‘ข้าวแช่ตำรับหัวช้าง’ กินเพื่อการก้าวข้ามซัมเมอร์อย่างสมบูรณ์แบบ

เทศกาลรับประทานข้าวแช่มีมาสักพักแล้ว แต่ที่สุดฯ เพิ่งมาบอกตอนนี้ เพราะเมื่อคุณอ่านจบ จะได้โทร.ไปจองที่นั่งได้สมใจ ใช่ค่ะ สุดฯกำลังพูดถึง ‘ข้าวแช่ตำรับหัวช้าง’ ที่ “ห้องอาหารมิสสยาม” โรงแรมหัวช้างเฮอริเทจ

อันที่จริงคนวงในจะรู้กันดีว่า ที่นี่คืออีกซิกเนเจอร์ข้าวแช่ที่ต้องแห่แหนกันไปจองคิว (ซึ่งก่อนหน้านี้คือคิวจองข้ามเดือนยาวกันไปจร้า) แต่ในโค้งสุดท้ายถึงวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ มาแอบกระซิบให้ว่า คิวเริ่มเบาบางลงแล้ว ขอแค่รีบโทรไปจอง รับรองว่าการได้สัมผัสกับรสชาติต้นตำรับ กับบรรยากาศระดับไฮเอ็นด์ ในราคาเพียง 675 บาทเน็ตต่อคนคือความดีงาม สุดฯ เองก็สารภาพว่าเคยได้ยินชื่อเสียงแต่ไม่เคยมาลองกับเขาเหมือนกัน แต่ ณ จุดนี้ รู้เลยว่าทำไมที่นี่ถึงต้องถูกจดลงคิวไว้กันลืมข้ามปี ว่าต้องมากินข้าวแช่ที่นี่ อย่างน้อยปีละครั้ง!!

แค่เดินผ่านล็อบบี้สู่ทางเดินไปห้องอาหาร บรรยากาศความคลาสสิคแบบไทยร่วมสมัย รายล้อมด้วยสระน้ำ เสียงน้ำตก ก็ดูจะพาให้หลุดไปสู่ความสบายอกสบายใจ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งโซนรับแสงธรรมชาติ ชมวิวสวนสวยด้านนอก แต่อากาศตอนนี้ เดินเลยเข้าห้องแอร์แล้วเพลิดเพลินกับอาหารน่าจะเหมาะกว่านะสุดฯ ว่า

ถามว่า ราคา 675 บาท/คน ที่จ่ายนั้นได้อะไรบ้าง(เด็กอายุ 5-17 ปี 338 บาท และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี รับประทานฟรี)  ตอบว่านอกจากจะได้ลิ้มรสเมนู ‘ข้าวแช่ตำรับหัวช้าง’ แบบไม่อั้นแล้ว ยังสามารถรับประทานอาหารไทย เมนูคาว – หวาน เครื่องดื่มสมุนไพร รวมถึงชา – กาแฟในแบบที่คุณชอบ กาแฟของที่นี่เข้มข้นหอมหวาน เสิร์ฟมาอย่างน่ารักมั่นใจว่าทุกคนต้องถ่ายรูปก่อนจิบ จากนั้นก็อย่ารอช้า เดินต่อไปที่สเตชั่น ‘ข้าวแช่ตำรับหัวช้าง’ กันเลยดีกว่า

เชฟไพโรจน์ ประไพรักษ์ หรือ เชฟบอมเบย์เล่าให้สุดฯ ฟังว่า คนถามเยอะว่าข้าวแช่ที่นี่ทำเหมือนโบราณเป๊ะๆ เลยไหม ซึ่งเชฟก็ไม่ถนัดที่จะตอบว่าใช่ เพราะไม่ได้เกิดในยุคนั้น(เชื่อเถอะว่าเชฟพูดด้วยความตั้งใจเล่า ไม่ได้ดูกวนโมโหเลยแม้แต่น้อย)  เมื่อร้อยปีที่แล้วรสชาติลูกกะปิเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เรารู้ถึงสิ่งที่ทำอยู่ในปัจจุบันว่า เราอิงเรื่องความอร่อยที่มาจากธรรมชาติ ฉะนั้นเราจะไม่มีทางมักง่ายในการเลือกวัตถุดิบ เรายอมสะสมกะปิของชาวบ้านจากระนองมาตั้งแต่ปีที่แล้ว (เพราะเขาไม่สามารถทำทีละปริมาณเยอะๆ เหมือนโรงงาน) เรายังนวดหมูบนน้ำแข็งด้วยมือ หมักรากผักชีกระเทียมพริกไทยอย่างถึงเครื่อง กระชายต้องขูดผิวออกให้เกลี้ยงกินแล้วจะได้ไม่สากคอ ส่วนผสมทุกอย่างต้องสะอาดสดใหม่ ดอกไม้ที่นำมาทำน้ำลอยดอกไม้อบควันเทียน ต้องปลูกแบบธรรมชาติ บางวันอาจจะไม่ได้ครบทุกชนิด แต่เราจะเลือกที่ดีที่สุดในแต่ละวันมาใช้ เป็นต้น

ทั้งหมดที่เชฟเล่า ส่งผลให้ ‘ข้าวแช่ตำรับหัวช้าง’ ของที่นี่ เป็นเมนูดับร้อนที่ไม่มีมีขั้นตอนการทำหรือปรุงแต่งเพิ่มเติมจนเป็นของแปลกใหม่ แต่อร่อยเย็นใจคลายร้อน เพราะความพิถีพิถัน และสิ่งที่การันตีได้ว่า งานเขาดีจริงก็คือคิวจองที่ยาวเหยียด และรสชาติที่แม้คนไม่ถนัดเมนูข้าวแช่อย่างสุดฯ ยังอร่อยกับการกินเครื่องเคียงทีละอย่างสองอย่างได้อย่างอร่อย และสัมผัสได้ว่า ที่นี่เขาเลือกวัตถุดิบมาดีทุกอย่างจริงๆ

นอกจากข้าวแช่ที่ต้องมากินแล้ว อาหารไทยทั้งคาว – หวาน ยังมีบริการเสิร์ฟแบบไม่อั้น สุดฯ ตื่นตาตื่นใจกับขนมไทยที่อร่อยหวานกำลังดีทุกเมนู แนะนำเลยว่าตักชิมอย่างละนิดหน่อย เพราะอร่อยทุกอย่าง

สรุปให้อีกครั้งสำหรับคนที่อยากได้ข้อมูลยืนยันการตัดสินใจมาลองเช็คอิน สุดฯ ลงความเห็นว่าที่นี่คุ้มค่า เพราะด้วยราคาคนละ 675 บาทไม่บวกเพิ่มหากไม่สั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็นับว่าไม่สูงจนต้องคิดเยอะ พาคุณพ่อคุณแม่มาท่านต้องปลื้มแน่ๆ เพราะบรรยากาศดีราวกับนัดเดทร้านหรูกับคุณพ่อสมัยสาวๆ มีอาหารให้เลือกชิมได้เยอะ ในรสชาติที่พร้อมเสิร์ฟคนไทย เผ็ดหวานมันเค็มต้นฉบับเป็นอย่างไรก็จะได้กินแบบนั้น หรือหากเป็นครอบครัวที่มีพ่อแม่ลูกตัวเล็กๆ ด้วย ที่นี่ก็เหมาะเพราะมีอาหารที่เด็กกินได้เยอะแยะ สถานที่กว้างขวางไม่อึดอัด พนักงานบริการดีใส่ใจลูกค้า โดยเฉพาะผู้สูงอายุ สุดฯแอบเห็นว่าจะได้รับการดูแลดีมากเป็นพิเศษ (น่ารักมาก)

ย้ำอีกครั้ง เมนูข้าวแช่นี้ มีถึงวันที่ 15 พฤษภาคมนี้เท่านั้น  สอบถามรายละเอียดการจองเพิ่มเติมได้ที่ 02-217-0777 หรือ คลิ๊ก ที่นี่ ได้เลย

สุดฯ ไม่อยากให้พลาดจริงๆ นะ

TEXT : KoBoKo

PHOTO:กัญชนิกา เมืองวงษ์

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ

SEEN Restaurant & Bar @ Avani+ Riverside Bangkok Hotel ร้านอาหารหรูริมแม่น้ำ

กะทิบ้านอาหารและขนมไทย ร้านอาหารไทย บรรยากาศเริ่ด

Walden Home Cafe คาเฟ่เอาใจสายชิล ลิ้มรสอาหาร กาแฟกิมมิคเริดทุกเมนู!

มังกรน้ำแข็ง (The Ice Dragon) เพราะคิดถึงจึงต้องอ่านไปพลางๆ ระหว่างรอลุงปั่น Game of Thrones

รวมผลงาน อกาธา คริสตี้ โดยแพรวสำนักพิมพ์ ของดีที่ต้องมีไว้ในครอบครอง