คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ ยืนหนึ่งเรื่องอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไคเซกิ ต้องลอง!

ดีใจใช่ไหม ช่วงนี้นัดเพื่อนๆ กินข้าวได้แล้ว สุดฯ ขอแนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไคเซกิร้านใหม่ ‘ คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ ‘ ที่จะทำให้นัดแรกกับเพื่อนรัก คนรัก หรือกับครอบครัวที่เรารัก หลังจากคลายล็อกดาวน์นี้น่าประทับใจ จนมีนัดสอง นัดสาม และนัดอีกๆ ตามมาให้เช็คอินซ้ำเรื่อยๆ แน่นวล

ไคเซกิ คืออีกหนึ่งรูปแบบอาหารญี่ปุ่น ที่กำลังถูกพูดถึงกันในแวดวงนักชิมทั่วโลก มีจุดเด่นที่ความประณีตตั้งแต่กระบวนการเตรียมวัตถุดิบตามฤดูกาล ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน แม้ว่าอาหารแต่ละจานจะดูเล็กกะทัดรัด แต่เต็มไปด้วย สีสันและการผสมผสานวัตถุดิบ แม้แต่ภาชนะก็จะสอดคล้องกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่นดั้งเดิม รวมถึงบรรยากาศ ทั้งหมดคือนวลเนียนชวนให้มาลอง ที่ร้าน ‘ คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ ‘ มาๆ สุดฯ จะพาไปทัวร์

Did you Know ?

คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์ นำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบไคเซกิ (ต้นตำรับอาหารชุด) ที่เชฟหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกันผู้นี้นำเสนอในรูปแบบใหม่ หากแต่ยังคงรักษาแก่นแท้ดั้งเดิมของอาหารได้อย่างชาญฉลาด “คินสุกิ” มีความหมายว่า “เชื่อมต่อด้วยทอง” เป็นคำที่อ้างอิงถึงศิลปะการซ่อมแซมเครื่องเคลือบด้วยแล็กเกอร์สีทอง ซึ่งไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมเพื่อปกปิดรอยแตก แต่เป็นการทำให้เครื่องเคลือบนั้นโดดเด่นขึ้นมาด้วยสีทอง เครื่องเคลือบที่ผ่านกระบวนการคินสุกินี้ ได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงาม แม้ว่าจะมีรอยต่อ ซึ่งเชฟแรมซีย์ได้นำความหมายของคินสุกิมาใช้เปรียบเปรยไคเซกิในแบบฉบับของเขา

ร้านสวย นั่งเพลิน

การออกแบบและตกแต่งของที่นี่ เป็นการนำความทันสมัยของห้องอาหารญี่ปุ่นสมัยใหม่ มาผสมผสานกับสไตล์มินิมัล หรือน้อยแต่มาก ผนวกกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แนวรัสติค เผยความสวยงามตามธรรมชาติของวัสดุ โคมไฟแขวนที่เรียงราย และเส้นตรงที่ชัดเจนบนฉากกึ่งโปร่งใส เป็นการออกแบบที่นำความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมมาสู่โลกสมัยใหม่ได้แยบยล ด้านหนึ่งของห้องจะเป็นบริเวณเตรียมอาหารและเคาน์เตอร์พร้อมที่นั่ง นอกจากนั้นยังมีที่นั่งในห้องอาหารหลักและห้องส่วนตัวอีก 2 ห้อง

สำหรับแรงบันดาลใจ อันเป็นที่มาของโลโก้ ที่เป็นรูปใบแปะก๊วยนั้น สื่อความหมายถึงความทนทานและประวัติศาสตร์อันยาวนาน เนื่องจากต้นแปะก๊วยเป็นต้นไม้ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดที่หลงเหลืออยู่หลังสงคราม ต้นแปะก๊วย 4 ต้นที่เติบโตในเมืองฮิโรชิม่า ซึ่งถูกโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูในปี พ.ศ. 2488 แต่ยังคงยืนหยัดอยู่จนได้จนถึงทุกวันนี้ (ซึ่งปี พ.ศ. 2488เป็นปีเกิดของมารดาของเชฟแรมซีย์ด้วย) ในฤดูใบไม้ร่วง ใบสีเขียวของต้นแปะก๊วย จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่าม เมื่อร่วงหล่นจึงทำให้ถนนหลายสายในญี่ปุ่นเสมือนถูกปูด้วยพรมสีทอง ส่วนสีฟ้าของโลโก้นั้น สื่อความหมายถึงท้องทะเลและความเงียบสงบ

Q: อะไรอร่อยบ้าง
A: ทุกสิ่ง!

เชฟแรมซีย์ เป็นเชฟรุ่นที่ 3 ของครอบครัวฝั่งมารดาชาวญี่ปุ่นของเขา อาหารของแรมซีย์นั้น ถึงแม้จะนำเสนอในรูปแบบแปลกใหม่ และทันสมัย หากแต่ยังสามารถคงรสชาติดั้งเดิมไว้ได้อย่างน่าทึ่ง สำหรับเมนูสไตล์ไคเซกิของห้องอาหารคินสุกินี้ เชฟแรมซีย์กล่าวว่า ไคเซกิ คือ ต้นตำรับของเมนูอาหารชุด หรือเทสติ้งเมนู ซึ่งห้องอาหารทั่วโลกต่างนำเสนออาหารในรูปแบบนี้ และเขาหมายมั่นจะรวมกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่เขาเรียนรู้มารวมไว้ที่ไคเซกิ และเนื่องจากเชฟแรมซีย์และภริยาชาวญี่ปุ่นของเขาอาศัยอยู่ทางฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น เมนูของคินสุกิจึงเน้นวัตถุดิบที่มาจากแถบนี้โดยเฉพาะ และนำมาผสมผสานกับวัตถุดิบในประเทศไทย ปรัชญาของคินสุกิ เป็นที่มาของแนวคิดหลักของห้องอาหาร โดยเน้นความสำคัญของการเชื่อมโยงวัฒนธรรมผ่านทางอาหาร

นอกจากการบริการอาหารแบบ อา ลา คาร์ท (ราคาเริ่มต้นที่ 120++ บาท ถึง 840++ บาท) และเซ็ทเมนู ที่มีทั้ง Ito 9 คอร์ส (2488++ บาท) Kin 12 คอร์ส (3788++ บาท) และ Omakase 15 คอร์ส (6388++ บาท) แล้วตอนนี้ก็มีอาหารชุดเมนูใหม่ เพื่อตอบรับการรักษาระยะห่าง แต่อัดแน่นด้วยความอร่อยในราคาเบาๆ ลงไปอีก

คินสุกิ แบงค็อก

เชฟเก่ง (และหล่อ) บอกต่อด้วย

เจฟ แรมซีย์ เกิดที่ประเทศญี่ปุ่น บิดาเป็นนายทหารอากาศชาวอเมริกัน และมารดาเป็นชาวญี่ปุ่น เขาเริ่มเข้าสู่วงการอาหารในปี 2539 โดยเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการล้างจานที่ร้านอาหารเม็กซิกัน ในเมืองเบเธสด้า มลรัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนั้น เขาได้ฝึกงานกับทูตด้านการทำซูชิของประเทศญี่ปุ่นอย่าง มาซาโยชิ คาซาโตะ (Masayoshi Kazato) จนได้รับตำแหน่งซูชิมาสเตอร์คนแรกที่เป็นชาวต่างชาติ จากนั้น เชฟแรมซีย์ได้เบนเข็มจากการเป็นเชฟซูชิ เพื่อหาประสบการณ์และความรู้เพิ่มเติมในด้านเทคนิคมาพัฒนาสไตล์การปรุงอาหารของตัวเอง เขามีโอกาสได้เรียนรู้และฝึกฝนกับเชฟชาวสเปนระดับตำนานอย่างเชฟโฮเซ่ อังเดรส์ (Chef Jose Andres) และเชฟแฟร์รัน อะเดรีย (Chef Ferran Adria) แห่งห้องอาหาร เอล บุยิ (El Bulli) หลังจากนั้น เขาได้รับการคัดเลือกจาก เชฟชาวญี่ปุ่นระดับสุดยอด ฮิเดะ ยามาโมโตะ (Hide Yamamoto) โดยรับบทบาทสำคัญในการเปิด เดอะ โมเลคิวล่า บาร์ เรสเตอรองต์ (The Molecular Bar Restaurant) ในกรุงโตเกียว จนได้รับรางวัลดาวมิชลิน และนั่นทำให้เขาเป็นเชฟชาวอเมริกันคนแรก ที่ได้รับรางวัลระดับมิชลินในต่างประเทศ

ส่วนร้านอาหาร Babe ของเขาในประเทศมาเลเซียนั้นได้รับรางวัลมากมาย และเป็นจุดหมายของบรรดานักชิมที่โปรดปรานอาหารที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ล่าสุด เชฟแรมซีย์ได้รับรางวัล King of Kitchens จาก Hapa Awards series for 2018-2020 แชมเปญแปร์ริเอ-ฌูเอต์ (Perrier-Jouet) และคอนยัคมาร์แตล (Martel) ของมาเลเซีย

‘คินสุกิ แบงค็อก บาย เจฟ แรมซีย์’ ชั้น 3 โรงแรม ดิแอทธินี โฮเต็ล แบงคอก : เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน 12.00 – 14.30 น. มื้อค่ำ 18:00 – 22:30 น. (สั่งอาหารได้ถึงเวลา 22:00 น.)

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02 650 8800 อีเมล [email protected]

หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.marriott.com/hotels/travel/bkkla-the-athenee-hotel-a-luxury-collection-hotel-bangkok/