วนน้าโน้ตเป็นคนบ้าจี้ และฉากที่ยากที่สุดของหนูคือฉากร้องไห้ค่ะ แต่เป็นแค่การแสดงนะคะ หนูไม่ชอบฉากร้องไห้เพราะทำให้ตาบวม มันไม่สวย หนูอยากน่ารักค่ะ”
ติดตามเคล็ดลับการดูแลตัวเองทั้งทางร่างกายและจิตใจของคุณแม่หนิงได้ที่หน้า 2 ค่ะ