The Oqposite โอเอซิสแห่งใหม่ของคนกรุง เติมเต็มความสุขให้ทุกคนที่ได้ไปเยือน!

The Oqposite “โอเอซิสแห่งวัดโสมนัส นางเลิ้ง”

ร้าน The Oqposite ได้รับการขนานนามจากลูกค้าว่าเป็น “โอเอซิสแห่งวัดโสมนัส นางเลิ้ง” เนื่องจากช่วยทำให้ซอยหลังวัดไม่แห้งแล้งอีกต่อไป (เพราะแถวนั้นเป็นตึกแถวแออัดทั้งหมด ซ้ำยังมีเมรุอีกด้วย) ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ต้องการนำความตรงข้ามที่หลายคนอาจคิดว่าไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้มารวมกันอย่างลงตัว ทั้งการตกแต่งและรสชาติอาหาร เช่น ความเก่าของตัวร้านที่ตั้งใจออกแบบมาให้ดูเก่าเหมือนบ้านร้าง สร้างจากไม้เก่าจริง (แต่แข็งแรงคงทน) กับความใหม่ของห้องน้ำที่หรูหราตระการตาหรือรสชาติอาหารที่ต่างสุดขั้วแต่กินด้วยกันแล้วอร่อยเหาะ

เมนูอาหารทุกจานของที่นี่คิดค้นสูตรเองทั้งหมด เริ่มที่จานแรกกับเมนูเรียกน้ำย่อย เกี๊ยวปูครีมชีส แผ่นแป้งทอดกรอบจากแป้งเม็กซิกัน กินคู่กับครีมชีสคุณภาพพรีเมี่ยมเต็มคำผสมเนื้อปู ขอคอนเฟิร์มว่าเมนูนี้เครื่องแน่นชีสเต็มคำ เนื้อปูเป็นก้อน มันกลมกล่อมแต่ไม่เลี่ยน ทำเอาท้องร้องอยากกินจานต่อไปเลย

สำหรับจานหลักก็ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย มีทั้งเมนูข้าวแบบไทยๆและสปาเก็ตตีแบบอิตาเลี่ยน ขอแนะนำ ข้าวมันกุ้ง ฟังชื่อแล้วอาจจะรู้สึกธรรมดาแต่มันไม่ธรรมดาตรงมันกุ้งแท้ หอม มัน ผสมกับเนื้อกุ้งแน่นเด้ง เคี้ยวไปคำแรกรู้เลยว่าเนื้อกุ้งสดมาก เสิร์ฟพร้อมไข่ยางมะตูม กินคู่กันแล้วอร่อยแบบเต็มสิบให้ร้อยไปเลย

ต่อด้วย สปาเก็ตตีซอสเพสโต้ ที่มีกิมมิคคือ ชิมคำแรกก่อนอย่าเพิ่งรีบคลุก เพราะหากคลุกตั้งแต่เริ่มจะพลาดความรู้สึกของ ซอสบอมบ์! สูตรลับเฉพาะของทางร้าน ที่มีรสเผ็ดอ่อนๆ และความเปรี้ยวแผ่ซ่านไปทั่วปาก เข้ากับชีสและโหระพาอิตาเลี่ยนได้อย่างลงตัว ตามด้วยกุ้งตัวโต เนื้อแน่นนุ่มมากบวกกับเบคอนชิ้นเบอเริ่มที่ได้เนื้อเต็มๆ เค็มนิดๆ ตัดกับซอสบอมบ์ เข้ากั๊นเข้ากัน

มาที่เครื่องดื่มกันบ้าง เจ้าของร้านย้ำว่าร้านนี้ไม่มีแอลกอฮอลล์ 100% ตอบโจทย์คนทุกกลุ่มทุกวัย สำหรับวัยรุ่นที่อาจจะชอบดื่มสปาร์คลิ้งซ่าๆ แนะนำเป็น Dragon Sweet สีแดงจากสีธรรมชาติของแก้วมังกรแท้ๆ ความซ่าที่ผสมผสานกับความเปรี้ยวอมหวานจากน้ำผลไม้ทั้งแก้วมังกร เสาวรส ลิ้นจี่ สดชื่นถึงใจ เหมาะกับคนที่อยากรีเฟรชร่างกายมากๆ