ย้อนวันวาน รัตนโกสินทร์ กับ 3 สถานที่ท่องเที่ยวที่แต่งชุดไทยเที่ยวก็อินได้

ช่วงนี้หลายคนอินกระแสแต่งไทยย้อนยุคเที่ยวอยุธยา แต่อย่าลืมนะว่ากรุงเทพฯ เองก็มีที่เที่ยวให้อินเช่นกัน เมื่อเร็วๆ นี้ สุดฯ ได้ไปร่วมทริป “ย้อนกาลเก่า เล่ารัตนโกสินทร์ อินผ่านวรรณกรรม” กับทาง KTC มา จึงอยากแนะนำ 3 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองกรุงที่น่าสนใจ แถมแต่งชุดไทยไปเที่ยวได้แบบเก๋ๆ #เรื่องเที่ยวเปรี้ยวที่สุดฯ

3 สถานที่ท่องเที่ยวที่แต่งชุดไทยเที่ยวก็อินได้

วัดเบญจมฐพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เดิมชื่อว่า “วัดแหลม” หรือ “วัดไทรทอง” ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงตั้งกองบัญชาการปราบกบฎเจ้าอนุวงศ์ที่วัดแห่งนี้ โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพนมวัน กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ ทรงเป็นแม่ทัพรักษาพระนคร หลังปราปกบฎได้สำเร็จ กรมพระพิพิธโภคภูเบนทร์ พร้อมพระอนุชาและพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาเดียวกันอีก 4 พระองค์ ร่วมกันปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่ ซึ่งต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามใหม่ว่า “วัดเบญจบพิตร” แปลว่าวัดของเจ้านาย 5 พระองค์

ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพระประสงค์จะทรงสร้างพระราชอุทยาน จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดซื้อที่ดินบริเวณทิศเหนืองของพระบรมมหาราชวัง และพระราชทานนามว่า “สวนดุสิต” และโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยที่มีศิลปะวิจิตรงดงามสมที่จะเป็นวัดอยู่ใกล้เขตพระราชฐาน และพระราชทานนามว่า “วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร”

จุดเด่น : วัดแห่งนี้ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี ทำให้เมื่อแดดส่องกระทบก็จะทำให้วัดเป็นสีขาวสว่างโดดเด่น ภายในอุโบสถยังมีองค์พระประธานจำลองมาจากพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพิษณุโลก และมีการใช้กระจกย้อมสีประดับด้านบนของหน้าต่างเป็นลวดลายวิจิตรประณีต ด้านหลังของอุโบสถเป็นระเบียงพระที่เรียงรายด้วยพระพุทธรูปโบราณปางต่างๆ รวม 52 องค์ ทั้งปางประทับนั่งและยืนสลับกันราวกับแกลอรี่

ที่ตั้ง : 69 ถนนนครปฐม ติดคลอง แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300

พิพิธภัณฑ์อาคารสายสุทธานภดล

พิพิธภัณฑ์ที่เคยเป็นตำหนักที่ประทับของ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาลินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา พระอัครชายาในหลวงรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ในสวนสุนันทาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตพระราชฐานชั้นใน เป็นตำหนักก่ออิฐปูนขนาดใหญ่สูง 2 ชั้น มีลักษณะคล้ายเรือนของยุโรป ลักษณะผังอาคารคล้ายรูปตัวแอลสองตัวเรียงต่อกัน ชั้น 1 จะเป็นห้องทำงานข้าหลวง ห้องรับแขก และห้องเสวย ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องบรรทมและห้องพระ ห้องทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยระเบียง และยังมีการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย

จุดเด่น : ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้านายและข้าหลวงในสมัยนั้น และยังมีการจัดแสดงภาพเขียนสีน้ำคุณข้าหลวงที่สวยงามมากอีกด้วย

ที่ตั้ง : สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

เปิดบริการ : ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.30 – 16.00 น. (ถ่ายภาพภายในได้แต่ห้ามเปิดแฟลช และต้องฝากของไว้ที่ล็อกเกอร์)

พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระปกเหล้าเจ้าอยู่หัว

พิพิธภัณฑ์พระมหากษัตริย์แห่งแรกของประเทศไทย เดิมตั้งอยู่ ณ ใต้พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้านหน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งอาคารพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบันนั้น สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2449 ตามพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แล้วเปิดเป็นห้างอังกฤษ “ยอนแซมป์สัน แอนด์ซัน ในเวลาต่อมา หลวงไมตรีวานิช ก็เข้ามาทำการเช่าอาคาร จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “ห้างสุธาดิลก” จนหมดสัญญาลงในปี พ.ศ. 2476 กรมโยธาเทศบาลจึงได้เข้ามาเช่าเป็นที่ทำการของกรม ภายในมีการจัดแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ รวมถึงเหตุการณ์สัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น

จุดเด่น : ภายในพิพิธภัณ์มีการจำลองโรงภาพยนตร์ “ศาลาเฉลิมกรุง” ซึ่งมีการฉายภาพยนตร์ทรงถ่าย ภาพยนตร์ร่วมรัชสมัย และภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย จัดฉายวันละ 2 รอบ เวลา 10.30 และ14.30 น. และมีการจำลองห้องอ่านหนังสือส่วนพระองค์ นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งจะมีการจัดนิทรรศการต่างๆ ตามแต่วาระโอกาส ซึ่งตอนนี้ก็มีนิทรรศการ “แรงบันดาลใจจากหนังสือทรงอ่าน” ใครที่ชื่นชอบการอ่านก็ลองแวะไปเยี่ยมชมกันได้นะ